เปลี่ยนชีวิต พลิกชะตารัก
เขียนโดย Xiaobei
วันที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 เวลา 16.58 น.
แก้ไขเมื่อ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 17.00 น. โดย เจ้าของนิยาย
31) ตอนที่31:ปะทะกัน
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความตอนที่31:ปะทะกัน
เฉินเยี่ยนเห็นว่าพ่อมีความคิดเห็นตรงกับตัวเอง ถึงค่อยวางใจได้
“ไม่ว่าพี่ชายหรือพี่สะใภ้ถาม พวกเราจะปิดปากแน่นไม่บอก พ่อ เก็บของพวกนี้ไว้ให้ดีนะคะ”
เฉินเยี่ยนยื่นตั๋วให้เฉินจง ถึงแม้นี่จะเป็นของดี แต่เฉินเยี่ยนก็เข้าใจ บ้านเฉินใช้ชิวิตยากลำบาก และก็ต้องการของนี่เหมือนกัน
เฉินจงรับมา เขาคิดสักพัก เอาตั๋วผ้าสองใบให้เฉินเยี่ยนแล้วพูด “ความจริงแล้วของพวกนี้เป็นของลูกทั้งหมด แต่ตั๋วธัญพืชและตั๋วน้ำมัน ลูกไม่ได้ใช้ พ่อเก็บไว้ก่อน ถ้าที่บ้านจำเป็นต้องใช้จริงๆ พ่อถึงค่อยเอาออกมาใช้ ตั๋วผ้านี่ให้ลูก รอวันปีใหม่พ่อจะพาเข้าไปในเมือง ให้ลูกตัดชุดใหม่”
เฉินเยี่ยนอึ้งไปเล็กน้อย จากนั้นรับตั๋วผ้ามา อันที่จริงตั๋วพวกนี้ถ้าเฉินจงไม่ให้เธอ เธอก็ไม่เรียกร้อง ยังไงของพวกนี้ถือว่ามีค่ามาก เขาสามารถเก็บไว้หมดเลยก็ได้ แต่เขาให้ตัวเอง หมายความว่าตัวเธอไม่ได้แย่เลยในสายตาเขา
“พ่อ พ่อเอาตั๋วธัญพืชสองชั่ง กับตั๋วน้ำมันหนึ่งชั่งมาให้หนูเถอะ”
เฉินเยี่ยนคิดไปคิดมาก็ขอขึ้นมา
“ลูกจะเอาไปทำอะไร?”
เฉินจงถามเฉินเยี่ยนด้วยความสงสัย เขาคิดไม่ถึงว่าลูกสาวจะขอตั๋วธัญพืชกับตั๋วน้ำมัน
“หนูเรียนทำไชเท้าดองกับผักกาดเผ็ดมา หนูอยากจะเอาไปขายที่ตลาด ถ้าขายได้ดี ที่บ้านก็จะได้มีรายได้มากขึ้น จะได้ไม่ต้องใช้ชีวิตแบบนี้อีก ขายไชเท้ากับผักกาดขาวไม่ได้แล้ว หนูเลยอยากลอง แต่วิธีทำมันต้องใช้เครื่องปรุงอยู่ไม่น้อย หนูอยากจะขอตั๋วธัญพืชไปแลกกับเครื่องปรุงกลับมา”
เฉินเยี่ยนคิดว่าเธอควรบอกเฉินจง เฉินจงเป็นหัวหน้าครอบครัว ถ้าเขาสนับสนุนตัวเอง เธอค่อยทำอะไรได้สะดวกหน่อย
เฉินจงไม่ได้รับปากเลยทันที เขากำลังคิดถึงความเป็นไปได้ของเรื่องนี้ ถ้าเกิดขายได้จริง ก็เป็นเรื่องที่ดี แต่ถ้าไม่ได้ล่ะ?
เขาคิดถึงหลายวันก่อนที่ลูกสาวทำอาหารมื้อนั้น อร่อยจริงๆ ดูแล้วฝีมือของลูกสาวไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
ช่างเถอะ ลูกสาวอยากลองก็ให้ลองไป ถ้าไม่ใช่ลูกสาวที่ออกมาห้ามพวกเขาทำลายเครื่องกระเบื้อง ให้ไปแจ้งทางการ เขาก็คงไม่ได้ตั๋วพวกนี้ เดิมทีก็เป็นของลูกสาวอยู่แล้ว ถึงแม้จะขายไม่ออก ไชเท้ากับผักกาดขาวพวกนี้ที่ลูกสาวทำออกมาเป็นอะไรนั่น ที่บ้านก็ยังเอามากินได้ นับว่าไม่เสียหายอะไร
“ได้สิ งั้นลูกถือดีๆ อย่าให้ใครรู้เข้า ถ้าจะซื้ออะไร ก็มาบอกพ่อ พ่อออกไปซื้อกับลูก”
เฉินจงพยักหน้าตอบรับ
“ได้ค่ะ ขอบคุณนะคะพ่อ”
เฉินเยี่ยนดีใจมาก ที่บ้านมีพ่อสนับสนุนตัวเอง งั้นต่อไปทำอะไรก็สบายแล้ว อีกอย่างผ่านเรื่องมาหลายครั้งเธอพบว่าเฉินจงไม่ใช่คนคร่ำครึ ไม่รับฟังอะไรเลย อีกหน่อยเธอมีอะไรก็จะพูดกับเฉินจงตรงๆ
เฉินจงเอาตั๋วให้เฉินเยี่ยน พ่อลูกคุยกันอีกสักพัก แล้วเดินออกไป
เดิมทีเฉินเยี่ยนวางแผนว่าตอนบ่ายจะไปสหกรณ์ในหมู่บ้านดูว่าพวกเครื่องปรุงขายยังไง ใครจะรู้ว่าเพิ่งมาถึงลานบ้าน มีคนเข้าไปในบ้านสามคน เฉินเยี่ยนเห็นคนที่มา ก็รู้ว่าเธอไปไหนไม่ได้แล้ว
หนึ่งคนในนั้นที่มาคือช่างเหลียน อีกคนเป็นผู้หญิงวัยกลางคน ผู้หญิงหน้าตาไม่แย่ แต่หน้าตากลับบูดบึ้ง เฉินเยี่ยนรู้ว่านี่คือจูเฟิ่งฮวา แม่ของช่างเหลียน
อีกคนเป็นผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่ มองแล้วหน้าตาดูคล้ายช่างเหลียนอยู่บ้าง เขาคือช่างเผิง พี่ชายคนโตของช่างเหลียน
ช่างเหลียนนี่กลับมาอย่างที่เธอคาดเดาไว้เลย แต่กลับพาคนในครอบครัวมาด้วย ดูแล้วนอกจากจะมาหนุนหลังเธอแล้ว ยังอยากจะมาดูว่าบ้านเฉินได้ผลประโยชน์อะไรบ้างล่ะสิ?
เฉินเยี่ยนเดินตามพวกเขาเข้าไปในโถงบ้าน เฉินจง หวางนิว เฉินกุ้ย แล้วยังมีเฉินเวยที่เข้ามาในโถงบ้านเหมือนกัน
“ฉันว่าครอบครัวนี้นะ พวกเรามาถึงยังไม่ต้อนรับสักคำไม่ว่า นี่แม้แต่ชาสักถ้วยยังไม่มี ถ้าพูดออกไป ไม่กลัวว่าคนอื่นจะพูดกันว่าบ้านเฉินต้อนรับแขกไม่เป็นหรือไง?”
จูเฟิ่งฮวาเข้ามาในบ้าน ก้นยังไม่ทันจะนั่งถึงม้านั่งเลย ปากก็พูดออกมาแล้ว
สีหน้าหวางนิวรู้สึกอับอาย เธอคิดไม่ถึงว่าบ้านลูกสะใภ้จะมา เลยพาเข้ามาในบ้าน ยังไม่ทันได้รินน้ำชา เธอก็พูดแบบนี้แล้ว รู้สึกอึดอัดใจ
“พวกเราคิดว่าบ้านช่างก็เป็นแบบนี้เสียอีก หรือว่าพอแขกมาก็ยกน้ำชาต้อนรับแขกเลย? ถ้างั้นทำไมพี่ชายเราไปทุกครั้งถึงไม่มีคนรินน้ำชาให้เลยสักแก้วล่ะ?
เฉินเยี่ยนไม่กลัวเธอ ตอบโต้กลับ เธอคิดแบบนี้จริง ถ้าบ้านช่างยอมพูดจาดีๆ ก็จะพูดดีด้วย ถ้าอยากหาเรื่อง งั้นเธอก็จะเล่นด้วย
จูเฟิ่งฮวาจ้องเฉินเยี่ยนตาเขม็ง ตอนนี้บ้านเฉินมีเฉินเยี่ยนคนนี้ที่เป็นเสี้ยนหนาม มาตบลูกสาวเธอ ทำลูกสาวเธอโกรธจนต้องกลับมาบ้าน ครั้งนี้เธอจะจัดการลงมือเฉินเยี่ยนแทนลูกสาว และให้เฉินเยี่ยนรู้ว่าในบ้านนี้ใครใหญ่
“ผู้ใหญ่เขาพูดกันเด็กมาพูดแทรก ยังรู้จักมีมารยาทบ้างไหม มิน่าไม่มีใครเอาเธอ เป็นแบบนี้ใครจะต้องการเธอ แต่งงานกับเธอ แม่สามีคงกลัวว่าจะโดนเธอยั่วโมโหไปจนตาย”
จูเฟิ่งฮวาพูดใส่เฉินเยี่ยน
เฉินจงและหวางนิวก้มหน้าลง เฉินเวยกลับแอบดีใจ ทางที่ดีตบกันเลย ตอนนี้เธออยากเห็นเฉินเยี่ยนลำบากที่สุด
“พี่สะใภ้เป็นแบบนี้ยังมีคนเอาเลย แล้วไม่ทำให้แม่สามีอกแตกตายด้วย ฉันจะกลัวอะไร ถึงฉันจะไม่มีมารยาทแต่ก็ยังแกร่งกว่าคนบางคน”
เฉินเยี่ยนไม่กลัวที่จูเฟิ่งฮวาพูดหรอก
“พอได้แล้ว เยี่ยนจื่อ พูดน้อยๆ หน่อย”
เฉินจงไม่ปล่อยให้เฉินเยี่ยนพูดต่อแล้ว
“คุณญาติ ไม่ใช่ว่าฉันหาเรื่องนะ ลูกสาวคนโตคนนี้ควรจะต้องดูแลบ้าง ปากคอเราะร้าย อีกหน่อยใครจะกล้ามาสู่ขอ แล้วยังบอกว่าเฉินกุ้ยไปหาแต่พวกเราไม่รินชาให้ เฉินกุ้ยเป็นเด็ก เป็นลูกเขยฉัน ฉันเป็นผู้อาวุโส ไม่รินชาให้ก็ไม่แปลก อีกอย่าง เขาเป็นลูกเขยฉัน เขาลงมือทำเองก็ได้ คุณว่าที่ฉันพูดนี่สมเหตุสมผลไหม”
จูเฟิ่งฮวาคิดจะอ้างเหตุผลมากดบ้านเฉินไว้
“ใช่แล้ว คุณพูดถูก พ่อแม่ฉันอาวุโสกว่า ไม่รินชาให้ก็ไม่แปลก พี่สะใภ้ นี่บ้านเธอ เธอเป็นลูกสะใภ้ของบ้านนี้ เธอไม่ได้ยินที่แม่เธอพูดหรือไง? ยังไม่รีบไปรินชามาอีก ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวจะโดนด่าเอาว่าไม่มีมารยาทอีกหรอก ถ้าเธอโดนแม่เธอด่า พวกเราไม่พูดอะไรหรอก พ่อแม่กับพี่ชายฉันก็คงดูไม่ดีเท่าไร ใช่ไหม”
เฉินเยี่ยนเอ่ยปากพูดก่อน อยากจะกดบ้านเฉินหรือ? ไม่มีทาง!
ช่างเหลียนมองหน้าเฉินเยี่ยนด้วยความโกรธ แม่เธอไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น แต่เฉินเยี่ยนกลับใช้วิธีตอบโต้แบบนี้ สุดท้ายเลยโดนกลับมาที่ตัวเอง เธออยากจะพูดอะไรก็ไม่ได้ แต่เธอก็ไม่ยอมรินชา ไม่อย่างนั้นจะถือว่าเธอยอมอ่อนข้อให้
จูเฟิ่งฮวารู้ว่าลูกสาวพูดไม่ชนะเฉินเยี่ยน เธอแอบประเมินดูเฉินเยี่ยน เมื่อก่อนลูกสาวคนโตบ้านเฉินเป็นคนซื่อๆ คิดไม่ถึงว่าปากจะร้ายขนาดนี้ โดนเธอพูดมาแบบนี้ เหมือนตัวเองเอาลูกสาวตัวเองไปให้โดนด่า แถมยังพูดไม่ได้ด้วยว่าเฉินเยี่ยนผิด
“ช่างเถอะ ไม่คุยเรื่องนี้แล้ว ในเมื่อผู้อาวุโสไม่ขยับ งั้นเยี่ยนจื่อไปรินชาให้พวกเราหน่อยเถอะ”
จูเฟิ่งฮวาก็โต้เฉินเยี่ยนกลับไม่ได้ เพราะเฉินเยี่ยนใช้คำพูดเธอตอบโต้กลับมา แต่เธอเป็นผู้อาวุโส เธอสามารถใช้ฐานะบีบเฉินเยี่ยนได้ เธอให้เฉินเยี่ยนไปยกชามาเสิร์ฟเธอ
“เสี่ยวเวยไปสิ ฉันเจ็บแขน ไม่อยากขยับ”
เฉินเยี่ยนไม่ไปหรอก ให้เธอมาปรนนิบัติคนพวกนี้ เธอไม่ยอม
เฉินเวยอึ้งไป ทำไมเรื่องรินชาถึงกลายเป็นมาตกอยู่ที่ตัวเองได้ เห็นๆ อยู่ว่าเฉินเยี่ยนกับจูเฟิ่งฮวาปะทะกัน ทำไมตัวเองถึงซวยได้ล่ะ เธอพูดไม่ออก แต่เธอก็ไม่สามารถฉีกหน้าคนบ้านช่างได้เหมือนเฉินเยี่ยน
“เสี่ยวเวยไปสิ”
เฉินจงพูดอีกรอบ ไม่ว่าจะยังไง แขกมาถึงแล้ว การต้อนรับแขกเป็นเรื่องที่พวกเขาต้องทำ
ในใจเฉินเวยโกรธมาก ทำไมเธอต้องมาซวยแบบนี้ แต่เธอก็ตอบโต้ไม่ได้ ไปยกชามาวางไว้ด้านหน้าจู่เฟิ่งฮวาและอีกหลายคน เธอยังยิ้มเรียกให้ดื่มชา เธอยังหวังว่าจูเฟิ่งฮวาจะจัดการเฉินเยี่ยนได้นะ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้นำมาจากแหล่งอื่นและได้รับการอนุญาตจากเจ้าของแล้ว
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ