Twin แฝดเลือดผสม

8.0

เขียนโดย Shinman33

วันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2563 เวลา 16.05 น.

  39 ตอน
  3 วิจารณ์
  31.71K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 26 มีนาคม พ.ศ. 2563 16.21 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

20) เพื่อนเก่ากับสถานะของเดวี่ที่เปิดเผย

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

เพื่อนเก่ากับสถานะของเดวี่ที่เปิดเผย

 

“ทุกอย่างพร้อมแล้วนะ เมอร์ดอฟ”

“ขอรับนายท่าน   ว่าแต่นายท่านจะใช้วิธีนี้จริงๆ หรือขอรับ”

“แรกข้าตั้งใจจะเลี้ยงดูดั่งลูก   แต่เมื่อมันไม่รักดีต่อข้าก็ต้องใช้วิธีนี้แหละ”

“แต่ถ้านายท่านทำพันธสัญญาก็เท่ากับว่าเขาจะเป็นทาสของนายท่านไปตลอดนะขอรับ”

“ข้อดีของทาสคือมันจะฟังและปฏิบัติตามคำสั่งของเราทุกอย่าง   แม้แต่สั่งให้มันไปตายมันก็ต้องตาย   ฮ่าๆๆ”

“แล้วเรื่องผู้พิทักษ์ล่ะขอรับ?”

“ถ้าเอามันมาพร้อมกันไม่ได้    ก็กำจัดมันทิ้งไปซักคน    แค่นี้ก็ไม่มีผู้พิทักษ์แล้ว  หึหึ”   ชายปริศนาผู้แฝงตัวอยู่ในเงามืดกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงอันเยือกเย็นจนเมอร์ดอฟอดที่จะเกรงในอำนาจไม่ได้

“แจ้งไปยังพันธมิตรของข้าด้วยว่าข้าตัดสินใจตามที่เขายื่นข้อเสนอแล้ว   โปรดเปิดทางและอำนวยความสะดวกแก่คนของข้าด้วย”

“ขอรับนายท่าน”   เมอร์ดอฟกล่าวพร้อมกับหายไปพร้อมกับกลุ่มควันสีดำทันที

‘นกที่มีแค่ปีกเดียว   ยังไงมันก็บินไม่ขึ้นหรอกนะ  ฮ่าๆๆๆ’

                                                ………………………………………………………………

 

“จะไม่ทันแล้วนะ   เอาไงดีล่ะ”    ชายน์บ่นหลังจากที่พวกเขาเสียเวลากับการต่อสู้ระหว่างทางและม้าของเขาก็วิ่งเตลิดหนีไปหมดแล้ว   อีกทั้งพวกเขายังติดอยู่ในป่ามืด*นั้นอีกจนทำให้กำหนดการเดิมที่วางไว้ล่าช้าออกไป

“ใช้สัตว์เวทย์มาลากรถแทนม้าได้มั๊ย”   ชายน์ถามขอความเห็นอีกครั้ง

“ฉันลากไม่ไหวนะบอกไว้ก่อนเลย”   เฟย์รีบแย้งทันที

“ใช้วาโยเวทย์หรือเวทย์อื่นได้มั๊ยที่พาเราไปให้ทันอ่ะ”   ชายน์เสนออีกความคิด

“ไม่ได้หรอก   เพราะกว่าจะไปถึงมันจะกินพลังเวทย์เราไปมากจนเราไม่มีแรงจะลงแข่งได้”   เดวี่เอ่ยเหตุผลออกมา

“เอาแบบนี้ดีกว่า   นายขอความช่วยเหลือจากเพื่อนเก่าของนายสิ”   เฟย์เสนอทางออกที่ทำเอาชายน์งงเป็นไก่ตาแตก

“ฉันมีเพื่อนเก่าด้วยหรอ?”

“มีสิ   แต่ฉันก็ไม่มั่นใจนะว่าเขาจะจำนายได้อ่ะ  ฮ่าๆๆ”   เฟย์หัวเราะอารมณ์ดี

“ก็ได้   ไหนๆ ก็ไม่มีทางเลือกอื่นแล้วนี่”   ชายน์เอ่ยอย่างปลงๆ ก่อนจะพากันเดินไปยังหน้าผาสีดำอันสูงตระหง่าน   เฟย์นั้นแลจะไม่ทุกข์ร้อนอะไรเลยซึ่งต่างจากชายน์ที่มีสีหน้ากังวลไปตลอดทาง   และเช่นเดียวกันกับเดวี่แม้ว่าจะไม่พูดอะไรแต่จากระยะฝีเท้าที่ก้าวยาวๆ ก็พอจะบอกได้ว่าเขาเองก็ร้อนใจและรีบอยากจะไปยังสนามแข่งแล้วไม่น้อย

‘ชิน   เขาจะจำฉันได้มั๊ย’

‘เรื่องนี้ฉันก็ไม่รู้จริงๆ   แล้วก็ไม่รู้ด้วยว่าคนที่เฟย์พูดถึงเป็นใคร’   ชินตอบกลับมาทันทีที่ชายน์เอ่ยถามในใจเบาๆ

“เมื่อเข้าไปถึงแล้วจะมีการทดสอบเพื่อยืนยันตัวนิดหน่อย    สิ่งที่ยืนยันตัวของนายได้คือรัตติกาลเพลิง   ซึ่งจริงๆ แล้วหลายๆ คนก็สามารถใช้ได้   แต่มันจะไม่เหมือนของนาย”   เฟย์หันมาเอ่ยกับชายน์หลังจากที่พากันเดินมายังเบื้องหน้าของหน้าผาอันสูงชันที่ต้องแหงนจนคอตั้งบ่าก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะมองเห็นยอด

“มั่นใจนะว่าวิธีนี้จะได้ผล”   เดวี่ถามย้ำ

“หรือนายจะเอามังกรของนายออกมาพาพวกเราไปล่ะ?”

“มังกรฉันหลับอยู่   แล้วมันก็ยังไม่โตพอที่จะใช้งานได้ในตอนนี้”   เดวี่เอ่ยเรียบๆ ตามแบบฉบับของเขา

“หืมมม   สัตว์เวทย์ของนายคือมังกรหรือ? สุดยอดเลยอ่ะเดวี่”

“มังกรเด็กหนะชายน์   ยังไม่โตเลย”   เฟย์เอ่ยพร้อมส่งยิ้มเจ้าเล่ห์ไปให้เดวี่

“รีบๆ เข้าเถอะ    มัวคุยอะไรไม่เข้าเรื่อง”   เดวี่ชิ่งตัดบทก่อนที่เรื่องมังกรของเขาจะพาให้เสียงานและก็ได้ผล   บัดนี้เฟย์เลิกเล่นและหันมาเอ่ยอย่างจริงจังมากขึ้น

“เอาล่ะนะ”   เฟย์เอ่ยถามและเมื่อชายน์พยักหน้ารอบๆร่างของเฟย์ก็เกิดวงแหวนสีทองมากมายลอยหมุนอยู่รอบๆ    แสงสีขาวนวลสว่างว้าบขึ้นพร้อมกับร่างของเฟย์หายไปแต่ร่างของฟินิกซ์สีส้มทองอันแสนงดงามบินพุ่งทะยานออกมาและส่งเสียงร้องลั่นไปทั่วทั้งผืนป่ามืด

                เสียงร้องของฟินิกซ์ก้องกังวานไปทั่วก่อนจะหายวับไปอย่างไร้ร่องรอยอันเป็นสัญญาณว่าเฟย์หลบหายเข้าไปในดาบที่ชายน์ครอบครองอยู่เรียบร้อยแล้ว   และเพียงครู่เดียวพื้นแผ่นดินในบริเวณนั้นก็สั่นไหว   เศษดินเศษหินร่วงหล่นลงมาจากเบื้องบนหน้าผาพร้อมกับเงาดำทะมึนใหญ่กำลังเคลื่อนที่พุ่งลงมาทางชายน์

“เฮ้ย!!”   โดยไม่ทันตั้งตัวเงาดำนั่นพุ่งโฉบมาโจมตีใส่ชายน์และเดวี่จนทั้งสองกระโดดหลบไปคนละทิศทาง

“เฟย์บอกให้ใช้รัตติกาลเพลิงเพื่อยืนยันตัวไม่ใช่หรือ”   เดวี่ตะโกนเอ่ยเตือน

”ใช่ๆ   ฉันลืมไปเลย”   ว่าแล้วชายน์ก็เรียกรัตติกาลเพลิงออกมาเพื่อจะยืนยันตัวตน   หากแต่เงาดำนั่นกลับไม่ลดละการจู่โจมเพราะบัดนี้มันกำลังพุ่งใส่ชายน์อีกครั้ง

“อ่าว เฮ้ย!!”   เป็นอีกครั้งที่ชายน์ต้องตกใจร้องลั่นเมื่อเขาคิดว่าเขาน่าจะสอบผ่านการยืนยันตัวแล้วหากแต่อีกฝ่ายก็ยังไม่ลดละการจู่โจม   เงาดำพุ่งใส่ชายน์ด้วยความเร็วจนชายน์ซัดเวทย์สวนออกไปโดยที่เขาเองก็ไม่รู้ว่าเขาใช้เวทย์สายไหนบทไหนออกไปบ้าง    และครั้งนี้ปรากฏว่า…

“ยินดีต้อนรับการกลับมานะสหาย  ฮ่าๆๆ”   ทันทีที่เวทย์ของชายน์พุ่งเข้ากระทบกับเงาดำนั่นมันก็สลายไปพร้อมกับการปรากฏกายของบุรุษหนุ่มร่างกายกำยำขึ้นด้านหลังของชายน์

“เอ่ออ  คุณคือ..”

“ข้าชื่อ แดร์ดราก้อน   ทุกคนรู้จักข้าในนามของมังกรผู้กล้า”   บุรุษหนุ่มแนะนำตัว    ชายน์ใช้เสี้ยวเวลาที่สบตาสังเกตุบรุษเบื้องหน้าก็พบว่าร่างกายกำยำที่สวมอาภรณ์สีดำกับผมยาวดำสนิทช่างดูลึกลับไม่เบา   อีกทั้งใบหน้าคมเข้มกับไรหนวดสีเทาที่โกนออกแล้วกับดวงตาสีดำนั่นช่างดูมีอำนาจซะเหลือเกิน

“ครับ ท่านแดร์ดราก้อน”   ชายน์ตอบกลับอย่างประหม่า

“ท่านเทิ่นอะไรกันล่ะสหายข้า   เรียกข้าว่าแดร์เฉยๆ ก็ได้  ฮ่าๆๆ”  

“ชายน์เขาจำอดีตไม่ได้หรอกครับท่านแดร์ดราก้อน  ผมเดวี่  ลอฟดาน่า  ครับ”   เดวี่เอ่ยพร้อมแนะนำตัวและโค้งคำนับอย่างสง่างาม

“โอ้.. สายเลือดลอฟดาน่า  ไม่นึกว่าจะได้เจอ  ยินดีอย่างยิ่งเดวี่”   แดร์ดราก้อนเอ่ยอย่างอารมณ์ดี

“คือเรามีเรื่องจะขอความช่วยเหลือหน่อยนะแดร์”   ชายน์เอ่ยอย่างเอาใจคนตรงหน้าสุดๆ  และดูท่าว่าจะได้ผลดีทีเดียว

“แม้เวลาผ่านจนเจ้ามีชีวิตขึ้นใหม่แต่นิสัยก็ยังไม่เปลี่ยนนะชายน์  ฮ่าๆๆ   ว่ามาเลยสหาย”

“ข้าจะรีบไปเทเรอร์น่ะ   เกรงว่าถ้าเดินทางเองคงจะไม่ทัน”

“เลยจะให้ข้าพาไปสินะ   อืม  เข้าใจละ”   แดร์ดราก้อนเอ่ยอย่างรู้ทันก่อนจะกลายร่างเป็นมังกรยักษ์สีดำที่สง่าและน่าเกรงขามจนชายน์และเดวี่ได้แต่ยืนมองจนตาค้าง

“ไหนว่ารีบไง   ขึ้นหลังข้าสิ”   แดร์ดราก้อนเอ่ยเตือนให้ทั้งสองรีบขึ้นไปยังหลังของตนก่อนจะพากันบินมุ่งหน้าไปยังเทเรอร์

“สุดยอดเลยแดร์ ฮ่าๆๆ”   ชายน์หัวเราะชอบใจหลังจากที่แดร์ดราก้อนพาบินขึ้นยังบนฟ้า

“จับให้แน่นนะ   ข้าทำได้มากกว่าที่เจ้าคิดอีก”   ว่าแล้วมังกรหนุ่มก็เร่งความเร็วยิ่งขึ้นจนชายน์หัวเราะลั่นอย่างชอบใจ

“วู้ววว  เร็วสุดยอดเลย ฮ่าๆๆ”   ชายน์หัวเราะลั่นอย่างชอบใจแต่เดวี่กลับนั่งหน้าซีดอย่างเห็นได้ชัดเจน   .. ‘ก็คนมันไม่ชอบความสูงนี่นะ!!’

                                                              ………………………………………

 

ณ สนามประลองเวทย์โรงเรียนเทเรอร์

“ข่าวว่าเด็กโฮเนอร์ปีนี้ได้ลงแข่งรายการบุคคลทั่วไปด้วยนี่    สงสัยจะไม่ธรรมดา”   เด็กเทเรอร์สายเลือดแวร์วูฟคนหนึ่งเอ่ยเปิดประเด็นขึ้นระหว่างรอรายงานตัวเพื่อลงแข่งขัน

“ทั้งๆ ที่รายการอื่นเขามากันหมดแล้ว   แต่รายการเดี่ยวระดับนักเรียนกับบุคคลทั่วไปยังไม่โผล่หัวมาเลยตังแต่เมื่อวานล่ะ  สงสัยหนีกลับไปแล้วมั้ง  ฮ่าๆๆ”   เด็กหนุ่มผมสีขาวเอ่ยพลางหัวเราะอย่างชอบใจ

“มันอาจรู้ละมั้งว่าจะได้เจอกับนายก็เลยรีบหนีกลับไปแล้วอ่ะเอ็ดดี้ ฮ่าๆๆ”

“ฉันเป็นถึงเจ้าชายและเป็นองค์รัชทายาทของกษัตริย์เอสเทอร์แห่งเกรย์โซน   ใครหน้าไหนจะเก่งเกินฉันต้องไม่มี”   เอ็ดดี้เอ่ยอย่างมั่นใจสุดๆ   เพราะจะว่าไปตั้งแต่เล็กจนโตและเข้ามาอยู่ในเทเรอร์ก็ไม่มีใครกล้าขัดเขาอยู่แล้ว   อาจเป็นเพราะสถานะของเขาหรือจะด้วยฝีมือก็แล้วแต่สิ่งเหล่านั้นมันหล่อหลอมให้เขากลายเป็นคนที่เอาแต่ใจและไม่เคยยอมให้ใครเลย

“ข่าวว่าประธานรุ่นของโฮเนอร์จะได้เจอกับนาย   ส่วนเพื่อนของมันลงรายการบุคคลทั่วไปมั้ง”   เพื่อนในกลุ่มของเอ็ดดี้เอ่ยแจ้งข้อมูลที่สืบทราบมา

“แสดงว่าเพื่อนของมันก็คงไม่ธรรมดาถึงได้กล้าลงรายการนั้น หึหึ    อีกไม่กี่นาทีก็ลงสนามแล้วฉันว่าเข้าไปรอมันในห้องรับรองดีกว่า”   เอ็ดดี้กล่าวสรุปก่อนจะเดินนำเพื่อนๆเข้าไปยังห้องรับรองที่ทางเทเรอร์จัดไว้ให้

 

ย้อนไปที่ชายน์..

“เร็วอีกได้มั๊ยแดร์   ป่านนี้ทางเทเรอร์คงเริ่มการแข่งขันแล้วมั้ง”   ชายน์เอ่ยเร่งแดร์ดราก้อนเพราะกำลังกังวลกับการแข่งขันที่คาดว่าน่าจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว

“อืม   เริ่มตอนเที่ยงตรงใช่มั๊ย?   น่าจะทันนะ”

“แต่ต้องรายงานตัวก่อนอีกนะ   เผื่อเวลาไว้หน่อยก็ดี”

“นายสองคนนี่ใครเริ่มกันล่ะ?”

“เดวี่ก่อน   รายการของฉันแข่งตอนเย็น”   ชายน์ตอบแทนเพื่อนที่ตั้งแต่ออกเดินทางก็เอาแต่นั่งเงียบไม่ยอมพูดจาซักคำ

“งั้นเดี๋ยวทำตามที่ฉันว่านะ……”   แดร์ดราก้อนยื่นข้อเสนอและวางแผนให้กับสองหนุ่มน้อยและดูท่าว่าทั้งคู่จะสนใจข้อเสนออยู่ไม่น้อย

 

กลับมาที่สนามประลองเวทย์โรงเรียนเทเรอร์

“ขอต้อนรับทุกท่านเข้าสู่สนามการแข่งขันการประลองเวทย์ในช่วงที่สองนะค่ะ    เอาล่ะค่ะทุกท่าน…  หลายรายการก็ดำเนินการแข่งขันไปบ้างแล้วที่กรีนโซน   หลายรายการที่แข่งขันแล้วในช่วงเช้าและตอนนี้เวลาเที่ยงตรงก็เป็นรอบที่สองของการแข่งขันโดยเป็นรายการของนักเรียนและในช่วงเย็นจะเป็นรายการของรอบบุคคลทั่วไปนะคะ….”   พิธีกรสาวยังคงกล่าวชี้แจงการแข่งขันในรอบที่สองต่อไปเรื่อยๆ พร้อมกับเชิญผู้เข้าแข่งขันคู่แรกออกมาทันที

“สำหรับคู่แรกเป็นการประลองเวทย์ของตัวแทนรุ่นจากโฮเนอร์และเทเรอร์ค่ะ    ขอเชิญผู้เข้าแข่งขันลงสู่สนามเลยคร้า”   ทันทีที่กล่าวจบเอ็ดดี้ก็เดินลงสู่สนามและเรียกเสียงเฮของนักเรียนเทเรอร์ตลอดจนผู้เข้าชมก็ส่งเสียงเฮลั่นด้วยเพราะตัวแทนจากเทเรอร์เป็นถึงองค์รัชทายาทแห่งเกรย์โซนนั่นเอง    แม้ว่าประชาชนที่นี่จะไม่ค่อยชอบซักเท่าไหร่แต่ถ้าไม่เชียร์ก็มีหวังโดนขับไล่ออกจากดินแดนแน่ๆ   แต่ก่อนที่พิธีกรสาวจะทันได้กล่าวอะไรต่อก็มีเจ้าหน้าที่วิ่งเข้ามากระซิบบางอย่างแก่เธอแล้ววิ่งออกไปทันทีที่จบการสนทนา

“เอ่อออ  ต้องขอแจ้งว่าบัดนี้ผู้เข้าประลองเวทย์จากโฮเนอร์ยังไม่ได้รายงานตัวเลยนะคะ   ไม่ทราบว่าผู้เข้าประลองเวทย์อยู่ในที่นี้หรือเปล่าค่ะ”   ทันทีที่เอ่ยจบก็เกิดเสียงบ่นดังระงมไปทั่ว

“ถ้าไม่มีการรายงานตัวหรือไม่แสดงตัวในตอนนี้ทางเราขอตัดสิทธิแล้วให้ท่านแพ้นะคะ”

“หนึ่ง….สอง….”    และยังไม่ทันที่เธอจะกล่าวจบก็บังเกิดเงาสีดำขนาดใหญ่พาดผ่านทับสนามประลองเวทย์พร้อมกับร่างของเด็กผู้ชายตัวสูงกระโดดลงมากลางสนามประลองจนเรียกเสียงฮือฮาได้ทั่วทั้งสนาม

“เอ่ออ  นี่คือ..”   ยังไม่ทันที่พิธีกรสาวจะเอ่ยจบเดวี่ก็ชิงเอ่ยแทรกขึ้นก่อน

“เดวี่  ลอฟดาน่า ผู้เข้าแข่งขันในรายการนี้”   ทันทีที่กล่าวจบก็เรียกเสียงฮือฮาได้อีกเป็นอย่างดี    เพราะลอฟดาน่าที่ทุกคนคิดว่าสูญสิ้นไปแล้วบัดนี้ได้มีคนเอ่ยถึงมันออกมาอีกครั้ง

“แอบอ้างมากกว่ามั้ง”   เอ็ดดี้เอ่ยอย่างหยามเหยียด

“เนื่องจากว่าผู้เข้าแข่งขั้นจากเทเรอร์เป็นถึงองค์รัชทายาท    ดังนั้นคุณเดวี่ควรจะแสดงความเคารพต่อองค์รัชทายาทก่อนนะคะ”   เสียงเอ่ยของพิธีกรสาวเล่นเอาเดวี่ชะงักไปทันทีเพราะเขาเองก็ไม่คิดว่าจะต้องมาทำความเคารพสายเลือดที่ปล้นบังลังก์ของเขาไปแบบนี้

“เชิญคะคุณเดวี่”   พิธีกรสาวกล่าวเตือนพร้อมกับเสียงโห่ของผู้ชมบางส่วนที่ยังไม่เชื่อในสิ่งที่เดวี่แนะนำตัวได้โห่ร้องลั่นสนามจนเขาต้องตัดสินใจทำตามที่พิธีกรสาวแนะนำ

“ฮ่าๆๆ   ก็แค่นั้นแหละ   ไอ้ลูกกษัตริย์ไร้บังลังก์.. ไร้แผ่นดิน!!”   คำกล่าวของเอ็ดดี้ทำเอาเดวี่กำหมัดแน่นและเมื่อพิธีกรสาวส่งสัญญาณเริ่มต้นเดวี่ก็เป็นฝ่ายจู่โจมทันที

“เฮ้ย!!”   เอ็ดดี้ตกใจร้องลั่นที่ใบมีดสีดำนับร้อยสาดซัดเข้ามายังเขาจนต้องกระโดดหลบไม่เป็นท่า   บัดนี้ชายน์และแดร์ดราก้อนในร่างของคนก็เข้ามานั่งชมการประลองเวทย์อยู่ข้างสนามเรียบร้อยแล้วและอดที่จะนินทาคนในสนามไม่ได้

“เห็นเงียบๆ แบบนี้ไม่นึกว่าหมอนั่นจะใจร้อนได้ขนาดนี้นะ ฮ่าๆๆ”

“หมอนี่โหดมากเลยนะ   ยิ่งเวลาไม่มีสตินะน่ากลัวสุดๆ”   ชายน์เอ่ยอวดอ้างสรรพคุณของเพื่อนอย่างภาคภูมิใจพลางนั่งมองการต่อสู้ที่บัดนี้เดวี่กำลังจู่โจมอย่างบ้าคลั่งมากว่าสิบนาทีแล้วจนดูท่าว่าทั้งคูคงจะเหนื่อยกับการใช้เวทย์ไปไม่น้อย

“จัดการมันเลย”   เอ็ดดี้เอ่ยสั่งฝูงหมาป่านับสิบที่เขาเรียกออกมาเพื่อผ่อนแรงตัวเองและตัดกำลังเดวี่ด้วย

‘มีสัตว์เวทย์เยอะขนาดนี้เลยรึ  หึหึ’   เดวี่กระตุกยิ้มอย่างเครียดๆ เพราะเขาเองยังไม่สามารถใช้สัตว์เวทย์ของตนได้เนื่องจากสัตว์เวทย์ของเขายังไม่โตพอนั่นเอง

แฮร่….  ฝูงหมาป่าตัวโตนับสิบวิ่งล้อมเดวี่และผลัดกันจู่โจมซึ่งอันตรายของเจ้าพวกนี้คือมันสามารถพ่นลูกบอลไฟได้   และบัดนี้มันก็กำลังระดมพ่นลูกบอลไฟใส่เดวี่อย่างไม่ยั้ง

“ไม่ง่ายหรอกไอ้พวกหมาหมู่”   เดวี่เรียกรัตติกาลเวทย์ออกมาเป็นแนวกำแพงกั้นลูกบอลนั้นและก็ดูท่าว่าจะได้ผลเป็นอย่างดี   แต่เดวี่เองก็เผลอเปิดโอกาสให้หนึ่งในหมาป่าเข้าจู่โจมจากด้านหลังจนได้

“อึก!!”   หมาป่าตัวโตกระโดดกัดเข้าที่แขนของเดวี่ส่งผลให้กำแพงจากรัตติกาลเวทย์คลายลงทำให้ฝูงหมาป่าเข้าจู่โจมเดวี่ได้ง่ายขึ้น   ร่างของเดวี่ล้มลงพร้อมกับฝูงหมาป่ากำลังรุมฟัดร่างนั้นจนฝุ่นฟุ้งไปทั่ว

“ขอให้สนุกกับลูกๆ ของฉันนะ  ฮ่าๆๆ”   เอ็ดดี้กล่าวพร้อมกับสร้างวงแหวนสีดำเข้าคลอบร่างของเดวี่และฝูงหมาป่าไว้เพื่อเป็นพันธนาการจัดการเดวี่ไม่ให้หลุดออกมาได้

“โห   จนป่านนี้แล้วยังไม่ยอมใช้ของที่ฉันให้อีกนะ   อึดจริงๆ”   แดร์ดราก้อนเอ่ยอย่างทึ่งๆ และอดที่จะชื่นชมไม่ได้

“ถ้าไม่เจ็บก็ไม่มีแรงฮึดหนะสิ    หมอนี่จิตกว่าที่คิดแฮะ”   ชายน์เองก็ตกใจไม่น้อยที่เดวี่ปล่อยให้ฝูงหมาป่าเข้ารุมขนาดนั้นทั้งๆ ที่เดวี่สามารถจะจัดการได้ตั้งแต่มันยังเข้าไม่ถึงตัวเลยด้วยซ้ำ

“จัดการเลยแล้วกันนะ   อ่อนจริงๆ เลยสายเลือดลอฟดาน่าเนี่ย”   กล่าวจบเอ็ดดี้ก็เรียกดาบสีแดงสดเล่มงามออกมาไว้ในมือก่อนจะยกขึ้นแล้วฟาดใส่ยังวงแหวนสีดำนั่นทันที

บึ้มมม…   เสียงระเบิดดังไปทั่วทั้งสนาม   ร่างของหมาป่ากระเด็นออกไปพร้อมกับกระอักเลือดดิ้นตายอย่างน่าอนาถ   เอ็ดดี้เองก็ตกใจไม่น้อยเพราะแรงระเบิดนั่นไม่ได้มาจากดาบของเขาอย่างแน่นอนเพราะการระเบิดนั้นมันเกิดขึ้นก่อนและเขาก็ยั้งมือไว้ได้ทัน    ท่ามกลางกลุ่มควันที่ลอยคละคลุ้งไปทั่วปรากฏเงาลางๆ สีดำกำลังจัดการหมาป่าทีละตัวและขว้างมันออกมาด้วยสภาพที่ไม่ต่างจากตัวแรกก่อนที่ร่างนั้นจะบินพุ่งออกมาจากกลุ่มควันนั่นพร้อมกับเสียงเฮของผู้ชมรอบๆ สนามที่เอาใจช่วยเดวี่ดังลั่นไปทั่ว

“ตกใจหรือเอ็ดดี้   ฉันรู้นี่ก็ไม่ใช่ร่างจริงของแกหรอกใช่มั๊ย?”   เดวี่ที่บัดนี้เผยร่างจริงออกมาแล้วทำเอาเอ็ดดี้ตกใจไม่น้อย   ร่างกายโตขึ้นพร้อมกับปีกสีดำใหญ่ช่างน่ากลัวนัก   ยิ่งเมื่อสบตากับดวงตาสีแดงเข้มและเขี้ยวสีขาวยามเมื่อพูดนั้นก็ทำเอาเอ็ดดี้ประหม่าไม่น้อยแต่ก็ยังทำใจดีร่ายเวทย์ออกมาเตรียมรับมือกับเดวี่ทันที    กลุ่มควันสีดำลอยเข้าปกคลุมร่างของเอ็ดดี้ไปชั่วขณะ   เสียงหอนของหมาป่าดังลั่นไปทั่วทั้งสนามก่อนที่ร่างของหมาป่าตัวโตจะกระโจนออกมาและพุ่งโจมตีเดวี่ทันที

“สัตว์ชั้นต่ำริอาจมาสู้กับราชันย์ปีศาจอย่างข้ารึ  หึหึ”   เดวี่เอ่ยด้วยเสียงอันทรงอำนาจก่อนจะบินหลบการโจมตีนั้นและโฉบลงมาหิ้วร่างของหมาป่าแล้วบิ้นขึ้นไปบนฟ้าจนผู้ชมต้องแหงนมองจนคอตั้งบ่า

“เขี้ยวเล็กๆ เล็บสั้นๆ แบบนี้มันไม่ระคายผิวฉันหรอกเอ็ดดี้”   เดวี่เอ่ยขณะที่บินวนอยู่บนฟ้าโดยมีร่างหมาป่ากำลังดิ้นและใช้ทั้งขาทั้งเขี้ยวเข้าขัดขืนทำร้ายเดวี่อย่างสุดกำลังแต่ก็ไม่เกิดผลใดๆ จนหมาป่าพ่นไฟใส่เดวี่ในระยะประชิดและก็ได้ผลทันที   เดวี่ปล่อยร่างของหมาป่าลงสู่พื้นดินทันทีและบินตามลงมาติดๆ พร้อมกับใช้รัตติกาลเวทย์ซัดใส่ร่างของหมาป่าในช่วงเสี้ยววินาทีที่ร่างนั้นจะตกถึงพื้น    แรงปะทะของรัตติกาลเวทย์กับร่างหมาป่าส่งผลให้ร่างนั้นร่วงลงเร็วขึ้นและกระแทกกับพื้นแรงขึ้นจนแผ่นดินยุบเป็นหลุมเลยทีเดียว

ตุบ!!   เสียงวัตถุหนักตกกระแทกพื้นพร้อมกับฝุ่นฟุ้งไปทั่ว    และเมื่อฝุ่นจางลงก็เผยให้เห็นร่างของเอ็ดดี้นอนกระอักเลือดออกมาเป็นกองและตามมาด้วยร่างของเดวี่ที่เรียกดาบสีดำเล่มงามออกมาพร้อมกับเก็บปีกแล้วกระโดดลงสู่พื้นดินอย่างงดงามก่อนจะยกดาบขึ้นชูเหนือหัว

“ดาบดำแห่งราชันย์ปีศาจ   ดาบที่ยืนยันถึงตัวตนของข้า”   ทันทีที่เอ่ยจบบรรดาคนที่รู้จักดาบเล่มนี้ดีต่างก็ลุกขึ้นพร้อมทำความเคารพเดวี่อย่างนอบน้อม   ส่วนคนที่ไม่รู้จักดาบดำก็ได้แต่ทำหน้างง

“ฉันทำความเคารพแกเพราะสถานะของแกแล้ว     และบัดนี้แกก็ควรจะทำความเคารพดาบของฉันด้วยเช่นกันนะ   ไอลูกกษัตริย์ขี้โกง!!”   เดวี่เอ่ยเตือนสติของเอ็ดดี้ที่นอนมองหน้าเขาอย่างอาฆาตแค้นก่อนจะเอ่ยและกระทำบางสิ่งออกมา

“ไม่มีวัน   ถุ๊ย!!”   กล่าวจบเอ็ดดี้ก็ถุยน้ำลายสวนขึ้นใส่หน้าของเดวี่ทันที   เลือดและน้ำลายกระเด็นติดแก้มของเดวี่จนแดงอย่างเห็นได้ชัด     เดวี่เพียงแต่กระตุกยิ้มเย็นๆ ก่อนจะ…

“อ๊าคคค”   ดาบดำเล่มงามฟาดแสกหน้าของเอ็ดดี้จนเจ้าตัวร้องลั่นก่อนจะสลบไปในที่สุด

‘เฮ…’    เสียงเฮดังลั่นไปทั่วทั้งสนาม   บ้างก็ลุกทำความเคารพอีกครั้ง   บ้างก็ส่งสายตาชื่นชมและบ้างก็กำลังหลั่งน้ำตาออกมาด้วยความยินดียิ่ง    น้ำตาแห่งความหวังนั่นเอง

‘รออีกหน่อยนะประชาชนของข้า    ข้ากำลังพยายาม’

 

*ป่ามืด คือป่าที่ปกคลุมไปด้วยกลุ่มควันสีดำจนแสงใดๆ ไม่สามารถผ่านเข้ามาได้    ตนไม้ต่างๆ ก็เป็นสีดำทั้งสิ้น

…………………………………………..........................................…………………………………………………………………

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา