เล่ห์ร้ายจีบนายรุ่นพี่

-

เขียนโดย Ozone2

วันที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2562 เวลา 21.04 น.

  3 ตอน
  0 วิจารณ์
  4,078 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 7 กันยายน พ.ศ. 2562 21.16 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

1) บทที่ 1 เพียงครั้งแรกที่พบ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

บทที่ 1 เพียงครั้งแรกที่พบ

 

สวัสดี..ผมชื่อว่า ‘เค’ ส่วนชื่อจริงของผมชื่อว่า ‘คุณานนท์’
อายุ 17 ปีบริบูรณ์  ตอนนี้ผมเรียนอยู่ชั้น ม.6
รูปร่างของผม ....ผมเป็นคนอ้วนมาก น้ำหนัก 130 กิโลกรัม ส่วนสูง 180 เซนติเมตร..


                “แม่ครับ เราจะไม่อยู่ที่นี่แล้วจริงๆเหรอครับ ...เราจะทิ้งพ่อจริงๆเหรอ”
                เป็นสองคำถามที่ผมถามแม่ ก่อนจะก้าวขาขึ้นรถกระบะสีน้ำเงิน แต่แม่ก็เอาแต่ชวนผมคุยเรื่องอื่นมาตลอดทาง

                ก่อนหน้านี้ผมเรียนอยู่ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ แต่แม่พึ่งแยกทางกับพ่อ ผมจึงต้องย้ายมาเรียน ม.6 ที่จังหวัดเชียงใหม่ และนี่ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ผมได้กลับมาพบกับใครคนหนึ่ง ที่ไม่ได้เจอกันมานาน 6 ปี ซึ่งผมไม่คิดว่าเขาจะหล่อบาดใจผมได้ขนาดนี้
                มันเป็นวันแรกของการย้ายสํามะโนครัวขึ้นมาที่เชียงใหม่ แม่ผมเป็นคนขับรถกระบะมาจากรุงเทพฯด้วยตัวเอง ...บ้านแม่ผมไม่ได้อยู่อำเภอเมืองเชียงใหม่  แต่ผมต้องเรียนอยู่ในโรงเรียนในเมือง ซึ่งห่างไกลจากบ้านแม่ผมมาก ...ซึ่งแม่ผมเองนั้นแหละที่เป็นคนตัดสินใจให้ผมเรียนโรงเรียนในเมือง
                พรุ่งนี้จะเปิดเทอมแล้ว ...แม่ผมจัดแจงให้ผมพักที่บ้านของเพื่อนสนิท ซึ่งผมก็รู้มาว่าเป็นเพื่อนสนิทตั้งแต่สมัยแม่ผมอายุ 7 ขวบ เรียนด้วยกันมา จนจบมหาวิทยาลัย ...ประกอบกับโรงเรียนใหม่ที่ผมจะเข้าเรียนมันก็อยู่ห่างจากบ้านของเพื่อนแม่ผมไปประมาณ 1 กิโลเมตร …แต่แม่ผมก็ไม่ได้ให้ผมไปอยู่ฟรีๆนะ ...แม่ผมจ่ายค่าเช่าและค่าเลี้ยงดูให้เพื่อนสนิทแม่ผมด้วย...

                แม่ของผมขับรถมาจอดที่บ้านหลังหนึ่ง ซึ่งเป็นอาคารพานิชย์ 5 ชั้น 2 คูหา เป็นห้างขายทองที่ติดกับถนนสายหลักเส้นนี้  ผมสังเกตเห็นหน้าบ้านมีรถจักรยานยนต์ เวสป้า สีฟ้าจอดอยู่หน้าบ้าน ...ผมเคยคิดอยากจะได้รถจักรยานยนต์ยี่ห้อนี้มากๆ แต่ผมก็ได้แค่ฝัน เพราะแม่ผมจะดุตลอดเวลาผมขอ...
                แม่ผมเดินนำหน้าผมเข้าไปในบ้านหลังนั้น แวบแรกที่ผมเห็นคือ ชายหนุ่มคนหนึ่งในเสื้อยืดสีฟ้ากางเกงสีส้ม กำลังเดินเข้าไปก่อนหน้าแม่ผม ดูจากข้างหลังผมรู้สึกชอบ อย่างบอกไม่ถูก ...ผมรู้สึกอยากเห็นหน้าผู้ชายคนนี้จริงๆ

                เมื่อเดินเข้าไปในบ้าน นัยน์ตาสีดำของผมก็มองเข้าไปในตู้กระจก มันมีทองคำเยอะแยะมากมาย บ้างเป็นแหวน บ้างเป็นทองคำแท่ง บ้างเป็นสร้อยคอ ฯ ผมอยากได้แหวนรูปหัวใจสักชิ้น
                “นี่เค นี่น้าวิชัย กับน้าอรพรรณ จำได้ไหมลูก” แม่ผมรีบบอก แต่ผมจำทั้งสองคนได้ดี แม้จะผ่านมาแล้ว 6 ปีก็ตาม
                “สวัสดีครับ” ผมไหว้คุณน้าทั้งสอง
                “ยิ่งโต ยิ่งอ้วนนะพ่อคนนี้ อ้วนท้วนสมบูรณ์เหมือนใครกัน” น้าอรพรรณทักทายผม ผมได้แต่ยืนยิ้ม
                “ดีนะ ที่ตัวมันขาว ถ้าดำนี่คงน่าเกลียด...” แม่ผมพูดขึ้น...ไม่รู้จะชมหรือด่าลูกตัวเอง
                “เดี๋ยว แอ๋วพาลูกไปนั่งข้างในบ้านก่อนเลย เดี๋ยวพรรณตามเข้าไป” น้าอรพรรณพูดกับแม่ผม พร้อมกับเดินนำหน้าพวกเราเข้าไป
                ผมกับแม่มานั่งในห้องรับแขก ส่วนน้าอรพรรณก็เดินเข้าไปในครัว คงจะไปเอาน้ำและขนม มาเสิร์ฟ และผมก็คิดถูกจริงๆ...
                “มาเหนื่อยๆ ดื่มน้ำก่อนนะ เค” น้าอรพรรณพูดจบ ก็วางจานขนมคุกกี้กับน้ำเปล่าเย็นๆ ไว้ให้เราสองแม่ลูก ...แล้วเธอก็นั่งข้างๆแม่ผม
                “ปีนี้อยู่ ม.6 แล้ว จะเข้าคณะอะไรล่ะลูก” เสียงน้าวิชัยพูดแล้วเดินมานั่งข้างๆผม และกอดคอผม ผมรู้สึกเขินอย่างบอกไม่ถูก เพราะน้าวิชัยถึงแม้จะอายุ 45 ปีแล้ว แต่ก็มีเค้าโครงความหล่ออยู่ กลิ่นไอของความเป็นชายทั้งแท่งโชยมาแตะปลายจมูก จนผมแทบจะอดใจคิดเรื่องแบบนั้นไม่ไหว
                “ทำไมเงียบล่ะ เค น้าเขาถาม” แม่ผมดุ
                “เอ่อ..เอ่อ..” ผมพูดตะกุกตะกัก
                ยังไม่ทันที่ผมจะตอบอะไร ผมก็ยิ่งต้องตกอยู่ในภวังค์ ผู้ชายเสื้อยืดสีฟ้า กางเกงขาสั้นสีส้มที่ผมเห็นตอนมาถึง เขาเป็นคนหรือเทพบุตร ...ช่างหล่ออะไรขนาดนี้
                หล่อ ขาว ตี๋ จมูกโด่ง คิ้วเข้ม ตาสองชั้น จัดฟัน รูปร่างสูงใหญ่ น่าจะสูงประมาณ 183 เซนติเมตร ...
                เพียงครั้งแรกที่พบ สบตาเขาในครั้งแรก ทำให้ผมสับสนในหัวใจผมมาก...ผมรู้สึกร้อนวูบวาบ โดยเฉพาะการที่เขาใส่กางเกงขาสั้น มันยิ่งทำให้ผมแทบจะเป็นบ้าตาย
                “ทัต มาพอดีเลย มาพาน้องเอากระเป๋าไปเก็บ” น้าวิชัยพูดขึ้น ...เสียงนั้นทำให้ผมได้สติกลับมา
                ใช่! พี่คนนี้ชื่อ ‘พี่เทพทัต’ หรือชื่อเล่นว่า ‘ทัต’

                พอผมได้ยินชื่อพี่เขา มันยิ่งทำให้ผมรู้สึกว่าพี่เขาหล่อขึ้นไปอีก ...ทั้งๆที่ผมก็เคยเจอพี่เขาล่าสุดเมื่อ  6 ปีที่ผ่านมา ไม่ได้หล่อขนาดนี้...และตอนนี้ผมกลับชอบชื่อของพี่เขามากๆ รู้สึกว่าชื่อนี้เป็นชื่อที่เพราะที่สุดในโลก...พี่เขาเองก็มองหน้าผมแปลกๆ พลางยกมือไหว้แม่ผม แต่ก็ไม่ละสายตาจากผมไป ...หรือว่าพี่เขาจะชอบผม..
                มันคงเป็นไปไม่ได้!!
                ผู้ชายหล่อขนาดนี้ เขาคงไม่ชอบผู้ชาย ...เอ้ย คนที่หน้าตาขี้เหร่ อ้วนๆ แบบผมแน่นอน ...ผมคิดแล้วก็ยิ่งเศร้าใจ ทำไมผมต้องเกิดมาอ้วนแบบนี้นะ

                 มันคงเป็นเวรเป็นกรรมของผม...
                “นี่ใช่ เค หรือเปล่า” พี่เขาถาม ด้วยน้ำเสียงเข้มๆ

                พอได้ฟังเสียงพี่เขา ผมยิ่งตกหลุมรักพี่เขาเข้าไปอีก ...พี่เขาหล่อกว่าตอนเด็กๆมาก ซึ่งผมกับพี่เขาเคยวิ่งเล่นด้วยกัน...ซึ่งตอนนั้นผมยังไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าผมชอบผู้ชาย
                “อืม...ครับ” ผมได้แต่พยักหน้า น้ำเสียงสั่นเครือ
                “ทำไมเสียงสั่นๆ เป็นอะไรเปล่า...โตขึ้นพี่จำเราไม่ได้เลยนะ” พี่เทพทัตถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง แล้วยังจะเข้ามานั่งข้างๆผมอีก
                การที่พี่เขามานั่งข้างๆผม  มันยิ่งทำให้ผมรู้สึกร้อนวูบวาบเข้าไปอีก เพราะตอนนี้มีผู้ชายหน้าหล่อ ถึงสองคน นั่งประกบผมอยู่ ขวาก็พ่อ ส่วนซ้ายมือเป็นลูกชาย...กลิ่นไอของความเป็นชายโชยมาแตะปลายจมูก ผมแอบสูดมันเข้าไปเต็มปอด...โคตรรู้สึกดีเลย...

                แต่ผมก็ต้องเก็บอาการให้มากที่สุด...

                ผมไม่เคยรู้สึกกับใครเท่านี้มาก่อน...
                “เปล่าครับ” ผมพูดอะไรไม่ถูกเลยครับ ตอนนี้ ขณะที่แม่ผม กับน้าอรพรรณ ก็เอาแต่คุยกัน ไม่ได้สนใจผมเลย
                “นี่ทัต น้องเขาจะมาอยู่กับเรานะลูก ที่ม๊าเคยเล่าให้ทัตฟัง จำได้เปล่าลูก” น้าอรพรรณพูดกับลูกชาย
                พี่เทพทัตพยักหน้าหล่อ “ครับ จำได้ครับม๊า”
                “ให้นอนห้องเดียวกับทัตได้ไหม จะได้สนิทกันแบบตอนเด็กๆ” คำพูดของน้าอรพรรณ มันช่างเข้าทางผมเหลือเกิน
                เสร็จผมแน่พี่เทพทัต!

                “อ้าว! ทำไมล่ะม๊า บางทีผมอยากอยู่คนเดียวบ้างนะ ม๊า” พี่เทพทัตพูดแบบอ้อนๆแม่ตัวเอง
                โอ้!ไม่นะ
                 ทุกอย่างกำลังจะไปตามความคิดของผมแล้วเชียว

                “เอาเถอะน่ะลูก ลองอยู่กันไปก่อน จะได้ประหยัดไฟบ้านเราด้วนนะลูก ถ้าอยู่ไม่ได้ค่อยมาบอกม๊า ม๊าอยากให้เราสนิทกัน แบบม๊าสนิทกับน้าแอ๋วไงลูก” น้าอรพรรณยกตัวอย่างตัวเอง ที่สนิทกับแม่ของผม
                ท่านคงอยากให้เราสองคนสนิทสนมกันแบบพวกท่าน...

                พี่เทพทัตพยักหน้า เหมือนไม่เต็มใจเท่าไร
                “ฝากน้องด้วยนะ ทัต เดี๋ยว น้าจะแวะมาเยี่ยมบ่อยๆ” แม่ผมฝากผมกับพี่เทพทัต
                “ครับ”

                พี่เทพทัตตอบสั้นๆ พลางฉีกยิ้มบนใบหน้าหล่อๆ ...ผมหันไปมอง มันทำให้หัวใจของผมแทบละลาย อยากเข้าไปสัมผัสรอยยิ้มนั้นจัง...
                “ทัต ไปขนของช่วยน้องเขาขึ้นบ้านสิลูก เรียกเด็กที่บ้านเราไปช่วยด้วย ...ของเยอะหรือเปล่าแอ๋ว” ชายวัยประมาณ 45 ปีพูดขึ้นหลังจากเงียบไปนครู่ใหญ่
                “ไม่รู้พี่ๆ เขากลับบ้านกันไปหรือยังครับ ป๊า ...เดี๋ยวผมเดินไปดูหลังบ้าน ตอนนี้เลยครับ” สิ้นเสียง พี่เทพทัต ก็ลุกจากวงสนทนาไป
                เฮ้อ!
                ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่ ที่พี่เขาเดินออกไปซะที ไม่งั้นหัวใจของผมมันคงเต้นโครมครามไม่หยุด ...แล้วคืนนี้ผมจะนอนหลับไหมเนี่ย ...ยิ่งนอนห้องเดียวกับพี่เขาอีก...

                คุณก็คงจะเคยเป็นแบบผมนะ การมีผู้ชายหล่อๆมานั้งข้างๆ มันจะทำให้เราทำอะไรไม่ถูกเลย...
               
                ข้าวของที่ผมขนมาจากกรุงเทพฯ ก็มีอะไรไม่มากเท่าไร มีกระเป๋าใส่เสื้อผ้าสองใบ โต๊ะอ่านหนังสือ โคมไฟ โน้ตบุ๊ค ผมกับพี่เทพทัต และผู้หญิงคนรับใช้บ้านพี่เขาอีก 2 คน ช่วยกันขนขึ้นห้อง
               ห้องของพี่เทพทัต อยู่ชั้น 2 ของบ้าน เป็นห้องนอนที่กว้างมาก ติดเครื่องปรับอากาศ จัดสัดส่วนไว้ได้ดีมาก มีมุมอ่านหนังสือ โต๊ะคอมพิวเตอร์ ทีวี ตู้เสื้อผ้า

                ที่สะดุดตาผมที่สุดคือ เตียงนอน ผ้าคลุมเตียงและผ้าห่มเป็นสีฟ้า ...ถ้าผมคิดไม่ผิดพี่เขาน่าจะชอบสีฟ้ามาก ...แม้แต่รถจักรยานยนต์ เวสป้า ยังสีฟ้า...
                ผมกวาดสายตาไปรอบๆห้อง อย่างสนใจ ผมพยายามมองหารูปแฟนพี่เขา แต่ก็ไม่มีเลยที่หัวเตียง มีแต่รูปพี่เขาเท่านั้น ...ผมเดินเข้าไปดูใกล้ๆ มันเป็นรูปที่พี่เทพทัตใส่ชุดกีฬาสีฟ้า มีเหรียญทองคล้องไว้ที่คอ...
                “เฮ้ย ทำไรวะ เค” ฟังจากน้ำเสียงแล้ว พี่เขาเหมือนจะตกใจมาก ที่อยู่ๆผมก็เดินมาที่เตียงพี่เขา
                “ปะ...เปล่าครับพี่” ผมตอบไปด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
                สักพักน้าวิชัยกับพี่ผู้หญิงคนรับใช้ 2 คน ก็ช่วยกันยกเตียงนอนเข้ามาในห้อง ผมจึงรีบเข้าไปช่วยยก เพราะให้ผู้หญิงยกของหนักมากไป ก็คงจะไม่ดี
                “นอนมุมไหนดีล่ะ เค” น้าวิชัยเปรยขึ้น
                “มุมไหนก็ได้ครับ น้า” ผมตอบ ทั้งๆนี้ในใจอยากตอบว่า ‘ขอชิดๆกับลูกชายเขา’
                “มุมนั้นละกันครับ ป๊า”

                พี่เทพทัต ตัดสินใจแทนผม พลางผายมือไปที่อีกฟากหนึ่งของเตียงพี่เขา ซึ่งน้าวิชัย ก็ทำตามคำตอบของลูกชาย ...ซึ่งการผายมือบอก เป็นสิ่งที่ดีมากกว่าการใช้มือชี้...
                สักพักผมได้ยินเสียงแม่ผม กับน้าอรพรรณ คุยกัน และก้าวเดินขึ้นมาเยี่ยมห้องนอนของผมกับ พี่เทพทัต  แม่ผมกวาดสายตามองไปรอบห้อง ก่อนจะยิ้มและพูดขึ้น
                “ห้องสะอาดดีนะลูก”
                “จริงๆสกปรกนะ แอ๋ว นี่ฉันพึ่งให้แม่บ้านทำความสะอาดไป” น้าอรพรรณแฉลูกชาย
                พี่เทพทัตยิ้มเจื่อน ๆ “ม๊า จะพูดทำไมล่ะครับ”

                เมื่ออะไรเสร็จเรียบร้อยแล้ว แม่ผมก็ขอตัวกลับบ้าน ทิ้งผมไว้กับครอบครัวนี้ ...บางทีผมก็รู้สึกคิดถึงแม่ เพราะผมไม่เคยจากแม่เลย ...คิดถึงแม่มากกว่าที่จะคิดถึงพ่อเสียอีก


                เย็นของวันนั้นพี่เทพทัตพาผมขับเวสป้า รอบๆคูเมืองเชียงใหม่ ก่อนจะแวะเข้าไปในห้างสรรพสินค้า ...พี่เขาดูใส่ใจผมมาก  แม้แต่ตอนขับรถก็พยายามชวนผมคุยตลอดเวลา ...ทำให้ผมรู้สึกหลงรักพี่เข้าไปอีก

                “เค มีชุดนักเรียนใส่ยัง พรุ่งนี้เปิดเทอมแล้วนะ ...ได้ข่าวว่าเรียนโรงเรียนเดียวกับพี่ ตอนสมัยเรียนมัธยมเลย” พี่เคถาม ขณะเดินนำหน้าผม และสายตามองดูเสื้อผ้าในร้าน
                “มีแล้วครับ ใส่ชุดนักเรียนโรงเรียนเก่าไปก่อน เด่วค่อยไปเปลี่ยนครับ” ผมอธิบาย
                “กินไรไหม เดี๋ยวพี่เลี้ยงเอง” พี่เทพทัตพูด พร้อมกับหันขวับมามองหน้าผม
                โคตรขี้เก๊กเลย!
                “กินไรก็ได้พี่” ผมพูดส่งๆ เพราะเขิน
                “เฮ้ย! เป็นไรหน้าแดง”
                ถามแล้ว ยังจะมาจ้องหน้ากูอีก ..ไอ้พี่บ้า...
                “กูถาม ตอบสิวะ เค” นั่นไง เริ่มพูดคำหยาบกับผม
                “กูก็ไม่รู้” ผมตอบ แล้วรีบเดินนำหน้าไป
                “เออ เดี๋ยวกูพาไปกินชาบูชิละกัน เนี่ยม๊ากูให้เงินมาเลี้ยงมึงโดยเฉพาะ” พี่เทพทัตบอก แล้วรีบเดินแซงหน้าผม พร้อมกับร้องเพลงมีความสุขไปตามประสาวัยรุ่น

                ณ ร้านชาบูชิ

                “เออ แล้วพี่เรียนคณะอะไรเหรอ พี่ทัต” ผมพยายามหาข้อมูลพี่เขาให้มากที่สุด
                “ลองเดาสิ ว่าพี่เรียนอะไร” พูดจบก็ทำหน้ากวนๆใส่ผม
                “ผมว่า น่าจะเรียนวิศวะ...ถูกปะพี่” ผมเดา และเงียบ เพื่อรอฟังคำตอบ
                พี่เทพทัต ใช้ตะเกียบคีบอาหารเข้าปาก และยกแก้วน้ำโค้กมาดื่ม มันทำให้ผมอยากจะกลายเป็นน้ำในแก้วนั้นเลยทีเดียว ผมอยากลิ้มลองรสริมฝีปากพี่เขาเหลือเกิน ...แต่ก็ต้องเก็บอาการเอาไว้....
                “ไม่ใช่ พี่เรียนทันตะ” พี่เทพทัตตอบ พลางยิ้มยียวนให้ผมแบบกวนๆ แต่ผมโคตรชอบเลย
                โห ทำไมพี่เขาเรียนเก่งจัง..เรียนทันตแพทย์ด้วย...

                ทั้งหล่อ ทั้งเรียนเก่งแบบนี้ ...เสร็จผมแน่...
                “งั้นผมต้องเรียกพี่หมอ...แล้วอ่าดิเนี่ย” ผมแซวพี่เขา
                “แล้วเคล่ะ อยากเรียนอะไร อ้วนๆแบบนี้” นั่นไง ถามกู แล้วยังแอบด่ากูอีก
                “อ้วนอะไรพี่ ผมแค่น้ำหนักเกิน” ผมพยายามพูดให้เข้าข้างตัวเองมากที่สุด
                “ตอบพี่ก่อนดิ”
                นั่นไง ดูอยากรู้เรื่องของเราด้วย
                “ยังไม่คิดเลยพี่ เข้าทันตแพทย์แบบพี่ได้ไหม แต่คะแนนสูงมากเลยนะพี่” ผมพูดจบ ก็ถอนหายใจยาว เพราะคะแนนสอบเข้ามหาวิทยาลัยคณะทันตแพทย์เป็นคณะที่มีคะแนนสูงที่สุดเมื่อปีที่ผ่านมา หรือแทบจะทุกปี
                “ลองพยายามก่อนดิวะ” พี่เทพทัตให้กำลังใจ ซึ่งคำพูดของพี่เขา ทำให้ผมยิ้มได้
                สักพัก ก็มีใครบางคนเดินเข้ามาหาพี่เทพทัต เขาเป็นผู้ชาย ผิวเข้มๆ จมูกโด่ง คิ้วเข้มมาก หล่อไปอีกแบบ เสื้อยืดบางๆของพี่เขา ทำให้ผมสังเกตหุ่นล่ำๆได้ ซึ่งผมขอเดาว่า น่าจะเป็นเพื่อนพี่เขา ...ซึ่งผมก็เดาไม่ผิดจริงๆ...
                “นี่น้องกู พึ่งย้ายมาอยู่บ้านกู” พี่เทพทัตแนะนำผมให้เพื่อนเขารู้จัก
                “สวัสดีครับ” ผมไหว้พี่เขา แล้วพี่เขาก็รับไหว้ผม
                “นี่พี่เข้มนะ เพื่อนพี่เอง สนิทกันมาตั้งแต่เด็กๆแล้ว” พี่เทพทัตแนะนำให้ผมรู้จัก
                ซึ่ง ‘พี่เข้ม’ นี่หล่อเข้มสมชื่อเลยทีเดียว ..พี่เขายักคิ้วให้ผม จนผมรู้สึกแปลกๆกับพี่เขา มันเป็นความรู้สึกเหมือนกำลังโดนพี่เขาจีบ
                “มึงมีน้องชายกี่คนวะ กูรู้จักแต่ไอ้ไทน์” พี่เข้มถาม พลางหน้านิ่วคิ้วขมวด
                “นี่ลูก ..เพื่อนสนิทแม่กู”
                “เฮ้ย! แบบนี้ ระวังมึงตกเป็นของน้องเขานะโว้ย” พี่เข้มขำ

                ผลั๊วะ!
                นี่แน่ะ!
                “กูเจ็บนะโว้ย” พี่เข้มโอดครวญ เพราะโดนพี่เทพทัต ตบหัวเข้าไปอย่างแรง
                “ก็ดูมึงพูด กูไม่ถีบก็ดีเท่าไรแล้ววะ”
                เดี๋ยวสักวันพี่จะเป็นของผม พี่เทพทัตสุดหล่อ ...
                ผมคิดในใจ พลางก็แอบขำไปตามคำพูดของหนุ่มวัย 19 ปี อย่างพี่เข้ม ...ก็ถ้าผมอยากได้อะไรแล้ว ผมคงต้องพยายามให้ถึงที่สุดเพื่อจะได้ครอบครองหัวใจพี่เขาให้ได้สักวัน แม้ตอนนี้ผมคิดว่าผมไม่มีอะไรน่าสนใจเลยก็ตาม...ทั้งรูปร่างหน้าตา..ผมก็ยิ่งติดลบ คงมีคนหน้าตาดีน้อยคนที่จะมาหลงรักคนอ้วนๆแบบผม       
               
               
               
               

               
               
               
               
               
               
               
               
 
               

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา