เพียงพริบตา

-

เขียนโดย Xiaobei

วันที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 เวลา 14.17 น.

  8 ตอน
  0 วิจารณ์
  8,462 อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

6) บทที่หนึ่ง จากหมู่บ้านที่อดอยาก : ย่านพักแรม (3)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
บทที่หนึ่ง จากหมู่บ้านที่อดอยาก : ย่านพักแรม (3)
ในห้องเริ่มมีกลิ่นหอมลอยอวล ผ่านไปครู่หนึ่ง สึเกะสะ ชายคนเมื่อกี้ก็โผล่หน้ามาจากด้านบนฉากกั้น ยื่นไม้ยาวประมาณหนึ่งชาคุมาให้ ที่ปลายไม้มีนกพิราบสีขาวตัวเล็กๆ กำลังกางปีก
“ข้าให้นี่กับพวกเจ้า ลูกอมพิราบ ข้าขายลูกอมน่ะ มันเป็นของเล็กน้อย ไม่ต้องเกรงใจหรอก หากมีปีกเหมือนนกก็คงโผบินครั้งเดียวข้ามกำแพงออกมาได้... ระหว่างนั้นก็คงมีเรื่องดีๆ อยู่บ้างล่ะ”
สึเกะสะมอบลูกอมให้ทั้งสองคนแล้วหลบหน้าไปอย่างหวาดๆ
ใบหน้าของทั้งคู่มีสีแดงเรื่อแต้มเล็กน้อย ระหว่างกำลังเลียลูกอมรอยยิ้มก็ยิ่งเพิ่มขึ้น ทว่าความกังวลยังคงไม่เปลี่ยนไป
※※※※
“ที่เจ้าพวกนั้นพูดครึ่งหนึ่งน่ะเป็นความจริง แต่ครึ่งหนึ่งเป็นคำลวง ถ้าไปถึงแล้วจะได้รู้ว่าเรื่องไหนจริงเรื่องไหนหลอก ไม่ว่าจะเป็นอย่างไหน ที่ที่พวกเจ้าจะสามารถมีชีวิตรอดได้ก็มีแต่ที่นั่น จะหนีออกมาก็ได้ แต่การใช้ชีวิตข้างนอกนั่นก็ไม่ได้ต่างกัน หากหาคนรักได้ก็ว่าไปอย่าง นั่นยังเป็นเรื่องอีกยาวไกล ไม่ต้องเป็นห่วงอะไรจนกว่าจะอายุสิบหกสิบเจ็ด ชีวิตจนกว่าจะอายุเท่านั้นก็เหมือนได้รับสัญญาเอาไว้แล้วว่าจะไม่อดอยาก อาจจะเป็นสวรรค์เมื่อเทียบกับที่ที่เคยอยู่มาก็เป็นได้ แม้อนาคตอาจจะกลายเป็นนรกก็ตามที”
เมื่อเดินทางออกจากย่านพักแรมโคงะ อิซาจิที่ไม่เปิดปากมาตลอดจนถึงตอนนี้ก็พูดออกมา
ที่โยชิวาระนั้นจะจ้างงานกันตั้งแต่เจ็ดถึงแปดขวบ ถูกเรียกว่าคามุโระจนกว่าจะอายุสิบสามสิบสี่ และจะถูกสอนเกี่ยวกับกฎของโยชิวาระ ระเบียบแบบแผน และคำพูดคำจา โคมาโนะอายุเก้าปี ส่วนสึซึอายุสิบสอง ทั้งสองคนจะถูกรับเลี้ยงเป็นคามุโระตั้งแต่วันที่เข้าไปยังหอคณิกา
เมื่อมาถึงย่านพักแรมโคชิงายะ เอโดะก็อยู่แค่เอื้อม
ยามตะวันตกดิน ทั้งสามคนยืนอยู่ด้านข้างภูเขาสูงเล็กน้อยที่สามารถมองเห็นเอโดะได้ทั้งหมด
เมืองเอโดะที่เริ่มมืดแล้วมีแสงสว่างขึ้นมาเป็นจุดๆ มีเพียงแค่มุมเดียวเท่านั้นที่ลอยขึ้นมาเป็นรูปสี่เหลี่ยมสว่างไสวราวกับภาพในจินตนาการ
“นั่นคือโยชิวาระ เป็นอย่างไร สวยใช่ไหม มันเป็นเมืองที่สวยที่สุดของเอโดะ เพียงดูภายนอกจากด้านข้างก็ราวกับคนละโลกแล้ว ทั้งสิ่งที่ได้เห็นหรือได้ยิน ทั้งหมดนั้นจะเป็นสิ่งที่พวกเจ้าได้พบเป็นครั้งแรก พรุ่งนี้ข้าจะพาพวกเจ้าไปที่นั่น ไม่ต้องกังวล ทุกคนที่อยู่ที่นั่นเป็นมนุษย์ พวกผู้หญิงที่นั่นก็เป็นคนที่มาจากที่ที่เหมือนกับพวกเจ้าทั้งนั้น ไม่ถูกจับหรือถูกกินในทันทีหรอก”
เด็กสาวทั้งสองคนเพิ่งเคยมาเอโดะและเพิ่งเคยเห็นสิ่งต่างๆ เป็นครั้งแรก พวกเธอตกใจในความกว้างใหญ่ แต่ยิ่งตกใจเมื่อมีแค่มุมหนึ่งเท่านั้นที่สว่างราวกับตอนกลางวัน เพราะมันเป็นสถานที่ที่ถูกเรียกว่านรก พวกเธอจึงคิดว่ามันจะมีแต่ความมืดมิด
เมื่อกำหนดโรงเตี๊ยมได้แล้ว ก็เริ่มเตรียมตัวสำหรับวันรุ่งขึ้น อิซาจิให้เด็กทั้งสองคนไปอาบน้ำ รวบผมให้ด้วยท่าทีงุ่มง่าม แต่ก็เซื่องซึมลงเพราะไม่ใคร่จะมีความเปลี่ยนแปลง เขาจึงหยุดอย่างไม่ใส่ใจเท่าใดนัก อาจเพราะคุ้นชินกับการเดินทางแล้ว เด็กทั้งสองคนจึงมีสีหน้าที่ดีขึ้น
“พรุ่งนี้ข้าจะต้องไปแวะที่แห่งหนึ่ง จากนั้นจะพาพวกเจ้าไปสถานที่รับจ้าง เมื่อมอบตัวพวกเจ้าแล้วก็ต้องจากกันแล้ว จากนี้ไปข้าเองก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ที่เหลือก็แค่พวกเจ้าต้องมีชีวิตอยู่ต่อไปเพียงเท่านั้น มีเรื่องใดจะถามหรือไม่?”
ทั้งสองคนไม่ได้ถามอะไร ไม่รู้แม้กระทั่งว่าถามไปแล้วจะได้อะไร หรือควรจะถามสิ่งใดดี
“อย่างนั้นรึ เตรียมใจไว้แล้วสินะ เช่นนั้นจงนอนเถิด”
ตอนที่ทั้งสองคนเข้านอน ก็มีเสียงเรียกจากอีกฝั่งของประตูเลื่อน
“นี่ พี่ชาย ขอเวลาประเดี๋ยวสิ?”
เป็นเสียงผู้ชายไม่คุ้นหู ทว่าการประกอบอาชีพเซเง็นทำให้อิซาจิพอจะคาดเดาออก เพราะเป็นเรื่องที่พบเจอได้บ่อย เมื่อเปิดบานประตูก็พบชายคางใหญ่หนาอายุเกือบสี่สิบยืนอยู่ เป็นใบหน้าที่เห็นหลายครั้งตรงทางเดิน ชายคนนั้นผุดรอยยิ้มเจ้าเล่ห์
“ข้ามีเรื่องจะปรึกษาหน่อยน่ะ”
“มีเรื่องอันใดรึ”
อิซาจิตอบรับด้วยเสียงแหบต่ำอย่างสุภาพ
“เด็กพวกนั้น ให้ข้าเล่นด้วยสักสองชู [1] ได้ไหม? สองชูเจ้าคงไม่บ่นดอก ราคาซื้อพวกผู้หญิงดีๆ ได้เลยนะ”
ชายผู้นั้นเล็งสึซึเอาไว้
“ขออภัยด้วย ยังไม่ใช่ของที่ขายได้ จากนี้ไปจะต้องเอาไปสอนเพื่อขาย ทั้งคู่เป็นเด็กที่ยังไม่รู้ประสีประสาอันใด”
“ข้าจะช่วยลิ้มรสชาติให้อย่างไรเล่า อย่างไรเสียเรื่องที่จะทำก็เหมือนๆ กันนั่นละ เจ้าเองก็สนุกมาตลอดทางไม่ใช่หรืออย่างไรกัน?”
อิซาจิทำท่าทางราวกับครุ่นคิดเล็กน้อย จากนั้นแสยะยิ้มแล้วเชิญชายคนนั้น “เข้ามาสิ” ก่อนปิดบานประตู
“ก็พูดจารู้เรื่องนี่นา”
“ก็นะ” ทันทีที่พูดออกมา อิซาจิก็คว้าชายเสื้อตรงอกของชายคนนั้น ดึงเข้ามาแล้วใช้กำปั้นชกเข้าที่สันจมูก
ชายคนนั้นส่งเสียงอั่กประหลาดออกมา เลือดกำเดาไหลหยดไปทั่ว
“ทำอะไรกันวะ ไอ้เซเง็นเวรนี่”
“ไอ้วิปริต แม้ข้าจะเป็นเซเง็น แต่ก็ไม่เคยแตะต้องของซื้อของขาย ข้าคำนึงถึงวิถีของมนุษย์อยู่ตลอด”
“เวรเอ๊ย หักจมูกข้าเสียได้”
ชายคนนั้นรุดเข้ามาจะต่อยอิซาจิ
อิซาจิเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว เมื่อหมุนตัวได้ก็ถีบเข้าที่หว่างขาชายคนนั้นจากด้านหลัง ซ้ำยังลากเอาตัวชายคนนั้นที่งอตัวกุมเป้าอยู่ขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เปิดหน้าต่างแล้วเหวี่ยงออกไปข้างนอก
หลังจากนั้นชายคนนั้นก็กลิ้งไปบนหลังคาแล้วตกลงไปยังบ่อในสวนพร้อมกับกระเบื้องหลังคาสองสามแผ่น
เด็กสองคนที่กำลังจะหลับมองดูด้วยใบหน้าอึ้งงัน ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
“ไม่มีอะไรหรอก รีบนอนเสีย”
ข้างนอกเริ่มมีเสียงเอะอะ
“คนตกลงมาจากข้างบนนะ มีเรื่องประหลาดเช่นนี้ด้วย” ได้ยินเสียงพูดล้อเลียนเช่นนั้น
เมื่อมองดูเด็กสาวทั้งสองหลับไปแล้ว อิซาจิก็ดื่มเหล้าไปพลางลนนิ้วก้อยทั้งแปดนิ้วให้แห้งด้วยไฟตะเกียง แม้มันจะไม่ขึ้นรา แต่เพราะฝนตกยาวนานจึงเปียกโชกซีดขาว ส่งกลิ่นเหม็นออกมาอย่างรุนแรง
..........................................
[1] ชู คือหน่วยเงินของญี่ปุ่นในสมัยโบราณ

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้นำมาจากแหล่งอื่นและได้รับการอนุญาตจากเจ้าของแล้ว

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา