เปลี่ยนชีวิต พลิกชะตารัก

-

เขียนโดย Xiaobei

วันที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 เวลา 16.58 น.

  64 ตอน
  0 วิจารณ์
  49.74K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 17.00 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

52) ตอนที่52:แม่อุปถัมภ์

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ตอนที่52:แม่อุปถัมภ์

เฉินเยี่ยนไม่สนใจอาการแปลกใจของทั้งสามคน เธอเดินออกมา

“เยี่ยนจื่อ ลูกไม่รู้ว่าเสี่ยวเวยอยู่ที่นั่นลำบากมาก เธออยากจะมาช่วยลูกทำผักนะ”

หวางนิวคิดว่าลูกสาวไม่รู้เรื่อง เลยรีบอธิบาย

“แม่ หนูรู้แล้ว แต่ตอนนี้ผักที่ทำก็พอแล้ว บ้านเราก็ไม่ได้มีไหเยอะขนาดนั้น หลายวันนี้ก็ไม่ได้ทำ เวลาทำ ก็ให้จวนเอ๋อร์มาช่วยหนูได้ ไม่จำเป็นต้องใช้คนมากขนาดนี้ อีกอย่างแม่สงสารให้เสี่ยวเวยเข้ามาอยู่ แล้วพี่ชายกับพี่สะใภ้ฝั่งนั้นจะว่ายังไง? ถ้ารู้ว่าเธอจะมาช่วยหนูทำผัก คนที่ไม่รู้จะคิดว่าพี่ชายพี่สะใภ้รังแกเธอ เธอทนไม่ไหวถึงได้ย้ายมา”

เฉินเยี่ยนรู้ความคิดของเฉินเวยเป็นอย่างดี ไม่มีทางให้เธอได้สมใจ

“พี่สะใภ้ลูกเขา...”

หวางนิวกำลังจะบอกว่าช่างเหลียนกลั่นแกล้งเฉินเวยจริงๆ แต่เธอยังพูดไม่ทันจบก็โดนเฉินเยี่ยนขัด “แม่ นั่นเป็นพี่สะใภ้ของพี่ชายหนู หรือแม่จะบอกว่าพวกเขาแกล้งเสี่ยวเวยจริง? แม่อย่าลืม อีกหน่อยพอแม่แก่ก็ต้องอาศัยพี่ชายพี่สะใภ้แล้วยังมีหู่จื่ออีกที่ต้องเลี้ยงดูพ่อแม่ ถ้าพี่สะใภ้รู้เข้าว่าแม่พูดถึงพวกเขาอย่างนี้เพื่อลูกสาว พวกเขาจะเป็นยังไง? มาทะเลาะกัน ให้คนในหมู่บ้านมามุงดู แล้วถ้าเขาบอกว่าอีกหน่อยจะไม่เลี้ยงดูแม่แล้ว แม่จะอาศัยให้เสี่ยวเวยเลี้ยงดู? แม่คิดว่าเสี่ยวเวยโดนรังแก แต่ผู้หญิงทำอาหารก็เป็นเรื่องตายตัวอยู่แล้วไม่ใช่หรือ? ดูแม่สิ แล้วยังมีจวนเอ๋อร์อีกคนไหนทำไม่เป็นบ้าง? ตอนเด็กเสี่ยวเวยร่างกายอ่อนแอ แม่ไม่ใช้เธอ พอโตขึ้นมา แม่ยังบอกว่ามีแม่กับหนูอยู่อีก เสี่ยวเวยอ้อนแม่สองคำ แม่ก็ไม่ใช่น้องแล้ว ตอนนี้เธอเลยทำอะไรไม่เป็น”

เฉินเยี่ยนพูดมาถึงตรงนี้ก็หยุด สูดหายใจ ไม่สนใจสีหน้าที่ย่ำแย่ของเสี่ยวเวย แล้วพูดขึ้นมาอีก “ตอนนี้ให้เธออยู่กับพี่ชายพี่สะใภ้ฝั่งนู้น ก็เพื่อจะให้เธอหัดเรียน ไม่อย่างนั้นอีกหน่อยเธอแต่งงานไป ทำอะไรไม่เป็น บ้านสามีจะไม่ว่าเธอเหรอ? แม่ไม่ชอบช่างเหลียน ก็เพราะว่าเธอขี้เกียจ เธอไม่ทำอะไรแล้วก็ทำอะไรไม่เป็น ทุกวันนอนถึงเที่ยง แล้วก็ไม่ไปที่ไร่ แถมยังให้คนในบ้านคอยปรนนิบัติอีก แล้วถ้าแม่ยังปล่อยให้เป็นแบบนี้ งั้นเสี่ยวเวยก็คือช่างเหลียนคนที่สอง เธอมาอยู่บ้านสามี ที่บ้านสามีจะชอบเธอหรือ? ถึงตอนนี้ทั้งสองคนจะทะเลาะกันทุกวัน ถ้าบ้านสามีไม่ต้องการเธอ แล้วแม่จะไม่ทุกข์ใจหรือ ถ้าแม่ยังทำแบบนี้ต่อไป นั่นไม่เป็นผลดีกับเธอ มันคือการทำร้ายเธอ จนสุดท้ายเธอก็จะมาโทษแม่”

เฉินเยี่ยนพูดจบก็เหลือบมองเฉินเวยแวบหนึ่ง แล้วพูดต่อ “เธอบอกว่าเธอโดนลวกที่มือ มือใครไม่เคยโดนลวกมาก่อน หนูเจ็ดแปดขวบก็เริ่มหัดทำอาหารกับแม่แล้วใช่ไหม? เริ่มช่วยที่บ้านทำงานแล้วใช่ไหม? หนูไม่เคยโดนลวกมาก่อนหรือ? ตอนนั้นลวกจนร้องไห้งอแง แม่ก็ไม่ได้บอกว่าไม่ให้ทำแล้ว ยังให้หนูหัดทำต่อ ไม่โดนลวกแล้วใครจะทำกับข้าวเป็น? ทำไมหนูทำได้ แล้วพอเป็นเสี่ยวเวยถึงไม่ได้”

คำพูดนี้ของเฉินเยี่ยนไม่เพียงแต่ทำให้เฉินเวยหน้าซีด สีหน้าหวางนิวก็ไม่สู้ดีเช่นกัน แต่เธอไม่สามารถไม่ยอมรับได้ว่าที่ลูกสาวพูดเป็นความจริง พูดจากใจ เธอลำเอียงไปทางเฉินเวยอยู่หน่อย เพราะลูกสาวคนโตร่างกายแข็งแรง เสี่ยวเวยร่างกายอ่อนแอ ดังนั้นเธอเลยไม่ให้ลูกสาวคนเล็กทำงาน แต่ที่ลูกสาวคนโตพูดนั้นถูกต้อง ถ้าตอนนี้ไม่ให้เสี่ยวเวยเรียนรู้ อีกหน่อยจะถูกบ้านสามีไม่ชอบเอา กลายเป็นแบบช่างเหลียน เธอมาเสียใจทีหลังก็สายไปแล้ว

อีกอย่างเธอก็ไม่สามารถพูดว่าลูกชายคนโตและลูกสะใภ้ไม่ดีได้ อีกหน่อยเธอแก่แล้ว เธอต้องหวังพึ่งลูกชายและลูกสะใภ้ ไม่ใช่ลูกสาว ถึงแม้ว่าตอนนี้จะแยกบ้านแล้ว แต่เธอรู้ว่าลูกชายคนโตจริงใจ ในอนาคตไม่ว่าจะยังไงก็ไม่มีทางไม่เลี้ยงเธอ ถ้าเพราะเฉินเวยทำให้ลูกชายลูกสะใภ้โกรธ อีกหน่อยไม่เลี้ยงเธอ เธอก็ไม่มีแม้แต่ที่จำให้ร้องไห้

อีกอย่างนี่ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่โต เหมือนที่ลูกสาวคนโตพูด มือใครไม่เคยโดนลวกบ้าน โดนลวงหน่อยเดี๋ยวก็เก่งแล้ว ลวกไปลวกมาเดี๋ยวก็ชิน และก็เป็นเพราะลูกสาวคนเล็กออดอ้อน ลูกสาวคนโตไม่เคยโอดครวญ”

“ลูกอย่าเพิ่งใจร้อน แม่ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น แม่กลัวลูกเหนื่อย กลัวลูกยุ่งเกินไป เห็นน้องสาวลูกบอกว่าจะมาช่วย แม่คิดว่าสองพี่น้องช่วยเหลือกันเป็นเรื่องที่สมควร แล้วคิดว่าจะสอนเสี่ยวเวยทำอาหาร แม่ไม่ได้คิดมากขนาดนั้น ลูกพูดถูก แม่เชื่อลูก”

หลังจากหวางนิวคิดแล้วจึงพูดกับเฉินเยี่ยน

ใบหน้าซีดของเสี่ยวเวยยิ่งดูแย่เข้าไปใหญ่ เธอมองเฉินเยี่ยนด้วยความโกรธ เฉินเยี่ยนปฏิเสธเธอ ทำเธอเสียเรื่อง ในเมื่อเด็ดเดี่ยวขนาดนี้ พูดถึงจุดอ่อนเธอทั้งตัว แม่ที่ไม่เคยสังเกตข้อนี้มาก่อน ยังบอกว่าเฉินเยี่ยนพูดถูก ไม่ใช่เท่ากับว่ายอมรับว่าตัวเองไม่ดีงั้นหรือ น่ารังเกียจจริง

“แม่ หนูไม่ได้ใจร้อน หนูแค่พูดตามสถานการณ์ เธออยากจะเรียนทำอาหาร แม่สอนเธอก็ได้แล้ว ตอนทำอาหารก็ให้เธอมาอยู่ในห้องครัวดูแม่ทำ ไม่อย่างนั้นแม่ก็ไปบ้านพี่ชายสอนเธอทำก็ไม่ใช่ว่าทำไม่ได้ ทำไมต้องมาอยู่ที่นี่ด้วย หรือแม่ยังอยากให้หู่จื่อมานอนกับพ่อกับแม่อยู่?”

เฉินเยี่ยนก็รู้ความคิดแม่ตัวเอง ต้องเป็นเพราะสงสารลูกสาวแน่นอน แต่เธอต้องพูดให้ชัดเจน

“ได้ แม่เข้าใจแล้ว ตอนแรกแม่คิดต่างไปหน่อย ไม่ต้องให้เสี่ยวเวยอยู่ที่นี่”

หวางนิวพยักหน้า คิดว่าที่ลูกสาวคนโตพูดนั้นถูกต้อง ตอนนี้ลูกสาวคนโตยิ่งทียิ่งมีความคิด มีลูกสาวคนโตอยู่ เธอรู้สึกเหมือนสามีอยู่ข้างๆ ตัวเอง เป็นเสาหลักได้

“พี่ ฉัน ฉันแค่คิดอยากจะช่วยพี่ กลัวพี่เหนื่อยเกินไป พี่ต้องการหวางจวนแต่ไม่ต้องการฉันหรือ? พี่ไม่ชอบฉันใช่ไหม?”

เฉินเวยโมโหจัด เธอไม่อยากให้จบแบบนี้ก็แล้วกันไป ในเมื่อเข้ามาอยู่ไม่ได้ เธอก็จะทำให้เฉินเยี่ยนรังเกียจ ทางที่ดีให้หวางนิวเริ่มสงสัยว่าเฉินเยี่ยนคิดไม่ดีกับเธอ

“เวย พูดอะไรน่ะ พี่สาวลูกจะไม่ชอบลูกได้ยังไง พี่เขากลัวว่าคนอื่นจะมานินทาลูกได้ เธอทำเพื่อลูก ลูกพูดแบบนี้ไม่ได้นะ แบบนี้ไม่ใช่ว่ากลายเป็นเข้าใจผิดความหวังดีของพี่สาวลูกเหรอ ถ้าลูกพูดแบบนี้อีกแม่ไม่ชอบใจนะ”

ยังไม่ทันที่เฉินเยี่ยนจะพูด หวางนิวก็แสดงสีหน้าไม่พอใจก่อน เธอคิดว่าลูกสาวคนเล็กไม่ควรพูดจาแบบนี้ แล้วหวางจวนดีหรือไม่ดีเกี่ยวอะไรด้วย เธอเป็นคนนอก หวางจวนกินข้าวบ้านเธอ อาศัยบ้านเธออยู่ สมควรแล้วที่มาช่วยงานเฉินเยี่ยน เฉินเวยมาเทียบกับหวางจวน เทียบได้ที่ไหนกัน? พี่สาวอธิบายชัดเจนหมดแล้ว คนน้องยังพูดแบบนี้อยู่อีก หมายความว่าไม่รู้เรื่อง ดูเหมือนลูกสาวคนโตพูดไม่ผิด ลูกคนเล็กโดนตัวเองตามใจเกินไปจริงๆ อีกหน่อยต้องสอนเธอบ้าง

เฉินเวยโดนหวางนิวโกรธแล้ว เธอคิดไม่ถึงว่าหวางนิวจะว่าเธอ เธอคิดว่าหวางนิวต้องโดนเฉินเยี่ยนล้างสมองแน่ ตอนนี้เป็นแบบนี้แล้ว ถ้าเฉินเยี่ยนเล่าเรื่องไม่ดีเกี่ยวกับเธอให้ฟังทุกวัน นานไป กลัวว่าหวางนิวจะไม่เชื่อลูกสาวคนนี้อีกแล้วหรือเปล่า?

เฉินเยี่ยนกลับดีใจมาก อีกนิดเดียวจะปรบมือแล้ว ท่านแม่มีอำนาจขนาดนี้สร้างขึ้นมาเองใช่ไหม?

ใช่แล้ว แบบนี้แหละ อีกหน่อยนางโรคจิตเฉินเวยนี่มาวุ่นวายอีก แม่ไม่ต้องเห็นแก่หน้าเธอ พูดได้เต็มที่ ด่าได้เต็มที่ ลงไม้ลงมือยิ่งดี เธอถึงจะพอใจ

“ใช่แล้ว เสี่ยวเวย เธอเป็นน้องสาวแท้ๆ ของฉันนะ ฉันไม่รู้ว่าทำไมเธอคิดแบบนี้ ทุกข์ใจนะ แม่ แม่พูดกับเสี่ยวเวยเถอะ หนูไปดูในครัวก่อน อีกเดี๋ยวจะทำแป้งแล้ว ที่บ้านไม่มีแผ่นแป้ง ไม่มีแป้งเดี๋ยวพ่อจะกินไม่อิ่ม”

เฉินเยี่ยนแกล้งทำเป็นเสียใจเพราะเสี่ยวเวย จะไปห้องครัว ที่จริงในใจนั้นดีใจมาก วันนี้สามารถพูดออกมาเป็นแบบนี้ อีกหน่อยถ้าเฉินเวยคิดจะซี้ซั้วพูดต่อหน้าหวางนิว เธอก็จะต้องไตร่ตรองดูก่อน

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้นำมาจากแหล่งอื่นและได้รับการอนุญาตจากเจ้าของแล้ว

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา