Twin แฝดเลือดผสม
8.0
เขียนโดย Shinman33
วันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2563 เวลา 16.05 น.
39 ตอน
3 วิจารณ์
31.73K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 26 มีนาคม พ.ศ. 2563 16.21 น. โดย เจ้าของนิยาย
17) ตื่น
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความตื่น
“อย่าให้เหลือแม้แต่คนเดียวนะ!!” เสียงของเด็กผู้ชายผมดำเอ่ยสั่งลูกทีมอย่างหนักแน่น
ขณะนี้ทั่วทั้งสนามเต็มไปด้วยควันสีขาวลอยฟุ้งไปทั่วทั้งสนามอันเนื่องมาจากระเบิดที่ทีมเด็กๆ จากเทเรอร์ส่งมาให้คู่แข่ง แต่เพียงแค่เสี้ยวเวลาที่เหล่านักเรียนเทเรอร์หยุดการโจมตีก็บังเกิดพายุหมุนขาดย่อมๆ กำลังเคลื่อนไหวอยู่ใจกลางกลุ่มควันนั่นพร้อมกับร่างของเด็กชายหญิงทั้ง4 คนกำลังทะยานขึ้นมากลางอากาศ
‘กรี๊ดดด นักเรียนโฮเนอร์นี่ไม่ธรรมดาทุกปีเลยจริงๆ นะ’ เสียงผู้ชมรอบๆ สนามกำลังวิจารณ์การปรากฏตัวอย่างเป็นทางการที่งดงามจนเรียกให้ทุกๆ สายตาต้องหันมามอง
“ขอบใจนะมาร์ตินที่ช่วยให้ฉันบินได้ ฮ่าๆๆ” นีโอเอ่ยอารมณ์ดี บัดนี้นีโอ ดัช เบล และเจด้ากำลังลอยอยู่กลางอากาศอย่างงดงาม
“จริงๆ ไม่ต้องเผื่อมาให้ฉันก็ได้นะ ฉันถนัดสายนี้อยู่แล้ว” เจด้า สาวน้อยผู้ถนัดธาตุลมอีกคนกล่าวพร้อมกับกางแขนออกแล้วพุ่งไปขนาบข้างกับเชที่ดูเหมือนว่าจะไม่ชินกับการลอยอยู่กลางอากาศเท่าไรนัก
“อย่ามัวแต่คุยเลย ลุย!!” เบลกล่าวพร้อมกับก้มมองมาร์ตินที่ทำหน้าที่ส่งวาโยเวทย์ไปช่วยพยุงเพื่อนๆ ให้ลอยอยู่กลางอากาศเพื่อสะดวกแก่การจู่โจมมากกว่าการอยู่เบื้องล่าง และเมื่อมาร์ตินพยักหน้ารับรู้ลูกไฟสีส้มแดงดวงโตก็ปรากฏขึ้นบนฝ่ามือทั้งสองของเบลและทันทีที่มันถูกส่งไปยังเป้าหมายเจด้าก็ส่งวาโยเวทย์ตามไปติดๆ จนไฟดวงโตของเบลนั้นขณะนี้กำลังลุกโชติอย่างน่ากลัว
“ไม่ง่ายมั้ง ฮ่าๆๆ” หนึ่งในทีมของเทเรอร์เอ่ยพร้อมหัวเราะลั่นก่อนจะเรียกม่านรัตติกาลเวทย์สีดำมาบังเปลวเพลิงนั่นอย่างมั่นใจ แต่เพียงแค่เปลวเพลิงนั่นเข้าสัมผัสม่านสีดำก็แตกสลายทันที
“เฮ้ย!! อึก!!” เสียงร้องของสมาชิกทีมเทเรอร์ดังขึ้นก่อนที่ร่างนั้นจะกระเด็นถอยหลังไปพร้อมกับกระอักเลือดกองโตออกมา
“ไปแล้วหนึ่ง ขอฉันแสดงฝีมือบ้างนะ หึหึ” นีโอเอ่ยออกมาพร้อมกับกระโดดลงจากกลางอากาศแล้วมายืนขนาบข้างกับมาร์ตินบ้าง นีโอกางแขนทั้งสองออกขนานกับพื้นพร้อมกับดินเบื้องล่างที่สั่นสะเทือนจนผู้คนรอบๆ สนามรับรู้ได้และจ้องมองการกระทำนั้นๆ อย่างใจจดใจจ่อ แม้จะถนัดเวทย์แสงแต่อัคนีเวทย์ก็ทำได้ดีทีเดียว
“ขอฉันเล่นด้วยนะ” ดัชผู้ที่ถนัดเวทย์สายเดียวกันเอ่ยบ้างพร้อมกับใช้อัคนีเวทย์เรียกหินนับร้อยๆ ก้อนขึ้นมาบ้าง
“อย่าให้มันจู่โจมนะ จัดการเลย” แต่ไม่ทันที่นีโอและดัชจะได้โจมตีเหล่านักเรียนจากเทเรอร์ที่เหลือแค่สี่คนก็เป็นฝ่ายชิงลงมือก่อน คลื่นพลังสีดำแผ่ออกมาเป็นวงกว้างและเข้าจู่โจมทีมจากโฮเนอร์ทันทีจนนีโอตัดสินใจรับหน้าที่คุ้มกันเพื่อนๆ ทันทีด้วยการสร้างโดมสีขาวใสมาคลอบพวกเขาเอาไว้ ทั้นทีที่คลื่นพลังสีดำแผ่มาสัมผัสกับโดมสีขาวใสนั่นก็เกิดกระแสไฟฟ้าไหลไปทั่วทั้งโดมจนนีโอเอ่ยเตือนเพื่อนด้วยน้ำเสียงเครียดๆ
“ฉันรับมือได้ไม่นานนะ จะทำอะไรก็รีบทำ” เอ่ยพร้อมกับใบหน้าที่ซีดลงเพราะใช้เวทย์แห่งแสงมากเกินไปนั่นเอง
“จัดการ!!” ดัชเอ่ยพร้อมกับก้อนหินนับร้อยพุ่งทะยานฝ่าโดมสีขาวใสของนีโอออกไปยังทีมของเทเรอร์ แต่ทางเป้าหมายก็สร้างกำแพงเพลิงไว้อย่างหนาแน่น ทันทีที่ก้อนหินนั่นเข้าไปยังกำแพงเพลิงมันก็ละลายกลายเป็นลาวาไปทันที
“ฮ่าๆๆ ไม่ใช่แกคนเดียวนะที่จะมีไฟดีๆ อ่ะ” เจ้าของอัคคีย์เวทย์จากทีมเทเรอร์กล่าวพลางหันมองเบลแล้วยิ้มเยาะอย่างท้าทาย
“ชิ!!” เบลออกอาการหงุดหงิดเช่นเดียวกับดัชที่เห็นว่าอัคนีเวทย์ของเขาบัดนี้ละลายไปหมดแล้ว ขณะนี้ทั้งหมดของทีมโฮเนอร์ลงมาปักหลักบนพื้นดินเรียบร้อยหมดแล้ว
“ฉันลองใหม่ละกัน ไป!!” เบลสะบัดมือออกพร้อมกับพายุทรายที่โหมกระหน่ำสาดซัดเข้ายังทีมของเทเรอร์
“ฉันช่วยนะเบล” มาร์ตินส่งวาโยเวทย์ตามเข้าไปอีกจนความรุนแรงของพายุทรายในขณะนี้ทวีความรุนแรงจนทีมของเทเรอร์ตั้งรับไม่ทันและกำลังเสียรูปขบวนแล้ว!!
“โอกาสมาแล้ว เธอพร้อมนะเจด้า” นีโอที่ยอมสลายเวทย์ของตนในตอนแรกแล้วหันมาถามเจด้า เมื่อสาวสวยหนึ่งเดียวในทีมยิ้มพร้อมพยักหน้าให้สัญญาณนีโอก็เอื้อมมือไปสัมผัสกับมือน้อยๆ ของเจด้าอย่างแผ่วเบา แสงสีขาวสว่างว้าบขึ้นพร้อมกับพายุพัดกระหน่ำไปทั่วทั้งสนามก่อนจะพัดหมุนวนเอาแสงสีขาวนั่นมาผสานเข้าด้วยกันจนเกิเป็นลูกดอกธนูสีขาวสว่างนับพันๆ ดอกและพุ่งเข้าใส่ทีมของเทเรอร์ราวกับฝนตก
“ระวังด้านบนนะ!!” หนึ่งในสมาชิกทีมเทเรอร์ตะโกนเตือนเพื่อนพร้อมกับคนที่เหลือพยายามกางเวทย์ป้องกันลูกธนูนั่น
“ฉันอยากได้ลาวา ขอหินของนายหน่อยสิ” เบลเอ่ยพร้อมกับจุดไฟของเขาลุกไปทั่วทั้งสนาม และทันทีที่ดัชได้ยินก็ใช้อัคนีเวทย์เรียกหินออกมาอีกนับร้อยๆ ก้อนแล้วส่งไปยังกองไฟของเบลทันที ฉับพลันลาวาสีแดงก็ไหลออกมามากมายและพุ่งไปยังทั้งสี่คนที่เหลือของเทเรอร์ที่มัวแต่ป้องกันด้านบนจนพลาดเปิดทางให้ลาวานั่นเข้าจู่โจมโดยง่ายดาย
“อ๊าคคคคคค” เสียงร้องของคนทั้งสี่ดังไปทั่วทั้งสนามก่อนที่ร่างของพวกเขาจะหายวับตามสมาชิกในทีมคนแรกไป …ป่านนี้คงไปนอนหยอดน้ำข้าวต้มที่ห้องพยาบาลแล้วมั้ง ?? > <
……………………………………………..
การแข่งขันยังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆ สำหรับรายการต่อมาจนกระทั่งเข้าสู่รายการคู่ประเภทนักเรียนระดับปี1 ซึ่งเดวี่และเชโด้จะต้องลงแข่งกับทีมของสเฟียร์น่า
“ชายน์ตื่นยังเดวี่?” เซฟานี่ถามหลังจากที่ออกมาจากสนามประลองและพากันเข้ามายังห้องรับรองแล้ว
“ยังเลยเซ” เดวี่ตอบเสียงเครียด
“สีหน้าเขาแลซีดลงนะ เขาจะเป็นอะไรมั๊ยค่ะ?” เจด้าเอ่ยทักตามที่ตนสังเกตเห็น
“ถ้าภายในวันนี้เขาไม่ตื่น ก็คงหมดหวัง” คำตอบของเดวี่ทำเอาเพื่อนๆ หลายคนอึ้งไปตามๆ กัน
“เอาล่ะๆๆ เดี๋ยวพวกฉันจะดูต่อให้เอง ถึงคิวของพวกนายแล้ว ไปรายงานตัวเถอะ” นีโอเอ่ยเตือนสติเดวี่และเช เห็นดังนั้นเดวี่ก็ลุกเดินออกจากห้องไปยังบริเวณจุดรายงานตัวทันที เชที่นั่งเงียบมาตลอดก็ลุกเดินตามออกไปเงียบๆ
“ใครเป็นคนเลือกให้พี่น้องคู่นี้ลงแข่งด้วยกันเนี่ย ฉันล่ะกลัวเขาจะฆ่ากันเองซะมากกว่า ฮ่าๆๆ” มาร์ตินทักหลังจากที่จับอาการของเพื่อนทั้สองคนที่พึ่งจะเดินออกไปว่าทั้งสองคนยังไม่ลงรอยกันดีนักแต่ก็ยังดีกว่าในตอนแรกอยู่มาก
“ก็ชายน์นี่ไงที่จับคู่ ฉันละกลัวแทบแย่ว่าระหว่างที่เราลงแข่งสองคนนี่จะซัดกันเองในห้องนี้ไปซะแล้ว ฮ่าๆๆ” เบลเอ่ยออกมาบ้างก่อนจะเดินเข้าไปนั่งข้างๆ ชายน์พร้อมเพ่งพิจารณาร่างที่นอนนิ่งอย่างละเอียด …หลับนานไปแล้วมั้งชายน์!!
ณ สนามประลองเวทย์แห่งสเฟียร์น่า…
“เอาล่ะค่ะ สำหรับรายการสุดท้ายของประเภทนักเรียนคือการแข่งขันประเภททีมคู่ระดับปี1 ซึ่งคู่สุดท้ายของประเภทนี้คือคู่ของเจ้าภาพพบกับคู่ของโฮเนอร์ค่ะ” เสียงพิธีกรกล่าวนำอย่างก้องกังวานเพราะรายการนี้มีเจ้าภาพลงแข่งอยู่และแน่นอนว่าเสียงเชียร์จากฝั่งเจ้าภาพย่อมดังกระหึ่มอยู่แล้ว
“สำหรับผู้ลงแข่งรายการนี้น่าสนใจทั้งคู่ค่ะ ทางทีมของสเฟียร์น่าส่งประธานรุ่นของปี1 มาพร้อมกับรองประธานรุ่นที่ว่ากันว่าเป็นคู่หูที่อันตรายอย่างประมาทไม่ได้ ส่วนทางโฮเนอร์นั่นก็ส่งประธานรุ่นมาพร้อมกับพี่ชายของเขาค่ะ เป็นคู่พี่น้องที่น่าจับตาจริงๆ ฮ่าๆๆ ” สิ้นเสียงกล่าวของพิธีกรสาวบรรดาผู้ชมก็ส่งเสียงฮือฮาเพราะไม่คิดว่าพี่น้องกันจะมาเรียนชั้นเดียวกันได้ และที่คนที่ตกใจไม่น้อยกว่าผู้ชมก็คือเดวี่ที่เขาไม่คิดว่าตอนแรกที่เชแวะไปคุยกับพิธีกรนั่นเชยอมจะเปิดเผยข้อมูลนี้ด้วย …นายยอมรับฉันบ้างแล้วใช่มั๊ย?
“กฎกติกาคือใช้การต่อสู้ได้ทุกรูปแบบ ถ้าสิ้นสภาพทั้งสองคนถึงจะนับว่าจบนะค่ะ เอาล่ะค่ะ ถ้าพร้อมแล้วก็เชิญได้เลยค่ะ” พิธีกรสาวกล่าวจบทั้งสองฝ่ายก็โค้งคำนับให้กันอย่างสุภาพก่อนที่ประธานรุ่นทั้งสองโรงเรียนจะเรียกดาบประจำตัวออกมา
“ย๊ากกกก” เสียงร้องดังลั่นเป็นสัญญาณว่าการแข่งขันเริ่มต้นขึ้นแล้ว ร่างของเด็กสองคนถือดาบวิ่งเข้าใส่กันพร้อมกับเพลงดาบอันแสนตื่นเต้นได้เริ่มขึ้นจนเรียกเสียงเฮได้ไม่น้อย ส่วนอีกด้านเชกำลังรับมือกับคู่หูของประธานรุ่นแห่งสเฟียร์น่าที่ต่างโจมตีและตั้งรับกันด้วยเวทย์อย่างดุเดือดไม่แพ้กัน ดาบของประธานรุ่นทั้งสองเข้าฟาดฟันกันเป็นระยะและรวดเร็วจนผู้ชมรอบสนามมองตามแทบไม่ทัน และด้วยฝีมือที่เก่งกาจของทั้งคู่ทำให้คมดาบของทั้งคู่ไม่สามารถทำอะไรกันได้เลยนอกจากความแกร่งของดาบที่ต่างกันเท่านั้นที่เผยออกมาให้เห็นถึงความเสียเปรียบได้เปรียบอย่างชัดเจน
“หมอนั่นเรียกดาบอะไรออกมาเนี่ย ทำไมไม่ใช้ดาบดำของเขาล่ะ?” มาร์ตินเอ่ยอย่างสงสัยหลังจากที่นั่งดูการถ่ายทอดสดจากสนามประลองเวทย์ผ่านทางจอภาพขนาดใหญ่ภายในห้องรับรอง
“เขาคงมีเหตุผลของเขาแหละ” เบลเอ่ยเรียบๆ
“หรือไม่เดวี่ก็คงไม่อยากเปิดเผยสถานะเขาเองละมั้ง เพราะถ้าเป็นตามนั้นจริงเขาเองนั่นแหละจะทวงสถานะตนเองลำบาก” นีโอเอ่ยเหตุผลตามที่ตนคิดพร้อมกับนั่งจ้องดูการแข่งขันต่อ เพราะหลังจากที่การแข่งขันดำเนินไปได้เพียงครู่เดียวก็ปรากฏว่าดาบของเดวี่นั้นหักจนใช้งานไม่ได้ซะแล้ว
“ประธานรุ่นของโฮเนอร์ไม่มีดาบที่ดีกว่านี้แล้วหรือ? ฮ่าๆๆ” ประธานรุ่นสเฟียร์น่าเอ่ยออกมาอย่างสะใจที่เห็นว่าเดวี่ใช้ดาบธรรมดามาสู้กับเขาและบัดนี้ดาบนั่นก็ใช้การไม่ได้แล้ว
“ดาบอาจไม่ดี งั้นลองนี่หน่อยแล้วกันนะ!!” รัตติกาลเวทย์ถูกเรียกออกมาแล้วส่งไปให้คู่ต่อสู้ทันที
บึ้มมม เสียงระเบิดดังก้องไปทั่วทั้งสนามประลองเวทย์พร้อมกับกลุ่มฝุ่นควันฟุ้งกระจายไปทั่ว ทันทีที่ฝุ่นจางลงก็ปรากฏร่างของชายชุดดำกำลังสยายปีกสีดำใหญ่ออกจากกลางแผ่นหลัง ดวงตาสีดำกลับกลายเป็นสีแดงเลือดอย่างน่ากลัวกำลังยืนกระตุกยิ้มให้กับประธานรุ่นของสเฟียร์น่าที่บัดนี้กำลังยืนตะลึงกับสิ่งที่เห็นอยู่เบื้องหน้า ไอเวทย์สีดำแผ่กระจายไปทั่วทั้งสนามจนแม้แต่เชและคู่ต่อสู้ก็รับรู้ได้เช่นกัน
“ปีศาจ หรอ? ฮ่าๆๆ” ประธานรุ่นสเฟียร์น่าเอ่ยอย่างพอใจก่อนจะหัวเราะออกมาในที่สุด
“งั้นฉันไม่เกรงใจล่ะนะ” กล่าวจบร่างของเขาก็เปล่งแสงสีขาวสว่างว้าบขึ้นมาพร้อมกับปีกสีขาวที่งอกออกมาจากกลางหลังและพาร่างนั้นพุ่งทะยานขึ้นไปกลางอากาศทันที
‘โอ้โห เทพกับปีศาจหรอเนี่ย สนุกแน่ๆ งานนี้’
‘เฮ……ซัดมันเล้ยยย’ เสียงร้องเสียงเชียร์ดังลั่นไปทั่วทั้งสนามหลังจากที่ทั้งสองเผยร่างที่แท้จริงออกมาและบัดนี้ทั้งสองก็เข้าปะทะกันอีกครั้ง เดวี่พุ่งทะยานขึ้นไปกลางอากาศพร้อมกับส่งขนนกสีดำนับร้อยพุ่งไปยังคู่ต่อสู้จนประธานรุ่นสเฟียร์น่าต้องใช้เวทย์แสงมาเป็นม่านกำบัง แต่เมื่อขนนกสีดำนั่นสัมผัสกับม่านกำบังก็ระเบิดขึ้นทันที
“อึก!!” ร่างของประธานสเฟียร์น่ากระเด็นถอยหลังไปพร้อมกับม่านกำบังนั้นสลายลงไปด้วยเช่นกัน
“แค่ขนนะ ยังไม่เจอของจริง หึหึ” เดวี่กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นๆ พร้อมกับจิตสังหารที่แผ่ออกมาอย่างมากมายจนคนที่เสียเปรียบนั้นอ่อนแรงแทบจะทรงตัวไม่อยู่หากแต่ก็ยังจู่โจมกลับด้วยเช่นกัน
“งั้นลองของฉันบ้างนะ” กล่าวพร้อมกับสะบัดปีกอย่างแรงจนขนนกสีขาวพุ่งตรงออกจู่โจมเดวี่บ้างเช่นกัน หากแต่เพียงเดวี่แค่กระพือปีกสองสามครั้งขนนกสีขาวก็หมุนเปลี่ยนทิศทางไปด้านอื่นๆ ทันทีจนเจ้าของขนนกสีขาวได้แต่ออกอาการฮึดฮัดอย่างไม่ค่อยจะพอใจนักก่อนจะเรียกดาบสีขาวใจออกมาไว้ในมือพร้อมกับพุ่งเข้าใส่เดวี่ทันที
เคร้งๆๆ!! ดาบเล่มงามปะทะกับโซ่สีดำของเดวี่พร้อมกับประกายไฟแลบตลอดเวลา
“อึก” เท้าของประธานรุ่นสเฟียร์น่าถีบเข้ากลางท้องของเดวี่อย่างจังในระหว่างที่ทั้งสองกำลังเข้าปะทะกันอยู่กลางอากาศที่บัดนี้ผู้ชมทั้งสนามต่างส่งเสียงเชียร์ลั่นอยู่ตลอดเวลา
“นี่ไม่จัดว่าออกอาวุธนะ ฮ่าๆๆ” ประธานรุ่นสเฟียร์น่ากล่าวหัวเราะชอบใจพร้อมกับพุ่งโฉบเข้าใส่เดวี่พร้อมกับดาบในมือที่หมายจะฟาดใส่หลังจากที่เห็นว่าเดวี่กำลังจุกจนตัวงอ แต่เมื่อเข้าไปใกล้ก็ต้องตกตะลึงเมื่อเดวี่สะบัดโซ่สีดำฟาดใส่กลางหน้าจนร่างของเขาร่วงดิ่งลงสู่พื้น
“อึก!!” เสียงร้องพร้อมกับร่างที่ตกกระแทกพื้นจนดินยุบและกว่าจะลุกขึ้นมาได้เดวี่ก็ลงมายืนอยู่เบื้องหน้าแล้ว
“เทพฝึกหัดอย่างนายยังห่างไกลกับจอมปีศาจอย่างฉัน หึหึ” กล่าวจบเปลวเพลิงสีดำก็ลุกโชติท่วมร่างของประธานรุ่นสเฟียร์น่าจนร่างนั้นส่งเสียงร้องลั่นก็จะหายวับไปซึ่งแสดงว่าผู้นั้นได้หมดสภาพการต่อสู้แล้ว
‘แปะๆๆๆ เฮ……..’ เสียงปรบมือและเฮดังหลังจากที่เดวี่จัดการเทพฝึกหัดได้อย่างงดงามโดยที่เดวี่แทบจะไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรเลย บัดนี้ดวงตาของเดวี่กลับมาเป็นสีดำและเก็บปีกเรียบร้อยแล้วหลังจากที่เห็นว่าเชนั้นก็จัดการกับคู่ต่อสู้ของเขาเรียบร้อยแล้วด้วยเช่นกัน
“เอาละค่ะ ผลการแข่งขันสรุปว่าผู้ชนะรายการทีมคู่ประเภทนักเรียนในระดับปี1ได้แก่ทีมนักเรียนจากโฮเนอร์ค่ะ” พิธีกรสาวกล่าวพร้อมกับเสียงปรบมือดังลั่นไปทั่วทั้งสนาม เดวี่และเชต่างโค้งคำนับผู้ชมรอบๆ สนามก่อนจะเดินกลับเข้าห้องรับรองอย่างไว
………………………………………
ทางด้านของชายน์……
“อึก!! ฉันหายใจไม่ออกอ่ะชิน”
“ฉันว่าได้เวลาแล้วล่ะชายน์ ถึงเวลาที่นายต้องตื่นแล้ว” ชินเอ่ยอย่างจริงจังก่อนจะเดินไปจับไหล่ของชายน์พร้อมกับกล่าวอย่างหนักแน่น
“ฉันขอโทษที่ต้องใช้วิธีนี้ แต่ที่ฉันกักตัวนายแล้วอ้างว่ายังไม่ถึงเวลาหนะจริงแล้วฉันแค่อยากให้นายได้ในสิ่งที่นายควรจะทำได้ตั้งนานแล้ว อย่าลืมที่ฉันสอนนและที่สำคัญอย่าลืมที่รับปากกับฉันนะ”
“อื้อ” ชายน์ตอบพร้อมดิ้นทุรนทุรายราวกับคนกำลังขาดอากาศหายใจ เมื่อเห็นดังนั้นชินก็จับมือชายน์ไว้แน่นก่อนจะร่ายเวทย์บางอย่างออกมาแผ่วเบาพร้อมกับร่างของชายน์ที่กระตุกอย่างแรงก่อนจะหายวับไป
‘หวังว่าฉันจะมองคนไม่ผิดนะ ชายน์’
“ชายน์ นายเป็นอะไรอ่ะ? ตื่นๆๆ” เซฟานี่ร้องเสียงหลงทันทีที่เห็นว่าร่างของชายน์กำลังกระตุกเกร็งหลังจากที่นอนนิ่งมาหลายวัน
“เฮ้ยย เกิดอะไรขึ้นน่ะ? ชายน์เป็นอะไร?” มาร์ตินเอ่ยพร้อมวิ่งเข้ามาดูอาการของชายน์พร้อมกับเพื่อนๆ ต่างก็พากันเข้ามามุงดูอาการของชายน์อย่างเป็นห่วง
“ชายน์เป็นอะไร เกิดอะไรขึ้น?” เดวี่และเชที่เดินเข้ามาในห้องรับรองเมื่อเห็นเพื่อนๆ กำลังยืนมุงร่างของชายน์พร้อมกับเสียงเอะอะโวยวายก็รีบตรงเข้าไปยังจุดเกิดเหตุพร้อมกับแทรกตัวเข้าไปยังร่างของชายน์ทันที
“เขาชักแล้วก็เกร็งอ่ะ แต่ตอนนี้…” เซฟานี่เอ่ยพร้อมกับสังเกตเห็นว่าบัดนี้ร่างของชายน์สงบนิ่งลงเช่นปกติแล้ว
“ชายน์ นายโอเคมั๊ย?” นีโอเอ่ยออกมาหลังจากที่เห็นร่างของเพื่อนนิ่งจนน่าเป็นห่วง
“หรือว่าชายน์ เขา จะ…” เจด้าเอ่ยยังไม่ทันขาดคำเดวี่ก็เอื้อมมาไปรับสัมผัสลมหายใจยังปลายจมูกชายน์ทันที แต่ทว่า….
หมับ!! มือของชายน์ตวัดมาคว้าไว้ที่ข้อมือของเดวี่ทันทีจนเจ้าของมือนั้นได้แต่สะดุ้งเฮือกอย่างตกใจ แต่เพียงแว้บเดียวก็กลับมามีสีหน้าที่ปกติเมื่อเห็นว่าคนที่หลับมาหลายวันนั้นลืมตาขึ้นมาส่งยิ้มให้อย่างเช่นเคยแล้ว
“ฉันตื่นแล้ว ขอบใจที่เป็นห่วงนะ” ชายน์กล่าวพร้อมกับมองหน้าเพื่อนๆ ทุกคนก่อนจะมาหยุดแล้วกระตุกยิ้มให้กับเดวี่ที่เผลอคลี่ยิ้มออกมาด้วยเช่นกัน
“นี่ที่ไหน?” ชายน์เปลี่ยนเรื่องทันที
“สเฟียร์น่า ในห้องรับรองข้างสนามประลองเวทย์หนะ” ดัชตอบแทรกขึ้นมาบ้างและทันทีที่ได้ยินชายน์ก็ลุกขึ้นนั่งก่อนจะเอ่ยออกมาอย่างหนักแน่น
“เอาล่ะ ฉันพร้อมที่จะลงแข่งแล้ว” กล่าวพร้อมกับบิดขี้เกียจและเตรียมจะเปิดประตู้ห้องรับรองหากแต่เสียงเรียกของเซฟานี่และคำพูดของเดวี่ที่เอ่ยออกมาก็ทำเอาชายน์แทบทรุด
“เอิ่มมม ชายน์” เซฟานี่เรียกก่อนที่ชายน์จะเปิดประตู
“ตอนนี้เป็นเวลาพักเที่ยง ฉันว่าไปกินข้าวกันก่อนเถอะ” เดวี่กล่าวเรียบๆ ก่อนจะยักคิ้วให้ชายน์พร้อมกับกระตุกยิ้มเบาๆ หากแต่เพื่อนๆที่เหลือกลับหัวเราะลั่น
‘ไรท์เตอร์เขาอุส่าห์จะให้ฉันปิดตอนนี้อย่างหล่อๆ แต่ไหงกลายเป็นหน้าแตกแบบนี้ล่ะ ฝากไว้ก่อนนะเช เดวี่!!’
………………………………………………………………………………………………………………………………
“อย่าให้เหลือแม้แต่คนเดียวนะ!!” เสียงของเด็กผู้ชายผมดำเอ่ยสั่งลูกทีมอย่างหนักแน่น
ขณะนี้ทั่วทั้งสนามเต็มไปด้วยควันสีขาวลอยฟุ้งไปทั่วทั้งสนามอันเนื่องมาจากระเบิดที่ทีมเด็กๆ จากเทเรอร์ส่งมาให้คู่แข่ง แต่เพียงแค่เสี้ยวเวลาที่เหล่านักเรียนเทเรอร์หยุดการโจมตีก็บังเกิดพายุหมุนขาดย่อมๆ กำลังเคลื่อนไหวอยู่ใจกลางกลุ่มควันนั่นพร้อมกับร่างของเด็กชายหญิงทั้ง4 คนกำลังทะยานขึ้นมากลางอากาศ
‘กรี๊ดดด นักเรียนโฮเนอร์นี่ไม่ธรรมดาทุกปีเลยจริงๆ นะ’ เสียงผู้ชมรอบๆ สนามกำลังวิจารณ์การปรากฏตัวอย่างเป็นทางการที่งดงามจนเรียกให้ทุกๆ สายตาต้องหันมามอง
“ขอบใจนะมาร์ตินที่ช่วยให้ฉันบินได้ ฮ่าๆๆ” นีโอเอ่ยอารมณ์ดี บัดนี้นีโอ ดัช เบล และเจด้ากำลังลอยอยู่กลางอากาศอย่างงดงาม
“จริงๆ ไม่ต้องเผื่อมาให้ฉันก็ได้นะ ฉันถนัดสายนี้อยู่แล้ว” เจด้า สาวน้อยผู้ถนัดธาตุลมอีกคนกล่าวพร้อมกับกางแขนออกแล้วพุ่งไปขนาบข้างกับเชที่ดูเหมือนว่าจะไม่ชินกับการลอยอยู่กลางอากาศเท่าไรนัก
“อย่ามัวแต่คุยเลย ลุย!!” เบลกล่าวพร้อมกับก้มมองมาร์ตินที่ทำหน้าที่ส่งวาโยเวทย์ไปช่วยพยุงเพื่อนๆ ให้ลอยอยู่กลางอากาศเพื่อสะดวกแก่การจู่โจมมากกว่าการอยู่เบื้องล่าง และเมื่อมาร์ตินพยักหน้ารับรู้ลูกไฟสีส้มแดงดวงโตก็ปรากฏขึ้นบนฝ่ามือทั้งสองของเบลและทันทีที่มันถูกส่งไปยังเป้าหมายเจด้าก็ส่งวาโยเวทย์ตามไปติดๆ จนไฟดวงโตของเบลนั้นขณะนี้กำลังลุกโชติอย่างน่ากลัว
“ไม่ง่ายมั้ง ฮ่าๆๆ” หนึ่งในทีมของเทเรอร์เอ่ยพร้อมหัวเราะลั่นก่อนจะเรียกม่านรัตติกาลเวทย์สีดำมาบังเปลวเพลิงนั่นอย่างมั่นใจ แต่เพียงแค่เปลวเพลิงนั่นเข้าสัมผัสม่านสีดำก็แตกสลายทันที
“เฮ้ย!! อึก!!” เสียงร้องของสมาชิกทีมเทเรอร์ดังขึ้นก่อนที่ร่างนั้นจะกระเด็นถอยหลังไปพร้อมกับกระอักเลือดกองโตออกมา
“ไปแล้วหนึ่ง ขอฉันแสดงฝีมือบ้างนะ หึหึ” นีโอเอ่ยออกมาพร้อมกับกระโดดลงจากกลางอากาศแล้วมายืนขนาบข้างกับมาร์ตินบ้าง นีโอกางแขนทั้งสองออกขนานกับพื้นพร้อมกับดินเบื้องล่างที่สั่นสะเทือนจนผู้คนรอบๆ สนามรับรู้ได้และจ้องมองการกระทำนั้นๆ อย่างใจจดใจจ่อ แม้จะถนัดเวทย์แสงแต่อัคนีเวทย์ก็ทำได้ดีทีเดียว
“ขอฉันเล่นด้วยนะ” ดัชผู้ที่ถนัดเวทย์สายเดียวกันเอ่ยบ้างพร้อมกับใช้อัคนีเวทย์เรียกหินนับร้อยๆ ก้อนขึ้นมาบ้าง
“อย่าให้มันจู่โจมนะ จัดการเลย” แต่ไม่ทันที่นีโอและดัชจะได้โจมตีเหล่านักเรียนจากเทเรอร์ที่เหลือแค่สี่คนก็เป็นฝ่ายชิงลงมือก่อน คลื่นพลังสีดำแผ่ออกมาเป็นวงกว้างและเข้าจู่โจมทีมจากโฮเนอร์ทันทีจนนีโอตัดสินใจรับหน้าที่คุ้มกันเพื่อนๆ ทันทีด้วยการสร้างโดมสีขาวใสมาคลอบพวกเขาเอาไว้ ทั้นทีที่คลื่นพลังสีดำแผ่มาสัมผัสกับโดมสีขาวใสนั่นก็เกิดกระแสไฟฟ้าไหลไปทั่วทั้งโดมจนนีโอเอ่ยเตือนเพื่อนด้วยน้ำเสียงเครียดๆ
“ฉันรับมือได้ไม่นานนะ จะทำอะไรก็รีบทำ” เอ่ยพร้อมกับใบหน้าที่ซีดลงเพราะใช้เวทย์แห่งแสงมากเกินไปนั่นเอง
“จัดการ!!” ดัชเอ่ยพร้อมกับก้อนหินนับร้อยพุ่งทะยานฝ่าโดมสีขาวใสของนีโอออกไปยังทีมของเทเรอร์ แต่ทางเป้าหมายก็สร้างกำแพงเพลิงไว้อย่างหนาแน่น ทันทีที่ก้อนหินนั่นเข้าไปยังกำแพงเพลิงมันก็ละลายกลายเป็นลาวาไปทันที
“ฮ่าๆๆ ไม่ใช่แกคนเดียวนะที่จะมีไฟดีๆ อ่ะ” เจ้าของอัคคีย์เวทย์จากทีมเทเรอร์กล่าวพลางหันมองเบลแล้วยิ้มเยาะอย่างท้าทาย
“ชิ!!” เบลออกอาการหงุดหงิดเช่นเดียวกับดัชที่เห็นว่าอัคนีเวทย์ของเขาบัดนี้ละลายไปหมดแล้ว ขณะนี้ทั้งหมดของทีมโฮเนอร์ลงมาปักหลักบนพื้นดินเรียบร้อยหมดแล้ว
“ฉันลองใหม่ละกัน ไป!!” เบลสะบัดมือออกพร้อมกับพายุทรายที่โหมกระหน่ำสาดซัดเข้ายังทีมของเทเรอร์
“ฉันช่วยนะเบล” มาร์ตินส่งวาโยเวทย์ตามเข้าไปอีกจนความรุนแรงของพายุทรายในขณะนี้ทวีความรุนแรงจนทีมของเทเรอร์ตั้งรับไม่ทันและกำลังเสียรูปขบวนแล้ว!!
“โอกาสมาแล้ว เธอพร้อมนะเจด้า” นีโอที่ยอมสลายเวทย์ของตนในตอนแรกแล้วหันมาถามเจด้า เมื่อสาวสวยหนึ่งเดียวในทีมยิ้มพร้อมพยักหน้าให้สัญญาณนีโอก็เอื้อมมือไปสัมผัสกับมือน้อยๆ ของเจด้าอย่างแผ่วเบา แสงสีขาวสว่างว้าบขึ้นพร้อมกับพายุพัดกระหน่ำไปทั่วทั้งสนามก่อนจะพัดหมุนวนเอาแสงสีขาวนั่นมาผสานเข้าด้วยกันจนเกิเป็นลูกดอกธนูสีขาวสว่างนับพันๆ ดอกและพุ่งเข้าใส่ทีมของเทเรอร์ราวกับฝนตก
“ระวังด้านบนนะ!!” หนึ่งในสมาชิกทีมเทเรอร์ตะโกนเตือนเพื่อนพร้อมกับคนที่เหลือพยายามกางเวทย์ป้องกันลูกธนูนั่น
“ฉันอยากได้ลาวา ขอหินของนายหน่อยสิ” เบลเอ่ยพร้อมกับจุดไฟของเขาลุกไปทั่วทั้งสนาม และทันทีที่ดัชได้ยินก็ใช้อัคนีเวทย์เรียกหินออกมาอีกนับร้อยๆ ก้อนแล้วส่งไปยังกองไฟของเบลทันที ฉับพลันลาวาสีแดงก็ไหลออกมามากมายและพุ่งไปยังทั้งสี่คนที่เหลือของเทเรอร์ที่มัวแต่ป้องกันด้านบนจนพลาดเปิดทางให้ลาวานั่นเข้าจู่โจมโดยง่ายดาย
“อ๊าคคคคคค” เสียงร้องของคนทั้งสี่ดังไปทั่วทั้งสนามก่อนที่ร่างของพวกเขาจะหายวับตามสมาชิกในทีมคนแรกไป …ป่านนี้คงไปนอนหยอดน้ำข้าวต้มที่ห้องพยาบาลแล้วมั้ง ?? > <
……………………………………………..
การแข่งขันยังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆ สำหรับรายการต่อมาจนกระทั่งเข้าสู่รายการคู่ประเภทนักเรียนระดับปี1 ซึ่งเดวี่และเชโด้จะต้องลงแข่งกับทีมของสเฟียร์น่า
“ชายน์ตื่นยังเดวี่?” เซฟานี่ถามหลังจากที่ออกมาจากสนามประลองและพากันเข้ามายังห้องรับรองแล้ว
“ยังเลยเซ” เดวี่ตอบเสียงเครียด
“สีหน้าเขาแลซีดลงนะ เขาจะเป็นอะไรมั๊ยค่ะ?” เจด้าเอ่ยทักตามที่ตนสังเกตเห็น
“ถ้าภายในวันนี้เขาไม่ตื่น ก็คงหมดหวัง” คำตอบของเดวี่ทำเอาเพื่อนๆ หลายคนอึ้งไปตามๆ กัน
“เอาล่ะๆๆ เดี๋ยวพวกฉันจะดูต่อให้เอง ถึงคิวของพวกนายแล้ว ไปรายงานตัวเถอะ” นีโอเอ่ยเตือนสติเดวี่และเช เห็นดังนั้นเดวี่ก็ลุกเดินออกจากห้องไปยังบริเวณจุดรายงานตัวทันที เชที่นั่งเงียบมาตลอดก็ลุกเดินตามออกไปเงียบๆ
“ใครเป็นคนเลือกให้พี่น้องคู่นี้ลงแข่งด้วยกันเนี่ย ฉันล่ะกลัวเขาจะฆ่ากันเองซะมากกว่า ฮ่าๆๆ” มาร์ตินทักหลังจากที่จับอาการของเพื่อนทั้สองคนที่พึ่งจะเดินออกไปว่าทั้งสองคนยังไม่ลงรอยกันดีนักแต่ก็ยังดีกว่าในตอนแรกอยู่มาก
“ก็ชายน์นี่ไงที่จับคู่ ฉันละกลัวแทบแย่ว่าระหว่างที่เราลงแข่งสองคนนี่จะซัดกันเองในห้องนี้ไปซะแล้ว ฮ่าๆๆ” เบลเอ่ยออกมาบ้างก่อนจะเดินเข้าไปนั่งข้างๆ ชายน์พร้อมเพ่งพิจารณาร่างที่นอนนิ่งอย่างละเอียด …หลับนานไปแล้วมั้งชายน์!!
ณ สนามประลองเวทย์แห่งสเฟียร์น่า…
“เอาล่ะค่ะ สำหรับรายการสุดท้ายของประเภทนักเรียนคือการแข่งขันประเภททีมคู่ระดับปี1 ซึ่งคู่สุดท้ายของประเภทนี้คือคู่ของเจ้าภาพพบกับคู่ของโฮเนอร์ค่ะ” เสียงพิธีกรกล่าวนำอย่างก้องกังวานเพราะรายการนี้มีเจ้าภาพลงแข่งอยู่และแน่นอนว่าเสียงเชียร์จากฝั่งเจ้าภาพย่อมดังกระหึ่มอยู่แล้ว
“สำหรับผู้ลงแข่งรายการนี้น่าสนใจทั้งคู่ค่ะ ทางทีมของสเฟียร์น่าส่งประธานรุ่นของปี1 มาพร้อมกับรองประธานรุ่นที่ว่ากันว่าเป็นคู่หูที่อันตรายอย่างประมาทไม่ได้ ส่วนทางโฮเนอร์นั่นก็ส่งประธานรุ่นมาพร้อมกับพี่ชายของเขาค่ะ เป็นคู่พี่น้องที่น่าจับตาจริงๆ ฮ่าๆๆ ” สิ้นเสียงกล่าวของพิธีกรสาวบรรดาผู้ชมก็ส่งเสียงฮือฮาเพราะไม่คิดว่าพี่น้องกันจะมาเรียนชั้นเดียวกันได้ และที่คนที่ตกใจไม่น้อยกว่าผู้ชมก็คือเดวี่ที่เขาไม่คิดว่าตอนแรกที่เชแวะไปคุยกับพิธีกรนั่นเชยอมจะเปิดเผยข้อมูลนี้ด้วย …นายยอมรับฉันบ้างแล้วใช่มั๊ย?
“กฎกติกาคือใช้การต่อสู้ได้ทุกรูปแบบ ถ้าสิ้นสภาพทั้งสองคนถึงจะนับว่าจบนะค่ะ เอาล่ะค่ะ ถ้าพร้อมแล้วก็เชิญได้เลยค่ะ” พิธีกรสาวกล่าวจบทั้งสองฝ่ายก็โค้งคำนับให้กันอย่างสุภาพก่อนที่ประธานรุ่นทั้งสองโรงเรียนจะเรียกดาบประจำตัวออกมา
“ย๊ากกกก” เสียงร้องดังลั่นเป็นสัญญาณว่าการแข่งขันเริ่มต้นขึ้นแล้ว ร่างของเด็กสองคนถือดาบวิ่งเข้าใส่กันพร้อมกับเพลงดาบอันแสนตื่นเต้นได้เริ่มขึ้นจนเรียกเสียงเฮได้ไม่น้อย ส่วนอีกด้านเชกำลังรับมือกับคู่หูของประธานรุ่นแห่งสเฟียร์น่าที่ต่างโจมตีและตั้งรับกันด้วยเวทย์อย่างดุเดือดไม่แพ้กัน ดาบของประธานรุ่นทั้งสองเข้าฟาดฟันกันเป็นระยะและรวดเร็วจนผู้ชมรอบสนามมองตามแทบไม่ทัน และด้วยฝีมือที่เก่งกาจของทั้งคู่ทำให้คมดาบของทั้งคู่ไม่สามารถทำอะไรกันได้เลยนอกจากความแกร่งของดาบที่ต่างกันเท่านั้นที่เผยออกมาให้เห็นถึงความเสียเปรียบได้เปรียบอย่างชัดเจน
“หมอนั่นเรียกดาบอะไรออกมาเนี่ย ทำไมไม่ใช้ดาบดำของเขาล่ะ?” มาร์ตินเอ่ยอย่างสงสัยหลังจากที่นั่งดูการถ่ายทอดสดจากสนามประลองเวทย์ผ่านทางจอภาพขนาดใหญ่ภายในห้องรับรอง
“เขาคงมีเหตุผลของเขาแหละ” เบลเอ่ยเรียบๆ
“หรือไม่เดวี่ก็คงไม่อยากเปิดเผยสถานะเขาเองละมั้ง เพราะถ้าเป็นตามนั้นจริงเขาเองนั่นแหละจะทวงสถานะตนเองลำบาก” นีโอเอ่ยเหตุผลตามที่ตนคิดพร้อมกับนั่งจ้องดูการแข่งขันต่อ เพราะหลังจากที่การแข่งขันดำเนินไปได้เพียงครู่เดียวก็ปรากฏว่าดาบของเดวี่นั้นหักจนใช้งานไม่ได้ซะแล้ว
“ประธานรุ่นของโฮเนอร์ไม่มีดาบที่ดีกว่านี้แล้วหรือ? ฮ่าๆๆ” ประธานรุ่นสเฟียร์น่าเอ่ยออกมาอย่างสะใจที่เห็นว่าเดวี่ใช้ดาบธรรมดามาสู้กับเขาและบัดนี้ดาบนั่นก็ใช้การไม่ได้แล้ว
“ดาบอาจไม่ดี งั้นลองนี่หน่อยแล้วกันนะ!!” รัตติกาลเวทย์ถูกเรียกออกมาแล้วส่งไปให้คู่ต่อสู้ทันที
บึ้มมม เสียงระเบิดดังก้องไปทั่วทั้งสนามประลองเวทย์พร้อมกับกลุ่มฝุ่นควันฟุ้งกระจายไปทั่ว ทันทีที่ฝุ่นจางลงก็ปรากฏร่างของชายชุดดำกำลังสยายปีกสีดำใหญ่ออกจากกลางแผ่นหลัง ดวงตาสีดำกลับกลายเป็นสีแดงเลือดอย่างน่ากลัวกำลังยืนกระตุกยิ้มให้กับประธานรุ่นของสเฟียร์น่าที่บัดนี้กำลังยืนตะลึงกับสิ่งที่เห็นอยู่เบื้องหน้า ไอเวทย์สีดำแผ่กระจายไปทั่วทั้งสนามจนแม้แต่เชและคู่ต่อสู้ก็รับรู้ได้เช่นกัน
“ปีศาจ หรอ? ฮ่าๆๆ” ประธานรุ่นสเฟียร์น่าเอ่ยอย่างพอใจก่อนจะหัวเราะออกมาในที่สุด
“งั้นฉันไม่เกรงใจล่ะนะ” กล่าวจบร่างของเขาก็เปล่งแสงสีขาวสว่างว้าบขึ้นมาพร้อมกับปีกสีขาวที่งอกออกมาจากกลางหลังและพาร่างนั้นพุ่งทะยานขึ้นไปกลางอากาศทันที
‘โอ้โห เทพกับปีศาจหรอเนี่ย สนุกแน่ๆ งานนี้’
‘เฮ……ซัดมันเล้ยยย’ เสียงร้องเสียงเชียร์ดังลั่นไปทั่วทั้งสนามหลังจากที่ทั้งสองเผยร่างที่แท้จริงออกมาและบัดนี้ทั้งสองก็เข้าปะทะกันอีกครั้ง เดวี่พุ่งทะยานขึ้นไปกลางอากาศพร้อมกับส่งขนนกสีดำนับร้อยพุ่งไปยังคู่ต่อสู้จนประธานรุ่นสเฟียร์น่าต้องใช้เวทย์แสงมาเป็นม่านกำบัง แต่เมื่อขนนกสีดำนั่นสัมผัสกับม่านกำบังก็ระเบิดขึ้นทันที
“อึก!!” ร่างของประธานสเฟียร์น่ากระเด็นถอยหลังไปพร้อมกับม่านกำบังนั้นสลายลงไปด้วยเช่นกัน
“แค่ขนนะ ยังไม่เจอของจริง หึหึ” เดวี่กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นๆ พร้อมกับจิตสังหารที่แผ่ออกมาอย่างมากมายจนคนที่เสียเปรียบนั้นอ่อนแรงแทบจะทรงตัวไม่อยู่หากแต่ก็ยังจู่โจมกลับด้วยเช่นกัน
“งั้นลองของฉันบ้างนะ” กล่าวพร้อมกับสะบัดปีกอย่างแรงจนขนนกสีขาวพุ่งตรงออกจู่โจมเดวี่บ้างเช่นกัน หากแต่เพียงเดวี่แค่กระพือปีกสองสามครั้งขนนกสีขาวก็หมุนเปลี่ยนทิศทางไปด้านอื่นๆ ทันทีจนเจ้าของขนนกสีขาวได้แต่ออกอาการฮึดฮัดอย่างไม่ค่อยจะพอใจนักก่อนจะเรียกดาบสีขาวใจออกมาไว้ในมือพร้อมกับพุ่งเข้าใส่เดวี่ทันที
เคร้งๆๆ!! ดาบเล่มงามปะทะกับโซ่สีดำของเดวี่พร้อมกับประกายไฟแลบตลอดเวลา
“อึก” เท้าของประธานรุ่นสเฟียร์น่าถีบเข้ากลางท้องของเดวี่อย่างจังในระหว่างที่ทั้งสองกำลังเข้าปะทะกันอยู่กลางอากาศที่บัดนี้ผู้ชมทั้งสนามต่างส่งเสียงเชียร์ลั่นอยู่ตลอดเวลา
“นี่ไม่จัดว่าออกอาวุธนะ ฮ่าๆๆ” ประธานรุ่นสเฟียร์น่ากล่าวหัวเราะชอบใจพร้อมกับพุ่งโฉบเข้าใส่เดวี่พร้อมกับดาบในมือที่หมายจะฟาดใส่หลังจากที่เห็นว่าเดวี่กำลังจุกจนตัวงอ แต่เมื่อเข้าไปใกล้ก็ต้องตกตะลึงเมื่อเดวี่สะบัดโซ่สีดำฟาดใส่กลางหน้าจนร่างของเขาร่วงดิ่งลงสู่พื้น
“อึก!!” เสียงร้องพร้อมกับร่างที่ตกกระแทกพื้นจนดินยุบและกว่าจะลุกขึ้นมาได้เดวี่ก็ลงมายืนอยู่เบื้องหน้าแล้ว
“เทพฝึกหัดอย่างนายยังห่างไกลกับจอมปีศาจอย่างฉัน หึหึ” กล่าวจบเปลวเพลิงสีดำก็ลุกโชติท่วมร่างของประธานรุ่นสเฟียร์น่าจนร่างนั้นส่งเสียงร้องลั่นก็จะหายวับไปซึ่งแสดงว่าผู้นั้นได้หมดสภาพการต่อสู้แล้ว
‘แปะๆๆๆ เฮ……..’ เสียงปรบมือและเฮดังหลังจากที่เดวี่จัดการเทพฝึกหัดได้อย่างงดงามโดยที่เดวี่แทบจะไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรเลย บัดนี้ดวงตาของเดวี่กลับมาเป็นสีดำและเก็บปีกเรียบร้อยแล้วหลังจากที่เห็นว่าเชนั้นก็จัดการกับคู่ต่อสู้ของเขาเรียบร้อยแล้วด้วยเช่นกัน
“เอาละค่ะ ผลการแข่งขันสรุปว่าผู้ชนะรายการทีมคู่ประเภทนักเรียนในระดับปี1ได้แก่ทีมนักเรียนจากโฮเนอร์ค่ะ” พิธีกรสาวกล่าวพร้อมกับเสียงปรบมือดังลั่นไปทั่วทั้งสนาม เดวี่และเชต่างโค้งคำนับผู้ชมรอบๆ สนามก่อนจะเดินกลับเข้าห้องรับรองอย่างไว
………………………………………
ทางด้านของชายน์……
“อึก!! ฉันหายใจไม่ออกอ่ะชิน”
“ฉันว่าได้เวลาแล้วล่ะชายน์ ถึงเวลาที่นายต้องตื่นแล้ว” ชินเอ่ยอย่างจริงจังก่อนจะเดินไปจับไหล่ของชายน์พร้อมกับกล่าวอย่างหนักแน่น
“ฉันขอโทษที่ต้องใช้วิธีนี้ แต่ที่ฉันกักตัวนายแล้วอ้างว่ายังไม่ถึงเวลาหนะจริงแล้วฉันแค่อยากให้นายได้ในสิ่งที่นายควรจะทำได้ตั้งนานแล้ว อย่าลืมที่ฉันสอนนและที่สำคัญอย่าลืมที่รับปากกับฉันนะ”
“อื้อ” ชายน์ตอบพร้อมดิ้นทุรนทุรายราวกับคนกำลังขาดอากาศหายใจ เมื่อเห็นดังนั้นชินก็จับมือชายน์ไว้แน่นก่อนจะร่ายเวทย์บางอย่างออกมาแผ่วเบาพร้อมกับร่างของชายน์ที่กระตุกอย่างแรงก่อนจะหายวับไป
‘หวังว่าฉันจะมองคนไม่ผิดนะ ชายน์’
“ชายน์ นายเป็นอะไรอ่ะ? ตื่นๆๆ” เซฟานี่ร้องเสียงหลงทันทีที่เห็นว่าร่างของชายน์กำลังกระตุกเกร็งหลังจากที่นอนนิ่งมาหลายวัน
“เฮ้ยย เกิดอะไรขึ้นน่ะ? ชายน์เป็นอะไร?” มาร์ตินเอ่ยพร้อมวิ่งเข้ามาดูอาการของชายน์พร้อมกับเพื่อนๆ ต่างก็พากันเข้ามามุงดูอาการของชายน์อย่างเป็นห่วง
“ชายน์เป็นอะไร เกิดอะไรขึ้น?” เดวี่และเชที่เดินเข้ามาในห้องรับรองเมื่อเห็นเพื่อนๆ กำลังยืนมุงร่างของชายน์พร้อมกับเสียงเอะอะโวยวายก็รีบตรงเข้าไปยังจุดเกิดเหตุพร้อมกับแทรกตัวเข้าไปยังร่างของชายน์ทันที
“เขาชักแล้วก็เกร็งอ่ะ แต่ตอนนี้…” เซฟานี่เอ่ยพร้อมกับสังเกตเห็นว่าบัดนี้ร่างของชายน์สงบนิ่งลงเช่นปกติแล้ว
“ชายน์ นายโอเคมั๊ย?” นีโอเอ่ยออกมาหลังจากที่เห็นร่างของเพื่อนนิ่งจนน่าเป็นห่วง
“หรือว่าชายน์ เขา จะ…” เจด้าเอ่ยยังไม่ทันขาดคำเดวี่ก็เอื้อมมาไปรับสัมผัสลมหายใจยังปลายจมูกชายน์ทันที แต่ทว่า….
หมับ!! มือของชายน์ตวัดมาคว้าไว้ที่ข้อมือของเดวี่ทันทีจนเจ้าของมือนั้นได้แต่สะดุ้งเฮือกอย่างตกใจ แต่เพียงแว้บเดียวก็กลับมามีสีหน้าที่ปกติเมื่อเห็นว่าคนที่หลับมาหลายวันนั้นลืมตาขึ้นมาส่งยิ้มให้อย่างเช่นเคยแล้ว
“ฉันตื่นแล้ว ขอบใจที่เป็นห่วงนะ” ชายน์กล่าวพร้อมกับมองหน้าเพื่อนๆ ทุกคนก่อนจะมาหยุดแล้วกระตุกยิ้มให้กับเดวี่ที่เผลอคลี่ยิ้มออกมาด้วยเช่นกัน
“นี่ที่ไหน?” ชายน์เปลี่ยนเรื่องทันที
“สเฟียร์น่า ในห้องรับรองข้างสนามประลองเวทย์หนะ” ดัชตอบแทรกขึ้นมาบ้างและทันทีที่ได้ยินชายน์ก็ลุกขึ้นนั่งก่อนจะเอ่ยออกมาอย่างหนักแน่น
“เอาล่ะ ฉันพร้อมที่จะลงแข่งแล้ว” กล่าวพร้อมกับบิดขี้เกียจและเตรียมจะเปิดประตู้ห้องรับรองหากแต่เสียงเรียกของเซฟานี่และคำพูดของเดวี่ที่เอ่ยออกมาก็ทำเอาชายน์แทบทรุด
“เอิ่มมม ชายน์” เซฟานี่เรียกก่อนที่ชายน์จะเปิดประตู
“ตอนนี้เป็นเวลาพักเที่ยง ฉันว่าไปกินข้าวกันก่อนเถอะ” เดวี่กล่าวเรียบๆ ก่อนจะยักคิ้วให้ชายน์พร้อมกับกระตุกยิ้มเบาๆ หากแต่เพื่อนๆที่เหลือกลับหัวเราะลั่น
‘ไรท์เตอร์เขาอุส่าห์จะให้ฉันปิดตอนนี้อย่างหล่อๆ แต่ไหงกลายเป็นหน้าแตกแบบนี้ล่ะ ฝากไว้ก่อนนะเช เดวี่!!’
………………………………………………………………………………………………………………………………
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ