เปลี่ยนชีวิต พลิกชะตารัก

-

เขียนโดย Xiaobei

วันที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 เวลา 16.58 น.

  64 ตอน
  0 วิจารณ์
  48.53K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 17.00 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

37) ตอนที่ 37: เจอกันอีกแล้ว

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
ตอนที่ 37: เจอกันอีกแล้ว
เฉินเวยหลับตา เธอไม่อยากทำอาหารจริงๆ แต่ตอนนี้เธอไม่สามารถคัดค้านได้ ช่างเถอะ ดูเอาก่อนละกัน ถือว่ารับมือหวางนิวเอา อีกหน่อยถ้าจะเรียนก็ให้พี่สะใภ้เรียน ยังไงเธอก็ไม่ทำกับข้าวมาปรนนิบัติคนอื่น พวกเขาไม่คู่ควร
เฉินเยี่ยนไม่ได้พูดอะไร กินข้าวเช้าเสร็จ เฉินหู่ไปโรงเรียน เธอและเฉินจงเริ่มย้ายของใส่รถ อีกเดี๋ยวจะลากไปที่ลานบ้านฝั่งนั้น
หวางนิวเห็นพวกเขาเริ่มลากของกันแล้ว เธอก็ไม่สนใจว่าลูกสาวคนเล็กจะฟังตัวเองรู้เรื่องหรือไม่ เดินออกมา แล้วตามรถไปที่ลานบ้านฝั่งนั่น ที่ลานบ้านนั้นไม่มีคนอยู่มานาน ต้องเก็บกวาดดีๆ
เฉินเยี่ยนและหวางนิวกวาดหยากไย่ในบ้านด้วยกัน ฝุ่นที่เกาะกำแพงก็เช็ดจนสะอาด
กวาดเสร็จหน้าเฉินเยี่ยนและหวางนิวเต็มไปด้วยฝุ่น เพราะยุคนี้บ้านทำมาจากดิน พื้นก็เป็นดิน ไม่ใช่ปูนซีเมนต์ กวาดไปเป็นดินทั้งหมด
แต่ไม่ว่ายังไง ก็ถือว่ากวาดสะอาดแล้วรอบหนึ่ง อย่างน้อยก็เอาของมาวางในบ้านได้
ลากของ วางของไปๆ มาๆ แบบนี้ ไม่มีอะไรทำเฉินเยี่ยนก็เอาโต๊ะ เก้าอี้มาทำความสะอาด พวกหม้อไหจานชามก็เอามาทำความสะอาดเหมือนกัน กว่าจะย้ายเตียงมาก็เป็นวันที่สามแล้ว ย้ายเตียงมา พวกเขาก็จะอยู่ที่นี่แล้ว
ตอนกลางคืน นอนอยู่บนเตียง มองดูเพดานมืดๆ ใจเฉินเยี่ยนค่อยผ่อนคลายลงหน่อย บ้านฝั่งนี้ผุพังกว่าฝั่งนั้นเยอะเลย แต่เธอรู้สึกว่าอยู่ที่นี่สบายใจ อาจจะเป็นเพราะว่าที่นี่มีแต่คนที่เธอชอบอาศัยอยู่มั้ง ฝั่งนั้นมีเฉินเวยกับช่างเหลียนที่เธอเกลียด
อยู่กับครอบครัว ไม่ว่าจะลำบากยังไงเธอก็สบายใจ ไม่มีคนที่เธอเกลียดอยู่ด้วย จิตใจรู้สึกแข็งแกร่ง พรุ่งนี้เธอจะไปสหกรณ์ในอำเภอดูสักรอบ ไปดูเครื่องปรุง ถ้าซื้อได้ก็จะซื้อมา จากนั้นเริ่มทำพวกไชเท้าดอง ผักกาดขาวเผ็ดและกิมจิที่เธออยากทำ ถือเป็นก้าวแรกในการหาเงินของเธอ
เฉินเยี่ยนนอนหลับสบายทั้งคืน วันรุ่งขึ้นเธอและเฉินจงคุยกัน เฉินจงจะไปกับเธอ เฉินเยี่ยนก็ไม่ได้ปฏิเสธ เพราะเจ้าของร่างเดิมไม่เคยไปในชุมชนมาก่อน และไม่รู้ว่าสหกรณ์อยู่ที่ไหน มีพ่อมาเป็นเพื่อน จะได้ไม่ลำบากมาก
ไม่มีรถจักรยาน อาศัยสองขานี่เดินไป เดินไปได้ชั่วโมงกว่ากว่าจะถึงชุมชน เฉินเยี่ยนโล่งใจ รอหาเงินได้ เธอจะต้องซื้อจักรยานให้ได้หนึ่งคัน อีกหน่อยค่อยซื้อมอเตอร์ไซค์และจักรยาน เดินนี่เหนื่อยเกินไปจริงๆ ที่สำคัญคือเสียเวลามากด้วย
มาถึงสหกรณ์ ของข้างในสหกรณ์มีมากมาย แต่เทียบกับซุปเปอร์มาร์เก็ตในยุคหลังแล้วต่างกันคนละชั้นเลย เฉินเยี่ยนอดไม่ได้ถอนใจอีกครั้ง ในเมื่อให้หลุมเวลาเธอมา ทำไมไม่ให้ซุปเปอร์มาร์เก็ตนะ แบบนั้นเธออยากกินอะไร ก็มีหมด ไม่ต้องให้ที่ดินหรือแหล่งน้ำก็ได้ อย่างน้อยก็ไม่อดมีปลากิน
ถอนหายใจก็ถอนหายใจไปแล้ว เฉินเยี่ยนไม่ใช่คนที่ยึดติดไม่รู้จักพอ เธอสามารถพึ่งพาตัวเอง และดูของในสหกรณ์กับเฉินจง
“สหาย รบกวนคุณหยิบอันนั้นให้ฉันดูหน่อยค่ะ”
เฉินเยี่ยนพูดกับพนักงานขายผู้หญิง
พนักงานขายหญิงนั้นมองเธอ แล้วเอาของมาวางบนเคาน์เตอร์อย่างหงุดหงิด จากนั้นบอกราคาแล้วยังต้องมีตั๋วอีก
เฉินเยี่ยนเห็นพนักงานขายหน้าตาอารมณ์ไม่ดี รู้สึกว่ามารยาทของพนักงานคนนี้แย่มาก แต่เธอก็เข้าใจว่ายุคนี้สหกรณ์ถือว่าเป็นของรัฐวิสาหกิจ ไม่ใช่ของเอกชน ได้เป็นพนักงานขายของนี่ถือว่าเป็นที่เชิดหน้าชูตา ทำหน้าบึ้งใส่ลูกค้าก็ถือเป็นเรื่องปกติ ของถ้ายอมซื้อก็ซื้อ ไม่ซื้อก็วางไว้ เธอไม่ง้อหรอก เพราะมีของหลายอย่างที่ไม่พอต่อความต้องการ มีตั๋วและเงินก็ใช่ว่าจะซื้อได้
เฉินเยี่ยนมองดู ไม่ใช่สิ่งที่เธออยากได้ ก็ออกไป พนักงานหน้าบูดบึ้งหึใส่เธอ
“เยี่ยนจื่อ ลูกยืนรอพ่อก่อน พ่อเห็นลุงป่าวเอินของลูก เขาเป็นคนงาน เขาทำงานในสหกรณ์ที่นี่ พ่อพาลูกไปแนะนำตัวหน่อย”
เฉินจงเจอคนรู้จักในหมู่บ้านเดียวกัน
“ได้เลยค่ะ”
เฉินเยี่ยนพยักหน้า ถ้าในสหกรณ์มีคนรู้จักก็ดี จะยิ่งสะดวก
เฉินจงเดินเข้าไปหาคน เฉินเยี่ยนรออยู่ เธอเห็นเบื้องหลังคนหนึ่งที่คุ้นเคย
เป็นหนุ่มหล่อซินห้าวที่เธอเจอครั้งที่แล้ว
ทำไมเขามาอยู่ที่นี่ได้?
เฉินเยี่ยนคิดไปก็มองเขา
ซินห้าวกำลังซื้อของ รู้สึกได้ถึงสายตาของเฉินเยี่ยนเขาหันกลับมามอง ในตามีแววสงสัย
เขาเห็นเฉินเยี่ยนแล้ว คนในหมู่บ้านปกติน้อยคนที่จะมาสหกรณ์ เฉินเยี่ยนมาทำอะไร?
ตัวเองจะเข้าไปทักทายดีไหมนะ?
คิดถึงครั้งที่แล้วที่คุยกับเฉินเยี่ยน ซินห้าวฉีกยิ้มขึ้นมา ไม่ว่าจะยังไง ถือว่าเขาและเฉินเยี่ยนรู้จักกันแล้ว เจอกันก็ทักทายกันสองคำ ไม่อย่างนั้นเฉินเยี่ยนจะคิดว่าเขาไม่เป็นมิตร เจอหน้าก็ไม่ทัก คิดมาถึงตรงนี้ซินห้าวก็เดินเข้าไปหาเฉินเยี่ยน
ตอนนี้เฉินจงคุยกับลุงป่าวเอินที่เขาพูดถึงเสร็จแล้วและเดินมาเรียกเฉินเยี่ยน
เฉินเยี่ยนเห็นเฉินจงเดินมา แล้วมองซินห้าวที่เดินเข้ามาเธอพูดไม่ออก เดิมทีเธอคิดว่าซินห้าวบุคลิกเยือกเย็นจะไม่สนใจเธอ แต่ดูท่าทางเขาเหมือนจะเข้ามาทักทายตัวเองใช่ไหม?
เฉินจงไม่ได้มาถึงตัวเฉินเยี่ยนก่อนซินห้าว เขาเห็นชายแปลกหน้าคนหนึ่งอยู่หน้าลูกสาว กำลังจะพูดคุยกับลูกสาวตัวเอง สีหน้าเฉินจงนิ่งไป ถึงแม้ผู้ชายคนนี้หน้าตาไม่แย่ แต่ผมเขาสั้น ผมสั้นขนาดนี้ไม่แน่อาจจะเป็นพวกนักเลง ลูกสาวเป็นกุลสตรี ผู้ชายคนนี้มาหาลูกสาวเขาทำไม? อยากจะแกล้งลูกสาวเขา?
“เยี่ยนจื่อ เขาเป็นใคร?”
เฉินจงถามเฉินเยี่ยน ท่าทางที่มองดูซินห้าวไม่เป็นมิตร
“อ้อ เขา หนูไม่รู้จักค่ะ”
หลังเฉินเยี่ยนตอบไป เธออยากจะกัดลิ้นตัวเอง ตัวเองพูดอะไรออกไปนะ ถึงแม้เธอกับซินห้าวไม่สนิทกัน แต่เธอรู้จักชื่อเขา อีกอย่างตอนนั้นเขาก็เป็นคนช่วยเจ้าของร่างเดิมไว้ เธอพูดออกไปได้ยังไงว่าไม่รู้จัก
แต่ถ้าบอกว่ารู้จัก เธอก็บอกเฉินจงไม่ได้ว่ารู้จักได้ยังไง คิดถึงครั้งที่แล้วที่เธอและซินห้าวพูดเล่นเรื่องถวายตัวให้ เธอบอกเฉินจงไม่ได้
เฉินเยี่ยนพูดแบบนี้ออกไปไม่เพียงแต่เฉินจงที่หน้าไม่สบอารมณ์ สีหน้าซินห้าวก็ดูแย่ขึ้นมาด้วย ตัวเองกลัวว่ายัยผู้หญิงคนนี้จะหาว่าตัวเองไม่เป็นมิตร เลยตั้งใจเข้ามาทักทาย คิดไม่ถึงว่ายัยนี่จะใจร้ายมาบอกว่าไม่รู้จักตัวเอง วันนั้นถ้าไม่ได้ตัวเองช่วยไว้ เธอต้องโดนไอ้ผู้ชายคนนั้นย่ำยีไปแล้ว วันนั้นเธอบอกว่าจะถวายตัวให้ ตัวเขาจำได้ นี่เพิ่งกี่วันเอง เธอมาบอกว่าไม่รู้จักตัวเองแล้ว ยัยนี่ตั้งใจสินะ!
สีหน้าซินห้าวดูแย่ก็จริง แต่เขามองเฉินเยี่ยนแวบหนึ่ง แล้วไม่ได้พูดอะไรกับเฉินเยี่ยน ไม่ได้แฉเฉินเยี่ยน แต่กลับพูดกับเฉินจง “ลุงเฉิน เมื่อกี้อยู่ตรงโน้นเหมือนเห็นลุง เลยเดินมาดู ไม่คิดว่าจะเป็นลุงจริงๆ”
คำพูดของซินห้าวทำให้เฉินจงและเฉินเยี่ยนอึ้งไป เฉินจงอึ้งว่าเขาไม่รู้จักผู้ชายคนนี้ แต่ฝ่ายตรงข้ามกลับรู้จักตัวเอง
เฉินเยี่ยนอึ้งไปเพราะเขาคิดไม่ถึงว่าซินห้าวรู้จักพ่อของตัวเองด้วย แต่พ่อแสดงออกชัดเจนว่าไม่รู้จักเขา หรือว่าเขาสืบเรื่องตัวเองมาแล้ว เลยรู้จักพ่อ? เขาไม่กลัวพ่อถามหรือ? หรือว่าเขาใจกล้ามากไม่กลัวพ่อรู้? ถ้าเขาบอกพ่อเรื่องที่เคยคุยกับตัวเองไว้จะทำยังไงดี พ่อจะไม่คิดว่าตัวเธอน่าขายหน้าใช่ไหม? ในพริบตาเฉินเยี่ยนคิดมากมาย เริ่มรู้สึกยืนไม่นิ่งแล้ง
“เจ้าคือ?”
สีหน้าเฉินจงดูดีขึ้นเยอะ ในเมื่อฝ่ายตรงข้ามรู้จักตัวเอง งั้นก็ไม่น่าจะใช่พวกนักเลงอันธพาล
“ผมมาจากหมู่บ้านเหว่ย ลุงคนที่สองของผมคือซินเฟิง ผมชื่อซินห้าว”
ซินห้าวแนะนำตัวเองง่ายๆ
“อ้ออ้อ ข้ารู้จัก ข้ารู้จักลุงรองของเจ้า ที่แท้ก็เป็นหลานของซินเฟิงนี่เอง ซินห้าวใช่ไหม เจ้ามาทำอะไรที่นี่?”
เฉินจงรู้จักลุงรองที่เฉินห้าวพูด ในเมื่อรู้จักกันแล้ว เขาก็วางใจ

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้นำมาจากแหล่งอื่นและได้รับการอนุญาตจากเจ้าของแล้ว

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา