ทวงรักนางซิน

-

เขียนโดย Phaky

วันที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 เวลา 15.02 น.

  47 ตอน
  1 วิจารณ์
  37.95K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 11.27 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

21) บทลงทัณฑ์

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

เตือนไว้ก่อนว่าพี่ดุมาก ถ้าใครกล้าขัดคำสั่งพี่ ใครไม่รักพี่ พี่ฟาดไม่เลี้ยงนะครับ

 

****************************

“ทำไมไม่รับโทรศัพท์วะ!”

เป็นคำถามที่ไร้คำตอบ เพราะคนที่จะตอบได้มีเพียงเทพิมพ์คนเดียว แต่ก็นั่นแหละ คำถามนี้จะไม่เกิด และเขาคงไม่ต้องมาเดินงุ่นง่านกลับไปกลับมาอยู่หน้าบ้านหญิงสาวเหมือนโจรโรคจิต ถ้าหากเทพิมพ์นั่งรอเขาอยู่ที่ห้องพยาบาลตามคำสั่ง ดวงตาคมวาววับ สองมือกำลังโทรศัพท์แน่นเมื่อนึกถึงสาเหตุที่ต้องมายืนตากน้ำค้างหนาวเหน็บแทนที่จะได้นอนพักบนเตียงนุ่มๆ ใช่! เทพิมพ์กล้าขัดคำสั่งเขาด้วยการหนีกลับมาบ้าน จนเขาต้องวางมือจากทุกอย่างแล้วบึ่งรถตามมาถึงบ้าน หลังกะทัดรัดที่จำเส้นทางได้แม่ยำ

“บริการฝากหมายเลขโทร.กลับ welcome...”

และตอนนี้เทพิมพ์ก็กำลังเพิกเฉยต่อสายเรียกเข้าจากเขา ดวงตาคมหลับลงเมื่อรู้สึกถึงอะดรีนาลีนที่กำลังไหลทะลักในร่างกายตามจำนวนครั้งที่หูได้ยินสัญญาณฝากข้อความจากระบบอัตโนมัติ หลังโทร.หาเป็นรอบที่ร้อยแปดแล้วหญิงสาวก็ยังไม่ยอมรับสาย จำไม่ได้แล้วว่าเคยโกรธจนควันออกหูแบบนี้ครั้งสุดท้ายเมื่อไร ที่สมองจำได้อย่างเดียวตอนนี้ก็คือผู้หญิงเจ้าของดวงตาใสแจ๋วกับรอยยิ้มใสซื่อจริงใจที่ชื่อเทพิมพ์ กำลังทำให้เขาโกรธจนอยากจับหญิงสาวมานอนพาดตักแล้วฟาดบั้นท้ายด้วยมือของเขาหนักๆสักสองโหล

“ฮึ่ย! ซื้อโทรศัพท์ไว้คั่นหนังสือหรือไงวะ”

และนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกในช่วงเวลาสิบนาทีที่ริมฝีปากบางเฉียบพร่ำบ่น แต่ถึงปากจะบ่นเหมือนรำคาญหนักหนา ทว่ามือใหญ่ก็หาได้หยุดกดโทรศัพท์ต่อสายเรียกคนในบ้าน ขณะเดียวกันดวงตาแข็งกร้าวก็จ้องบานประตูหน้าบ้านของเทพิมพ์เขม็ง เพ่งเหมือนต้องการมองทะลุให้เห็นคนที่อยู่ข้างใน จ้องเหมือนต้องการใช้พลังความกราดเกรี้ยวบังคับให้ลูกบิดประตูหมุนออก แต่สุดท้ายบานประตูก็ยังปิดสนิทเหมือนเดิม สัญญาณฝากข้อความก็เช่นกัน

มือทั้งสองกำหมัดแน่นหลังสัญญาณฝากข้อความครั้งล่าสุดจบลง ยิ่งเวลาผ่านไป ปริมาณอะดรีนาลีนก็ยิ่งเพิ่ม และตอนนี้มันก็สะสมจนมากพอจะบงการให้ธรธัญญ์ทำลายล้างทุกอย่างที่ขวางไม่ให้เขาได้เจอเทพิมพ์ ทว่าอย่างไรวันนี้เขาต้องได้เห็นหน้าหวานๆก่อนนอน โทรศัพท์ราคาแพงถูกโยนใส่กระเป๋ากางเกงเมื่อธรธัญญ์ตัดสินใจแล้วว่าจะไม่เสียเวลารอให้คนในบ้านเป็นฝ่ายออกมาอีกแล้ว แต่เขาจะเป็นฝ่าบุกเข้าไปเอง ดวงตาเรืองรองด้วยลูกไฟขนาดย่อมจ้องเป๋งไปยังประตูบ้านเพราะมันคือศัตรูหมายเลขหนึ่ง ก่อนหันซ้ายแลขวาหาตัวช่วยพังมันให้เปิดทาง ทว่ากลับพบแต่กระถางดอกไม้ต้นเล็กต้นน้อยวางอยู่รอบบ้าน

“ใครขวาง ทุบพังแม่งให้หมด!”

เมื่อไม่มีตัวช่วย ธรธัญญ์ก็ต้องช่วยตัวเอง มือใหญ่ถลกชายแขนเสื้อเชิ๊ตแขนยาวขึ้นไปกองไว้เหนือข้อศอกลวกๆเพื่อความทะมัดทะแมงขณะเดินไปยังประตูหน้าบ้าน พลางใช้ความคิดว่าควรเคาะก่อนดีไหม หรือว่าจะบุกเข้าไปเลย เพื่อมารยาทที่ดีก็ควรเคาะแล้วทิ้งจังหวะรอเจ้าของบ้านมาเปิด แต่ธรธัญญ์ใจร้อนเกินกว่าจะอดทนรอ พอเดินไปถึงประตู ท่อนขาแข็งแรงก็ยกขึ้นจากพื้นความสูงระดับเอวเตรียมถีบบานประตูไม้ให้เปิดออก อีกนิดฝ่าเท้าใหญ่โตก็เกือบได้ประลองความแข็งกับบานประตูแล้วหากไม่ได้ยินเสียงรถยนต์เข้ามาจอดเทียบที่หน้าบ้านของเทพิมพ์เสียก่อน มหาเศรษฐีในคราบโจรหันขวับกลับไปมอง จากที่ตาขวางเพราะคิดว่าเป็นพลธวัช ดวงตาคู่คมกลับหรี่มองด้วยความสงสัย เพราะรถคันที่ว่านั้นเป็นของคชา ลูกน้องคนสนิท มันมาทำอะไรที่บ้านของเทพิมพ์เวลานี้!

“แกมาทำอะไรที่นี่” ถ้าคำตอบไม่เข้าท่า มันตาย!

“กุญแจรถมอเตอร์ไซค์ของคุณพิมพ์ครับ”

คชาต้องรีบตอบพร้อมกับยื่นกุญแจรถมอเตอร์ไซค์ของเทพิมพ์ให้กับเจ้านาย เพราะนอกจากดวงตาไม่เป็นมิตรที่มองมา น้ำเสียงที่เอ่ยถามก็เข้มห้วนราวกับเขาได้กลายจากลูกน้องคนสนิทไปเป็นคู่อริตัวฉกาจ แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่คิดโกรธเคืองธรธัญญ์ ด้วยรู้มาสักพักแล้วว่าเจ้านายหวงคุณผู้หญิงตัวเล็กๆที่อยู่ในบ้านมากจนพร้อมปะทะทันทีหากมีผู้ชายคนไหนมาวุ่นวาย

“กุญแจ?”

ถ้าคชาไม่พูดถึง สารภาพว่าเขาลืมไปแล้วว่าเคยสั่งให้ลูกน้องเอารถมอเตอร์ไซค์ของเทพิมพ์ไปส่งซ่อมครั้งที่ช่วยเหลือหญิงสาวจากพวกเด็กแว้น สารภาพเพิ่มอีกนิดก็ได้ว่าอันที่จริงรถก็ไม่ได้พังขณะเคลื่อนย้ายตามที่เขาบอกกับเทพิมพ์ ก็แค่อยากได้โอกาสไว้ทำหน้าที่รับส่งหญิงสาว ซึ่งเทพิมพ์ก็แสนซื่อเชื่อคำพูดเขาสนิทใจ ทุกอย่างจึงเป็นไปตามแผน คิ้วเข้มขมวดมุ่น เกิดความสงสัยว่าทำไมอยู่ๆคชาถึงต้องถ่อเอากุญแจมาให้เขาตอนนี้ด้วย ในเมื่อยังไม่มีคำสั่งยกเลิก คชามองเห็นคำถามในแววตาคู่คม ไม่ต้องรอให้ถาม หนุ่มน้อยนัยน์ตาซื่อก็เร่งไขข้อสงสัย

“ครับ กุญแจรถของคุณพิมพ์ ส่วนกุญแจอีกดอก ไม่แน่ว่า อาจเป็นกุญแจบ้านสำรอง”

คำว่า ‘กุญแจบ้านสำรอง’ ทำเอาวงหน้าหล่อหันขวับมองหน้าซื่อๆของคชาทันควัน ก่อนก้มมองพวงกุญแจในมือที่แขวนไว้ด้วยกันสองดอก เสร็จแล้วหันมองบานประตูที่กำลังเป็นปัญหา ก่อนวนกลับมาสบตากับลูกน้องคนสนิทอีกครั้ง เอาล่ะ จบธุระนี่แล้วคงต้องเรียกคชามานั่งสอบสวนจริงจังว่ามันแอบเลี้ยงกุมารไว้ตามเฝ้าเขาหรือเปล่า ธรธัญญ์กลอกตามองบนพลางถอนหายใจดังเฮือก ไม่รู้จะดีใจหรือร้องไห้ที่มีลูกน้องรู้ใจเขาขนาดนี้

คชานี่มัน...คุณจงจิตต์เวอร์ชั่นผู้ชายชัดๆ!

“อากาศค่อนข้างเย็น คุณธัญญ์ไม่ควรยืนตรงนี้นานนะครับ เดี๋ยวจะเป็นหวัด”

กล่าวจบคุณจงจิตต์เวอร์ชั่นมีหนวดก็หันหน้ามองบานประตู ก่อนดึงสายตาใสซื่อกลับมามองสบตากับเจ้านายเหนือหัวอีกครั้ง ธรธัญญ์ส่ายหน้าน้อยๆ แปลไทยเป็นไทยได้ความว่า...เขาควรใช้กุญแจในมือนี่ไขประตูแล้วพาตัวเองเข้าไปหาความอบอุ่นในบ้านของเทพิมพ์เพื่อความปลอดภัยของร่างกายเป็นการด่วน ไอ้เวรคชา! เรื่องชี้โพรงให้กระรอกนี่ถนัดนัก

“อยากได้อะไรเป็นพิเศษไหม?”

“อยากเห็นคุณธัญญ์มีความสุขครับ” ตอบแบบนี้ ต่อให้เป็นเสือยิ้มยาก สุดท้ายก็ต้องหลุดยิ้มเหมือนเขานี่ล่ะ

“ขอบใจ แกกลับไปพักเถอะ ดึกแล้ว อากาศเย็น ยืนตรงนี้นานระวังจะเป็นหวัด”

“กู๊ดไนท์ครับ”

คชายิ้มรับเมื่อกระรอกเตรียมเข้าไปตามโพรงที่เขาช่วยขุดให้มันง่ายขึ้น เมื่อภารกิจเรียบร้อยแล้วก็ไม่มีความจำเป็นต้องอยู่ตรงนี้ต่อ ลูกน้องที่แสนรู้ใจจึงโค้งรับคำบัญชาพลางซ่อนรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม ธรธัญญ์หวังดีห่วงเขาจะเป็นหวัด แต่ตัวคชาเองกลับคิดว่าเวลานี้ไข้หวัดกลับไม่น่ากลัวเท่าเป็นตากุ้งยิง

ธรธัญญ์ยังยืนอยู่ที่เดิม ดวงตาคมมองตามท้ายรถของคชาที่ขับไกลออกไปเรื่อยๆ ไม่ได้เป็นห่วงมันเลย แค่อยากดูให้แน่ชัดว่าไอ้ลูกน้องตัวร้ายมันไปแล้วจริงๆ มองจนกระทั่งแน่ใจว่าคชาจะไม่แอบสิงอยู่บริเวณใดสักที่รอบๆบ้านของเทพิมพ์เพื่อสอดแนม ธรธัญญ์จึงสืบเท้าไปยังหน้าบ้านแล้วใช้กุญแจที่คชาให้มาไขประตู

แกร๊ก!

“หนีฉันไม่รอดหรอก เด็กดื้อ”

มุมปากบางเฉียบหยักยิ้มร้าย ถูกใจนักเมื่อได้ยินเสียงลูกบิดดีดตัวออกจากล็อกหลังลองใช้กุญแจที่คชาให้ไขประตู แต่ถึงภารกิจจะสำเร็จ ทว่าธรธัญญ์กลับหย่อนพวงกุญแจใส่กระเป๋ากางเกงตัวเองไม่ยอมคืนมันให้เจ้าของ มือใหญ่ดันบานประตูให้เปิดกว้างพลางกวาดสายตามองเข้าไปข้างในที่มีเพียงไฟกลางบ้านดวงเดียวเปิดให้แสงสว่าง ยืนรออยู่ชั่วอึดใจก็ยังไม่มีวี่แววว่าเทพิมพ์จะเดินออกมาต้อนรับ มือใหญ่จึงดันประตูปิดแล้วเดินสำรวจรอบๆราวกับเป็นบ้านของตัวเอง ไหน! คนที่บังอาจทำให้เขาของขึ้นจนเกือบต้องแปลงร่างเป็นโจรอยู่ที่ไหน ทว่าเดินหาจนทั่วก็ยังไม่เจอ คงเหลือที่เดียวที่ยังไม่ได้สำรวจคือห้องนอน เมื่อมีใบหน้าหวานๆเป็นเดิมพัน ธรธัญญ์จึงโยนคำว่ามารยาททิ้งแล้วเดินไปกระชากประตูห้องนอนของเทพิมพ์อ้าออกกว้าง

ปลายเท้าทั้งสองของผู้บุกรุกชะงักกะทันหัน เมื่อเห็นว่าบนเตียงนอนเล็กๆมีร่างน้อยของคนที่เขาตามหานอนพริ้มตาหลับสนิทอยู่บนนั้น จากที่ตั้งใจมาอาละวาด ธรธัญญ์กลับค่อยๆลงน้ำหนักเท้าสัมผัสพื้นให้แผ่วเบาที่สุดยามสืบเท้าไปยืนข้างเตียง ร่างสูงโน้มตัวลงเก็บซองยาในถังขยะขึ้นสำรวจ ก่อนเบี่ยงหน้ามองแก้วน้ำตรงโต๊ะหัวเตียง มิน่าล่ะจนป่านนี้เทพิมพ์ถึงยังหลับปุ๋ย ยายเด็กดื้อของเขากินยาแก้ปวดเข้าไปนี่เอง

‘น่ารักฉิบหาย!”

ถ้าหากก่อนหน้านี้มีใครพูดประโยคนี้ให้เขาฟังหลังจากต้องยืนมองคนนอน ธรธัญญ์คงได้แต่คิดว่าคนๆนั้นช่างประสาทพังสิ้นดี คนนอนหลับจะมีอะไรน่าดู ที่พูดนี่หมายรวมถึงตัวเขาเองด้วยที่ไม่รู้ตัวเลยว่าเวลาหลับใหลสภาพจะทุเรศตาขนาดไหน แต่พอได้ยืนอยู่ในสถานการณ์นั้นด้วยตัวเอง โดยมีเทพิมพ์เป็นเป้านิ่ง กลับมีเสียงสบถด้วยความมันเขี้ยวนี้เกิดขึ้นในใจหลังจากพิศมองใบหน้าหวานๆของคนดื้ออยู่พักใหญ่ ตอบไม่ได้เหมือนกันว่าทำไมถึงรู้สึกเช่นนั้น ทั้งที่ดวงตากลมโตที่เขาชอบมองปิดสนิท รู้แต่ว่าเขามองปากแดงๆ แก้มขาวๆ กับขนตายาวเฟื้อยนั่นได้ไม่เบื่อเลยจริงๆ

‘ผิดก็คือผิด’

แต่ถึงเทพิมพ์จะหลับ อย่างไรหญิงสาวก็หนีโทษทัณฑ์จากศาลเตี้ยที่มีผู้พิพากษาชื่อธรธัญญ์ไปไม่พ้น เมื่อครู่เขาคาดโทษหญิงสาวไปเท่าไรนะ ตอนนึกฮึ่มฮั่มในใจน่ะแค่ฟาดก้นสองโหล แต่พอจะลงโทษไม่รู้ทำไมสมองกลับร้องเตือนว่าสิบ แต่เทพิมพ์คงไม่เห็นด้วยกับบทลงโทษกระมัง ร่างบางถึงได้พลิกตัวจากนอนหงายเป็นนอนตะแคงหันหน้ามาหาเขาราวกำลังต่อรอง ร่างสูงจึงทิ้งตัวลงนั่งขัดสมาธิกับพื้นข้างเตียง แล้วยื่นหน้าเข้าไปชิดกับวงหน้าอ่อนเยาว์

“อะไรนะ! ไม่อยากโดนตี ขอเปลี่ยนจากตีก้นหนึ่งโหลแทนด้วยหนึ่งหอม แน่ใจนะเทพิมพ์”

หากการนอนมองคนนอนว่าน่ารักเป็นเรื่องประสาท แล้วการนั่งจ้องหน้าคนหลับแล้วพูดเองเออเองเป็นตุเป็นตะนี่ควรเรียกว่าอะไร เทพิมพ์ยังคงหลับสนิทด้วยฤทธิ์ยา ไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังตกเป็นเหยื่อของคนเจ้าเล่ห์ที่ดวงตาแพรวพราวเหลือเกินยามลูบไล้ปลายนิ้วบนผิวแก้มเนียนใสเอื่อยๆ ยิ่งกว่านั้นคืออยู่ๆธรธัญญ์ก็นั่งหัวเราะกับความเพี้ยนที่เกิดขึ้นกับตัวเองโดยมีแม่ตัวดีบนเตียงเป็นต้นเหตุ ตอนโมโหก็ทำขู่ไปอย่างนั้นแหละ แต่พอเอาเข้าจริงธรธัญญ์ก็รู้ว่าทำใจตีเทพิมพ์ไม่ลงหรอก ตัวเล็กแค่นี้ฟาดทีเดียวคงร้องไห้โฮ เขาไม่ชอบเห็นน้ำตาของเทพิมพ์ ไม่ชอบเลยจริงๆ

“เตรียมตัวรับโทษได้แล้วจอมดื้อ”

เมื่อตีไม่ลงและยืนยันว่าไม่เลิกบทลงโทษที่เทพิมพ์กล้าขัดคำสั่ง มือที่ทำหน้าที่ฟาดจึงเปลี่ยนมาบีบแก้มนุ่มเบาๆแล้วปล่อยให้ปลายจมูกโด่งทำหน้าที่ลงทัณฑ์แทน โหลแรกเริ่มต้นที่เหม่งรับทรัพย์ ปลายจมูกของท่านผู้พิพากษากดลงบนหน้าผากเนียนเกลี้ยงแล้วแช่ค้างไว้อย่างนั้นอยู่หลายอึดใจกว่าจะยอมดึงใบหน้าออกห่าง ตามด้วยโหลสองและสามบนเปลือกตาอ่อนใสทั้งซ้ายและขวาที่ขยับยุกยิกน้อยๆยามริมฝีปากร้อนแตะแต้ม โหลสี่ที่ปลายจมูกเล็กๆน่ารัก โหลห้ากับหกหนีไม่พ้นพวงแก้มอิ่มหอมกรุ่นที่หมายตาไว้แต่แรกเห็น ส่วนสี่โหลที่เหลือ... จุ๊บ จุ๊บ จุ๊บ และจุ๊บ!

“ริมฝีปากคู่นี้ ฉันจองแล้วนะเทพิมพ์!”

ปูทางมาเพื่อสิ่งนี้แล้วมีหรือที่ธรธัญญ์จะปล่อยให้เรียวปากจิ้มลิ้มสีเรื่อหลุดรอด ปลายนิ้วใหญ่เกลี่ยกลีบปากบางๆแผ่วเบา ดวงตาคมกริบมองมันอย่างมาดหมายพร้อมจับจองเป็นเจ้าของโดยไม่คิดจะถามความสมัครใจของเทพิมพ์ เพราะหญิงสาวไม่มีทางปฏิเสธอีกแล้วนับตั้งแต่วันที่เขาย้อนกลับเข้ามาพัวพันในชีวิต ริมฝีปากคู่นี้จะมีเขาเพียงคนเดียวเท่านั้นที่มีสิทธิ์แตะต้อง เจ้าของริมฝีปากก็ด้วย บทลงโทษที่เหลือจึงเป็นเรียวปากบางที่เหมาไปทั้งสี่โหล ธรธัญญ์จงใจกดริมฝีปากจุมพิตเรียวปากเรื่อของเทพิมพ์หนักๆ ทุกครั้งที่กลีบปากแตะแต้ม ก็คล้ายสลักชื่อตัวเองแปะไว้ด้วย

“ขี้เซาแบบนี้มันน่า...ลักหลับ”

ธรธัญญ์ตั้งศอกข้างหนึ่งบนเตียงแล้วเท้าศีรษะมองคนหลับ ก่อนเขี่ยปลายจมูกเล็กๆเล่น ไม่รู้ไปโดนยาตัวไหนมาเทพิมพ์ถึงได้หลับลึกนักทั้งๆที่น้ำหนักจุมพิตลงทัณฑ์ทั้งสี่ครั้งก็หนักหน่วงจนกลีบปากบางบวมเจ่อ มันเจ่อเพราะเขา ปลายนิ้วเรียวผละจากปลายจมูกลงมาเกลี่ยเรียวปากสีแดงช้ำ ธรธัญญ์แค่อยากโอ๋มัน แต่ชายหนุ่มไม่ได้รู้สึกผิด เพราะถ้ารู้สึกผิดสักนิดเลือดในกายคงไม่พลุ่งพล่าน และกลางกายคงไม่ขยับตัวยุกยิกอย่างที่กำลังเป็นจนต้องหนีบขา ยอมรับเลยว่าเพียงแค่ได้สัมผัสผิวเนื้อนวลเนียนภายนอกแค่บางเบา ความต้องการของหนุ่มนักรักก็ตื่นตัว ธรธัญญ์รีบชักมือออกพร้อมละดวงตาจากวงหน้าหวานแฉล้ม เสน่ห์ของสาวน้อยร้อยเดียงสามันเย้ายวนเกินไป รู้ตัวว่าหากเผลอมองเรียวปากแดงเรื่ออีกนิด เขาอาจหยุดตัวเองไม่ได้ มันต้องไม่ใช่ตอนนี้

“เด็กดื้อ เจ็บมากไหม”

ใบหน้าหล่อเข้มส่ายช้าๆเมื่อดึงมือน้อยของเทพิมพ์ออกมาจากผ้าห่ม เกือบลืมไปแล้วว่าเหตุผลที่ตัวเองรีบบึ่งรถตามมาก็เพราะเป็นห่วงคนเจ็บ ธรธัญญ์ยกมือข้างที่มีผ้าก็อชสีขาวพันไว้ขึ้นพิจารณาก่อนเบี่ยงหน้ามองใบหน้าจิ้มลิ้ม แววตาที่มองเทพิมพ์มีแต่ความสงสารจับใจ แต่พอนึกถึงตัวต้นเหตุ นัยน์ตาคมกลับแข็งกร้าวดุดัน เหตุการณ์วันนี้ทำให้เขารู้ตัวว่าถึงเวลาต้องจัดการอะไรบางอย่างให้เรียบร้อยอย่างที่คุณจงจิตต์เคยชี้แนะ มันจะต้องไม่เกิดขึ้นอีก เทพิมพ์จะต้องไม่ตกเป็นที่รองรับอารมณ์ริษยาของใครทั้งนั้น จากนี้หน้าที่ปกป้องหญิงสาว จะเป็นของเขา รวมทั้งบาดแผลที่มือเล็กนี่ด้วยที่ต้องมีเขาคนเดียวเป็นผู้ดูแล ธรธัญญ์ค่อยๆแกะผ้าก็อชที่พันไว้ออกอย่างเบามือ เพราะนี่เป็นผลงานของไอ้เพื่อนทรยศ เขาไม่ชอบเห็นอะไรของผู้ชายคนอื่นเกาะติดบนเนื้อตัวผู้หญิงของเขาให้ระคายตา เห็นบาดแผลบนมือน้อยไม่ลึกมากก็โล่งใจ จากนั้นจึงล้วงม้วนผ้าก็อชในกระเป๋ากางเกงที่เตรียมมาพันปิดฝ่ามือของเทพิมพ์ ทุกการเคลื่อนไหวแผ่วเบาจนธรธัญญ์ยังนึกฉงน เกิดมาสามสิบกว่าปีเพิ่งรู้วันนี้ว่าตัวเองก็มือเบาใช่เล่น พันผ้าเสร็จเรียบร้อยมือใหญ่ก็ยกมือข้างนั้นขึ้นมา แล้วฝากรอยจูบประทับราวกับต้องการดูดซับความเจ็บปวดของบาดแผลไว้กับตัวเองเนิ่นนาน

“หายเร็วๆนะครับ คนดีของคุณธัญญ์”

********************************************

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา