เปลี่ยนชีวิต พลิกชะตารัก
-
เขียนโดย Xiaobei
วันที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 เวลา 16.58 น.
64 ตอน
0 วิจารณ์
48.58K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 17.00 น. โดย เจ้าของนิยาย
53) ตอนที่53:เธอเป็นแบบนี้น่ารังเกียจมาก
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความตอนที่53:เธอเป็นแบบนี้น่ารังเกียจมาก
เฉินเยี่ยนพูดจบก็เข้าไปห้องครัว เฉินเวยรีบดึงแขนเสื้อเฉินเยี่ยน น้ำตาไหลพรากพูด “พี่ อย่าโกรธฉันเลย ฉันไม่ได้โทษว่าพี่ไม่ดีกับฉัน แล้วฉันก็ไม่ได้คิดว่าพี่ดีกับจวนเอ๋อร์มากกว่าฉัน ฉันแค่รู้สึกว่าตัวเองช่วยอะไรพี่ไม่ได้ กลัวพี่จะไม่ชอบฉัน เพราะฉันกลัว ฉันเลยพูดผิดไป พี่ดีกับฉันมากที่สุด ใช่ไหม?”
เห็นเฉินเวยพูดแบบนี้ หวางนิวถึงค่อยแสดงสีหน้าพอใจออกมา ลูกคนเล็กยังถือว่ารู้เรื่อง พี่น้องแท้ๆ ยังไงก็ดีที่สุด
เฉินเยี่ยนเกือบจะอ้วกออกมาแล้ว การแสดงของเฉินเวยนี่ยอดเยี่ยมจริงๆ บอกว่าจะไม่แกล้งน่าสงสารอีกแล้วไม่ใช่หรือ? ทำไมมาอีกล่ะ โชคดีที่ท้องเธอไม่มีอะไร ไม่อย่างนั้นคงอ้วกใส่ตัวเฉินเวยแน่
“เธอเป็นน้องแท้ๆ ของฉัน แล้วยังคิดจะช่วยฉันอีก ทำไมฉันจะต้องโกรธเธอล่ะ ที่พูดก่อนหน้านี้ ก็เพราะอยากให้เธอเข้าใจเหตุผล เอาเถอะ เธออย่าเป็นแบบนี้ต่อเลย ดูเธออายุเยอะขนาดนี้แล้ว ไม่ใช่เด็กสามสี่ขวบที่อยากร้องก็ร้อง เด็กสามสี่ขงบร้องได้ ยังทำให้คนรู้สึกน่ารัก รู้สึกสงสาร เธอโตขนาดนี้แล้ว เอะอะก็ร้องไห้ คนอื่นเห็นแบบนี้จะคิดว่าเธอน่ากลั่นแกล้ง เลยมาแกล้งเธอ อีกหน่อยอย่าทำแบบนี้อีกเลย คนอื่นจะคิดว่าน่าขายหน้า”
เฉินเยี่ยนพูดจบก็ขยับแขนเล็กน้อย ดึงมือที่เฉินเวยจับแขนเสื้ออยู่ออก
“ใช่แล้ว เสี่ยวเวย ลูกอย่าเอะอะอะไรก็ร้องไห้ ที่บ้านไม่เป็นไร ออกไปข้างยอกคนอื่นจะคิดว่าลูกอ่อนแอ มาแกล้งลูก ฟังพี่เขา”
ฝั่งหวางนิวก็รีบเสริม
เฉินเวยกัดฟันจะแตกแล้ว น้ำตาเป็นอาวุธของเธอ ผู้หญิงร้องไห้ออดอ้อนน่าดึงดูดที่สุด ตัวเธอทำแบบนี้คนส่วนใหญ่เห็นก็จะสงสาร ถ้าเธอและเฉินเยี่ยนอยู่ด้วยกันเกิดเรื่องขัดแย้งกัน แบบเธอนี้คนอื่นมองก็รู้เลยว่าเธอคือคนที่โดนทำร้าย แล้วจะว่าเฉินเยี่ยน ช่วยออกหน้าแทนเธอ แต่เฉินเยี่ยนบอกตัวเองไม่ใช่เด็กเล็กๆ แล้ว ร้องไห้มาก็ทำให้คนอื่นเขารำคาญ เรียกให้ตัวเธอแก้ไข แม่คนนี้ก็แย่จริงเลย ตอนนี้คำพูดเฉินเยี่ยนกลายเป็นคำศักดิ์สิทธิ์ไปแล้ว แล้วตัวเธอจะมีที่ยืนอยู่อีกไหม!
เฉินเวยโกรธก็โกรธ แต่ก็ยังต้องรับปาก เธอเสแสร้งมาได้ตั้งหลายปี จะให้เปลี่ยนง่ายขนาดนั้นได้ยังไง เลยยังต้องแสดงออกอย่างน่าสงสารอยู่
เฉินเยี่ยนขี้เกียจจะสนใจแล้ว เธอเข้าไปในครัว ถึงแม้หวางนิวจะว่าลูกสาว แต่ในใจก็อดไม่ได้ จูงมือเฉินเวยมาแล้วเริ่มสั่งสอนเฉินเวย ส่วนคำพุดเธอจะทำให้เฉินเยี่ยนโกรธหรือเปล่านั้นไม่ได้อยู่ในเรื่องที่เฉินเยี่ยนสนใจ
หวางจวนมองดูทุกอย่างเงียบๆ เรื่องบ้านเฉินนั้น เธอเป็นคนนอก เรื่องบ้านเฉินไม่ใช่เรื่องที่จะสามารถพูดแทรกได้ เธอเลยได้แต่ดู พูดไม่ได้ ส่วนบ้านเฉินเธอรู้สึกซาบซึ้งในบุญคุณ ดังนั้นตอนแรกที่ฟังเฉินเวยเล่าเรื่องที่โดนรังแก รวมทั้งพี่สะใภ้ของเธอปฏิบัติแบบนั้นกับเธอ เธอรู้สึกเห็นอกเห็นใจและสงสารเฉินเวย แต่พอดูไปเรื่อยๆ เธอรู้สึกได้ว่าพี่เฉินเยี่ยนไม่ชอบเฉินเวย ส่วนเฉินเวยก็ดูไม่เหมือนจะเป็นแบบที่ตัวเองพูด เหมือนเฉินเวยดูเป็นปรปักษ์กับเฉินเยี่ยน
หวางจวนแอบคิดในใจ ที่แท้ตอนบ้านเฉินแยกกันอยู่ พี่เฉินเยี่ยนเป็นคนไม่ชอบพูด เธอมักจะทำงานเยอะที่สุด แต่ยังโชคไม่ดี เธอเคยได้ยินช่างเหลียนด่าเฉินเยี่ยนบ่อยๆ ส่วนเฉินเยี่ยนก็ทนรับ กลับกันเฉินเวยได้รับความเมตตา แทบจะไม่ต้องทำงานอะไร และไม่เคยได้รับโทษอะไรเลย
เฉินเวยปากหวาน ดูอ่อนแอบอบบาง คนในหมู่บ้านชมเธอ รู้สึกว่าเธอน่ารัก รู้เรื่อง ส่วนเฉินเยี่ยนกลับเงียบขรึม พูดคำไพเราะไม่เป็น ดังนั้นทุกคนพูดถึงเฉินเยี่ยนจะว่าเธอซื่อๆ ไม่น่าเอ็นดูเหมือนเฉินเวย
แต่เธอยิ่งชอบพี่เฉินเยี่ยน เพราะเธอรู้สึกว่าเฉินเยี่ยนเป็นคนตรงไหตรงมา วันนั้นพี่เฉินเยี่ยนเจอเรื่องแบบนั้นที่สวนผลไม้ เพราะเธอคิดว่าพี่เฉินเยี่ยนไม่ใช่คนประเภทนั้น เลยกล้าเดินออกมาเป็นพยานให้เฉินเยี่ยน ตอนนี้คิดดูแล้ว ตอนนี้เฉินเวยเอาแต่ขอร้องออกหน้าแทนเฉินเยี่ยน แต่คำพูดเธออีกความหมายหนึ่งเท่ากับว่ายอมรับว่าเฉินเยี่ยนทำเรื่องอย่างนั้นไปโดยปริยาย
คิดมาถึงตรงนี้หวางจวนรู้สึกไม่สบายใจ เฉินเวยเป็นน้องแท้ๆ ของเฉินเยี่ยน เธอเป็นคนนอกยังรู้เลยว่าพี่เฉินเยี่ยนไม่มีทางทำเรื่องแบบนั้น ส่วนเฉินเวยที่เป็นน้องแท้ๆ ทำไมจะไม่รู้ว่าเฉินเยี่ยนเป็นคนยังไง ในเมื่อรู้ แล้วทำไมเธอถึงได้ยอมรับล่ะ? หรือจะบอกว่าเฉินเวยมีจุดประสงค์แอบแฝงในใจ ต้องการจะใส่ร้ายพี่เฉินเยี่ยน? ตอนหลังทุกคนบอกว่าเพราะอวี๋เหวยหมินกับเฉินเวยชอบกัน เลยคิดหาทางทำร้ายเฉินเยี่ยน ตอนนั้นเธอไม่เชื่อ เฉินเวยเพิ่งกี่ขวบเอง เธอจะไปชอบพอกับอวี๋เหวยหมินได้ยังไง แล้วเฉินเยี่ยนก็เป็นพี่สาวแท้ๆ ของเธอ คนเป็นน้อง ทำเรื่องแบบนี้ ยังใช่คนอีกเหรอ?
แต่ตอนนี้มาคิดดู ถ้าความสัมพันธ์พี่น้องบ้านเฉินไม่ดีละก็ ไม่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้
หวางจวนมองเฉินเวย เดินทีเธอคิดว่าเฉินเวยน่าเห็นใจมาก แต่ไม่รู้ทำไมเห็นเฉินเวยแบบนี้แล้ว เธอกลับรู้สึกกลัว คนๆ นี้ ท่าทางภายนอกกับภายในดูไม่ตรงกันเลย หรือว่าคนเราดูกันภายนอกไม่ได้จริงๆ?
หวางจวนคิดเรื่องเฉินเยี่ยนและเฉินเวย สำหรับเฉินเยี่ยนและเฉินเวยแล้ว เธอรู้สึกเข้าข้างเฉินเยี่ยนมากกว่า เพราะเฉินเยี่ยนช่วยเธอ ถ้าเฉินเยี่ยนและเฉินเวยทะเลาะกัน เธอต้องอยู่ฝั่งเฉินเยี่ยนแน่นอน
เฉินเยี่ยนไปห้องครัวแล้ว หวางจวนตามไปด้วยเหมือนกัน ในลานบ้านจึงเหลือหวางนิวและเฉินเวย
หวางนิวพูดสอนเฉินเวยอีกไม่กี่ประโยค เฉินเวยโกรธจนสั่นแต่กลับโต้ตอบอะไรไม่ได้ เธอทำได้แค่อธิบายเสียงเบาไม่กี่คำ แล้วพูดอ้อนหวางนิวอีก แล้วพบว่าหวางนิวไม่รู้วิธีหมักผักยังไง นี่เป็นวันแรกที่หวางนิวช่วยเฉินเยี่ยนล้างผัก จากนั้นก็เป็นเฉินเยี่ยนแหละหวางจวนเริ่มทำกัน เป็นหวางจวนที่รู้ แต่หวางนิวกลับไม่รู้
สายตาเฉินเวยเป็นประกาย หวางนิวไม่รู้ แต่เฉินเยี่ยนกลับให้หวางจวนรู้ เธอไม่รู้จริงๆ ควรจะพูดว่าเฉินเยี่ยนโง่ มีตัวเองเป็นบทเรียนครั้งใหญ่ขนาดนี้ เฉินเยี่ยนยังเชื่อคนอื่นง่ายอีก เฉินเยี่ยนถือเป็นผู้มีบุญคุณต่อหวางจวน เธอเชื่อว่าจะต้องมีสักวันหนึ่ง หวางจวนจะต้องหักหลัง ทำร้ายเฉินเยี่ยนเหมือนตัวเอง ถึงเวลานั้นเฉินเยี่ยนจะไปร้องไห้กับใคร
แต่หวางจวนรู้ว่าทำผักพวกนี้ยังไงก็ดี ตัวเองจะได้ไปลงมือที่ฝั่งหวางจวน ถึงตอนนั้นเธอมีบ้านแล้ว ดูว่าเฉินเยี่ยนจะยังภูมิใจตัวเองอยู่ไหม
เฉินเวยมีแผนในใจ รอวันที่เฉินเยี่ยนไปตลาดไม่อยู่บ้าน เธอค่อยมาใหม่ เธอเชื่อว่าเธอต่อกรกับหวางจวนเป็นเรื่องเล็กพริกขี้หนูมาก ดูว่าจะจัดการเฉินเยี่ยนไม่ได้ หวางจวนที่มาอาศัยอยู่บ้านเฉินเธอจะเอาไม่อยู่ งั้นเธอก็ไม่ต้องมีชีวิตอยู่ต่อละ
ไม่สนว่านใจเฉินเวยจะมีแผนยังไง ส่วนเฉินเยี่ยนก็เริ่มเตรียมอาหารเย็นแล้ว
“พี่ เสี่ยวเวย...”
ไม่ว่าหวางจวนจะคิดพิจารณายังไง ก็ไม่สามารถไปว่าเขาพี่น้องสองคนได้หรือเปล่า? ถ้าในใจเฉินเยี่ยนจะคิดแบบนั้นจริงยังไง เธอก็จะรู้สึกไม่มีความสุข ยังไงก็เป็นน้องสาวแท้ๆ
“จวนเอ๋อร์ เธออยู่บ้าน ฉันห็นเธอเป็นน้อง อีกเดี๋ยวยังมีเวลาอีกเยอะ จะบอกเธอให้ ถ้าเฉินเวยมาเข้าใกล้เธอ เธออย่าไปสนใจ”
เฉินเยี่ยนพูดด้วยความจริงจังมาก หลายวันนี้เธอดูออกว่าหวางจวนเป็นเด็กผู้หญิงที่ใสซื่อและจิตใจดี ในเมื่อช่วยเธอแล้ว เธอไม่อยากให้หวางจวนและเฉินเวยอยู่ด้วยกัน ยังไงก็ผิด เธอกลัวว่าเฉินเวยจะทำอะไรหวางจวน ส่วนหวางจวนไม่ใช่ตู่ต่อสู่ของเฉินเวยแน่นอน
“ฉันรู้แล้ว”
หวางจวนเข้าใจความหมายของเฉินเยี่ยน เธอพยักหน้า
เฉินเยี่ยนพูดจบก็เข้าไปห้องครัว เฉินเวยรีบดึงแขนเสื้อเฉินเยี่ยน น้ำตาไหลพรากพูด “พี่ อย่าโกรธฉันเลย ฉันไม่ได้โทษว่าพี่ไม่ดีกับฉัน แล้วฉันก็ไม่ได้คิดว่าพี่ดีกับจวนเอ๋อร์มากกว่าฉัน ฉันแค่รู้สึกว่าตัวเองช่วยอะไรพี่ไม่ได้ กลัวพี่จะไม่ชอบฉัน เพราะฉันกลัว ฉันเลยพูดผิดไป พี่ดีกับฉันมากที่สุด ใช่ไหม?”
เห็นเฉินเวยพูดแบบนี้ หวางนิวถึงค่อยแสดงสีหน้าพอใจออกมา ลูกคนเล็กยังถือว่ารู้เรื่อง พี่น้องแท้ๆ ยังไงก็ดีที่สุด
เฉินเยี่ยนเกือบจะอ้วกออกมาแล้ว การแสดงของเฉินเวยนี่ยอดเยี่ยมจริงๆ บอกว่าจะไม่แกล้งน่าสงสารอีกแล้วไม่ใช่หรือ? ทำไมมาอีกล่ะ โชคดีที่ท้องเธอไม่มีอะไร ไม่อย่างนั้นคงอ้วกใส่ตัวเฉินเวยแน่
“เธอเป็นน้องแท้ๆ ของฉัน แล้วยังคิดจะช่วยฉันอีก ทำไมฉันจะต้องโกรธเธอล่ะ ที่พูดก่อนหน้านี้ ก็เพราะอยากให้เธอเข้าใจเหตุผล เอาเถอะ เธออย่าเป็นแบบนี้ต่อเลย ดูเธออายุเยอะขนาดนี้แล้ว ไม่ใช่เด็กสามสี่ขวบที่อยากร้องก็ร้อง เด็กสามสี่ขงบร้องได้ ยังทำให้คนรู้สึกน่ารัก รู้สึกสงสาร เธอโตขนาดนี้แล้ว เอะอะก็ร้องไห้ คนอื่นเห็นแบบนี้จะคิดว่าเธอน่ากลั่นแกล้ง เลยมาแกล้งเธอ อีกหน่อยอย่าทำแบบนี้อีกเลย คนอื่นจะคิดว่าน่าขายหน้า”
เฉินเยี่ยนพูดจบก็ขยับแขนเล็กน้อย ดึงมือที่เฉินเวยจับแขนเสื้ออยู่ออก
“ใช่แล้ว เสี่ยวเวย ลูกอย่าเอะอะอะไรก็ร้องไห้ ที่บ้านไม่เป็นไร ออกไปข้างยอกคนอื่นจะคิดว่าลูกอ่อนแอ มาแกล้งลูก ฟังพี่เขา”
ฝั่งหวางนิวก็รีบเสริม
เฉินเวยกัดฟันจะแตกแล้ว น้ำตาเป็นอาวุธของเธอ ผู้หญิงร้องไห้ออดอ้อนน่าดึงดูดที่สุด ตัวเธอทำแบบนี้คนส่วนใหญ่เห็นก็จะสงสาร ถ้าเธอและเฉินเยี่ยนอยู่ด้วยกันเกิดเรื่องขัดแย้งกัน แบบเธอนี้คนอื่นมองก็รู้เลยว่าเธอคือคนที่โดนทำร้าย แล้วจะว่าเฉินเยี่ยน ช่วยออกหน้าแทนเธอ แต่เฉินเยี่ยนบอกตัวเองไม่ใช่เด็กเล็กๆ แล้ว ร้องไห้มาก็ทำให้คนอื่นเขารำคาญ เรียกให้ตัวเธอแก้ไข แม่คนนี้ก็แย่จริงเลย ตอนนี้คำพูดเฉินเยี่ยนกลายเป็นคำศักดิ์สิทธิ์ไปแล้ว แล้วตัวเธอจะมีที่ยืนอยู่อีกไหม!
เฉินเวยโกรธก็โกรธ แต่ก็ยังต้องรับปาก เธอเสแสร้งมาได้ตั้งหลายปี จะให้เปลี่ยนง่ายขนาดนั้นได้ยังไง เลยยังต้องแสดงออกอย่างน่าสงสารอยู่
เฉินเยี่ยนขี้เกียจจะสนใจแล้ว เธอเข้าไปในครัว ถึงแม้หวางนิวจะว่าลูกสาว แต่ในใจก็อดไม่ได้ จูงมือเฉินเวยมาแล้วเริ่มสั่งสอนเฉินเวย ส่วนคำพุดเธอจะทำให้เฉินเยี่ยนโกรธหรือเปล่านั้นไม่ได้อยู่ในเรื่องที่เฉินเยี่ยนสนใจ
หวางจวนมองดูทุกอย่างเงียบๆ เรื่องบ้านเฉินนั้น เธอเป็นคนนอก เรื่องบ้านเฉินไม่ใช่เรื่องที่จะสามารถพูดแทรกได้ เธอเลยได้แต่ดู พูดไม่ได้ ส่วนบ้านเฉินเธอรู้สึกซาบซึ้งในบุญคุณ ดังนั้นตอนแรกที่ฟังเฉินเวยเล่าเรื่องที่โดนรังแก รวมทั้งพี่สะใภ้ของเธอปฏิบัติแบบนั้นกับเธอ เธอรู้สึกเห็นอกเห็นใจและสงสารเฉินเวย แต่พอดูไปเรื่อยๆ เธอรู้สึกได้ว่าพี่เฉินเยี่ยนไม่ชอบเฉินเวย ส่วนเฉินเวยก็ดูไม่เหมือนจะเป็นแบบที่ตัวเองพูด เหมือนเฉินเวยดูเป็นปรปักษ์กับเฉินเยี่ยน
หวางจวนแอบคิดในใจ ที่แท้ตอนบ้านเฉินแยกกันอยู่ พี่เฉินเยี่ยนเป็นคนไม่ชอบพูด เธอมักจะทำงานเยอะที่สุด แต่ยังโชคไม่ดี เธอเคยได้ยินช่างเหลียนด่าเฉินเยี่ยนบ่อยๆ ส่วนเฉินเยี่ยนก็ทนรับ กลับกันเฉินเวยได้รับความเมตตา แทบจะไม่ต้องทำงานอะไร และไม่เคยได้รับโทษอะไรเลย
เฉินเวยปากหวาน ดูอ่อนแอบอบบาง คนในหมู่บ้านชมเธอ รู้สึกว่าเธอน่ารัก รู้เรื่อง ส่วนเฉินเยี่ยนกลับเงียบขรึม พูดคำไพเราะไม่เป็น ดังนั้นทุกคนพูดถึงเฉินเยี่ยนจะว่าเธอซื่อๆ ไม่น่าเอ็นดูเหมือนเฉินเวย
แต่เธอยิ่งชอบพี่เฉินเยี่ยน เพราะเธอรู้สึกว่าเฉินเยี่ยนเป็นคนตรงไหตรงมา วันนั้นพี่เฉินเยี่ยนเจอเรื่องแบบนั้นที่สวนผลไม้ เพราะเธอคิดว่าพี่เฉินเยี่ยนไม่ใช่คนประเภทนั้น เลยกล้าเดินออกมาเป็นพยานให้เฉินเยี่ยน ตอนนี้คิดดูแล้ว ตอนนี้เฉินเวยเอาแต่ขอร้องออกหน้าแทนเฉินเยี่ยน แต่คำพูดเธออีกความหมายหนึ่งเท่ากับว่ายอมรับว่าเฉินเยี่ยนทำเรื่องอย่างนั้นไปโดยปริยาย
คิดมาถึงตรงนี้หวางจวนรู้สึกไม่สบายใจ เฉินเวยเป็นน้องแท้ๆ ของเฉินเยี่ยน เธอเป็นคนนอกยังรู้เลยว่าพี่เฉินเยี่ยนไม่มีทางทำเรื่องแบบนั้น ส่วนเฉินเวยที่เป็นน้องแท้ๆ ทำไมจะไม่รู้ว่าเฉินเยี่ยนเป็นคนยังไง ในเมื่อรู้ แล้วทำไมเธอถึงได้ยอมรับล่ะ? หรือจะบอกว่าเฉินเวยมีจุดประสงค์แอบแฝงในใจ ต้องการจะใส่ร้ายพี่เฉินเยี่ยน? ตอนหลังทุกคนบอกว่าเพราะอวี๋เหวยหมินกับเฉินเวยชอบกัน เลยคิดหาทางทำร้ายเฉินเยี่ยน ตอนนั้นเธอไม่เชื่อ เฉินเวยเพิ่งกี่ขวบเอง เธอจะไปชอบพอกับอวี๋เหวยหมินได้ยังไง แล้วเฉินเยี่ยนก็เป็นพี่สาวแท้ๆ ของเธอ คนเป็นน้อง ทำเรื่องแบบนี้ ยังใช่คนอีกเหรอ?
แต่ตอนนี้มาคิดดู ถ้าความสัมพันธ์พี่น้องบ้านเฉินไม่ดีละก็ ไม่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้
หวางจวนมองเฉินเวย เดินทีเธอคิดว่าเฉินเวยน่าเห็นใจมาก แต่ไม่รู้ทำไมเห็นเฉินเวยแบบนี้แล้ว เธอกลับรู้สึกกลัว คนๆ นี้ ท่าทางภายนอกกับภายในดูไม่ตรงกันเลย หรือว่าคนเราดูกันภายนอกไม่ได้จริงๆ?
หวางจวนคิดเรื่องเฉินเยี่ยนและเฉินเวย สำหรับเฉินเยี่ยนและเฉินเวยแล้ว เธอรู้สึกเข้าข้างเฉินเยี่ยนมากกว่า เพราะเฉินเยี่ยนช่วยเธอ ถ้าเฉินเยี่ยนและเฉินเวยทะเลาะกัน เธอต้องอยู่ฝั่งเฉินเยี่ยนแน่นอน
เฉินเยี่ยนไปห้องครัวแล้ว หวางจวนตามไปด้วยเหมือนกัน ในลานบ้านจึงเหลือหวางนิวและเฉินเวย
หวางนิวพูดสอนเฉินเวยอีกไม่กี่ประโยค เฉินเวยโกรธจนสั่นแต่กลับโต้ตอบอะไรไม่ได้ เธอทำได้แค่อธิบายเสียงเบาไม่กี่คำ แล้วพูดอ้อนหวางนิวอีก แล้วพบว่าหวางนิวไม่รู้วิธีหมักผักยังไง นี่เป็นวันแรกที่หวางนิวช่วยเฉินเยี่ยนล้างผัก จากนั้นก็เป็นเฉินเยี่ยนแหละหวางจวนเริ่มทำกัน เป็นหวางจวนที่รู้ แต่หวางนิวกลับไม่รู้
สายตาเฉินเวยเป็นประกาย หวางนิวไม่รู้ แต่เฉินเยี่ยนกลับให้หวางจวนรู้ เธอไม่รู้จริงๆ ควรจะพูดว่าเฉินเยี่ยนโง่ มีตัวเองเป็นบทเรียนครั้งใหญ่ขนาดนี้ เฉินเยี่ยนยังเชื่อคนอื่นง่ายอีก เฉินเยี่ยนถือเป็นผู้มีบุญคุณต่อหวางจวน เธอเชื่อว่าจะต้องมีสักวันหนึ่ง หวางจวนจะต้องหักหลัง ทำร้ายเฉินเยี่ยนเหมือนตัวเอง ถึงเวลานั้นเฉินเยี่ยนจะไปร้องไห้กับใคร
แต่หวางจวนรู้ว่าทำผักพวกนี้ยังไงก็ดี ตัวเองจะได้ไปลงมือที่ฝั่งหวางจวน ถึงตอนนั้นเธอมีบ้านแล้ว ดูว่าเฉินเยี่ยนจะยังภูมิใจตัวเองอยู่ไหม
เฉินเวยมีแผนในใจ รอวันที่เฉินเยี่ยนไปตลาดไม่อยู่บ้าน เธอค่อยมาใหม่ เธอเชื่อว่าเธอต่อกรกับหวางจวนเป็นเรื่องเล็กพริกขี้หนูมาก ดูว่าจะจัดการเฉินเยี่ยนไม่ได้ หวางจวนที่มาอาศัยอยู่บ้านเฉินเธอจะเอาไม่อยู่ งั้นเธอก็ไม่ต้องมีชีวิตอยู่ต่อละ
ไม่สนว่านใจเฉินเวยจะมีแผนยังไง ส่วนเฉินเยี่ยนก็เริ่มเตรียมอาหารเย็นแล้ว
“พี่ เสี่ยวเวย...”
ไม่ว่าหวางจวนจะคิดพิจารณายังไง ก็ไม่สามารถไปว่าเขาพี่น้องสองคนได้หรือเปล่า? ถ้าในใจเฉินเยี่ยนจะคิดแบบนั้นจริงยังไง เธอก็จะรู้สึกไม่มีความสุข ยังไงก็เป็นน้องสาวแท้ๆ
“จวนเอ๋อร์ เธออยู่บ้าน ฉันห็นเธอเป็นน้อง อีกเดี๋ยวยังมีเวลาอีกเยอะ จะบอกเธอให้ ถ้าเฉินเวยมาเข้าใกล้เธอ เธออย่าไปสนใจ”
เฉินเยี่ยนพูดด้วยความจริงจังมาก หลายวันนี้เธอดูออกว่าหวางจวนเป็นเด็กผู้หญิงที่ใสซื่อและจิตใจดี ในเมื่อช่วยเธอแล้ว เธอไม่อยากให้หวางจวนและเฉินเวยอยู่ด้วยกัน ยังไงก็ผิด เธอกลัวว่าเฉินเวยจะทำอะไรหวางจวน ส่วนหวางจวนไม่ใช่ตู่ต่อสู่ของเฉินเวยแน่นอน
“ฉันรู้แล้ว”
หวางจวนเข้าใจความหมายของเฉินเยี่ยน เธอพยักหน้า
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้นำมาจากแหล่งอื่นและได้รับการอนุญาตจากเจ้าของแล้ว
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ