เมียนอกสายตา
-
เขียนโดย Natthaphan
วันที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 เวลา 22.55 น.
25 ตอน
3 วิจารณ์
21.82K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 23.00 น. โดย เจ้าของนิยาย
15) ท้อง!!!
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความกลิ่นหอมๆ ของอาหารลอยคละคลุ้งไปทั่วบ้านหลังใหญ่ มือเหี่ยวย่นค่อยๆ หย่อนเนื้อไก่ลงหม้ออย่างพิถีพิถัน เพราะวันนี้ผู้เป็นย่านั้นนัดหลานชายและหลานสะใภ้มากินข้าวด้วยนางจึงลงมือทำเอง เนื่องด้วยเป็นวันพิเศษสำหรับนาง
"เมื่อไหร่ตาเวจะมาล่ะเนี้ย หนูฟ้ามาก่อนตั้งเกือบชั่วโมงแล้วนะ"
หญิงสาวทำเป็นไม่ได้ยินในสิ่งที่ผู้เป็นแม่สามีบ่น เพราะรู้ว่าวันนี้ชายหนุ่มคงไม่มา แต่ก็อดไม่ได้ที่จะบอก กลัวว่าคนชราจะรอเก้อ
"หนูลืมบอกน่ะค่ะว่าคุณเวเขามีนัดกับเพื่อนก็เลยมาไม่ได้ เห็นบอกว่าจะมาวันหลังค่ะ"คำเอ่ยของหลานสะใภ้ทำเอาหญิงชราหัวใจห่อเหี่ยวลงทันทีแต่พอทอดมองร่างบางที่เปรียบเสมือนหลานสาวก็กลับมายิ้มแย้มเหมือนเก่า แค่หลานชายคนเดียวช่างมันปะไร นางมีหลานสาวอยู่ทั้งคน...
"ทำไมถึงเรียกคุณล่ะลูก เรียกพี่เวได้แล้ว แต่งงานแล้วนะ เรียกซะห่างเหินเชียว"
ก็เธอกับเขาห่างเหินกันจริงๆ หนิ...ห่างจนไม่รู้ว่าวันไหนที่เธอจะเดินไปถึง...
"ค่ะ"ตอบกลับไปอย่างนั้นแต่รู้ตัวดีว่าไม่มีสิทธิ์ไปสนิทสนมกับชายหนุ่มมากมาย
อีกฟากฝั่งหนึ่ง ชายหนุ่มในชุดสูทเต็มยศคล้ายว่ากำลังรอคู่เดตอย่างไรอย่างนั้น ใบหน้าคมเข้มยิ้มแย้มจนแทบจะเหมือนคนบ้าเข้าไปเต็มที แววตานั้นทอดมองวิวด้านนอกก่อนจะหันกลับมาชะเง้อมองหาคนที่โทรนัดตนตั้งแต่เช้ามืด...
"รอนานมั้ยคะ? "เสียงหวานๆ เอ่ยถาม เวหาหันไปมองก่อนจะฉีกยิ้มให้เธอ
"ไม่นานหรอกครับ พี่สั่งอาหารไว้แล้วมีแต่ของโปรดมีนทั้งนั้นเลย อีกสักครู่ก็คงมา"
รอยยิ้มแหย่ๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้านวล เธอตัดสินใจดีแล้วว่าสักวันวันนี้ต้องมาถึงไม่ช้าก็เร็ว
"พี่เวคะ"
"ครับ"
ยิ่งมองใบหน้าที่ใสซื่อไม่รู้เรื่องรู้ราวของคนตรงหน้ายิ่งนึกโทษตัวเองที่ต้องทำให้คนดีๆ คนหนึ่งต้องเสียใจ...
"ที่มีนนัดพี่มาวันนี้เพราะมีนมีเรื่องจะบอก"เอ่ยจบก่อนจะล้วงอะไรบางอย่างออกมาจากกระเป๋าสะพายของตัวเอง กระดาษขนาดเอห้าถูกยื่นมาให้ชายหนุ่ม
"อะไรอ่ะครับ การ์ดแต่งงานใครเนี้ย? "ทอดมองอักษรภาษาอังกฤษบนหน้าปกด้วยความงุนงง
เจกับเอ็ม...งานแต่งใครกัน
คิ้วหนาขมวดเป็นปมก่อนจะพลิกอีกฝั่งดู
มีนา กันติวงษ์...
เพียงอ่านชื่อเจ้าสาวชายหนุ่มถึงกลับนิ่งไปทันที ก่อนจะค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองเจ้าของชื่อ แววตานั้นสั่นไหวไปมาราวกับว่ามันยังไม่เข้าใจในสิ่งที่เห็น
"แกล้งพี่เล่นป่ะเนี้ย? "ถามลองเชิงเผื่อว่าสิ่งที่เห็นเป็นเพียงสิ่งที่หญิงสาวกำลังแกล้งแหย่เขาเล่น
"ขอโทษ...มีนขอโทษ มีนท้องได้สองเดือนแล้ว มีนขอโทษที่มีนนอกใจพี่ อาทิตย์หน้า...มีนจะต้องแต่งงานแล้ว ที่มีนเอาการ์ดมาให้ไม่ได้จะเชิญให้พี่ไป เพียงแต่อยากเอามาให้พี่เห็นด้วยตาของตัวเอง" น้ำเสียงสั่นเครือเอ่ยบอกพลางยกมือไหว้ขอโทษชายหนุ่มเสียยกใหญ่
ร่างบางสั่นเทาพร้อมกับเสียงสะอื้นที่ดังขึ้นเบาๆ พอให้คนตรงหน้านั้นได้ยิน อยากจะบอกให้เขารู้ว่าเธอนั้นก็เสียใจไม่แพ้กัน แต่เพราะทุกอย่างมันเกิดขึ้นแล้วและเธอไม่สามารถกลับไปแก้ไขมันได้อีก
ทว่าเขายังคงนิ่ง นิ่งจนน่ากลัว...
"มีนรู้ว่าตอนนี้พี่ก็แต่งงานแล้วเหมือนกัน มีนไม่โกรธที่พี่ทำแบบนั้น เพราะมีนก็ผิด มีนขอโทษ...ขอโทษจริงๆ "
เสียงหายใจของชายหนุ่มดังขึ้นเรื่อยๆ คล้ายว่ากำลังข่มอารมณ์ร้อนรุ่มในใจให้เย็นลง
เขาไม่รู้ว่าตอนนี้เขาควรจะรู้สึกเช่นไร...ทั้งๆ ที่เขาซื่อสัตย์และรักเธอคนเดียวมาตลอดเหตุใดฟ้าจึงกลั่นแกล้งความรักของเขาเช่นนี้ การจะรักษาความรักมันทำไมถึงยากเย็นแสนเข็ญเพียงนี้ ไม่มีน้ำตาสักหยดที่จะไหลออกมาเพราะมันไหลท่วมหัวใจเขาจนหมดสิ้น
"พี่เว...ก่อนมีนจะไป มีนมีอะไรจะบอกพี่อย่างหนึ่ง"
เขายอมเงยหน้าสบตาเธอด้วยความหวัง หวังว่าเธอจะไม่ไป...
"คนที่พี่รักไม่ใช่มีนหรอกนะ สักวันพี่จะรู้ว่าทำไมมีนถึงพูดแบบนี้"
แววตานั้นบ่งบอกว่าเขาไม่เข้าใจในสิ่งที่หญิงสาวเอ่ย
ริมฝีปากบางที่แต่งแต้มด้วยลิปสติกสีชมพูอ่อนฉีกยิ้มครั้งสุดท้ายในฐานะแฟนก่อนจะก้าวเท้าเดินออกไป ปล่อยให้เวหานั่งมองตามอยู่เพียงลำพังท่ามกลางหมู่ดาวที่มาช่วยเป็นพยานแห่งความเจ็บปวด พระจันทร์เสี้ยวในวันนี้คล้ายว่ามันกำลังยิ้มเยาะชายหนุ่ม...ยิ้มให้กับความโง่เขลาของเขา เขาคิดมาตลอดว่าที่เธอนั้นไม่ติดต่อมาเพราะเรียนหนักแต่สิ่งที่คิดไว้กลับไม่เป็นไปอย่างนั้น ความจริงที่เพิ่งรู้มันช่างเจ็บปวดเหลือเกิน...
มือหนาทั้งสองข้างกำประสานกันไว้แน่นจนผิวหนังเริ่มกลายเป็นสีแดง...มันสั่นเทาเพราะความรู้สึกที่คับแน่นอยู่ภายในใจ
เขาไม่รู้ว่าความรู้สึกตอนนี้มันคืออะไร...โกรธ เจ็บปวด เสียใจ อยากร้องไห้ เขาไม่รู้เลยว่าตอนนี้เขาควรจะรู้สึกเช่นไร
"ไวน์ครับ"เสียงพนักงานเสิร์ฟอาหารเอ่ยขึ้นก่อนที่เขาจะจ้องมองขวดแก้วที่บรรจุไวน์ชั้นดีเอาไว้
ร่างบางสะดุ้งตื่นก่อนจะหันไปมองนาฬิกามันบอกเวลาเที่ยงคืน
ใครกันมาบีบแตรรถอยู่หน้าบ้าน เธอลุกขึ้นเดินด้วยท่าทางงัวเงีย
"โอ๊ย จะบีบให้บ้านอื่นเขาตื่นรึไงกัน"ตะโกนด่าคนในรถเมื่อเห็นว่าเป็นใคร
รีโมทเปิดเองก็มีแต่กลับไม่กด เดือดร้อนคนจะหลับจะนอน...
ประตูรั้วถูกเปิดออกก่อนที่รถคันสวยจะพุ่งเข้ามาด้วยความเร็ว ดีที่หญิงสาวหลบได้ทันไม่เช่นนั้นขาซ้ายของเธอคงได้ติดไปกับกันชนรถแน่ๆ
"โถ่เว้ย! เกะกะจริงๆ "สบถด้วยท่าทางหัวเสียเมื่อตนนั้นเดินไปชนเข้ากับกระถางดอกไม้ ในเวลาต่อมามันจึงปลิวไปกองอยู่ที่อื่น ต้นไม้ กระถางและดินแยกย้ายกันไปอยู่คนล่ะทิศคนละทาง
หญิงสาวถอนหายใจออกมาอย่างเอือมระอา ก่อนจะรีบเข้าไปประคองชายหนุ่มเอาไว้เพราะเขานั้นกำลังจะล้มไถลไปกับพื้นอิฐที่ปูอยู่บนทางเดิน
"ไม่ต้องมายุ่ง! "
ร่างบางเซถลาไปกองกับพื้นจากแรงเหวี่ยงของคนเมามายจนไร้สติสัมปชัญญะ
อย่าโกรธคนบ้า อย่าถือสาคนเมา...
เธอท่องคำคำนี้ไว้ในใจก่อนจะค่อยๆ เดินตามชายหนุ่มเข้าไปในบ้าน โดยรักษาระยะห่างเอาไว้พอสมควร
"ไปเอาเหล้ามาสิ"
"คุณเมามากแล้วนะ ไปนอนได้แล้ว"เธอไม่ยอมทำตามเพราะเห็นสภาพของเวหาแล้วคงจะดื่มหนักมาพอควร...หากจะให้ดื่มอีกพรุ่งนี้คงจะไปทำงานไม่ไหวแน่ๆ
"ฉันบอกให้เอามาก็เอามาเส้"เริ่มอาละวาดทำลายข้าวของจนเผลอปัดมีดปอกผลไม้ลอยมาโดนต้นขาของหญิงสาว เธอก้มมองบาดแผลที่ไม่ลึกมากก่อนจะถอนหายใจออกมาด้วยความเหนื่อยหน่าย
เธอรู้...ว่าสักวันวันนี้มันต้องมาถึงและมันก็มาถึงจนได้...
"ทำไมอ่ะ...ทำไม พี่ผิดอะไรบอกพี่ที ทำไมต้องทำแบบนี้กับพี่ด้วย” เสียงคร่ำครวญของเขามันทำให้หญิงสาวอดที่จะเป็นห่วงไม่ได้
“คุณเว คุณเมามากแล้วนะ ขึ้นไปนอนบนห้องดีๆ สิ” ว่าก่อนจะดึงแขนชายหนุ่มให้เดินตาม เพราะไม่ถ้าหากเขามานอนที่โซฟาคืนนี้เธอก็จะไม่มีที่นอน
พื้นก็แข็งจะตายเธอไม่ยอมนอนหรอก ตื่นมาคงจะปวดหลังแย่!!!
ทว่าแรงที่มีมากกว่าฉุดรั้งไม่ยอมไป ทำให้ร่างบางเซถลาไปนอนอยู่บนอกแกร่ง…
ดวงตากลมโตเบิกกว้างหนักกว่าเดิม เธอพยายามดันร่างตัวเองขึ้น...เพราะกลัวว่าชายหนุ่มจะอาละวาดอีกรอบ เขาคงไม่ชอบที่เธอมานอนทับตัวเขาอยู่แบบนี้
“อย่าไปเลยนะ...อย่าไป” น้ำเสียงแหบพร่าเอ่ยบอกก่อนที่วงแขนกว้างจะกระชับกอดเธอไว้แน่น
เสียงผ่อนลมหายใจของเธอดังขึ้นเบาๆ ก่อนที่ลำคอระหงจะค่อยๆ กลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงไปด้วยความยากลำบาก หญิงสาวไม่มีทางเลือกจึงต้องจำนนต่ออ้อมกอดนั้นแต่โดยดี
เธอนั้นรู้อยู่เต็มอกว่าคนที่เขาห้ามไม่ให้ไปไม่ใช่ตน...แม้ในเวลานี้เธอจะอยู่ในอ้อมกอดของเขาแต่หากว่าหัวใจของเขาในตอนนี้มันลอยไปอยู่ที่อื่น มันก็ไม่มีประโยชน์ที่เธอจะรู้สึกซาบซึ้งกับกอดของเขา
หยดน้ำใสๆ รินไหลลงมาอาบแก้มนวลช้าๆ
ทำไมหัวใจเธอมันถึงไม่เคยจำสักที ทั้งๆ ที่หลายวันที่ผ่านมาเธอพยายามทำเป็นไม่สนใจ...ไม่ใส่ใจ แต่สุดท้ายความพยายามเหล่านั้นก็พังทลายลงเพียงเพราะหยดน้ำตาและอ้อมกอดของเขา...การเริ่มนับหนึ่งใหม่มันไม่ง่ายเลยสำหรับเธอ หยดน้ำตาและอ้อมกอดของเขาที่มันไม่ได้เกิดขึ้นเพราะเธอ...มันเจ็บปวดกว่าแววตาแสนเย็นชาของเขาเสียอีก
"เมื่อไหร่ตาเวจะมาล่ะเนี้ย หนูฟ้ามาก่อนตั้งเกือบชั่วโมงแล้วนะ"
หญิงสาวทำเป็นไม่ได้ยินในสิ่งที่ผู้เป็นแม่สามีบ่น เพราะรู้ว่าวันนี้ชายหนุ่มคงไม่มา แต่ก็อดไม่ได้ที่จะบอก กลัวว่าคนชราจะรอเก้อ
"หนูลืมบอกน่ะค่ะว่าคุณเวเขามีนัดกับเพื่อนก็เลยมาไม่ได้ เห็นบอกว่าจะมาวันหลังค่ะ"คำเอ่ยของหลานสะใภ้ทำเอาหญิงชราหัวใจห่อเหี่ยวลงทันทีแต่พอทอดมองร่างบางที่เปรียบเสมือนหลานสาวก็กลับมายิ้มแย้มเหมือนเก่า แค่หลานชายคนเดียวช่างมันปะไร นางมีหลานสาวอยู่ทั้งคน...
"ทำไมถึงเรียกคุณล่ะลูก เรียกพี่เวได้แล้ว แต่งงานแล้วนะ เรียกซะห่างเหินเชียว"
ก็เธอกับเขาห่างเหินกันจริงๆ หนิ...ห่างจนไม่รู้ว่าวันไหนที่เธอจะเดินไปถึง...
"ค่ะ"ตอบกลับไปอย่างนั้นแต่รู้ตัวดีว่าไม่มีสิทธิ์ไปสนิทสนมกับชายหนุ่มมากมาย
อีกฟากฝั่งหนึ่ง ชายหนุ่มในชุดสูทเต็มยศคล้ายว่ากำลังรอคู่เดตอย่างไรอย่างนั้น ใบหน้าคมเข้มยิ้มแย้มจนแทบจะเหมือนคนบ้าเข้าไปเต็มที แววตานั้นทอดมองวิวด้านนอกก่อนจะหันกลับมาชะเง้อมองหาคนที่โทรนัดตนตั้งแต่เช้ามืด...
"รอนานมั้ยคะ? "เสียงหวานๆ เอ่ยถาม เวหาหันไปมองก่อนจะฉีกยิ้มให้เธอ
"ไม่นานหรอกครับ พี่สั่งอาหารไว้แล้วมีแต่ของโปรดมีนทั้งนั้นเลย อีกสักครู่ก็คงมา"
รอยยิ้มแหย่ๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้านวล เธอตัดสินใจดีแล้วว่าสักวันวันนี้ต้องมาถึงไม่ช้าก็เร็ว
"พี่เวคะ"
"ครับ"
ยิ่งมองใบหน้าที่ใสซื่อไม่รู้เรื่องรู้ราวของคนตรงหน้ายิ่งนึกโทษตัวเองที่ต้องทำให้คนดีๆ คนหนึ่งต้องเสียใจ...
"ที่มีนนัดพี่มาวันนี้เพราะมีนมีเรื่องจะบอก"เอ่ยจบก่อนจะล้วงอะไรบางอย่างออกมาจากกระเป๋าสะพายของตัวเอง กระดาษขนาดเอห้าถูกยื่นมาให้ชายหนุ่ม
"อะไรอ่ะครับ การ์ดแต่งงานใครเนี้ย? "ทอดมองอักษรภาษาอังกฤษบนหน้าปกด้วยความงุนงง
เจกับเอ็ม...งานแต่งใครกัน
คิ้วหนาขมวดเป็นปมก่อนจะพลิกอีกฝั่งดู
มีนา กันติวงษ์...
เพียงอ่านชื่อเจ้าสาวชายหนุ่มถึงกลับนิ่งไปทันที ก่อนจะค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองเจ้าของชื่อ แววตานั้นสั่นไหวไปมาราวกับว่ามันยังไม่เข้าใจในสิ่งที่เห็น
"แกล้งพี่เล่นป่ะเนี้ย? "ถามลองเชิงเผื่อว่าสิ่งที่เห็นเป็นเพียงสิ่งที่หญิงสาวกำลังแกล้งแหย่เขาเล่น
"ขอโทษ...มีนขอโทษ มีนท้องได้สองเดือนแล้ว มีนขอโทษที่มีนนอกใจพี่ อาทิตย์หน้า...มีนจะต้องแต่งงานแล้ว ที่มีนเอาการ์ดมาให้ไม่ได้จะเชิญให้พี่ไป เพียงแต่อยากเอามาให้พี่เห็นด้วยตาของตัวเอง" น้ำเสียงสั่นเครือเอ่ยบอกพลางยกมือไหว้ขอโทษชายหนุ่มเสียยกใหญ่
ร่างบางสั่นเทาพร้อมกับเสียงสะอื้นที่ดังขึ้นเบาๆ พอให้คนตรงหน้านั้นได้ยิน อยากจะบอกให้เขารู้ว่าเธอนั้นก็เสียใจไม่แพ้กัน แต่เพราะทุกอย่างมันเกิดขึ้นแล้วและเธอไม่สามารถกลับไปแก้ไขมันได้อีก
ทว่าเขายังคงนิ่ง นิ่งจนน่ากลัว...
"มีนรู้ว่าตอนนี้พี่ก็แต่งงานแล้วเหมือนกัน มีนไม่โกรธที่พี่ทำแบบนั้น เพราะมีนก็ผิด มีนขอโทษ...ขอโทษจริงๆ "
เสียงหายใจของชายหนุ่มดังขึ้นเรื่อยๆ คล้ายว่ากำลังข่มอารมณ์ร้อนรุ่มในใจให้เย็นลง
เขาไม่รู้ว่าตอนนี้เขาควรจะรู้สึกเช่นไร...ทั้งๆ ที่เขาซื่อสัตย์และรักเธอคนเดียวมาตลอดเหตุใดฟ้าจึงกลั่นแกล้งความรักของเขาเช่นนี้ การจะรักษาความรักมันทำไมถึงยากเย็นแสนเข็ญเพียงนี้ ไม่มีน้ำตาสักหยดที่จะไหลออกมาเพราะมันไหลท่วมหัวใจเขาจนหมดสิ้น
"พี่เว...ก่อนมีนจะไป มีนมีอะไรจะบอกพี่อย่างหนึ่ง"
เขายอมเงยหน้าสบตาเธอด้วยความหวัง หวังว่าเธอจะไม่ไป...
"คนที่พี่รักไม่ใช่มีนหรอกนะ สักวันพี่จะรู้ว่าทำไมมีนถึงพูดแบบนี้"
แววตานั้นบ่งบอกว่าเขาไม่เข้าใจในสิ่งที่หญิงสาวเอ่ย
ริมฝีปากบางที่แต่งแต้มด้วยลิปสติกสีชมพูอ่อนฉีกยิ้มครั้งสุดท้ายในฐานะแฟนก่อนจะก้าวเท้าเดินออกไป ปล่อยให้เวหานั่งมองตามอยู่เพียงลำพังท่ามกลางหมู่ดาวที่มาช่วยเป็นพยานแห่งความเจ็บปวด พระจันทร์เสี้ยวในวันนี้คล้ายว่ามันกำลังยิ้มเยาะชายหนุ่ม...ยิ้มให้กับความโง่เขลาของเขา เขาคิดมาตลอดว่าที่เธอนั้นไม่ติดต่อมาเพราะเรียนหนักแต่สิ่งที่คิดไว้กลับไม่เป็นไปอย่างนั้น ความจริงที่เพิ่งรู้มันช่างเจ็บปวดเหลือเกิน...
มือหนาทั้งสองข้างกำประสานกันไว้แน่นจนผิวหนังเริ่มกลายเป็นสีแดง...มันสั่นเทาเพราะความรู้สึกที่คับแน่นอยู่ภายในใจ
เขาไม่รู้ว่าความรู้สึกตอนนี้มันคืออะไร...โกรธ เจ็บปวด เสียใจ อยากร้องไห้ เขาไม่รู้เลยว่าตอนนี้เขาควรจะรู้สึกเช่นไร
"ไวน์ครับ"เสียงพนักงานเสิร์ฟอาหารเอ่ยขึ้นก่อนที่เขาจะจ้องมองขวดแก้วที่บรรจุไวน์ชั้นดีเอาไว้
ร่างบางสะดุ้งตื่นก่อนจะหันไปมองนาฬิกามันบอกเวลาเที่ยงคืน
ใครกันมาบีบแตรรถอยู่หน้าบ้าน เธอลุกขึ้นเดินด้วยท่าทางงัวเงีย
"โอ๊ย จะบีบให้บ้านอื่นเขาตื่นรึไงกัน"ตะโกนด่าคนในรถเมื่อเห็นว่าเป็นใคร
รีโมทเปิดเองก็มีแต่กลับไม่กด เดือดร้อนคนจะหลับจะนอน...
ประตูรั้วถูกเปิดออกก่อนที่รถคันสวยจะพุ่งเข้ามาด้วยความเร็ว ดีที่หญิงสาวหลบได้ทันไม่เช่นนั้นขาซ้ายของเธอคงได้ติดไปกับกันชนรถแน่ๆ
"โถ่เว้ย! เกะกะจริงๆ "สบถด้วยท่าทางหัวเสียเมื่อตนนั้นเดินไปชนเข้ากับกระถางดอกไม้ ในเวลาต่อมามันจึงปลิวไปกองอยู่ที่อื่น ต้นไม้ กระถางและดินแยกย้ายกันไปอยู่คนล่ะทิศคนละทาง
หญิงสาวถอนหายใจออกมาอย่างเอือมระอา ก่อนจะรีบเข้าไปประคองชายหนุ่มเอาไว้เพราะเขานั้นกำลังจะล้มไถลไปกับพื้นอิฐที่ปูอยู่บนทางเดิน
"ไม่ต้องมายุ่ง! "
ร่างบางเซถลาไปกองกับพื้นจากแรงเหวี่ยงของคนเมามายจนไร้สติสัมปชัญญะ
อย่าโกรธคนบ้า อย่าถือสาคนเมา...
เธอท่องคำคำนี้ไว้ในใจก่อนจะค่อยๆ เดินตามชายหนุ่มเข้าไปในบ้าน โดยรักษาระยะห่างเอาไว้พอสมควร
"ไปเอาเหล้ามาสิ"
"คุณเมามากแล้วนะ ไปนอนได้แล้ว"เธอไม่ยอมทำตามเพราะเห็นสภาพของเวหาแล้วคงจะดื่มหนักมาพอควร...หากจะให้ดื่มอีกพรุ่งนี้คงจะไปทำงานไม่ไหวแน่ๆ
"ฉันบอกให้เอามาก็เอามาเส้"เริ่มอาละวาดทำลายข้าวของจนเผลอปัดมีดปอกผลไม้ลอยมาโดนต้นขาของหญิงสาว เธอก้มมองบาดแผลที่ไม่ลึกมากก่อนจะถอนหายใจออกมาด้วยความเหนื่อยหน่าย
เธอรู้...ว่าสักวันวันนี้มันต้องมาถึงและมันก็มาถึงจนได้...
"ทำไมอ่ะ...ทำไม พี่ผิดอะไรบอกพี่ที ทำไมต้องทำแบบนี้กับพี่ด้วย” เสียงคร่ำครวญของเขามันทำให้หญิงสาวอดที่จะเป็นห่วงไม่ได้
“คุณเว คุณเมามากแล้วนะ ขึ้นไปนอนบนห้องดีๆ สิ” ว่าก่อนจะดึงแขนชายหนุ่มให้เดินตาม เพราะไม่ถ้าหากเขามานอนที่โซฟาคืนนี้เธอก็จะไม่มีที่นอน
พื้นก็แข็งจะตายเธอไม่ยอมนอนหรอก ตื่นมาคงจะปวดหลังแย่!!!
ทว่าแรงที่มีมากกว่าฉุดรั้งไม่ยอมไป ทำให้ร่างบางเซถลาไปนอนอยู่บนอกแกร่ง…
ดวงตากลมโตเบิกกว้างหนักกว่าเดิม เธอพยายามดันร่างตัวเองขึ้น...เพราะกลัวว่าชายหนุ่มจะอาละวาดอีกรอบ เขาคงไม่ชอบที่เธอมานอนทับตัวเขาอยู่แบบนี้
“อย่าไปเลยนะ...อย่าไป” น้ำเสียงแหบพร่าเอ่ยบอกก่อนที่วงแขนกว้างจะกระชับกอดเธอไว้แน่น
เสียงผ่อนลมหายใจของเธอดังขึ้นเบาๆ ก่อนที่ลำคอระหงจะค่อยๆ กลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงไปด้วยความยากลำบาก หญิงสาวไม่มีทางเลือกจึงต้องจำนนต่ออ้อมกอดนั้นแต่โดยดี
เธอนั้นรู้อยู่เต็มอกว่าคนที่เขาห้ามไม่ให้ไปไม่ใช่ตน...แม้ในเวลานี้เธอจะอยู่ในอ้อมกอดของเขาแต่หากว่าหัวใจของเขาในตอนนี้มันลอยไปอยู่ที่อื่น มันก็ไม่มีประโยชน์ที่เธอจะรู้สึกซาบซึ้งกับกอดของเขา
หยดน้ำใสๆ รินไหลลงมาอาบแก้มนวลช้าๆ
ทำไมหัวใจเธอมันถึงไม่เคยจำสักที ทั้งๆ ที่หลายวันที่ผ่านมาเธอพยายามทำเป็นไม่สนใจ...ไม่ใส่ใจ แต่สุดท้ายความพยายามเหล่านั้นก็พังทลายลงเพียงเพราะหยดน้ำตาและอ้อมกอดของเขา...การเริ่มนับหนึ่งใหม่มันไม่ง่ายเลยสำหรับเธอ หยดน้ำตาและอ้อมกอดของเขาที่มันไม่ได้เกิดขึ้นเพราะเธอ...มันเจ็บปวดกว่าแววตาแสนเย็นชาของเขาเสียอีก
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ