ทวงรักนางซิน
เขียนโดย Phaky
วันที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 เวลา 15.02 น.
แก้ไขเมื่อ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 11.27 น. โดย เจ้าของนิยาย
37) เขิน
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความหื่นหน้านิ่ง เป็นแบบนี้นี่เอง น้องแก้มแดงหมดแล้ว
**********************************************
“คุณธัญญ์! ทะ...ทำอะไรคะ”
แค่ดวงตาสีเข้มของธรธัญญ์มองมานิ่งๆ หัวใจดวงน้อยยังกวัดไกวไม่อยู่กับที่ แล้วตอนนี้มือใหญ่ที่เคยดันแผ่นหลังย้อนกลับมาด้านหน้าเพื่อถกชายเสื้อของเธอขึ้นพาดไว้บนไหล่ จนลมเย็นๆจากเครื่องปรับอากาศสัมผัสผิวเนื้อเปลือยตั้งแต่แผ่นท้องลามขึ้นไปจนถึงเนินอก มีหรือที่เทพิมพ์จะยืนไหว ขาเรียวเล็กอ่อนแรงจนร่างบางทรุดฮวบ ยังโชคดีที่แขนอีกข้างของธรธัญญ์ยังรัดอยู่รอบเอวบาง แต่คิดอีกทีอาจเป็นโชคร้าย เพราะมันทำให้เทพิมพ์ดิ้นหนีไม่พ้นจากมือใหญ่ที่อ้อมไปด้านหลังแล้ววุ่นวายกับตะขอเสื้อชั้นในจนมันแยกห่าง เทพิมพ์หลับตาปี๋พลางย่นคอหนีเมื่อธรธัญญ์ก้มหน้าลงซุกกลางอก ไรเคราที่ครูดโนมเนื้ออุ่นบอกให้รู้ว่าชายหนุ่มใช้ริมฝีปากร้ายกาจคาบบราขึ้นไปกองรวมกับชายเสื้อเรียบร้อย ทรวงอกอิ่มสะท้อนขึ้นและลงรุนแรงตามจังหวะหายใจที่เริ่มถี่กระชั้นด้วยความกลัว แผ่นท้องเรียบแบนหดเกร็งเมื่อปลายนิ้วที่จับหนึบตรงเอวค่อยๆเลาะช้าๆจากสีข้างบอบบางระเรื่อยขึ้นสูง สูงขึ้น สูงขึ้น จนอีกนิด...
“อย่าจับนะคะ!”
...ก็กำลังจะสัมผัสยอดอกสีชมพูหวานที่เหมือนจะเบ่งบานคอยท่าทั้งที่ปลายนิ้วสีแทนยังไม่ทันสัมผัสถึง สายตาของธรธัญญ์มองมันอย่างชื่นชม แต่สำหรับผู้เป็นเจ้าของ กลับรู้สึกว่ามันช่างน่าขายหน้าจนร้องห้ามหน้าตาตื่น และธรธัญญ์ก็ช่างเป็นสามีที่ประเสริฐเกินหาใครเทียบเคียง เมื่อเมียรักสั่งห้ามไม่ให้จับ มือใหญ่ก็ชะงักอยู่กลางอากาศตามคำสั่งทันควัน ท่าทางเชื่อฟังนั้นดูน่ารักจนเทพิมพ์เผลอยิ้มเอ็นดู
“งั้นดูด”
ทว่ายิ้มยังไม่ทันสุด คนที่คิดว่าตัวเองรอดแล้วกลับอ้าปากหวอ ด้วยตกใจกับคำพูดหื่นห่ามที่ไม่อยากเชื่อว่าจะได้ยินมันจากปากผู้ชายมาดสุขุมแบบธรธัญญ์ และวินาทีถัดมาดวงตากลมก็เบิกโพลงซ้ำสอง ร่างกึ่งเปลือยของเทพิมพ์ผวาเฮือกเมื่อเรียวปากบางร้ายกาจคู่เดียวกันนั้นฉกวูบครอบครองยอดอกสีชมพูไว้เต็มปากจนแก้มตุ่ย ความตกใจส่งผลให้มือบางทั้งสองช่วยกันผลักศีรษะทุยออกห่าง แต่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะแรงเธอน้อยหรือไปหรือเปล่ามันจึงไม่เขยื้อนเลย ธรธัญญ์ยังคงดูดกลืนอกอิ่มอย่างเอร็ดอร่อย ในบางครั้งก็ผละริมฝีปากออกห่างเพื่อใช้ลิ้นสากดุนดันยอดอกสีสวยเพราะชอบที่เห็นวงหน้าหวานบิดเบ้ด้วยความทรมาน ส่วนเต้ากลมๆอีกข้างก็ใช้มือบีบเคล้นไม่ให้น้อยหน้า ยิ่งเวลาผ่านไปเท่าไร เรี่ยวแรงต่อต้านจากร่างเล็กก็ยิ่งถดถอย กลีบปากสีเรื่อเม้มแน่นกลั้นเสียงร้อง อึดอัดจนเหงื่อเม็ดโตผุดพรายทั่วกรอบหน้า ปลายเท้าน้อยๆจิกเกร็งเมื่อถูกความสะท้านไหวแทรกซึมไปทั่วร่าง อีกนิดก็จะครอบงำจิตใจให้คล้อยตามแรงชักจูงจากเจ้าของมือใหญ่ที่เลื่อนลงมาวุ่นวายกับตะขอกระโปรง
ทว่าแสงสว่างจ้าที่แยงตามันยั้งเตือนสติ มัน...น่าอายมากเลยนะ กลางวันแสกๆแบบนี้ ดวงตาร้ายกาจของธรธัญญ์คงเห็นทุกซอกทุกมุมบนเนื้อตัวเธอชัดเต็มตาเป็นแน่ ไรฟันขาวๆกัดกลีบปากอิ่มด้วยความขัดเขินเมื่อย้อนนึกถึงฉากรักร้อนๆเมื่อคืน น่าอายไปกว่าไฝฝ้าราคีบนเนื้อตัวคือความสนิทชิดเชื้อยามถูกร่างใหญ่ครอบครองนี่แหละ แค่นึกถึงแก้มยังร้อนฉ่า แล้วหากต้องเห็นชัดเจนเต็มตา ตายแน่ เธอต้องเขินจนเป็นลมตายไปแน่ๆ คนหน้าบางกะพริบตาถี่ๆดึงสติกลับคืน พลางสูดลมหายใจเข้าออกยาวๆระงับอาการหายใจหอบเหนื่อย ก่อนใช้สองมือประคองแก้มตอบของคนหื่นบังคับให้เงยขึ้นสบตา แต่ก็ไม่ง่ายเลย เมื่อธรธัญญ์ตั้งท่าแต่จะงับยอดอกลูกเดียว
“อื้อ... คะ... คุณธัญญคะ”
“ว่าไงคะ”
ไม่รู้ว่าเป็นความตั้งใจหรือเพราะตกอยู่ในห้วงอารมณ์อ่อนหวานครอบงำ หางเสียงรับคำของธรธัญญ์จึงอ่อนโยนนัก อ่อนโยนจนเทพิมพ์ใจละลาย นัยน์ตาสีเข้มที่มองมาก็เช่นกัน เข้าใจมาตั้งนานว่าดวงตาของชายหนุ่มเย็นเยือกไร้อารมณ์ ที่ไหนได้ มันหยดเยิ้มจนน้ำตาลมิอาจเทียบ และความหวานนั้นก็ทำเอาคนถูกมองใจบาง เกือบลืมไปแล้วว่าที่เรียกชายหนุ่มไว้เพราะต้องการหยุดการกระทำวาบหวาม และหากในอนาคตเธอยังใจอ่อนง่ายแบบนี้ เพื่อความปลอดภัยของกายและใจตัวเอง เห็นทีคงต้องรบกวนให้ธรธัญญ์ช่วยไปน่ารักไกลๆหน่อย
“คือพิมพ์... คือว่าพิมพ์... พิมพ์... พิมพ์ง่วงค่ะ”
แต่ดีที่ปลายนิ้วหื่นยังลูบไล้ยอดอกอวบไม่เลิกรามันเตือนสติ เทพิมพ์เบรกความรู้สึกอยากตามใจธรธัญญ์ แล้วทำใจกล้าเอ่ยความต้องการออกไปเสียงเข้ม ทว่าเข้มแค่ในความคิด แต่ความเป็นจริงคือเสียงหวานๆที่เปล่งออกไปนั้นกระท่อนกระแท่นเหลือเกิน ติดอ่างอีกด้วย
“ง่วงมากไหม”
ธรธัญญ์เอ่ยถามเสียงทุ้มพลางลูบหลังมือกับผิวแก้มร้อนระอุ หลังเทพิมพ์พยักหน้ารับหงึกหงักแล้วรีบหลุบตามองต่ำ ข้ออ้างเด็กน้อยกับตาแป๋วๆที่มองเขาตื่นๆน่าเชื่อถือจนเรียวปากบางเฉียบแย้มกว้าง ก่อนส่ายหน้าด้วยความอ่อนใจระคนเอ็นดูเมื่อสังเกตเห็นว่าผิวแก้มเนียนของเทพิมพ์แดงก่ำทั้งที่เขาแค่เริ่มต้นแตะต้องนิดเดียว แต่ดูเหมือนจะไม่ใช่แค่แก้ม ใบหูก็แดง เนินอกก็ด้วย ธรธัญญ์เงยหน้าขึ้นแล้วสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ หน้าแดงคอแดงแบบนี้ มันยิ่งกระตุ้นให้เขาอยากถอดกระโปรงตัวน้อยออกเพื่อพิสูจน์ว่าผิวกายส่วนนั้นกำลังแดงเถือกเหมือนร่างเปลือยท่อนบนที่เขาเพิ่งฟัดหรือเปล่า คิดแล้วก็มันเขี้ยว!
“จริงสิ เมื่อคืนเราสองคนนัวเนียกันถึงตีสาม ได้พักแค่ไม่กี่ชั่วโมง พิมพ์ตัวเล็กแค่นี้ ก็ต้องเพลียเป็นธรรมดา”
ฟังดูคล้ายเห็นใจ แต่หากธรธัญญ์เมตตาจริงก็แค่ปล่อยเธอไปนอนตามคำร้องขอก็พอแล้ว ไม่เห็นต้องสาธยายด้วยน้ำเสียงแหบพร่าให้เธอย้อนนึกถึงฉากรักร้อนๆที่ทำร่วมกับชายหนุ่มตั้งแต่หัวค่ำไปยันเกือบสว่างแบบนั้นเลย ที่แย่กว่านั้นคือมันย้อนความทรงจำว่าที่ธรธัญญ์ยอมปล่อยให้นอน เป็นเพราะเธอนั้นนอนหายใจรวยรินด้วยกรีดร้องมาราธอนจนไร้เรี่ยวแรงขยับกายอยู่บนอกของเขา แก้มร้อนผ่าวเมื่อจำได้อีกว่าเธอนอนหลับไปทั้งเนื้อตัวเหนียวเหนอะ พร้อมๆกับตัวตนแข็งกร้าวที่ปักคาอยู่ในตัวของเธอ
“คุณธัญญ์! จะพาพิมพ์ไปไหนคะ”
และความร้อนที่ดุนดันอยู่ตรงหน้าขาฟ้องว่ามันกำลังต้องการเข้าไปอยู่ในตัวเธออีกครั้ง เทพิมพ์จึงคิดดีไม่ได้เลยเมื่อถูกวงแขนล่ำช้อนร่างบางขึ้นอุ้มไม่บอกกล่าวพาเดินเข้าไปด้านหลังโต๊ะทำงาน ดวงตากลมเบิกมองด้วยความแปลกใจเมื่อเห็นธรธัญญ์แตะปลายเท้ากับชั้นหนังสือดีไซน์เก๋ที่ตั้งโชว์อยู่ด้านข้างแล้วพบว่ามันขยับได้ ชั้นหนังสือที่ว่าค่อยๆเคลื่อนตัวออกไปด้านข้างเปิดให้เห็นพื้นที่กว้างขวางด้านในที่จัดไว้เป็นห้องนอน
“ไปนอนไงคะ”
“นอน?” นัยน์ตาหยาดเยิ้มที่ก้มมองมาทำให้คนถูกอุ้มไม่เชื่อเลยว่าจะได้นอน
“นอนหลับจริงๆ ไม่ใช่หลับนอน”
อวัยวะกลางกายที่ดีดตัวขึ้นอย่างแข็งขันน่ะต้องการหลับนอน และคงทรมานมากหากไม่ได้ปลดปล่อยตามวิถีลูกผู้ชาย ธรธัญญ์ผู้เป็นเจ้าของทราบดี ทว่าหัวใจของคนกำลังกลัดมันกลับเลือกตามใจเมียมากกว่า ด้วยสงสารที่เมื่อคืนเทพิมพ์ต้องรองรับความเอาแต่ใจจากเขาหลายครั้งหลายคราจนร่างน้อยคงเจ็บระบมไม่เบา ลำขาเรียวยาวก้าวไปยังเตียงนอนส่วนตัวด้วยจังหวะมั่นคง ก่อนอ้อมแขนล่ำสันจะค่อยๆวางร่างจ้อยของเทพิมพ์ลงบนฟูกนอนที่ไม่เคยมีใครได้ขึ้นไป พร้อมหักดิบรับความทรมานไว้กับตัวเองด้วยการกดไหล่บางลงนอนราบกับเตียง แล้วดึงผ้าห่มคลี่คลุมอกเปลือย เทพิมพ์กะพริบตามองปริบๆด้วยความไม่แน่ใจว่าธรธัญญ์จะยอมให้เธอนอนพักตามคำขอ ก่อนหลับตาปี๋ เม้มปากแน่นเมื่อวงหน้าคมโน้มลงมาหา คนระแวงค่อยๆหายใจโล่งเมื่อธรธัญญ์แก่กดแช่ปลายจมูกกับหน้าผากเนียนคล้ายจูบราตรีสวัสดิ์
“อยากนอนด้วย”
คนถูกขอทำหน้าไม่ถูกเมื่อต้องเผชิญหน้ากับธรธัญญ์ในโหมดออดอ้อนละลายใจ ใจหนึ่งกังวลว่าชายหนุ่มจะใช้ความช่ำชองหลอกล่อเธอสู่บ่วงพิศวาส เพราะกลางกายอันตรายของเขาตื่นตัวดันเป้ากางเกงจนโป่งพองชัดเจน แต่นัยน์ตาเว้าวอนก็รบกวนจิตใจไม่น้อย อีกอย่าง เตียงที่กำลังนอนนี่ก็ของเขา หากปฏิเสธก็เกรงว่าจะใจร้ายเกินไป ใบหน้านวลจึงพยักตอบรับเบาๆ มือเล็กรีบตะครุบชายผ้าห่มปิดลำคอไว้แน่นแล้วพลิกตัวนอนหันหลังเมื่อหางตาเห็นร่างสูงเดินอ้อมไปทิ้งตัวอีกฝั่ง
“หันนมมาทางนี้”
‘หือ? คุณธัญญ์พูดว่าหัน...อะไรนะ!’
ร่างบางนอนเกร็งตัวอัตโนมัติทันทีที่ได้ยินคำสั่งติดเรทของบุรุษที่ทอดกายลงนอนขนาบข้าง และมั่นใจแล้วว่าฟังไม่ผิดแน่เมื่อท่อนแขนล่ำที่พาดมาบริเวณเอวคอดพยายามจับร่างเธอพลิกหันหน้ากลับไปหาเขา ไม่สิ จากคำสั่งเสียงเรียบเมื่อครู่ ธรธัญญ์คงไม่ได้อยากมองหน้าเธอนัก พยายามขืนตัวแล้วแต่ก็สู้พลังคนหื่นไม่ไหว สุดท้ายร่างบางจึงถูกดึงไปนอนแนบชิดกับร่างหนาของธรธัญญ์ ก่อนใช้ท่อนแขนทรงพลังรัดรอบเอวเล็กไม่ให้ขยับหนี
“หน้าแดงแปร๊ดเลย ถ้าพิมพ์เขิน ผมอนุญาตให้นอนหันหน้าไปทางนู้นได้” เรียวปากอิ่มคลี่แย้มขอบคุณที่ธรธัญญ์เข้าใจความรู้สึกกระดากอายของเธอ เขาช่างเป็นคน...
“แต่นมต้องอยู่ทางนี้”
‘...เป็นคนหื่นเหลือเกิน คุณธัญญ์บ้า! นมกับหน้าจะแยกกันอยู่ได้ยังไง’
ไหมล่ะ! จำไว้เป็นบทเรียนเลยว่าจากนี้ถ้าเจองูกับธรธัญญ์พร้อมกัน ให้รีบหยิบไม้หน้าสามตีคนหื่นนี่ให้สลบก่อนเลย ผู้ชายคนนี้ไม่ว่าจะคำพูดหรือแววตา ก็อันตรายพอๆกันนั่นแหละ มือที่กำหน้าอกเธอไว้เหมือนกำลูกบิดประตูนี่ก็ด้วย นึกขัดหูขัดตากับความรื่นรมย์เกินพอดีบนใบหน้าที่เคยเคร่งขรึมนัก ดวงตากลมจึงเหลือบขึ้นมองค้อนเขาไปที แต่ธรธัญญ์คงไม่ได้สำนึกหรอก ชายหนุ่มถึงได้กระชับอ้อมแขน จงใจรัดร่างเธอแน่นๆ พร้อมกดจูบหนักหน่วงบนหน้าผากเนียนกับแก้มนุ่ม แล้วมองมาราวกับขู่ว่าถ้ากล้าทำหน้าบึ้งใส่ผัวอีกที โทษทัณฑ์ที่จะได้รับจะไม่ใช่แค่จูบฟอดสองฟอดอีกต่อไป เรียวปากจิ้มลิ้มจึงเผลอเม้มแน่นด้วยความขัดใจที่ต้องนอนให้เขาแทะโลมอกอิ่มตามใจชอบ ขนาดจะนอนยังมิวายหื่น พลาดชะมัดที่รับเขาขึ้นเตียง
“กินนมทุกวัน ตัวต้องโตขึ้นแน่เลย” ปากพูดไป ปลายนิ้วก็ลากเป็นรูปหัวใจบนยอดอกอิ่ม มันใช่ที่วาดรูปไหมล่ะ!
“พิมพ์ง่วงแล้วค่ะ” เกรงว่าคนหื่นจะไม่หยุดอยู่แค่ใช้อกเธอแทนกระดาษวาดรูปเล่น เทพิมพ์จึงแสร้งหาวตัดบท
“หมอนมันแข็ง ยืมนมมาหนุนหน่อย”
ตามที่เคยอ่านผ่านในนิยาย ต้องเป็นพระเอกไหมที่เสียสละท่อนแขนให้นางเอกนอนหนุนต่างหมอนตลอดคืน เทพิมพ์ถอนหายใจเฮือกเมื่อถูกมือใหญ่ขยับร่างเล็กขึ้นสูง แต่นั่นมันนิยายอ่ะเนอะ ในชีวิตจริงกลับเป็นเธอที่ต้องเสียสละอกนุ่มให้ธรธัญญ์ใช้หนุนแทนหมอน จะทำดื้อก็กลัวไม่ได้นอนดี เจ้าของหมอนจำเป็นจึงทำได้แค่กลั้นหายใจเมื่อธรธัญญ์ซุกหน้าคมกับหว่างอก ใช้มันแทนหมอนหนุนศีรษะตามที่พูด แล้วสอดแขนกอดรัดล็อกตัวเธอไว้ไม่ให้ขยับหนี ซ้ำยังบังคับสองแขนของเธอให้กอดรอบตัวเขาแทนหมอนข้างไปอีก
นอนมองเส้นผมดกดำกลางอกตัวเองแล้วแทบไม่กล้าหายใจ เพราะปลายจมูกคมที่กำลังถูไถเบาๆกับก้อนเนื้อนุ่มทำให้รู้สึกตกอยู่ในสถานการณ์สุ่มเสี่ยงบอกไม่ถูก เทพิมพ์นอนตัวแข็งเกร็ง พยายามทำจิตใจให้แน่นิ่ง ก่อนจะค่อยๆกล้าผ่อนลมหายใจเข้าออกเมื่อปลายจมูกของธรธัญญ์เลิกซุกซนเสียที ขอบคุณที่เขายังมีเมตตา รอจนลมหายใจที่รินรดยอดอกสม่ำเสมอ หมอนหนุนสุดนุ่มจึงค่อยๆปล่อยใจปล่อยกายเข้าสู่นิทราตามไปบ้าง ไม่กี่นาทีหลังจากนั้นเทพิมพ์ก็หลับสนิทในอ้อมกอดแสนอุ่น กลายเป็นคนที่คิดว่าหลับไปแล้วอย่างธรธัญญ์เสียอีกที่ลืมตาขึ้นมอง ชายหนุ่มมองเทพิมพ์ที่หลับสนิทเหมือนเด็กหญิงห้าขวบด้วยรอยยิ้มเอ็นดู อดใจไม่ไหวกับความน่ารักนั้น เรียวปากบางเฉียบจึงจุมพิตปลายคางเรียวเบาๆ ให้พอชื่นใจแล้วดึงหน้ากลับมาซุกอกนุ่มที่หนุนสบายกว่าหมอนราคาแพงเป็นล้านเท่า ก่อนหลับตาตามเมื่อมองนาฬิกาแล้วเห็นว่ามีเวลาให้ซึมซับความอบอุ่นจากร่างน้อยอีกสองชั่วโมง ก่อนจะต้องออกไปเซ็นสัญญากับลูกค้า
.............................................................................................................................
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ