DARKSTORY เรื่องนี้มีแต่คนโฉด
-
เขียนโดย หัวใจวาย
วันที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 เวลา 17.12 น.
11 ตอน
3 วิจารณ์
10.27K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 17.14 น. โดย เจ้าของนิยาย
4) กำเนิดนักสู้-เหตุการณ์ในกระโจม
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
สองบุรุษที่นับถือกันเป็นศิษย์-อาจารย์ออกเดินทางแต่เช้าตรู่ไปตามถนนดินแข็ง ผ่านหมู่บ้านกรรมกรที่สองและสี่ก่อนจะตรงเข้าสู่ถนนอีกสายที่กว้างขึ้น จุดหมายปลายทางของทั้งสองคือขอบกำแพงอีกฝั่งของหมู่บ้าน ที่นั่นมีลานประลอง มันถูกสร้างติดกับย่านการค้าของแคว้นเพื่อให้เหล่าพ่อค้า เศรษฐี นักเดินทางชาวต่างชาติไปมาหาสู่ได้ง่าย
แม้จะบอกว่ามันคือขอบกำแพงอีกฝั่งของหมู่บ้าน แต่มันก็ไกลจนเหงื่อไหลริน กว่าหลิวลู่จะมาถึงก็เป็นช่วงสายที่การจัดคู่แข่งขันจบลงเสียแล้ว ภายในลานประลองมีเสียงโห่ร้องดังลั่น
“นี่ข้าคิดว่าข้ามาไวแล้วนะ”
“ดีแล้วท่านอาจับ ข้ายังไม่พร้อม” หลิวลู่เอ่ยด้วยเสียงนิ่ง “ข้ายังไม่มีกระบี่เลย”
“อา! ใช่” จับโปกควงตอบ “ถ้าเช่นนั้น เราคงต้องไปเดินดูในย่านร้านค้าสักหน่อย หวังว่าจะมีกระบี่ราคาถูกให้เจ้าใช้”
“ข้าก็หวังเช่นนั้น” หลิวลู่ตอบรับเสียงแผ่ว ในใจของชายหนุ่มหวนนึกถึงผู้ใหญ่บ้านควบเหนือเต้าอึ๋มขึ้นมา เขารับปากว่าจะช่วยก็จริง แต่หลิวลู่ยังไม่มีกระบี่เลยสักเล่ม
“เจ้าหนุ่ม! เจ้าคือก้านหลิวลู่ไหวใช่หรือไม่?” เสียงดังกังวานจากบุรุษร่างใหญ่หนวดเครารกที่นั่งอยู่ในกระโจมใกล้กระโจมบัญชีรายชื่อนักสู้ เขาแต่งกายเหมือนเจ้าหน้าที่แต่แลดูมีตำแหน่งสูงกว่า
“ใช่”
“ถ้าเช่นนั้นก็ตามข้ามา”
บุรุษร่างใหญ่ลุกขึ้นยืนเต็มร่างและส่งสายตาถมึงทึงกลับมา หลิวลู่จึงลอบสบตากับจับโปกควงก่อนจะตัดสินใจเดินตรงไปที่กระโจมนั้น
เมื่อหลิวลู่ลอดผ่านกระโจมเข้ามา มังกรหนุ่มก็พบว่าด้านหลังคืออาคารไม้ที่แบ่งเป็นห้องเล็กๆ ห้องแรกมีเอกสารมากมายม้วนซุกไว้ในหิ้งไม้ที่แปะเต็มผนัง
หลิวลู่เดินตามบุรุษร่างใหญ่ไปอีกทางหนึ่งที่มีแพรม่านกางกั้น ด้านในคือห้องเล็กอีกห้องที่คล้ายกับใช้พักผ่อน แต่บนตั่งเตี้ยที่ยาวราวสี่สิบชุ่นกลับมีอาวุธหลายอย่างวางเรียงอยู่
“ควบเหนือเต้าอึ๋มแนะนำชื่อของเจ้าไว้ เขาอยากให้เจ้าได้ประลองสักครั้ง ข้าเองก็ไม่ติดขัดอะไร เพราะที่นี่ก็ฝากฝังนักสุ้เข้ามาประลองกันอยู่เป็นประจำ” บุรุษร่างใหญ่เอ่ยและปล่อยให้หลิวลู่เดินตรงไปที่ตั่งเตี้ยที่วางอาวุธ
“ท่านอาควบบอกท่านไว้อย่างนั้นรึ? ถ้าเช่นนั้นข้าก็คงได้เข้าประลองในไม่ช้า!” หลิวลู่เอ่ยในขณะมองอาวุธบนตั่ง มังกรหนุ่มต้องฝืนกลืนน้ำลายลงคอเมื่อบุรุษร่างใหญ่ดันร่างเข้าประกบแนบด้านหลังและส่งสองฝ่ามือหยาบเข้าคว้าจับสะโพกไว้แน่นหนา
“เจ้าอายุเท่าไร”
“ยะ—ยี่สิบหก”
“ข้าได้ยินว่าเจ้าแต่งงานแล้ว แต่เมียของเจ้าไม่ได้อยู่ด้วย”
“ใช่”
“รูปร่างกำยำสมวัย” บุรุษร่างใหญ่เอ่ยในขณะขยุ้มนิ้วมือลงบนร่างกายของหลิวลู่ ตั้งแต่สะโพกขึ้นมาที่หน้าท้องและหน้าอกแน่น “ข้าไม่แปลกใจเลยที่ควบเหนือเต้าอึ๋มจะพอใจเจ้านัก”
“ท่านหมะ—หมายถึงเรื่องอะไร?”
หลิวลู่เอ่ยถาม แต่คางของมังกรหนุ่มก็ถูกมือใหญ่คว้าจับเชิดขึ้น นิ้วโป้งของบุรุษร่างใหญ่ลากไลไปบนริมฝีปากของมังกรหนุ่มอย่างแผ่วเบา แต่ดวงตาของเขาที่จับจ้องหลิวลู่แข็งกร้าวและดุดัน
“เจ้าจะได้เข้าประลองแน่—” มือหนาใหญ่อีกข้างวาดมาที่หน้าท้องของหลิวลู่และเกี่ยวปมกางเกงผ้าเอาไว้ “--แต่จะเป็นเมื่อไรนั้นขึ้นอยู่กับข้าตัดสินใจ”
“ท่าน—!” หลิวลู่ มังกรหนุ่มตกในลนลาน เขาส่งมือไปกุมมือหนาของบุรุษแปลกหน้าเอาไว้ แต่มันก็ไม่ทันการณ์ ปมผ้าถูกตะหวัดหลุดออกติดมือของบุรุษร่างหนาไปอย่างง่ายดาย “—หยะ—หยุดเดี๋ยวนี้!”
หลิวลู่ใช้ปลายเท้าตะหวัดกระบี่เล่มยาวที่วางอยู่บนตั่งให้ลอยขึ้น มังกรหนุ่มส่งมือไปรับกระบี่โดยไม่สนใจร่างกายเปลือยเปล่าที่เผยออกมา เขาหมุนตัวและจ่อปลายฝักกระบี่ลงที่คอหอยของฝ่ายตรงข้ามทันที
แต่บุรุษร่างใหญ่หาได้หวั่นเกรงไม่ เขาปรายตามองฝักกระบี่เพียงวูบเดียว รอยยิ้มหยันปรากฏขึ้นมาพร้อมใช้หลังมือซ้ายตีซัดปลายปลอกกระบี่ออกห่างและทะยานเข้าหาร่างมังกรหนุ่มอีกครั้ง
ฝ่ามือซ้ายของบุรุษร่างใหญ่หมายพุ่งเข้าคว้าจับที่คอของมังกรหนุ่ม แต่หลิวลู่ก็หลบฉากออกด้านข้างและใช้ฝักกระบี่ตีเข้าที่ข้อมือ ยังผลให้ฝ่ามือใหญ่นั้นหยุกกึกราวเป็นอัมพาต แต่ทิศทางที่หลิวลู่หลบไปนั้นก็ถูกเข่าพุ่งมาขวางจนร่างชะงักงัน มือขวาที่แข็งแรงของบุรุษร่างใหญ่จึงคว้าจับลงบนกระหม่อมของมังกรหนุ่มได้อย่างง่ายดาย
“ว่องไวดี แต่การโต้ตอบของเจ้าช่างไร้คม!” บุรุษร่างใหญ่ก้มลงกระซิบข้างหูหลิวลู่ก่อนจะกดริมฝีปากลงทับริมฝีปากของมังกรหนุ่ม ลิ้นหนากระหายยื่นยาวออกมาตะหวัดเลียและดุนหมายให้หลิวลู่อ้ารับ มือซ้ายหยาบกร้านลากลงต่ำมาตามหน้าท้องสู่หว่างขาของมังกรหนุ่ม ปลายนิ้วกดเน้นลงบนกลุ่มขนรกดำ หลิวลู่ถูกกระตุ้นอย่างง่ายดายแม้จะรู้สึกพรั่นพรึง ท่อนเนื้อแข็งขันขึ้นอย่างรวดเร็วอยู่ในมือหยาบกร้าน “แข็งแรงดีมากเจ้าหนุ่ม”
“หยะ—หยุดนะ!”
“อย่าขัดขืนเลยน่า เจ้าสู้ข้าไม่ได้หรอก”
วงแขนของบุรุษร่างใหญ่ช่างแกร่งนัก ไม่ว่าหลิวลู่จะดิ้นรนอย่างไรก็ไม่อาจทอนพลังของกล้ามแขนใหญ่โตนี้ได้เลย ในที่สุดหลิวลู่ที่ถูกมือหยาบกร้านปรนปรอก็หมดทางสู้ ความพรั่นพรึงยังคงเกาะกุมจิตใจ แต่กระนั้นมังกรหนุ่มก็พบความรู้สึกประหลาดล้ำ หลิวลู่เบียดร่างเข้าหาและใช้ฝ่ามือดึงรั้งเสื้อของบุรุษร่างใหญ่จนร่างของทั้งสองเบีบดแนบ มังกรหนุ่มอ้าปากส่งลิ้นออกมารับลิ้นยาวกระหายและฉกลิ้นไล่ตามจนริมฝีปากชุ่มโชก แต่ก่อนที่หลิวลู่จะไล่ทัน คางของมังกรหนุ่มก็ถูกคว้าจับอีกครั้ง
“เจ้าพึงพอใจรสจูบของข้าแล้วใช่ไหม?”
“ข้า! อือออ ข้ารู้สึก—!”
ใบหน้าและน้ำเสียงของทาสหนุ่มวัยยี่สิบหกในอ้อมแขนกระตุ้นให้บุรุษร่างใหญ่ดันร่างของหลิวลู่ไปด้านหลังจนแผ่นหลังแนบกับผนังห้อง เขาดันร่างของมังกรหนุ่มไว้เช่นนั้นในขณะที่ยกขาทั้งสองของมังกรหนุ่มลอยขึ้น
หลิวลู่รู้สึกตกใจระคนอับอายจนต้องหลบสายตากร้าวเมื่อขาทั้งสองถูกจับยกลอยและแยกกว้าง ท่าทางนี้ทำให้บุรุษร่างใหญ่สามารถอัดเบียดสะโพกหน้าเข้ามาโดยง่าย ความรู้สึกประหลาดแล่นเข้าจู่โจมหลิวลู่อีกครั้งพร้อมความซ่านกระสัน ท่อนยาวเงาวาวของหลิวลู่โยกไหวอยู่ในกลุ่มขนดกดำ มันกระตุกเกร็งทุกครั้งที่ถูกเครื่องเพศแข็งอวบในกางเกงของบุรุษร่างใหญ่ดุนดันไปตามร่องตูด มังกรหนุ่มเผลอบิดกายหนีเป็นพัลวัน
“หยะ—หยุดเถอะ! ข้าไม่—!” หลิวลู่ร้องสั่ง บุรุษร่างหน้าจ้องกลับราวกับจะเข่นฆ่า หากแต่สะโพกหนากลับโยกพริ้วเป็นจังหวะเนิบช้าคลอไปกับเสียงครางกระเส่าที่มังกรหนุ่มไม่อาจเก็บกั้นไว้ “อื๊อ! ข้า! อือ อะ อ๊ะ! อืมมมมมม!”
“เจ้าไม่อยากประลองรึ?” บุรุษร่างใหญ่เอ่ยถาม รอยยิ้มเหยียดอยู่ใต้เครารกแข็ง เขาตะหวัดลิ้นอย่างกระหายในขณะที่เลื่อนนิ้วหยาบแกร่งตรงไปหาร่องตูดของทาสหนุ่ม
“ฮ้า! ทะ—ท่าน!”
หลิวลู่ส่งเสียงพลางกดใบหน้าลงต่ำ มังกรหนุ่มต้องขยับกายหนีปลายนิ้วแข็งที่บดคลึงช่องทางสกปรก แต่ร่างกายที่ถูกยกลอยไม่มีที่ทางให้ขยับหนีมากนัก ยามนี้มังกรหนุ่มจึงอยู่ในท่าทางอันตรายยิ่ง
เหตุการณ์คับขันถึงขีดสุดเมื่อนิ้วหนึ่งของบุรุษร่างใหญ่เริ่มชำแรกเข้าสู่กายมังกรหนุ่ม
“ท่านลำ!”
เสียงเจ้าหน้าคนหนึ่งที่ดังขึ้นที่หน้ากระโจม มันช่วยหยุดการรุกไล่ของบุรุษร่างใหญ่เอาไว้ได้จนใบหน้าคล้ำที่กำลังเหยียดยิ้มนั้นเปลี่ยนเป็นถมึงทึง เขาร้องตอบออกไปด้วยเสียงดังลั่น
“ว่ามา!”
“การประลองจบแล้วขอรับ”
“เป็นไปได้อย่างไร? ยังไม่ทันเที่ยงเลยนี่!” บุรุษร่างใหญ่เอ่ยพร้อมทำหน้าใคร่ครวญ เขาเหลือบมองหลิวลู่ในวงแขนก่อนจะทำเสียงแสดงความไม่พอใจ “เจ้าไปบอกให้พวกนั้นจัดคู่ต่อสู้มารอไว้คนหนึ่ง ข้าจะส่งคู่ประลองไปให้”
“รับทราบขอรับ!”
บุรุษร่างใหญ่แซ่ลำปล่อยร่างของหลิวลู่ออกจากวงแขนแกร่ง ร่างเปลือยของหลิวลู่ยังคงแข็งขันและเปียกเยิ้ม เสียงหอบหายใจหนักยังคงดังอยู่ไม่จางหาย
“เจ้าพร้อมจะเข้าประลองไหม เจ้าหนุ่ม?”
“ขะ—ข้าพร้อม แต่—!” หลิวลู่สำลักพร้อมถอนหายใจ “—ท่านอนุญาตแล้วรึ? ทั้งๆ ที่ข้ายังไม่ได้ทำ—อะไรให้ท่านเลย”
“เจ้ารู้รึว่าข้าอยากให้เจ้าทำอะไร?” เจ้าหน้าที่ลำถามและเหยียดยิ้ม เขาเชยคางรกของหลิวลู่ขึ้นมอง “ถ้าเจ้ารู้เจ้าอาจจะไม่อยากทำก็เป็นได้”
“ข้าสามารถทะ—ทำแบบที่ทำกับท่านอาควบได้”
“เจ้าทำอะไรกับเขาบ้าง?”
“ขะ—ข้าจูบกับท่านอาควบและใช้มือทำให้เขาสุขสม” หลิวลู่เอ่ยตอบอย่างเขินอาย “เขาพึงพอใจมาก”
บุรุษแซ่ลำหัวเราะเสียงดัง เขาส่งมือมาจับตูดของหลิวลู่และขยุ้มบีบ หลังจากนั้นเขาก็ก้มลงกระซิบข้างหูมังกรหนุ่ม
“ควบเหนือเต้าอึ๋มยังขลาดเขลาอยู่ไม่น้อยที่ปล่อยให้เจ้าทำเพียงเท่านั้น” บุรุษแซ่ลำเอ่ย “เขาไม่รู้หรอกว่าบุรุษหนุ่มอย่างเจ้าน่ะมีรสชาดหอมหวานไม่ต่างจากสตรี”
“ท่านกำลังจะบอกข้าว่า ข้าสามารถ—!?”
“ใช่! เจ้าสามารถขึ้นเตียงกับบุรุษด้วยกันและทำรักประหนึ่งผัวเมีย” บุรุษแซ่ลำเอ่ยต่อ รอยยิ้มฉายวาบขึ้นบนใบหน้าคล้ำ “และก็ไม่จำกัดเพียงแค่ ‘สอง’ คน”
“เออะ!” หลิวลู่สะอึก ดวงตาเบิกกว้าง ใบหน้าของมังกรหนุ่มร้อนผ่าวจนรู้สึกได้ ไม่เคยมีสักครั้งที่เขาจะถูกบุรุษด้วยกันชวนพูดคุยเรื่องนี้ “ข้าจะไม่ทำแบบนั้นเด็ดขาด ถึงแม้ว่าข้าอยากจะเข้าประลองแค่ไหน”
“ถ้าเช่นนั้นก็ไปเถอะ รอบของเจ้ามาถึงแล้ว” บุรุษแซ่ลำบอกและผายมือออกราวกับเป็นสัญญาณอนุญาตให้หลิวลู่ออกไปได้
“ขอบคุณท่านมากที่ให้โอกาส” หลิวลู่เอ่ยตอบด้วยความยินดีและยกมือขึ้นคาราวะ ”เอ่อ!—ข้าขอใช้กระบี่ของท่านได้หรือไม่?”
“กระบี่นั้นจะทำให้ผู้อื่นสงสัยถึงที่มาของมัน” บุรุษแซ่ลำตอบ “ไปบอกเจ้าหน้าที่ที่คุมห้องประลอง เขาจะหากระบี่เลวที่เหมาะกับเจ้าให้”
“ได้ ขอบคุณท่านอีกครั้ง”
“แต่หากเจ้าอยากได้กระบี่ที่ดีกว่านั้น—” บุรุษแซ่ลำเอ่ยอีกครั้งในขณะที่หลิวลู่กำลังมัดรวบกางเกง “—เอาชนะการประลองและคว้าอันดับมาให้ได้ ข้าจะพาเจ้าไปเอากระบี่ที่เหมาะกับเจ้าด้วยตนเอง”
สองบุรุษที่นับถือกันเป็นศิษย์-อาจารย์ออกเดินทางแต่เช้าตรู่ไปตามถนนดินแข็ง ผ่านหมู่บ้านกรรมกรที่สองและสี่ก่อนจะตรงเข้าสู่ถนนอีกสายที่กว้างขึ้น จุดหมายปลายทางของทั้งสองคือขอบกำแพงอีกฝั่งของหมู่บ้าน ที่นั่นมีลานประลอง มันถูกสร้างติดกับย่านการค้าของแคว้นเพื่อให้เหล่าพ่อค้า เศรษฐี นักเดินทางชาวต่างชาติไปมาหาสู่ได้ง่าย
แม้จะบอกว่ามันคือขอบกำแพงอีกฝั่งของหมู่บ้าน แต่มันก็ไกลจนเหงื่อไหลริน กว่าหลิวลู่จะมาถึงก็เป็นช่วงสายที่การจัดคู่แข่งขันจบลงเสียแล้ว ภายในลานประลองมีเสียงโห่ร้องดังลั่น
“นี่ข้าคิดว่าข้ามาไวแล้วนะ”
“ดีแล้วท่านอาจับ ข้ายังไม่พร้อม” หลิวลู่เอ่ยด้วยเสียงนิ่ง “ข้ายังไม่มีกระบี่เลย”
“อา! ใช่” จับโปกควงตอบ “ถ้าเช่นนั้น เราคงต้องไปเดินดูในย่านร้านค้าสักหน่อย หวังว่าจะมีกระบี่ราคาถูกให้เจ้าใช้”
“ข้าก็หวังเช่นนั้น” หลิวลู่ตอบรับเสียงแผ่ว ในใจของชายหนุ่มหวนนึกถึงผู้ใหญ่บ้านควบเหนือเต้าอึ๋มขึ้นมา เขารับปากว่าจะช่วยก็จริง แต่หลิวลู่ยังไม่มีกระบี่เลยสักเล่ม
“เจ้าหนุ่ม! เจ้าคือก้านหลิวลู่ไหวใช่หรือไม่?” เสียงดังกังวานจากบุรุษร่างใหญ่หนวดเครารกที่นั่งอยู่ในกระโจมใกล้กระโจมบัญชีรายชื่อนักสู้ เขาแต่งกายเหมือนเจ้าหน้าที่แต่แลดูมีตำแหน่งสูงกว่า
“ใช่”
“ถ้าเช่นนั้นก็ตามข้ามา”
บุรุษร่างใหญ่ลุกขึ้นยืนเต็มร่างและส่งสายตาถมึงทึงกลับมา หลิวลู่จึงลอบสบตากับจับโปกควงก่อนจะตัดสินใจเดินตรงไปที่กระโจมนั้น
เมื่อหลิวลู่ลอดผ่านกระโจมเข้ามา มังกรหนุ่มก็พบว่าด้านหลังคืออาคารไม้ที่แบ่งเป็นห้องเล็กๆ ห้องแรกมีเอกสารมากมายม้วนซุกไว้ในหิ้งไม้ที่แปะเต็มผนัง
หลิวลู่เดินตามบุรุษร่างใหญ่ไปอีกทางหนึ่งที่มีแพรม่านกางกั้น ด้านในคือห้องเล็กอีกห้องที่คล้ายกับใช้พักผ่อน แต่บนตั่งเตี้ยที่ยาวราวสี่สิบชุ่นกลับมีอาวุธหลายอย่างวางเรียงอยู่
“ควบเหนือเต้าอึ๋มแนะนำชื่อของเจ้าไว้ เขาอยากให้เจ้าได้ประลองสักครั้ง ข้าเองก็ไม่ติดขัดอะไร เพราะที่นี่ก็ฝากฝังนักสุ้เข้ามาประลองกันอยู่เป็นประจำ” บุรุษร่างใหญ่เอ่ยและปล่อยให้หลิวลู่เดินตรงไปที่ตั่งเตี้ยที่วางอาวุธ
“ท่านอาควบบอกท่านไว้อย่างนั้นรึ? ถ้าเช่นนั้นข้าก็คงได้เข้าประลองในไม่ช้า!” หลิวลู่เอ่ยในขณะมองอาวุธบนตั่ง มังกรหนุ่มต้องฝืนกลืนน้ำลายลงคอเมื่อบุรุษร่างใหญ่ดันร่างเข้าประกบแนบด้านหลังและส่งสองฝ่ามือหยาบเข้าคว้าจับสะโพกไว้แน่นหนา
“เจ้าอายุเท่าไร”
“ยะ—ยี่สิบหก”
“ข้าได้ยินว่าเจ้าแต่งงานแล้ว แต่เมียของเจ้าไม่ได้อยู่ด้วย”
“ใช่”
“รูปร่างกำยำสมวัย” บุรุษร่างใหญ่เอ่ยในขณะขยุ้มนิ้วมือลงบนร่างกายของหลิวลู่ ตั้งแต่สะโพกขึ้นมาที่หน้าท้องและหน้าอกแน่น “ข้าไม่แปลกใจเลยที่ควบเหนือเต้าอึ๋มจะพอใจเจ้านัก”
“ท่านหมะ—หมายถึงเรื่องอะไร?”
หลิวลู่เอ่ยถาม แต่คางของมังกรหนุ่มก็ถูกมือใหญ่คว้าจับเชิดขึ้น นิ้วโป้งของบุรุษร่างใหญ่ลากไลไปบนริมฝีปากของมังกรหนุ่มอย่างแผ่วเบา แต่ดวงตาของเขาที่จับจ้องหลิวลู่แข็งกร้าวและดุดัน
“เจ้าจะได้เข้าประลองแน่—” มือหนาใหญ่อีกข้างวาดมาที่หน้าท้องของหลิวลู่และเกี่ยวปมกางเกงผ้าเอาไว้ “--แต่จะเป็นเมื่อไรนั้นขึ้นอยู่กับข้าตัดสินใจ”
“ท่าน—!” หลิวลู่ มังกรหนุ่มตกในลนลาน เขาส่งมือไปกุมมือหนาของบุรุษแปลกหน้าเอาไว้ แต่มันก็ไม่ทันการณ์ ปมผ้าถูกตะหวัดหลุดออกติดมือของบุรุษร่างหนาไปอย่างง่ายดาย “—หยะ—หยุดเดี๋ยวนี้!”
หลิวลู่ใช้ปลายเท้าตะหวัดกระบี่เล่มยาวที่วางอยู่บนตั่งให้ลอยขึ้น มังกรหนุ่มส่งมือไปรับกระบี่โดยไม่สนใจร่างกายเปลือยเปล่าที่เผยออกมา เขาหมุนตัวและจ่อปลายฝักกระบี่ลงที่คอหอยของฝ่ายตรงข้ามทันที
แต่บุรุษร่างใหญ่หาได้หวั่นเกรงไม่ เขาปรายตามองฝักกระบี่เพียงวูบเดียว รอยยิ้มหยันปรากฏขึ้นมาพร้อมใช้หลังมือซ้ายตีซัดปลายปลอกกระบี่ออกห่างและทะยานเข้าหาร่างมังกรหนุ่มอีกครั้ง
ฝ่ามือซ้ายของบุรุษร่างใหญ่หมายพุ่งเข้าคว้าจับที่คอของมังกรหนุ่ม แต่หลิวลู่ก็หลบฉากออกด้านข้างและใช้ฝักกระบี่ตีเข้าที่ข้อมือ ยังผลให้ฝ่ามือใหญ่นั้นหยุกกึกราวเป็นอัมพาต แต่ทิศทางที่หลิวลู่หลบไปนั้นก็ถูกเข่าพุ่งมาขวางจนร่างชะงักงัน มือขวาที่แข็งแรงของบุรุษร่างใหญ่จึงคว้าจับลงบนกระหม่อมของมังกรหนุ่มได้อย่างง่ายดาย
“ว่องไวดี แต่การโต้ตอบของเจ้าช่างไร้คม!” บุรุษร่างใหญ่ก้มลงกระซิบข้างหูหลิวลู่ก่อนจะกดริมฝีปากลงทับริมฝีปากของมังกรหนุ่ม ลิ้นหนากระหายยื่นยาวออกมาตะหวัดเลียและดุนหมายให้หลิวลู่อ้ารับ มือซ้ายหยาบกร้านลากลงต่ำมาตามหน้าท้องสู่หว่างขาของมังกรหนุ่ม ปลายนิ้วกดเน้นลงบนกลุ่มขนรกดำ หลิวลู่ถูกกระตุ้นอย่างง่ายดายแม้จะรู้สึกพรั่นพรึง ท่อนเนื้อแข็งขันขึ้นอย่างรวดเร็วอยู่ในมือหยาบกร้าน “แข็งแรงดีมากเจ้าหนุ่ม”
“หยะ—หยุดนะ!”
“อย่าขัดขืนเลยน่า เจ้าสู้ข้าไม่ได้หรอก”
วงแขนของบุรุษร่างใหญ่ช่างแกร่งนัก ไม่ว่าหลิวลู่จะดิ้นรนอย่างไรก็ไม่อาจทอนพลังของกล้ามแขนใหญ่โตนี้ได้เลย ในที่สุดหลิวลู่ที่ถูกมือหยาบกร้านปรนปรอก็หมดทางสู้ ความพรั่นพรึงยังคงเกาะกุมจิตใจ แต่กระนั้นมังกรหนุ่มก็พบความรู้สึกประหลาดล้ำ หลิวลู่เบียดร่างเข้าหาและใช้ฝ่ามือดึงรั้งเสื้อของบุรุษร่างใหญ่จนร่างของทั้งสองเบีบดแนบ มังกรหนุ่มอ้าปากส่งลิ้นออกมารับลิ้นยาวกระหายและฉกลิ้นไล่ตามจนริมฝีปากชุ่มโชก แต่ก่อนที่หลิวลู่จะไล่ทัน คางของมังกรหนุ่มก็ถูกคว้าจับอีกครั้ง
“เจ้าพึงพอใจรสจูบของข้าแล้วใช่ไหม?”
“ข้า! อือออ ข้ารู้สึก—!”
ใบหน้าและน้ำเสียงของทาสหนุ่มวัยยี่สิบหกในอ้อมแขนกระตุ้นให้บุรุษร่างใหญ่ดันร่างของหลิวลู่ไปด้านหลังจนแผ่นหลังแนบกับผนังห้อง เขาดันร่างของมังกรหนุ่มไว้เช่นนั้นในขณะที่ยกขาทั้งสองของมังกรหนุ่มลอยขึ้น
หลิวลู่รู้สึกตกใจระคนอับอายจนต้องหลบสายตากร้าวเมื่อขาทั้งสองถูกจับยกลอยและแยกกว้าง ท่าทางนี้ทำให้บุรุษร่างใหญ่สามารถอัดเบียดสะโพกหน้าเข้ามาโดยง่าย ความรู้สึกประหลาดแล่นเข้าจู่โจมหลิวลู่อีกครั้งพร้อมความซ่านกระสัน ท่อนยาวเงาวาวของหลิวลู่โยกไหวอยู่ในกลุ่มขนดกดำ มันกระตุกเกร็งทุกครั้งที่ถูกเครื่องเพศแข็งอวบในกางเกงของบุรุษร่างใหญ่ดุนดันไปตามร่องตูด มังกรหนุ่มเผลอบิดกายหนีเป็นพัลวัน
“หยะ—หยุดเถอะ! ข้าไม่—!” หลิวลู่ร้องสั่ง บุรุษร่างหน้าจ้องกลับราวกับจะเข่นฆ่า หากแต่สะโพกหนากลับโยกพริ้วเป็นจังหวะเนิบช้าคลอไปกับเสียงครางกระเส่าที่มังกรหนุ่มไม่อาจเก็บกั้นไว้ “อื๊อ! ข้า! อือ อะ อ๊ะ! อืมมมมมม!”
“เจ้าไม่อยากประลองรึ?” บุรุษร่างใหญ่เอ่ยถาม รอยยิ้มเหยียดอยู่ใต้เครารกแข็ง เขาตะหวัดลิ้นอย่างกระหายในขณะที่เลื่อนนิ้วหยาบแกร่งตรงไปหาร่องตูดของทาสหนุ่ม
“ฮ้า! ทะ—ท่าน!”
หลิวลู่ส่งเสียงพลางกดใบหน้าลงต่ำ มังกรหนุ่มต้องขยับกายหนีปลายนิ้วแข็งที่บดคลึงช่องทางสกปรก แต่ร่างกายที่ถูกยกลอยไม่มีที่ทางให้ขยับหนีมากนัก ยามนี้มังกรหนุ่มจึงอยู่ในท่าทางอันตรายยิ่ง
เหตุการณ์คับขันถึงขีดสุดเมื่อนิ้วหนึ่งของบุรุษร่างใหญ่เริ่มชำแรกเข้าสู่กายมังกรหนุ่ม
“ท่านลำ!”
เสียงเจ้าหน้าคนหนึ่งที่ดังขึ้นที่หน้ากระโจม มันช่วยหยุดการรุกไล่ของบุรุษร่างใหญ่เอาไว้ได้จนใบหน้าคล้ำที่กำลังเหยียดยิ้มนั้นเปลี่ยนเป็นถมึงทึง เขาร้องตอบออกไปด้วยเสียงดังลั่น
“ว่ามา!”
“การประลองจบแล้วขอรับ”
“เป็นไปได้อย่างไร? ยังไม่ทันเที่ยงเลยนี่!” บุรุษร่างใหญ่เอ่ยพร้อมทำหน้าใคร่ครวญ เขาเหลือบมองหลิวลู่ในวงแขนก่อนจะทำเสียงแสดงความไม่พอใจ “เจ้าไปบอกให้พวกนั้นจัดคู่ต่อสู้มารอไว้คนหนึ่ง ข้าจะส่งคู่ประลองไปให้”
“รับทราบขอรับ!”
บุรุษร่างใหญ่แซ่ลำปล่อยร่างของหลิวลู่ออกจากวงแขนแกร่ง ร่างเปลือยของหลิวลู่ยังคงแข็งขันและเปียกเยิ้ม เสียงหอบหายใจหนักยังคงดังอยู่ไม่จางหาย
“เจ้าพร้อมจะเข้าประลองไหม เจ้าหนุ่ม?”
“ขะ—ข้าพร้อม แต่—!” หลิวลู่สำลักพร้อมถอนหายใจ “—ท่านอนุญาตแล้วรึ? ทั้งๆ ที่ข้ายังไม่ได้ทำ—อะไรให้ท่านเลย”
“เจ้ารู้รึว่าข้าอยากให้เจ้าทำอะไร?” เจ้าหน้าที่ลำถามและเหยียดยิ้ม เขาเชยคางรกของหลิวลู่ขึ้นมอง “ถ้าเจ้ารู้เจ้าอาจจะไม่อยากทำก็เป็นได้”
“ข้าสามารถทะ—ทำแบบที่ทำกับท่านอาควบได้”
“เจ้าทำอะไรกับเขาบ้าง?”
“ขะ—ข้าจูบกับท่านอาควบและใช้มือทำให้เขาสุขสม” หลิวลู่เอ่ยตอบอย่างเขินอาย “เขาพึงพอใจมาก”
บุรุษแซ่ลำหัวเราะเสียงดัง เขาส่งมือมาจับตูดของหลิวลู่และขยุ้มบีบ หลังจากนั้นเขาก็ก้มลงกระซิบข้างหูมังกรหนุ่ม
“ควบเหนือเต้าอึ๋มยังขลาดเขลาอยู่ไม่น้อยที่ปล่อยให้เจ้าทำเพียงเท่านั้น” บุรุษแซ่ลำเอ่ย “เขาไม่รู้หรอกว่าบุรุษหนุ่มอย่างเจ้าน่ะมีรสชาดหอมหวานไม่ต่างจากสตรี”
“ท่านกำลังจะบอกข้าว่า ข้าสามารถ—!?”
“ใช่! เจ้าสามารถขึ้นเตียงกับบุรุษด้วยกันและทำรักประหนึ่งผัวเมีย” บุรุษแซ่ลำเอ่ยต่อ รอยยิ้มฉายวาบขึ้นบนใบหน้าคล้ำ “และก็ไม่จำกัดเพียงแค่ ‘สอง’ คน”
“เออะ!” หลิวลู่สะอึก ดวงตาเบิกกว้าง ใบหน้าของมังกรหนุ่มร้อนผ่าวจนรู้สึกได้ ไม่เคยมีสักครั้งที่เขาจะถูกบุรุษด้วยกันชวนพูดคุยเรื่องนี้ “ข้าจะไม่ทำแบบนั้นเด็ดขาด ถึงแม้ว่าข้าอยากจะเข้าประลองแค่ไหน”
“ถ้าเช่นนั้นก็ไปเถอะ รอบของเจ้ามาถึงแล้ว” บุรุษแซ่ลำบอกและผายมือออกราวกับเป็นสัญญาณอนุญาตให้หลิวลู่ออกไปได้
“ขอบคุณท่านมากที่ให้โอกาส” หลิวลู่เอ่ยตอบด้วยความยินดีและยกมือขึ้นคาราวะ ”เอ่อ!—ข้าขอใช้กระบี่ของท่านได้หรือไม่?”
“กระบี่นั้นจะทำให้ผู้อื่นสงสัยถึงที่มาของมัน” บุรุษแซ่ลำตอบ “ไปบอกเจ้าหน้าที่ที่คุมห้องประลอง เขาจะหากระบี่เลวที่เหมาะกับเจ้าให้”
“ได้ ขอบคุณท่านอีกครั้ง”
“แต่หากเจ้าอยากได้กระบี่ที่ดีกว่านั้น—” บุรุษแซ่ลำเอ่ยอีกครั้งในขณะที่หลิวลู่กำลังมัดรวบกางเกง “—เอาชนะการประลองและคว้าอันดับมาให้ได้ ข้าจะพาเจ้าไปเอากระบี่ที่เหมาะกับเจ้าด้วยตนเอง”
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ