Treasure Of Heart ผจญค้นหาสมบัติแห่งจิตใจ

9.0

เขียนโดย Oujishiro

วันที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2563 เวลา 14.39 น.

  5 บท
  12 วิจารณ์
  6,415 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 8 มีนาคม พ.ศ. 2563 16.43 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) บทที่ 1 ตอนที่ 2 สัมผัสที่รู้อยู่แล้ว

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน

ชายหนุ่มผมสีม่วง มีดวงตาสีดำที่แสดงถึงเสน่ห์อันแรงกล้า เขาผู้นี้มีนามว่า เฮนรี่ กำลังเดินอยูู่ในสวนสาธารณะแห่งหนึ่ง เขามาเดินเล่นเพื่อพักผ่อนหย่อนใจ จนกระทั่งเขาเหลือบไปเห็นกับเด็กสาวคนหนึ่งเข้า เขาจ้องมองเธอห่างๆแล้วมีความรู้สึกแปลกๆต่อเธอ เขาจึงใช้เวทย์สัมผัสจ้องมองไปที่ร่างกายของเธอ ก็พบกับความผิดปกติเข้า

"เด็กผู้หญิงคนนั้น ทำไมถึงใช้เวทย์ปิดบังได้กันละเนี่ย? ปิดบังตัวตนได้ซะแนบเนียนขนาดนั้น แสดงว่าต้องฝึกนานพอสมควรนะเนี่ย?"

"ทั้งๆที่คนในโลกแห่งความจริง ใช้เวทมนตร์ไม่เป็นสักคนนี่หน่า?"

"แถมตัวตนที่เด็กผู้หญิงคนนั้นปิดบังเอาไว้ มีพลังแห่งหิมะคลุมทับไว้อยู่"

"ตัวตนที่เด็กคนนั้นปิดบังอยู่ก็คือ ทสึกิอาคาริ ยูคิ"

"เดี๋ยวนะ!! ทสึกิอาคาริ ยูคิ... จำได้ละ"

"เป็นน้องสาวของคริส และ ซีคที่หนังสือพิมพ์เขียนบอกว่าตายไปตอนเรนเกิดนี่เอง"

"แต่... ทำไมต้องปิดบังตัวตนกันแบบนี้ล่ะ?"

"โอเค เข้าไปถามเลยดีกว่า"

ว่าแล้วเขาจึงก้าวเท้าเดินไปหาเธอ ตอนนี้เธอก็นั่งอยู่ที่ม้านั่ง เขาจึงทำท่าทีเดินไปๆมาๆระหว่างบริเวณนั้น แล้วค่อยไปทักทายเธอด้วยความสุภาพ

 

 

"สวัสดีครับ ฮิทสึจิจัง" เฮนรี่ยิ้มแบบสุภาพให้แก่เธอ เขาจึงนั่งลงก่อนที่จะทักทายเธอ เธอตกใจเล็กน้อยที่เขารู้ชื่อของเธอ

"คะ... คุณเฮนรี่ ที่เป็นดาราชื่อดังนี่หน่า มีอะไรหรอคะ?" ฮิทสึจิถามอีกฝ่ายด้วยสีหน้าสงสัย

"ขออนุญาตถามตรงๆแบบไม่อ้อมเลยนะครับ เธอคือยูคิใช่ไหม?" เฮนรี่มองหน้าเธอด้วยรอยยิ้มอ่อนๆ ทำให้อีกฝ่ายเริ่มเงียบไปชั่วขณะ

 

 

"....."

".............."

"อะ... เอ่อ..."

"ลังเลที่จะตอบสินะ?"

 

"ใช่แล้วแหละ... ฉันคือยูคิเอง แต่ว่าช่วยเก็บเอาไว้เป็นความลับด้วยด้วยนะคะ~ ได้ไหมคะ?" เธอส่งสายตาอ้อนวอนให้กับอีกฝ่าย ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกอึดอัดใจนิดๆ

"ได้แน่นอน แต่ว่า เธอไปเรียนเวทย์ปิดบังมาจากใครกันละเนี่ย? ปกติคนที่ใช้เวทย์ปิดบังเพื่อปิดบังตัวตนได้เนียนๆแบบนั้นเนี่ย มันยากนะ" อีกฝ่ายตอบรับคำขอของเธอ พลางถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนที่จะถาม

 

"เรียนมาจากคุณรีเฟนค่ะ พ่อของคุณอีวานและคุณเฮนรี่เองแหละ"

"ห๊ะ!! เธอไปเรียนเวทย์ปิดบังจากพ่อของฉันหรอ!! แล้วไปเรียนตอนไหน?"

"อื้ม ก็ไปเรียนตอนที่มีอายุประมาณ 4 - 5 ขวบน่ะ ตอนแรกก็ไม่นึกว่าจะได้มาเมืองนรกหรอกนะคะ"

"แล้วตอนที่ข่าวประกาศบอกว่าเธอตายตอนเรนเกิด ไม่จริงใช่ไหม? แล้วตอนนั้นยังไม่ตายหรอ?"

"เปล่าหรอก คุณอลันเล่าว่า ตอนนั้นที่ฉันเกิดมา พายุหิมะมันยังโหมกระหน่ำอย่างต่อเนื่องอยู่ ตัวฉันที่เบามากๆ ก็ปลิวไปพร้อมพายุหิมะน่ะ แล้วตอนที่ปลิวอยู่ หิมะก็คลุมตัวฉันเป็นลูกบอลแล้วลอยไปที่ไหนก็ไม่รู้น่ะ จนมารู้ตัวอีกทีฉันก็ถูกเลี้ยงดูโดยคุณอลันไปซะแล้ว"

"แล้วที่ใช้เวทย์ปิดบังตัวตนเนี่ย... เป็นเพราะอะไร?"

"กลัวว่าตอนฉันโต พอกลับไปที่นั่น ทุกคนก็จะช็อคและตกใจจนทำอะไรไม่ถูกน่ะ แบบไปตามหาจอมเวทย์นักบุญมาไล่วิญญาณให้ไปเกิดใหม่ หรือ ไล่ให้ไปไกลๆแล้วไม่ต้องมาก่อกวนชีวิตคนอื่นๆแบบวิญญาณร้ายอะไรแบบนี้น่ะ"

"อ่อ สรุปคือตั้งแต่ที่เธอหายตัวไปแล้ว ทุกคนที่นั่นก็เข้าใจว่าเธอตายไปแล้ว เพราะข่าวเขียนมาแบบนั้น ก็เลยไม่อยากจะกลับไปโผล่หน้าโผล่ตัวให้คนตกใจช็อคจนปั่นป่วนไปทั่วทั้งโลก ก็เลยใช้เวทย์ปิดบังตัวตน แล้วใช้ชีวิตอยู่ด้วยตัวตนของฮิทสึจิมาตั้งแต่นั้นมาสินะ... เข้าใจถูกไหม?"

"ถูกต้องหมดเลย"

"คนเขาไม่ได้จิตอ่อนถึงขั้นที่จะเป็นแบบที่เธอพูดทุกคนหรอกนะคร้าบบบ คิดว่าถ้าเธอโผล่หน้าที่โลกนั้น ทุกคนคงดีใจกันหมดทั้งโลกเลยแหละ มันจะไม่เป็นไปตามที่เธอคิดแน่ๆ"

"ก็จริงนะ ป่านนี้คนเขาคงลืมไปหมดแล้วมั้งนะ"

"ฉันมาถามเธอแค่นี้แหละ ฉันก็หวังว่าจะได้เจอเธออีกครั้งในอนาคตอันใกล้นี้นะ ไปละ"

"........ อืม ไว้เจอกันนะ"

 

ตัดกลับมาที่ช่วงเวลาในปัจจุบัน

หลังจากที่เวลาผ่านไปได้ 15 นาที อีวาน เฮนรี่ จิน และ เรนทั้งสี่คนกำลังอยู่บนที่นั่งโดยสารอยู่ตั้งอยู่ด้านในสุดของรถไฟ เรน เด็กหนุ่มที่ขึ้นชื่อว่า เป็นเด็กหนุ่มที่หลับได้ทุกที่ทุกท่วงท่า ก็กำลังหลับอย่างสบายพร้อมท่าแปลกๆอยู่บนเก้าอี้อีกฝั่งที่มีอีวานนั่งข้างๆ

"คร่อก.... คร่อก...."

 

"นี่อีวาน ปกติเรนจะหลับด้วยท่าแปลกๆเป็นประจำเลยหรอ? เหวอ!!" เมื่อจินถามอีวานจนจบประโยค เรนก็ละเมอเหวี่ยงเท้าใส่จินโดยไม่รู้สึกตัว

 

 

'ท่านอนแต่ละท่าแม่งน่ากลัวชิบ ท่าสะพานโค้งก็มาแล้ว ท่าโยคะก็มาแล้ว คราวนี้ท่าพับเพียบแบบนอนหงายเรอะ? ทำไมอีวาน กับ เฮนรี่ถึงทำตัวเป็นปกติอย่างกับรู้เห็นมาอยู่แล้วง่ะ?'

 

 

"ไม่นะ เป็นบางครั้ง" อีวานส่ายหัวไปๆมาๆก่อนที่จะตอบออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบๆ

 

 

'ไม่น่าใช่บางครั้งแล้วมั้ง? ปกติดีก็เชี่ยแล้วอ่ะ....'

 

 

"ขณะนี้รถไฟสายพิเศษ 1 ใกล้จะถึงอาณาจักรแห่งจิตใจแล้วค่ะ คนที่จะลงที่นี่ กรุณาเก็บสัมภาระให้เรียบร้อยก่อนลงด้วยค่ะ ขอบคุณค่ะ"

 

 

ที่พระราชวังแห่งจิตใจ

ทุกๆคนกำลังตามหาตัวอควาดิเอลอยู่ด้วยความวุ่นวาย แต่ก็ไม่เจอเขา เพราะ เขาเดินออกไปที่ไหนสักแห่งในอาณาจักรก่อนรุ่งเช้าแล้ว

 

ย้อนกลับไปที่เวลา... 4 : 00 นาฬิกาของช่วงเช้า

ที่โลกแห่งเวทมนตร์

ข้อความบทสทนาผ่านคำพูดจากในลูกแก้ว

[เจ๊ครับ.... เจ๊ครับ!!!!!]

 

"กรี๊ดดด!! ใครบังอาจกล้าเรียกฉันตอนที่นอนอยู่ยะ!! ใครกัน!! ปีศาจหรือเปล่า!! หรือ ซาตานมารเลวชั่ว!!" ยูโกะสะดุ้งตื่น

 

 

[เอิ่ม.........]

[เจ๊ลองมองหาลูกแก้วสิคร้าบบ ผมคุยกับเจ๊ผ่านลูกแก้วอยู่นะ!!]

 

 

ยูโกะได้แต่ทำสีหน้างุนงงพร้อมอาการสะลึมสะลือ และ งัวเงียร่วมด้วย ว่าแล้วเธอก็หาลูกแก้วเจอ แล้วเธอก็พยายามตั้งสติเพื่อคุยกับอีกฝ่ายที่ติดต่อผ่านลูกแก้ว

 

 

[เอ่อ.... นายท่านเจ้าคะ นายท่านมีอะไรเจ้าคะ? ถึงได้ติดต่อมาหาอิชั้นตอนตี 4 นี่... เกิดอะไรขึ้นคะ?]

[ช่วยสร้างฉันเป็นแบบภาพลวงตาให้หน่อยสิ แบบตัวปลอมอยู่ในกิลด์ ทำให้ทุกคนเห็นเป็นตัวจริงหมด ส่วนฉันจะไปสถานีรถไฟ แล้วทำให้ทุกคนเห็นฉันตัวจริงเป็นภาพลวงตาที่เหมือนอากาศ แล้วทำให้คนที่จะมาที่โลกนี้ด้วยขบวนรถไฟ เห็นฉันเป็นตัวจริงให้หน่อย]

 

'อิหยังวะ... นายท่านจะไปสถานีรถไฟ? แล้วไปทำไม? ไปเพื่ออะไร? ใครจะมา? อิชั้นงงมากค่ะแม่...'

'อิชั้นจะมาเอ๋อรับประทานไม่ได้ ลูกแก้วทำนายก็มีทำไมอิชั้นไม่ใช้วะ? อิชั้นงงมากค่ะแม่...'

'ละอิชั้นจะมางงทำเพื่ออะไรเนี่ย!! บ้าที่สุด!!'

 

[!!! ค่ะๆ]

[เจ๊ ขออีกอย่างได้ไหม?]

[อะไรเจ้าคะ? นายท่าน]

[เรนจะมาที่โลกนี้ ฉันอยากจะให้ใครสักคนพาเรนนำเที่ยวในอาณาจักรนี้ซักหน่อยน่ะ]

[อะไรนะคะ? เรนจะมาที่โลกนี้หรอคะ?]

[ใช่ เรนจะมาที่โลกนี้]

[เดี๋ยวก่อนนะคะ เรนจะมาที่โลกเวทมนตร์ โลกที่ๆพวกเราอาศัยอยู่ มาได้ยังไงคะ? เรนรู้วิธีไปที่โลกนี้ด้วยหรอคะ?]

[ถ้าเจ๊อยากรู้ เจ๊ลองใช้ลูกแก้วทำนายของเจ๊ค้นหาดูสิ เจ๊สามารถใช้ลูกแก้วส่องเรื่องราว การกระทำ หรือ แม้กระทั่งภาพในความฝันคนอื่นได้นี่หน่า แค่นี้นะครับ... ถึงเวลาที่ต้องไปละ]

ว่าแล้วอควาดิเอลก็ตัดสายสนทนาไป ทำให้ยูโกะต้องใช้ลูกแก้วขนาดใหญ่ที่เธอกำลังใช้อยู่เพื่อส่องเรื่องราว การกระทำ และ ทุกๆอย่างที่เกี่ยวกับเรนโดยทันที

 

10 นาทีผ่านไป...

"เรื่องราวก็ไม่ได้แสดงออกถึงความคิดที่อยากจะไปจะมาที่โลกนี้นี่หน่า... ลองไปส่องภาพในความฝันของเรนดูดีกว่า เผื่อจะเจออะไรที่อยากรู้บ้าง" ยูโกะได้แต่นั่งมองภาพที่ปรากฏออกมาจากลูกแก้วด้วยสีหน้าจริงจัง

 

5 นาทีผ่านไป...

ยูโกะเลื่อนภาพไปๆมาๆจนกระทั่งถึงภาพที่เรนเจอยูคิในความฝัน แต่ทว่า... ภาพในความฝันของเรน ที่ได้เจอกับยูคิเป็นภาพสีดำสนิท มีแค่ขอบเส้นๆที่คล้ายกับภาพวาดที่ยังไม่ได้ลงสีที่แสดงออกมาจากในรูป

"!!!! เห้ย!! เป็นไปได้ยังไง!! ภาพดำๆของเรนที่ปรากฏในลูกแก้วฉันมีเวทย์ปิดบังของใครบางคนลงเวทย์ปิดบังเอาไว้อยู่!!"

 

ปึง!!

 

"ยูโกะ... เกิดอะไรขึ้น!! เสียงดังมานานแล้วนะ!! เธอเป็นบ้าอะไรของเธอ!!" เวียร์เปิดประตูเข้าไปหาเธอด้วยความตกใจ

"เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังทีหลัง... แต่ช่วยแก้ภาพดำๆทั้งหมดนี่ที่มาจากลูกแก้วของฉันได้ไหม?" ยูโกะขอร้องอีกฝ่ายด้วยสีหน้าช็อคๆ

"ได้ๆ" ว่าแล้วเวียร์ก็พยักหน้าให้อีกฝ่ายด้วยสีหน้าเรียบๆ

 

'!!! เวทย์ปิดบัง... ทำไมมันแรงขนาดนี้ล่ะ? แต่ตอนนี้ขอแก้ไขรูปดำๆนี่ให้เป็นปกติก่อนก็แล้วกัน'

 

ว่าแล้วเขาก็แก้รูปภาพสีดำขลับให้ยูโกะได้สำเร็จ จนในตอนนี้เขาก็มีความอยากรู้อยากเห็นเหมือนกับยูโกะมากๆ ว่าแล้วยูโกะก็เลื่อนภาพให้ดู จนกระทั่ง...

 

"หยุดก่อนๆ เดี๋ยวนะ... เธอเห็นเหมือนกันใช่ไหม? สาบานว่าพวกเราทั้งสองคนไม่ได้ตาฝาดแน่นะ?" เวียร์ถามเธอด้วยด้วยความตกใจขั้นสุด

"เห็น... แล้วพวกเราทั้งสองคนก็ไม่ได้ตาฝาดด้วย..." ยูโกะพยายามตั้งสติให้ได้มากที่สุดก่อนที่จะตอบคำถามของอีกฝ่าย

"เรน กับ ยูคิ" เวียร์พูดชื่อของทั้งสองคนออกมา

"ใช่หรอ? ยูคิตายไปตั้งแต่ตอนที่เรนเกิดแล้วนี่!! ฉันยังจำข่าวนั้นได้จนขึ้นสมองของฉันเลยนะ!!" ยูโกะถามอีกฝ่ายด้วยสีหน้าซีดๆ

 

"...... ลองคิดกลับกันดูนะ ยูโกะ ในกรณีที่เป็นข่าวปลอม ให้สมมติว่ายูคิยังมีชีวิตอยู่ จากนี้ไปคือสิ่งที่ฉันจะให้เธอคิด ช่วยฟังดีๆแล้วคิดตามฉันนะ...."

 

"ถ้ายูคิตายไปตั้งแต่ตอนนั้นจริงๆอ่ะ ตอนนี้ยูคิมีพลังเวทย์ที่ปิดบังแบบโคตรจะสูง แล้วก็นะ... เวทย์ปิดบังจะแรงกว่าชาวบ้านชาวช่องได้ยังไง ถ้าไม่ได้ไปฝึกกับผู้ใช้เวทย์ปิดบังระดับสูง จริงไหม? แล้วก็ น้องเค้าคงไม่มายืนสลอนแบบสวยๆอึ๋มๆเพื่อมาคุยกับเรนในความฝันอยู่ที่เกาะฤดูหนาวกันสองต่อสองหรอกมั้ง?" เวียร์อธิบายให้อีกฝ่ายได้คิดตามเขา และ อีกฝ่ายก็กำลังคิดตามเขาอยู่จริงๆ

 

'เออว่ะ ก็ถูกของเวียร์'

'จะว่าไป เวียร์ก็เป็นผู้ใช้เวทย์ปิดบังระดับสูงนี่...'

 

"เวียร์ ฉันมีเรื่องจะถามหน่อย" ยูโกะสะกิดถามเวียร์ด้วยสีหน้าสงสัย

"ถามมาเลย..." เวียร์หันหางตาไปหาเธอก่อนที่จะพูดออกมา

"แกเป็นผู้ใช้เวทย์ปิดบังระดับสูงใช่ไหม? ฉันคิดว่าบางทีแกอาจจะฝึกเวทย์ปิดบังให้กับยูคิ แล้วพอยูคิไปแกก็ปิดบังเป็นความลับอะไรงี้" ยูโกะถามอีกฝ่ายพลางสาธยายความคิดของเธอในตอนนี้ให้อีกฝ่ายฟัง

"อ่าว... อีนี่ เธอก็รู้เกี่ยวกับตัวฉันมากพอนี่ จะมาถามมาพูดแบบนี้ทำเพื่ออะไร!! อีกอย่าง เธอโชว์โง่ตั้งแต่เช้ามืดเลยนะ!! ลูกแก้วก็มี ทำไมไม่ใช้ส่องละห๊ะ!!" เวียร์ตอกกลับอีกฝ่ายด้วยความเกรี้ยวกราด

 

".............."

 

"จะว่าไปแล้ว ตระกูลของยูคิ กับ ตระกูลนักบุญที่แกเกิดนี่ เป็นตระกูลในสายเลือดเดียวกันนี่ อยากรู้มานานละ เล่าให้ฟังหน่อย" ยูโกะถามเวียร์ด้วยความสงสัย

 

"ใช่แล้ว ตั้งแต่ที่ท่านปู่ทวดที่เป็นทูตสวรรค์ในตำนาน กับ ท่านย่าทวดที่เป็นแค่แม่ชีธรรมดาๆคนนึง ได้แต่งงานกัน ก็กำเนิดลูกแฝดสองคน คนนึงเป็นแค่ผู้ชายธรรมดา คนนึงเป็นทูตสวรรค์หนุ่มนักบุญ พอถึงเวลาที่ทั้งสองคนนั้นแต่งงานกัน คนที่เป็นชายหนุ่มธรรมดาก็แต่งงานกับราชินีแห่งเกาะฤดูหนาวคนที่ 3 ส่วนคนที่เป็นทูตสวรรค์ก็แต่งงานกับทูตสวรรค์ที่เป็นนักบุญด้วยกันเอง"

"แล้วไงต่อ?"

"หลังจากนั้น ก็กลายเป็นว่า มีสองตระกูลที่มาจากสายเลือดเดียวกัน ก็คือ ตระกูลแห่งเหมันต์ที่ยูคิเกิดมา และก็ ตระกูลแห่งทูตสวรรค์นักบุญที่ฉันกับเฟียธเกิดมา จนตอนนี้ก็เป็นญาติกันนั่นแหละ"

"งั้นแสดงว่า.."

"หืม? เธอกำลังจะพูดอะไร?"

"แกกับยูคิก็รู้จักกันน่ะสิ?"

"ควรบอกว่าเห็นจะดีกว่า ตอนที่ยูคิเกิดออกมาอ่ะ ฉันคือคนแรกที่ยูคิเห็นน่ะ หลังจากนั้นตอนดึกๆ ยูคิหายตัวไป ก็เลยเป็นข่าวเนี่ยแหละ"

 

"ลืมบอกไป สิ่งที่เธอจะเล่าให้ฉันน่ะ ไม่ต้องเล่าให้ฟังแล้ว ฉันรู้แล้วละ ฉันสัมผัสเธอแล้ว" เวียร์หลับตาลงก่อนที่จะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

 

'เดี๋ยวนะ? หมายถึงอะไรอ่ะ... แกไปสัมผัสอะไรอิช๊านนนนน!!'

 

"เมื่อกี้นี้.... แกสัมผัสความคิดกับเรื่องราวของของฉันหรอ?" เธอถามแบบกระชากเสียงเบาๆ

"อืม... ประมาณนั้น" เขาพยักหน้าให้อีกฝ่าย

 

ตัดกลับมาในเวลาปัจจุบัน

ทั้ง 4 คนมาถึงที่สถานีรถไฟโดยสวัสดิภาพ ทั้ง 4 คนก็ไม่รู้เลยว่าจะมีใครสักคนในสถานีรถไฟที่รอคอยการมาของเรนอยู่

 

"แหม่... กว่าจะมาได้นะ ฉันนี่นั่งเปื่อยนอนเปื่อยอยู่ที่นี่เป็นชั่วโมงเลย..." เสียงของใครบางคนค่อยๆดังขึ้น จนกระทั่ง...

 

ทั้งสามคนถึงกับต้องคุกเข่าลงต่อหน้าอีกฝ่ายที่เดินมา เรนถึงกับยืนงงเป็นไก่ตาแตกเมื่อเห็นทั้งสามคนคุกเข่าลง

 

"คุณเป็นใครน่ะ? แมวหรอ? ทั้งสามคนถึงได้คุกเข่าลงเหมือนคนที่กำลังเล่นกับแมวอยู่อ่ะครับ..." เรนถามอีกฝ่ายด้วยความงุนงง

 

ความคิดของทั้งสี่คน

อีวาน = 'เรน!! นั่นพี่ชายของเรนเลยนะเห้ย!! พูดให้มันดีๆหน่อยสิคร้าบบบบ!!'

เฮนรี่ = 'เดี๋ยวสิ... เรน!! หนูจะเอาไปเปรียบเทียบกับทาสแมวไม่ได้นะลูก!!'

จิน = 'เจ้าบ้า!! อย่ามาพูดจาสามหาวต่อหน้าท่านอควาดิเอลสิเห้ย!! เดี๋ยวได้โดนตัดคอตายหรอก!!'

อควาดิเอล = 'เรน... ตรูไม่ใช่แมวนะเฟ้ย!! อย่าถามแบบนี้เซ่!!'

 

"เรน ถ้ายังจำความฝันครั้งล่าสุดได้ นึกให้ออกสิ มีคนบอกไปแล้วนี่" อควาดิเอลหลับตาตอบอย่างอ่อนโยน

"อ๊ะ!! งั้นคุณก็คือ?" เรนถามคำถามสั้นๆออกมา

"คือ?" ทั้งสามคนถึงกับสงสัยในคำถามของเจ้าตัวไปพร้อมๆกัน

 

"พี่ชายของผมละสิน้~าาาาาาาาาาาา!!" ว่าแล้วเรนก็กระโดดกอดอีกฝ่าย

"อ่าห้ะ ใช่แล้วแหละ" อควาดิเอลอุ้มร่างอีกฝ่ายที่กระโดดกอดอย่างอ่อนโยน

 

ข้างบนบ้านของเวียร์

เวียร์กำลังยืนอยู่ที่หน้าต่างใกล้ๆระเบียง แน่นอนว่าระเบียงและหน้าต่างที่อยู่ใกล้ๆเขา เขาจึงสามารถมองตรงไปยังสถานีรถไฟได้ เพราะบ้านของเขาตั้งอยู่หลังสถานีรถไฟ และ เส้นทางจากบ้านของเขาไปยังสถานีรถไฟ เป็นทางลาดชัน เขาจึงสามารถมองได้จากมุมสูง

"หือ!!!? นั่นเรนหรือเปล่า?"

"เรนมาได้ยังไงเนี่ย!!"

"บ้าไปแล้ว... ฉันต้องตาฝาดแน่ๆ"

"มันเป็นไปได้ยังง๊ายยยยยยยยยย!!"

 

โปรดติดตามตอนต่อไป....

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา