เปลี่ยนชีวิต พลิกชะตารัก
-
เขียนโดย Xiaobei
วันที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 เวลา 16.58 น.
64 ตอน
0 วิจารณ์
48.54K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 17.00 น. โดย เจ้าของนิยาย
3) ตอนที่3:หญิงชั่วกลายเป็นน้องสาวแท้ๆ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความตอนที่3:หญิงชั่วกลายเป็นน้องสาวแท้ๆ
เฉินเยี่ยนรู้สึกว่าเสียงออดอ้อนเมื่อกี้ฟังดูคุ้นหู ใช่แล้ว นี่มันเสียงเฉินเวย ตอนที่ตัวเธอเพิ่งรู้จักเฉินเวยเธอก็ทำน้ำเสียงแบบนี้
เฉินเวย นังชั่ว ทำร้ายฉันแล้วยังจะมาพูดแบบนี้อีก ฉันกับเธอไม่จบกันแน่!
เฉินเยี่ยนคิดแล้วลืมตาขึ้นมาทันที เธอไม่สนใจอาการเจ็บปวด ออกแรงลุกขึ้นมานั่ง จ้องมองเฉินเวย แต่พอมองไปแล้ว เฉินเยี่ยนกลับอึ้งไป
เฉินเยี่ยนเห็นเฉินเวย
เด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่อายุประมาณสิบสี่สิบห้าขวบ ดูผอมแห้ง บอบบาง
ผมเธอไม่นุ่มสลวยเหมือนตอนหลัง เวลานี้มองแล้วดูค่อนข้างแข็งทื่อ สีหน้าไม่เปล่งปลั่งเหมือนตอนหลัง มองดูแล้วออกเหลืองๆ โครงหน้าก็ดูซูบผอม สิ่งเดียวที่ไม่เปลี่ยนก็คือดวงตาคู่โต ตอนที่ฝ่ามืออยู่บนใบหน้าเล็กงดงามนี้ยิ่งดูใหญ่ขึ้นไปอีก แต่ก็ยังดูมีเสน่ห์
“เฉินเวย!”
เฉินเยี่ยนตะโกนขึ้นมา ลำคอเธอแหบแห้ง เธอไม่ทันได้สังเกตเหมือนกัน เธอมัวแต่ตกใจกับความเปลี่ยนแปลงของเฉินเวยอยู่ เฉินเวยในตอนนี้ยิ่งเหมือนเฉินเวยตอนที่เธอเพิ่งรู้จัก แต่ตอนนี้เฉินเวยอายุยี่สิบห้าแล้ว ทำไมถึงกลับไปอายุสิบสี่สิบห้าได้?
อีกอย่าง เฉินเวยใส่ชุดอะไรเนี่ย เสื้อแทบจะมองไม่ออกว่าสีอะไรแล้ว กางเกงสีฟ้า ส่วนเท้าสวมรองเท้าผ้า
นี่มันเสื้อผ้าสมัยไหนเนี่ย ชุดเชยแบบนี้เธอไม่เคยเห็นเฉินเวยใส่มาก่อน จะบอกว่าเฉินเวยเป็นผู้หญิงที่พิถีพิถันมาก เธอแต่งตัวเก่ง จะมาใส่เสื้อผ้าเก่าๆ ได้ยังไง
เฉินเยี่ยนคิด ที่น่าตกใจคือเธอไม่ได้สังเกตเลยว่าเสื้อผ้าที่ตัวเองใส่ดูน่าเกลียดยิ่งกว่าเฉินเวยอีก
“พี่ ตื่นแล้วเหรอ?”
เฉินเวยมองเฉินเยี่ยน ในแววตาดูเผยให้เห็นความกังวล แต่ลึกๆ แล้วนั้นกำลังหยั่งเชิงอยู่
เห็นเฉินเวยจะมาพยุงตัวเอง เฉินเยี่ยนรีบสะบัดแขน พูดเป็นเล่น นังสองหน้าตอแหลคนนี้ เธอไม่อยากให้มาแตะต้องโดนตัวเอง อีกอย่าง เมื่อกี้เธอเรียกตัวเองว่าอะไรนะ? พี่? เธอเรียกตัวเองว่าเพื่อนรักมาตลอดไม่ใช่หรือ? ทำไมถึงมาเรียกตัวเองว่าพี่ล่ะ? หรือว่าเธอตกลงกับอวี๋เหวยหมินเรียบร้อยแล้ว ตัวเธอเป็นหลวง เฉินเวยเป็นน้อย?
อยากจะอ้วก!พวกเขาคิดว่านี่คือยุคสมัยกึ่งอาณานิคมกึ่งศักดินาหรือไงนะ? ยังคิดจะมีภรรยาสองคน พวกเขาต่ำตมขนาดนี้ เธอไม่ยอมหรอก!
ไม่!
ไม่ถูกสิ เมื่อกี้เธอเพิ่งเห็นเฉินเวยในอายุสิบสี่สิบห้า นี่เกิดอะไรขึ้น
แต่คนคนนี้คือเฉินเวยนะ เธอรู้จักเฉินเวยตั้งแต่อายุสิบกว่าขวบแล้ว เธอท่าทางแบบนี้จริงๆ
เฉินเยี่ยนรู้สึกว่าในสมองเธอเบลอไปหมด
“เยี่ยน เยี่ยนจื่อ ตื่นแล้วเหรอ? เจ็บตรงไหน? เจ็บหัวหรือเปล่า บอกแม่มา”
ตอนนี้หญิงวัยกลางคนนั่งยองลงมาถามเฉินเยี่ยนด้วยความใจร้อน
นี่คือแม่เธอ?
ไม่ถูกสิ แม่เธออยู่กับน้องชายที่บ้านนอกไม่ใช่หรือ? อีกอย่างแม่เธอก็ไม่ได้หน้าตาแบบนี้ หญิงวัยกลางคนคนนี้ดูผอมซูบซีด หน้าตาดูลำบากค้นแค้น ไม่เหมือนแม่เธอเลยสักนิด แต่แววตาเธอที่เป็นห่วงและร้อนรนไม่ใช่เรื่องโกหก
เธอถามว่าตัวเองว่าเจ็บหัวหรือเปล่า เธอเจ็บหัวมากจริงๆ แต่นี่มันเกิดอะไรขึ้น? เฉินเยี่ยนปะติดปะต่อเรื่องราวไม่ถูก
“ตื่นแล้วเหรอ? ทำไมไม่ตายไปซะ ทำเรื่องน่าขายขี้หน้าขนาดนี้ ยังกล้าฟื้นขึ้นมาอีก ถ้าเป็นฉัน ฉันจะโขกหัวให้ตายไปเลย จะได้ไม่ขายขี้หน้าคนอื่นเขา”
ตอนนี้มีเสียงดุร้ายดังขึ้นมา
เฉินเยี่ยนเงยหน้าขึ้นไปมองเธอแวบหนึ่ง ผู้หญิงวัยสี่สิบกว่ายืนอยู่ตรงนั้นมองมาที่เธอด้วยสีหน้าเหยียดหยาม
ตัวเธอไม่ได้ทำผิดต่อคุณป้าคนนี้นี่ และเธอก็ไม่รู้จักกันด้วย ทำไมถึงต้องมาสาปแช่งอย่างดุร้ายใส่เธอด้วย เห็นได้ชัดว่าคนที่อยากจะให้ตัวเองตาย คืออวี๋เหวยหมินและเฉินเวย...
ไม่ ไม่ถูกสิ ทำไมเธอไม่เห็นอวี๋เหวยหมิน แล้วยังเฉินเวยอีก เธอทำไมถึงกลายเป็นเด็ก นี่มันเกิดอะไรขึ้น?
เฉินเยี่ยนงุนงง เธอก้มหน้าลงมองขาตัวเอง เธอสวมกางเกงสีดำ กางเกงสกปรกมาก นี่ก็ไม่ใช่เสื้อผ้าของเธอนี่นา เธอมองไปที่รองเท้าเธออีก เป็นรองเท้าผ้า ด้านบนเต็มไปด้วยโคลน มองไม่เห็นสีแล้ว เธอมองไปที่มือตัวเองอีกครั้ง มือผอมยาว ไม่มีเนื้อมีหนังเลย
นี่ใช่มือของเธอหรือ?
เฉินเยี่ยนมองไปรอบๆ อีกครั้ง เหมือนเป็นสวนผลไม้ มีคนยืนอยู่มากมาย อีกฝั่งไม่ไกลมีผู้ชายนอนอยู่ ศีรษะชายหนุ่มเต็มไปด้วยเลือด นอนอยู่ตรงนั้นไม่ขยับ
อา..
เฉินเยี่ยนร้องตกใจ นี่มันอะไรกันนี่ เธอต้องฝันไปแน่ๆ ไม่อย่างนั้นทำไมเฉินเวยกลายเป็นเด็ก อยู่ๆ มีแม่ที่ไม่รู้จัก มีผู้หญิงที่ด่าสาปแช่งเธอ แล้วยังมีคนตายที่ใบหน้าเต็มไปด้วยเลือดอีก
ต้องเป็นความฝันแน่ๆ เป็นความฝันแน่ๆ!เป็นความฝันแน่นอน เฉินเยี่ยนสะกดจิตตัวเอง
“ร้องอะไร ร้องหาผีเหรอ เธอมันเป็นหญิงหน้าไม่อายทำร้ายคนอื่น แล้วยังมีหน้ามาร้องอีก ดูสิ่งที่เธอทำ เธอไม่อายคนอื่น แต่ฉันอายนะ”
ผู้หญิงคนที่ด่าเฉินเยี่ยนก่อนหน้านี้พูดขึ้นมาอีก
“คุณป้าซุ่ย ป้าอย่าว่าพี่สาวหนูเลยค่ะ พี่สาวหนูก็กลัว เธอไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ ถึงแม้พี่สาวหนูจะทำเรื่องไม่ดี ทำผิดต่อพี่เหวยหมิน ทำผิดต่อครอบครัวของป้า แต่พี่สาวหนูก็ได้รับบาดเจ็บ ป้าอย่าโทษเธอเลยค่ะ”
เฉินเวยขอร้องแทนเฉินเยี่ยนอย่างน่าสงสาร
“หุบปาก! ใครใช้ให้เธอพูด เธอเป็นอะไร ฉันถึงต้องให้เธอมาพูดแทนฉัน”
เฉินเยี่ยนได้ยินเสียงเฉินเวยก็รู้สึกคลื่นไส้ ใครเรียกให้เธอทำเป็นคนดี อีกอย่างฟังคำที่เฉินเวยพูด นั่นคือกำลังขอร้องให้ตัวเองงั้นหรือ? มาพูดว่าตัวเองไม่ดี ในฝันเฉินเวยก็ยังมีคุณธรรมอยู่อีก
เฉินเยี่ยนพูดออกไป เธอรู้สึกว่าน้ำเสียงฟังดูไม่เหมือนตัวเองเลย เธออยากจะดูใบหน้านี้ ว่าหน้าตาเหมือนตัวเองหรือเปล่า ยังไงตอนนี้ก็ฝันอยู่ เธออยากจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
“เสี่ยวเวย เธอดูสิ พี่เธอยังไม่รับน้ำใจเธอเลย เธอเป็นเด็กสาวน่ารักขนาดนี้ทำไมถึงมีพี่สาวแบบนี้นะ หน้าไม่อายไปอ่อยผู้ชาย อีกหน่อยจะกระทบไปถึงบ้านสามีเธอได้”
ป้าซุ่ยเกลียดเฉินเยี่ยน แต่เธอชอบเฉินเวยอยู่
“เธอต่างหากที่หน้าด้าน ทั้งบ้านเธอไปอ่อยผู้ชาย”
เฉินเยี่ยนโกรธขึ้นมา เห็นๆ อยู่ว่าเฉินเวยเป็นคนอ่อยสามีเธอ ทำไมตอนนี้คนอื่นถึงมาบอกว่าเธอเป็นคนอ่อย โลกนี้ยังมีความยุติธรรมอยู่บ้างไหม
เฉินเยี่ยนพูดคำนี้ออกไป ทำเอาทุกคนที่อยู่ตรงนี้ตกใจกันหมด ไม่มีใครคิดว่าเธอจะพูดแบบนี้ออกมา ต่างวิพากษ์วิจารณ์กัน
“คุณป้า อย่าโกรธเลยค่ะ พี่สาวหนูเลอะเลือนแล้ว พี่ไม่ได้ตั้งใจว่าป้าหรอกค่ะ หนูขอโทษแทนพี่สาวหนูด้วยนะคะ”
เฉินเวยขอโทษแทนเฉินเยี่ยน แต่สายตาเฉินเวยที่มองมาที่เฉินเยี่ยนตอนคนอื่นมองไม่เห็นเปลี่ยนไปแล้ว
“เยี่ยนจื่อ ลูกอย่าทำอย่างนี้สิ แม่รู้ว่าลูกเสียใจ เสี่ยวเวยก็ออกหน้าพูดแทนลูกแล้ว นั่นเป็นน้องสาวลูกนะ ถ้าลูกเสียใจ ก็พูดออกมาเลย ไม่ต้องไปว่าเสี่ยวเวย”
คนที่เป็นแม่ของเฉินเยี่ยนพูดเสียงเบา เธอรู้สึกว่าลูกสาวต้องเสียใจมากแน่ ไม่อย่างนั้นจะคอยพูดทิ่มแทงเสี่ยวเวยที่ช่วยเธอมาตลอดได้ยังไงกัน
“น้องสาวอะไรกัน ฉันไม่รู้จักเธอ ฉันไม่มีน้องสาวแบบนี้ ฉันไม่ต้องการให้เธอมาช่วยฉัน”
เฉินเยี่ยนพูดอย่างรวดเร็ว แต่พอพูดจบก็สบตากับเฉินเวย สายตาเธอมีความสงสัยและตกใจ เฉินเยี่ยนก็ตกใจ ในขณะเดียวกันความทรงจำในส่วนที่ลึกที่สุดของสมองเธอระเบิดออกมา เฉินเยี่ยนเจ็บจนต้องกุมศีรษะและร้องออกมา
เฉินเยี่ยนรู้สึกว่าเสียงออดอ้อนเมื่อกี้ฟังดูคุ้นหู ใช่แล้ว นี่มันเสียงเฉินเวย ตอนที่ตัวเธอเพิ่งรู้จักเฉินเวยเธอก็ทำน้ำเสียงแบบนี้
เฉินเวย นังชั่ว ทำร้ายฉันแล้วยังจะมาพูดแบบนี้อีก ฉันกับเธอไม่จบกันแน่!
เฉินเยี่ยนคิดแล้วลืมตาขึ้นมาทันที เธอไม่สนใจอาการเจ็บปวด ออกแรงลุกขึ้นมานั่ง จ้องมองเฉินเวย แต่พอมองไปแล้ว เฉินเยี่ยนกลับอึ้งไป
เฉินเยี่ยนเห็นเฉินเวย
เด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่อายุประมาณสิบสี่สิบห้าขวบ ดูผอมแห้ง บอบบาง
ผมเธอไม่นุ่มสลวยเหมือนตอนหลัง เวลานี้มองแล้วดูค่อนข้างแข็งทื่อ สีหน้าไม่เปล่งปลั่งเหมือนตอนหลัง มองดูแล้วออกเหลืองๆ โครงหน้าก็ดูซูบผอม สิ่งเดียวที่ไม่เปลี่ยนก็คือดวงตาคู่โต ตอนที่ฝ่ามืออยู่บนใบหน้าเล็กงดงามนี้ยิ่งดูใหญ่ขึ้นไปอีก แต่ก็ยังดูมีเสน่ห์
“เฉินเวย!”
เฉินเยี่ยนตะโกนขึ้นมา ลำคอเธอแหบแห้ง เธอไม่ทันได้สังเกตเหมือนกัน เธอมัวแต่ตกใจกับความเปลี่ยนแปลงของเฉินเวยอยู่ เฉินเวยในตอนนี้ยิ่งเหมือนเฉินเวยตอนที่เธอเพิ่งรู้จัก แต่ตอนนี้เฉินเวยอายุยี่สิบห้าแล้ว ทำไมถึงกลับไปอายุสิบสี่สิบห้าได้?
อีกอย่าง เฉินเวยใส่ชุดอะไรเนี่ย เสื้อแทบจะมองไม่ออกว่าสีอะไรแล้ว กางเกงสีฟ้า ส่วนเท้าสวมรองเท้าผ้า
นี่มันเสื้อผ้าสมัยไหนเนี่ย ชุดเชยแบบนี้เธอไม่เคยเห็นเฉินเวยใส่มาก่อน จะบอกว่าเฉินเวยเป็นผู้หญิงที่พิถีพิถันมาก เธอแต่งตัวเก่ง จะมาใส่เสื้อผ้าเก่าๆ ได้ยังไง
เฉินเยี่ยนคิด ที่น่าตกใจคือเธอไม่ได้สังเกตเลยว่าเสื้อผ้าที่ตัวเองใส่ดูน่าเกลียดยิ่งกว่าเฉินเวยอีก
“พี่ ตื่นแล้วเหรอ?”
เฉินเวยมองเฉินเยี่ยน ในแววตาดูเผยให้เห็นความกังวล แต่ลึกๆ แล้วนั้นกำลังหยั่งเชิงอยู่
เห็นเฉินเวยจะมาพยุงตัวเอง เฉินเยี่ยนรีบสะบัดแขน พูดเป็นเล่น นังสองหน้าตอแหลคนนี้ เธอไม่อยากให้มาแตะต้องโดนตัวเอง อีกอย่าง เมื่อกี้เธอเรียกตัวเองว่าอะไรนะ? พี่? เธอเรียกตัวเองว่าเพื่อนรักมาตลอดไม่ใช่หรือ? ทำไมถึงมาเรียกตัวเองว่าพี่ล่ะ? หรือว่าเธอตกลงกับอวี๋เหวยหมินเรียบร้อยแล้ว ตัวเธอเป็นหลวง เฉินเวยเป็นน้อย?
อยากจะอ้วก!พวกเขาคิดว่านี่คือยุคสมัยกึ่งอาณานิคมกึ่งศักดินาหรือไงนะ? ยังคิดจะมีภรรยาสองคน พวกเขาต่ำตมขนาดนี้ เธอไม่ยอมหรอก!
ไม่!
ไม่ถูกสิ เมื่อกี้เธอเพิ่งเห็นเฉินเวยในอายุสิบสี่สิบห้า นี่เกิดอะไรขึ้น
แต่คนคนนี้คือเฉินเวยนะ เธอรู้จักเฉินเวยตั้งแต่อายุสิบกว่าขวบแล้ว เธอท่าทางแบบนี้จริงๆ
เฉินเยี่ยนรู้สึกว่าในสมองเธอเบลอไปหมด
“เยี่ยน เยี่ยนจื่อ ตื่นแล้วเหรอ? เจ็บตรงไหน? เจ็บหัวหรือเปล่า บอกแม่มา”
ตอนนี้หญิงวัยกลางคนนั่งยองลงมาถามเฉินเยี่ยนด้วยความใจร้อน
นี่คือแม่เธอ?
ไม่ถูกสิ แม่เธออยู่กับน้องชายที่บ้านนอกไม่ใช่หรือ? อีกอย่างแม่เธอก็ไม่ได้หน้าตาแบบนี้ หญิงวัยกลางคนคนนี้ดูผอมซูบซีด หน้าตาดูลำบากค้นแค้น ไม่เหมือนแม่เธอเลยสักนิด แต่แววตาเธอที่เป็นห่วงและร้อนรนไม่ใช่เรื่องโกหก
เธอถามว่าตัวเองว่าเจ็บหัวหรือเปล่า เธอเจ็บหัวมากจริงๆ แต่นี่มันเกิดอะไรขึ้น? เฉินเยี่ยนปะติดปะต่อเรื่องราวไม่ถูก
“ตื่นแล้วเหรอ? ทำไมไม่ตายไปซะ ทำเรื่องน่าขายขี้หน้าขนาดนี้ ยังกล้าฟื้นขึ้นมาอีก ถ้าเป็นฉัน ฉันจะโขกหัวให้ตายไปเลย จะได้ไม่ขายขี้หน้าคนอื่นเขา”
ตอนนี้มีเสียงดุร้ายดังขึ้นมา
เฉินเยี่ยนเงยหน้าขึ้นไปมองเธอแวบหนึ่ง ผู้หญิงวัยสี่สิบกว่ายืนอยู่ตรงนั้นมองมาที่เธอด้วยสีหน้าเหยียดหยาม
ตัวเธอไม่ได้ทำผิดต่อคุณป้าคนนี้นี่ และเธอก็ไม่รู้จักกันด้วย ทำไมถึงต้องมาสาปแช่งอย่างดุร้ายใส่เธอด้วย เห็นได้ชัดว่าคนที่อยากจะให้ตัวเองตาย คืออวี๋เหวยหมินและเฉินเวย...
ไม่ ไม่ถูกสิ ทำไมเธอไม่เห็นอวี๋เหวยหมิน แล้วยังเฉินเวยอีก เธอทำไมถึงกลายเป็นเด็ก นี่มันเกิดอะไรขึ้น?
เฉินเยี่ยนงุนงง เธอก้มหน้าลงมองขาตัวเอง เธอสวมกางเกงสีดำ กางเกงสกปรกมาก นี่ก็ไม่ใช่เสื้อผ้าของเธอนี่นา เธอมองไปที่รองเท้าเธออีก เป็นรองเท้าผ้า ด้านบนเต็มไปด้วยโคลน มองไม่เห็นสีแล้ว เธอมองไปที่มือตัวเองอีกครั้ง มือผอมยาว ไม่มีเนื้อมีหนังเลย
นี่ใช่มือของเธอหรือ?
เฉินเยี่ยนมองไปรอบๆ อีกครั้ง เหมือนเป็นสวนผลไม้ มีคนยืนอยู่มากมาย อีกฝั่งไม่ไกลมีผู้ชายนอนอยู่ ศีรษะชายหนุ่มเต็มไปด้วยเลือด นอนอยู่ตรงนั้นไม่ขยับ
อา..
เฉินเยี่ยนร้องตกใจ นี่มันอะไรกันนี่ เธอต้องฝันไปแน่ๆ ไม่อย่างนั้นทำไมเฉินเวยกลายเป็นเด็ก อยู่ๆ มีแม่ที่ไม่รู้จัก มีผู้หญิงที่ด่าสาปแช่งเธอ แล้วยังมีคนตายที่ใบหน้าเต็มไปด้วยเลือดอีก
ต้องเป็นความฝันแน่ๆ เป็นความฝันแน่ๆ!เป็นความฝันแน่นอน เฉินเยี่ยนสะกดจิตตัวเอง
“ร้องอะไร ร้องหาผีเหรอ เธอมันเป็นหญิงหน้าไม่อายทำร้ายคนอื่น แล้วยังมีหน้ามาร้องอีก ดูสิ่งที่เธอทำ เธอไม่อายคนอื่น แต่ฉันอายนะ”
ผู้หญิงคนที่ด่าเฉินเยี่ยนก่อนหน้านี้พูดขึ้นมาอีก
“คุณป้าซุ่ย ป้าอย่าว่าพี่สาวหนูเลยค่ะ พี่สาวหนูก็กลัว เธอไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ ถึงแม้พี่สาวหนูจะทำเรื่องไม่ดี ทำผิดต่อพี่เหวยหมิน ทำผิดต่อครอบครัวของป้า แต่พี่สาวหนูก็ได้รับบาดเจ็บ ป้าอย่าโทษเธอเลยค่ะ”
เฉินเวยขอร้องแทนเฉินเยี่ยนอย่างน่าสงสาร
“หุบปาก! ใครใช้ให้เธอพูด เธอเป็นอะไร ฉันถึงต้องให้เธอมาพูดแทนฉัน”
เฉินเยี่ยนได้ยินเสียงเฉินเวยก็รู้สึกคลื่นไส้ ใครเรียกให้เธอทำเป็นคนดี อีกอย่างฟังคำที่เฉินเวยพูด นั่นคือกำลังขอร้องให้ตัวเองงั้นหรือ? มาพูดว่าตัวเองไม่ดี ในฝันเฉินเวยก็ยังมีคุณธรรมอยู่อีก
เฉินเยี่ยนพูดออกไป เธอรู้สึกว่าน้ำเสียงฟังดูไม่เหมือนตัวเองเลย เธออยากจะดูใบหน้านี้ ว่าหน้าตาเหมือนตัวเองหรือเปล่า ยังไงตอนนี้ก็ฝันอยู่ เธออยากจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
“เสี่ยวเวย เธอดูสิ พี่เธอยังไม่รับน้ำใจเธอเลย เธอเป็นเด็กสาวน่ารักขนาดนี้ทำไมถึงมีพี่สาวแบบนี้นะ หน้าไม่อายไปอ่อยผู้ชาย อีกหน่อยจะกระทบไปถึงบ้านสามีเธอได้”
ป้าซุ่ยเกลียดเฉินเยี่ยน แต่เธอชอบเฉินเวยอยู่
“เธอต่างหากที่หน้าด้าน ทั้งบ้านเธอไปอ่อยผู้ชาย”
เฉินเยี่ยนโกรธขึ้นมา เห็นๆ อยู่ว่าเฉินเวยเป็นคนอ่อยสามีเธอ ทำไมตอนนี้คนอื่นถึงมาบอกว่าเธอเป็นคนอ่อย โลกนี้ยังมีความยุติธรรมอยู่บ้างไหม
เฉินเยี่ยนพูดคำนี้ออกไป ทำเอาทุกคนที่อยู่ตรงนี้ตกใจกันหมด ไม่มีใครคิดว่าเธอจะพูดแบบนี้ออกมา ต่างวิพากษ์วิจารณ์กัน
“คุณป้า อย่าโกรธเลยค่ะ พี่สาวหนูเลอะเลือนแล้ว พี่ไม่ได้ตั้งใจว่าป้าหรอกค่ะ หนูขอโทษแทนพี่สาวหนูด้วยนะคะ”
เฉินเวยขอโทษแทนเฉินเยี่ยน แต่สายตาเฉินเวยที่มองมาที่เฉินเยี่ยนตอนคนอื่นมองไม่เห็นเปลี่ยนไปแล้ว
“เยี่ยนจื่อ ลูกอย่าทำอย่างนี้สิ แม่รู้ว่าลูกเสียใจ เสี่ยวเวยก็ออกหน้าพูดแทนลูกแล้ว นั่นเป็นน้องสาวลูกนะ ถ้าลูกเสียใจ ก็พูดออกมาเลย ไม่ต้องไปว่าเสี่ยวเวย”
คนที่เป็นแม่ของเฉินเยี่ยนพูดเสียงเบา เธอรู้สึกว่าลูกสาวต้องเสียใจมากแน่ ไม่อย่างนั้นจะคอยพูดทิ่มแทงเสี่ยวเวยที่ช่วยเธอมาตลอดได้ยังไงกัน
“น้องสาวอะไรกัน ฉันไม่รู้จักเธอ ฉันไม่มีน้องสาวแบบนี้ ฉันไม่ต้องการให้เธอมาช่วยฉัน”
เฉินเยี่ยนพูดอย่างรวดเร็ว แต่พอพูดจบก็สบตากับเฉินเวย สายตาเธอมีความสงสัยและตกใจ เฉินเยี่ยนก็ตกใจ ในขณะเดียวกันความทรงจำในส่วนที่ลึกที่สุดของสมองเธอระเบิดออกมา เฉินเยี่ยนเจ็บจนต้องกุมศีรษะและร้องออกมา
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้นำมาจากแหล่งอื่นและได้รับการอนุญาตจากเจ้าของแล้ว
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ