"วาดเขียน" 's story
-
เขียนโดย Littlemoonwrite
วันที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2562 เวลา 21.20 น.
7 บท
1 วิจารณ์
7,622 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 21 เมษายน พ.ศ. 2563 13.29 น. โดย เจ้าของนิยาย
6) ทางเลือกของมนุษย์
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ หลังจากวันนั้นวาดซึมลงไปมากอย่างเห็นได้ชัด โทรศัพท์ของวาดมีการโทรเข้ามาตลอดเวลา แต่วาดก็ไม่ได้มีท่าทีสนใจจะรับมันเลยแม้แต่น้อย ผมไม่รู้ว่าเพื่อนตัวเล็กเป็นอะไร เห็นทีผมจะอยู่เฉยอีกไม่ได้ ผมคว้าโทรศัพท์ส่งไลน์หาพ่อให้สืบหาเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะรู้ดีว่าต่อให้พูดถามอะไรไป ก็จะไม่มีใครให้ความจริงกับผมแม้แต่ตัววาดเอง พอถึงเวลาเลิกเรียนวาดกลับรีบเดินออกไปโดยไม่รอผม ผมไม่อาจรู้ได้ว่าคนตัวเล็กหายไปไหน ผมโทรหาเท่าไรวาดก็ไม่ยอมรับสายผมเลย ให้ตายสิ!!
วาด’ s part
“ลบรูปนั้นเถอะนะส้ม นะพี่ดีน” ผมอยู่ที่ดาดฟ้าตึกนาฏศิลป์อีกครั้ง วันนี้ผมมาตามนัดของคนทั้งสองที่บอกจะลบรูปน่ารังเกียจนั่นให้ผม
“กราบกูสิ หึ คนอย่างมึงทั้งแรดทั้งร่านอยากจะได้ผัวเพื่อนไม่ใช่หรอ กูก็แค่ช่วยมึงหาผัวไม่ดีรึไง” เสียงของส้มเอ่ยขึ้น ทำให้ผมรู้สึกเจ็บแปลบในใจ ไม่คิดเลย ไม่คิดว่าการนิ่งเฉยและไม่ตอบโต้ตามคำสอนของแม่จะทำให้ผมต้องเจอเรื่องแบบนี้
“ส้มกำลังเข้าใจผิดนะ เราไม่ได้มีความคิดนั้นนะส้ม” ผมพยามจะอธิบายให้เธอเข้าใจ
เพี๊ยะ!
“ตอแหล!!” หน้าผมหันตามแรงของคนที่เคยเป็นเพื่อน มันเจ็บจนทำให้ผมน้ำตาซึม ก่อนที่ผมจะได้เอ่ยอะไรออกไป ผมเริ่มรู้สึกตาพร่ามัว อาจเพราะวันนี้ตั้มยังคงเอาชุดของผมไปซ่อนและทำให้ผมอดข้าวกลางวัน หรืออาจเพราะเศษกระจกที่ทิ่มขาผมจนเลือดไหลจากการโดนส้มตบจนล้มลงมาทับมัน
ส้มเริ่มหงุดหงิดผมมากขึ้น เธอขึ้นคร่อมผมก่อนจะฟาดมือบางลงบนหน้าของผมไม่หยุด ก่อนจะจิกหัวผมขึ้นให้โขกกับกำแพงด้านข้าง หลังจากที่เธอพอใจ เธอก็ลุกออกไปโดยไม่หันกลับมามองผมอีก
“ส…ส้ม…” เสียงของผมแหบพร่าของผมที่เรียกส้มไม่ได้ทำให้เธอเห็นใจ ผมพยามยันตัวลุกขึ้น ก่อนจะเอื้อมไปแตะเพื่อนเก่าเพียงหวังว่าเราจะหันหน้ามาคุยกันได้อีกครั้ง
“เห้ยมึง! อย่ามาแตะส้มนะ” พี่ดีน รุ่นพี่แสนดีที่เคยช่วยเหลือผม เขาตะโกนใส่ผมก่อนจะผลักผมให้ถอยห่าง ด้วยจังหวะและอาจเป็นคราวซวยของผม ก่อนที่หลังของผมจะชนเข้ากับเหล็กแหลมที่แทงทะลุอกผมทันที
เสียงในหูผมดังอื้ออึง ผมเริ่มหอบหายใจ คนทั้งสองตรงหน้าผมมีอาการตกใจก่อนที่รุ่นพี่คนนั้นจะตั้งสติคว้ามือแฟนสาวของตัวเองวิ่งหนีไป ทั้งที่ผมยังไม่ทันได้ทำอะไรนอกจากเอ่ยชื่อเพื่อนเก่า แต่พวกเขากลับตัดสินใจทำร้ายผมอย่างนี้ หนำซ้ำแล้วพวกเขายังเลือกจะทิ้งผมไว้โดยไม่คิดช่วยเหลือเลยสักนิด นี่มันเป็นแค่การแกล้งกันจริงๆ หรอ โทรศัพท์ของผมไม่หยุดสั่นนับตั้งแต่วันนั้นที่มีเรื่อง อยู่ๆ ผมก็นึกอยากจะใช้มันขึ้นมา ยังไม่ทันที่ผมจะได้ทำอะไร ปลายสายที่ขึ้นว่าเขียนก็โทรเข้ามา ผมรับสายทั้งน้ำตา นึกถึงคำสัญญาว่าจะเป็นเพื่อนที่เขียนต้องการ นี่คือสิ่งสุดท้ายที่ผมจะเลือกได้ก่อนจะเอ่ยบอกปลายสายเสียงเบา
“ดาดฟ้านาฏศิลป์”
ทางเลือกของผมในฐานะมนุษย์ที่มีชะตาโชคร้ายคนนึง ผมเลือกให้คนอื่นตัดสินทางเดินชีวิตของผม
วาด’ s part
“ลบรูปนั้นเถอะนะส้ม นะพี่ดีน” ผมอยู่ที่ดาดฟ้าตึกนาฏศิลป์อีกครั้ง วันนี้ผมมาตามนัดของคนทั้งสองที่บอกจะลบรูปน่ารังเกียจนั่นให้ผม
“กราบกูสิ หึ คนอย่างมึงทั้งแรดทั้งร่านอยากจะได้ผัวเพื่อนไม่ใช่หรอ กูก็แค่ช่วยมึงหาผัวไม่ดีรึไง” เสียงของส้มเอ่ยขึ้น ทำให้ผมรู้สึกเจ็บแปลบในใจ ไม่คิดเลย ไม่คิดว่าการนิ่งเฉยและไม่ตอบโต้ตามคำสอนของแม่จะทำให้ผมต้องเจอเรื่องแบบนี้
“ส้มกำลังเข้าใจผิดนะ เราไม่ได้มีความคิดนั้นนะส้ม” ผมพยามจะอธิบายให้เธอเข้าใจ
เพี๊ยะ!
“ตอแหล!!” หน้าผมหันตามแรงของคนที่เคยเป็นเพื่อน มันเจ็บจนทำให้ผมน้ำตาซึม ก่อนที่ผมจะได้เอ่ยอะไรออกไป ผมเริ่มรู้สึกตาพร่ามัว อาจเพราะวันนี้ตั้มยังคงเอาชุดของผมไปซ่อนและทำให้ผมอดข้าวกลางวัน หรืออาจเพราะเศษกระจกที่ทิ่มขาผมจนเลือดไหลจากการโดนส้มตบจนล้มลงมาทับมัน
ส้มเริ่มหงุดหงิดผมมากขึ้น เธอขึ้นคร่อมผมก่อนจะฟาดมือบางลงบนหน้าของผมไม่หยุด ก่อนจะจิกหัวผมขึ้นให้โขกกับกำแพงด้านข้าง หลังจากที่เธอพอใจ เธอก็ลุกออกไปโดยไม่หันกลับมามองผมอีก
“ส…ส้ม…” เสียงของผมแหบพร่าของผมที่เรียกส้มไม่ได้ทำให้เธอเห็นใจ ผมพยามยันตัวลุกขึ้น ก่อนจะเอื้อมไปแตะเพื่อนเก่าเพียงหวังว่าเราจะหันหน้ามาคุยกันได้อีกครั้ง
“เห้ยมึง! อย่ามาแตะส้มนะ” พี่ดีน รุ่นพี่แสนดีที่เคยช่วยเหลือผม เขาตะโกนใส่ผมก่อนจะผลักผมให้ถอยห่าง ด้วยจังหวะและอาจเป็นคราวซวยของผม ก่อนที่หลังของผมจะชนเข้ากับเหล็กแหลมที่แทงทะลุอกผมทันที
เสียงในหูผมดังอื้ออึง ผมเริ่มหอบหายใจ คนทั้งสองตรงหน้าผมมีอาการตกใจก่อนที่รุ่นพี่คนนั้นจะตั้งสติคว้ามือแฟนสาวของตัวเองวิ่งหนีไป ทั้งที่ผมยังไม่ทันได้ทำอะไรนอกจากเอ่ยชื่อเพื่อนเก่า แต่พวกเขากลับตัดสินใจทำร้ายผมอย่างนี้ หนำซ้ำแล้วพวกเขายังเลือกจะทิ้งผมไว้โดยไม่คิดช่วยเหลือเลยสักนิด นี่มันเป็นแค่การแกล้งกันจริงๆ หรอ โทรศัพท์ของผมไม่หยุดสั่นนับตั้งแต่วันนั้นที่มีเรื่อง อยู่ๆ ผมก็นึกอยากจะใช้มันขึ้นมา ยังไม่ทันที่ผมจะได้ทำอะไร ปลายสายที่ขึ้นว่าเขียนก็โทรเข้ามา ผมรับสายทั้งน้ำตา นึกถึงคำสัญญาว่าจะเป็นเพื่อนที่เขียนต้องการ นี่คือสิ่งสุดท้ายที่ผมจะเลือกได้ก่อนจะเอ่ยบอกปลายสายเสียงเบา
“ดาดฟ้านาฏศิลป์”
ทางเลือกของผมในฐานะมนุษย์ที่มีชะตาโชคร้ายคนนึง ผมเลือกให้คนอื่นตัดสินทางเดินชีวิตของผม
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ