เปลี่ยนชีวิต พลิกชะตารัก
-
เขียนโดย Xiaobei
วันที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 เวลา 16.58 น.
64 ตอน
0 วิจารณ์
48.58K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 17.00 น. โดย เจ้าของนิยาย
56) ตอนที่56: ขึ้นมา
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความตอนที่56: ขึ้นมา
“ยิ้มอะไร?”
ซินห้าวทนดูท่าทางเฉินเยี่ยนต่อไปไม่ไหวแล้ว เธอบื้อขนาดนี้ ที่บ้านเธอรู้ไหมเนี่ย?
“ขำคุณ...”
เฉินเยี่ยนเผลอพูดออกมา พูดไปได้สองคำเธอก็เห็นหน้าซินห้าวไม่สบอารมณ์แล้ว เธอเลยรีบหยุด แล้วพูด “ไม่มีอะไร ไม่มีอะไร ไม่ได้ขำคุณ จริงๆ แล้วนี่คุณจะไปไหน?”
เฉินเยี่ยนเปลี่ยนหัวข้อ เธอกลัวว่าพูดต่อไป ซินห้าวจะควบคุมตัวเองไม่ได้มาฆ่าเธอ
ซินห้าวอดทนความคิดที่อยากจะบีบคอเฉินเยี่ยนเป็นอย่างมาก อะไรคือยิ่งอธิบายก็ยิ่งเข้าตัว เธอรู้ไหม? เธอพูดแบบนี้ เปลี่ยนหัวข้อแล้วเปลี่ยนกะทันหัน แบบนี้ หมายความว่าเธอกำลังหัวเราะฉันอยู่รู้ไหม?
เขอดทนคุมความหุนหันพลันแล่นของตัวเองไว้ ผู้หญิงร้ายกาจคนนี้หัวเราะตัวเองจริงด้วย ตัวเขามีอะไรน่าขำ หน้าเขาก็ไม่มีรอย ตอนเช้าเขาก็ล้างหน้ามาแล้วนะ หน้าก็ไม่สกปรก หรือสวมเสื้อผ้าไม่ถูกต้อง? เป็นไปไม่ได้ ถ้าสวมไม่ถูก ยายต้องบอกเขาแน่นอน ในเมื่อตัวเขาเองไม่มีอะไรผิดแปลก งั้นยัยนี่ทำไมต้องหัวเราะเขาด้วย?
ช่างเป็นยัยผู้หญิงที่ประหลาดจริง เห็นๆ อยู่ว่าเมื่อกี้ตกใจตัวเอง แล้วก็หัวเราะ สมองต้องผิดปกติแน่ๆ เอาเถอะ ตัวเขา ไม่ได้รู้จักเธอแบบปกติ ซินห้าวปลอบใจตัวเอง
“ฉันจะไปอำเภอ เธอล่ะ?”
ถึงแม้ซินห้าวจะคิดในใจ แต่เขาก็ยังตอบเฉินเยี่ยน
“ฉันก็จะไปในอำเภอเหมือนกัน ไปดูที่สหกรณ์”
เฉินเยี่ยนคิดว่าไม่มีอะไรที่ไม่สามารถพูดได้
“อ้อ”
ซินห้าวตอบอ้อ จากนั้นมองเฉินเยี่ยน เขาไม่ได้พูดอะไร เฉินเยี่ยนก็ไม่รู้จะพูดอะไร ยังไงทั้งสองคนก็ไม่ได้สนิทกัน ถึงแม้เธอจะเคยฟังเรื่องของซินห้าวจากพ่อเธอ ซินห้าวก็น่าจะเคยได้ยินเรื่องเธอจากปากคนอื่น แต่ก็แค่เคยได้ยิน ทั้งสองคนไม่มีอะไรจะคุยกันจริงๆ
“คุณไม่ได้จะกลับไปในอำเภอเหรอ? งั้นคุณรีบไปเถอะ ลาก่อน”
เฉินเยี่ยนรู้สึกว่ายืนอยู่อย่างนี้ก็ไม่ใช่ทางออก เลยพูดลาก่อนกับซินห้าว พูดจบก็โบกมือให้ซินห้าว เขาขี่จักรยานมา ตัวเธอเดินเท้า แล้วก็ไม่สามารถทำคนอื่นเสียเวลาไปตลอดทางได้
สีหน้าซินห้าวที่สงบลงกลับมาไม่สบอารมณ์อีกแล้ว ยัยนี่เป็นอะไร เธอรังเกียจตัวเองขนาดนี้เลยเหรอ ทนไม่ได้ต้องขีดเส้นอยู่ห่างจากตัวเอง ให้ตัวเขาหายไปต่อหน้าเธอ ทนมองดูเขาไม่ได้ขนาดนี้เลย? ครั้งที่แล้วพูดกันอยู่ว่าจะถวายตัว ครั้งนี้ไล่ตัวเอง ยัยนี่ผิดปกติ
“ไปละ”
ซินห้าวพูดเสียงเย็นชา ขี่จักรยานไปด้วยจิตใจมัวหมอง
เฉินเยี่ยนขยับริมฝีปาก ตัวเองไม่ได้ทำอะไรผิดต่อเขา ให้เขารีบไปก็เพื่อตัวเขาเอง ทำไมต้องชักสีหน้าใส่เธอ
เฉินเยี่ยนยักไหล่ ช่างเขาละ ตัวเองไปของตัวเองก็พอ
เฉินเยี่ยนคิดจบก็ไม่มองต้นกล้า แล้วเดินไปข้างหน้า เดินไปเรื่อยๆ ยังไงก็ไม่เกี่ยวกับเรื่องของเธอ
ฝั่งซินห้าวยิ่งทีหน้ายิ่งไม่สบอารมณ์ ยัยคนนี้เดินเร็วกว่านี้ไม่ได้หรือไง? ไม่รู้หรื่อไงว่าเขารอเธออยู่?
กว่าเฉินเยี่ยนจะเดินมาถึงข้างซินห้าว เธอเห็นซินห้าว แล้วถามอย่างสบายๆ “ทำไมไม่ไปแล้วล่ะ? รถเสียเหรอ? หรือโซ่หลุด? ให้ฉันช่วยไหม? บอกก่อนนะ ทำโซ่หลุดฉันยังพอช่วยได้ แต่รถเสียนี่ฉันช่วยไม่ได้นะ”
เฉินเยี่ยนเห็นซินห้าวไม่ไปเสียที เลยนึกว่ารถซินห้าวมีปัญหาจริงๆ
ซินห้าวอดไม่ได้อุดปากเฉินเยี่ยน ในใจเต็มไปด้วยคำบ่น เธอสิทำโซ่หลุด เธอทั้งบ้านโซ่หลุดกันหมด
“ขึ้นมา”
ซินห้าวคิดว่าตัวเองพูดกับเฉินเยี่ยนต่อไปไม่ได้แล้ว ผู้หญิงคนนี้ทำไมไม่เหมือนผู้หญิงคนอื่นนะ แต่ซินห้าวไม่คิดแล้ว ผู้หญิงที่เขารู้จักไม่เยอะ ตั้งหลายปีที่เขาไม่ได้พูดคุยกับผู้หญิงเลย หลังจากกลับมา ที่บ้านจัดการให้เขาไปดูตัว ฐานะดี หน้าตาดี การงานดีก็มีหมด แต่เขารู้สึกแตกแยกจากผู้หญิง เขาไม่อยากติดต่อกับผู้หญิง แต่สำหรับเฉินเยี่ยนแล้ว มีรู้ว่าทำไมเขาถึงไม่ออกห่าง บางทีอาจจะเป็นเพราะว่าเขาช่วยเธอไว้มั้ง
“อ๊ะ”
เฉินเยี่ยนร้องอ๊ะ ไม่เข้าใจความหมายของซินห้าว ให้ตัวเองขึ้นมา ขึ้นไปไหนล่ะ?”
เธอมองดูที่นั่งหลังจักรยานของซินห้าวแวบหนึ่ง เข้าใจแล้ว จะให้ตัวเธอขึ้นไปนั่งบนรถแล้วเขาขี่พาเธอไปใช่ไหม? แต่เธอไม่ได้คิดจะนั่งรถเขาเลย ดังนั้นเมื่อกี้เลยตอบสนองช้าไปหน่อย
“ไม่ล่ะ คุณขี่ไปเถอะ ฉันไม่ได้ตัวเบาๆ นะ แบกฉันไปจะเหนื่อยเอา”
เฉินเยี่ยนส่ายหน้า ถึงแม้ซ้อนจักรยานจะไม่มีอะไร แต่ตัวเองและซินห้าวไม่ได้สนิทกัน คนหนึ่งเป็นชายหนุ่ม อีกคนเป็นหญิงสาว ใครเห็นจะพูดจานินทาได้ ถึงแม้เธอจะไม่สนใจเรื่องนี้ และก็ไม่ได้รังเกียจซินห้าว แต่ยุคสมัยนี้ เธอระวังตัวไว้หน่อยก็ดี
“ฉันไม่ทำเธอตกหรอก”
ยัยโง่ ตัวเขามีเจตนาดีจะพาเธอไป เธอกลับปฏิเสธ ซินห้าวอยากจะรู้จริงๆ ว่าในสมองเฉินเยี่ยนคิดอะไรอยู่ ที่ตัวเขาอยู่วัดเส้าหลินมาหลายปีนี้หรือว่าจะอยู่เสียเปล่า? ผู้ชายธรรมดาหลายคนยังสู้เขาไม่ได้เลย สู้อะไรกับให้คนซ้อนจักรยาน นั่นเหมือนนั่งเล่นมากกว่า
อันที่จริงเธอก็ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น เฉินเยี่ยนพูดไม่ออก จะให้เธอพูดยังไง?
“กลัวเหรอ?”
ซินห้าวเลิกคิ้วถามฉฺนเยี่ยน ตอนแรกเขาไม่ได้คิดมากขนาดนั้น เขาขี่ออกมาแล้วถึงค่อยคิดได้ว่าให้เฉินเยี่ยนไปอำเภอคนเดียวจะแย่มาก อำเภอไกลมาก แล้วเฉินเยี่ยนเดินช้าเหมือนทากขนาดนั้นจะเดินไปถึงเมื่อไร ไปถึงเดินดูแล้วกลับมา เธอเป็นผู้หญิงบอบบางต้องเหนื่อยแน่นอน ตัวเองมาเจอพอดีก็พาเธอไปอำเภอด้วยกันเลย ยังไงก็ทางเดียวกัน เพียงแต่เขาคิดไม่ถึงว่ายัยนี่จะไม่ยอมรับน้ำใจ แต่ตอนนี้เขาตอบโต้กลับบ้างแล้ว ยัยนี่น่าจะกลัวคนอื่นนินทา แต่เขาไม่ได้คิดอย่างอื่นเลย กลัวคนอื่นพูดอะไร ก็แค่นั่งเฉยๆ หรือคนอื่นพูดอะไรก็ไม่ต้องใช้ชีวิตแล้ว?
ยัยคนนี้ไม่น่าจะเป็นคนแบบนั้นนี่นา ดูเธอจัดการเรื่องอื่นก็ใจกล้าอยู่
ฉันกลัว? ฉันต้องกลัวอะไร นั่งก็นั่ง”
เฉินเยี่ยนพูดจบก็นั่งซ้อนเบาะท้ายเหมือนอารมณ์เสีย รถในยุคนี้เป็นแบบคันใหญ่ เบาะนั่งด้านหลังกว้างมาก ไม่ต้องกลัวจะนั่งไม่ดี
อันที่จริงเฉินเยี่ยนไม่ได้อารมณ์เสีย เลย นั่งรถประหยัดแรงเธอก็รู้ มีรถนั่ง ทำไมจะต้องใช้สองขาเดินล่ะ เดินก็เมื่อย เมื่อกี้เธอกลัวคนอื่นพูดนินทา แต่ตอนหลังเธอก็คิดได้ ซินห้าวน่าจะไม่ได้มีความคิดอย่างอื่น เขาดีกว่าตัวเองตั้งเยอะ จะมาคิดอะไรกับตัวเองได้? เป็นเจตนาดีล้วนๆ อีกอย่างเธอรู้สึกว่าซินห้าวถึงแม้ภายนอกจะดูเย็นชามาก แต่เป็นคนที่เรียบง่าย บริสุทธิ์ใจ จิตใจไม่คดเคี้ยว เห็นชัดว่าเขาไม่ได้มีความคิดอย่างอื่นเลย ตัวเองกลับปฏิเสธเขา ดูจงใจไป
ซินห้าวรู้สึกถึงเบาะท้ายที่จมลง มีน้ำหนักเพิ่มขึ้นมา เขาประคองที่บังคับรถ ริมฝีปากยิ้มขึ้น เผยให้เห็นรอยยิ้มที่ตัวเองก็ไม่รู้ตัว รถออกตัวไป
เฉินเยี่ยนจับเบาะท้ายแน่น เธอไม่ได้จับเสื้อผ้าซินห้าว เพราะรู้สึกเกรงใจ แต่ไม่จับอะไรเลยก็ไม่ได้ ทางเป็นดิน ถนนไม่ดี เป็นหลุมเป็นบ่อ ขนาดซินห้าวถือว่าขี่เก่งแล้ว แต่ยังกระเด้งกระดอนอยู่เลย ดังนั้นเฉินเยี่ยนจึงต้องจับเบาะท้ายให้แน่น
“ยิ้มอะไร?”
ซินห้าวทนดูท่าทางเฉินเยี่ยนต่อไปไม่ไหวแล้ว เธอบื้อขนาดนี้ ที่บ้านเธอรู้ไหมเนี่ย?
“ขำคุณ...”
เฉินเยี่ยนเผลอพูดออกมา พูดไปได้สองคำเธอก็เห็นหน้าซินห้าวไม่สบอารมณ์แล้ว เธอเลยรีบหยุด แล้วพูด “ไม่มีอะไร ไม่มีอะไร ไม่ได้ขำคุณ จริงๆ แล้วนี่คุณจะไปไหน?”
เฉินเยี่ยนเปลี่ยนหัวข้อ เธอกลัวว่าพูดต่อไป ซินห้าวจะควบคุมตัวเองไม่ได้มาฆ่าเธอ
ซินห้าวอดทนความคิดที่อยากจะบีบคอเฉินเยี่ยนเป็นอย่างมาก อะไรคือยิ่งอธิบายก็ยิ่งเข้าตัว เธอรู้ไหม? เธอพูดแบบนี้ เปลี่ยนหัวข้อแล้วเปลี่ยนกะทันหัน แบบนี้ หมายความว่าเธอกำลังหัวเราะฉันอยู่รู้ไหม?
เขอดทนคุมความหุนหันพลันแล่นของตัวเองไว้ ผู้หญิงร้ายกาจคนนี้หัวเราะตัวเองจริงด้วย ตัวเขามีอะไรน่าขำ หน้าเขาก็ไม่มีรอย ตอนเช้าเขาก็ล้างหน้ามาแล้วนะ หน้าก็ไม่สกปรก หรือสวมเสื้อผ้าไม่ถูกต้อง? เป็นไปไม่ได้ ถ้าสวมไม่ถูก ยายต้องบอกเขาแน่นอน ในเมื่อตัวเขาเองไม่มีอะไรผิดแปลก งั้นยัยนี่ทำไมต้องหัวเราะเขาด้วย?
ช่างเป็นยัยผู้หญิงที่ประหลาดจริง เห็นๆ อยู่ว่าเมื่อกี้ตกใจตัวเอง แล้วก็หัวเราะ สมองต้องผิดปกติแน่ๆ เอาเถอะ ตัวเขา ไม่ได้รู้จักเธอแบบปกติ ซินห้าวปลอบใจตัวเอง
“ฉันจะไปอำเภอ เธอล่ะ?”
ถึงแม้ซินห้าวจะคิดในใจ แต่เขาก็ยังตอบเฉินเยี่ยน
“ฉันก็จะไปในอำเภอเหมือนกัน ไปดูที่สหกรณ์”
เฉินเยี่ยนคิดว่าไม่มีอะไรที่ไม่สามารถพูดได้
“อ้อ”
ซินห้าวตอบอ้อ จากนั้นมองเฉินเยี่ยน เขาไม่ได้พูดอะไร เฉินเยี่ยนก็ไม่รู้จะพูดอะไร ยังไงทั้งสองคนก็ไม่ได้สนิทกัน ถึงแม้เธอจะเคยฟังเรื่องของซินห้าวจากพ่อเธอ ซินห้าวก็น่าจะเคยได้ยินเรื่องเธอจากปากคนอื่น แต่ก็แค่เคยได้ยิน ทั้งสองคนไม่มีอะไรจะคุยกันจริงๆ
“คุณไม่ได้จะกลับไปในอำเภอเหรอ? งั้นคุณรีบไปเถอะ ลาก่อน”
เฉินเยี่ยนรู้สึกว่ายืนอยู่อย่างนี้ก็ไม่ใช่ทางออก เลยพูดลาก่อนกับซินห้าว พูดจบก็โบกมือให้ซินห้าว เขาขี่จักรยานมา ตัวเธอเดินเท้า แล้วก็ไม่สามารถทำคนอื่นเสียเวลาไปตลอดทางได้
สีหน้าซินห้าวที่สงบลงกลับมาไม่สบอารมณ์อีกแล้ว ยัยนี่เป็นอะไร เธอรังเกียจตัวเองขนาดนี้เลยเหรอ ทนไม่ได้ต้องขีดเส้นอยู่ห่างจากตัวเอง ให้ตัวเขาหายไปต่อหน้าเธอ ทนมองดูเขาไม่ได้ขนาดนี้เลย? ครั้งที่แล้วพูดกันอยู่ว่าจะถวายตัว ครั้งนี้ไล่ตัวเอง ยัยนี่ผิดปกติ
“ไปละ”
ซินห้าวพูดเสียงเย็นชา ขี่จักรยานไปด้วยจิตใจมัวหมอง
เฉินเยี่ยนขยับริมฝีปาก ตัวเองไม่ได้ทำอะไรผิดต่อเขา ให้เขารีบไปก็เพื่อตัวเขาเอง ทำไมต้องชักสีหน้าใส่เธอ
เฉินเยี่ยนยักไหล่ ช่างเขาละ ตัวเองไปของตัวเองก็พอ
เฉินเยี่ยนคิดจบก็ไม่มองต้นกล้า แล้วเดินไปข้างหน้า เดินไปเรื่อยๆ ยังไงก็ไม่เกี่ยวกับเรื่องของเธอ
ฝั่งซินห้าวยิ่งทีหน้ายิ่งไม่สบอารมณ์ ยัยคนนี้เดินเร็วกว่านี้ไม่ได้หรือไง? ไม่รู้หรื่อไงว่าเขารอเธออยู่?
กว่าเฉินเยี่ยนจะเดินมาถึงข้างซินห้าว เธอเห็นซินห้าว แล้วถามอย่างสบายๆ “ทำไมไม่ไปแล้วล่ะ? รถเสียเหรอ? หรือโซ่หลุด? ให้ฉันช่วยไหม? บอกก่อนนะ ทำโซ่หลุดฉันยังพอช่วยได้ แต่รถเสียนี่ฉันช่วยไม่ได้นะ”
เฉินเยี่ยนเห็นซินห้าวไม่ไปเสียที เลยนึกว่ารถซินห้าวมีปัญหาจริงๆ
ซินห้าวอดไม่ได้อุดปากเฉินเยี่ยน ในใจเต็มไปด้วยคำบ่น เธอสิทำโซ่หลุด เธอทั้งบ้านโซ่หลุดกันหมด
“ขึ้นมา”
ซินห้าวคิดว่าตัวเองพูดกับเฉินเยี่ยนต่อไปไม่ได้แล้ว ผู้หญิงคนนี้ทำไมไม่เหมือนผู้หญิงคนอื่นนะ แต่ซินห้าวไม่คิดแล้ว ผู้หญิงที่เขารู้จักไม่เยอะ ตั้งหลายปีที่เขาไม่ได้พูดคุยกับผู้หญิงเลย หลังจากกลับมา ที่บ้านจัดการให้เขาไปดูตัว ฐานะดี หน้าตาดี การงานดีก็มีหมด แต่เขารู้สึกแตกแยกจากผู้หญิง เขาไม่อยากติดต่อกับผู้หญิง แต่สำหรับเฉินเยี่ยนแล้ว มีรู้ว่าทำไมเขาถึงไม่ออกห่าง บางทีอาจจะเป็นเพราะว่าเขาช่วยเธอไว้มั้ง
“อ๊ะ”
เฉินเยี่ยนร้องอ๊ะ ไม่เข้าใจความหมายของซินห้าว ให้ตัวเองขึ้นมา ขึ้นไปไหนล่ะ?”
เธอมองดูที่นั่งหลังจักรยานของซินห้าวแวบหนึ่ง เข้าใจแล้ว จะให้ตัวเธอขึ้นไปนั่งบนรถแล้วเขาขี่พาเธอไปใช่ไหม? แต่เธอไม่ได้คิดจะนั่งรถเขาเลย ดังนั้นเมื่อกี้เลยตอบสนองช้าไปหน่อย
“ไม่ล่ะ คุณขี่ไปเถอะ ฉันไม่ได้ตัวเบาๆ นะ แบกฉันไปจะเหนื่อยเอา”
เฉินเยี่ยนส่ายหน้า ถึงแม้ซ้อนจักรยานจะไม่มีอะไร แต่ตัวเองและซินห้าวไม่ได้สนิทกัน คนหนึ่งเป็นชายหนุ่ม อีกคนเป็นหญิงสาว ใครเห็นจะพูดจานินทาได้ ถึงแม้เธอจะไม่สนใจเรื่องนี้ และก็ไม่ได้รังเกียจซินห้าว แต่ยุคสมัยนี้ เธอระวังตัวไว้หน่อยก็ดี
“ฉันไม่ทำเธอตกหรอก”
ยัยโง่ ตัวเขามีเจตนาดีจะพาเธอไป เธอกลับปฏิเสธ ซินห้าวอยากจะรู้จริงๆ ว่าในสมองเฉินเยี่ยนคิดอะไรอยู่ ที่ตัวเขาอยู่วัดเส้าหลินมาหลายปีนี้หรือว่าจะอยู่เสียเปล่า? ผู้ชายธรรมดาหลายคนยังสู้เขาไม่ได้เลย สู้อะไรกับให้คนซ้อนจักรยาน นั่นเหมือนนั่งเล่นมากกว่า
อันที่จริงเธอก็ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น เฉินเยี่ยนพูดไม่ออก จะให้เธอพูดยังไง?
“กลัวเหรอ?”
ซินห้าวเลิกคิ้วถามฉฺนเยี่ยน ตอนแรกเขาไม่ได้คิดมากขนาดนั้น เขาขี่ออกมาแล้วถึงค่อยคิดได้ว่าให้เฉินเยี่ยนไปอำเภอคนเดียวจะแย่มาก อำเภอไกลมาก แล้วเฉินเยี่ยนเดินช้าเหมือนทากขนาดนั้นจะเดินไปถึงเมื่อไร ไปถึงเดินดูแล้วกลับมา เธอเป็นผู้หญิงบอบบางต้องเหนื่อยแน่นอน ตัวเองมาเจอพอดีก็พาเธอไปอำเภอด้วยกันเลย ยังไงก็ทางเดียวกัน เพียงแต่เขาคิดไม่ถึงว่ายัยนี่จะไม่ยอมรับน้ำใจ แต่ตอนนี้เขาตอบโต้กลับบ้างแล้ว ยัยนี่น่าจะกลัวคนอื่นนินทา แต่เขาไม่ได้คิดอย่างอื่นเลย กลัวคนอื่นพูดอะไร ก็แค่นั่งเฉยๆ หรือคนอื่นพูดอะไรก็ไม่ต้องใช้ชีวิตแล้ว?
ยัยคนนี้ไม่น่าจะเป็นคนแบบนั้นนี่นา ดูเธอจัดการเรื่องอื่นก็ใจกล้าอยู่
ฉันกลัว? ฉันต้องกลัวอะไร นั่งก็นั่ง”
เฉินเยี่ยนพูดจบก็นั่งซ้อนเบาะท้ายเหมือนอารมณ์เสีย รถในยุคนี้เป็นแบบคันใหญ่ เบาะนั่งด้านหลังกว้างมาก ไม่ต้องกลัวจะนั่งไม่ดี
อันที่จริงเฉินเยี่ยนไม่ได้อารมณ์เสีย เลย นั่งรถประหยัดแรงเธอก็รู้ มีรถนั่ง ทำไมจะต้องใช้สองขาเดินล่ะ เดินก็เมื่อย เมื่อกี้เธอกลัวคนอื่นพูดนินทา แต่ตอนหลังเธอก็คิดได้ ซินห้าวน่าจะไม่ได้มีความคิดอย่างอื่น เขาดีกว่าตัวเองตั้งเยอะ จะมาคิดอะไรกับตัวเองได้? เป็นเจตนาดีล้วนๆ อีกอย่างเธอรู้สึกว่าซินห้าวถึงแม้ภายนอกจะดูเย็นชามาก แต่เป็นคนที่เรียบง่าย บริสุทธิ์ใจ จิตใจไม่คดเคี้ยว เห็นชัดว่าเขาไม่ได้มีความคิดอย่างอื่นเลย ตัวเองกลับปฏิเสธเขา ดูจงใจไป
ซินห้าวรู้สึกถึงเบาะท้ายที่จมลง มีน้ำหนักเพิ่มขึ้นมา เขาประคองที่บังคับรถ ริมฝีปากยิ้มขึ้น เผยให้เห็นรอยยิ้มที่ตัวเองก็ไม่รู้ตัว รถออกตัวไป
เฉินเยี่ยนจับเบาะท้ายแน่น เธอไม่ได้จับเสื้อผ้าซินห้าว เพราะรู้สึกเกรงใจ แต่ไม่จับอะไรเลยก็ไม่ได้ ทางเป็นดิน ถนนไม่ดี เป็นหลุมเป็นบ่อ ขนาดซินห้าวถือว่าขี่เก่งแล้ว แต่ยังกระเด้งกระดอนอยู่เลย ดังนั้นเฉินเยี่ยนจึงต้องจับเบาะท้ายให้แน่น
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้นำมาจากแหล่งอื่นและได้รับการอนุญาตจากเจ้าของแล้ว
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ