ทวงรักนางซิน

-

เขียนโดย Phaky

วันที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 เวลา 15.02 น.

  47 ตอน
  1 วิจารณ์
  37.06K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 11.27 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

19) เกิดเป็นเทพิมพ์ ทำอะไรก็ผิด

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก

เสียใจ เกิดเป็นพิมพ์ ทำอะไรก็ผิด ขนาดเจ็บตัว ยังโดนคุณธัญญ์ดุ ฮือๆ
************************************************************************
เพราะเลือดสีแดงสดไหลรินต่อเนื่องจนผ้าเช็ดหน้าสีขาวที่พันปิดไว้ที่ฝ่ามือเริ่มแปรสภาพเป็นสีแดงเกือบทั้งผืนจนกังวลว่าจะมีเศษแก้วคาในเนื้อ คุณาธิปจึงเปลี่ยนแผนจากทำแผลด้วยกล่องยาสามัญประจำบ้านเป็นพาเทพิมพ์ไปยังห้องพยาบาลของนาราแกรนด์โฮเทลที่มีพยาบาลตัวจริงประจำการตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงแทน ธรธัญญ์เองไม่ขัดเพราะห่วงใยคนเจ็บไม่แพ้กัน แต่ก็ติดที่เวนิสาโอดครวญว่าเจ็บข้อเท้าตอนถูกผลักออก ทำให้เจ้าตัวจำต้องอยู่ดูแลแฟนสาว
“เอาล่ะ เรียบร้อย แผลไม่ลึกมาก ไม่ต้องเย็บ รอดตัวไปนะตัวเล็ก”
และภาพที่ร่างสะโอดสะองของเวนิสาที่ถูกโอบประคองด้วยอ้อมแขนอบอุ่นของธรธัญญ์ยังวนเวียนอยู่ในหัวสมอง ส่งผลให้คนที่นั่งหย่อนขาอยู่บนเตียงคนไข้เหม่อลอยจนไม่ได้ยินเสียงของบุรุษพยาบาลหน้าหล่อที่คอยเป็นลูกมือหยิบจับอุปกรณ์นั่นนี่ให้คุณพยาบาลตัวจริง อาการนั่งนิ่งไม่หือไม่อือของเทพิมพ์เรียกความสนใจจนคุณาธิปยืนกอดอกมองตรงๆ ทำหน้าเศร้าหมองเหมือนคนอกหักแบบนี้คงมีสาเหตุมาจากอดีตเพื่อนรักของเขาสินะ และเท่าที่สังเกตเห็น ตัวต้นเหตุอย่างธรธัญญ์ก็มีพฤติกรรมน่าสงสัยไม่ต่างกัน มุมปากได้รูปกดลึกดูร้ายเล่ห์ ปลายลิ้นสากเดาะกระพุ้งแก้มเล่นอารมณ์ดี ประสาคนกำลังจะได้ของเล่นชิ้นใหม่
“ตัวเล็ก ตัวเล็กครับ”
เรียกอย่างเดียวไม่เป็นผล ครั้งนี้คุณาธิปจึงโน้มตัวลง ลดใบหน้าหล่อราวพระเอกละครหลังข่าวของตัวเองอยู่ในระดับเดียวกับใบหน้าของเทพิมพ์ ก่อนทาบมือใหญ่กับผิวแก้มนิ่ม แล้วเคาะปลายนิ้วแผ่วเบาจนคนเหม่อลอยได้สติ
“คะ? ค่ะ”
“ทำแผลเสร็จแล้วครับ” บอกเสียงนุ่มพลางคลี่ยิ้มทรงเสน่ห์ใส่ดวงตาใสแจ๋ว ยิ้มแบบที่ผู้หญิงคนไหนเห็นเป็นต้องหัวใจอ่อนระทดระทวย
“ขอบคุณมากนะคะที่ช่วยพิมพ์”
เทพิมพ์ขยับตัวออกห่างจากความสนิทสนมนั้นนิดก่อนพนมมือขึ้นไหว้ คุณาธิปเองไม่อยากให้เหยื่อตื่นกลัว จึงดึงมือกลับไปล้วงกระเป๋ากางเกง แต่ก็ยังมิวายทอดดวงตาอบอุ่นมองคนเจ็บบนเตียง
“แค่คำขอบคุณเองเหรอครับ”
“แล้ว... คุณอยากให้พิมพ์ทำอะไรเป็นการตอบแทนเหรอคะ”
เทพิมพ์กะพริบตาปริบๆพลางเอียงคอมองคนทวงบุญคุณอย่างสงสัย เธอมันแค่ผู้หญิงบ้านๆที่เคยคุ้นกับการกล่าวคำขอบคุณตอบแทนน้ำใจ หรือไม่ก็มีขนมเล็กๆน้อยๆติดมือมาฝาก จึงไม่มีข้อมูลเลยว่าคนในแวดวงไฮโซนี่เขามีวิธีการขอบคุณกันอย่างไรบ้าง ต้องพาไปนั่งรับประทานอาหารในภัตตาคารหรูๆไหม หรือต้องซื้อเครื่องประดับราคาแพงมากำนัลอย่างที่เคยเห็นในละครหลังข่าว คนได้รับการช่วยเหลือเริ่มกังวล หากคุณาธิปต้องการแบบนั้นเธอคงไม่มีปัญญา หัวคิ้วที่ขมวดมุ่น เรียวปากจิ้มลิ้มที่เบะเข้าหากันของคนคิดหนักดูใสซื่อจนคุณาธิปนึกเอ็นดู มองไปมองมาก็ชักจะรู้สึกว่ายายตัวเล็กที่นั่งอยู่ตรงหน้าน่ารักดีเหมือนกัน
“อืม ยังคิดไม่ออก ติดไว้ก่อน แต่วันหลังตัวเล็กอย่าถามคำถามนี้กับผู้ชายคนไหนนะรู้ไหม”
“ทำไมเหรอคะ”
“ก็เพราะว่า...”
ปึ้ก!
ประตูห้องพยาบาลถูกถีบอย่างแรงจนไปกระแทกกับผนังห้องเสียงดังสนั่นขัดจังหวะการสาธิตของคุณาธิป สองมือของคนยืนค้ำอยู่ตรงประตูห้องพยาบาลกำแน่นกับภาพผู้ชายตัวสูงกำลังก้มหน้าลงมาประจันกับผู้หญิงตัวเล็กที่เงยหน้าขึ้นในองศาที่ทำให้ใบหน้าทั้งสองอยู่ห่างกันแค่ไม่กี่คืบ เนื้อตัวของธรธัญญ์สั่นเทิ้มเมื่อคิดว่าหากเขามาช้าไปสักนิดแล้วใบหน้าของสองคนนี้จะแนบชิดกัน สาบานเลยว่าหากเป็นเช่นนั้น เขาจะไม่ปล่อยให้คุณาธิปมีชีวิตรอดออกไปจากราราแกรนด์โฮเทลแน่
“พิมพ์ มานี่!”
เสียงตะคอกสั่งแข็งกร้าวจนคนถูกสั่งสะดุ้งโหยง ถ้าไม่เห็นว่าฝ่ามือน้อยมีผ้าพันแผลพันไว้ ป่านนี้เทพิมพ์คงถูกจับฉีกแยกชิ้นส่วน ยัง! ยังจะมานั่งทำตาใสอยู่อีก ไอ้เราก็รีบตามมาด้วยความเป็นห่วง แต่ดูแม่ตัวดีทำกับเขาสิ นั่งจ้องตากับผู้ชายคนอื่นในระยะที่ลมหายใจรินรดกันได้แบบนั้น มันหมายความว่ายังไงวะ!
“ตัวเล็กนั่งนี่แหละ เดี๋ยวผมไปเอง ดูแลแฟนแกเรียบร้อยแล้วเหรอวะธัญญ์”
จะถามถึงเวนิสาอันที่จริงจะเอ่ยชื่อเลยก็ได้ แต่คุณาธิปไม่ทำ เพราะรู้ดีว่าการเอ่ยถามด้วยสถานะจะสร้างปัญหาให้ธรธัญญ์ได้มากกว่า แล้วก็คิดไม่ผิด นักวางระเบิดชั้นเซียนยิ้มร้ายเมื่อเห็นดวงตาของเพื่อนสุดที่รักลุกวาวตอนถูกถาม ก่อนเรืองรองขึ้นอีกสิบเท่ายามเห็นเขากดไหล่บางให้นั่งอยู่กับที่ แตะนิดแตะหน่อยไม่ได้แบบนี้ สนุกแน่!
“คุณชนินทร์ถามหาแกอยู่ รีบไปสิ”
“งั้นฉันคงต้องรีบไสหัวไปแล้วสินะ ตัวเล็กหายเร็วๆนะครับ แล้วผมจะแวะมาเยี่ยม ห้ามลืมสัญญาของเราด้วย”
‘เก้า... แปด... เจ็ด... หก... ห้า...’
สาบานเลยว่าถ้าคุณาธิปยังไม่รีบเอามือชั่วๆของมันออกจากศีรษะของเทพิมพ์ภายในห้าวินาทีนี้ พรุ่งนี้ให้ญาติมันไปแจ้งมรณะที่อำเภอได้เลย
“อย่า ยุ่ง กับ พิมพ์!”
สมกับที่เคยกอดคอเป็นเพื่อนรัก นอกจากคุณาธิปจะรอดตายเพราะเอามือออกจากศีรษะน้อยๆของเทพิมพ์ได้ทันเวลาที่ธรธัญญ์คาดโทษผ่านดวงตาเหี้ยมเกรียม ชายหนุ่มยังมาหยุดยืนไหล่เคียงกันตรงจุดนัดพบราวกับทราบว่าเจ้าของสถานที่มีเรื่องจะพูดด้วย การหันหน้ามองคนละด้านไม่ใช่ปัญหาในการสื่อสารเลยเมื่อความรู้สึกของธรธัญญ์อัดแน่นอยู่ในคำสั่งที่เอ่ยออกมาหนักแน่นทีละคำๆ ย้ำชัดความต้องการ
“กูจะยุ่งกับผู้หญิงทุกคนของมึง สัญญา!” และเจตนารมณ์ที่คุณาธิปตอกกลับมาก็ชัดเจนเช่นกัน
“คุยอะไรกัน ทำไมต้องยื่นหน้าใกล้กันขนาดนั้น แล้วสัญญาอะไรกับมันไว้!”
มือวางระเบิดเดินตัวปลิวผิวปากสบายอารมณ์ออกไปจากห้องพยาบาลแล้ว แต่ระเบิดที่ชายหนุ่มทิ้งไว้กำลังเริ่มทำงาน ซึ่งผู้เคราะห์ร้ายก็หนีไม่พ้นเทพิมพ์ที่นั่งคอตก ได้แต่นั่งมองคนนั้นทีคนนี้ทีเพราะทำตัวไม่ถูก ยิ่งธรธัญญ์พาใบหน้าบึ้งตึงระดับสิบเข้ามาใกล้ แล้วตะคอกถามเสียงห้วน ก็ยิ่งหวาดกลัวจนปากคอสั่น
“พิมพ์.... ไม่มีอะไรค่ะ”
“จะไม่มีได้ไง ก็ไอ้ธิปมันทวงอยู่ปาวๆ บอกมา!”
คำว่า ‘ไม่มีอะไร’ ของเทพิมพ์นี่คือน้ำมันที่ราดลงบนกองเพลิงดีๆนี่เอง ฟางความอดทนเส้นสุดท้ายขาดจึงผึงทันทีที่ได้ยินคำตอบ ร่างสูงก้าวพรวดทีเดียวเข้าถึงตัวเทพิมพ์ก่อนกระชากไหล่บางๆของแม่ตัวดีเข้าหาตัวพลางเขย่าแรงๆหวังให้หญิงสาวเปิดปากสารภาพ โกรธจนเกินหาคำมาจำกัดความที่เทพิมพ์ริอ่านมีความลับกับเขา ยิ่งอีกคนที่ร่วมปกปิดซ่อนเร้นนั้นคือไอ้เพื่อนสารเลวอย่างคุณาธิป ยิ่งทำให้โกรธจนควันออกหู นี่แม่ตัวดีโง่ถึงขนาดดูไม่ออกเลยหรือว่าไม่ควรเข้าใกล้ผู้ชายอันตรายแบบนั้น มันน่านัก!
“คุณธัญญ์! ไม่มีอะไรจริงๆค่ะ พิมพ์เจ็บ”
“ฮึ่ย! วันหลังอย่าให้ฉันเห็นอีกนะว่าแต่งหน้าแต่งตา ไปล้างออกให้หมด”
ช้าไปอีกสักนิดกระดูกต้นแขนของเทพิมพ์คงหักท่อนด้วยแรงบีบจากน้ำมือของคนกำลังถูกโทสะครอบงำ มันมากมายเหลือเกินยามนึกถึงความใกล้ชิดของคุณาธิปกับเทพิมพ์เมื่อครู่ แต่เคราะห์ยังดีที่หยดน้ำตาที่เอ่อนองใบหน้าเนียนด้วยความเจ็บมีความสำคัญมากพอ มือใหญ่จึงยอมปล่อยร่างเล็กเป็นอิสระ ธรธัญญ์สะบัดหน้าหนีก่อนเตะขาฟาดแขนในอากาศระบายอารมณ์ ก่อนหันขวับกลับมามองร่างบางบนเตียงเมื่อได้ยินเสียงสะอื้นไห้ หงุดหงิดที่เทพิมพ์ใกล้ชิดคุณาธิปก็ใช่ แต่โกรธตัวเองมากกว่ายามเห็นรอยแดงปื้นใหญ่ที่ต้นแขนนวล ยายมอมแมมคงเจ็บน่าดู ธรธัญญ์เงยหน้าขึ้นมองคนเจ็บหวังเอ่ยคำขอโทษ แต่พอเห็นใบหน้าจิ้มลิ้มก็เดือดดาลขึ้นมาอีกระลอก ไม่ใช่เพราะเทพิมพ์แต่งหน้าทาปากหรอกหรือ ความสวยน่ารักถึงไปกระแทกตาแมวมองนางงามจนทำให้เขาเกือบต้องเปิดศึกกับชนินทร์
“จะไปไหน!”
ไปให้พ้นหน้าคนถามไงล่ะ เหม็นขี้หน้าเธอมากไม่ใช่หรือถึงพาลให้เธอไปล้างหน้า ทั้งที่เธอแค่ผัดแป้งฝุ่นบางเบาเพิ่มความนวล แล้วทาลิปกลอสสีชมพูอ่อนป้องกันเรียวปากซีดเซียว แต่ธรธัญญ์กลับกล่าวหาซะเหมือนว่าเธอทาหน้าหนาเหมือนพวกนางงิ้วนางละครซะอย่างนั้น
“ไปล้างหน้าแล้วกลับเข้าไปในงานค่ะ”
“ไม่ต้องเสนอหน้าเข้าไป นั่งอยู่ในนี้จนกว่างานจะเลิก”
ธรธัญญ์กระชากแขนเล็กให้นั่งลงที่เดิมพลางเอ่ยสั่งเสียงเข้ม ขืนปล่อยแม่คนเจ้าเสน่ห์กลับเข้าไปในงานก็ไม่รู้ว่าเขาต้องปะทะกับใครอีกบ้าง แค่นี้ก็เกือบจะกลายเป็นฆาตกรฆ่าคนแล้ว เจ้าของนาราแกรนด์เหลียวหลังกลับไปมองตัวปัญหาอีกครั้งก่อนเดินออกจากห้องพยาบาลเพื่อกลับเข้าไปในงานเลี้ยง เห็นแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจทิ้ง ไม่อยากเชื่อเลยว่าตัวเล็กๆ หน้าหวานๆ ติดจะซื่อบื้อด้วยซ้ำ แต่กลับมีอิทธิพลกับเขาเหลือร้าย
“พิมพ์”
“พี่พล”
เทพิมพ์เงยหน้าขึ้นมองตามเสียงเรียกที่คุ้นหูหลังนั่งร้องไห้โดดเดี่ยวในห้องพยาบาลที่แสนวังเวงได้สักครู่ เป็นพลธวัชที่ยืนอยู่ตรงหน้าประตูห้องพยาบาลที่กำลังมองมาด้วยดวงตาเวทนา เทพิมพ์คิดว่าชายหนุ่มเพิ่งมาถึงจึงสูดน้ำหูน้ำตาคืนที่แล้วฝืนยิ้มสดใสส่งให้ผู้เป็นหัวหน้างาน แต่ความเป็นจริงคือพลวัชรีบตามมายังห้องพยาบาลตั้งแต่กลับเข้าไปในงานเลี้ยงแล้วได้รับแจ้งจากลูกน้องเรื่องเทพิมพ์ เพียงแต่ไม่ได้แสดงตัว เพราะตั้งใจรอให้ปลอดคนอื่นก่อน จะได้แสดงความห่วงใยต่อสาวน้อยในดวงใจได้เต็มที่ แต่ไม่นึกเลยว่าระหว่างรอโอกาสจะทำให้เขาเห็นคู่แข่งที่เพิ่มขึ้นมาอย่างคุณาธิป ธรธัญญ์เองก็เหมือนจะไม่ยอมปล่อยมือจากเทพิมพ์ง่ายๆ
“พี่ไม่อยู่แป๊บเดียว ซนจนได้เรื่องเลย” แกล้งบ่นพร้อมประคองมือน้อยข้างที่พันแผลขึ้นมาลูบเบาๆ
“พิมพ์...ขอโทษค่ะ”
“พี่แค่แซวเล่นน่ะ พิมพ์อย่าคิดมาก”
มืออุ่นอีกข้างลูบศีรษะคนรู้สึกผิดที่ทำให้งานเลี้ยงเกิดความวุ่นวายเบาๆปลอบโยน หากจะมีคนต้องขอโทษ คนๆนั้นคือเวนิสาต่างหาก พลธวัชขบกรามเมื่อมองฝ่ามือของเทพิมพ์ ผ้าก็อชสีขาวพันไว้หนาจนมองไม่เห็นบาดแผลก็จริง แต่อาการเม้มปากยามเขากุมมือข้างนั้นแรงไปนิดมันฟ้องว่าใต้ผ้าพันแผลคือความเจ็บปวดไม่น้อยเลยที่เทพิมพ์ต้องรับไว้ทั้งที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่อะไรกับใครเขา
“อยากกลับบ้านไหม”
“งานยังไม่เลิกนี่คะ” ที่สำคัญคือเธอไม่รู้จะกลับอย่างไร สารถีรับส่งเพิ่งกระแทกเท้าหนีไปเมื่อครู่นี้เอง
“มือเจ็บแบบนี้ อยู่ก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี กลับไปพักดีกว่า พี่ติดงานไปส่งไม่ได้ กลับกับทรายแล้วกันนะ”
เพราะคิดไว้ให้ล่วงหน้าแล้ว พลธวัชจึงรีบสรุปตัดบทไม่รอให้เทพิมพ์มีเวลาตัดสินใจ หัวหน้างานใจดีล้วงโทรศัพท์ต่อสายหาเม็ดทรายที่อยู่อีกงานทันที แม้จะเสียดายนิดหน่อยที่ไม่ได้ไปส่งเทพิมพ์กลับบ้านด้วยตัวเองอีกครั้ง แต่ก็ดีกว่าปล่อยให้ธรธัญญ์ได้ทำหน้าที่นี้ ถึงเมื่อครู่ธรธัญญ์จะระเบิดอารมณ์ใส่เทพิมพ์จนน้ำตาแตก แต่เขาเชื่อว่าอย่างไรเสีย ชายหนุ่มจะต้องย้อนกลับมารับดวงใจของเขาไปส่งบ้านแน่ และเขาไม่ควรเปิดโอกาสให้ธรธัญญ์ได้ทำเช่นนั้นบ่อยๆ ด้วยกลัวสักวันเทพิมพ์จะกลายเป็นดวงใจของธรธัญญ์อีกคน
“พิมพ์ เกิดอะไรขึ้น ทำไมพันมือเป็นมัมมี่แบบนี้”
รอไม่นาน ประตูห้องพยาบาลก็ถูกเปิดผลัวะด้วยความร้อนรนของคนห่วงเพื่อน ไม่อยากเป็นภาระให้ใครห่วงเลยสักนิด แต่พอเห็นหน้าเม็ดทราย น้ำตาที่พยายามซุกซ่อนไว้ก็พร่างพรู คนถูกถามได้แต่ส่ายหน้ากับอกเสื้อของเพื่อนที่รีบโผเข้ากอดปลอบ ไม่รู้จะอธิบายอย่างไรว่าน้ำตาที่ไหลไม่ได้มาจากบาดแผล แต่เป็นเพราะน้อยเนื้อต่ำใจเหลือเกิน เธอถูกกลั่นแกล้งจนได้เลือด แต่เพราะผู้ลงมือคือเวนิสา สุดท้ายคนที่ถูกโทสะของธรธัญญ์เล่นงานโทษฐานสร้างความวุ่นวายในงานเลี้ยงจึงกลายเป็นพนักงานต่ำต้อยคนนี้
*************************************************************************************

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา