mask of fetish : หน้ากากแห่งความใคร่

7.0

เขียนโดย Ebonyz

วันที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2562 เวลา 09.53 น.

  15 ตอน
  0 วิจารณ์
  16.08K อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

6) การรับน้องที่น่าอับอาย (ตอนต่อ)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

กุญแจมือเด็กเล่นถูกสวมเข้าที่ข้อมือของต้น กับคนที่เป็นคิง ทั้งคู่ยืนเขินๆ ต่อกัน ก่อนที่คนที่เป็นคิงจะเอ่ยขึ้นก่อน

“สวัสดีนะ เราอยู่ ม.5 เหมือนกัน ชื่อ เก่ง”

“สวัสดีครับชื่อต้นครับ” แป้งบนตัวต้นร่วงโปรยปรายทั้งตอนที่เขาพูดและขยับตัว เขาจึงไม่ค่อยอยากขยับตัวเท่าไหร่ ภายใต้กางเกงในต้นรู้สึกได้ถึงน้ำเหนียวๆ และแป้งบางส่วนที่เริ่มแข็งตัว

ขบวนของน้องใหม่ตั้งขึ้นอีกครั้ง โดยมีคิงและควีนนำขบวน เป็นภาพที่แปลกตา เพราะเมื่อมองไกลๆ จะเห็นเป็นคนที่สวมมงกุฎใส่ผ้าคลุมสีแดง มีข้อมือเชื่อมกับอีกคนที่ตัวขาวโพลน ยกทรงและกางเกงในสีชมพูสะท้อนแสงเห็นเด่นไปไกล

“ขอ ทหาร ป้องกันขบวนสี่คน และนี่คือกุญแจที่ใช้ไขกุญแจมือได้ กติกาในการเล่นเกมของวันนี้ คือ เหล่าทหารต้องคุ้มกันกลุ่มของตนเอง เพราะทหารจะไม่สามารถถูกจับได้ จึงมีหน้าที่ในการป้องกันกลุ่มโดยเฉพาะ คิง และควีน”

“กุญแจที่ให้ไปสามารถไขกุญแจมือได้ทุกอัน เมื่อได้โอกาสให้คนที่ถือกุญแจ แอบลอบเข้าไปไขกุญแจมือ หรือ จับคนในกลุ่มอื่นเอามาเป็นเชลยในกลุ่มของตัวเองได้ ซึ่งจะได้คะแนนเพิ่ม ยิ่งจับคิงหรือควีนได้ จะยิ่งได้คะแนนเพิ่มเป็นสองเท่า”

“หากเราจะเชลยมาได้ นอกจากจะได้คะแนนแล้ว ทุกๆ ฐานที่มีบทลงโทษ เราสามารถให้เชลยเป็นคนโดนลงโทษแทนได้ เพราะฉะนั้น น้องๆ ต้องรักษาตัวเอง จนทำกิจกรรมครบทั้ง 6 ฐานในตอนบ่ายนี้นะครับ”

“แล้วเจอกันตอนรวมคะแนนตอนเย็น ขอให้ทุกคนโชคดี”

สมาชิกในกลุ่มคนที่ได้เป็นทหาร รับหมวกจากรุ่นพี่มาใส่เพื่อแสดงตัว ส่วนรุ่นน้องที่ชื่อเอกรับอาสาเป็นคนดูแลกุญแจ พร้อมกับบอกให้เชื่อใจเขาได้ เพราะเขามีความรวดเร็ว และแข็งแรงเนื่องจากว่าเป็นนักเรียนทุนกีฬา

“เราวางแผนกันสักหน่อยไหม พอมีเวลาอยู่” เก่งหันมาคุยกับสมาชิกอีก 16 คน

“รุ่นพี่บอกว่า ตัวของคิงจะมีดาบ ที่เอาไว้ตีให้หยุดได้ คนที่โดนดาบเตะต้องหยุดตามกติกา ส่วนทหาร สามารถจับให้คนหยุดได้สองคน เท่ากับว่า ตอนที่เราเจอะกลุ่มของศัตรู ถ้าคิงไม่ลงไปทุบเอง ทหารของกลุ่มเราจะหยุดคนกลุ่มอื่นได้แปดคน ที่เหลือก็ต้องป้องกันกันเอง”

“เพราะฉะนั้น สำคัญที่สุดคือคุ้มกันต้น เพราะเรายังสามารถหยุดได้ แต่ต้นที่เป็นควีนไม่มีอาวุธป้องกันตัว แถมยังให้แต้มเป็นสองเท่าด้วย” เพื่อนหลายๆ คนพยักหน้าตาม

“แต่คนอื่นก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะฉะนั้น คนที่เป็นทหาร ต้องพยายามหยุดทหารฝ่ายศัตรูไว้ให้ได้ ส่วนเราจะเข้าไปหยุดคนที่สำคัญของอีกกลุ่มหนึ่ง และคุ้มกันต้นไปในตัว”

“ลืมบอกไปว่าผมฟันดาบเป็นอยู่นะครับ” เขาพูดพร้อมกับยิ้ม

“ตกลงตามนี้นะทุกคน” ทุกคนในกลุ่มพยักหน้าโดยพร้อมเพรียง

รุ่นพี่ให้แผนที่มา เพื่อที่จะบอกถึงเส้นทางที่จะมุ่งไปยังฐานต่อไป หลังจากลงความเห็นกันแล้วทั้งกลุ่มเห็นว่า เดินเส้นทางที่อ้อมหน่อยแต่ไม่น่าจะเจอใครปลอดภัยที่สุด

กลุ่มของต้นเดินอ้อมไปทางด้านหลังของอาคารแห่งหนึ่ง ที่นี่ไม่ค่อยมีคน ซึ่งทำให้ต้นค่อนข้างรู้สึกผ่อนคลายได้บ้าง เพราะตอนนี้เขาเริ่มชินกับกลุ่มนี้แล้ว เพราะแต่ละคนก็ไม่ได้แสดงออกว่าต้นแปลกเหมือนในช่วงแรกๆ และเหมือนกับว่าหลังจากที่ฉี่เหนียวๆ ทะลักออกมา ต้นก็รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นกว่าเดิมเสียด้วยซ้ำ แม้จะเสียวเท่าเดิม แต่ต้นก็เคลื่อนตัวได้อย่างกระฉับกระเฉงมากขึ้น

เสียงอึกทึกดังมาจากหน้าตึกหลังเดียวกัน คาดว่าน่าจะมีสองกลุ่มที่บังเอิญมาเจอกันระหว่างทางแล้ว

“เราจะพยายาม เลี่ยงไม่เจอใครให้มากที่สุด รีบจบภารกิจในแต่ละฐานให้เร็ว ต้นจะได้ไปเปลี่ยนชุดนี้ออก” เก่งหันมาคุยกับต้นด้วยเสียงค่อยระหว่างที่เดินไปด้วย

“ขอบคุณนะเก่ง แต่ว่าไม่ต้องรีบมากก็ได้ ตามกิจกรรมไปเถอะ เราโอเคอยู่” จบประโยคต้นเหมือนจะคิดอะไรบางอย่างได้ จากสีหน้าของเก่งที่เปลี่ยนไป

“อะ..เอ่อ ไม่ได้หมายความว่าเราโอเคที่จะอยู่ในสภาพนี้หรอกนะ แต่โอเคหมายถึงว่ายังทนได้ ไม่อยากเป็นภาระของทีมน่ะ” ต้นรีบละล่ำละลักแก้ต่าง

 

เสียงเอะอะโวยวายเงียบลงไปแล้ว กลุ่มของต้นเคลื่อนขบวนไปจนถึง ฐานต่อไปโดยยังไม่พบเจอกลุ่มอื่น

ที่นี่มีรุ่นพี่กำลังรออยู่เช่นเดียวกัน โดยที่รุ่นพี่ประจำฐานนี้ มีอยู่ถึง 6 คน และมีหนึ่งในนั้นแต่งเครื่องแบบนักเรียนหญิง แต่พอดูออกว่ารูปร่างยังมีความเป็นชายอยู่บ้างด้วยหัวไหล่ที่กว้างแต่เมคอัพบางๆ ก็ทำให้เขาดูกลมกลืนไปกับชุดที่ใส่

“สวัสดีครับน้องๆ ฐานนี้ชื่อว่าฐาน วิ่งเปี้ยวซูเปอร์แมน กติกาในการชนะฐานมีดังนี้ครับ เราจะมีธงห่างกัน 70 เมตร น้องจะต้องแบ่งกันออกเป็นสองทีม เพื่อแข่งกันเอง โดยเมื่อพูดถึงซูเปอร์แมนน้องนึกถึงอะไรครับ”

“กางเกงในสีแดง”

“ถูกต้องนะคร้าบบ” รุ่นพี่หยิบกางเกงในผู้หญิงเต็มตัวสีแดงออกมาสองตัว

“กติกาคือ เมื่อนกหวีดดังขึ้น คนแรกของแถวจะต้องหยิบกางเกงในไปใส่ ใส่แล้วไปวิ่งอ้อมธง กลับมาเอากางเกงในส่งต่อให้เพื่อน ใครวิ่งเข้าเส้นชัยครบทุกคนก่อน ทีมนั้นชนะไปเลย เมื่อทำสำเร็จก็จะผ่านฐานนี้ไปได้ แต่เนื่องจากแข่งกันเองก็จะไม่มีการเสียคะแนนแต่อย่างใด แต่จะมีการลงโทษกันในกลุ่มเฉพาะกลุ่มที่แพ้เท่านั้นนะครับ”

“ซึ่งบทลงโทษง่ายมาก คนที่วิ่งช้าที่สุดของทีมแพ้ จะต้องใส่กางเกงในสองตัวนี้ทับไว้ด้านนอกชุดจนกว่าจะจบกิจกรรมนั่นเองครับ” บทลงโทษเรียกเสียงอื้ออึงให้เกิดขึ้นในกลุ่มทันที เพราะเป็นการลงโทษที่สุดแสนจะน่าอาย ยกเว้นแต่ต้นซึ่งก็ไม่ได้รู้สึกอับอายไปมากกว่าที่เป็นอยู่เท่าไหร่ แต่ถ้าจะให้ใส่เพิ่มอีกสองตัวต้นก็ไม่อยากเหมือนกัน แต่เขาจะวิ่งไหวไหมนะ เมื่อคิดได้ดังนี้ช่วงล่างที่สงบไปแล้วของต้นกลับแข็งขึ้นมาอีกครั้ง สร้างความตกใจให้กับต้นมาก ทำไมเขาถึงมีอารมณ์กับเรื่องแบบนี้ขึ้นมาได้

 

ทั้งกลุ่มแบ่งตามกลุ่มเดิมของตัวเอง แปดคนเหมือนเดิม กุญแจมือถูกไขออกเพราะต้นกับเก่งอยู่คนละกลุ่มตั้งแต่แรก และทั้งสองคนเป็นคนสุดท้ายของทั้งสองแถว

เก่ง หันมาขยับปากให้ต้นเห็นเป็นคำพูดว่า “เดี๋ยวจะอ่อนให้นะ” กับต้น ก่อนที่สัญญาณนกหวีดจะดังขึ้นและคนแรกของแถวหยิบกางเกงในมาใส่และวิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว เอกเป็นคนแรกและเขาได้พิสูจน์ทักษะทางด้านร่างกาย เขาวิ่งนำคู่แข่งถึงสามช่วงตัวและวิ่งกลับมาเปลี่ยนเพื่อนอย่างรวดเร็ว

แม้ว่าคนแรกจะทำเวลาเร็วมาก แต่คนต่อมากลับช้าลงอย่างเห็นได้ชัด กลุ่มของเก่งค่อยๆ ลดจำนวนลงห่างจากกลุ่มต้นไปเรื่อยๆ จนกระทั่งมาถึงคิวของเก่ง ก็ยังมีคนอยู่ด้านหน้าต้นอีกตั้งสองคน แม้จะดูคับขัน แต่ต้นก็รู้สึกได้ว่าเขานั้นตื่นเต้นเป็นอย่างมาก และน้องน้อยด้านล่างก็แข็งขันขึ้นมาเบียดกับเม็ดแป้งและแรงกดจากกางเกงเช่นเดียวกัน ความหน่วงเริ่มก่อตัวขึ้นทีละน้อย

แม้ว่าเก่งจะจงใจวิ่งให้ช้าลงอย่างเห็นได้ชัด จนแทบจะเรียกว่าเดิน ฝั่งต้นก็ยังช้ากว่า จนมาถึงคิวของต้น ต้นรับกางเกงในสีแดงสดมาใส่ ขณะกำลังจะออกวิ่งความเสียวก็พุ่งขึ้นมาอีกครั้ง ทำให้ต้นต้องพยายามหนีบขา และตอนที่เขาวิ่งไปได้ครึ่งทาง เก่งก็เข้าเส้นชัยไปเรียบร้อย

แน่นอนว่ากางเกงในทั้งสองตัว ก็ขึ้นมาสวมอยู่บนตัวของต้นอีกครั้ง หลังจากต้นเข้าเส้นชัย อาการหน่วงและเสียวก็กลับมาด้วยเช่นกัน

รุ่นพี่สรุปกิจกรรมเล็กน้อย ก่อนที่จะให้คะแนนและปล่อยให้เคลื่อนขบวนไปฐานต่อไป

“ขอโทษนะ” เก่งหันมาพูดกับต้นขณะเดินคู่กัน

“มะ..ไม่เป็นไรหรอก” ต้นรู้สึกยากที่จะบรรยาย เพราะการเป็นห่วงของเพื่อนทำให้เขารู้สึกแปลกๆ เหมือนกัน

“มีศัตรู” เสียงตะโกนดังขึ้นมาจากด้านหลัง และทั้งกลุ่มก็พบว่า มีขบวนอีกขบวนหนึ่งมาจากทางด้านหลัง ทั้งคิงและควีนของอีกกลุ่ม วิ่งนำขบวนเข้ามาประชิดอย่างรวดเร็ว แม้จะเป็นควีน แต่ชุดของอีกกลุ่มกลับเป็นเสื้อยืดสีหวานแหวว กับกระโปรงสั้นเต่อเพียงเท่านั้น ทั้งสองกลุ่มเข้าปะทะกันอย่างรวดเร็ว

การทำงานของคิงและควีนอีกกลุ่มเข้าขากันอย่างน่ากลัว เพียงชั่วครู่ คิงก็ไล่ฟาดดาบใส่คนในกลุ่มไปหลายคน คนที่โดนตีก็ต้องยืนนิ่งตามกติกา ส่วนทหารทั้งสี่ ก็ต่างจับกันแบบตัวต่อตัวทำให้ไม่สามารถขยับได้ สถานการณ์ในตอนนี้ จึงเป็นต้นกับเก่ง ถูกล้อมไปด้วยสมาชิกของอีกกลุ่มนับสิบ พร้อมประจันหน้ากับคิงและควีนของอีกฝั่ง

ต้นเห็นเอก แวบๆ เขาอยู่ห่างๆ รอทีท่าที่จะปลดกุญแจและจับควีนของอีกฝั่งเป็นตัวประกัน

เก่งเริ่มโชว์ทักษะนักดาบ โดยการใช้แขนอย่างคล่องแคล่ว แม้จะใช้ได้แต่แขนซ้าย แต่เขาก็ยังปัดป้องได้เป็นอย่างดี ต้นถูกลากไปรอบๆ ด้วย เมื่อประเมินจากจำนวนคน ต้นคิดว่าไม่น่าจะชนะได้ เพราะคนที่เหลือหากเข้ามารุม ต่อให้เก่งเทพแค่ไหนก็คงดิ้นไม่ออก

“นายคงไม่ชนะหรอก เรายื่นข้อเสนอ ไม่เอาเชลยคนอื่น ขอแค่ควีนคนเดียวละกัน”

“ถึงจะเอาเฉลย แต่ฉันไปถามรุ่นพี่มาแล้ว ว่าเอาเชลยเต็มที่ได้ไม่เกินสามคน แต่ควีนเป็นคะแนนสองเท่า ฉันว่าฉันเก็บควีนไว้ดีกว่า”

“งั้นก็มาลองสักตั้ง”

ทั้งสองผลัดกันสะบัดดาบ และต่างคนต่างหลบโดยไม่มีคนเพลี่ยงพล้ำ ฝ่ายเอกเมื่อได้จังหวะ เขาก็วิ่งพุ่งเข้าหาควีนของอีกฝั่งอย่างรวดเร็ว ก่อนที่เอกจะรวบตัวควีนของอีกฝั่ง ดาบของคิงก็ฟาดเข้าที่กกหูของเอกเสียก่อนส่งผให้ตัวคนพุ่งล้มกลิ้งไม่เป็นท่า

“โอย วิ้งเลยเชียว” เอกครางบนพื้น

“พอแล้วๆ” ต้นดึงแขนให้เก่งหยุด

“เดี๋ยวผมยอมเป็นเชลยเอง เดี๋ยวมันจะเจ็บตัวกันไปมากกว่านี้” ต้นพูดขึ้น เพราะคำนึงถึงความอันตรายที่จะเกิด จะจากสภาพของเก่งและเอก ที่ตอนนี้เอกกำลังนอนนับดาว และทั้งแขนของต้นกับเก่ง มีรอยขีดข่วนจากกุญแจมือเต็มไปหมด

เมื่อเก่งเห็นดังนั้นจึงหยุดแต่โดยดี

“เอาล่ะต้องทำยังไงต่อ”

กุญแจมือถูกไขออกจากแขนเอก และใส่ลงไปบนแขนที่เหลือของต้น กลายเป็นว่าต้นมีสภาพคล้ายกับนักโทษที่โดนล็อกกุญแจมือ

“ทีมที่แพ้ต้องอยู่รอ 10 นาที ก่อนที่จะออกเดินทางได้อีกครั้ง”

“เราขอควีนกับคะแนนไปก่อนละนะ” คิงของอีกฝั่งหันมาบอกกับกลุ่มเก่ง

“รออีกแป๊บเดี๋ยวพวกเราจะตามพวกแกให้ทัน” เอกที่ลุกขึ้นมาได้ พูดขึ้นมา ก่อนที่จะคลำไปที่กกหูเบาๆ เพราะอาการเจ็บยังไม่หาย

 

ควีนของอีกฝั่งถอดชุดที่เป็นเสื้อกับกระโปรงสีหวานแหววของมา และยื่นให้ต้น

“อะไรน่ะ”

“เธอเป็นเชลยไง เราสามารถลงโทษเชลย หรือให้เชลยรับการลงโทษแทนได้ ตอนนี้เธอก็ใส่ชุดควีนของกลุ่มนี้แทนไปก่อน” ควีนของอีกฝั่งบอก

ต้นรับชุดมาใส่ด้วยความอับอายเป็นสองเท่าจากของเดิม เพราะคราวนี้เขาต้องเดินไปกับกลุ่มใหม่ เขาสวมชุดด้วยมือที่สั่นเท่า เมื่อใส่เสร็จทหารของอีกฝั่งก็เข้ามาจูงกุญแจมือของต้น

“เอาล่ะออกเดินทางกันได้”

กลุ่มที่ชนะก็ออกเดินต่อ ปล่อยให้ทีมที่แพ้นั่งรอเวลาจนกว่าจะครบกำหนด ไปพร้อมๆ กับเชลยคนล่าสุดในกระโปรงสีชมพูที่เดินบิดซ้ายบิดขวาด้วยความเขินอาย ซึ่งไม่มีใครรู้เลยว่า ภายในของต้นที่ตั้งชูชันมีน้ำไหลซึมออกมาอีกครั้งแล้ว

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา