ทวงรักนางซิน

-

เขียนโดย Phaky

วันที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 เวลา 15.02 น.

  47 ตอน
  1 วิจารณ์
  37.05K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 11.27 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

36) คนใจร้าย2

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก

โถ! ยายหนูพิมพ์เอ๊ย นึกว่าจะแน่
++++++++++++++++
“คนใจร้าย”
แต่ลองเถียงกลับมาหน้างอเง้าแบบนี้ แสดงว่าเทพิมพ์ไม่เข้าใจความห่วงใยในประโยคเมื่อครู่เลย ร่างบางจึงถูกกระชากเข้าอยู่ในอ้อมแขนของธรธัญญ์เพื่อเตรียมการสั่งสอนคุณภรรยาที่รัก ว่าการไม่รู้ค่าความห่วงใยจากสามีคนนี้น่ะถือเป็นความผิดร้ายแรง
“ด่าใคร!”
“ฮึ! ด่าตัวเองค่ะ”
“รู้ตัวก็ดี วันหลังอย่าทำนิสัยแบบนี้อีก ใจร้ายกับผัวมันบาป ไม่รู้หรือไง”
เจ้าของอ้อมแขนเกือบกลั้นขำไม่ไหวเมื่อได้ฟังคำตอบ เก่งไม่จริงนี่หว่าเมียเรา ใบหน้าของธรธัญญ์ยังคงเรียบเฉยตามสไตล์ ทว่าในดวงตาคมกลับแพรวพราวเจ้าเล่ห์เหลือรับประทานหลังแกล้งดุจนเทพิมพ์สะบัดหน้างอๆหันไปอีกทาง ยิ่งเห็นเมียเด็กทำปากคว่ำอย่างคนขัดใจ ความเอ็นดูก็ยิ่งพุ่งทะยาน สุดท้ายธรธัญญ์ก็เก๊กขรึมไม่ไหวจำต้องหลุดยิ้มพรายให้กับความแสนงอนของเทพิมพ์แล้วขโมยจูบแก้มกลมป่องหนักๆด้วยความมันเขี้ยวสุดกำลัง
ปลายนิ้วใหญ่เกลี่ยผิวแก้มนวลเล่น ใจก็นึกว่าถ้าเป็นเมื่อก่อนเชื่อเหลือเกินว่าเทพิมพ์คงไม่กล้าอุบอิบบ่นเขาแบบนี้แน่ แม้แต่ทำตาขุ่นใส่ก็คงไม่มีโอกาสได้เห็น แต่ถามว่าวันนี้ได้เห็นแล้วโกรธไหม ก็ไม่ คนในอ้อมแขนทำให้เขาค้นพบความจริงบางอย่างว่าคนรักกัน ไม่จำเป็นว่าจะต้องคอยเอาใจ ชี้นกว่านกตามกันตลอดเวลา เถียงกันบ้าง งอนกันบ้างเหมือนตอนนี้ ก็ไม่ได้ทำให้ความ ‘รัก’ ที่มีให้ลดน้อยลง กลับเอ็นดูมากขึ้นอย่างน่าประหลาด เขาชอบเทพิมพ์เวอร์ชั่นนี้ เพราะยายตัวเล็กกล้าแสดงความรู้สึกออกมา มันทำให้เขารู้จักตัวตนของหญิงสาวมากขึ้น และรู้ตัวว่ามีความสุขชะมัดยามได้เห็นแก้มใสๆกลมป่องเพราะความแสนงอน ก่อนหน้านี้ตอนคบกัน ยอมรับว่าเขาไม่เคยใส่ใจความเป็นเทพิมพ์เลย อาจเพราะเทพิมพ์คนเก่าไม่ได้แตกต่างจากผู้หญิงคนอื่นที่พยายามเอาอกเอาใจ ทำตัวเป็นคนไม่มีปากเสียง ไม่โต้เถียงแม้ถูกเขาทำร้ายจิตใจเพื่อยืดอายุสถานะแฟน แต่อะไรที่มาจากการฝืน อะไรที่ไม่เป็นตัวของตัวเอง มันสัมผัสได้เสมอ มันจึงไม่มีความประทับใจ
เทพิมพ์คนเก่าไม่เคยมีตัวตนในความทรงจำของเขา จนกระทั่งวันที่แยกทาง วันเดียวที่เขายอมเสียเวลาสบตาดวงตากลมๆของคนในอ้อมกอด ความห่วงใยที่อัดแน่นในดวงตาที่ตัดพ้อเขาผ่านม่านน้ำตามันติดอยู่ในใจเขามาจนถึงวันนี้ คำว่า ‘เป็นห่วง’ เขาได้รับมาจากผู้หญิงทุกคนที่ผ่านเข้ามาในชีวิต แต่คนเดียวที่ทำให้เขาสัมผัสได้ถึงความห่วงใยจากใจจริงโดยไม่ต้องพูดออกมามีเพียงเทพิมพ์คนเดียว มันตรึงแน่นแล้วค่อยๆกินพื้นที่ในหัวใจด้านชาของเขาเรื่อยมา ยิ่งได้เฝ้ามอง ก็ยิ่งได้เห็นความน่ารักที่ไร้การปรุงแต่งของหญิงสาว จึงไม่แปลกใจที่เขาอยู่ไม่เป็นสุขนักเมื่อไม่มีเทพิมพ์คอยป้วนเปี้ยนอยู่ในสายตา ความวุ่นวายที่เคยนึกรำคาญกลายเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ และนั่งไม่ติดเลยเมื่อเห็นผู้ชายคนอื่นเข้าใกล้หญิงสาว ผู้หญิงในอ้อมแขนทำให้รู้จกคำว่ากลัว ในตอนนั้นยอมรับว่ากลัวจับใจว่าจะสูญเสียเทพิมพ์ให้ผู้ชายคนอื่น เขาจึงต้องทำทุกวิถีทางเพื่อทวงคืนคนรักกลับมา และวันนี้ก็สำเร็จ เทพิมพ์กลับคืนอ้อมแขนเขาอีกครั้ง แม้วิธีการอาจไม่น่ารักนัก แต่สัญญาเลยว่าครั้งนี้จะดูแลเป็นอย่างดี ไม่โง่ปล่อยหญิงสาวหลุดมืออีกแล้ว
‘คุณธัญญ์ทำแบบนี้ทำไมนะ’
‘ผัว’ อีกแล้ว เพราะความรักที่มีให้ธรธัญญ์ยังคงเหมือนเดิม คำสั้นๆคำนี้มันจึงส่งผลต่อความรู้สึกมายมายจนเทพิมพ์ลอบถอนหายใจ ก่อนหน้ามาเป็นตัวอักษร แต่ครั้งนี้มาจากปากของธรธัญญ์เองจึงมั่นใจแล้วว่าไม่ใช่ความผิดพลาด ไม่ได้รังเกียจที่ถูกยัดเยียดให้เป็นผู้หญิงของเขา ยอมรับอย่างไร้ยางอายว่าดีใจมากด้วยซ้ำ เพียงแต่ความคลุมเคลือทำให้ไม่กล้ายืดอกรับความสัมพันธ์นี้ไว้เต็มปาก หากเป็นไปได้ก็อยากทราบเหตุผลให้กระจ่างว่าที่ธรธัญญ์ทำลงไปทั้งหมดนั้นเพราะอะไร ถ้าหากเพราะต้องการเอาชนะใครบางคน หรือเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ที่ไม่ใช่ความรัก เธอจะได้ยอมรับความจริงตั้งแต่เนิ่นๆว่ามีเวลาสั้นๆเท่านั้นที่จะได้เป็นภรรยาของเขา แต่ความเป็นจริงคือเธอไม่กล้าถาม ความอยากรู้มันเทียบไม่ได้กับความกลัว ลึกๆก็กลัวว่าคำตอบมันจะโหดร้ายกับหัวใจตัวเองเกินไป สุดท้ายจึงเลือกจะเม้มปากให้แน่นที่สุด
“ที่เงียบเนี่ย แอบด่าในใจหรือเปล่า”
“เปล่านะคะ”
“แล้วคิดอะไรอยู่”
“พิมพ์กำลังคิดว่าตอนนี้คือเรื่องจริง หรือแค่...ความฝันค่ะ”
เพราะดวงตาคือหน้าต่างของหัวใจ เมื่ออยากรู้ว่ายายตัวเล็กคิดอะไร ปลายนิ้วเรียวจึงดันปลายคางเล็กๆให้เงยหน้าขึ้นสบกับดวงตาลุ่มลึกที่ลดลงมาอยู่ในระดับเดียวกัน ทว่ามันใกล้เกินไปหน่อย ใกล้จนปลายจมูกทั้งสองบดเบียด ใกล้จนกลีบปากสองคู่แนบชิด และใกล้จนเทพิมพ์มองเห็นใบหน้าเหลอหลาของตัวเองอยู่ในดวงตาของธรธัญญ์ที่จ้องมองมา ความใกล้ชิดที่เกิดขึ้นกะทันหันจากผู้ชายที่หลงรักมอมเมาคนอ่อนเดียงสาให้เคลิ้มหลงจนไร้สติไตร่ตรองคำตอบ ใจคิดอย่างไร ปากก็พูดออกไปแบบนั้น
“พูดแบบนี้ อ่อยกันชัดๆ” กล่าวหาด้วยรอยยิ้มละมุนพลางจุมพิตหน้าผากเนียนไปทีด้วยความเอ็นดู
“อ่อยเหรอคะ?”
ดวงตากลมโตที่ยังตรึงอยู่กับเงาสะท้อนของตัวเองในดวงตาคู่คมกะพริบช้าๆกับคำกล่าวหาร้ายแรงที่กระทบโสตประสาท อ่อย? อะไรงั้นหรือที่ทำให้ธรธัญญ์เข้าใจไปแบบนั้น เทพิมพ์ทบทวนการกระทำของตัวเอง ในเมื่อเธอถูกกักไว้ในอ้อมแขนอุ่นจนขยับตัวไม่ได้แบบนี้ แล้วจะเอาช่วงเวลาไหนไปทำพฤติกรรมที่เข้าข่ายยั่วยวนธรธัญญ์กันล่ะ พยายามนึกหาคำตอบ แต่มันช่างยากลำบาก เพราะอยู่ใกล้ธรธัญญ์คราใด สติของเธอมักไม่อยู่กับเนื้อกับตัวทุกที
“คุณธัญญ์! ทะ...ทำอะไรคะ”
แค่ดวงตาสีเข้มของธรธัญญ์มองมานิ่งๆ หัวใจดวงน้อยยังกวัดไกวไม่อยู่กับที่ แล้วตอนนี้มือใหญ่ที่เคยดันแผ่นหลังย้อนกลับมาด้านหน้าเพื่อถกชายเสื้อของเธอขึ้นพาดไว้บนไหล่ จนลมเย็นๆจากเครื่องปรับอากาศสัมผัสผิวเนื้อเปลือยตั้งแต่แผ่นท้องลามขึ้นไปจนถึงเนินอก มีหรือที่เทพิมพ์จะยืนไหว ขาเรียวเล็กอ่อนแรงจนร่างบางทรุดฮวบ ยังโชคดีที่แขนอีกข้างของธรธัญญ์ยังรัดอยู่รอบเอวบาง แต่คิดอีกทีอาจเป็นโชคร้าย เพราะมันทำให้เทพิมพ์ดิ้นหนีไม่พ้นจากมือใหญ่ที่อ้อมไปด้านหลังแล้ววุ่นวายกับตะขอเสื้อชั้นในจนมันแยกห่าง เทพิมพ์หลับตาปี๋พลางย่นคอหนีเมื่อธรธัญญ์ก้มหน้าลงซุกกลางอก ไรเคราที่ครูดโนมเนื้ออุ่นบอกให้รู้ว่าชายหนุ่มใช้ริมฝีปากร้ายกาจคาบบราขึ้นไปกองรวมกับชายเสื้อเรียบร้อย ทรวงอกอิ่มสะท้อนขึ้นและลงรุนแรงตามจังหวะหายใจที่เริ่มถี่กระชั้นด้วยความกลัว แผ่นท้องเรียบแบนหดเกร็งเมื่อปลายนิ้วที่จับหนึบตรงเอวค่อยๆเลาะช้าๆจากสีข้างบอบบางระเรื่อยขึ้นสูง สูงขึ้น สูงขึ้น จนอีกนิด...
“อย่าจับนะคะ!”
*************************

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา