ทวงรักนางซิน

-

เขียนโดย Phaky

วันที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 เวลา 15.02 น.

  47 ตอน
  1 วิจารณ์
  37.97K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 11.27 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

27) งานเข้า

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

ยิ้มหวานไปก่อนลูก เพราะหลังจากนี้มีแววว่าหนูจะยิ้มไม่ออก

*******************************************

 

“พิมพ์ พี่มีเรื่องสำคัญอยากบอก พี่...รักพิมพ์ รักตั้งแต่วันแรกที่ได้เจอ ความรักที่พี่มีให้พิมพ์ มันไม่เคยลดลงเลยสักวัน วันนี้พิมพ์อาจยังไม่รักพี่ ไม่เป็นไร แต่พี่อยากขอโอกาสจากพิมพ์ได้ไหม ขอโอกาสให้พี่ได้พิสูจน์ให้พิมพ์รู้ ว่าผู้ชายที่รักพิมพ์ด้วยใจจริงคนนี้ รักและทำเพื่อพิมพ์ได้ทุกอย่าง คบกับพี่นะครับ”

ร่างสูงย่อตัวลงชันเข่าข้างหนึ่งกับพื้น จากนั้นดอกกุหลาบสีขาวช่อโตในอ้อมกอดก็ถูกยกขึ้นสูง พลธวัชเงยหน้าขึ้นรอคำตอบ ไม่ต้องตอบรับเป็นคำพูดก็ได้ ขอเพียงแค่เทพิมพ์ยื่นมือมารับช่อดอกกุหลาบนี่ไว้ แค่นั้นก็เพียงพอแล้วที่จะหมายถึงการตอบรับว่าหญิงสาวเปิดใจ มอบโอกาสให้เขาได้พิสูจน์ความรักของตัวเอง และสัญญาเลยว่า หากได้รับโอกาสมาแล้ว เขาจะทำทุกอย่างให้ดีที่สุด ให้เทพิมพ์ตระหนักทุกลมหายใจเข้าออก ว่าตัดสินใจไม่ผิด ที่เลือกวางชีวิตไว้กับเขา

ทว่าคำตอบกลับมีแค่ความเงียบงัน พลธวัชก้มหน้ามองช่อดอกไม้ก่อนเบี่ยงหน้าไปยังประตูสลับนาฬิกาข้อมือเพราะเทพิมพ์กับเม็ดทรายขอตัวไปเข้าห้องน้ำหลังจบมื้ออาหาร ตอนนี้จึงเหลือเขาในห้องตามลำพังช่างเข้าทาง ระหว่างรอให้พนักงานเก็บจานชาม เคลียร์สถานที่ให้บรรยากาศเหมาะสมกับการขอความรัก พลธวัชจึงใช้เวลานี้ซักซ้อมลดความประหม่า ชายหนุ่มกุมมือตรงอกข้างซ้ายแล้วยิ้มขำในความสะท้านสะเทือนรุนแรงของหัวใจ ปกติในชีวิตไม่ค่อยยินดียินร้ายกับอะไรนัก นิ่งเสียจนถูกพนักงานเรียกลับหลังว่าผีดิบเสียด้วยซ้ำ แต่มาวันนี้ วันที่ได้รู้จักกับสาวน้อยนัยน์ตากลมใส ความน่ารักไร้เดียงสาของเทพิมพ์ปลุกชีวิตชีวาของผีดิบขึ้นมาทีละเล็กทีละน้อยจนกลายเป็นมนุษย์ที่มีหัวใจเหมือนคนอื่น พลธวัชมองช่อดอกกุหลาบช่อแรกที่ซื้อในชีวิตอีกครั้งนิ่งๆ หวังเหลือเกินว่าอีกไม่กี่นาทีหลังจากนี้มันจะเปลี่ยนไปอยู่ในมือเทพิมพ์ หวังเหลือเกินว่าจากนี้เขาจะมีโอกาสได้ซื้อมันอีกร้อยช่อพันช่อให้หญิงสาว และหวังเหลือเกินว่าผู้หญิงคนเดียวที่ทำให้ผีดิบคนนี้ตกหลุมรัก จะยอมรับรักจากเขา

‘หวังว่าคุณเวนิสจะทำสำเร็จ’

แต่แทนที่เส้นทางความรักของเขาจะโรยด้วยกลีบกุหลาบ ในความเป็นจริงกลับถูกแทนที่ด้วยกระดูกของหมาหวงก้างชิ้นโต พลธวัชขบกรามเมื่อนึกถึงกระดูกที่นอนขวาง ไม่รู้ธรธัญญ์คิดอะไรอยู่ ชายหนุ่มถึงเดินกลับเข้ามาในชีวิตของเทพิมพ์อีกครั้ง ทั้งที่ก่อนหน้าก็เป็นฝ่ายทอดทิ้งจนแม่ยอดดวงใจของเขาร้องไห้ตาบวมเป่งมาทำงานไม่เว้นวัน ถ้าเทียบกับผู้ชายคนอื่นที่หมายตาเทพิมพ์ เขามั่นใจว่ามีภาษีเหนือกว่ามาก แต่หากยืนเทียบเคียงกับธรธัญญ์ นอกเหนือจากความมั่งคั่ง สิ่งเดียวที่เขาพ่ายแพ้คือความรู้สึก ดวงตาของเทพิมพ์สารภาพหมดเปลือกว่ารักผู้ชายโลเลคนนั้นสุดหัวใจ

แต่ก็ยังไม่หมดหวังเสียทีเดียว เพราะธรธัญญ์หาใช่คนตัวเปล่า ข้างกายของชายหนุ่มยังมีเวนิสาตามพัวพันและเขาก็ใช้มันเป็นตัวบ่อนทำลายความรู้สึกของเทพิมพ์ทุกครั้งที่มีโอกาส ครั้งนี้ก็เช่นกันที่เขากับเวนิสาจับมือเพื่อผลประโยชน์ ในขณะที่เขาเตรียมขอความรักจากเทพิมพ์ เวนิสามีหน้าที่ดึงธรธัญญ์ไว้กับตัวเองป้องกันไม่ให้เจ้านายหนุ่มที่พักหลังทำตัวเป็นเงาของเทพิมพ์ตามมาขัดขวาง วิธีการก็คงไม่พ้นเรื่องบนเตียง และหากไม่เกินความสามารถ ภาพเหล่านั้นบางส่วนจะถูกส่งมาให้เทพิมพ์รับรู้ ซึ่งป่านนี้คงได้รับแล้ว ไม่แน่ว่าที่สองสาวหายไปกันนานอาจเพราะกำลังร้องไห้อยู่ เทพิมพ์ต้องใจสลายแน่ที่เห็นผู้ชายที่ตัวเองรักนัวเนียกับผู้หญิงคนอื่น ในสภาพจิตใจบอบช้ำ นั่นจะทำให้หญิงสาวตัดสินใจรับรักเขาง่ายขึ้น

“ปิดไฟได้เลยครับ”

พลธวัชมองไปรอบห้องอาหารที่ถูกเติมแต่งด้วยดอกไม้ตามมุมห้องด้วยรอยยิ้มพอใจ คนสีไวโอลีนก็มายืนรอตรงมุมห้องแล้ว ชายหนุ่มจึงสั่งให้พนักงานปิดไฟดวงหลัก เหลือเพียงแสงไฟสีเหลืองนวลจากหลอดไฟดวงเล็กที่ระโยงระยางไปรอบห้องให้ความรู้สึกโรแมนติก ดวงตาเปี่ยมรักจ้องมองที่ประตูพลางฮัมเพลงลดความตื่นเต้น หน้าที่ของเขาที่เหลือก็แค่อดทนรออย่างใจเย็น

“พิมพ์ ทรายถามอะไรหน่อยสิ”

เม็ดทรายรีบเดินแกมวิ่งเข้าไปลากมือเทพิมพ์ไปยืนคุยกันที่อ่างล้างมือทันทีทีประตูห้องน้ำเปิดออก เพราะร้อนรนใจเหลือเกิน นึกโกรธตัวเองไม่น้อยที่เพิ่งมานึกได้เอาป่านนี้

“อะไรล่ะ”

“ที่มากินข้าวเนี่ย พิมพ์ขออนุญาตคุณธัญญ์แล้วใช่ไหม”

เม็ดทรายกลั้นใจถามอย่างมีความหวัง แต่แล้วเพื่อนรักกลับทำความหวังพังทลายด้วยการส่ายหน้า ร่างเล็กของคนถามซวนเซจนต้องพิงแผ่นหลังกับขอบอ่าง มือน้อยข้างหนึ่งยกขึ้นกุมหน้าอก รู้สึกใจแป้วๆ หวิวๆ เหมือนจะเป็นลมกะทันหัน ส่วนอีกข้างปาดเหงื่อที่ไหลย้อยข้างขมับ ไม่เคยตกลงก็จริง ไม่เคยได้รับคำสั่งเป็นลายลักษณ์อักษรก็ใช่ แต่เธอเชื่อในสัญชาตญาณว่าธรธัญญ์ต้องไม่พอใจมากแน่ๆที่เทพิมพ์ออกมาเตร็ดเตร่นอกบ้านโดยไร้การบอกกล่าว

“ไม่ได้ขอ! ตายๆๆ ตายอย่างเขียดถูกรถทับแน่ พิมพ์จ๋าพิมพ์ ตัวต้องรู้หน้าที่สิ ว่าก่อนจะไปไหนมาไหน ต้องรอให้คุณธัญญ์อนุญาตก่อน เรื่องสำคัญขนาดนี้ พิมพ์ลืมได้ไง” บ่นเพื่อนไปพลาง ซับเหงื่อไปพลาง แกล้งตายตอนนี้ทันไหมเนี่ย

“ไม่ได้ลืม แต่ไม่ได้เป็นอะไรกัน เลยไม่จำเป็นต้องขออนุญาต”

“แน่ใจแค่ไหนที่พูดมาเนี่ย”

คำตอบไม่น่ารักนั้นทำเอาเม็ดทรายถอนหายใจพลางกลอกตามองบน นึกมันเขี้ยวจนอยากหยิกยายหน้าหวานที่โกหกไม่เนียนเลย ถ้าเทพิมพ์คิดเหมือนที่ตอบ นัยน์ตากลมคงไม่อัดแน่นด้วยความตัดพ้อน้อยใจ เม็ดทรายหรี่ตาจับผิดเด็กเลี้ยงแกะที่ก้มหน้าก้มตาล้างมือ พิรุธเพียบขนาดนี้ กลับไปบ้านคงต้องจับมานั่งสอบสวนให้รู้ความว่าอะไรเป็นสาเหตุให้เทพิมพ์ริอ่านทำตัวแข็งข้อกับธรธัญญ์อย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน

‘ซะ..ซะ..ซวยแล้ว!’

ทว่าตอนนี้เหมือนจะโยนแผนจับเทพิมพ์มาซักฟอกความจริงทิ้งได้เลย จะได้กลับบ้านหรือเปล่าเถอะ สองสาวยืนแข็งอยู่กับที่หลังเดินออกมาจากห้องน้ำแล้วพบว่าธรธัญญ์ยืนกอดอกรออยู่ สีหน้าเคร่งเครียดที่จ้องมาดูเอาเรื่องเหมือนนักเลงมารอดักฟาดคู่อริไม่มีผิด แค่ธรธัญญ์ยืนนิ่งๆเม็ดทรายยังเคารพทูนเกล้า แล้วนี่มายืนแผ่รังสีสังหารตรงหน้า หญิงสาวจะทำอะไรได้ดีไปกว่าร้องขอใบลาตายไว้รอ ความเงียบที่แสนกดดันส่งผลให้สองสาวพูดไม่ออก เม็ดทรายกลืนน้ำลายเหนียวหนึบลงคอพลางเหล่ตามองเทพิมพ์เพื่อขอความช่วยเหลือ แต่ดูเหมือนคุณเพื่อนจะอาการหนักกว่าเธอหลายขุม จนถึงตอนนี้ริมฝีปากน้อยๆนั่นยังอ้าค้างอยู่เลย ทั้งสงสารทั้งหมั่นไส้ ไงล่ะยายตัวดี ช็อกไปเลยล่ะสิ ตามมายืนดักถึงที่ขนาดนี้ ยังจะกล้าพูดอยู่ไหมว่าไม่ได้เป็นอะไรกับธรธัญญ์

“คะ...คุณธัญญ์ เอ่อ...สวัสดีค่ะ”

พึ่งพาเพื่อนไม่ได้ เม็ดทรายจึงทำใจดีสู้เสือด้วยการกล่าวทักทายธรธัญญ์หวังคลี่คลายสถานการณ์ ทว่าเสือกลับไม่เล่นด้วยเลย ธรธัญญ์ตวัดดวงตาสีขุ่นมองมาจนสาวน้อยคอย่น เม็ดทรายก้าวขาถอยหลังไปหนึ่งก้าวตามคำสั่งในดวงตาคมว่า...อย่ายุ่ง!

“คุณธัญญ์! จะพาพิมพ์ไปไหนคะ”

“กลับบ้านได้เลย ฉันมีธุระต้องเคลียร์กับเพื่อนเธอ”

ธรธัญญ์ไม่ตอบคำถามเทพิมพ์ แต่กลับหันไปออกคำสั่งกับเม็ดทราย แล้วกระชากข้อมือเล็กให้เดินตาม ภาพที่เห็นคือเทพิมพ์พยายามดิ้นรนขัดขืนแล้วหันมองมาร้องขอความช่วยเหลือ ดูน่าสงสารราวกับนางเอกจำเลยรักกำลังถูกรังแก เห็นคู่ซี้ลำบากแบบนั้นมีหรือคนรักเพื่อนสุดชีวิตจะยอมปล่อยผ่าน มือน้อยรูดแขนเสื้อขึ้นสูงเตรียมพุ่งหลาวเข้าไปช่วยเหลือ แต่พอเงยหน้าขึ้นมองหน้าจอมโจร ขาเล็กๆของเม็ดทรายที่เตรียมวิ่งกลับหยุดอยู่กับที่เหมือนมีมือปริศนาดึงไว้ เพราะนอกจากจอมโจรจะตวัดดวงตาเหี้ยมๆกลับมาข่มขู่แล้ว ใบหน้าหล่อเหลานั่นยังย้ำเตือนว่าจอมโจรคนเดียวกันยังเป็นถึงเจ้าของโรงแรมที่เธอกับเทพิมพ์กำลังฝึกงาน มีอำนาจชี้เป็นชี้ตายใบผ่านฝึกงานที่รอคอย คนร้ายยิ่งใหญ่ถึงเพียงนี้ แล้วมนุษย์น้อยอย่างเธอจะเอาอะไรไปสู้

“แย่แล้ว เอาไงดีวะ”

..................................................................................................................................................................

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา