"วาดเขียน" 's story
เขียนโดย Littlemoonwrite
วันที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2562 เวลา 21.20 น.
แก้ไขเมื่อ 21 เมษายน พ.ศ. 2563 13.29 น. โดย เจ้าของนิยาย
7) บทสุดท้าย - วาดเขียน's story
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความการจากไปของวาดในวันนั้นทำให้คนในโรงเรียนรู้สึกตกใจ โดยเฉพาะกับตั้ม คนส่วนใหญ่ที่เคยแกล้งวาดต่างก็รู้สึกมึนงงไปช่วงหนึ่งเพราะไม่เข้าใจเรื่องราว ทางโรงเรียนปิดเรื่องสาเหตุการตายของวาดไว้อย่างเงียบสนิท เพียงเพราะคนก่อเหตุเป็นนักเรียนกีฬาดีเด่นที่กำลังเข้าสู่ทีมชาติและนำชื่อเสียงมาให้โรงเรียน แต่ไม่ใช่กับตั้มและเขียนที่รับรู้เรื่องนี้ ตั้มเค้นเอาความจริงจากโรงเรียนมาได้ก่อนที่จะเดินเข้ามาคุยกับเขียนอย่างตรงไปตรงมา ใช่ครับ ตั้มชอบวาด การแกล้งของเขาเพียงต้องการหยอกล้อวาดก็เท่านั้น เขาไม่เคยคิดว่าเรื่องราวมันจะบานปลายมาขนาดนี้ ความคิดของผมที่จะเอาคืนทุกคนนั้นก็ยังคงอยู่ ทั้งที่รับปากพ่อกับแม่ไว้ว่าจะไม่ก่อเรื่อง ผมเปิดหนังสือปกดำขึ้นอีกครั้งก่อนจะบันทึกเรื่องราวการทำบาปของผู้คนในโรงเรียนนี้ลงไป
ผมชื่อเขียน ชื่อจริงของผมคือลิขิต ผมต้องย้ายบ้านย้ายเมืองเป็นประจำ นั่นไม่ใช่เพราะผมมีปัญหากับใคร แต่เพราะหน้าที่การงานของพ่อที่ต้องคอยเป็นทูตเจรจากับเทพที่แปลงตัวมาใช้ชีวิตกับมนุษย์ให้สามารถทำธุรกิจกับมนุษย์ได้ คุณอ่านไม่ผิดหรอก พ่อและแม่ของผมเป็นเทพ แล้วผมเองก็เป็นเทพองค์หนึ่งที่มีหน้าที่กำหนดชะตามนุษย์หลังจากที่พวกเขาได้ตัดสินใจกระทำเรื่องต่างๆ ทั้งเรื่องบาปที่พวกเขาต้องชดใช้ และผลบุญที่พวกเขาควรได้รับ ผมกับวาดเราทำงานร่วมกันเสมอ วาดมีหน้าที่เป็นคนคอยชี้นำมนุษย์ให้เลือกตัดสินใจทำหรือไม่ทำ เขามักจะไปเกิดเป็นตัวตนต่างๆ ตามที่ได้รับมอบหมาย โดยที่จะถูกลบความทรงจำในภารกิจเก่าไปก่อนที่จะจำมันได้อีกครั้งเมื่อพบกับผม ผมต้องย้ายเมืองตามวาดไปทุกครั้งที่เขาเกิด แม้เรื่องครั้งนี้มันจะเกินไปหน่อยจนผมถึงกับต้องบีบน้ำตาให้สมบทบาทแล้ว ผมก็ไม่อาจปล่อยคนทำผิดไปได้
โทษที่ตั้มและคนอื่นๆ ควรจะได้รับจากการกลั่นแกล้งวาด ก็คงไม่พ้นความรู้สึกผิดในใจของพวกเขาเอง ทั้งที่เห็นแต่กลับนิ่งเฉยและบางครั้งก็สนับสนุนให้เรื่องแย่ๆเกิดขึ้น ส่วนส้มเธอคงจะเห็นภาพหลอนว่าตัวเองถูกกระทำเหมือนที่วาดโดนไปตลอดชีวิต
ดีน ผู้ชายคนนั้นคงจะโดนแฉว่าทำคนตายในวันที่เขาประสบความสำเร็จ ชีวิตเขาจะถดถอยจนสุดท้ายจะต้องขายตัวเหมือนกับที่เขาเคยทำให้คนเข้าใจวาดผิดไปตามๆ กัน เพื่อนๆร่วมแก๊งค์ของทั้งสองเองก็คงจะมีชีวิตที่ดีไม่น้อยหน้าเพื่อนรักของตัวเองเลยทีเดียวล่ะ
“เขียน เก็บของเสร็จรึยัง” เสียงแม่เอ่ยเรียกผม วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่เราจะอยู่ที่นี่ ผมลุกขึ้นมองสิ่งต่างๆ รอบตัวเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะยกกระเป๋าลงไป
สายตาผมสบเข้ากับผู้เป็นพ่อและแม่ พวกท่านยืนนิ่งราวกับมีเรื่องในใจ
“อยู่ที่นี่ก็ได้นะ” พ่อพูดกับผมอย่างสื่อความหมาย ถ้าผมอยู่ผมคงต้องอยู่ที่นี่คนเดียว แม้จะไม่ต้องย้ายบ้านอีก หรือจะมีตั้มมาเป็นเพื่อนใหม่อีกคนแล้ว ผมย่อมรู้ดีว่าใจของผมต้องการอะไร
“ผมอยากเจอวาด” ทันทีที่ผมพูดจบพ่อและแม่ต่างพยักหน้าด้วยความเข้าใจ คำพูดของวาดดังก้องในหัวผม
‘เดี๋ยวเราก็เจอกันอีก’
หากว่าผลงานต่างๆ จะเกิดขึ้นได้ด้วยการวาดโครงร่างก่อนลงมือเขียนแล้วละก็ชีวิตของมนุษย์คงไม่ต่างไปจากงานชิ้นหนึ่ง ที่จะต้องวาดร่างมันขึ้นมาก่อนจะตัดสินใจเขียนเส้นแสงน้ำหนักจนเป็นรูปร่าง เราอาจจะเขียนไม่ตรงกับร่างที่วาดไว้ แต่สุดท้ายเมื่อเขียนไปแล้ว ก็คือทำไปแล้ว โลกมนุษย์มีเรื่องลึกลับมากมาย คุณจะรู้ได้ยังไงว่าไม่ได้มีใครจ้องมองการกระทำของคุณอยู่ อย่างน้อยตัวคุณเองย่อมต้องจ้องมองการกระทำของตัวเองบ้างอยู่แล้ว ชะตาที่ลิขิตเขียน คุณมั่นใจได้อย่างไรว่ามันไม่ได้มาจากการวาดร่างต้นแบบของคุณ
กลับไปสู่คำถามที่เราเริ่มต้น ถ้าคุณเป็นผมคุณจะทำอย่างไร จะเขียนหรือวาดชีวิตของตัวเองยังไง ฤดูกำลังจะเปลี่ยนอีกแล้ว อากาศเย็นใกล้จะหายไป กระเป๋าที่เก็บเสื้อผ้าทั้งหมดก็พร้อมออกเดินทาง ประโยคคำพูดของวาดที่ผมยังได้ยิน ทำให้ผมต้องก้มมองหนังสือปกดำที่มีชื่อเหมือนพวกเราบนมืออีกครั้ง ‘วาดเขียน’
ผมได้แต่ยิ้มให้มันก่อนจะเอ่ยคำลาที่อาจเป็นจุดเริ่มต้นกับมัน “แล้วเจอกัน”
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ