ทวงรักนางซิน
เขียนโดย Phaky
วันที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 เวลา 15.02 น.
แก้ไขเมื่อ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 11.27 น. โดย เจ้าของนิยาย
28) ตามน้ำ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
นี่คุณธิปไง คุณธิปที่ยายทรายบอกว่าไม่หล่อ
.......................................
“เอาวะ! ตายเป็นตาย”
ยืนหันรีหันขวางเพราะทำอะไรไม่ถูกอยู่ชั่วครู่ สุดท้ายเม็ดทรายก็ตัดสินใจว่าจะไม่ยอมปล่อยเทพิมพ์ให้อยู่กับธรธัญญ์ตามลำพัง เพราะระดับความเกรี้ยวกราดในดวงตาคมกริบเมื่อครู่มันพุ่งสูงเสียจนเธอกลัวว่าชายหนุ่มจะเดือดจัดจนขาดสติแล้วทำร้ายเพื่อนแสนดีของเธอ แม้จะรู้ว่าความโกรธนั้นมาจากความหึงหวงเทพิมพ์ก็เถอะ หึงก็แสดงว่ารักว่าชอบ แต่โกรธก็คือโกรธไหมล่ะ ไว้ใจได้หรือ ไม่เอาล่ะ เธอไม่อยากเสี่ยง อย่างไรวันนี้ก็ต้องเอาเทพิมพ์กลับบ้านด้วยให้ได้ ไม่ว่าหลังจากนั้นจะได้รับผลกระทบอย่างไรเธอยอมแลก
“อุ้ย ขอโทษค่ะ ขอโทษ คุณเป็นอะไรไหมคะ”
แต่ยิ่งรีบก็ดูเหมือนจะยิ่งช้า เม็ดทรายกุมหน้าผากป้อยหลังชนกับอะไรสักอย่างแข็งๆที่โผล่พรวดออกมาจากพุ่มดอกเฟื่องฟ้าจนหญิงสาวเบรกตัวไว้ไม่อยู่ แรงปะทะนั้นรุนแรงจนร่างเล็กเซถอยหลัง เกิดอาการมึนงงจนต้องสะบัดศีรษะไปมาหลายรอบกว่าสติจะคืนที่จนมองเห็นทางหางตาว่าเงาดำเมื่อครู่คือสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าผู้ชาย เรียวหน้าสดใสแหงนขึ้นมองตามความสูง เป็นผู้ชายร่างสูง ตัวใหญ่ หน้าตาดี ดีมากเชียวแหละกำลังยืนกอดอกมองมาที่เธอนิ่งๆ คงไม่พอใจที่เธอวิ่งไปชนเขา ถึงจะเจ็บตัวแต่ก็ทราบดีว่าตัวเองคือฝ่ายผิด เม็ดทรายจึงพนมมือไหว้ขอโทษด้วยความสำนึก ทว่าชายหนุ่มกลับเฉยเมย ยืนกอดอกนิ่งเป็นหุ่น ไม่หือไม่อือใดๆจนคนผิดกะพริบตามองปริบๆ ว่าเขาจะเอาอย่างไร
“เอ่อ... รบกวนหลีกทางให้ด้วยค่ะ ฉันต้องรีบไปทำธุระ”
“ถ้ารีบก็น่าจะมาตั้งแต่เมื่อวาน”
‘อ้าว พูดแบบนี้คืออะไร อยากมีเรื่อง?’
จากที่ตอนแรกสำนึกผิด มาตอนนี้ในดวงตากลมของเม็ดทรายกลับมีแต่ความขัดเคืองเพราะรู้สึกเหมือนผู้ชายหน้าโคตรหล่อตรงหน้าไม่ได้ซาบซึ้งในความสำนึกผิดของเธอเลยสักนิด แล้วบังเอิญว่าเม็ดทรายก็ประเภทไม่ถนัดยอมใครเสียด้วย ในเมื่อมั่นใจว่าความผิดของตัวเองไม่ได้ร้ายแรงนัก จะว่าไปเขาก็มีส่วนผิดครึ่งหนึ่งที่อยู่ๆก็พุ่งออกมาราวกับตั้งใจให้เธอชนแบบนั้น ซ้ำเธอยังกล่าวขอโทษไปแล้ว เรื่องมันก็ควรจะจบลงด้วยดีมากกว่ามายืนจ้องหน้ากันแบบนี้ไหมล่ะ
“ถ้ามาตั้งแต่เมื่อวาน แล้ววันนี้ฉันจะได้รีบไหมล่ะ พูดไม่คิด เหอะ!”
“หมายความว่าถ้ามาเมื่อวานคุณจะไม่ได้เจอผม ถ้าไม่เจอผม คุณก็ไม่จำเป็นต้องรีบ และที่วันนี้คุณแกล้งทำเป็นรีบ ก็เพื่อหาโอกาสมาชนผม?”
‘อิหยังวะ!’
หัวคิ้วเรียวขมวดน้อยๆกับประโยคยาวเหยียดของคู่กรณี เม็ดทรายทบทวนมันแล้วพยายามสรุปใจความสำคัญที่ชายหนุ่มต้องการสื่อสาร เท่าที่สมองน้อยๆแปลได้ คือเขากำลังบอกว่าเธอตั้งใจพุ่งชนเพื่ออ่อยเขา ถึงกับต้องกลอกตามองบนกับความมั่นใจสูงเสียดฟ้าของคู่กรณีแล้วส่ายหน้าเบาๆ เม็ดทรายถอนหายใจดังเฮือกตั้งใจให้บุรุษตรงหน้าได้ยิน มโนเก่งเหลือเกินพ่อคุณ
“มั่นหน้ามั่นโหนกเหลือเกินพ่อ คิดว่าตัวเองหล่อมากว่างั้น”
“หรือคุณจะบอกว่าผมไม่หล่อ”
นั่น! ภาษากายของเธอไม่ได้ทำให้คนหลงตัวเองสะทกสะท้านใดๆเลยสินะ นอกจากไม่สลด คู่กรณียังลดใบหน้าลงต่ำจนสายตาทั้งสองคู่อยู่ในระดับเดียวกัน แถมยังใกล้จนปลายจมูกโด่งของเขาเกือบทิ่มหน้า พาให้ลมหายใจของเม็ดทรายสะดุดกึก คงอยากอวดความหล่อ ก็หล่อจริงตามสรรพคุณที่โอ้อวดนั่นแหละ ยิ่งอยู่ใกล้จนมองเห็นขนอ่อนบนใบหน้าขนาดนี้ ก็ยิ่งปฏิเสธยาก พ่อคุณตาสวยใช่เล่น คิ้วก็เข้ม จมูกโด่งด้วย กลีบปากอมชมพูอีกแน่ะ ให้ตายเถอะ
“พื้นๆ”
แต่เรื่องอะไรจะยอมรับให้เสียเชิง เม็ดทรายเบะปากพลางตอกกลับชัดถ้อยชัดคำใส่หน้าหล่อเหลานั่น เผื่อคนหลงตัวเองจะสูญเสียความมั่นใจไปบ้าง แต่กลับไม่มีอะไรมาหยุดยั้งความมั่นหน้าของชายหนุ่มได้เลย นอกจากไม่เปิดใจเชื่อ คู่กรณียังหาเรื่องใหม่มาใส่ร้ายเธอได้อีก
“ตาเหล่” กล่าวหาแล้วดีดหน้าผากเนียนเบาๆทำโทษที่พูดปด
“โอ๊ย! นี่หน้าผากคนนะไม่ใช่ลูกแก้ว ดีดมาได้ แล้วคุณว่าใครตาเหล่ ฮะ!”
ชายหนุ่มไม่ตอบด้วยคำพูด แต่ยืนกอดอกแล้วใช้สายตาปรักปรำเพ่งมาที่เธอ ก็แน่ล่ะ ตรงนี้มีเธอยืนเถียงกับเขาคนเดียวนี่ เรียวหน้ากลมแป้นยับย่น นัยน์ตาสดใสเรืองรองอาฆาตร้าย หยามกันขนาดนี้เม็ดทรายจะไม่ทน เกิดมายี่สิบเอ็ดปีไม่เคยมีใครสักคนเล่าให้ฟังว่าเธอตาเหล่ มีแต่ชมว่าดวงตาของเธอกลมโตน่ารัก แล้วหมอนี่เป็นใคร บังอาจมาใส่ร้ายให้นางสาวเม็ดทราย ผู้มีความงามทะลุจักรวาลคนนี้ด่างพร้อย
‘ตายซะเถอะ!’
ไวเท่าความคิดคือเรียวขาขาวที่ถีบพรวดไปข้างหน้าไม่คิดส่งเสียงแจ้งเตือน เป้าหมายคือตรงไหนก็ได้บนเรือนกายสูงชะลูดของมนุษย์ปากเสีย แต่ไวไม่แพ้เรียวขาน้อยๆคือฝ่ามือนุ่มของคู่กรณี ที่ยื่นมายันหน้าผากเนียนจุดเดียวกับที่ถูกดีดเมื่อครู่ ดวงตาของสตรีหัวร้อนลุกวาว ไม่ใช่เพราะถูกแตะต้องเนื้อตัว แต่เป็นเพราะความยาวของท่อนแขนที่อัดแน่นด้วยกล้ามเนื้อนั้นยาวกว่าช่วงขาของตัวเอง ไม่ว่าพยายามเหยียดขาถีบกี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ปลายเท้าเล็กๆก็ไปไม่ถึงเนื้อตัวของชายหนุ่มสักที เจ็บใจชะมัด!
“ตาเหล่ไม่พอ ขายังสั้นอีก”
เช่นเดียวกัน คนบ้านี่หล่อไม่พอ แขนยังยาวอีก ดูเหมือนจะยาวกว่าอนาคตเธอด้วยมั้ง แต่หากด่าไปก็เกรงจะกลายเป็นคำชมให้ชายหนุ่มยิ่งเหลิงเสียมากกว่า เม็ดทรายจึงบ่นแค่ในใจแล้วพยายามออกเท้าออกหมัด จากร้อยครั้งที่เตะไป ขอแค่โดนสักดอกก็ถือว่าการแก้แค้นครั้งนี้ประสบความสำเร็จ
“มีปัญหาอะไรหรือเปล่าครับคุณธิป”
ทว่าความหวังของเม็ดทรายกลับพังทลายเมื่อได้ยินเสียงถามด้วยความเกรงอกเกรงใจจากทางด้านหลังของตัวเอง เมื่อมีบุคคลที่สามหญิงสาวจึงหยุดการปะทะแล้วหันหลังกลับไปมอง แต่กลายเป็นการเปิดโอกาสให้คู่กรณีโจมตีเสียเปล่า ไม่ทันตั้งตัว คนปากร้ายก็รวบเอวเล็กไปยืนอยู่ข้างตัวเขา เม็ดทรายหยิกแขนที่รัดเอวให้รีบปล่อย ทว่าไอ้คุณธิปอะไรนี่กลับยิ่งเพิ่มน้ำหนักมือกดเอาไว้ให้หญิงสาวดิ้นไม่ออก
‘เดี๋ยวนะ! คุณธิปเหรอ? คุณธิป? คุณธิป? คุณธิป? ทำไมคุ้นชื่อนี้’
“ไม่มีอะไร แฟนผมเขางอนนิดหน่อยน่ะที่ผมมารับช้า โอ๋ๆนะที่รัก เรียบร้อยไหม”
เม็ดทรายเบิกตากว้างขึ้นมองปลายคางคนพูด แฟนบ้าแฟนบออะไรกันเล่า เธอยังโสดแถมไม่รู้จักเขาด้วย เรียวปากจิ้มลิ้มกำลังจะพ่นไฟด่าอยู่แล้วเชียว แต่คำถามสั้นๆ ที่ไม่มีประธาน กิริยา กรรม บอกกล่าวเรื่องราวที่ไอ้คุณธิปหันไปถามพนักงานน่ะมันมีความน่าสงสัย อะไรเรียบร้อย ก่อนหน้านี้ชายหนุ่มสั่งให้พนักงานหน้าซื่อคนนี้ทำอะไรงั้นหรือ อย่าหาว่าเสือกเลยนะ แต่มันตงิดใจชอบกล เม็ดทรายจึงหุบปากแล้วเงี่ยหูรอฟัง
“ครับ” คำถามว่าสั้นแล้ว คำตอบกลับสั้นกว่า ตอบแบบนี้ดับฝันสายเผือกชะมัด
“ขอบใจมาก ไปทำงานต่อเถอะ”
เมื่องานเรียบร้อย คนหล่อจึงล้วงธนบัตรสีเทายื่นให้ พนักงานไหว้ขอบคุณแล้วเดินจากไป เม็ดทรายลอบมองตาม แอบคิดว่าจะตามไปถามดีไหมเมื่อมันคาใจชอบกล แต่ก่อนจะไปได้คงต้องเคลียร์กับตัวปัญหาตรงหน้านี้ก่อน พ้นบุคคลที่สาม ความแค้นรอระบายก็ทำงานทันที มือน้อยหยิกแขนข้างที่กอดเอวไว้แน่นเต็มแรงประหนึ่งให้หนังกำพร้าชั้นนอกหลุดติดมือ หยิกค้างไว้อย่างนั้นด้วยน้ำหนักมือคงที่จนท่อนแขนแข็งๆนั่นยอมปล่อยเอวเล็กให้เป็นอิสระ เธอเป็นคนบิดยังแอบเจ็บเล็บไม่น้อย แต่คนโดนหยิกกลับยืนกอดอกทำหน้าเรียบเฉย เฉยเสียจนเม็ดทรายขมวดคิ้วมองแขนสลับกับใบหน้าของคู่กรณี อีตานี่เป็นคนหรือซอมบี้กันแน่ รอยเล็บจิกลึกขนาดนั้นแต่กลับไม่ร้องสักแอะ
“ทำหน้าแบบนี้หมายความว่าไง หรืออยากให้กอดอีก”
“ชิ! หลงตัวเอง รู้ไว้เลยนะว่าที่ฉันออกมาข้างนอกเนี่ย ฉันออกมาตามเพื่อนย่ะ ไม่ได้มาเพื่ออ่อยคุณ เพื่อน? พิมพ์! ซวยแล้ว! คุณธัญญ์พาพิมพ์ไปถึงไหนแล้วเนี่ย แล้วบ้านคุณธัญญ์ไปทางไหนอ่ะ เอาไงดีวะ”
พอพูดถึงเพื่อน เม็ดทรายจึงนึกขึ้นได้ว่าจุดประสงค์ที่วิ่งออกมาจากห้องน้ำนั้นเพื่อไปตามตัวเทพิมพ์คืนจากธรธัญญ์ แต่เธอกลับเสียเวลายืนปะทะคารมกับไอ้คุณธิปนี่ไปหลายนาที ป่านนี้พ่อคนขี้หึงไม่ลากเพื่อนเธอไปถึงไหนต่อไหนแล้วหรือ มือน้อยตบหน้าผากตัวเองซ้ำๆ จนขึ้นรอยแดงปื้นใหญ่ แต่นั่นดูเหมือนจะยังไม่สาสมกับความพลาดพลั้ง หรือต่อให้เขกจนกะโหลกตัวเองแตกร้าวยังไม่มั่นใจเลยว่าจะพอหรือเปล่า แต่ไม่หรอก เธอต้องแบ่งมะเหงกให้ไอ้คุณธิปนี่ไปเขกตัวเองด้วยครึ่งหนึ่ง ถ้ามิใช่เพราะชายหนุ่มพุ่งตัวออกมาชนเธอในจังหวะสำคัญแล้วพูดจาระคายหู เธอคงไม่สติหลุดจนหยุดยืนปะทะฝีปากให้เสียงานแบบนี้ ฮึ่ย! เห็นหน้านิ่งๆไม่รู้ร้อนรู้หนาวแล้วหิวเลือดชะมัด!
“ยังไงดี ยังไงดี๊”
เหมือนศีรษะเล็กๆกำลังจะระเบิดด้วยคิดไม่ตก ลำพังเธอคนเดียวคงทำอะไรไม่ได้ สถานการณ์ย่ำแย่แบบนี้คงต้องหาตัวช่วย คนแรกที่นึกถึงคือจงจิตต์ หญิงเหล็กเพียงคนเดียวที่พอจะมีพลังต้านทานรังสีอำมหิตของธรธัญญ์ ทว่าเธอไม่มีเบอร์ส่วนตัวของเลขาฯคนเก่งนี่สิ หากจะโทร.ไปขอจากฝ่ายบุคคลของโรงแรม พรุ่งนี้คงกลายเป็นข่าวลือหัวข้อสำคัญให้พนักงานเม้าท์กันปากเปื่อยเป็นแน่ และคนที่จะเละเป็นของเหลวก็คงหนีไม่พ้นเทพิมพ์
“กลับบ้าน...เลยไหม”
เม็ดทรายอึ้งไปนิดกับคำถามธรรมดาก่อนเงยหน้าหมดอาลัยตายอยากขึ้นมองคนถาม ไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่าว่าชายหนุ่มกำลังชี้แนะทางเลือกให้เธอ ‘กลับบ้านซะแล้วทำใจยอมรับ’ เหมือนดวงตาเยิ้มหวานของเขาบอกแบบนั้น แต่จะเป็นไปได้อย่างไร เขาไม่ทราบด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้นกับเทพิมพ์
“ไม่อ่ะ ฉันต้องเข้าไปหาเพื่อนที่มาด้วยกันก่อน”
และนั่นอาจเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด เงียบไปอึดใจเม็ดทรายจึงถอนหายใจระบายความเครียดแล้วส่ายหน้า หมดอารมณ์จะโต้เถียงด้วย เพราะนี่ก็อีกเรื่องชวนปวดศีรษะจนมือน้อยต้องยกขึ้นนวดขมับ เธอจะเข้าไปอธิบายให้พลธวัชเข้าใจอย่างไรดีที่ไม่มีเทพิมพ์เดินกลับเข้าไปด้วยกัน จะให้บอกตามความจริงเลยไหม หรือต้องสร้างเรื่องขึ้นมาโป้ปด
‘โอ๊ย! อยากจะบ้า ทำไมวันนี้มันยากจัง’
................................................................
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ