เปลี่ยนชีวิต พลิกชะตารัก
เขียนโดย Xiaobei
วันที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 เวลา 16.58 น.
แก้ไขเมื่อ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 17.00 น. โดย เจ้าของนิยาย
61) ตอนที่ 61 : เพื่อนทรยศ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความตอนที่ 61 : เพื่อนทรยศ
เสียงซินห้าวเย็นชามาก เยือกเย็นจนคนรอบข้างต่างผวา แต่ก็ยังมีคนรอบข้างไม่น้อยถอนหายใจออกมา เพราะพวกเขารู้ ถึงแม้ซินห้าวจะเก่งกาจ แต่ตอนสุดท้ายอาจจะไม่ดี เพราะเขาไปทำให้พวกนั้นโกรธ
“พี่ใหญ่ ซานเหลยจื่อหมายความว่าให้พี่บอกชื่อมา เขากลับไปจะไปเรียกคนมาบุกบ้านพี่ จัดการพวกพี่ พี่ใหญ่ ถึงแม้พี่จะเก่ง แต่พี่เอาชนะพวกเราหลายคนไม่ได้หรอก พี่อย่าบอกซานเหลยจื่อดีกว่า เขาไม่รู้ก็ไปหาพี่ไม่ได้แล้ว ใช่แล้ว พี่ใหญ่ พี่ชื่ออะไร อีกหน่อยข้าจะได้ไปหาพี่ได้”
ฝั่งเจ้าอ้วนพูดอยู่
พอเขาเริ่มพูด ซานเหลยจื่อก็จ้องเขา คิดว่าเขาเอาแผนการไปบอกฝ่ายตรงข้ามจริง ฝ่ายตรงข้ามต้องไปยอมบอกแน่ แต่เขาก็รู้ว่าเจ้าอ้วนคนนี้เป็นยังไง เขาไม่ใส่ใจมากไม่ได้
ซินห้าวฟังแล้วพูดอะไรไม่ออก คำพูดเจ้าอ้วนตอนแรกดูเหมือนจะเป็นห่วงซินห้าวจริงๆ ไม่อยากให้ซินห้าวโดนจัดการ แต่สุดท้ายเขาถามประโยคนั้นขึ้นมาทำไม? ถ้าซินห้าวบอกเจ้าว่าชื่ออะไร อยู่ที่ไหน มาหาได้ยังไง งั้นซานเหลยจื่อก็รู้ด้วยเหมือนกันไม่ใช่หรือ? ตกลงเจ้าหวังดีหรือหวังร้านกันแน่ โง่ขนาดนี้ ที่บ้านเจ้ารู้ไหมเนี่ย?
“อยากจะมีเรื่องกับข้าก็แค่ลงมือมา ข้ารับหมด แต่อยากจะรู้ว่าข้าเป็นใคร ทำไมข้าต้องบอกเจ้า? เจ้ามีความสามารถไม่ใช่เหรอ? ไปหาเองสิ”
ซินห้าวพูดจบก็ไม่มองซานเหลยจื่ออีกเลย เดิมทีเขาคิดว่าถ้าเจ้าคนนี้สำนึกผิดสักนิด เขาจะต่อแขนกลับไปให้ แต่เจ้านี่ไม่แม้แต่จะรู้สึกผิดสักนิดเลย แล้วยังจะแก้แค้นด้วย เขาไม่ทำแขนอีกข้างหักก็ถือว่าโชคดีแล้ว จะลงมือให้อีกฝ่ายตั้งรับได้ยังไง แบบนี้ ซานเหลยจื่อก็ได้รับโทษบ้างแล้ว
แล้วยังมีเจ้าอ้วนนั่น เขาเรียกว่าพี่ใหญ่ เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายตัวใหญ่กว่าเขามาก เจ้าอ้วนเรียกมาได้ยังไง แต่ซินห้าวก็รู้ สมองของเจ้าอ้วนนี่มีไม่พอใช้ แยกแยะเรื่องไม่เป็นแก้ได้ยาก
ซินห้าวไม่เปิดเผยตัวตนให้อีกฝ่าย ไม่ใช่ว่าเขากลัว แต่ไม่จำเป็น ฝ่ายตรงข้ามอยากมาหาเขาก็มาเลย
“ยังไม่ไปอีก? รอให้ข้าเชิญเจ้าเหรอ?”
ซินห้าวเห็นซายเหลยจื่อไม่ขยับ เลยจ้องมองเขา สายตาเขามีแววหงุดหงิด ถ้าวันนี้เฉินเยี่ยนไม่อยู่ที่นี่ เขาจะหิ้วเจ้าซานเหลยจื่อนี่ไปจัดการสักชุด แต่เฉินเยี่ยนอยู่นี่ เขาต้องดูแลเฉินเยี่ยน เห็นซานเหลยจื่อออกไปแล้ว มั่นใจว่าไม่มีอันตราย
ซานเหลยจื่อมีแววเคียดแค้นในสายตา แต่เขาก็รู้ว่าเขาสู้ซินห้าวไม่ได้ แขนอีกข้างก็ยังห้อยต่องแต่งอยู่เลย
“เจ้าเด็กน้อย ถ้ามีปัญญาก็อย่าหนีไป รอข้าก่อน ถ้าข้าไม่จัดการเจ้าจนแม้แต่แม่ก็จำไม่ได้ ต่อไปข้าจะไม่เกเรเลย”
ซานเหลยจื่อทิ้งคำพูดเคืองแค้นเอาไว้ เห็นซินห้าวถมึงตาขยับตัวอีกรอบ เขารีบเดินออกไป ตอนที่ออกไปยังไม่ลืมตะโกนเรียกเจ้าอ้วน “เจ้าเป็นศพหรือไง ยังไม่รีบมาพยุงข้าอีก ยังอยากจะกินข้าวอยู่อีกไหม เดี๋ยวข้าจะไปบอกพี่ตงให้เจ้าอดข้าวสองวัน”
“ไม่เอา ข้าพยุงแล้ว ข้าแบกเจ้าก็ได้ อย่าไปบอกพี่ตง ข้าไม่อยากอดจนหิว”
เจ้าอ้วนรีบเดินไปข้างซานเหลยจื่อ บอกว่าพยุง แต่ที่จริงเขาแค่ดึงแขนซานเหลยจื่อเฉยๆ ซายเหลยจื่อเจ็บจนร้องออกมาอีกรอบ อีกนิดเดียวจะลงไปเป็นอัมพาตอยู่บนพื้น เจ้าอ้วนตบหน้าผาก หัวเราะซื่อๆ “ขอโทษ ข้าไม่ได้ตั้งใจ ลืมไปว่าแขนเจ้าหัก”
คนที่มามุงดูเกือบจะหัวเราะกันหมด
แน่ใจว่าเจ้ากับเขาเป็นพวกเดียวกันนะ? มีเพื่อนทรยศแบบนี้ด้วยเหรอ?
เฉินเยี่ยนก็อยากจะหัวเราะมาก
“พี่ใหญ่ ข้าไปก่อนนะ พี่อย่าลืมข้าล่ะ ครั้งหน้าเจอกันพี่ต้องบอกข้านะ”
เจ้าอ้วนแบกซานเหลยจื่อเดินไป ยังไม่ลืมจะตะโกนบอกซินห้าว
สองคนนั้นไปแล้ว ซินห้าวไม่ได้เดินไปทางเฉินเยี่ยน ด้านข้างมีคนปรบมือให้ซินห้าว ชื่นชมซินห้าว และก็มีคนเรียกให้ซินห้าวรีบกลับไป เดี๋ยวคนพวกนั้นจะมาแก้แค้นเอาแล้วหนีไม่ทัน
ซินห้าวพยักหน้าให้ผู้คน เขาเข้าใจความคิดของคนอื่นๆ เขาเลยไม่โทษ สุดท้ายซินห้าวทำเป็นไม่ได้ตั้งใจมองไปทางเฉินเยี่ยนแวบหนึ่ง แล้วเขาก็ออกไป
น่าจะเพราะไม่อยากให้ตัวเองลำบากไปด้วย ไม่อยากให้ใครรู้ว่าเขาและตัวเองรู้จักกัน กลัวว่าคนพวกนั้นจะคิดว่าตัวเองเป็นพวกเดียวกับเขาแล้วมาลงมือเธอ
เฉินเยี่ยนคิดหลังจากซินห้าวออกไปจากร้านสหกรณ์แล้ว
เธอไม่กลัวจะลำบาก แล้วเธอก็ไม่ได้รู้สึกดีกับคนพวกนั้น แต่เฉินเยี่ยนก็ยังซาบซึ้งในการกระทำของซินห้าว ชาติที่แล้วเฉินเยี่ยนเป็นคนเรียบง่าย เธอไม่ได้มีความทะเยอทะยานสูงส่ง เธออยากจะใช้ชีวิตอย่างสงบสุข ถึงแม้จะเป็นชาตินี้ ถึงแม้เธอจะมีหลุมอวกาศ เธอก็ไม่อยากแก้แค้นมากมาย เธอแค่อยากกินอิ่มมีเสื้อผ้าใส่ ให้คนในครอบครัวและตัวเองมีชีวิตที่ดีก็พอแล้ว
ถ้าคนเลวจะมาทำร้ายเธอ ตัวเธอยังมีหลุมอวกาศนั่นสามารถซ่อนตัวได้ แต่คนที่บ้านไม่สามารถ ดังนั้นซินห้าวทำแบบนี้ เธอเลยรู้สึกซาบซึ้ง
ผ่านเรื่องวันนี้ไปเฉินเยี่ยนยิ่งรู้จักซินห้าวมากขึ้นไปอีกขั้น ผู้ชายคนนี้ไม่เพียงแต่หน้าตาหล่อ ฝีมือดี แถมยังจิตใจดีด้วย แต่ก็ไม่ใช่ว่าจิตใจดีมากขนาดนั้น เขายังกล้าลงมือกับพวกคนร้ายนั่น น่าเสียดาย ผู้ชายดีขนาดนี้ กับตัวเองเป็นไปไม่ได้ แต่เป็นเพื่อนก็ยังดี
คิดเรื่องพวกนี้เฉินเยี่ยนก็อารมณ์ดีขึ้นมา เธอไม่รีบ ค่อยๆ ดูของในร้านสหกรณ์ เธอจำได้ว่าครั้งที่แล้วซินห้าวซื้ออาหารกระป๋องและผลไม้มา งั้นเธอซื้อกลับไปให้เฉินหู่กินบ้าง?
เฉินเยี่ยนถามราคา ต้องใช้ตั๋วอีก เธอหมดไฟแล้ว ตอนนี้ตัวเองขาดตั๋ว ซื้อไม่ได้ ช่างเถอะ ซื้อพวกเครื่องปรุงที่จำเป็นดีกว่า รอหาเงินได้มากกว่านี้ค่อยว่ากัน
เฉินเยี่ยนซื้อของเสร็จ ก็ไม่ได้อยู่ต่อ เดิมทีตอนแรกเธออยากจะเดินเล่นในอำเภอ แต่ตอนนี้เธอไม่อยากแล้ว เพราะเกิดเรื่องนี้ขึ้น เธอเลยเข้าใจในอำเภอมากขึ้น ที่นี่มีผู้มีอิทธิพล วันนี้เธอมาคนเดียว กลัวเกิดเรื่องอะไรขึ้น
ออกมาจากร้านสหกรณ์ เฉินเยี่ยนมองดู เป็นอย่างที่คิดไว้ เธอไม่เห็นซินห้าว กลับกันเธอเห็นคนหนึ่งที่แต่งตัวคล้ายซานเหลยจื่อยืนอยู่หน้าประตูสหกรณ์มองไปมาซ้ายขวา ตอนที่เห็นเฉินเยี่ยนคนนั้นตาเป็นประกายแวบหนึ่ง เหมือนคิดะไรได้ แต่ไม่ได้เมา ยังคงมองคนเข้าออกในสหกรณ์ต่อ
เฉินเยี่ยนรู้ดี สีหน้าแน่นิ่ง ทำเหมือนไม่รู้เรื่องอะไรทั้งสิ้น เดินไปกับคนที่เข้ามาสหกรณ์
คนนั้นไม่ได้ตามเธอมา ออกมาจากสหกรณ์สักพักหนึ่งแล้ว เฉินเยี่ยนพบว่าไม่มีคนตามมาก็ถอนหายใจยาวออกมา คิดไม่ถึงว่าที่หน้าสหกรณ์จะมีคนมาเฝ้าดู คนพวกนั้นต้องมาดูว่าซินห้าวจะปรากฏตัวหรือไม่ หรือมีคนมากับซินห้าวหรือไม่แน่นอน ตอนที่ซินห้าวออกหน้าไปตอนนั้นซานเหลยจื่อยังไม่รู้ว่าตัวเองมากับซินห้าว ดังนั้นพวกเขามาหาคนจึงไม่ได้สนใจเธอ
คนที่แต่งตัวเหมือนซานเหลยจื่อก็ไม่ใช่คนดี สายตาที่มองเธอก็แปลกๆ และเป็นเพราะเขามีภารกิจอยู่ เขาเลยไม่ได้มายุ่งกับตัวเอง ไม่อย่างนั้นเกรงว่าตัวเธอจะต้องออกแรงหาทางกว่าจะหนีออกมาได้แน่
คนพวกนี้น่ากลัวจริงๆ น่าเสียดายยุคนี้ ยังไม่มีมาตรการควบคุมและจำกัดขอบเขตพวกอิทธิพลมืด ไม่อย่างนั้นพวกเขาจะกล้ากำเริบแบบนี้ได้ยังไง!
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้นำมาจากแหล่งอื่นและได้รับการอนุญาตจากเจ้าของแล้ว
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ