เล่ห์ร้ายจีบนายรุ่นพี่

-

เขียนโดย Ozone2

วันที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2562 เวลา 21.04 น.

  3 ตอน
  0 วิจารณ์
  3,921 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 7 กันยายน พ.ศ. 2562 21.16 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) บทที่ 2 อยากให้มันเป็นจริง

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

บทที่ 2 อยากให้มันเป็นจริง

                คืนแรกที่นอนที่บ้านหลังนี้ ผมนอนไม่ค่อยหลับเลย เพราะจิตใจก็เอาแต่ฟุ้งซ่าน ถ้าเป็นคุณก็คงเป็นแบบผมใช่ไหม? ...เพราะยิ่งมีคนหล่อๆอยู่ใกล้ๆ มันทำให้หัวใจเต้นแรงไม่หยุด ...ผมจะทำอย่างไรดี...ผมหันไปมองที่มุมของพี่เทพทัต แกก็กำลังอ่านหนังสืออย่างเอาเป็นเอาตาย ...ผมแอบมองพี่เขาขณะนอนกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่บนเตียง...จนผมทนไม่ไหว จึงเดินเข้าไปหาพี่เขา ที่โต๊ะอ่านหนังสือ ไม่ห่างจากเตียงนอน...
                “ดึกแล้ว ยังไม่นอนเหรอครับพี่ทัต”
                “เออ พี่ขออ่านหนังสือก่อนว่ะ เคจะนอนยัง ถ้าจะนอนปิดไฟได้เลยนะ เดี๋ยวพี่ใช้โคมไฟเอา ไม่ต้องเกรงใจพี่นะ คิดซะว่าเป็นบ้านของตัวเอง” พี่เทพทัตพูด โดยไม่ได้สนใจมองหน้าผม สายตาคู่นั้นจับจ้องไปที่หนังสืออย่างไม่ละสายตา แต่คำพูดพี่เขาเป็นกันเองกับผมมาก ...ผมโคตรซึ้งใจ
               “ยังครับพี่ ผมขอนั่งข้างๆพี่ได้ไหม”

                นี่ผมกำลังอ่อย พี่เขาอยู่ใช่ไหม

                “.....”
                ไม่มีเสียงใดๆ ตอบผม
                แต่ผมไม่มีทางยอมแพ้อะไรง่ายๆ หรอกนะ ผมจึงรีบวิ่งไปยกเก้าอี้ ที่โต๊ะอ่านหนังสือของผม มานั่งใกล้ๆ พี่ชายสุดหล่อ
                “อ่านอะไรครับพี่”

                ผมพยายามชวนพี่เขาคุย ทั้งๆที่รู้ว่าพี่เขาต้องใช้สมาธิ แต่คนมันหลงรักเข้าแล้ว ใครจะอดใจไหว ยิ่งทุกอย่างเป็นใจให้เราอยู่ใกล้กันขนาดนี้
                “พี่กำลังอ่าน วิชาที่จะเรียนตอนปี 2 อยู่อ่า ตอนนี้ปิดเทอม..”

                พี่เขาตอบ และหันมาสบตาผม จนผม หน้าแดง รู้สึกร้อนผ่าวที่หน้าผาก ตัวผมแข็งทื่อขยับตัวไม่ได้ มันเป็นไปโดยอัตโนมัติ ซึ่งผมก็ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน...และพี่เขาก็จ้องหน้าผมไม่ละสายตา...

                “มัน...เอ่.ปา..ไม” ผมพูดตะกุกตะกัก ไม่เป็นภาษา
                “เป็นอะไรหน้าแดง อ่าเค ไม่สบายปะ” พี่เทพทัตสงสัย พลางเอาหลังมือมาวางที่หน้าผากผม
                ผมรีบปัดมือพี่เขาออกทันที แล้วหันหน้าหลบสายตาพี่เขา ก่อนจะรวบรวมสติหันกลับไปถามพี่เขา

                เราต้องทำได้...อย่าแสดงอาการสิวะ....
                “มันเกี่ยวกับช่องปากใช่ไหมครับพี่” ในที่สุดผมก็พูดออกมาได้

                พี่เทพทัตทำหน้างงๆ กับผม ก่อนจะหันขวับไปมองหนังสือ ทำให้ผมหายใจทั่วท้องขึ้นมาหน่อย
                “ใช่ วิชาอนาโตมี่ อ่า”
                “อนาโตมี่ คืออะไรครับพี่” ผมไม่รู้จริงๆครับ
                “ทำไมฉลาดน้อยจัง” แหมๆพี่สุดหล่อพยายามไม่ว่า ผมโง่ ด้วย...จะขอบคุณดีไหมเนี่ย...
                “ก็ผมไม่รู้จริงๆนี่พี่ ผมยังเด็กอยู่นะ” ผมพูดเสียงเหมือนอ้อน ให้พี่เขาตอบ
                “มันคือวิชา Oral Anatomy and Physiology I ชื่อภาษาไทย คือ วิชา กายวิภาคศาสตร์และสรีรวิทยาช่องปาก 1 ...เก็ตนะ” พี่เขาตอบ ...แต่ภาษาอังกฤษผมฟังไม่รู้เรื่อง ..ผมไม่ได้เรื่องเลยครับ สำหรับวิชาภาษาอังกฤษ
                “ทำไมพี่ขยันจัง ปิดเทอมอยู่เลยนะพี่”

                ก็แทนที่พี่เขาจะไปเที่ยว หรือทำตัวให้สบายๆ ในช่วงปิดเทอม แต่ก็อย่างว่า พี่เขาเรียนคณะทันตแพทย์ ก็ต้องขยันเป็นธรรมดา จบมาผมจะได้มาจัดฟันฟรี..
                “ก็เดี๋ยวเปิดเทอมจะอ่านไม่ทัน เตรียมตัวไว้ไง ...พี่ขอตัวอ่านหนังสือก่อนนะ ถ้าเคไม่หลับ ก็ไปเล่นเกมส์คอมฯ ที่โต๊ะอ่านหนังสือโน่น” พี่เทพทัตพูดเหมือนไล่ผมเลย ...แต่ผมก็เข้าใจว่าพี่เขากำลังอ่านหนังสือ
               
                แม้จะดึกแล้ว ประมาณเที่ยงคืน แต่ผมไม่กล้าปิดไฟเพราะเกรงใจเจ้าของบ้าน ...ผมจึงทรุดตัวนอนหลับไป ...ขณะที่ผมกำลังหลับสบายอยู่นั้น ผมแทบไม่อยากจะเชื่อเลย ว่าทุกสิ่งทุกอย่าง...มันจะเป็นไปตามที่ผมวาดหวังเอาไว้...คุณลองเดาสิครับ ว่าผมกำลังเจออะไร...
                ผมรู้สึกร้อนๆที่ริมฝีปาก เหมือนกำลังโดนประกบปากอยู่อะไรอย่างนั้น การจูบอันเร่าร้อนของริมฝีปากแดงระเรื่อ ทำให้ผมต้องลืมตาขึ้นมาด้วยความกระหายราคะ
                “เค พี่ขอนะ” เสียงชายหนุ่มกระซิบข้างหูของผม จนผมหัวใจเต้นโครมครามแทบจะเป็นบ้าตาย
                “อย่าครับ พี่ทัต อย่า!” ผมขัดขืนสุดฤทธิ์
                “นะครับ คนดีของพี่”

                พี่เทพทัตกระซิบข้างหูผมอีกรอบ พร้อมกับกัดที่ใบหูผม ...ผมโคตรจั๊กจี้..แต่ลึกๆผมโคตรรู้สึกชอบ กลิ่นไอของชายหนุ่ม ยิ่งกระตุ้นต่อมความต้องการทางเพศให้มีมากขึ้น ...

                แต่ไม่นะ...
                “ไม่เอาพี่ ผมเป็นผู้ชายนะครับ ผู้ชายกับผู้ชายจะมีอะไรกันได้ยังไง” ผมปฏิเสธ และกรีดร้องเสียงดัง

                ไมมมมมมมมมมมมมมมม่
                จากนั้นพี่ชายสุดหล่อของผม จึงปิดปากผมด้วยการระดมจูบปาก รสปากพี่เทพทัตช่างหอมหวานเหลือเกิน จนร่างอันอวบอ้วนของผมอ่อนระทวย ...นี่ผมต้องตกเป็นของไอ้พี่ขี้เก๊กคนนี้ จริงๆเหรอเนี่ย...
                ผลั๊วะ!
                ผมต่อยหน้าพี่เขา จนพี่เขากระเด็นตกจากเตียง
                “กูพูดดีๆ มึงไม่รู้เรื่องใช่ไหม” พี่เทพทัตเสียงดังมาก ใบหน้าหล่อๆ ไม่ได้ช่วยให้ผมรู้สึกดี กลับ กลายเป็นน่ากลัวแทน จนทำให้ผมตัวสั่นเครือไม่หมด

                ...ทำยังไงดีวะ....
                พี่เทพทัตก้าวขึ้นมาบนเตียง พร้อมระดมจูบผมอีกครั้ง ทั้งไซร้ซอกคอผม มือข้างหนึ่งกดมือผมไว้กับเตียงไม่ให้ขัดขืน ก่อนพี่เขาจะถอดเสื้อ เห็นเรือนร่างของชายหนุ่มชัดเจน ...กล้ามเนื้อหน้าท้อง และหน้าอกเป็นมัดๆ มีกล้ามแขนพองาม จนผมแทบจะละลาย... พี่เทพทัตดึงเสื้อผมออกอย่างแรง จนเสื้อนั้นขาด
                “เป็นของกูซะดีๆ”
                สิ้นเสียงเข้มๆของพี่เขา ผมก็โดนระดมจูบปาก ผมรู้สึกหายใจไม่ออก ได้แต่ร้องอู้อี้อยู่ในคอ และก็ไม่มีเสียงใดๆ เล็ดลอดออกมา
                “อย่า ไม่...อย่า...ไมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม่”
                ผมกรีดร้องเสียงดัง ...
                นี่มันเป็นเพียงแค่ความฝัน ...
                “เป็นอะไรไปวะ เค เสียงดังเชียว” พี่เทพทัตเอ่ยถาม พร้อมกับรีบก้าวขามายังเตียงนอนผม
                “ฝันร้ายน่ะครับพี่” ผมตอบ

                ตอนนี้ผมรู้สึกเหนื่อยอย่างบอกไม่ถูก ทั้งๆที่เมื่อกี้มันเป็นแค่ความฝัน ร่างกายผมเปียกโชกไปด้วยเหงื่อ ความฝันนั้นราวกับว่าเป็นความจริงเหลือเกิน...
                “อ่อ ฝันว่าอะไรวะ”
                 “ฝันว่าโดน.....” ผมอยากจะพูดว่า โดนพี่ทำมิดีมิร้ายนะ แต่ก็ต้องเงียบไว้..
                “โดนไร” พี่เทพทัตหน้านิ่วคิ้วขมวด
                “เอ่อ...โดน....”
                “ก็พูดมาสิวะ...เออกูไม่อยากรู้แล้ว เดี๋ยวปิดไฟให้นะ” พี่เทพทัตดูไม่สบอารมณ์ แล้วเดินไปปิดไฟ และเปิดไฟที่โคมไฟแทน...
                ผมมองดูนาฬิกาที่หัวเตียง ปรากฏว่าตอนนี้ มัน ตี 1 แล้ว ...แต่พี่เทพทัตยังไม่นอนเลย พี่เขาจะขยันอะไรขนาดนี้นะ
                “พี่ทัต ยังไม่นอนเหรอพี่ ตี 1 กว่าๆ แล้วนะครับ” ผมเอ่ยถามเสียงดังกว่าปกติ เพราะอยู่ห่างกัน
                “เดี๋ยวพี่อาบน้ำก็นอนแล้ว”
                สิ้นเสียงพี่เทพทัต ผมก็รีบห่มผ้า และแอบดูพี่เขาแก้ผ้า ผมใช้ผ้าห่มเหมือนเป็นโล่แอบซุ่มดูพี่เขา แม้ว่าจะเป็นเพียงแสงสว่างจากโคมไฟ ผมก็ยังสามารถมองเห็นเรือนร่างของพี่เขาได้ค่อนข้างชัดเจน และสิ่งที่ผมเห็นข้างหน้ามันไม่ต่างอะไรจากความฝันเลย....

                เรือนร่างของพี่เขาช่างน่าสัมผัส ตัวขาวมาก หัวนมสีชมพูระเรื่อ มีกล้ามท้อง กล้ามอก เป็นมัดๆ และกล้ามแขนแต่พองาม ประกอบกับหน้าตาหล่อ ตี๋ ของพี่เขามันช่างดูสุดยอดไปหมด...และตอนนี้ผมคิดว่าพี่เขาโคตรเซ็กซี่สุดๆ เพราะเหลือเพียงกางเกงในตัวเดียวที่ปกปิดนกเขาของพี่เขาเอาไว้ เป้าของพี่เขาตุงมาก หรือผมคิดไปเองก็ไม่รู้
                ผมมองพี่เขาสุดสายตา จนกระทั่งเดินเข้าห้องน้ำไป
                เฮ้อ!
                ผมถอนหายใจยาว เพราะรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้องเลย ...มันเหมือนเป็นความรู้สึกที่ต้องการความรักจากพี่เขามากๆ ...ผมไม่เคยรู้สึกกับใครมากเท่านี้มาก่อน...
               
                คืนนี้ผมกว่าจะนอนหลับก็ฟุ้งซ่านไปไกล ..ผมรู้สึกงัวเงียมาก เมื่อมีเสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นที่หัวเตียง แต่ผมก็ต้องพาร่างอวบอ้วนลุกขึ้น เพื่อไปอาบน้ำ และเตรียมตัวไปโรงเรียน...วันแรก 
                สิ่งแรกที่ผมมองหาเป็นอันดับแรก เป็นอะไรไปไม่ได้ นอกเสียจาก...
                พี่เทพทัตสุดหล่อ!
               ผมเดินตรงไปที่เตียงพี่เขา และทรุดตัวลงนั่งที่ขอบเตียง  สายตาของผมจับจ้องไปที่ใบหน้าอันหล่อเหลาของพี่เขา  ปากแดงระเรื่อของพี่เขาทำให้ผมแทบอดใจไม่ไหว ..อยากจะลองชิมมันจริงๆ เสียเหลือเกิน
                คนอะไรก็ไม่รู้ ขนาดนอนยังหล่อขั้นเทพ สมชื่อ....
                ขณะที่ผมกำลังตัดสินใจว่าจะจูบปากพี่เขาหรือไม่ ...พี่เขาก็สะดุ้งตื่นขึ้นมาด้วยความตกใจ....หายจากความงัวเงียทันที ...พี่เขาเหมือนกลัวผม จึงเขยิบห่างออกไปอยู่ในท่าครึ่งนอนครึ่งนั่ง
                “เฮ้ย! เค มาทำอะไรตรงนี้ พี่ตกใจหมดเลยว่ะ”
                อิอิ ...ก็จะมาจูบพี่ไง...
                “เอ่อ คือผมว่าจะมาปลุกพี่ครับ” ผมแก้ตัว
                “อ่อ พี่ลืมเลย ปกติตื่นเที่ยง วันนี้เคต้องไปโรงเรียนวันแรกนี่หว่า”
                “งั้นก็รีบไปอาบสิ เดี๋ยวพี่ไปอาบห้องไทน์ จะได้เสร็จพร้อมกัน” พี่เทพทัตแนะนำ
                ส่วนไทน์ หรือชื่อจริงว่า ‘วาเลนไทน์’ เป็นน้องชายแท้ๆของพี่เทพทัต ซึ่งผมก็ยังไม่ได้ถามเลย ว่าตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน เพราะตั้งแต่ผมมาอยู่บ้านนี้ตั้งแต่เมื่อวาน ยังไม่เห็นไทน์เลย

               

                พี่เทพทัตดูเป็นคนเจ้าสำอางมาก ผมสังเกตพี่เขาตั้งแต่ใส่บอกเซอร์ตัวเดียว ยืนส่องกระจก และทาครีมบนใบหน้าอันหล่อเหลา หุ่นล่ำๆของพี่เขาสังเกตเห็นชัดเจนขึ้น เพราะไม่มีความมืดมือมาบดบังบ้างแบบเมื่อคืน
                คนอะไรยิ่งดูยิ่งหล่อขั้นเทพ...
                ผมรู้สึกหลงพี่เขามากในเวลานี้ แต่ผมก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ตอนนี้คงทำได้เพียง ‘แอบรักเขาข้างเดียว’
                ก๊อก ก๊อก!
                เสียงเคาะประตูดังขึ้น
                “หนุ่มๆ ลงมาทานข้าวได้แล้วนะลูก” เสียงน้าอรพรรณดังขึ้นจากนอกห้อง
                “ครับ ม๊า เดี๋ยวผมลงไป” พี่เทพทัตตอบ ขณะที่ยังอยู่หน้ากระจก
                ส่วนผมแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงได้แต่นั่งรอพี่เขาอยู่ที่ขอบเตียงนอนของผม และเอาแต่จับจ้องไปที่พี่เทพทัต ในทุกอริยบท โดยที่พี่เขาจะไม่รู้ตัว...ผมคิดอย่างนั้นนะ..
 

                อาหารมื้อเช้าที่บ้านนี้วันแรก เป็นข้าวต้มกุ้งของโปรดผมเลย กลิ่นมันหอมติดจมูกชวนน่าทาน ผมจึงไม่รอช้า รีบตักมันใส่ปากทันที ขณะที่พี่เทพทัตกลับทำหน้าเซ็งๆ ...ผมพอจะเดาออกว่าพี่เขากำลังเบื่ออาหาร
                “ทำไมม๊า ไม่ทำอย่างอื่นให้ผมกินบ้าง ผมตื่นเช้ามาทีไรได้กินแต่ข้าวต้มกุ้ง นี่แหละนะผมถึงไม่อยากตื่นเช้า” หนุ่มวัย 19 ปีพูดกับหญิงวัยประมาณ 45 ปี ที่นั่งอยู่ข้างๆ
                “แหม ไม่ต้องเอามาเป็นข้ออ้างเลย ...พอดีของหมดน่ะลูก ม๊าไม่ได้ไปตลาด ไม่งั้นม๊าทำแซลมอนอบสมุนไพร ของโปรดลูกให้ทานแล้ว ลูก  กินเถอะนะ อย่ากินยากเลย”  น้าอรพรรณพูดง้อลูกชายสุดหล่อ

                และผมก็รู้แล้วว่าอาหารจานโปรดของพี่เขาคือ แซลมอนอบสมุนไพร

                ซึ่งไม่รู้ทำไม ผมถึงชอบจดจำรายละเอียดเกี่ยวกับพี่เขาเสียเหลือเกิน...
                “แซลมอนอบสมุนไพร ทำยากไหมครับน้าอรพรรณ”

                ผมถามด้วยความอยากรู้ เพราะคนตัวอ้วนๆ แบบผม อาหารการกินก็เป็นเรื่องที่ใหญ่ เพราะผมกินเยอะมาก ซึ่งขัดกับสิ่งที่ตัวเองต้องการคือรูปร่างสมส่วน มีกล้ามแต่พองาม  และอีกเหตุผลหนึ่ง ถามเพื่ออยากทำให้ว่าที่สามีในอนาคตกิน...อิอิ
                “ทำไม่ยากหรอกลูก ...เค ตัวอ้วนๆแบบนี้ ทำอาหารเป็นไหมลูก” น้าอรพรรณพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลแบบทุกครั้งกับผม แววตาดูเอ็นดูผมมาก ....เดี๋ยวผมจะเป็นลูกสะใภ้ซะเลย ..อิอิ
                “ผมทำอาหารเก่งครับ ดูตัวผมสิ ถึงได้อ้วนแบบนี้ไงครับ” ผมพูดติดตลก ทำเอาพี่เทพทัตหัวเราะเสียงดัง ...รู้สึกพี่เขาจะพอใจมาก ที่ผมยอมรับตัวเองว่า ‘อ้วน’

                ผมหันขวับมามองหน้าเอาเรื่องพี่เทพทัตทันที
                “นี่ พอใจมากเหรอพี่” ผมพูดติดตลก พลางเอามือตบไปที่ต้นขาของพี่เขา ซึ่งตอนนี้สวมกางเกงขายาวสีน้ำเงิน
                “เด็กๆ ดูสนิทสนมกันเร็วเนาะ” เสียงน้าวิชัยดังขึ้น ก่อนที่เจ้าของเสียงจะก้าวขาเข้ามายืนข้างๆผมและจับที่ไหล่ผม
                “ครับป๊า” พี่ชายสุดหล่อพูดกับพ่อตัวเอง
                “เออ วันนี้ทัตจะเอารถอะไรไปส่งเค ที่โรงเรียน ป๊าว่าเอารถเก๋งไปไหม” น้าวิชัยเสนอ
                “ก็ดีครับ ป๊า ควันรถเยอะ ช่วงเช้าๆ รถติด ..แต่บ้านเราอยู่ใกล้โรงเรียนนะป๊า จะดีเหรอครับ เอาเวสป้าไปส่งก็พอมั้งครับ” พี่เทพทัตสองจิตสองใจ

                “ป๊าว่า เอารถเก๋งนั้นแหละ เผื่ออยากพาเจ้าเค ไปเที่ยวต่อ” น้าวิชัยดูเป็นผู้ใหญ่โคตรใจดี

                “ครับป๊า” พี่เทพทัตรับคำ พร้อมกับพยักหน้าหล่อ

                “ม๊าฝากเป็นผู้ปกครอง ปฐมนิเทศน้อง แทนม๊าด้วยนะ ทัต” น้าอรพรรณตัดบท
                พี่เทพทัตเบิกตากว้าง “ม๊าครับ ผมอายุห่างจากเค แค่ 1-2 ปี เองนะครับ”
                “ไม่เป็นไรหรอก ม๊าฝากด้วย” พูดจบน้าอรพรรณก็ลุกขึ้นออกจากวงสนทนา
                “ม๊า จะไปไหน ยังคุยกันไม่รู้เรื่องเลย” พี่เทพทัตอยากปฏิเสธ ไม่เป็นผู้ปกครองให้ผม สายตาคมเข้มนัยน์ตาสีดำสนิทคู่นั้น มองตามแม่ของตัวเองที่กำลังเดินออกไป
                “ม๊า จะไปเปิดร้านซะหน่อย” น้าอรพรรณหมายถึงเปิดร้านขายทอง ...ก็บ้านนี้เขาทำธุรกิจร้านทอง
                ผมสังเกตหน้าพี่เทพทัต ...พี่เขาดูไม่สบอารมณ์เท่าไร มันก็จริงของพี่เขานะที่เราอายุห่างกันแค่ 1-2 ปี แล้วพี่เขาจะมาเป็นผู้ปกครองให้ผมได้เหรอ ...แต่ตอนที่ผมอยู่โรงเรียนเก่าผมก็เคยเห็นเพื่อนผมพาพี่ชายหรือพี่สาวมาเป็นผู้ปกครองนะ

                “แล้วไทน์ไปไหนครับ พี่ทัต ไม่เห็นตั้งแต่เมื่อวาน” ผมเปลี่ยนเรื่องคุย ก่อนจะยกแก้วน้ำดื่มมาดื่ม
                “อ่อ ไทน์ มันไปเที่ยวบ้านอาแปะ ที่กรุงเทพฯ” พี่เทพทัตอธิบาย
                “แล้วเขายังไม่เปิดเทอมเหรอพี่”
                “ยังหรอก น่าจะเป็นอาทิตย์หน้า เพราะเรียนอยู่คนละโรงเรียนกับเค”
                “อ๋อครับ แล้วไทน์เรียนอยู่ชั้นไหนแล้วครับ”
                “ไทน์ พึ่งเข้า ม.4”
                “มีรูปไหมพี่ อยากเห็นหน้า” ผมพูดด้วยความอยากรู้
                “อยู่ในเฟซบุ๊คพี่ไง”
                “ผมยังไม่ได้เป็นเพื่อนในเฟซบุ๊คของพี่เลย ครับ”
                “เออ เดี๋ยวค่อยแอดมา เดี๋ยวพี่รีบกินข้าวก่อนนะ” พี่เทพทัตพูดจบก็รีบตักข้าวต้มใส่ปาก
                ถ้าผมเดาไม่ผิด ไทน์ น่าจะมีรูปร่างหน้าตาไม่ต่างจากพี่เทพทัตเท่าไร อาจจะหล่อพอๆกัน แต่ผมคิดว่า ตอนนี้ไม่มีใครมาแทนที่พี่เทพทัตที่นั่งอยู่ในหัวใจผมได้อีกแล้ว...ผมคิดอย่างนั้นจริงๆ

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา