ทวงรักนางซิน
-
เขียนโดย Phaky
วันที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 เวลา 15.02 น.
47 ตอน
1 วิจารณ์
37.02K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 11.27 น. โดย เจ้าของนิยาย
5) อิสระ...ที่ไม่อยากได้คืน
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความท่ายืนรอโดนด่าเบาๆ
********************************************
“ขอบคุณที่มาส่งค่ะ พิมพ์ขอตัวก่อนนะคะ”
เป็นครั้งแรกในรอบเกือบสามเดือนที่เทพิมพ์ภาวนาให้บีเอ็มดับเบิลยูซีรีส์เจ็ดคันสวยขับไปจอดที่หน้าบ้านหลังกะทัดรัดสีซีดของตัวเองตั้งแต่วินาทีแรกที่ก้าวขาขึ้นรถ หากสังเกตดีๆจะพบว่าหญิงสาวเหมือนคนกำลังหายใจไม่ออก ใบหน้าเนียนเกลี้ยงซีดขาว ที่ขมับบางมีเหงื่อซึมทั้งที่แอร์เย็นฉ่ำ และชัดที่สุดคือในดวงตาใสแจ๋วที่เต็มไปด้วยความกังวล จนกระทั่งรถคันหรูขับมาจอดหน้าบ้านตัวเองตามประสงค์ มือสั่นๆก็รีบเปิดประตูแล้วก้าวขาตามลงไปราวกับต้องการหลบหนี ทว่าธรธัญญ์กลับไม่ยอม ฝ่ามือใหญ่ตะครุบไหล่บางไว้ทันแล้วดึงร่างบางกลับเข้ามานั่งในรถอีกครั้ง
“ฉันมีเรื่องจะพูดด้วย”
น้ำเสียงของธรธัญญ์แสนจะราบเรียบ แต่ทำไมเทพิมพ์ถึงรู้สึกอึดอัดในอกจนหายใจลำบากนักก็ไม่ทราบ คนถูกรั้งไว้หลับตาลง เพิ่งเข้าใจลึกซึ้งวันนี้ว่าหัวใจเต้นรัวเร็วราวกลองเพลนั้นเป็นอย่างไร รู้สึกเหมือนตัวเองคือนักโทษที่รอฟังคำพิพากษาก็ไม่ปาน เมื่อทุกวินาทีที่ความเงียบปกคลุมนั้นสั่นประสาทของคนรอฟังให้ลุ้นระทึกจนแทบควบคุมสติไม่อยู่
“ฉันคืนอิสระให้” ...หรือแปลให้เขาใจง่ายว่า ‘เราเลิกกัน’ สินะ
“ต่อไปนี้เราไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก นอกจากสถานะนายจ้างกับลูกน้อง”
ทั้งที่เตรียมใจไว้แล้ว เพราะแววตาของธรธัญญ์ที่สละเวลาทำงานมานั่งรอเธออยู่ที่ล็อบบี้ก่อนพามาส่งบ้านตามหน้าที่ของแฟนมันเตือนให้รู้ว่ามีความผิดปกติ ลางสังหรณ์บอกว่าไม่ใช่เรื่องดีกับตัวเธอ ด้วยเหตุนี้จึงพยายามหนีหน้าเข้าบ้าน แต่พอเอาเข้าจริงก็ยังจุกกับความจริงนี้อยู่ดี ทุกคำพูดจากปากธรธัญญ์หยิบยื่นความเจ็บปวดให้อกซ้ายจนปวดหนึบ โชคดีที่ตอนนี้นั่งอยู่ในรถ ไม่เช่นนั้นร่างบางคงทรุดฮวบกับคำบอกเล่าที่ลิดรอนเรี่ยวแรงทั้งหมดของร่างกายไปจนยืนไม่อยู่ เทพิมพ์ทิ้งแผ่นหลังอ่อนเปลี้ยพิงเบาะรถเหมือนคนไม่มีกระดูก สมองมึนชาจนไม่รู้ว่าจะพูดหรือทำอะไรต่อไป
ระหว่างที่นั่งตาลอยคล้ายยังช็อกกับความจริงว่าเธอถูกธรธัญญ์ทิ้ง ก็เกิดคำถามแทรกตรงกลางใจว่าสาเหตุที่ทำให้เจ้าของนาราแกรนด์โฮเทลบอกเลิก เป็นเพราะวันนี้เธอล้ำเส้น เข้าไปวุ่นวายกับเขา หรืออันที่จริงธรธัญญ์อยากจะพูดเรื่องนี้อยู่แล้วกันแน่
“หมดเวลาของพิมพ์แล้วเหรอคะ”
ในที่สุดเทพิมพ์ก็เอ่ยถามทั้งที่ดวงตายังมองเหม่อไปข้างหน้า ใจความที่เอ่ยราวกับล่วงรู้มานานแล้วว่าระหว่างตัวเองกับธรธัญญ์ ไม่มีคำว่า ‘ตลอดไป’
“ไม่มีใครควรอดทนกับความสัมพันธ์ที่ไม่ชัดเจน ฉันผิดเองที่ปล่อยให้มันคาราคาซังมาถึงวันนี้”
“จริงๆคุณธัญญ์ก็ชัดเจนนะคะ ชัดเจนว่าไม่ได้รักพิมพ์ แต่เป็นพิมพ์ต่างหากที่เลือกจะปิดตาแล้วหลอกตัวเอง”
การเลิกกับธรธัญญ์วันนี้ไม่ใช่การยอมแพ้ แต่เป็นการยอมรับ ยอมรับความจริงว่าชายหนุ่มไม่เคยนึกชอบจนอยากได้เธอเป็นแฟน ยอมรับว่าเขาไม่ใช่ของเธอ จะช้าหรือเร็วเธอก็ต้องยอมรับความจริง
“พิมพ์รู้ว่าคุณขอพิมพ์เป็นแฟนเพราะต้องการประชดคนรักเก่า” เทพิมพ์ฝืนยิ้มขื่นๆให้ธรธัญญ์ที่เงยหน้าขึ้นมองอย่างตกใจ
“พิมพ์รู้ว่าทุกครั้งที่คุณธัญญ์ลากพิมพ์ไปกินอาหารญี่ปุ่นที่ขึ้นชื่อเรื่องความสดของแซลมอนทั้งที่คุณธัญญ์ไม่ชอบทานของไม่สุก เพราะคุณเวนิสอยู่ที่นั่น เธอตรงข้ามกับคุณธัญญ์เลยค่ะ คุณเวนิสชอบแซลมอนสดมากถึงขนาดทานคนเดียวได้ทั้งจานโตๆ”
เรียวปากบางกดยิ้มหยันให้ตัวเองเมื่อนึกถึงครั้งล่าสุดที่ธรธัญญ์พาเธอไปร้านอาหารญี่ปุ่นเจ้าดัง ทำไมเธอจะไม่รู้ว่าเขานั่งมองเวนิสาที่อยู่อีกฝั่งของร้านตลอดเวลา เธอรู้ดีเพราะผนังร้านด้านหลังธรธัญญ์เป็นกระจก ภาพสะท้อนในนั้นเธอมองเห็นตั้งแต่แรก แต่ก็เลือกจะเมินเฉยแล้วหลอกตัวเองว่าธรธัญญ์กำลังคิดเรื่องงาน
“พิมพ์รู้ว่าที่เมื่อคืนคุณธัญญ์ไปส่งพิมพ์กลับบ้านไม่ได้ เพราะคุณธัญญ์อยู่กับ...คุณเวนิส”
มันเป็นเรื่องบังเอิญหรือเบื้องบนอยากให้เธอหูตาสว่างก็ไม่ทราบ แต่จังหวะที่เธอกำลังเดินไปที่ลานจอดรถ เธอบังเอิญได้ยินหนึ่งในสาวๆแก๊งนางฟ้ายืนสูบบุหรี่แล้วคุยโทรศัพท์ ใจความคือคนในสายบอกว่าให้กลับไปได้เลยไม่ต้องอยู่รอ จะไม่คิดมากเลยหากผู้หญิงคนนั้นไม่เอ่ยชื่อธรธัญญ์ออกมา ระหว่างทางกลับบ้านเธอต้องนั่งกลั้นน้ำตาจนเบ้าตาปวดหนึบเพื่อไม่ให้คนขับรถเห็น มีเธอคนเดียวที่รู้ว่าทันทีที่ยืนอยู่ในบ้าน บ่อน้ำตามันพังยับเยินขนาดไหน
“เราคบกันมาเกือบสามเดือน แต่คุณธัญญ์ไม่เคยแตะตัวพิมพ์เลย ไม่เคยโทร.หา ไม่เคยพูดหวานๆ ไม่เคยสนใจว่าพิมพ์จะทำอะไรที่ไหน ไม่รู้ด้วยมั้งคะว่าพิมพ์ชื่อจริง นามสกุลอะไร”
หยดน้ำตาที่มันเอ่อล้นขอบตาทั้งสองกลิ้งตกกระทบนวลแก้มซีดขาวกับความจริงที่แอบซ่อนในซอกใจมานาน
“ที่ตามรับตามส่งก็แค่อยากชดเชยที่ใช้พิมพ์เป็นเครื่องมือประชดคุณเวนิส”
“ฉัน...”
เป็นครั้งแรกในชีวิตที่คนเด็ดขาด มั่นใจทุกการกระทำอย่างธรธัญญ์รู้สึกผิดจนพูดไม่ออก ไม่รู้จะแก้ตัวว่าอย่างไร เพราะสิ่งที่เทพิมพ์พูดมามันถูกต้องทุกอย่าง เพิ่งรู้ตัวว่าเขาได้ทำผิดกับความรู้สึกของผู้หญิงคนหนึ่งมากมายเหลือเกิน
“ขอโทษ” เรียวปากซีดขาวยิ้มสั่นๆ เพราะเป็นครั้งแรกที่ธรธัญญ์พูดจากับเธอด้วยน้ำเสียงที่นุ่มกว่าปกติ ทว่าเธอกลับดีใจไม่ออก
“ไม่ต้องขอโทษหรอกค่ะ คุณธัญญ์ไม่ผิด” คนถูกทิ้งยังมีกระใจปกป้องคนรัก ที่กลายเป็นอดีตไปแล้ว
“ถ้าจะมีคนผิด คนๆนั้นก็พิมพ์นี่แหละค่ะ พิมพ์รู้แต่แรกว่าคุณธัญญ์ขอพิมพ์เป็นแฟนเพราะเพิ่งทะเลาะกับคุณเวนิสเรื่องที่เธอสนิทกับเพื่อนคุณธัญญ์ แต่พิมพ์ก็แกล้งทำเป็นไม่รู้ ฉวยโอกาสใกล้ชิดคุณธัญญ์ที่เป็นถึงเจ้าของโรงแรม พิมพ์ผิดเองที่ไม่รู้จักเจียมตัว”
ดวงตาแดงช้ำมองเหม่อไปข้างเหมือนมีจอภาพยนตร์ฉายภาพเหตุการณ์ในวันต้นเรื่อง คืนนั้นไม่มีงานเลี้ยง พนักงานฝ่ายจัดเลี้ยงจึงถูกส่งไปช่วยงานที่แผนกอื่นๆ ส่วนเธอถูกส่งไปช่วยงานที่ครัวเย็นซึ่งเป็นครัวที่ดูเรื่องขนมหวานและของว่าง งานในนั้นมีเชฟประจำกับผู้ช่วยคอยดูแลอยู่แล้ว จึงได้แค่คอยเป็นลูกมือหั่นนั่นหยิบนี่นิดหน่อย หลังจากนั้นก็เข็ญรถไปส่งอาหารให้เลาจ์ต่างๆ ทว่าความเป็นคนหลงทิศจึงทำให้เธอเดินเลี้ยวผิดทาง จากที่ต้องไปส่งของว่างที่ห้องอาหารจีน เธอกลับเข็ญรถอาหารไปยังภัตตาคารญี่ปุ่น และยืนเอ๋อๆอยู่หน้าห้องไพรเวทที่ธรธัญญ์กับเวนิสากำลังทะเลาะกันเสียงดัง ระหว่างหันหน้าหันหลังว่าจะต้องเดินออกไปทางไหน ก็เป็นจังหวะเดียวกับที่ธรธัญญ์เดินหน้าบึ้งออกมา จากนั้นร่างของเธอก็ตกอยู่ในอ้อมแขนแกร่ง พร้อมกับประกาศิตเสียงกร้าวว่าเธอเป็นคนรักของเขา
เธอรู้ทุกอย่างอยู่แก่ใจ แต่เธอกลับเห็นแก่ความสุขส่วนตัว!
“อย่าคิดมากไปเลยค่ะ จริงๆพิมพ์ต้องขอบคุณคุณธัญญ์ด้วยซ้ำ ที่ทำให้พิมพ์มีช่วงเวลาดีๆ”
ความไม่สบายใจในดวงตาสีดำสนิทก่อความร้อนในอกของเทพิมพ์ สันมือบางจึงยกขึ้นปาดคราบน้ำตา แล้วพยายามบังคับริมฝีปากให้ยิ้มกว้างมากที่สุด เธอไม่อยากเป็นสาเหตุให้ชายที่รักเป็นทุกข์โดยมีตัวเองเป็นต้นเหตุ
“เธอ... ไม่เป็นไรใช่ไหม” น้ำตาที่รินไหลไม่ขาด แม้เทพิมพ์จะพยายามปาดมันทิ้ง ทำให้ธรธัญญ์ยังไม่สบายใจ
“มันเจ็บเสมอแหละค่ะถ้าเราเอาใจไปผูกกับใครสักคน แต่แค่ไม่กี่เดือนเอง เดี๋ยวพิมพ์ก็คงลืม”
“พรุ่งนี้...”
“พรุ่งนี้พิมพ์หยุดค่ะ ส่วนมะรืน... หมายถึงต่อไปนี้ พิมพ์จะขี่รถไปทำงานเองค่ะ ขอบคุณที่มาส่ง สวัสดีค่ะ”
เมื่อกลับมาคงสถานะนายจ้างกับลูกน้อง มือบางจึงพนมขึ้นไหว้เป็นทางการ แล้วก้าวลงจากรถคันโก้ที่คงมีวาสนาได้นั่งเป็นครั้งสุดท้าย โดยไม่หันกลับไปมองด้านหลังสักหางตา เทพิมพ์เตือนสติตัวเองทุกย่างก้าวที่เดินจากมา ว่าจะไม่ใช่แค่วันมะรืน แต่วันต่อๆไปเธอจะกลับมาเป็นนางสาวเทพิมพ์คนแกร่งคนเดิมเหมือนที่เคยเป็น เคยไปกลับเองได้ก็จะกลับมาทำเหมือนเดิม แค่ไม่สบายเหมือนช่วงที่ธรธัญญ์รับส่งเพราะเป็นรถมอเตอร์ไซค์ราคาถูกตามประสาคนชนชั้นรากหญ้าจะมีปัญญาซื้อหา ก็แค่นั้น
**************************************************
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ