Twin แฝดเลือดผสม

8.0

เขียนโดย Shinman33

วันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2563 เวลา 16.05 น.

  39 ตอน
  3 วิจารณ์
  32.29K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 26 มีนาคม พ.ศ. 2563 16.21 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

32) ภาค2 ตามหาคนหาย

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ตามหาคนหาย

 

“สรุปเราจะไปทางไหนกันล่ะชายน์?”  เชดโด้ที่อยู่ตู้ด้านหลังโผล่ออกมาถามชายน์หลังจากที่เขาเดินทางมาทั้งคืนจนขณะนี้แสงอรุณสาดส่องไปทั่วฟ้าแล้ว

“เริ่มจาก เอิ่มม  จุดที่ฉันรู้สึกได้ชัดที่สุดนะ   อยู่ในหุบเขาทางโน้นอ่ะ”   ชายน์ตอบ

 “แล้วว่าแต่นายรู้ได้ยังไงว่าชิ้นส่วนอัญมณีแต่ละชิ้นอยู่ที่ไหน?”   เบลก็ยังคงสงสัย

“หลังจากที่ฉันได้สัมผัสก้อนผลึกนั่นในคืนนั้น    เหมือนมีบางอย่างมันเรียกฉันอยู่ตลอดเวลา    ยิ่งเข้าใกล้ยิ่งชัดเจน”  ชายน์ตอบตามที่เขารู้สึกได้

“แล้วคู่แฝดนาย  เอิ่ม ชินอ่ะ  เขาจะออกตามหาอัญมณีเหมือนพวกเรามั๊ย?”  เซฟานี่ถามในสิ่งที่เขาคิดและพอจะมีคำตอบในใจไว้แล้ว

“หมอนั่นก็สัมผัสกับผลึกนั่นเช่นกัน  ก็น่าจะรับรู้ได้ถึงการมีอยู่ของอัญมณีแหละ    คงขึ้นอยู่กับว่าทางนั้นจะเอายังไงมากกว่า”   ชินตอบพร้อมความกังวลที่เห็นได้อย่างชัดเจน

“นายกำลัง..  กังวล?”

“อืม   ฉันรู้สึกว่าหมอนั่นอยู่เหนือกว่าฉัน    เขาเก่งกว่าฉันและ…”  

“ยังไม่ทันจะเริ่มก็ฝ่อซะแล้ว”   ขณะที่ชายน์เอ่ยพร้อมความกังวลเดวี่ก็ขัดขึ้นมาเตือนสติมาให้เพื่อนเสียสติไปมากกว่านี้

“ทำไมนายถึงคิดว่าเขาเก่งกว่าล่ะ   ที่ผ่านมานายก็รับมือหมอนั่นได้นี่   พี่น้องกันจะเก่งกว่ากันแค่ไหนเชียว”   ฮันนี่ปลอบเพื่อน

“มีคนอยู่คนหนึ่งเขาสอนเวทย์ทุกอย่างให้ฉันเพราะเขาอยู่ในหัวฉันตลอดเวลาที่ผ่านมา  วันหนึ่งเขาหายไปพร้อมกับชินที่ปรากฏตัวขึ้น  ใช่  ฉันรู้ว่าคนที่อยู่กับฉันในช่วงที่ผ่านมาคือชิน  เขาคือคนที่สอนเวทย์และการต่อสู้ต่างๆให้ฉัน     เพียงแต่ว่าวันนี้เขาไม่เหมือนชินคนที่ฉันรู้จักเลย   ชินเขาอ่อนโยนกว่านี้   สุภาพและเก่งมาก   แต่ดูชินที่โผล่ออกมาสิว่าน่ากลัวขนาดไหน เพราะแบบนี้ไงฉันถึงกลัว   กลัวว่าเขาจะโดนบางสิ่งบางอย่างคลอบงำอยู่และสิ่งนั้นกำลังใช้ชินเป็นเครื่องมือ”

“นายจะบอกว่านายเก่งได้เพราะหมอนั่นหรอ ฮ่าๆๆ”   ฮันนี่เอ่ยแซว

 “ก็ถูกนะ   เท่าที่เจอหมอนั่นไม่เป็นตัวของตัวเอง”   เดวี่เอ่ยแทรกขึ้นพร้อมกำลังครุ่นคิดบางอย่าง

“เราต้องรู้ให้ได้ว่าหมอนั่นเจออะไรมา”  เบลที่นั่งฟังอยู่กับเชโด้เอ่ยบ้างเพราะเขาก็อยากรู้เช่นกันว่าทำไมแฝดกันถึงต่างกันขนาดนี้

“เอาล่ะทุกคน   อีกซักครู่จะถึงหมู่บ้านชายป่า   เราจะแวะพักและหาข้อมูลกันที่นั่นนะ”  ฮันนี่เอ่ยขัดขึ้นทุกคนจึงหยุดเรื่องที่กำลังคุยแล้วหันมาสนใจหมู่บ้านที่กำลังจะไปเยือนแทน

………………………………………

 

ณ หมู่บ้านชายป่า

“แคท  อยู่ไหนลูก?”   เสียงเรียกหาของผู้เป็นแม่ดังขึ้นหลังจากลูกสาวคนเล็กหายตัวไปเฉยๆ จากบ้านตั้งแต่เช้าจนบัดนี้กำลังจะพลบค่ำแล้วแต่ก็ไร้ซึ่งวี่แววของเด็กน้อยนามว่าแคทจนผู้เป็นแม่ได้แต่ออกตามหาลูกสาวอย่างกระวนกระวาย

“แม่จะไปดูน้องทางชายป่านะ   ลูกอยู่บ้านเผื่อน้องกลับมาเดี๋ยวจะไม่พบใคร” สั่งลูกชายพร้อมกับภาวนาขออย่าให้สิ่งที่กลัวตามที่เขาล่ำลือนั้นเป็นจริงเลย

“ให้ผมไปด้วยนะฮะแม่  ผมไม่อยากให้แม่ไปไหนคนเดียว”  ลูกชายเอ่ยด้วยความกังวล

“ไม่มีที่ไหนปลอดภัยเท่าบ้านเราแล้วลูก แม่คงอยู่ไม่ได้ ถ้า..”   ผู้เป็นแม่ยังไม่ทันจะพูดจบลูกชายก็ชิงตัดบทก่อน

“ผมก็เป็นห่วงน้องและแม่นะครับ  ผมเป็นลูกชาย  ผมควรทำอะไรมากกว่าอยู่บ้าน   งั้นให้ผมออกไปดูน้องและแม่อยู่บ้านดีกว่านะครับ”

“ระวังแล้วกันนะลูก   อย่าไว้ใจคนแปลกหน้า  แม่ไม่อยากให้ใครต้องหายไปอีก” ผู้เป็นแม่กล่าวอย่างเสียงอ่อนเมื่อรู้ว่านางไม่สามารถขัดความตั้งใจของลูกชายได้

“ผมจะรีบกลับครับแม่”   หนุ่มน้อยผู้เป็นลูกชายคนโตเอ่ยพร้อมกับคว้าอาวุธคู่กายวิ่งออกจากบ้านไปยังชายป่าศักดิ์สิทธิอันเป็นพื้นที่ซึ่งชาวบ้านละแวกนี้ไม่นิยมจะเฉียดกายเข้าไปใกล้   เมื่อลูกชายหายลับสายตาไปแล้ว ผู้เป็นแม่ก็จัดแจงจุดคบเพลิงรอบๆบ้านเพื่อให้แสงสว่าง   แต่ทว่ายังไม่ทันเสร็จก็แว่วเสียงรถม้าวิ่งมาทางบ้านนาง   และใครกันที่สัญจรมาทางนี้  ทางที่เป็นหมู่บ้านเล็กๆชายป่า  หมู่บ้านที่ห่างไกลจากตัวเมืองที่ไม่ใช่ทางผ่านการเดินทาง

“สวัสดีครับ  มีใครอยู่มั๊ย?”   เสียงเด็กหนุ่มตะโกนเรียกหลังจากขบวนรถม้าวิ่งมาหยุดที่หน้าบ้าน

“มีการจุดไฟคบเพลิงยังไม่ครบเลย  แสดงว่ามีคนอยู่แน่นอน    แต่หายไปไหนนะ”   ฮันนี่บ่นพรางครุ่นคิด

“หรืออาจเกิดเหตุไม่ดีกับเจ้าของบ้านก่อนที่เราจะมาถึง   แยกกันเดินดูเลย”   เบลเอ่ยพร้อมเดินจ้ำออกไปดูรอบๆ บ้าน   และนั่นทำให้คนอื่นๆ ทำตามเช่นกัน

“ขออนุญาตเข้าบ้านนะค่ะ”   เซฟานี่เอ่ยพร้อมกับผลักประตูไม้บานเก่าที่เหมือนจะผุพังอย่างเบามือ   และเดินนำฮันนี่เข้าสำรวจภายในบ้านท่ามกลางความมืดสลัวที่กำลังจะพลบค่ำ

“จะมีคนอยู่จริงๆหรือเซ   ชั้นว่าเหมือนบ้านผีสิงยังไงก็ไม่รู้”   ฮันนี่เอ่ยอย่างกลัวๆ

“อ่ะ   งั้นชั้นจุดคบเพลิงก็ได้  จะได้เห็นว่ามันไม่น่ากลัว”   เซฟานี่กล่าวพลางเอื่อมมือหยิบตะเกียงใกล้ๆมือมาจุดไฟเพื่อสร้างความสว่างให้เพื่อนหายกลัว   แต่ทว่า..

“ว้าย!!”  เสียงร้องตกใจของผู้หญิงที่มากกว่า 1 เสียงเรียกให้ผู้ชายที่เดินสำรวจอยู่รอบๆ บ้านวิ่งเข้ามาทันที

”เกิดอะไรขึ้น เซ ฮันนี่”  ชายน์วิ่งเข้ามาพร้อมส่งเสียงถาม

“คุณน้าเป็นเจ้าของบ้าน เอ่อ  ชะ ใช่ รึปล่าว ค่ะ”  ฮันนี่ถามเสียงตะกุกตะกัก   เมื่อเห็นใบหน้าของหญิงรุ่นราวคราวแม่ที่แต่งตัวมอซอ ผมเผ้ารุงรังกำลังนั่งแอบมองพวกเธออยู่ซอกลังเก็บของ   ใบหน้าหญิงผู้นั้นมีทั้งคราบน้ำตาและแววตาที่หวาดกลัว

“ไม่ต้องกลัวพวกเรานะครับ   เราไม่ใช่คนร้าย  เรามาดีครับคุณน้า”   เชโด้เอ่ยพร้อมยิ้มอ่อนๆ จนเรียกความสบายใจให้หญิงเจ้าของบ้านออกมาได้บ้าง   แต่นางก็ยังคงหวาดกลัวและรนลานอยู่

“ใช่  ชั้นเป็นเจ้าของบ้านนี้   พวกเธอมาทำอะไร?   ฉันเป็นชาวบ้านยากจน บ้านฉันเล็ก  ต้อนรับใครไม่ได้หรอกนะ”  หญิงเจ้าของบ้านเอ่ย

“เอิ่ม  คือพวกเราอยากจะสอบถามว่าหมู่บ้านนี้มีห้องพักรึเปล่า?  แต่ถ้าคุณน้าไม่สะดวกพูดคุยเดี๋ยวพวกเราเข้าหมู่บ้านไปหาที่พักเองก็ได้ครับ”  ชายน์เอ่ยอย่างนอบน้อม

“เชิญ”   คำกล่าวสั้นๆของเจ้าของบ้านยิ่งสร้างความงุนงงให้เด็กๆยิ่งนัก   ทำไมนางดูสับสนแบบนี้ ทั้งสีหน้าท่าทางที่หวาดกลัวเมื่อแรกพบ ทั้งสายตาเพียงชั่วครู่ที่ฉายแววดีใจเมื่อรู้ว่าพวกเขาไม่ใช่คนร้ายและคำพูดที่พูดคุยราวกับไม่ต้อนรับแขกนี้   ทำไมมันแย้งกันนัก

"งั้นพวกเราไม่รบกวนคุณน้าแล้ว  ขอตัวเลยนะครับ"  เดวี่กล่าวแล้วคำนับทำความเคารพอย่างนอบน้อมก่อนและเดินนำออกไปและเพื่อนๆที่เหลือก็ทำตามก่อนจะพากันออกมาจากบ้าน

“นายว่าแปลกๆมั๊ย?” เซฟานี่ถามชายน์ขณะที่เดินมาถึงรถม้า

“แปลกเลยแหละ”  ชายน์ตอบ

“แล้วจะเอายังไงดีล่ะ”  เบลถาม

“เอาแบบนี้ดีกว่า...”  ชายน์เอ่ยกับเพื่อนๆ ก่อนจะพากันขึ้นรถมาและพาขบวนรถมาวิ่งออกไปจากบ้านหญิงแปลกวัยกลางคน

“ไปกันแล้ว..”  หญิงเจ้าของบ้านเอ่ยเบาๆ ก่อนจะเดินไปมาอย่างกระวนกระวายเมื่อคิดถึงลูกสาวที่หายไปและลูกชายที่ออกตามหา    นี่มันอะไรกัน   หลายวันก่อนมีข่าวลือว่าชาวบ้านหลายคนที่มีอาชีพเก็บสมุนไพรมักเห็นแสงแปลกๆ ส่องสว่างมาจากแนวป่า  หลายคนบอกว่ามีเสียงเรียกและตนเดินตามไปอย่างไม่รู้ตัว   ชาวบ้านหลายคนก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องลอย  ต่อมามีกลุ่มคนแปลกหน้าเข้ามาในหมู่บ้าน  และนี่ก็มีอีกกลุ่มแล้ว…   หรือเรื่องที่เขาว่ากันมันจะเป็นความจริง!!

พวกเจ้ากลับกันมาได้แล้วนะ  แม่เป็นห่วง

 

………………………………………

 

“แคท  น้องอยู่ไหน?”  เสียงพี่ชายตะโกนเรียกน้องสาวไม่ขาดสาย   บัดนี้ หนุ่มน้อยเดินบุกป่าไปเรื่อยจนไม่รู้ตัวว่าตนเองอยู่ส่วนใดของป่าแล้ว  และลืมไปแล้วว่า ป่านี้มีอันตรายอะไรบ้าง

“ได้ยินพี่มั๊ย?” แต่ก็ไร้ซึ่งเสียงตอบรับใดๆ  จนกระทั่งหางตาเหลือบไปพบบางอย่างที่ชวนให้หนุ่มน้อยต้องชะงักหยุดหันมองพร้อมกับใบหน้าที่เคร่งเครียดขึ้นมาทันที   เบื้องหน้าที่ปรากฏคือซากสัตว์หลายชนิดที่โดนตัดหัวทุกตัววางกองไว้บนลานหินพร้อมคราบเลือดที่ยังไม่แห้งสนิทดี

“นี่มันอะไรกัน?  การเซ่นไหว้รึ?”  ได้แต่อุทานและตั้งคำถาม   ตอนนี้หนุ่มน้อยเริ่มหวาดกลัวมิใช่น้อย  กลัวว่าคนที่ตามหาจะไม่ปลอดภัยและกลัวในสิ่งที่ตนจะต้องเผชิญแม้ว่าจะมั่นใจในตัวเองอยู่บ้างก็ตาม  ทว่าท้ายที่สุดเขาก็เลือกที่จะสะกดรอยตามร่องรอยที่ปรากฎนั้นไป

…………………………………………………

 

“เห็นอะไรบ้าง?”

“ใจเย็นๆ ซิ”

“แน่ใจนะว่าจะได้ผลอ่ะ?”

“ไม่ชัดเลย  ต้องมากกว่านี้”  บทสนทนาของฮันนี่และชายน์ที่โต้ตอบกันหลังจากขบวนรถม้าวิ่งเข้าไปยังในหมู่บ้านแล้ว     ใช่แล้ว  ก่อนหน้านี้เป็นกลลวงที่เขาแบ่งกันออกเป็นสองกลุ่มเพื่อเข้าไปยังหมู่บ้านและอยู่สังเกตการณ์หญิงวัยกลางคนที่มีพิรุธคนนี้   และพวกเขาก็เริ่มได้เบาะแสแล้ว

“ชั้นว่าคุณน้าแกรอคอยอะไรบ้างอย่างอยู่นะ   ท่าทางแกกังวลมากๆเลย ฮันนี่”  ชายน์เอ่ย  แต่ฮันนี่ยังคงเพ่งจิตอยู่กับการกระทำของตนโดยไม่ได้ใส่ใจชายน์แต่อย่างใด

“ชายน์”  เพียงชั่วครู่ที่ฮันนี่เพ่งมองยังลูกแก้วของตนที่มันสะท้อนภาพต่างๆ อยู่ในนั่น  ทว่ามันไม่ชัดเจนนักจนเจ้าตัวเอ่ยเรียกเพื่อนเชิงขอความช่วยเหลือ

“ว่าไง  รู้เรื่องแล้วใช่ป่าว?”

“ป่าว  มันเลือนราง   ฉันต้องการเข้าไปยังพื้นที่   คือในบ้านของหญิงคนนั้นอีกครั้ง” ฮันนี่กล่าว

“สบายมาก”  ชายน์เอ่ยพร้อมยิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนที่จะลากฮันนี่วิ่งอ้อมไปทางหลังบ้าน

“ทำไมไม่ใช้เวทย์ล่ะชายน์?”   ฮันนี่ถามเพราะสงสัยวิธีการของชายน์

“ฟังนะฮันนี่  เราไม่รู้ว่าที่นี่มีอะไรบ้าง  คุณน้าแกเป็นใครกันแน่เราก็ไม่รู้   เชื่อชั้นนะ วิธีนี้ปลอดภัยสุด”

“เสี่ยงตายเป็นบ้า ฮึ!!”  ฮันนี่บ่นกับตัวเองแต่ก็ไม่วายทำตามที่ชายน์บอก    ทั้งสองค่อยๆ ย่องเข้ามายังภายในบ้านของหญิงวัยกลางคนที่บัดนี้เป็นเวลาค่ำแล้ว   แสงจากตะเกียงที่จุดไว้รอบๆ บ้านกลับไม่อาจส่องให้ผู้แปลกหน้าปรากฎตัวได้

“เดี๋ยวฉันจะใช้เวทย์กับลูกแก้วตรงนี้ เพราะฉันเชื่อว่าต้องมีเรื่องราวเกิดขึ้นในบ้านนี้   ซึ่งวิธีนี้ฉันจะรับรู้ได้แม่นที่สุด  โอเคน้ะ”  ฮันนี่ว่าพลางหยิบลูกแก้วออกมาจากกระป๋า

“ถ้าไม่มีลูกแก้วเธอจะสามารถเห็นเหตุการณ์ที่ผ่านมาได้ป่าว?”  ชายน์สงสัย

“ไม่รู้  ฉันไม่เคยลอง   แต่ลูกแก้วเป็นสื่อหรือเรียกว่าเป็นเครื่องมือของเราชาวแม่มดหน่ะ   ถ้าจะไม่ใช้ลูกแก้วคนที่ทำแบบนั้นได้ก็คงต้องเก่งจริงๆ  ซึ่งคนนั้นยังไม่ใช่ฉัน  หึหึ”  ฮันนี่กล่าวพร้อมเริ่มร่ายคาถา   ฉับพลันรอบๆตัวของทั้งคู่ก็อบอวลไปด้วยกลุ่มควันสีม่วงพร้อมกับภาพเหตุการณ์ที่ปรากฏบนลูกแก้ว

แม่จะไปดูน้องทางชายป่านะ   ลูกอยู่บ้านเผื่อน้องกลับมาเดี๋ยวจะไม่พบใคร

ให้ผมไปด้วยนะฮะแม่  ผมไม่อยากให้แม่ไปไหนคนเดียว” 

ไม่มีที่ไหนปลอดภัยเท่าบ้านเราแล้วลูก แม่คงอยู่ไม่ได้ ถ้า..”   ผู้เป็นแม่ยังไม่ทันจะพูดจบลูกชายก็ชิงตัดบทก่อน

ผมก็เป็นห่วงน้องและแม่นะครับ  ผมเป็นลูกชาย  ผมควรทำอะไรมากกว่าอยู่บ้าน   งั้นให้ผมออกไปดูน้องและแม่อยู่บ้านดีกว่านะครับ

ระวังแล้วกันนะลูก   อย่าไว้ใจคนแปลกหน้า  แม่ไม่อยากให้ใครต้องหายไปอีก” ผู้เป็นแม่กล่าวอย่างเสียงอ่อน

ผมจะรีบกลับครับแม่”   จากนั้นภาพที่แสดงก็จางหายไปพร้อมกับหมอกควันสีม่วงที่ค่อยๆมลายไปเช่นกัน

“แบบนี้นี่เอง”

“มันเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขา  เจ้าหมอนั่นไป ในป่า  คนเดียว รึ”  ฮันนี่เอ่ยเสียงเครียด   แต่ทว่าขณะที่ทั่งคู่กำลังจมอยู่กับความคิดนั้นพลันก็ต้องตกใจเมื่อเจ้าของบ้านเอ่ยด้วยเสียงเข้ม

“กลับมาที่นี่อีกทำไม?”

“เอิ่ม  คือ”  ฮันนี่เอ่ยติดขัด

“ลูกชายคุณน้าออกไปชายป่า  ป่านนี้ยังไม่กลับมาอีกรึครับ”   ชายน์เอ่ยแทรกทำให้หญิงวัยกลางคนชะงักไปทันที

“พวกเราเลยคิดว่าจะมาอยู่เป็นเพื่อนคุณน้า   หรือคุณน้าจะให้พวกเราออกไปช่วยตามหาลูกสาวคนเล็กดีครับ”  ชายน์เอ่ยต่อเมื่อเห็นว่าตนถือไพ่เหนือกว่า

“พวกเธอเป็นใครกัน” หญิงวัยกลางคนเอ่ยถามเมื่อลดอารมณ์โมโหลงแล้ว

“พวกเราเป็นเด็กนักนักเรียนครับ  บังเอิญผ่านมาทางนี้และรับรู้ถึงบางอย่างที่แปลก  แค่นั้นครับ”

“และขอให้สบายใจได้ว่า   พวกเราไม่ใช่คนไม่ดีแน่นอนค่ะ”   ฮันนี่เอ่ยเสียงใส

“แล้วเพื่อนๆ พวกเธอ…” หญิงวัยกลางคนผู้เป็นเจ้าของบ้านเอ่ยถามถึงเด็กที่เหลือ

“อยู่ไม่ไกลจากที่นี่หรอกค่ะ   เขาไปหาข่าวหาเบาะแสนิดหน่อย  คิดว่าเดี๋ยวคงย้อนกลับมาค่ะ” ฮันนี่เอ่ย

“คุณน้ามีอะไรจะบอกพวกเรามั๊ยครับ?” ชายน์ถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“คือ…ฉัน…   ฮือๆๆ”  เมื่อเริ่มพูดหญิงเจ้าของบ้านก็ปล่อยโฮร้องไห้เพราะความเป็นห่วงลูกชายหญิงของตน  เธอเล่าไปปาดน้ำหูน้ำตาไปและสุดท้ายก็จบอย่างที่ทุกคนคิด

“ถ้าพวกเธอไม่ใช่คนร้าย  พวกเธอไปช่วยลูกชายฉันหน่อยได้ไหม   ในเขตป่านั้นอันตรายมาก   ฉันเป็นห่วงเขา”   หญิงเจ้าของบ้านเอ่ยอย่างน่าสงสาร  และเมื่อเห็นว่าเด็กชายหญิงยังคงนิ่งอยู่ นางจึงกล่าวต่อ

“เรามีกันสามแม่ลูก ฉันเสียพ่อเขาไปแล้ว ฉันไม่อยากเสียพวกเขาไปอีก ฮือๆๆ”  หญิงเจ้าของบ้านเริ่มร้องไห้อีกครั้งเมื่อพูดถึงอดีตตนเอง

“เรียกพวกเรากลับมาเลย  ฮันนี่” ชายน์เอ่ยกับฉันนี่ก่อนจะหันมาพูดกับหญิงเจ้าของบ้านด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

“โอเคครับ   เราจะตามเข้าไปช่วยลูกๆ ของคุณน้า   ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ  ผมและเพื่อนๆ เก่งมาก 555” ชายน์เอ่ยพลางคุยโวอย่างน่ารักเพื่อให้หญิงเจ้าของบ้านลดความโศกเศร้าและผ่อนคลายขึ้น  และก็ได้ผลไม่ใช่น้อย

“ฉันก็ว่าอย่างนั้น  เพราะเมื่อครู่นี้ฉันเห็นพวกเธอใช้เวทย์มนต์ได้”  หญิงเจ้าของบ้านกล่าวขณะพากันเดินออกมานอกบ้านเพื่อส่งเด็กแปลกหน้าที่พึ่งพบเจอให้ไปช่วยบุตรของตน

“ค่ะ   พวกเราเก่งค่ะ 555”  ฮันนี่เอ่ยบ้าง

“แล้วลูกชายคุณน้า เอ่อ  ใช้เวทย์ได้มั๊ยครับ”ชายน์ถาม

“ลูกชายฉันมีพลังเวทย์ เขาเก่งนะ  แต่ลูกสาวคนเล็กฉันไม่มีหรอก”  หญิงเจ้าของบ้านเอ่ยด้วยน้ำเสียงเศร้า

“อ้อ  ลูกชายฉันชื่อคิม  ส่วนลูกสาวคนที่หายไปชื่อแคท   ฝากด้วยนะ”  หญิงเจ้าของบ้านเอ่ยเมื่อเห็นว่าเด็กๆ ที่เข้าไปในหมู่บ้านพากันออกมาแล้ว

“ไม่ต้องห่วงครับคุณน้า ดูแลตัวเองด้วยนะครับ  อ้อ  เราขอฝากรถม้าและข้าวของไว้ที่นี่นะครับ”   ชายน์เอ่ยขออนุญาตขณะที่ฮันนี่เลี่ยงไปแจ้งเรื่องแก่เซฟานี่ เดวี่ เชโด้และเบลแล้ว

“ได้สิ  ฉันยินดีช่วย”  หญิงเจ้าของบ้านเอ่ยอย่างกระตือรือร้นและยืนยิ้มอย่างมีความหวังเมื่อมองกลุ่มเด็กๆเดินหายไปในความมืดทางด้านป่าใหญ่

ขอให้ลูกๆของแม่ปลอดภัยนะ  คิม แคท

………………………………………………………………………………………………………………………………………………. 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา