แต่งกับเจ้าแล้วไง! ข้าก็ไม่ได้รักเจ้าเสียหน่อย!
-
เขียนโดย darkaura24
วันที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2563 เวลา 15.30 น.
6 ตอน
0 วิจารณ์
5,828 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 27 มีนาคม พ.ศ. 2563 15.32 น. โดย เจ้าของนิยาย
3) 1:คิดเหมือนกัน
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
1
คิดเหมือนกัน
ณ หอเทียนลู่ฮัว
“ข้าต้องกลับจวนแล้วเพ่ยหลิน ไว้มีโอกาสค่อยพบกันใหม่” บุรุษรูปงามเอ่ยกับหญิงคณิกา เจ้าของเรือนร่างอวบอั๋น ที่เขาเพิ่งหาความสำราญด้วยไม่นานมานี้ ก่อนจะผละออกจากเตียง ไปจัดการใส่เสื้อผ้าของตนให้เรียบร้อยและมอบเงินค่าให้ความสำราญแก่หญิงคนเมื่อครู่ แล้วออกจากหอมุ่งกับบ้านของตน
‘เซี่ยเฟยหง’ วัยยี่สิบสามเศษกับตำแหน่งแม่ทัพ ดูจะเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยเข้ากัน แต่เพราะเขามีความสามารถด้านการรบที่ฉายแววตั้งแต่ยังเด็ก ทำให้ฮ่องเต้เห็นถึงความสามารถด้านนี้ และพระองค์ก็ไม่เคยต้องผิดหวัง เพราะเขาไม่เคยปราชัยในสนามรบ แต่ก็เหมือนบุรุษเพศทั่วไป ที่ต้องมาสยบให้กับเหล่าบุปผางามที่มีรูปร่างเย้ายวนใจ
ถึงกระนั้นเฟยหงก็ตระหนักรู้ว่ามันเป็นเพียงแค่ความใคร่ หาใช่ความรักไม่
นอกจากการใช้บริการนางคณิกาแล้ว ก็ยังมีสตรีอื่นๆ ที่ต่างก็อยากสานสัมพันธ์กับเขา โดยทุกคนจะต้องยอมรับในข้อตกลงที่เขาตั้งไว้ว่าไม่มีการผูกมัดใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งก็หาได้มีใครมีปัญหาอันใดไม่ ขอเพียงได้ร่วมเตียงกับท่านแม่ทัพผู้ที่หน้าตาหล่อเหลา ทั้งยังมีความสามารถมากจนพวกนางเก็บเอาไปฝันทุกคืนสักครั้งก็พอใจแล้ว ไม่ต้องมาคอยทำผ้าเช็ดหน้าร่วงหล่นยามที่ร่างสูงก้าวผ่านอีกต่อไป..
จึงทำให้เขาได้รับฉายาว่า ‘พยัคฆ์หนุ่มแห่งไท่ซาน’ เจ้าตัวเมื่อรู้ก็ภูมิใจมากกับฉายานี้
แต่เห็นทีเร็วๆ นี้พยัคฆ์หนุ่มกำลังจะกลายเป็นลูกแมวน้อยเสียแล้ว….
จวนสกุลเซี่ย
“ว่ากระไรนะท่านพ่อ!! แต่งงานกับบุตรีคนสุดท้องของตระกูลหานรึขอรับ”
ตั้งแต่เมื่อใดกันที่พวกผู้ใหญ่แอบไปจัดการเรื่องนี้ ระหว่างที่เขาไปรบงั้นหรือ..
ต้องใช่แน่ๆ แล้วนี่ต้องแต่งในอีกสามเดือนข้างหน้า เหตุใดจึงเพิ่งมาบอก
“ใช่แล้วเจ้าฟังมิผิดหรอก” เซี่ยถังยี่เอ่ยย้ำ
“แค่ชื่อกับใบหน้าของนางลูกยังจำไม่ได้เลย อีกอย่างลูกก็ไม่ใคร่ชอบนางแม้แต่น้อยขอรับ” เฟยหงยืนยันหนักแน่น เขาหาได้พูดปดไม่ พยายามแล้วแต่นึกเท่าไรก็นึกมิออก
หากจำไม่ผิดยายคุณหนูคุณสุดท้องของตระกูลหานน่าจะชื่อเทียนมีมี่อะไรสักอย่าง..
และรอบที่เขาเคยเจอนางครั้งล่าสุด ก็น่าจะราวๆ เกือบสิบปีก่อนกระมัง ตอนไปเยือนจวนสกุลหาน ก่อนที่เขาจะไปเตรียมตัวเป็นนักรบ
เซี่ยเฟยหงกล้าพูดเลยว่า..
ช่างเป็นสตรีที่ไม่มีคุณสมบัติความเป็นสตรีเลยแม้แต่น้อย ยายเด็กอายุสิบขวบนั่นทำตัวราวกับม้าดีดกะโหลก นั่งไม่อยู่กับที่ ชอบเล่นปีนป่ายเป็นลิง ทั้งยังทำเรื่องที่ทำให้เขาตกใจ ด้วยการฉีกชายกระโปรงตัวเองให้สั้นลง เพราะบอกว่าใส่แล้วอึดอัดวิ่งไม่ถนัดนั่นแหละ…
เด็กผู้หญิงคนอื่นออกจะทะนุถนอมอาภรณ์ของตน แต่กับยายเด็กนั่นมันอะไรกัน!
อีกเหตุผลนึงคือเขายังใช้ชีวิตกับการเป็นพยัคฆ์ไม่สมใจเลย ขอเวลาอีกหน่อยได้หรือไม่ ให้ทำใจสักสองปี ขอเปลี่ยนตัวว่าที่เจ้าสาวได้เลยก็ยิ่งดี อย่างไรตอนนี้นางกับเขาก็เป็นแค่ ‘คู่หมั้น’ เท่านั้น
“นางชื่อหานอิงมี่ ต่อไปนี้จำไว้ให้ดีๆ” ผู้เป็นพ่อพูด จากนั้นเซี่ยฮูหยินที่นั่งฟังอยู่นานก็เอ่ยปากบ้าง
“ใช่ว่าแม่จะไม่รู้ใจเจ้านะเฟยหง แม่จึงอยากบอกว่าต่อให้เจ้าแต่งงานแล้วเจ้าก็ยังสามารถไปหาความสำราญที่ไหนก็ได้ จะรับอนุเข้าบ้านก็ยังได้เลย”
ใจจริงแล้วเซี่ยฮูหยินเองก็ไม่ค่อยเห็นด้วยกับการที่จะได้บุตรีของตระกูลหานมาเป็นลูกสะใภ้ หากมิใช่เพราะสามีของนางไปทำสัญญากับสหายรักไว้ล่ะก็… นางคงทาบทามเฟยหงให้กับลูกสาวเสนาบดีตระกูลลี่เพื่อนรักของนางเป็นแน่แท้
“ขอรับ อีกเรื่องหนึ่ง… อิงมี่นางยินยอมงั้นหรือขอรับ เผื่อนางมีคนรักอยู่แล้ว” เฟยหงภาวนาขอให้นางรักใคร่กับชายอื่นเสีย เผื่อเขาจะได้มีข้ออ้างถอนหมั้น
“นางยังมิมีผู้ใดหรอก และนางต้องยอมแน่นอน เจ้าน่ะว่างๆ ก็แวะไปหานางที่จวนสกุลหานบ้าง ไปทำความรู้จักกันไว้ล่วงหน้า ทั้งกับนางและครอบครัวนาง…”
“ขอรับลูกเข้าใจแล้ว งั้นลูกขอตัว” เฟยหงพูดตัดบทแล้วจะเดินไปที่เรือนของตน แต่ผู้เป็นพ่อก็เรียกไว้อีกรอบ…
“เดี๋ยวก่อน… คุณหนูหานฝากจดหมายมาให้เจ้า” แล้วเซี่ยถังยี่ก็ส่งจดหมายที่ถูกม้วนไว้ให้บุตรของตน
“ขอรับ งั้นลูกขอตัวจริงๆ แล้วขอรับ” เฟยหงกล่าวพร้อมรับจดหมายนั้นแล้วเดินจากไปที่เรือนของตน…
-------------------------------------------------------------------------------
เมื่อเฟยหงลับสายตาไปแล้ว เซี่ยฮูหยินก็พูดกับผู้เป็นสามีด้วยความกังวลใจ
“ท่านพี่ตัดสินใจดีแล้วหรือเจ้าคะ ที่จะให้ลูกของเราแต่งงานกับบุตรีตระกูลหานจริงๆ ”
“หากไม่ เจ้าคิดว่าข้าจะบอกเฟยหงแบบนั้นหรือไม่เล่า”
“…แต่น้องว่า..อิงมี่…” พูดได้แค่นั้นก็เงียบไปด้วยมิอยากพูดต่อ
“ไม่เหมาะสมใช่หรือไม่?” ถังยี่ถามราวกับรู้ใจผู้เป็นภรรยา
“เจ้าค่ะ.. นางดู… ตั้งแต่คราก่อนที่ข้าเจอนางๆ ก็ยังดูเป็นเด็ก เล่นสนุกไปวันๆ อยู่เลย กิริยาต่างๆ ก็หาได้เรียบร้อยไม่…หน้าตานางก็เปรอะเปื้อน”
“คราก่อนนั่นมันกี่ปีแล้ว หลานเอ๋อร์?”
“หลายปีก่อนเจ้าค่ะ...” เซี่ยฮูหยินตอบพลางก้มหน้า
“แต่กับตอนนี้มันไม่เหมือนกัน เชื่อข้าสิ ถ้าลูกของเราได้เห็นหน้าคุณหนูอิงมี่ตอนนี้ เขาจะลืมเรื่องอยากหาความสำราญนอกจวนไปเลย” ถังยี่พูดอย่างมั่นใจ
---------------------------------------------------------------------------
ณ เรือนตะวันส่อง
….เฟยหงนั่งคลี่จดหมายจากยายเด็กแก่นแก้วในความทรงจำของเขาออกมาอ่าน เมื่ออ่านจบก็ยิ้มออกมา ที่แท้พวกเราก็คิดเหมือนกัน
“เรียน คุณชายเซี่ยเฟยหง
ตัวข้านั้นคือ หานอิงมี่ คู่หมั้นของท่าน วันนี้ข้าได้เขียนจดหมายมาเพื่อขอความกรุณาให้ท่านถอนหมั้นจากข้าเสีย เพราะข้านั้นมิคู่ควรกับท่าน แลข้ามิต้องการออกเรือนตอนนี้ อีกอย่างข้ารู้ดีว่าพวกเรามิได้มีใจให้กันเลยแม้แต่น้อย ดังนั้น ด้วยฐานะของท่าน แม่ทัพของกองทัพหลวงผู้เกรียงไกร ข้าอยากให้ท่านช่วยเป็นฝ่ายขอถอนหมั้นเสีย
ด้วยความเคารพ
หานอิงมี่”
เช่นนั้นก็ดี… งั้นอีกสองวัน สักยามอู่ [1] ข้ากับท่านพ่อท่านแม่จะไปหาเจ้าที่จวน และคุยเรื่องนี้กับตัวเจ้าและครอบครัวของเจ้าเองละกัน..
[1] ยามอู่= 11.00-13.00 โดยประมาณ
1
คิดเหมือนกัน
ณ หอเทียนลู่ฮัว
“ข้าต้องกลับจวนแล้วเพ่ยหลิน ไว้มีโอกาสค่อยพบกันใหม่” บุรุษรูปงามเอ่ยกับหญิงคณิกา เจ้าของเรือนร่างอวบอั๋น ที่เขาเพิ่งหาความสำราญด้วยไม่นานมานี้ ก่อนจะผละออกจากเตียง ไปจัดการใส่เสื้อผ้าของตนให้เรียบร้อยและมอบเงินค่าให้ความสำราญแก่หญิงคนเมื่อครู่ แล้วออกจากหอมุ่งกับบ้านของตน
‘เซี่ยเฟยหง’ วัยยี่สิบสามเศษกับตำแหน่งแม่ทัพ ดูจะเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยเข้ากัน แต่เพราะเขามีความสามารถด้านการรบที่ฉายแววตั้งแต่ยังเด็ก ทำให้ฮ่องเต้เห็นถึงความสามารถด้านนี้ และพระองค์ก็ไม่เคยต้องผิดหวัง เพราะเขาไม่เคยปราชัยในสนามรบ แต่ก็เหมือนบุรุษเพศทั่วไป ที่ต้องมาสยบให้กับเหล่าบุปผางามที่มีรูปร่างเย้ายวนใจ
ถึงกระนั้นเฟยหงก็ตระหนักรู้ว่ามันเป็นเพียงแค่ความใคร่ หาใช่ความรักไม่
นอกจากการใช้บริการนางคณิกาแล้ว ก็ยังมีสตรีอื่นๆ ที่ต่างก็อยากสานสัมพันธ์กับเขา โดยทุกคนจะต้องยอมรับในข้อตกลงที่เขาตั้งไว้ว่าไม่มีการผูกมัดใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งก็หาได้มีใครมีปัญหาอันใดไม่ ขอเพียงได้ร่วมเตียงกับท่านแม่ทัพผู้ที่หน้าตาหล่อเหลา ทั้งยังมีความสามารถมากจนพวกนางเก็บเอาไปฝันทุกคืนสักครั้งก็พอใจแล้ว ไม่ต้องมาคอยทำผ้าเช็ดหน้าร่วงหล่นยามที่ร่างสูงก้าวผ่านอีกต่อไป..
จึงทำให้เขาได้รับฉายาว่า ‘พยัคฆ์หนุ่มแห่งไท่ซาน’ เจ้าตัวเมื่อรู้ก็ภูมิใจมากกับฉายานี้
แต่เห็นทีเร็วๆ นี้พยัคฆ์หนุ่มกำลังจะกลายเป็นลูกแมวน้อยเสียแล้ว….
จวนสกุลเซี่ย
“ว่ากระไรนะท่านพ่อ!! แต่งงานกับบุตรีคนสุดท้องของตระกูลหานรึขอรับ”
ตั้งแต่เมื่อใดกันที่พวกผู้ใหญ่แอบไปจัดการเรื่องนี้ ระหว่างที่เขาไปรบงั้นหรือ..
ต้องใช่แน่ๆ แล้วนี่ต้องแต่งในอีกสามเดือนข้างหน้า เหตุใดจึงเพิ่งมาบอก
“ใช่แล้วเจ้าฟังมิผิดหรอก” เซี่ยถังยี่เอ่ยย้ำ
“แค่ชื่อกับใบหน้าของนางลูกยังจำไม่ได้เลย อีกอย่างลูกก็ไม่ใคร่ชอบนางแม้แต่น้อยขอรับ” เฟยหงยืนยันหนักแน่น เขาหาได้พูดปดไม่ พยายามแล้วแต่นึกเท่าไรก็นึกมิออก
หากจำไม่ผิดยายคุณหนูคุณสุดท้องของตระกูลหานน่าจะชื่อเทียนมีมี่อะไรสักอย่าง..
และรอบที่เขาเคยเจอนางครั้งล่าสุด ก็น่าจะราวๆ เกือบสิบปีก่อนกระมัง ตอนไปเยือนจวนสกุลหาน ก่อนที่เขาจะไปเตรียมตัวเป็นนักรบ
เซี่ยเฟยหงกล้าพูดเลยว่า..
ช่างเป็นสตรีที่ไม่มีคุณสมบัติความเป็นสตรีเลยแม้แต่น้อย ยายเด็กอายุสิบขวบนั่นทำตัวราวกับม้าดีดกะโหลก นั่งไม่อยู่กับที่ ชอบเล่นปีนป่ายเป็นลิง ทั้งยังทำเรื่องที่ทำให้เขาตกใจ ด้วยการฉีกชายกระโปรงตัวเองให้สั้นลง เพราะบอกว่าใส่แล้วอึดอัดวิ่งไม่ถนัดนั่นแหละ…
เด็กผู้หญิงคนอื่นออกจะทะนุถนอมอาภรณ์ของตน แต่กับยายเด็กนั่นมันอะไรกัน!
อีกเหตุผลนึงคือเขายังใช้ชีวิตกับการเป็นพยัคฆ์ไม่สมใจเลย ขอเวลาอีกหน่อยได้หรือไม่ ให้ทำใจสักสองปี ขอเปลี่ยนตัวว่าที่เจ้าสาวได้เลยก็ยิ่งดี อย่างไรตอนนี้นางกับเขาก็เป็นแค่ ‘คู่หมั้น’ เท่านั้น
“นางชื่อหานอิงมี่ ต่อไปนี้จำไว้ให้ดีๆ” ผู้เป็นพ่อพูด จากนั้นเซี่ยฮูหยินที่นั่งฟังอยู่นานก็เอ่ยปากบ้าง
“ใช่ว่าแม่จะไม่รู้ใจเจ้านะเฟยหง แม่จึงอยากบอกว่าต่อให้เจ้าแต่งงานแล้วเจ้าก็ยังสามารถไปหาความสำราญที่ไหนก็ได้ จะรับอนุเข้าบ้านก็ยังได้เลย”
ใจจริงแล้วเซี่ยฮูหยินเองก็ไม่ค่อยเห็นด้วยกับการที่จะได้บุตรีของตระกูลหานมาเป็นลูกสะใภ้ หากมิใช่เพราะสามีของนางไปทำสัญญากับสหายรักไว้ล่ะก็… นางคงทาบทามเฟยหงให้กับลูกสาวเสนาบดีตระกูลลี่เพื่อนรักของนางเป็นแน่แท้
“ขอรับ อีกเรื่องหนึ่ง… อิงมี่นางยินยอมงั้นหรือขอรับ เผื่อนางมีคนรักอยู่แล้ว” เฟยหงภาวนาขอให้นางรักใคร่กับชายอื่นเสีย เผื่อเขาจะได้มีข้ออ้างถอนหมั้น
“นางยังมิมีผู้ใดหรอก และนางต้องยอมแน่นอน เจ้าน่ะว่างๆ ก็แวะไปหานางที่จวนสกุลหานบ้าง ไปทำความรู้จักกันไว้ล่วงหน้า ทั้งกับนางและครอบครัวนาง…”
“ขอรับลูกเข้าใจแล้ว งั้นลูกขอตัว” เฟยหงพูดตัดบทแล้วจะเดินไปที่เรือนของตน แต่ผู้เป็นพ่อก็เรียกไว้อีกรอบ…
“เดี๋ยวก่อน… คุณหนูหานฝากจดหมายมาให้เจ้า” แล้วเซี่ยถังยี่ก็ส่งจดหมายที่ถูกม้วนไว้ให้บุตรของตน
“ขอรับ งั้นลูกขอตัวจริงๆ แล้วขอรับ” เฟยหงกล่าวพร้อมรับจดหมายนั้นแล้วเดินจากไปที่เรือนของตน…
-------------------------------------------------------------------------------
เมื่อเฟยหงลับสายตาไปแล้ว เซี่ยฮูหยินก็พูดกับผู้เป็นสามีด้วยความกังวลใจ
“ท่านพี่ตัดสินใจดีแล้วหรือเจ้าคะ ที่จะให้ลูกของเราแต่งงานกับบุตรีตระกูลหานจริงๆ ”
“หากไม่ เจ้าคิดว่าข้าจะบอกเฟยหงแบบนั้นหรือไม่เล่า”
“…แต่น้องว่า..อิงมี่…” พูดได้แค่นั้นก็เงียบไปด้วยมิอยากพูดต่อ
“ไม่เหมาะสมใช่หรือไม่?” ถังยี่ถามราวกับรู้ใจผู้เป็นภรรยา
“เจ้าค่ะ.. นางดู… ตั้งแต่คราก่อนที่ข้าเจอนางๆ ก็ยังดูเป็นเด็ก เล่นสนุกไปวันๆ อยู่เลย กิริยาต่างๆ ก็หาได้เรียบร้อยไม่…หน้าตานางก็เปรอะเปื้อน”
“คราก่อนนั่นมันกี่ปีแล้ว หลานเอ๋อร์?”
“หลายปีก่อนเจ้าค่ะ...” เซี่ยฮูหยินตอบพลางก้มหน้า
“แต่กับตอนนี้มันไม่เหมือนกัน เชื่อข้าสิ ถ้าลูกของเราได้เห็นหน้าคุณหนูอิงมี่ตอนนี้ เขาจะลืมเรื่องอยากหาความสำราญนอกจวนไปเลย” ถังยี่พูดอย่างมั่นใจ
---------------------------------------------------------------------------
ณ เรือนตะวันส่อง
….เฟยหงนั่งคลี่จดหมายจากยายเด็กแก่นแก้วในความทรงจำของเขาออกมาอ่าน เมื่ออ่านจบก็ยิ้มออกมา ที่แท้พวกเราก็คิดเหมือนกัน
“เรียน คุณชายเซี่ยเฟยหง
ตัวข้านั้นคือ หานอิงมี่ คู่หมั้นของท่าน วันนี้ข้าได้เขียนจดหมายมาเพื่อขอความกรุณาให้ท่านถอนหมั้นจากข้าเสีย เพราะข้านั้นมิคู่ควรกับท่าน แลข้ามิต้องการออกเรือนตอนนี้ อีกอย่างข้ารู้ดีว่าพวกเรามิได้มีใจให้กันเลยแม้แต่น้อย ดังนั้น ด้วยฐานะของท่าน แม่ทัพของกองทัพหลวงผู้เกรียงไกร ข้าอยากให้ท่านช่วยเป็นฝ่ายขอถอนหมั้นเสีย
ด้วยความเคารพ
หานอิงมี่”
เช่นนั้นก็ดี… งั้นอีกสองวัน สักยามอู่ [1] ข้ากับท่านพ่อท่านแม่จะไปหาเจ้าที่จวน และคุยเรื่องนี้กับตัวเจ้าและครอบครัวของเจ้าเองละกัน..
[1] ยามอู่= 11.00-13.00 โดยประมาณ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ