เปลี่ยนชีวิต พลิกชะตารัก
-
เขียนโดย Xiaobei
วันที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 เวลา 16.58 น.
64 ตอน
0 วิจารณ์
48.58K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 17.00 น. โดย เจ้าของนิยาย
57) ตอนที่57: ความงามทำร้ายคน
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความตอนที่57: ความงามทำร้ายคน
ซินห้าวพาเฉินเยี่ยนไป ระหว่างทางทั้งสองคนไม่ได้พูดอะไรกัน บรรยากาศรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย เดิมทีซินห้าวไม่ได้เป็นคนพูดเก่งอยู่แล้ว ส่วนเฉินเยี่ยน เธอพูดได้ว่านี่เป็นครั้งแรกที่ซ้อนท้ายจักรยานผู้ชาย ถึงแม้ในใจไม่ได้คิดอะไร แต่อย่างน้อยก็ยังรู้สึกไม่เป็นอิสระอยู่ ดังนั้นเธอเลยไม่อยากพูดอะไร
จู่ๆ มีแรงกระแทกขนาดใหญ่ขึ้นมา เฉินเยี่ยนรู้สึกเจ็บก้น มือเธอตอบสนองเร็วกว่าสมองอีก เธอจับเสื้อผ้าซินห้าวแน่น เธอออกแรงดึงแน่น ถึงจะป้องกันไม่ให้ตกจากรถ
รอจนนั่งอย่างมั่นคงแล้ว เธอได้ยินซินห้าวพูด “ขอโทษด้วย หลุมเมื่อกี้ใหญ่มาก ไม่มีที่หลบ”
เฉินเยี่ยนเข้าใจได้ ทางในหมู่บ้าน มีบางที่เป็นหลุมขนาดใหญ่ อยากจะอ้อมก็ไม่ได้ ดังนั้นเมื่อกี้ไม่แปลกที่ซินห้าวจะขี่กระแทก นั่นทำให้ตัวเองต้องดึงเสื้อเขา เธอออกแรงมาก เฉินเยี่ยนคิดว่าถ้าซินห้าวไม่เคยฝึกหัดมาก่อน ถนนแย่ขนาดนั้น แล้วตัวเองออกแรงดึงด้วย กลัวว่าจะดึงซินห้าวตกลงมาจากรถได้ แล้วทั้งสองคนก็ล้มไปพร้อมกัน
“ไม่เป็นไร ผมรู้ว่ามีหลุม”
เฉินเยี่ยนพูดจบ ก็เสริมอีกประโยค “เสื้อคุณคุณภาพดีจัง”
มุมปากซินห้าวกระตุกขึ้นมา ผู้หญิงคนนี้บอกว่าเสื้อตัวเองคุณภาพดี จะบอกว่าเมื่อกี้เธอออกแรงดึงเสื้อตัวเองขนาดนั้นเสื้อยังไม่เสียใช่ไหม? เป็นเพราะตัวเขาด้วยเหมือนกัน ลองถ้าเปลี่ยนคนดู ไม่แน่โดนเธอออกแรงดึง เสียการทรงตัวล้มไปแล้วก็ได้ ยัยนี่บอกว่าเสื้อตัวเองคุณภาพดี ทำไมไม่บอกว่าตัวเขาขี่รถดีนะ
เฉินเยี่ยนพูดจบก็รู้สึกว่าคำพูดตัวเองประหลาด ทำไมพอเจอซินห้าวตัวเองถึงพูดจาไม่ค่อยถูกนะ เพราะรู้สึกว่าซินห้าวไม่ใช่คนไม่ดี เลยกล้าพูดจาสบายๆ ต่อหน้าเขาหรือ? หรือเป็นเพราะว่าวันนั้นเขาช่วยเจ้าของร่างเดิม ตัวเองถึงรู้สึกเชื่อใจเขาอย่างแปลกประหลาดนะ?
“ว่าแต่ เห็นคุณกลับมาบ่อยๆ คุณไม่ได้ทำงานหรือ?”
เฉินเยี่ยนรู้สึกว่าเงียบต่อไปก็ทนไม่ไหว เลยหาเรื่องคุยกับซินห้าว ฐานะที่บ้านซินห้าวไม่แย่เลย ว่ากันว่าที่บ้านจัดการหางานให้ทำได้ไม่มีปัญหา ทำไมถึงเห็นเขาว่างอยู่ตลอด”
เธอคิดว่าตัวเขาไม่ทำงาน เที่ยวเล่นไปวันๆ งั้นหรือ?
ซินห้าวอารมณ์ไม่ดีขึ้นมาหน่อยหนึ่งแล้ว
“ที่บ้านหางานให้ เป็นโรงงานที่ดีที่สุดในเมือง แต่ตัวผมไม่อยากไปเอง”
ซินห้าวเงียบไปสองนาที ตอนที่เฉินเยี่ยนคิดว่าเขาจะไม่พูดอะไรแล้ว เขาตอบเฉินเยี่ยนกลับมา
แต่เพราะว่าเฉินเยี่ยนนั่งอยู่เบาะหลัง มองไม่เห็นรอยยิ้มมุมปากประชดประชันของซินห้าว
คุณสิ้นเปลืองขนาดนี้ ที่บ้านรู้ไหมเนี่ย?
เฉินเยี่ยนอยากจะถามมาก แต่ที่บ้านซินห้าวต้องรู้อยู่แล้ว เพียงแต่น่าเสียดายจริงๆ ตอนนี้มีคนตั้งมากมายแข่งขันกัน ทั้งร้องทั้งเรียก คิดสารพัดวิธีจะได้ไปเป็นคนงาน ถ้าที่บ้านมีคนงาน เดินไปที่ไหนก็สามารถยืดได้เลย คนอื่นจะหมั่นไส้อิจฉา ซินห้าวคนนี้กลับไม่ไป นี่ไม่ใช่ว่าสิ้นเปลืองเหรอ
“อ้อ”
เฉินเยี่ยนคิดในใจ แต่ปากก็ไม่ได้พูดอะไร ตอนนี้คนงานในยุคนี้เป็นที่นิยมมาก แต่พอพัฒนาไปเรื่อยๆ คนที่ยอมเป็นคนงานจะมีสักกี่คน? คนเราไม่อยากทำก็ไม่ทำสินะ ยังไงพ่อแม่เขามีปัญญา สามารถเลี้ยงเขาได้ ไม่ต้องมานั่งทุกข์ใจ
“เธอจะไม่พูดอะไรหน่อยเหรอ?”
ซินห้าวได้ยินคนข้างหลังพูดอ้อคำเดียวแล้วก็ไม่พูดอะไรอีก เขาแปลกใจมาก ฝืนหยุดรถคิดจะหันหน้ามามองสีหน้าเฉินเยี่ยน แล้วถามเธอ
“พูดอะไร?”
เฉินเยี่ยนไม่เข้าใจ
“เธอไม่ด่าฉัน? ไม่รู้สึกว่าฉันควรจะไปเป็นคนงาน ไม่ไปก็คือไม่รับเจตนาที่ดีของที่บ้าน ไม่ไปก็คือไม่ก้าวหน้า ไม่รู้ว่าอะไรดีไม่ดีหรือ?”
เสียงซินห้าวฟังดูเย็นชาเล็กน้อย ร่างกายแข็งเกร็ง
“ทำไมฉันจะต้องว่าคุณ? คุณอยากจะไปเป็นคนงานก็ไป ไม่อยากไปก็ไม่ต้องไป นี่เป็นสิทธิ์ของคุณ คนอื่นไม่มีสิทธิ์เข้ามายุ่ง และไม่มีสิทธิ์มาว่าอะไรคุณ อีกอย่าง ไม่ใช่ว่าเป็นคนงานจะถือว่าก้าวหน้าอย่างเดียว แค่มีวิธีของตัวเอง มีความคิดของตัวเอง มีเรื่องที่ตัวเองทำ ไม่ว่าจะทำอะไร ฉันว่าก็ดีหมดแหละ”
เฉินเยี่ยนพูดตามจริง เดิมทีเธอไม่ใช่คนยุคนี้อยู่แล้ว ดังนั้นความคิดของเธอไม่เหมือนกับคนยุคนี้ และคำพูดนี้ของเธอก็ทิ่มแทงใจซินห้าว ซินห้าวเบรกรถ รถหยุดลง
เฉินเยี่ยนไม่ทันตั้งตัว หัวเธอพุ่งไปชนเอวซินห้าว ครั้งนี้เธอดึงเสื้อซินห้าวไม่ทัน มือรีบคว้าไปจับอะไรก็ได้กลัวว่าตัวเองจะหล่น เธอจับเอวซินห้าว กว่าตัวเองจะนิ่ง
“เป็นอะไรอีก?”
เฉินเยี่ยนร่ำไห้ในใจ ขี่รถให้มันดีๆ หน่อยได้ไหม? ถ้าไม่ได้ก็บอกมา ไม่ต้องพามาแบบนี้ แป๊ปเดียวนี่สองครั้งแล้ว สองครั้งที่เธอเกือบจะหล่นลงจากรถ
เดิมทีซินห้าวอยากจะถามเฉินเยี่ยน แต่สองมือที่เอวนั้นทำให้ตัวเขาแข็งทื่อ ต้องบอกว่าเด็กยุคนี้ยังใสๆ อยู่ เฉินเยี่ยนแค่กลัวว่าจะตกรถเลยโอบเอวซินห้าวโดยไม่ได้ตั้งใจ ซินห้าวหน้าแดงเล็กน้อย มีความไม่สบายตัวแวบขึ้นมาในใจ แต่เขาไม่ได้ขับไล่ และไม่ได้รังเกียจเฉินเยี่ยน
ซินห้าวหยุดรถหันมามองหน้าเฉินเยี่ยน สีหน้าเฉินเยี่ยนเป็นปกติ ไม่มีความรู้สึกอื่ ซินห้าวถึงค่อยแอบโล่งใจ
“เมื่อกี้เธอพูดจริงเหรอ? เธอคิดแบบนั้นจริงๆ เหรอ?”
ซินห้าวจ้องเขม็งถามเฉินเยี่ยน ในใจเขารู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อยและคาดหวังอย่างประหลาด
เฉินเยี่ยนพยักหน้า สีหน้าก็ดูจริงจัง นี่เป็นความคิดของเธอจริงๆ
มองดูเฉินเยี่ยนแล้ว ซินห้าวรู้สึกได้ว่าเธอจริงใจ ซินห้าวค่อยสบายใจ ที่แท้ ที่แท้ในโลกนี้ยังมีคนหนึ่งที่เข้าใจตัวเอง แล้วยังมีคนที่มีความคิดเหมือนตัวเองอยู่ เธอไม่เหมือนคนอื่นที่มองเขาแบบนั้น ดูแล้วตัวเขาก็ไม่ได้ผิด ยัยคนนี้นี่ดี
เวลานี้ซินห้าวลืมไปแล้วว่าก่อนหน้านี้ยังเรียกเฉินเยี่ยนว่ายัยหน้าเหม็นในใจอยู่เลย
“ไปกันเถอะ ครั้งนี้รับรองว่าจะไม่ให้เธอนั่งไม่สบายอีก”
ซินห้าวพูดไปก็ยิ้มเล็กน้อย เหมือนภูเขาน้ำแข็งละลาย เฉินเยี่ยนเห็นแล้วอึ้งไป
ผู้ชายคนนี้หล่อมาก เฉินเยี่ยนคิดแบบนี้ จากนั้นก็ลงมานั่งซ้อนเบาะท้ายจักรยานโดยไม่รู้ตัว ลืมไปเลยว่าเมื่อกี้ตัวเองเพิ่งพูดในใจว่าจะไม่นั่งจักรยานคันนี้ สู้ตัวเองเดินไปดีกว่า
จนเฉินเยี่ยนรู้สึกตัว ซินห้าวก็ขี่ออกมาไกลแล้ว อ้า ชายหนุ่มรูปงาม คิดไม่ถึงว่าตัวเองจะมีวันนี้ แต่ก็ได้นั่งแล้ง ตัวเองไม่ต้องลงไปแล้ว เพียงแต่พ่อหนุ่มรูปงามคนนี้เป็นอะไรนะ? ทำไมเขาต้องใส่ใจความคิดเธอขนาดนี้?
เฉินเยี่ยนคิดจริงจัง เอาคำพูดซินห้าวและการกระทำเขามาเชื่อมโยงกันเธอก็เข้าใจแล้ว ต้องเป็นเพราะหลังซินห้าวกลับมาที่บ้านแล้วที่บ้านจัดหางานให้เขา ให้เขาไปเป็นคนงาน ส่วนซินห้าวมีความคิดของตัวเอง ไม่อยากไป ที่บ้านและคนรอบข้างจึงต่อว่าเขา คิดว่าเขาไม่มีหัวก้าวหน้า คนอื่นแย่งกันยังแย่งไม่ได้เลย เขากลับไม่ไป นี่เท่ากับเขาไม่เห็นค่าในความตั้งใจของคนอื่น อยากจะว่างงาน และไม่ยอมไปเป็นคนงาน นี่เป็นการเที่ยวเล่นไปเรื่อย เป็นเด็กไม่ดี น่าจะเป้นความคิดของคนที่บ้านและคนรอบข้างทิ่มแทงซินห้าว สร้างความกดดันให้เขามาก ดังนั้นหลังได้ยินความคิดเธอ พ่อคนนี้ถึงได้ตื่นเต้น มีปฏิกิริยาขนาดนี้
อ้า ช่างน่าสงสารจัง คุณเกิดในยุคที่ผิด ถ้าเกิดหลังกว่านี้อีกยี่สิบปี คุณก็แค่อาศัยหน้าตาหาเงิน ไม่ต้องพูดถึงอย่างอื่นเลย เป็นดาราก็สามารถดังได้ข้ามคืน น่าเสียดาย ตอนนี้ยุคนี้ ไม่เป็นคนงาน ก็โดนกดดันหนักมาก
ซินห้าวพาเฉินเยี่ยนไป ระหว่างทางทั้งสองคนไม่ได้พูดอะไรกัน บรรยากาศรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย เดิมทีซินห้าวไม่ได้เป็นคนพูดเก่งอยู่แล้ว ส่วนเฉินเยี่ยน เธอพูดได้ว่านี่เป็นครั้งแรกที่ซ้อนท้ายจักรยานผู้ชาย ถึงแม้ในใจไม่ได้คิดอะไร แต่อย่างน้อยก็ยังรู้สึกไม่เป็นอิสระอยู่ ดังนั้นเธอเลยไม่อยากพูดอะไร
จู่ๆ มีแรงกระแทกขนาดใหญ่ขึ้นมา เฉินเยี่ยนรู้สึกเจ็บก้น มือเธอตอบสนองเร็วกว่าสมองอีก เธอจับเสื้อผ้าซินห้าวแน่น เธอออกแรงดึงแน่น ถึงจะป้องกันไม่ให้ตกจากรถ
รอจนนั่งอย่างมั่นคงแล้ว เธอได้ยินซินห้าวพูด “ขอโทษด้วย หลุมเมื่อกี้ใหญ่มาก ไม่มีที่หลบ”
เฉินเยี่ยนเข้าใจได้ ทางในหมู่บ้าน มีบางที่เป็นหลุมขนาดใหญ่ อยากจะอ้อมก็ไม่ได้ ดังนั้นเมื่อกี้ไม่แปลกที่ซินห้าวจะขี่กระแทก นั่นทำให้ตัวเองต้องดึงเสื้อเขา เธอออกแรงมาก เฉินเยี่ยนคิดว่าถ้าซินห้าวไม่เคยฝึกหัดมาก่อน ถนนแย่ขนาดนั้น แล้วตัวเองออกแรงดึงด้วย กลัวว่าจะดึงซินห้าวตกลงมาจากรถได้ แล้วทั้งสองคนก็ล้มไปพร้อมกัน
“ไม่เป็นไร ผมรู้ว่ามีหลุม”
เฉินเยี่ยนพูดจบ ก็เสริมอีกประโยค “เสื้อคุณคุณภาพดีจัง”
มุมปากซินห้าวกระตุกขึ้นมา ผู้หญิงคนนี้บอกว่าเสื้อตัวเองคุณภาพดี จะบอกว่าเมื่อกี้เธอออกแรงดึงเสื้อตัวเองขนาดนั้นเสื้อยังไม่เสียใช่ไหม? เป็นเพราะตัวเขาด้วยเหมือนกัน ลองถ้าเปลี่ยนคนดู ไม่แน่โดนเธอออกแรงดึง เสียการทรงตัวล้มไปแล้วก็ได้ ยัยนี่บอกว่าเสื้อตัวเองคุณภาพดี ทำไมไม่บอกว่าตัวเขาขี่รถดีนะ
เฉินเยี่ยนพูดจบก็รู้สึกว่าคำพูดตัวเองประหลาด ทำไมพอเจอซินห้าวตัวเองถึงพูดจาไม่ค่อยถูกนะ เพราะรู้สึกว่าซินห้าวไม่ใช่คนไม่ดี เลยกล้าพูดจาสบายๆ ต่อหน้าเขาหรือ? หรือเป็นเพราะว่าวันนั้นเขาช่วยเจ้าของร่างเดิม ตัวเองถึงรู้สึกเชื่อใจเขาอย่างแปลกประหลาดนะ?
“ว่าแต่ เห็นคุณกลับมาบ่อยๆ คุณไม่ได้ทำงานหรือ?”
เฉินเยี่ยนรู้สึกว่าเงียบต่อไปก็ทนไม่ไหว เลยหาเรื่องคุยกับซินห้าว ฐานะที่บ้านซินห้าวไม่แย่เลย ว่ากันว่าที่บ้านจัดการหางานให้ทำได้ไม่มีปัญหา ทำไมถึงเห็นเขาว่างอยู่ตลอด”
เธอคิดว่าตัวเขาไม่ทำงาน เที่ยวเล่นไปวันๆ งั้นหรือ?
ซินห้าวอารมณ์ไม่ดีขึ้นมาหน่อยหนึ่งแล้ว
“ที่บ้านหางานให้ เป็นโรงงานที่ดีที่สุดในเมือง แต่ตัวผมไม่อยากไปเอง”
ซินห้าวเงียบไปสองนาที ตอนที่เฉินเยี่ยนคิดว่าเขาจะไม่พูดอะไรแล้ว เขาตอบเฉินเยี่ยนกลับมา
แต่เพราะว่าเฉินเยี่ยนนั่งอยู่เบาะหลัง มองไม่เห็นรอยยิ้มมุมปากประชดประชันของซินห้าว
คุณสิ้นเปลืองขนาดนี้ ที่บ้านรู้ไหมเนี่ย?
เฉินเยี่ยนอยากจะถามมาก แต่ที่บ้านซินห้าวต้องรู้อยู่แล้ว เพียงแต่น่าเสียดายจริงๆ ตอนนี้มีคนตั้งมากมายแข่งขันกัน ทั้งร้องทั้งเรียก คิดสารพัดวิธีจะได้ไปเป็นคนงาน ถ้าที่บ้านมีคนงาน เดินไปที่ไหนก็สามารถยืดได้เลย คนอื่นจะหมั่นไส้อิจฉา ซินห้าวคนนี้กลับไม่ไป นี่ไม่ใช่ว่าสิ้นเปลืองเหรอ
“อ้อ”
เฉินเยี่ยนคิดในใจ แต่ปากก็ไม่ได้พูดอะไร ตอนนี้คนงานในยุคนี้เป็นที่นิยมมาก แต่พอพัฒนาไปเรื่อยๆ คนที่ยอมเป็นคนงานจะมีสักกี่คน? คนเราไม่อยากทำก็ไม่ทำสินะ ยังไงพ่อแม่เขามีปัญญา สามารถเลี้ยงเขาได้ ไม่ต้องมานั่งทุกข์ใจ
“เธอจะไม่พูดอะไรหน่อยเหรอ?”
ซินห้าวได้ยินคนข้างหลังพูดอ้อคำเดียวแล้วก็ไม่พูดอะไรอีก เขาแปลกใจมาก ฝืนหยุดรถคิดจะหันหน้ามามองสีหน้าเฉินเยี่ยน แล้วถามเธอ
“พูดอะไร?”
เฉินเยี่ยนไม่เข้าใจ
“เธอไม่ด่าฉัน? ไม่รู้สึกว่าฉันควรจะไปเป็นคนงาน ไม่ไปก็คือไม่รับเจตนาที่ดีของที่บ้าน ไม่ไปก็คือไม่ก้าวหน้า ไม่รู้ว่าอะไรดีไม่ดีหรือ?”
เสียงซินห้าวฟังดูเย็นชาเล็กน้อย ร่างกายแข็งเกร็ง
“ทำไมฉันจะต้องว่าคุณ? คุณอยากจะไปเป็นคนงานก็ไป ไม่อยากไปก็ไม่ต้องไป นี่เป็นสิทธิ์ของคุณ คนอื่นไม่มีสิทธิ์เข้ามายุ่ง และไม่มีสิทธิ์มาว่าอะไรคุณ อีกอย่าง ไม่ใช่ว่าเป็นคนงานจะถือว่าก้าวหน้าอย่างเดียว แค่มีวิธีของตัวเอง มีความคิดของตัวเอง มีเรื่องที่ตัวเองทำ ไม่ว่าจะทำอะไร ฉันว่าก็ดีหมดแหละ”
เฉินเยี่ยนพูดตามจริง เดิมทีเธอไม่ใช่คนยุคนี้อยู่แล้ว ดังนั้นความคิดของเธอไม่เหมือนกับคนยุคนี้ และคำพูดนี้ของเธอก็ทิ่มแทงใจซินห้าว ซินห้าวเบรกรถ รถหยุดลง
เฉินเยี่ยนไม่ทันตั้งตัว หัวเธอพุ่งไปชนเอวซินห้าว ครั้งนี้เธอดึงเสื้อซินห้าวไม่ทัน มือรีบคว้าไปจับอะไรก็ได้กลัวว่าตัวเองจะหล่น เธอจับเอวซินห้าว กว่าตัวเองจะนิ่ง
“เป็นอะไรอีก?”
เฉินเยี่ยนร่ำไห้ในใจ ขี่รถให้มันดีๆ หน่อยได้ไหม? ถ้าไม่ได้ก็บอกมา ไม่ต้องพามาแบบนี้ แป๊ปเดียวนี่สองครั้งแล้ว สองครั้งที่เธอเกือบจะหล่นลงจากรถ
เดิมทีซินห้าวอยากจะถามเฉินเยี่ยน แต่สองมือที่เอวนั้นทำให้ตัวเขาแข็งทื่อ ต้องบอกว่าเด็กยุคนี้ยังใสๆ อยู่ เฉินเยี่ยนแค่กลัวว่าจะตกรถเลยโอบเอวซินห้าวโดยไม่ได้ตั้งใจ ซินห้าวหน้าแดงเล็กน้อย มีความไม่สบายตัวแวบขึ้นมาในใจ แต่เขาไม่ได้ขับไล่ และไม่ได้รังเกียจเฉินเยี่ยน
ซินห้าวหยุดรถหันมามองหน้าเฉินเยี่ยน สีหน้าเฉินเยี่ยนเป็นปกติ ไม่มีความรู้สึกอื่ ซินห้าวถึงค่อยแอบโล่งใจ
“เมื่อกี้เธอพูดจริงเหรอ? เธอคิดแบบนั้นจริงๆ เหรอ?”
ซินห้าวจ้องเขม็งถามเฉินเยี่ยน ในใจเขารู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อยและคาดหวังอย่างประหลาด
เฉินเยี่ยนพยักหน้า สีหน้าก็ดูจริงจัง นี่เป็นความคิดของเธอจริงๆ
มองดูเฉินเยี่ยนแล้ว ซินห้าวรู้สึกได้ว่าเธอจริงใจ ซินห้าวค่อยสบายใจ ที่แท้ ที่แท้ในโลกนี้ยังมีคนหนึ่งที่เข้าใจตัวเอง แล้วยังมีคนที่มีความคิดเหมือนตัวเองอยู่ เธอไม่เหมือนคนอื่นที่มองเขาแบบนั้น ดูแล้วตัวเขาก็ไม่ได้ผิด ยัยคนนี้นี่ดี
เวลานี้ซินห้าวลืมไปแล้วว่าก่อนหน้านี้ยังเรียกเฉินเยี่ยนว่ายัยหน้าเหม็นในใจอยู่เลย
“ไปกันเถอะ ครั้งนี้รับรองว่าจะไม่ให้เธอนั่งไม่สบายอีก”
ซินห้าวพูดไปก็ยิ้มเล็กน้อย เหมือนภูเขาน้ำแข็งละลาย เฉินเยี่ยนเห็นแล้วอึ้งไป
ผู้ชายคนนี้หล่อมาก เฉินเยี่ยนคิดแบบนี้ จากนั้นก็ลงมานั่งซ้อนเบาะท้ายจักรยานโดยไม่รู้ตัว ลืมไปเลยว่าเมื่อกี้ตัวเองเพิ่งพูดในใจว่าจะไม่นั่งจักรยานคันนี้ สู้ตัวเองเดินไปดีกว่า
จนเฉินเยี่ยนรู้สึกตัว ซินห้าวก็ขี่ออกมาไกลแล้ว อ้า ชายหนุ่มรูปงาม คิดไม่ถึงว่าตัวเองจะมีวันนี้ แต่ก็ได้นั่งแล้ง ตัวเองไม่ต้องลงไปแล้ว เพียงแต่พ่อหนุ่มรูปงามคนนี้เป็นอะไรนะ? ทำไมเขาต้องใส่ใจความคิดเธอขนาดนี้?
เฉินเยี่ยนคิดจริงจัง เอาคำพูดซินห้าวและการกระทำเขามาเชื่อมโยงกันเธอก็เข้าใจแล้ว ต้องเป็นเพราะหลังซินห้าวกลับมาที่บ้านแล้วที่บ้านจัดหางานให้เขา ให้เขาไปเป็นคนงาน ส่วนซินห้าวมีความคิดของตัวเอง ไม่อยากไป ที่บ้านและคนรอบข้างจึงต่อว่าเขา คิดว่าเขาไม่มีหัวก้าวหน้า คนอื่นแย่งกันยังแย่งไม่ได้เลย เขากลับไม่ไป นี่เท่ากับเขาไม่เห็นค่าในความตั้งใจของคนอื่น อยากจะว่างงาน และไม่ยอมไปเป็นคนงาน นี่เป็นการเที่ยวเล่นไปเรื่อย เป็นเด็กไม่ดี น่าจะเป้นความคิดของคนที่บ้านและคนรอบข้างทิ่มแทงซินห้าว สร้างความกดดันให้เขามาก ดังนั้นหลังได้ยินความคิดเธอ พ่อคนนี้ถึงได้ตื่นเต้น มีปฏิกิริยาขนาดนี้
อ้า ช่างน่าสงสารจัง คุณเกิดในยุคที่ผิด ถ้าเกิดหลังกว่านี้อีกยี่สิบปี คุณก็แค่อาศัยหน้าตาหาเงิน ไม่ต้องพูดถึงอย่างอื่นเลย เป็นดาราก็สามารถดังได้ข้ามคืน น่าเสียดาย ตอนนี้ยุคนี้ ไม่เป็นคนงาน ก็โดนกดดันหนักมาก
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้นำมาจากแหล่งอื่นและได้รับการอนุญาตจากเจ้าของแล้ว
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ