Twin แฝดเลือดผสม
8.0
เขียนโดย Shinman33
วันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2563 เวลา 16.05 น.
39 ตอน
3 วิจารณ์
31.73K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 26 มีนาคม พ.ศ. 2563 16.21 น. โดย เจ้าของนิยาย
13) เจ้าหญิง?
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเจ้าหญิง?
หลังจากที่ชายน์กลับมาแล้วทางโฮเนอร์ก็วางมาตรการเข้มขึ้นอีกเท่าตัวเพราะเหตุการณ์ที่พึ่งจะผ่านมานั้นบ่งบอกได้ว่าชายน์คือคนที่พวกเวทย์มืดต้องการ ในขณะที่เจ้าตัวเองก็เหมือนจะรับรู้เรื่องราวได้บ้างแล้ว แต่ทางสภาแกรนน่าก็ยังไม่มีการจัดการหรือแผนการคุ้มครองใดๆ ให้กับชายน์อีกทั้งยังไม่มีการแจ้งเรื่องอย่างเป็นทางการแก่เจ้าตัวอีกด้วยจนทำให้เขาขาดการระวังตัวอย่างที่ผ่านมา ทางด้านของริวก็โดนเรียกตัวกลับไปช่วยงานในสภาแกรนน่าอีกหลังจากที่มาตามหาน้องชายตัวเองได้ไม่กี่วันเอง
“เดวี่ย้ายห้องมาอยู่กับนายหรอชายน์” ริวถามขณะที่ทั้งสองนั่งคุยกันอยู่ในห้องนั่งเล่นหอมังกรดำ
“อืม หมอนั้นนะพักนี้แลแปลกๆ ตามผมติดอย่างกับเงาแหนะพี่ริว” ชายน์ตอบ
“ดีแล้ว เขาก็ทำหน้าที่เขา เราก็ต้องทำหน้าที่ของเรานะจำไว้” ริวกล่าวพลางทำเสียงจริงจัง
“แล้วพี่ริวล่ะ งานพี่เมื่อไหร่จะเสร็จ ผมแทบไม่เห็นหน้าพี่เลยนะ”
“คิดถึงพี่หรอ ฮ่าๆๆๆ พี่ไม่อยู่ก็ให้เดวี่เขาดูแลไปก่อนนะ พี่กลับมาเมื่อไหร่จะไล่มันกลับห้องเดิมทันที หึหึ” ตอบพร้อมกับขยี้หัวเจ้าน้องชายตัวแสบเบาๆ นานเท่าไหร่แล้วที่เขาไม่ได้อยู่กับชายน์จริงๆจังๆ เหมือนก่อนซักที และดูเหมือนว่าในภายภาคหน้าก็คงหาโอกาสยากเข้าไปอีก …ต่างคนต่างต้องทำหน้าที่ของตัวเองสินะ!!
……………………………………………………
“นี่ๆๆ จนป่านนี้นายยังไม่บอกพวกเราเลยนะว่านายไปโดนอะไรมา” มาร์ตินถามชายน์ขณะนั่งกินข้าวอยู่ในโรงอาหารกลาง
“แล้วนายได้สัตว์เวทย์เป็นตัวอะไรอ่ะ? ไม่เห็นบอกกันบ้างเลย” เซฟานี่กล่าวเสริมบ้างหลังจากที่เธอและมาร์ตินเป็นคู่ปรับกันมาตลอด แต่งานนี้ทั้งเธอและมาร์ตินมีความเห็นตรงกันเลยร่วมมือกันง้างปากชายน์ทุกวันแต่ก็ยังไม่ได้คำตอบซักที
“ฉันเจออริเก่า ส่วนสัตว์เวทย์ฉันเป็นสัตว์ปีกหน่ะ” และทุกครั้งชายน์ก็จะตอบเพียงเท่านี้
“แมลงปอ นกกระจาบ ค้างคาว ผีเสื้อ โอ๊ยย ฉันเดาไม่ถูกหรอก” มาร์ตินแกล้งคาดเดาไปต่างๆ นาๆ แต่ทว่าชายน์ยังไม่ทันได้ตอบเสียงของสตรีอันคุ้นเคยก็ดังแทรกขึ้นมาขัดซะก่อน
“คุณชายน์ไม่น่าจะจับเจ้าพวกนั้นมาเป็นสัตว์หรอกมั้งค่ะ คุณมาร์ติน ฮ่าๆๆ” เจด้าและเชเดินเข้ามาสมทบกับกลุ่มของชายน์ซึ่งบัดนี้ ชายน์ เดวี่ นีโอ ดัช เบล มาร์ตินและเซฟานี่ต่างก็สนิทกันดีกับเจด้าและเชเพราะทั้งคู่มักแวะเวียนมาคุยกับพวกเขาบ่อยๆ แม้ว่าจะอยู่คนละหอกันหรือเคยสู้กันมาแล้วแต่ทั้งคู่ก็อัธยาศัยดีจนเข้ากับกลุ่มของชายน์ได้อย่างกลมกลืน
”ฉันว่าอะไรชายน์ไม่ได้เลยนะช่วงนี้ ทั้งเดวี่และเจด้าออกรับแทนตลอด ชิ!!” มาร์ตินแกล้งว่าพลางสะบัดหน้าหนีอย่างงอนๆ
“อ่าวเจด้า มานั่งกับฉันนี่ แล้วเธอไม่อยากรู้หรอว่าชายน์ไปโดนอะไรมาอ่ะ ฉันยังอยากรู้เล้ยยย” เซฟานี่กล่าวอย่างกระซิบกระซาบกับเจด้า
“เจด้าเขารู้แล้วแหละว่าแผลนั่นมันมาจากพวกไหน” กล่าวพร้อมกับเปรยตาไปยังเดวี่ที่นั่งเงียบๆ อยู่ข้างๆ ชายน์ จริงอยู่ว่าเชและเจด้าจะสนิทกับกลุ่มของชายน์แล้วก็ตาม แต่ระหว่างเชและเดวี่นั้นเหมือนยังมีกำแพงบางอย่างกั้นทั้งสองเอาไว้ เพราะเมื่อครั้งเลือกประธานรุ่นนั้นทั้งสองก็ซัดกันจนปางตายจนหลายๆ คนสงสัยว่าทำไมเชถึงเกลียดพวกปีศาจนัก แล้วทำไมถึงยอมมาสนิทกับกลุ่มของชายน์ที่มีทั้งเดวี่และชายน์เป็นพวกสายเลือดปีศาจอยู่ในตัว
“พวกปีศาจเวทย์มืดหน่ะ” เดวี่ตอบเพราะตัดความรำคาญ
“ว่าแล้ววว ทำไมนายถึงตามไปช่วยได้ถูกเพราะนายกับชายน์มีสายเลือดของพวกเดียวกันใช่มั๊ย” มาร์ตินแสดงความคิดเห็นออกมา
“แล้วเพราะนายรู้ว่าชายน์โดนอะไรมานายถึงรู้วิธีรักษาชายน์ใช่มั๊ย” เซฟานี่กล่าวออกมาบ้าง
“ไม่ใช่หรอกเซ คุณเดวี่เขาอาจจะรู้ว่าชายน์โดนพิษจากเวทย์มืด แต่เขาไม่ใช่พวกเวทย์มืดเขาก็ทำได้แค่รักษาเบื้องต้นหน่ะ ดูจากที่ผ่านมานะคิดว่าชายน์น่าจะได้ยาดีมาก่อนแล้วหล่ะ ฮ่าๆๆ” เจด้าเอ่ยออกมาบ้าง
“ยาดี หมายความว่าไงว่ะชายน์ ใช่สาวสวยที่นายเรียกออกมาเทื่อตอนเรียนสัตว์เวทย์มายารึเปล่า?” เบลถามอย่างอยากรู้เต็มที่
“เธอเกิดมาจากการใช้เวทย์บทหนึ่งของฉัน เธอไม่ใช่คนและไม่มีชีวิตจิตใจหรอก” กล่าวจบชายน์ก็ดีดนิ้วดังเปาะจนร่างๆ หนึ่งปรากฏกายขึ้น
“เห้ยย นายทำได้ไง” ทันทีที่ร่างของเด็กหนุ่มอีกคนที่มีผมสีแดงดำปรากฏขึ้นเบลก็ร้องลั่นเพราะว่าเด็กหนุ่มนั้นหน้าเหมือนเขามาก และเมื่อชายน์สะบัดมืออีกทีร่างนั้นก็หายวับไปทันที
“นายมันเทพหรือปีศาจกันแน่ว่ะ” นีโอกล่าวอย่างทึ่งๆ
…………………………………………………………………..
หลังจากการสอบกลางภาคสิ้นสุดลง หลายๆ คนก็ทยอยกันกลับไปเยี่ยมบ้านส่วนหลายๆคนที่บ้านไกลก็นอนเล่นอยู่ที่หอ สำหรับกลุ่มของชายน์นั้นดัชและเบลกลับไปบ้านแล้วเหตุเพราะทางบ้านเรียกตัวด่วน ส่วนเดวี่ นีโอ มาร์ตินและเซฟานี่นั้นยังไม่กลับเพราะตกลงกันว่าจะไปบ้านของชายน์นั่นเอง
“ฉันไม่เตรียมอะไรไปเลยได้ป่าวอ่ะชายน์” มาร์ตินกล่าวขณะที่กำลังนั่งมองชายน์เก็บของอยู่ในห้อง
“ก็แล้วแต่นายนะ แต่ของบางอย่างนายก็ใช้ร่วมกับฉันไม่ได้หรอก หึหึ” ชายน์กล่าวพลางก้มหน้าก้มตาพับเสื้อผ้าเก็บลงตู้ แน่นอนว่าเขาไม่ได้เก็บกลับบ้านเพียงแต่เก็บลงตู้ให้เรียบร้อยเท่านั้นเอง
“น่าเสียดายนะที่ดัชและเบลไม่ได้ไปด้วย” นีโอเอ่ยบ้าง จริงๆ เขาก็ตั้งใจจะกลับบ้านเช่นกันแต่เมื่อชายน์ชวนไปเที่ยวบ้านเขาเลยไม่ปฏิเสธ
“อื้มม ลืมบอกไปว่าเชและเจด้าก็จะไปด้วยนะ ฉันชวนสองคนนั่นไว้แล้วพวกนั้นก็ตกลงแล้ว” คำพูดของชายน์ทำให้เดวี่หันมามองหน้าเขาทันที หากแต่ชายน์ที่กำลังก้มหน้าก้มตาอยู่นั้นจึงไม่เห็นสายตาของเดวี่ที่ฉายแววสงสัยออกมาแว้บหนึ่งก่อนจะกลับเป็นปกติในที่สุด
“พูดถึงเช สรุปว่านายกับเชมีปัญหาอะไรกันหรือเปล่า ทำไมนายสองคนเหมือนไม่ชอบหน้ากันเลย” มาร์ตินถามอย่างจริงจัง จริงอยู่ว่าเขาเป็นพวกไร้สาระไปวันๆ แต่เรื่องนี้เขาก็รับรู้มาตลอดว่าเชและเดวี่ไม่ค่อยจะลงรอยกันตั้งแต่จบการประลองเวทย์หาประธานรุ่นแล้ว หรือสองคนนี่จะมีความหลังที่ไม่ดีต่อกันมาก่อนนะ!!
เช้าวันต่อมาขบวนรถม้าจากเอดิสันที่ส่งมารับลูกชายคนเล็กก็เข้ามาถึงโฮเนอร์ซึ่งเรียกให้หลายๆ สายตาของนักเรียนนั้นหันกลับมามองอย่างอดชื่นชมไม่ได้ ม้าสีขาวสายพันธุ์ดีที่มีแค่ไม่กี่ตระกูลที่จะได้ครอบครองพร้อมกับรถลากที่สวยงามวิจิตรนั่นสามารถบ่งบอกฐานะของเจ้าของได้เป็นอย่างดี
“ไปกันเถอะ รถม้าของท่านพ่อมาแล้ว” ชายน์เมื่อเห็นว่าขบวนรถม้ามาแล้วก็หันไปบอกเพื่อนๆ ทันที ซึ่งดูท่าว่าเจ้าตัวคงอยากจะกลับบ้านอยู่ไม่น้อย
“โห บ้านนายมีม้าแบบนี้ด้วยหรอ สวยเป็นบ้าเลยว่ะชายน์” มาร์ตินกล่าวอย่างื่นเต้น
“ลูกชายของท่านเอดิสันนะ จะให้นั่งรถม้าธรรมดาได้ไง ฮ่าๆๆ” นีโอกล่าวอย่างอดที่จะแซวไม่ได้
“ของที่บ้านฉันสวยกว่านี้อีก ชิ!!” เซฟานี่กล่าวบ้างหลังจากที่เพื่อนๆ พากันชื่นชมรถม้าของชายน์อย่างออกนอกหน้า
“แล้วเธอเป็นใครกันแน่ล่ะ ถามที่ไรก็ไม่เคยบอก” นีโอเอ่ยออกมาบ้างทั้งๆ ที่พวกเขาเป็นเพื่อนกันแท้ๆ แต่พวกเข้ากลับไม่รู้ที่มาที่ไปของเพื่อนๆ ในกลุ่มกันเองเลย
“ใช่ๆ ฉันรู้แค่ดัชเป็นลูกพ่อค้า ชายน์เป็นลูกคุณเอดิสัน และฉันเป็นสามัญชนธรรมดา” มาร์ตินเอ่ยออกมาบ้าง
“นายก็ไม่เคยบอกฉันเช่นกันนะนีโอ โธ่” เซฟานี่ย้อนบ้าง …พวกนี้เป็นใครกันแน่นะ!!
“รีบขึ้นรถม้าเถอะ เดี๋ยวท่านเอดิสันจะรอนานนะ” เดวี่กล่าวตัดบทอย่างเรียบๆ และทุกคนก็ยอมทำตามแต่โดยดี เมื่อขึ้นรถม้าแล้วทุกคนก็สนุกสนานเฮฮาแต่เพียงครู่เดียวสมาชิกทั้งคันรถก็พากันหลับไหลไปทั้งหมด
ณ คฤหาสน์ของเอดิสัน…
ขบวนรถม้าสีขาววิ่งเข้ามาจอดยังหน้าคฤหาสน์หลังงามของเอดิสันโดยมีมารีน ชาร์ลและแม่บ้านของมารีนออกมายืนรอต้อนรับอยู่ก่อนแล้ว เมื่อเด็กๆ ตื่นขึ้นก็พากันตะลึงกับความโอ่อ่าของคฤหาสน์สีขาวหลังโตบนสนามหญ้าสีเขียวเข้มนี้ที่มีพื้นที่ตั้งกว้างขวางพร้อมกับบรรดาดอกไม้มากมายที่พร้อมใจกันผลิบานราวกับว่านัดหมายกันบานเพื่อต้อนรับบางคนซะอย่างนั้น
“ยินดีต้อนรับกลับบ้านนะจร๊ะลูกชายน์ของแม่” มารีนกล่าวพร้อมอ่าแขนรับการกอดของชายน์ เมื่อคนอื่นๆ พากันลงรถก็ยกมือสวัสดีมารีนและชาร์ลแล้วต่างก็ยิ้มกับสองแม่ลูกนี่ที่บัดนี้ชายน์มีสภาพไม่ต่างเด็กๆ เลย
“คิดถึงท่านแม่จังครับ” เอ่ยออกมาพร้อมกับหยดน้ำใสๆ เอ่อออกมาเต็มเบ้าตา
“โตแล้วนะ อย่าขี้แยสิ ไม่อายเพื่อนหรือ” มารีนกระซิบกับลูกชายเบาๆ จนชายน์ต้องก้มเช็ดน้ำตาอย่างอายๆ
“นายน้อยดูโตขึ้นมากนะขอรับ” ชาร์ลกล่าวทักทายชายน์บ้างหลังจากที่ยืนยิ้มอยู่นานและสังเกตุว่าบัดนี้เด็กหนุ่มหัวเกรียนทรงสกินเฮดสีดำนั้นกลายเป็นหนุ่มผมยาวสีดำที่มัดรวบตึงไว้ด้านหลังเป็นทรงหางม้าอีกทั้งรูปร่างที่สูงโปร่งขึ้นนั้นทำให้ชายน์แลดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาก
“ลุงชาร์ล คิดถึงลุงจังครับ ลุงสบายดีนะ” ทันทีที่ได้ยินเสียงของชาร์ล ชายน์ก็โผเข้ากอดกับชาร์ลทันที
“ลุงเขาสบายดีจร๊ะ เอาเป็นว่าพาเพื่อนๆ เข้าบ้านก่อนดีกว่านะ เหมือนฝนกำลังจะตกแล้วล่ะ” มารีนกล่าวตัดบทเมื่อเห็นกลุ่มเมฆดำลอยอยู่เต็มท้องฟ้า แต่ทว่าเมื่อมารีนเหลือบไปเห็นเด็กหญิงผมทองที่เขาเคยเห็นเมื่อครั้งยังเป็นเด็กก็ต้องตกใจ
“อ๊ะ เจ้าหญิงเซฟีน่า ขอโทษนะเพค่ะ หม่อมฉันไม่ทันได้มอง” มารีนกล่าวพร้อมกับย่อกายทำความเคารพเซฟีน่าซึ่งการกระทำนั่นเรียกความตกตะลึงให้กับทุกๆ คนไม่เว้นแม้แต่ชายน์เอง
“เจ้าหญิงเลยหรอ?” มาร์ตินเอ่ยออกมาอย่างแผ่วเบาพร้อมกับสีหน้าซีดเผือดลงทันที
“ไม่ต้องพิธีการหรอกค่ะท่านอา คนกันเองทั้งนั้น” เซฟานี่รีบกล่าวพร้อมกับย่อกายลงไปเสมอกับมารีนเพราะเธอก็ลำบากใจไม่น้อย
“จร๊ะ แล้วนี่หนูไม่ได้บอกเพื่อนๆ หรอกหรือ ดูทุกคนจะตกใจนะ ฮ่าๆๆ” มารีนนั้นเมื่อหันไปเห็นสีหน้าของเด็กๆ ก็หัวเราะลั่นเพราะทุกคนยังคงตกใจในสถานะของเซฟานี่ไม่น้อย
“อย่าบอกนะว่านี่คือเจ้าหญิงองค์เล็กของกษัตริย์โลซีกัสแห่งกรีนโซนหนะ” นีโอเอ่ยออกมาเมื่อเริ่มเดาเรื่องราวได้บ้างแล้ว
“ว่ากันว่ากษัตริย์โลซีกัสแห่งกรีนโซนมีพระธิดาองค์เล็กที่งดงามยิ่งนัก หากแต่ไม่ค่อยปรากฏพระองค์ให้ใครได้เห็นนักเพราะไม่ชอบให้ใครรู้ว่าเป็นเจ้าหญิง เป็นท่านนี่เอง” เจด้ากล่าวพร้อมกับย่อกายทำความเคารพอย่างงดงามและตามด้วยเช เดวี่ มาร์ตินและนีโอ
“พวกนายไม่ต้องทำแบบนี้กับฉันเลยนะ ฉันไม่ชอบ และขอโทษด้วยที่ฉันไม่ใช้ชื่อจริงในการสมัครเรียนเพราะฉันลำบากใจที่จะเปิดเผยสถานะของฉัน” เซฟานี่กล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง ก่อนจะถอนหายใจออกมาพร้อมกับกล่าวต่อ
“ขอโทษนะที่โกหกมาตลอด จริงๆ เบลและดัชนั้นรู้สถานะของฉันดีแต่เพราะฉันสั่งสองคนนั่นเลยทำตัวปกติกับฉัน” คำกล่าวของเซฟานี่ทำให้มาร์ตินแอบแค้นเพื่อนทั้งสองนั่นไม่น้อยที่ไม่ยอมบอกให้เขาได้รับรู้บ้างเลย
“ส่วนนายก็ไม่ต้องเกร็งนะมาร์ติน ฉันชอบเพื่อนแบบนายอ่ะ ในวังของฉันหาคนแบบนายไม่ได้เลย ฮ่าๆๆ” เซฟานี่ว่าพลางเดินเข้าไปตบบ่ามาร์ตินเบาๆ แต่มาร์ตินนี่สิที่ทำหน้าไม่ถูกแล้วตอนนี้
“ครับเจ้าหญิง” ตอบอย่างตะกุกตะกัก
“แล้วก็ขอให้เหมือนเดิมทุกเรื่องนะ ทั้งคำพูดและการกระทำ” เซฟานี่หันมากล่าวกับเพื่อนๆ ก่อนจะลากแขนเจด้าเดินตามมารีนเข้าบ้านไปอย่างอารมณ์ดี
“เซเป็นถึงเจ้าหญิงเลยหรอ นี่ฉันจะโดนสั่งตัดคอมั๊ยนะ” มาร์ตินยืนคิดถึงวีรกรรมที่เขาชอบกัดกับเซแล้วก็ชวนให้ใจเสียจนเพื่อนๆ พากันหัวเราะลั่นก่อนจะพากันเดินเข้าบ้านไป
“แม่จัดห้องให้ตามที่เด็กๆ ขอแล้วนะ เซกับเจด้า ชายน์กับเดวี่ ส่วนมาร์ติน นีโอและเชจะอยู่ห้องใหญ่นะ กระเป๋าแม่เด็กๆ ในบ้านเอาขึ้นไปเก็บแล้ว เชิญทานของว่างก่อนแล้วค่อยขึ้นไปพักผ่อนก็ได้ แล้วเดี๋ยวตอนเย็นๆ ท่านเอดิสันจะกลับมานะ พอดีเขามีงานด่วนเลยไม่ได้อยู่รับเด็กๆ” มารีนกล่าวขณะสั่งเด็กๆ ในบ้านให้เอากระเป๋าของเด็กๆ ขึ้นไปเก็บตามห้องที่เธอแจกแจงพร้อมกับเชิญทุกคนเข้ามาทานของว่างในห้องรับรองแขก
“แล้วพี่ริวจะกลับมามั๊ยครับท่านแม่”
“พี่เขาน่าจะกลับพรุ่งนี้บ่ายๆ หนะชายน์ ช่วงนี้ท่านพ่อเรียกตัวพี่เขาเข้าไปช่วยงานในสภาบ่อยๆ หนะ เห็นว่าเรื่องเตรียมงานประจำปีแล้วก็พวกกบฏนั่นแหละ ยังไงแม่ขอตัวก่อนนะเด็กๆ เชิญตามสบายเลย ขาดเหลืออะไรบอกแม่บ้านเขาได้เลยนะ” มารีนกล่าวเรียบๆ พร้อมกับเดินออกไปทิ้งให้เด็กๆ ได้นั่งคุยกันตามสะดวก
“จริงๆ บ้านฉันมีห้องเยอะนะ จะเปลี่ยนใจก็ได้นะ” ชายน์เอ่ยอย่างอารมณ์ดี
“ไม่เอาอ่ะ ฉันไม่อยากนอนคนเดียว” มาร์ตินสวนขึ้นทันที
“ว่าแต่ใครนะให้จับคู่แบบนี้ นายจะสวีทกับเดวี่หรอชายน์ ฮ่าๆๆ” นีโอกล่าวพลางเหลือบมองไปยังชายน์แล้วหัวเราะอย่างอารมณ์ดี เพราะชายน์เป็นคนเอ่ยเองว่าเขาจะอยู่กับเดวี่ แล้วให้ที่เหลือตกลงกันเอง ผลจึงออกมาเป็นแบบนี้
“ใช่ๆๆ พวกนายสองคนนี่ชักจะยังไงๆ แล้วนะ ฉันนึกว่าฉันคิดเองคนเดียว นายก็คิดเหมือนฉันสินะนีโอ” เซฟานี่เอ่ยออกมาพลางหันไปถามนีโอเป็นเชิงขอความเห็นและนีโอก็พยักหน้าหงึกๆ ทันทีจนเซฟานี่และเจด้าหัวเราะคิกคัก
“ส่วนนายนะมาร์ตี้ฉันไม่ถามนายหรอกเพราะนายเป็นคนเอาเรื่องนี้มาฝังหัวฉัน ยังไงนายก็คิดอยู่แล้ว ฮ่าๆๆ” เซฟานี่หันไปหาคู่ปรับที่แลจะเจี๋ยมเจี้ยมขึ้นเยอะหลังจากรู้สถานะของเธอแต่เมื่อเซฟานี่ถามมาร์ตินก็พยักหน้ายิ้มเผล่ทันที จากที่นั่งเฉยๆ จนตอนนี้เพื่อนๆ ต่างพากันรุมแซวทั้งคู่จนเดวี่นั่งไม่ติดแล้ว
“ฉันขอตัวก่อนนะ ปวดหัวนิดหน่อยหน่ะ” กล่าวจบก็ลุกออกไปทันทีแต่เพื่อนๆ ก็รู้ว่าเดวี่แค่ต้องการจะหลบการตอบคำถามเท่านั้นไม่ได้โกรธเคืองแต่อย่างใด
“งั้นพวกนายก็ตามสบายนะ ฉันขอตัวไปง้อเดวี่ก่อน สงสัยจะงอน แล้วเจอกันมื้อเย็นนะ 18.50 น.” กล่าวพร้อมกับวิ่งตามเดวี่ขึ้นห้องไปจนเพื่อนๆ พากันโห่ลั่น
“แต่ก็จริงนะ หลังๆ มานี่เดวี่มันแลจะห่วงชายน์มากทั้งๆ ที่ตอนแรกทำเป็นไม่อยากคุยด้วย” นีโอกล่าว
“แต่ฉันว่าเดวี่แลจะเกรงใจชายน์มากกว่านะ เหมือนเขาเทิดทูนชายน์อ่ะ” มาร์ตินเอ่ยตามที่เขาสังเกต
“ฉันคิดว่าเดวี่เขาจงรักภักดีกับชายน์เหมือนนายกับบ่าวหนะ เพราะเท่าที่ฉันรู้จักหมอนั่นมาเขาจะไม่ยอมให้ใครง่ายๆ แบบนี้” เชกล่าวออกมาบ้างหลังจากที่นั่งฟังอยู่นาน
“แสดงว่านายรู้จักกับเดวี่มาก่อนนะสิ พวกนายเป็นอะไรกันแน่ มีเรื่องอะไรกันก่อนหน้านี้หรือเปล่า?” เซฟานี่ถามในสิ่งที่เธอและเพื่อนๆ สงสัยเช่นกัน
“เอ่อออ คือ ฉัน” เชกำลังอึกอักกับสิ่งที่ตนเองพลาดเปิดประเด็นไป
“ว่ายังไง ระหว่างนายและเดวี่มีปัญหาอะไรกัน”
..................................................................................................................................................................................................
หลังจากที่ชายน์กลับมาแล้วทางโฮเนอร์ก็วางมาตรการเข้มขึ้นอีกเท่าตัวเพราะเหตุการณ์ที่พึ่งจะผ่านมานั้นบ่งบอกได้ว่าชายน์คือคนที่พวกเวทย์มืดต้องการ ในขณะที่เจ้าตัวเองก็เหมือนจะรับรู้เรื่องราวได้บ้างแล้ว แต่ทางสภาแกรนน่าก็ยังไม่มีการจัดการหรือแผนการคุ้มครองใดๆ ให้กับชายน์อีกทั้งยังไม่มีการแจ้งเรื่องอย่างเป็นทางการแก่เจ้าตัวอีกด้วยจนทำให้เขาขาดการระวังตัวอย่างที่ผ่านมา ทางด้านของริวก็โดนเรียกตัวกลับไปช่วยงานในสภาแกรนน่าอีกหลังจากที่มาตามหาน้องชายตัวเองได้ไม่กี่วันเอง
“เดวี่ย้ายห้องมาอยู่กับนายหรอชายน์” ริวถามขณะที่ทั้งสองนั่งคุยกันอยู่ในห้องนั่งเล่นหอมังกรดำ
“อืม หมอนั้นนะพักนี้แลแปลกๆ ตามผมติดอย่างกับเงาแหนะพี่ริว” ชายน์ตอบ
“ดีแล้ว เขาก็ทำหน้าที่เขา เราก็ต้องทำหน้าที่ของเรานะจำไว้” ริวกล่าวพลางทำเสียงจริงจัง
“แล้วพี่ริวล่ะ งานพี่เมื่อไหร่จะเสร็จ ผมแทบไม่เห็นหน้าพี่เลยนะ”
“คิดถึงพี่หรอ ฮ่าๆๆๆ พี่ไม่อยู่ก็ให้เดวี่เขาดูแลไปก่อนนะ พี่กลับมาเมื่อไหร่จะไล่มันกลับห้องเดิมทันที หึหึ” ตอบพร้อมกับขยี้หัวเจ้าน้องชายตัวแสบเบาๆ นานเท่าไหร่แล้วที่เขาไม่ได้อยู่กับชายน์จริงๆจังๆ เหมือนก่อนซักที และดูเหมือนว่าในภายภาคหน้าก็คงหาโอกาสยากเข้าไปอีก …ต่างคนต่างต้องทำหน้าที่ของตัวเองสินะ!!
……………………………………………………
“นี่ๆๆ จนป่านนี้นายยังไม่บอกพวกเราเลยนะว่านายไปโดนอะไรมา” มาร์ตินถามชายน์ขณะนั่งกินข้าวอยู่ในโรงอาหารกลาง
“แล้วนายได้สัตว์เวทย์เป็นตัวอะไรอ่ะ? ไม่เห็นบอกกันบ้างเลย” เซฟานี่กล่าวเสริมบ้างหลังจากที่เธอและมาร์ตินเป็นคู่ปรับกันมาตลอด แต่งานนี้ทั้งเธอและมาร์ตินมีความเห็นตรงกันเลยร่วมมือกันง้างปากชายน์ทุกวันแต่ก็ยังไม่ได้คำตอบซักที
“ฉันเจออริเก่า ส่วนสัตว์เวทย์ฉันเป็นสัตว์ปีกหน่ะ” และทุกครั้งชายน์ก็จะตอบเพียงเท่านี้
“แมลงปอ นกกระจาบ ค้างคาว ผีเสื้อ โอ๊ยย ฉันเดาไม่ถูกหรอก” มาร์ตินแกล้งคาดเดาไปต่างๆ นาๆ แต่ทว่าชายน์ยังไม่ทันได้ตอบเสียงของสตรีอันคุ้นเคยก็ดังแทรกขึ้นมาขัดซะก่อน
“คุณชายน์ไม่น่าจะจับเจ้าพวกนั้นมาเป็นสัตว์หรอกมั้งค่ะ คุณมาร์ติน ฮ่าๆๆ” เจด้าและเชเดินเข้ามาสมทบกับกลุ่มของชายน์ซึ่งบัดนี้ ชายน์ เดวี่ นีโอ ดัช เบล มาร์ตินและเซฟานี่ต่างก็สนิทกันดีกับเจด้าและเชเพราะทั้งคู่มักแวะเวียนมาคุยกับพวกเขาบ่อยๆ แม้ว่าจะอยู่คนละหอกันหรือเคยสู้กันมาแล้วแต่ทั้งคู่ก็อัธยาศัยดีจนเข้ากับกลุ่มของชายน์ได้อย่างกลมกลืน
”ฉันว่าอะไรชายน์ไม่ได้เลยนะช่วงนี้ ทั้งเดวี่และเจด้าออกรับแทนตลอด ชิ!!” มาร์ตินแกล้งว่าพลางสะบัดหน้าหนีอย่างงอนๆ
“อ่าวเจด้า มานั่งกับฉันนี่ แล้วเธอไม่อยากรู้หรอว่าชายน์ไปโดนอะไรมาอ่ะ ฉันยังอยากรู้เล้ยยย” เซฟานี่กล่าวอย่างกระซิบกระซาบกับเจด้า
“เจด้าเขารู้แล้วแหละว่าแผลนั่นมันมาจากพวกไหน” กล่าวพร้อมกับเปรยตาไปยังเดวี่ที่นั่งเงียบๆ อยู่ข้างๆ ชายน์ จริงอยู่ว่าเชและเจด้าจะสนิทกับกลุ่มของชายน์แล้วก็ตาม แต่ระหว่างเชและเดวี่นั้นเหมือนยังมีกำแพงบางอย่างกั้นทั้งสองเอาไว้ เพราะเมื่อครั้งเลือกประธานรุ่นนั้นทั้งสองก็ซัดกันจนปางตายจนหลายๆ คนสงสัยว่าทำไมเชถึงเกลียดพวกปีศาจนัก แล้วทำไมถึงยอมมาสนิทกับกลุ่มของชายน์ที่มีทั้งเดวี่และชายน์เป็นพวกสายเลือดปีศาจอยู่ในตัว
“พวกปีศาจเวทย์มืดหน่ะ” เดวี่ตอบเพราะตัดความรำคาญ
“ว่าแล้ววว ทำไมนายถึงตามไปช่วยได้ถูกเพราะนายกับชายน์มีสายเลือดของพวกเดียวกันใช่มั๊ย” มาร์ตินแสดงความคิดเห็นออกมา
“แล้วเพราะนายรู้ว่าชายน์โดนอะไรมานายถึงรู้วิธีรักษาชายน์ใช่มั๊ย” เซฟานี่กล่าวออกมาบ้าง
“ไม่ใช่หรอกเซ คุณเดวี่เขาอาจจะรู้ว่าชายน์โดนพิษจากเวทย์มืด แต่เขาไม่ใช่พวกเวทย์มืดเขาก็ทำได้แค่รักษาเบื้องต้นหน่ะ ดูจากที่ผ่านมานะคิดว่าชายน์น่าจะได้ยาดีมาก่อนแล้วหล่ะ ฮ่าๆๆ” เจด้าเอ่ยออกมาบ้าง
“ยาดี หมายความว่าไงว่ะชายน์ ใช่สาวสวยที่นายเรียกออกมาเทื่อตอนเรียนสัตว์เวทย์มายารึเปล่า?” เบลถามอย่างอยากรู้เต็มที่
“เธอเกิดมาจากการใช้เวทย์บทหนึ่งของฉัน เธอไม่ใช่คนและไม่มีชีวิตจิตใจหรอก” กล่าวจบชายน์ก็ดีดนิ้วดังเปาะจนร่างๆ หนึ่งปรากฏกายขึ้น
“เห้ยย นายทำได้ไง” ทันทีที่ร่างของเด็กหนุ่มอีกคนที่มีผมสีแดงดำปรากฏขึ้นเบลก็ร้องลั่นเพราะว่าเด็กหนุ่มนั้นหน้าเหมือนเขามาก และเมื่อชายน์สะบัดมืออีกทีร่างนั้นก็หายวับไปทันที
“นายมันเทพหรือปีศาจกันแน่ว่ะ” นีโอกล่าวอย่างทึ่งๆ
…………………………………………………………………..
หลังจากการสอบกลางภาคสิ้นสุดลง หลายๆ คนก็ทยอยกันกลับไปเยี่ยมบ้านส่วนหลายๆคนที่บ้านไกลก็นอนเล่นอยู่ที่หอ สำหรับกลุ่มของชายน์นั้นดัชและเบลกลับไปบ้านแล้วเหตุเพราะทางบ้านเรียกตัวด่วน ส่วนเดวี่ นีโอ มาร์ตินและเซฟานี่นั้นยังไม่กลับเพราะตกลงกันว่าจะไปบ้านของชายน์นั่นเอง
“ฉันไม่เตรียมอะไรไปเลยได้ป่าวอ่ะชายน์” มาร์ตินกล่าวขณะที่กำลังนั่งมองชายน์เก็บของอยู่ในห้อง
“ก็แล้วแต่นายนะ แต่ของบางอย่างนายก็ใช้ร่วมกับฉันไม่ได้หรอก หึหึ” ชายน์กล่าวพลางก้มหน้าก้มตาพับเสื้อผ้าเก็บลงตู้ แน่นอนว่าเขาไม่ได้เก็บกลับบ้านเพียงแต่เก็บลงตู้ให้เรียบร้อยเท่านั้นเอง
“น่าเสียดายนะที่ดัชและเบลไม่ได้ไปด้วย” นีโอเอ่ยบ้าง จริงๆ เขาก็ตั้งใจจะกลับบ้านเช่นกันแต่เมื่อชายน์ชวนไปเที่ยวบ้านเขาเลยไม่ปฏิเสธ
“อื้มม ลืมบอกไปว่าเชและเจด้าก็จะไปด้วยนะ ฉันชวนสองคนนั่นไว้แล้วพวกนั้นก็ตกลงแล้ว” คำพูดของชายน์ทำให้เดวี่หันมามองหน้าเขาทันที หากแต่ชายน์ที่กำลังก้มหน้าก้มตาอยู่นั้นจึงไม่เห็นสายตาของเดวี่ที่ฉายแววสงสัยออกมาแว้บหนึ่งก่อนจะกลับเป็นปกติในที่สุด
“พูดถึงเช สรุปว่านายกับเชมีปัญหาอะไรกันหรือเปล่า ทำไมนายสองคนเหมือนไม่ชอบหน้ากันเลย” มาร์ตินถามอย่างจริงจัง จริงอยู่ว่าเขาเป็นพวกไร้สาระไปวันๆ แต่เรื่องนี้เขาก็รับรู้มาตลอดว่าเชและเดวี่ไม่ค่อยจะลงรอยกันตั้งแต่จบการประลองเวทย์หาประธานรุ่นแล้ว หรือสองคนนี่จะมีความหลังที่ไม่ดีต่อกันมาก่อนนะ!!
เช้าวันต่อมาขบวนรถม้าจากเอดิสันที่ส่งมารับลูกชายคนเล็กก็เข้ามาถึงโฮเนอร์ซึ่งเรียกให้หลายๆ สายตาของนักเรียนนั้นหันกลับมามองอย่างอดชื่นชมไม่ได้ ม้าสีขาวสายพันธุ์ดีที่มีแค่ไม่กี่ตระกูลที่จะได้ครอบครองพร้อมกับรถลากที่สวยงามวิจิตรนั่นสามารถบ่งบอกฐานะของเจ้าของได้เป็นอย่างดี
“ไปกันเถอะ รถม้าของท่านพ่อมาแล้ว” ชายน์เมื่อเห็นว่าขบวนรถม้ามาแล้วก็หันไปบอกเพื่อนๆ ทันที ซึ่งดูท่าว่าเจ้าตัวคงอยากจะกลับบ้านอยู่ไม่น้อย
“โห บ้านนายมีม้าแบบนี้ด้วยหรอ สวยเป็นบ้าเลยว่ะชายน์” มาร์ตินกล่าวอย่างื่นเต้น
“ลูกชายของท่านเอดิสันนะ จะให้นั่งรถม้าธรรมดาได้ไง ฮ่าๆๆ” นีโอกล่าวอย่างอดที่จะแซวไม่ได้
“ของที่บ้านฉันสวยกว่านี้อีก ชิ!!” เซฟานี่กล่าวบ้างหลังจากที่เพื่อนๆ พากันชื่นชมรถม้าของชายน์อย่างออกนอกหน้า
“แล้วเธอเป็นใครกันแน่ล่ะ ถามที่ไรก็ไม่เคยบอก” นีโอเอ่ยออกมาบ้างทั้งๆ ที่พวกเขาเป็นเพื่อนกันแท้ๆ แต่พวกเข้ากลับไม่รู้ที่มาที่ไปของเพื่อนๆ ในกลุ่มกันเองเลย
“ใช่ๆ ฉันรู้แค่ดัชเป็นลูกพ่อค้า ชายน์เป็นลูกคุณเอดิสัน และฉันเป็นสามัญชนธรรมดา” มาร์ตินเอ่ยออกมาบ้าง
“นายก็ไม่เคยบอกฉันเช่นกันนะนีโอ โธ่” เซฟานี่ย้อนบ้าง …พวกนี้เป็นใครกันแน่นะ!!
“รีบขึ้นรถม้าเถอะ เดี๋ยวท่านเอดิสันจะรอนานนะ” เดวี่กล่าวตัดบทอย่างเรียบๆ และทุกคนก็ยอมทำตามแต่โดยดี เมื่อขึ้นรถม้าแล้วทุกคนก็สนุกสนานเฮฮาแต่เพียงครู่เดียวสมาชิกทั้งคันรถก็พากันหลับไหลไปทั้งหมด
ณ คฤหาสน์ของเอดิสัน…
ขบวนรถม้าสีขาววิ่งเข้ามาจอดยังหน้าคฤหาสน์หลังงามของเอดิสันโดยมีมารีน ชาร์ลและแม่บ้านของมารีนออกมายืนรอต้อนรับอยู่ก่อนแล้ว เมื่อเด็กๆ ตื่นขึ้นก็พากันตะลึงกับความโอ่อ่าของคฤหาสน์สีขาวหลังโตบนสนามหญ้าสีเขียวเข้มนี้ที่มีพื้นที่ตั้งกว้างขวางพร้อมกับบรรดาดอกไม้มากมายที่พร้อมใจกันผลิบานราวกับว่านัดหมายกันบานเพื่อต้อนรับบางคนซะอย่างนั้น
“ยินดีต้อนรับกลับบ้านนะจร๊ะลูกชายน์ของแม่” มารีนกล่าวพร้อมอ่าแขนรับการกอดของชายน์ เมื่อคนอื่นๆ พากันลงรถก็ยกมือสวัสดีมารีนและชาร์ลแล้วต่างก็ยิ้มกับสองแม่ลูกนี่ที่บัดนี้ชายน์มีสภาพไม่ต่างเด็กๆ เลย
“คิดถึงท่านแม่จังครับ” เอ่ยออกมาพร้อมกับหยดน้ำใสๆ เอ่อออกมาเต็มเบ้าตา
“โตแล้วนะ อย่าขี้แยสิ ไม่อายเพื่อนหรือ” มารีนกระซิบกับลูกชายเบาๆ จนชายน์ต้องก้มเช็ดน้ำตาอย่างอายๆ
“นายน้อยดูโตขึ้นมากนะขอรับ” ชาร์ลกล่าวทักทายชายน์บ้างหลังจากที่ยืนยิ้มอยู่นานและสังเกตุว่าบัดนี้เด็กหนุ่มหัวเกรียนทรงสกินเฮดสีดำนั้นกลายเป็นหนุ่มผมยาวสีดำที่มัดรวบตึงไว้ด้านหลังเป็นทรงหางม้าอีกทั้งรูปร่างที่สูงโปร่งขึ้นนั้นทำให้ชายน์แลดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาก
“ลุงชาร์ล คิดถึงลุงจังครับ ลุงสบายดีนะ” ทันทีที่ได้ยินเสียงของชาร์ล ชายน์ก็โผเข้ากอดกับชาร์ลทันที
“ลุงเขาสบายดีจร๊ะ เอาเป็นว่าพาเพื่อนๆ เข้าบ้านก่อนดีกว่านะ เหมือนฝนกำลังจะตกแล้วล่ะ” มารีนกล่าวตัดบทเมื่อเห็นกลุ่มเมฆดำลอยอยู่เต็มท้องฟ้า แต่ทว่าเมื่อมารีนเหลือบไปเห็นเด็กหญิงผมทองที่เขาเคยเห็นเมื่อครั้งยังเป็นเด็กก็ต้องตกใจ
“อ๊ะ เจ้าหญิงเซฟีน่า ขอโทษนะเพค่ะ หม่อมฉันไม่ทันได้มอง” มารีนกล่าวพร้อมกับย่อกายทำความเคารพเซฟีน่าซึ่งการกระทำนั่นเรียกความตกตะลึงให้กับทุกๆ คนไม่เว้นแม้แต่ชายน์เอง
“เจ้าหญิงเลยหรอ?” มาร์ตินเอ่ยออกมาอย่างแผ่วเบาพร้อมกับสีหน้าซีดเผือดลงทันที
“ไม่ต้องพิธีการหรอกค่ะท่านอา คนกันเองทั้งนั้น” เซฟานี่รีบกล่าวพร้อมกับย่อกายลงไปเสมอกับมารีนเพราะเธอก็ลำบากใจไม่น้อย
“จร๊ะ แล้วนี่หนูไม่ได้บอกเพื่อนๆ หรอกหรือ ดูทุกคนจะตกใจนะ ฮ่าๆๆ” มารีนนั้นเมื่อหันไปเห็นสีหน้าของเด็กๆ ก็หัวเราะลั่นเพราะทุกคนยังคงตกใจในสถานะของเซฟานี่ไม่น้อย
“อย่าบอกนะว่านี่คือเจ้าหญิงองค์เล็กของกษัตริย์โลซีกัสแห่งกรีนโซนหนะ” นีโอเอ่ยออกมาเมื่อเริ่มเดาเรื่องราวได้บ้างแล้ว
“ว่ากันว่ากษัตริย์โลซีกัสแห่งกรีนโซนมีพระธิดาองค์เล็กที่งดงามยิ่งนัก หากแต่ไม่ค่อยปรากฏพระองค์ให้ใครได้เห็นนักเพราะไม่ชอบให้ใครรู้ว่าเป็นเจ้าหญิง เป็นท่านนี่เอง” เจด้ากล่าวพร้อมกับย่อกายทำความเคารพอย่างงดงามและตามด้วยเช เดวี่ มาร์ตินและนีโอ
“พวกนายไม่ต้องทำแบบนี้กับฉันเลยนะ ฉันไม่ชอบ และขอโทษด้วยที่ฉันไม่ใช้ชื่อจริงในการสมัครเรียนเพราะฉันลำบากใจที่จะเปิดเผยสถานะของฉัน” เซฟานี่กล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง ก่อนจะถอนหายใจออกมาพร้อมกับกล่าวต่อ
“ขอโทษนะที่โกหกมาตลอด จริงๆ เบลและดัชนั้นรู้สถานะของฉันดีแต่เพราะฉันสั่งสองคนนั่นเลยทำตัวปกติกับฉัน” คำกล่าวของเซฟานี่ทำให้มาร์ตินแอบแค้นเพื่อนทั้งสองนั่นไม่น้อยที่ไม่ยอมบอกให้เขาได้รับรู้บ้างเลย
“ส่วนนายก็ไม่ต้องเกร็งนะมาร์ติน ฉันชอบเพื่อนแบบนายอ่ะ ในวังของฉันหาคนแบบนายไม่ได้เลย ฮ่าๆๆ” เซฟานี่ว่าพลางเดินเข้าไปตบบ่ามาร์ตินเบาๆ แต่มาร์ตินนี่สิที่ทำหน้าไม่ถูกแล้วตอนนี้
“ครับเจ้าหญิง” ตอบอย่างตะกุกตะกัก
“แล้วก็ขอให้เหมือนเดิมทุกเรื่องนะ ทั้งคำพูดและการกระทำ” เซฟานี่หันมากล่าวกับเพื่อนๆ ก่อนจะลากแขนเจด้าเดินตามมารีนเข้าบ้านไปอย่างอารมณ์ดี
“เซเป็นถึงเจ้าหญิงเลยหรอ นี่ฉันจะโดนสั่งตัดคอมั๊ยนะ” มาร์ตินยืนคิดถึงวีรกรรมที่เขาชอบกัดกับเซแล้วก็ชวนให้ใจเสียจนเพื่อนๆ พากันหัวเราะลั่นก่อนจะพากันเดินเข้าบ้านไป
“แม่จัดห้องให้ตามที่เด็กๆ ขอแล้วนะ เซกับเจด้า ชายน์กับเดวี่ ส่วนมาร์ติน นีโอและเชจะอยู่ห้องใหญ่นะ กระเป๋าแม่เด็กๆ ในบ้านเอาขึ้นไปเก็บแล้ว เชิญทานของว่างก่อนแล้วค่อยขึ้นไปพักผ่อนก็ได้ แล้วเดี๋ยวตอนเย็นๆ ท่านเอดิสันจะกลับมานะ พอดีเขามีงานด่วนเลยไม่ได้อยู่รับเด็กๆ” มารีนกล่าวขณะสั่งเด็กๆ ในบ้านให้เอากระเป๋าของเด็กๆ ขึ้นไปเก็บตามห้องที่เธอแจกแจงพร้อมกับเชิญทุกคนเข้ามาทานของว่างในห้องรับรองแขก
“แล้วพี่ริวจะกลับมามั๊ยครับท่านแม่”
“พี่เขาน่าจะกลับพรุ่งนี้บ่ายๆ หนะชายน์ ช่วงนี้ท่านพ่อเรียกตัวพี่เขาเข้าไปช่วยงานในสภาบ่อยๆ หนะ เห็นว่าเรื่องเตรียมงานประจำปีแล้วก็พวกกบฏนั่นแหละ ยังไงแม่ขอตัวก่อนนะเด็กๆ เชิญตามสบายเลย ขาดเหลืออะไรบอกแม่บ้านเขาได้เลยนะ” มารีนกล่าวเรียบๆ พร้อมกับเดินออกไปทิ้งให้เด็กๆ ได้นั่งคุยกันตามสะดวก
“จริงๆ บ้านฉันมีห้องเยอะนะ จะเปลี่ยนใจก็ได้นะ” ชายน์เอ่ยอย่างอารมณ์ดี
“ไม่เอาอ่ะ ฉันไม่อยากนอนคนเดียว” มาร์ตินสวนขึ้นทันที
“ว่าแต่ใครนะให้จับคู่แบบนี้ นายจะสวีทกับเดวี่หรอชายน์ ฮ่าๆๆ” นีโอกล่าวพลางเหลือบมองไปยังชายน์แล้วหัวเราะอย่างอารมณ์ดี เพราะชายน์เป็นคนเอ่ยเองว่าเขาจะอยู่กับเดวี่ แล้วให้ที่เหลือตกลงกันเอง ผลจึงออกมาเป็นแบบนี้
“ใช่ๆๆ พวกนายสองคนนี่ชักจะยังไงๆ แล้วนะ ฉันนึกว่าฉันคิดเองคนเดียว นายก็คิดเหมือนฉันสินะนีโอ” เซฟานี่เอ่ยออกมาพลางหันไปถามนีโอเป็นเชิงขอความเห็นและนีโอก็พยักหน้าหงึกๆ ทันทีจนเซฟานี่และเจด้าหัวเราะคิกคัก
“ส่วนนายนะมาร์ตี้ฉันไม่ถามนายหรอกเพราะนายเป็นคนเอาเรื่องนี้มาฝังหัวฉัน ยังไงนายก็คิดอยู่แล้ว ฮ่าๆๆ” เซฟานี่หันไปหาคู่ปรับที่แลจะเจี๋ยมเจี้ยมขึ้นเยอะหลังจากรู้สถานะของเธอแต่เมื่อเซฟานี่ถามมาร์ตินก็พยักหน้ายิ้มเผล่ทันที จากที่นั่งเฉยๆ จนตอนนี้เพื่อนๆ ต่างพากันรุมแซวทั้งคู่จนเดวี่นั่งไม่ติดแล้ว
“ฉันขอตัวก่อนนะ ปวดหัวนิดหน่อยหน่ะ” กล่าวจบก็ลุกออกไปทันทีแต่เพื่อนๆ ก็รู้ว่าเดวี่แค่ต้องการจะหลบการตอบคำถามเท่านั้นไม่ได้โกรธเคืองแต่อย่างใด
“งั้นพวกนายก็ตามสบายนะ ฉันขอตัวไปง้อเดวี่ก่อน สงสัยจะงอน แล้วเจอกันมื้อเย็นนะ 18.50 น.” กล่าวพร้อมกับวิ่งตามเดวี่ขึ้นห้องไปจนเพื่อนๆ พากันโห่ลั่น
“แต่ก็จริงนะ หลังๆ มานี่เดวี่มันแลจะห่วงชายน์มากทั้งๆ ที่ตอนแรกทำเป็นไม่อยากคุยด้วย” นีโอกล่าว
“แต่ฉันว่าเดวี่แลจะเกรงใจชายน์มากกว่านะ เหมือนเขาเทิดทูนชายน์อ่ะ” มาร์ตินเอ่ยตามที่เขาสังเกต
“ฉันคิดว่าเดวี่เขาจงรักภักดีกับชายน์เหมือนนายกับบ่าวหนะ เพราะเท่าที่ฉันรู้จักหมอนั่นมาเขาจะไม่ยอมให้ใครง่ายๆ แบบนี้” เชกล่าวออกมาบ้างหลังจากที่นั่งฟังอยู่นาน
“แสดงว่านายรู้จักกับเดวี่มาก่อนนะสิ พวกนายเป็นอะไรกันแน่ มีเรื่องอะไรกันก่อนหน้านี้หรือเปล่า?” เซฟานี่ถามในสิ่งที่เธอและเพื่อนๆ สงสัยเช่นกัน
“เอ่อออ คือ ฉัน” เชกำลังอึกอักกับสิ่งที่ตนเองพลาดเปิดประเด็นไป
“ว่ายังไง ระหว่างนายและเดวี่มีปัญหาอะไรกัน”
..................................................................................................................................................................................................
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ