เซนต์เซย่า ภาคนักรบคนสุดท้าย Saint Seiya The Last Hope
9.3
เขียนโดย Jalando
วันที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 เวลา 23.54 น.
26 ตอน
53 วิจารณ์
27.09K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 22 เมษายน พ.ศ. 2566 11.38 น. โดย เจ้าของนิยาย
5) แรงโทสะของหัวโจก
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ“ อึก…..” กล้าพูดไม่ออก และแทบจะสำลักน้ำเปล่าที่เพิ่งดื่ม แต่สุดท้าย เขาก็ปรับอารมณ์เป็นปกติ แล้วถามกลับ
“ เอ่อ….อัยย์สตรีมเกมเล่น ROV ด้วยหรือ เราเพิ่งรู้นะเนี่ย ”
สาวน้อยจ้องมองตาไม่กะพริบ ประมาณว่าจะพยายามจับโกหก แต่จนแล้วจนรอด เธอก็ไม่เห็นพิรุธ เพราะตามปกติ อ้วนแหยก็ดูไม่ค่อยมั่นใจในตัวเองอยู่แล้ว
“ อืม…..”
เมื่อกล้าเห็นว่าบรรยากาศเริ่มดูแปลกๆ และกดดันกว่าปกติ เขาจึงเบี่ยงเบนประเด็น
“ เอ่อ….จะว่าไป ขอบคุณนะที่ชวนเรามากินไอติม ”
“ เอ….ไม่เห็นต้องขอบคุณเลย ก็เราเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่ชั้นอนุบาลนี่นา การมาเอ็นจอยกันแบบนี้ ถือเป็นเรื่องปกติที่ใครๆก็ทำ ” อัยย์แปลกใจ แต่ประโยคนั้นกลับทำให้กล้าซึ้งใจจนก้มหน้านิ่ง น้ำใสๆเริ่มคลอที่ขอบตา
“ ขะ…ขอบคุณนะ ขอบคุณมาก ”
อัยย์เริ่มสงสารหนุ่มนายนี้จับจิต เธอไม่เข้าใจเลยจริงๆว่าทำไม เพื่อนในห้องถึงได้เมินกล้า ทั้งที่เขาก็ดูเป็นคนดี จึงยื่นมือไปกุมกำปั้นอวบอ้วน พร้อมพยายามปลุกปลอบ
“ ไม่เป็นไร ที่เพื่อนในห้องไม่ค่อยสนใจกล้า อาจเป็นเพราะเธอปิดกั้นตัวเอง ไม่เข้าหาใคร ถ้าลองเปิดอก คุยกับใครซักคน บางทีทุกคนอาจจะดีกับเธอ ”
“ คะ…ครับ ” กล้ารู้สึกดีขึ้นมาทันตา เพราะนี่ก็นานมาแล้วที่ไม่มีใครพูดคุยกับเขาแบบนี้ แถมคนผู้นั้นยังเป็นสาวน้อยที่แอบชอบมาตั้งแต่อนุบาล จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่หนุ่มร่างสมบูรณ์จะก้มหน้านิ่ง ด้วยอาการเขินอาย
“ ดังนั้น กล้าเลิกร้องไห้ แล้วมาสนุกกับการกินไอติมดีกว่า เพราะอัยย์จะคอยอยู่เคียงข้างเธอเอง ” เด็กสาวยื่นมือมาลูบศีรษะของกล้า แล้วปลอบโยนด้วยเสียงที่อบอุ่น ทำให้หนุ่มร่างสมบูรณ์ถึงกับไม่เป็น ปากก็ตอบรับได้เพียงคำเดียว นั่นก็คือ….
“ ครับ ”
………………….
“ กรี๊ด…..สองคนนี่เป็นแฟนกันแน่ๆ มีลูบหัวให้กันด้วย ”
“ ตายแล้ว อกอีแป้นจะแตก เดี๊ยนรับไม่ได้ ”
“ นั่นสินะ นับเป็นคู่แปลกแห่งยุค เพราะพวกเขาดูต่างกันเหลือเกิน ”
สารพันคำนินทาออกมาจากปากของกลุ่มสาวแท้ สาวเทียมที่นั่งโต๊ะข้างๆ เพราะพวกเขาเห็นว่ารูปลักษณ์ของทั้งสองแตกต่างกันเกินไป ไม่น่าจะมาคบกันได้ ทว่ากลับมีเด็กสาวอีกนางที่นั่งพิจารณาอยู่เงียบๆ ท่าทางสุขุมเกินวัย ไม่นาน เธอก็กล่าวแย้งด้วยเสียงกระซิบ
“ แต่ชั้นคิดว่า….พวกเขาเหมาะสมกัน ”
“ หา……เธอว่าไงนะ ” สมาชิกทุกคนร้องเหวอพร้อมกัน เพราะไม่คิดว่าจะได้ยินคำนี้ ร้อนถึงเด็กสาวผู้สุขุม ต้องรีบแจกแจง
“ ชู่ว…อย่าเสียงดัง ส่วนสาเหตุที่คิดว่าพวกเขาเหมาะสมกัน ก็คือ….” พอพูดจบ เด็กสาวผู้สุขุมก็หันไปมองกล้า แล้วกล่าวกับเพื่อนๆ
“ แม้ตานั่นจะอ้วน แถมดูอ่อนแอ ไม่มั่นใจในตัวเอง แต่ถ้ารีดน้ำหนักออก แล้วแต่งตัว ปรับบุคลิกซักหน่อย เชื่อว่าเคป็อบยังต้องอาย ”
ทันทีที่เด็กสาวผู้สุขุมพูดจบ กลุ่มเพื่อนก็พากันชำเลืองไปยังกล้า และหลังจากพิจารณาอย่างละเอียด มุมมองของพวกเขาก็เริ่มเปลี่ยนไป
“ เออ…จริงแฮะ ตานี่ก็มีเค้าหล่ออยู่เหมือนกัน แต่ต้องรีดไขมันออกอีกหลายกิโล แถมยังต้องเปลี่ยนทรงผมเห่ยๆของตัวเอง แล้วก็…….อื่นๆอีกมากมาย ”
“ โห…..แต่มันก็ยังต้องปรับปรุงอีกหลายกระบวน ไม่รู้ว่ายัยตัวเล็กนั่นทนอยู่กับตาเฉิ่มได้ยังไง ”
“ นั่นสิ เป็นชั้น เผ่นหนีตั้งแต่ชั่วโมงแรกที่เดทกันแล้ว ” สาวเทียมผู้มากด้วยจริต เบะปาก ประมาณว่ารังเกียจ
แม้เพื่อนฝูงในกลุ่มจะสนุกกับการวิพากษ์วิจารณ์ต่อ แต่เด็กสาวผู้สุขุมยังคงนั่งพิจารณากล้าอยู่เงียบๆ ไม่นาน เธอก็พึมพำเบาๆ ประสงค์ให้ได้ยินแค่ตัวเอง
“ นอกจากนี้ นายอ้วนยังดูไม่ธรรมดา สังเกตได้จากประกายตาที่แวววาว คล้ายมีบางสิ่งซ่อนอยู่ภายใน และถ้าเขาดึงสิ่งนั้นออกมาได้ ต้องกลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่แน่ๆ ”
………………..
(ตัดกลับมาที่กล้าและอัยย์)
ทันทีที่มือบางของเด็กสาวสัมผัสศีรษะ หนุ่มร่างสมบูรณ์ก็สะดุ้งสุดตัว ทำให้อีกฝ่ายตกใจตาม
“ เอ่อ….ขะ…ขอโทษ เราไม่ได้ตั้งใจ ” อัยย์กล่าวเบาๆ พร้อมก้มหน้าที่แดงก่ำลงเล็กน้อย ในใจนึกตำหนิตัวเองที่เผลอทำอะไรแบบนั้น
“ มะ…ไม่เป็นอะไร ระ…เราผิดเองทะ…ที่ขี้กลัวเกินไป ” อ้วนแหยกล่าวตะกุกตะกัก ท่าทางสำนึกผิด
ด้วยความที่ทั้งคู่ไม่เชี่ยวชาญเรื่องเพศตรงข้าม จึงได้แต่นั่งนิ่ง ต่างคนต่างก้มหน้ากินไอติม บรรยากาศเลยกลายเป็นเงียบกริบ
ขณะนั้นเอง กลุ่มอันธพาลประจำห้องเรียนก็ปรากฏ นั่นก็คือ “ตุ่ม” และสมุนคู่ใจสองนาย แน่นอนว่าหนึ่งในลิ่วล้อเป็นฝ่ายเห็นกล้าและอัยย์ก่อน จึงชี้ให้ลูกพี่ใหญ่ดู
“ เฮ้ย! นั่นไอ้อ้วนแหยนี่หว่า ทำไมมันถึงได้มากินไอติมในร้านโปรดของพวกสาวๆ แถมควงหญิงมาด้วย ”
“ เอ๊ะ! นั่นมัน ยัยอัยย์ สาวสวยประจำห้องเรานี่นา เป็นไปได้ยังไง ดาวระดับเธอไม่น่าลดตัวมากินไอติมกับไอ้อ้วนแหย ” สมุนอีกนายที่ตาดี ร้องขึ้นมาบ้าง สีหน้าแฝงแววเหลือเชื่อ
“ นั่นน่ะสิ ทำไมนังคนสวยนั่นถึงได้ตาต่ำแบบนี้ มิน่า ลูกพี่ชวนเดทที่ไร ถึงได้ปฏิเสธทุกที เพราะยัยนั่นมีรสนิยมแบบนี้นี่เอง ” สมุนคนแรกเข้าใจทันที พร้อมตอกย้ำปมด้อยของหัวโจก ที่ยืนกัดฟันอยู่ไม่ห่าง
ตุ่มฉุนถึงขีดสุด เพราะเขาเป็นอีกคนที่หมายปองอัยย์ และพยายามตามตื้อมาแรมปี แต่เจ้าหล่อนก็เมินเฉยตลอด ซ้ำร้ายกว่านั้น เธอกลับมาขลุกอยู่กับไอ้คนที่เขาคิดว่าต่ำต้อยที่สุด ทำให้รับไม่ได้อย่างแรง จึงระบายโทสะกับสมุนที่อยู่ใกล้มือ
“ หุบปากโว้ย…..”
“ โป้ก….”
“ โอ๊ย….” สมุนผู้เคราะห์ร้ายร้องโอดโอย พร้อมยกสองมือขึ้นกุมศีรษะที่ถูกเขก ส่วนตุ่มมองไปที่สองหนุ่มสาว ดวงตาแลแข็งกร้าว ด้วยอารมณ์โกรธเกรี้ยว และเมื่อแรงพยาบาททะยานถึงขีดสุด วายร้ายประจำห้องก็ตรงดิ่งเข้าไปหา ก่อนจะโวยวายตามสันดาน
“ เฮ้ย! ไอ้อ้วนแหย มึงมาแดกไอติมที่นี่หรือวะ ”
กล้าสะดุ้งโหยง เพราะจำเสียงนี้ได้เป็นอย่างดี และพอหันไปเห็นรูปโฉมของบุคคลผู้มาเยือน ดวงตาก็เบิกโพลง ด้วยความหวาดกลัว
“ ตะ…ตุ่ม….”
อัยย์ไม่ค่อยชอบใจ เพราะตุ่มคือหนึ่งในหนุ่มที่คอยมาแจกขนมจีบ แต่เธอไม่นึกพิศวาสเลยซักนิด เนื่องจากนายคนนี้ชอบทำตัวเป็นนักเลงหัวไม้ เลยเบือนหน้าหนี หัวโจกจึงขบกรามแน่น พร้อมคุกคามด้วยวาจา
“ อ้าว….นึกว่าใคร อัยย์นี่เอง ทำไมถึงเปลี่ยนรสนิยมมาชอบคนห่วยๆอย่างไอ้หมอนี่ ”
คำดูถูกของตุ่ม ทำให้อัยย์รู้สึกโกรธแทน ทั้งที่ผู้ถูกพาดพิง ได้แต่นั่งตัวสั่นงันงก เธอจึงสวนกลับทันควัน
“ ชั้นจะชอบใครหรืออะไร แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเธอ ”
“ หึ หึ หึ มันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับชั้นหรอก ” ตุ่มหัวเราะเหี้ยมๆ ดวงตาอาฆาตเหลือบมองไปที่สองหนุ่มสาว ทำเอาเหล่าลูกสมุนและกล้าขนลุกไปตามๆกัน เพราะรู้ดีว่า….ถ้าหัวโจกมีรีแอคชั่นแบบนี้เมื่อไหร่ เป็นอันต้องเลือดสาดทุกที ทว่าอัยย์ไม่รู้พิษสง เลยต่อปากต่อคำอีกหนึ่งชุดใหญ่
“ ถ้าไม่มีธุระอะไรแล้ว ช่วยหายตัวไปด้วย เพราะชั้นและกล้าไม่ต้อนรับคนอย่างเธอ ”
“ เพลี้ย….”
อัยย์ถึงกับหน้าสะบัด เพราะถูกตุ่มตบเข้าไปฉาดใหญ่ และด้วยแรงฝ่ามือของหัวโจกร่างล่ำ ทำให้เด็กสาวล้มลงไปนั่งพับเพียบบนพื้น
“ กรี๊ด…..ว้าย…..ช่วยด้วย มีคนทำร้ายร่างกาย ” เสียงเอะอะโวยวายดังผสานเสียงกรีดร้อง แต่ไม่มีใครยื่นมือเข้ามาช่วย เพราะคนส่วนใหญ่ในร้านเป็นพวกสาวๆ(ทั้งแท้และเทียม) คนเดียวที่เป็นเพศชายก็คือ….นายกล้า แต่แทนที่เขาจะเป็นเดือดเป็นร้อน กลับลุกขึ้นยืน เพื่อเข้าไปพยุงเด็กสาว
“ เอ่อ…..อัยย์เป็นอะไรมั้ย ”
“ มึงเงียบไปเลย ไอ้อ้วนแหย แล้วอยู่เฉยๆด้วย กูจะสั่งสอนนังผู้หญิงปากดีคนนี้ ” ก่อนที่กล้าจะถึงตัวของอัยย์ หัวโจกก็ชี้หน้าสั่ง
ด้วยท่าทีที่ดุดัน ทำให้กล้าชะงักงันอยู่กับที่ ทั่วกายสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว ทว่าอัยย์ ซึ่งเป็นเพียงเด็กสาวร่างบาง กลับไม่ยอมศิโรราบ
“ กล้าตบเด็กผู้หญิงเลยเหรอ คิดว่าแมนนักรึไง จำใส่หัวไว้ คนอย่างนายไม่เคยอยู่ในสายตาของชั้น ” พออัยย์พูดจบ ก็พุ่งเข้าบวก หมายจะตบ แต่ถูกตุ่มคว้าข้อมือขวาไว้ได้ทัน
“ เชอะ เป็นแค่ผู้หญิง จะทำอะไรได้ ” ตุ่มแสยะยิ้ม ดูเหมือนเขาจะสะใจนิดๆ ที่ได้รังแกเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ
“ เพลี้ย…..”
ด้วยความประมาท ตุ่มจึงโดนฝ่ามือซ้ายของอัยย์เข้าอย่างจัง ซึ่งก็แรงพอตัว เพราะถึงขั้นทำให้ใบหน้าของหัวโจกสะบัด
“ ฮึ่ม…..เธอต้องการแบบนี้ ใช่มั้ย ” แรงโทสะของตุ่มพุ่งทะยานอีกเท่าตัว และถ้าอัยย์เป็นชาย เขาสาบานว่า….เธอโดนหักแขนหักขาไปแล้ว หัวโจกจึงเปลี่ยนเป็นดึงร่างบางเข้ามากอด
“ โอ้ว…..ลูกพี่นี่แน่จริง กล้าทำแบบนี้ต่อหน้าธารกำนัล ” สองสมุนอ้าปากเหวอ แน่นอน กล้าเองก็ตกใจเช่นกัน ทว่าด้วยความกลัว จึงได้แต่ทำอะไรไม่ถูก
“ ปล่อยนะ ไอ้บ้า ไอ้ทุเรศ ” อัยย์ทั้งอึดอัดและรังเกียจ แถมอับอายเป็นที่สุด จึงยกสองแขนขึ้นผลักไสสลับตบข่วน แต่ก็ทำอะไรไอ้ถึกอย่างตุ่มไม่ได้
“ เหอ เหอ เหอ ดีดดิ้นเข้าไป อย่างเธอจะทำอะไรได้ ” อารมณ์ของตุ่มเริ่มเปลี่ยนหฤหื่น เพราะร่างของเด็กสาวที่อยู่ในอ้อมกอด ทั้งนิ่มนวลและหอมกรุ่น
เมื่ออัยย์จนมุม เธอจึงหันไปหาที่พึ่งสุดท้าย นั่นก็คือ…หนุ่มร่างสมบูรณ์
“ กล้าช่วยด้วย เราไม่ไหวแล้ว ”
พอได้ยินดังนั้น หนุ่มร่างท้วมก็เตรียมขยับเข้ามาช่วยตามสัญชาตญาณ แต่ก็หยุดอยู่กับที่โดยสมบูรณ์ เพราะถูกประกาศิตของตุ่มบงการ
“ อย่าเข้ามาเสือก ไอ้อ้วนแหย ผัวเมียเขาจะคุยกัน ”
สามารถติดตามงานเขียน ณ.ปัจจุบันและในอนาคตของผมได้ที่เพจ Jalando นักเขียนดาร์คไซด์ได้ที่ลิงค์ด้านล่างครับ
https://www.facebook.com/jalando.darksidewriter.version2
“ เอ่อ….อัยย์สตรีมเกมเล่น ROV ด้วยหรือ เราเพิ่งรู้นะเนี่ย ”
สาวน้อยจ้องมองตาไม่กะพริบ ประมาณว่าจะพยายามจับโกหก แต่จนแล้วจนรอด เธอก็ไม่เห็นพิรุธ เพราะตามปกติ อ้วนแหยก็ดูไม่ค่อยมั่นใจในตัวเองอยู่แล้ว
“ อืม…..”
เมื่อกล้าเห็นว่าบรรยากาศเริ่มดูแปลกๆ และกดดันกว่าปกติ เขาจึงเบี่ยงเบนประเด็น
“ เอ่อ….จะว่าไป ขอบคุณนะที่ชวนเรามากินไอติม ”
“ เอ….ไม่เห็นต้องขอบคุณเลย ก็เราเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่ชั้นอนุบาลนี่นา การมาเอ็นจอยกันแบบนี้ ถือเป็นเรื่องปกติที่ใครๆก็ทำ ” อัยย์แปลกใจ แต่ประโยคนั้นกลับทำให้กล้าซึ้งใจจนก้มหน้านิ่ง น้ำใสๆเริ่มคลอที่ขอบตา
“ ขะ…ขอบคุณนะ ขอบคุณมาก ”
อัยย์เริ่มสงสารหนุ่มนายนี้จับจิต เธอไม่เข้าใจเลยจริงๆว่าทำไม เพื่อนในห้องถึงได้เมินกล้า ทั้งที่เขาก็ดูเป็นคนดี จึงยื่นมือไปกุมกำปั้นอวบอ้วน พร้อมพยายามปลุกปลอบ
“ ไม่เป็นไร ที่เพื่อนในห้องไม่ค่อยสนใจกล้า อาจเป็นเพราะเธอปิดกั้นตัวเอง ไม่เข้าหาใคร ถ้าลองเปิดอก คุยกับใครซักคน บางทีทุกคนอาจจะดีกับเธอ ”
“ คะ…ครับ ” กล้ารู้สึกดีขึ้นมาทันตา เพราะนี่ก็นานมาแล้วที่ไม่มีใครพูดคุยกับเขาแบบนี้ แถมคนผู้นั้นยังเป็นสาวน้อยที่แอบชอบมาตั้งแต่อนุบาล จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่หนุ่มร่างสมบูรณ์จะก้มหน้านิ่ง ด้วยอาการเขินอาย
“ ดังนั้น กล้าเลิกร้องไห้ แล้วมาสนุกกับการกินไอติมดีกว่า เพราะอัยย์จะคอยอยู่เคียงข้างเธอเอง ” เด็กสาวยื่นมือมาลูบศีรษะของกล้า แล้วปลอบโยนด้วยเสียงที่อบอุ่น ทำให้หนุ่มร่างสมบูรณ์ถึงกับไม่เป็น ปากก็ตอบรับได้เพียงคำเดียว นั่นก็คือ….
“ ครับ ”
………………….
“ กรี๊ด…..สองคนนี่เป็นแฟนกันแน่ๆ มีลูบหัวให้กันด้วย ”
“ ตายแล้ว อกอีแป้นจะแตก เดี๊ยนรับไม่ได้ ”
“ นั่นสินะ นับเป็นคู่แปลกแห่งยุค เพราะพวกเขาดูต่างกันเหลือเกิน ”
สารพันคำนินทาออกมาจากปากของกลุ่มสาวแท้ สาวเทียมที่นั่งโต๊ะข้างๆ เพราะพวกเขาเห็นว่ารูปลักษณ์ของทั้งสองแตกต่างกันเกินไป ไม่น่าจะมาคบกันได้ ทว่ากลับมีเด็กสาวอีกนางที่นั่งพิจารณาอยู่เงียบๆ ท่าทางสุขุมเกินวัย ไม่นาน เธอก็กล่าวแย้งด้วยเสียงกระซิบ
“ แต่ชั้นคิดว่า….พวกเขาเหมาะสมกัน ”
“ หา……เธอว่าไงนะ ” สมาชิกทุกคนร้องเหวอพร้อมกัน เพราะไม่คิดว่าจะได้ยินคำนี้ ร้อนถึงเด็กสาวผู้สุขุม ต้องรีบแจกแจง
“ ชู่ว…อย่าเสียงดัง ส่วนสาเหตุที่คิดว่าพวกเขาเหมาะสมกัน ก็คือ….” พอพูดจบ เด็กสาวผู้สุขุมก็หันไปมองกล้า แล้วกล่าวกับเพื่อนๆ
“ แม้ตานั่นจะอ้วน แถมดูอ่อนแอ ไม่มั่นใจในตัวเอง แต่ถ้ารีดน้ำหนักออก แล้วแต่งตัว ปรับบุคลิกซักหน่อย เชื่อว่าเคป็อบยังต้องอาย ”
ทันทีที่เด็กสาวผู้สุขุมพูดจบ กลุ่มเพื่อนก็พากันชำเลืองไปยังกล้า และหลังจากพิจารณาอย่างละเอียด มุมมองของพวกเขาก็เริ่มเปลี่ยนไป
“ เออ…จริงแฮะ ตานี่ก็มีเค้าหล่ออยู่เหมือนกัน แต่ต้องรีดไขมันออกอีกหลายกิโล แถมยังต้องเปลี่ยนทรงผมเห่ยๆของตัวเอง แล้วก็…….อื่นๆอีกมากมาย ”
“ โห…..แต่มันก็ยังต้องปรับปรุงอีกหลายกระบวน ไม่รู้ว่ายัยตัวเล็กนั่นทนอยู่กับตาเฉิ่มได้ยังไง ”
“ นั่นสิ เป็นชั้น เผ่นหนีตั้งแต่ชั่วโมงแรกที่เดทกันแล้ว ” สาวเทียมผู้มากด้วยจริต เบะปาก ประมาณว่ารังเกียจ
แม้เพื่อนฝูงในกลุ่มจะสนุกกับการวิพากษ์วิจารณ์ต่อ แต่เด็กสาวผู้สุขุมยังคงนั่งพิจารณากล้าอยู่เงียบๆ ไม่นาน เธอก็พึมพำเบาๆ ประสงค์ให้ได้ยินแค่ตัวเอง
“ นอกจากนี้ นายอ้วนยังดูไม่ธรรมดา สังเกตได้จากประกายตาที่แวววาว คล้ายมีบางสิ่งซ่อนอยู่ภายใน และถ้าเขาดึงสิ่งนั้นออกมาได้ ต้องกลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่แน่ๆ ”
………………..
(ตัดกลับมาที่กล้าและอัยย์)
ทันทีที่มือบางของเด็กสาวสัมผัสศีรษะ หนุ่มร่างสมบูรณ์ก็สะดุ้งสุดตัว ทำให้อีกฝ่ายตกใจตาม
“ เอ่อ….ขะ…ขอโทษ เราไม่ได้ตั้งใจ ” อัยย์กล่าวเบาๆ พร้อมก้มหน้าที่แดงก่ำลงเล็กน้อย ในใจนึกตำหนิตัวเองที่เผลอทำอะไรแบบนั้น
“ มะ…ไม่เป็นอะไร ระ…เราผิดเองทะ…ที่ขี้กลัวเกินไป ” อ้วนแหยกล่าวตะกุกตะกัก ท่าทางสำนึกผิด
ด้วยความที่ทั้งคู่ไม่เชี่ยวชาญเรื่องเพศตรงข้าม จึงได้แต่นั่งนิ่ง ต่างคนต่างก้มหน้ากินไอติม บรรยากาศเลยกลายเป็นเงียบกริบ
ขณะนั้นเอง กลุ่มอันธพาลประจำห้องเรียนก็ปรากฏ นั่นก็คือ “ตุ่ม” และสมุนคู่ใจสองนาย แน่นอนว่าหนึ่งในลิ่วล้อเป็นฝ่ายเห็นกล้าและอัยย์ก่อน จึงชี้ให้ลูกพี่ใหญ่ดู
“ เฮ้ย! นั่นไอ้อ้วนแหยนี่หว่า ทำไมมันถึงได้มากินไอติมในร้านโปรดของพวกสาวๆ แถมควงหญิงมาด้วย ”
“ เอ๊ะ! นั่นมัน ยัยอัยย์ สาวสวยประจำห้องเรานี่นา เป็นไปได้ยังไง ดาวระดับเธอไม่น่าลดตัวมากินไอติมกับไอ้อ้วนแหย ” สมุนอีกนายที่ตาดี ร้องขึ้นมาบ้าง สีหน้าแฝงแววเหลือเชื่อ
“ นั่นน่ะสิ ทำไมนังคนสวยนั่นถึงได้ตาต่ำแบบนี้ มิน่า ลูกพี่ชวนเดทที่ไร ถึงได้ปฏิเสธทุกที เพราะยัยนั่นมีรสนิยมแบบนี้นี่เอง ” สมุนคนแรกเข้าใจทันที พร้อมตอกย้ำปมด้อยของหัวโจก ที่ยืนกัดฟันอยู่ไม่ห่าง
ตุ่มฉุนถึงขีดสุด เพราะเขาเป็นอีกคนที่หมายปองอัยย์ และพยายามตามตื้อมาแรมปี แต่เจ้าหล่อนก็เมินเฉยตลอด ซ้ำร้ายกว่านั้น เธอกลับมาขลุกอยู่กับไอ้คนที่เขาคิดว่าต่ำต้อยที่สุด ทำให้รับไม่ได้อย่างแรง จึงระบายโทสะกับสมุนที่อยู่ใกล้มือ
“ หุบปากโว้ย…..”
“ โป้ก….”
“ โอ๊ย….” สมุนผู้เคราะห์ร้ายร้องโอดโอย พร้อมยกสองมือขึ้นกุมศีรษะที่ถูกเขก ส่วนตุ่มมองไปที่สองหนุ่มสาว ดวงตาแลแข็งกร้าว ด้วยอารมณ์โกรธเกรี้ยว และเมื่อแรงพยาบาททะยานถึงขีดสุด วายร้ายประจำห้องก็ตรงดิ่งเข้าไปหา ก่อนจะโวยวายตามสันดาน
“ เฮ้ย! ไอ้อ้วนแหย มึงมาแดกไอติมที่นี่หรือวะ ”
กล้าสะดุ้งโหยง เพราะจำเสียงนี้ได้เป็นอย่างดี และพอหันไปเห็นรูปโฉมของบุคคลผู้มาเยือน ดวงตาก็เบิกโพลง ด้วยความหวาดกลัว
“ ตะ…ตุ่ม….”
อัยย์ไม่ค่อยชอบใจ เพราะตุ่มคือหนึ่งในหนุ่มที่คอยมาแจกขนมจีบ แต่เธอไม่นึกพิศวาสเลยซักนิด เนื่องจากนายคนนี้ชอบทำตัวเป็นนักเลงหัวไม้ เลยเบือนหน้าหนี หัวโจกจึงขบกรามแน่น พร้อมคุกคามด้วยวาจา
“ อ้าว….นึกว่าใคร อัยย์นี่เอง ทำไมถึงเปลี่ยนรสนิยมมาชอบคนห่วยๆอย่างไอ้หมอนี่ ”
คำดูถูกของตุ่ม ทำให้อัยย์รู้สึกโกรธแทน ทั้งที่ผู้ถูกพาดพิง ได้แต่นั่งตัวสั่นงันงก เธอจึงสวนกลับทันควัน
“ ชั้นจะชอบใครหรืออะไร แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเธอ ”
“ หึ หึ หึ มันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับชั้นหรอก ” ตุ่มหัวเราะเหี้ยมๆ ดวงตาอาฆาตเหลือบมองไปที่สองหนุ่มสาว ทำเอาเหล่าลูกสมุนและกล้าขนลุกไปตามๆกัน เพราะรู้ดีว่า….ถ้าหัวโจกมีรีแอคชั่นแบบนี้เมื่อไหร่ เป็นอันต้องเลือดสาดทุกที ทว่าอัยย์ไม่รู้พิษสง เลยต่อปากต่อคำอีกหนึ่งชุดใหญ่
“ ถ้าไม่มีธุระอะไรแล้ว ช่วยหายตัวไปด้วย เพราะชั้นและกล้าไม่ต้อนรับคนอย่างเธอ ”
“ เพลี้ย….”
อัยย์ถึงกับหน้าสะบัด เพราะถูกตุ่มตบเข้าไปฉาดใหญ่ และด้วยแรงฝ่ามือของหัวโจกร่างล่ำ ทำให้เด็กสาวล้มลงไปนั่งพับเพียบบนพื้น
“ กรี๊ด…..ว้าย…..ช่วยด้วย มีคนทำร้ายร่างกาย ” เสียงเอะอะโวยวายดังผสานเสียงกรีดร้อง แต่ไม่มีใครยื่นมือเข้ามาช่วย เพราะคนส่วนใหญ่ในร้านเป็นพวกสาวๆ(ทั้งแท้และเทียม) คนเดียวที่เป็นเพศชายก็คือ….นายกล้า แต่แทนที่เขาจะเป็นเดือดเป็นร้อน กลับลุกขึ้นยืน เพื่อเข้าไปพยุงเด็กสาว
“ เอ่อ…..อัยย์เป็นอะไรมั้ย ”
“ มึงเงียบไปเลย ไอ้อ้วนแหย แล้วอยู่เฉยๆด้วย กูจะสั่งสอนนังผู้หญิงปากดีคนนี้ ” ก่อนที่กล้าจะถึงตัวของอัยย์ หัวโจกก็ชี้หน้าสั่ง
ด้วยท่าทีที่ดุดัน ทำให้กล้าชะงักงันอยู่กับที่ ทั่วกายสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว ทว่าอัยย์ ซึ่งเป็นเพียงเด็กสาวร่างบาง กลับไม่ยอมศิโรราบ
“ กล้าตบเด็กผู้หญิงเลยเหรอ คิดว่าแมนนักรึไง จำใส่หัวไว้ คนอย่างนายไม่เคยอยู่ในสายตาของชั้น ” พออัยย์พูดจบ ก็พุ่งเข้าบวก หมายจะตบ แต่ถูกตุ่มคว้าข้อมือขวาไว้ได้ทัน
“ เชอะ เป็นแค่ผู้หญิง จะทำอะไรได้ ” ตุ่มแสยะยิ้ม ดูเหมือนเขาจะสะใจนิดๆ ที่ได้รังแกเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ
“ เพลี้ย…..”
ด้วยความประมาท ตุ่มจึงโดนฝ่ามือซ้ายของอัยย์เข้าอย่างจัง ซึ่งก็แรงพอตัว เพราะถึงขั้นทำให้ใบหน้าของหัวโจกสะบัด
“ ฮึ่ม…..เธอต้องการแบบนี้ ใช่มั้ย ” แรงโทสะของตุ่มพุ่งทะยานอีกเท่าตัว และถ้าอัยย์เป็นชาย เขาสาบานว่า….เธอโดนหักแขนหักขาไปแล้ว หัวโจกจึงเปลี่ยนเป็นดึงร่างบางเข้ามากอด
“ โอ้ว…..ลูกพี่นี่แน่จริง กล้าทำแบบนี้ต่อหน้าธารกำนัล ” สองสมุนอ้าปากเหวอ แน่นอน กล้าเองก็ตกใจเช่นกัน ทว่าด้วยความกลัว จึงได้แต่ทำอะไรไม่ถูก
“ ปล่อยนะ ไอ้บ้า ไอ้ทุเรศ ” อัยย์ทั้งอึดอัดและรังเกียจ แถมอับอายเป็นที่สุด จึงยกสองแขนขึ้นผลักไสสลับตบข่วน แต่ก็ทำอะไรไอ้ถึกอย่างตุ่มไม่ได้
“ เหอ เหอ เหอ ดีดดิ้นเข้าไป อย่างเธอจะทำอะไรได้ ” อารมณ์ของตุ่มเริ่มเปลี่ยนหฤหื่น เพราะร่างของเด็กสาวที่อยู่ในอ้อมกอด ทั้งนิ่มนวลและหอมกรุ่น
เมื่ออัยย์จนมุม เธอจึงหันไปหาที่พึ่งสุดท้าย นั่นก็คือ…หนุ่มร่างสมบูรณ์
“ กล้าช่วยด้วย เราไม่ไหวแล้ว ”
พอได้ยินดังนั้น หนุ่มร่างท้วมก็เตรียมขยับเข้ามาช่วยตามสัญชาตญาณ แต่ก็หยุดอยู่กับที่โดยสมบูรณ์ เพราะถูกประกาศิตของตุ่มบงการ
“ อย่าเข้ามาเสือก ไอ้อ้วนแหย ผัวเมียเขาจะคุยกัน ”
สามารถติดตามงานเขียน ณ.ปัจจุบันและในอนาคตของผมได้ที่เพจ Jalando นักเขียนดาร์คไซด์ได้ที่ลิงค์ด้านล่างครับ
https://www.facebook.com/jalando.darksidewriter.version2
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ