นักรบพันธุ์โหด ตอน ณัชฐานันท์
-
85) ตอนที่ 85 ชายปริศนา
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ"พี่ป่าน เราจะไปไหนกัน" นุดาเงยหน้าถามสายป่านพี่สาวที่กำลังกอดเธออยู่ แต่สายป่านส่งสัญญาณให้น้องสาวเงียบ เพราะสถานการณ์ตอนนี้เธอไม่อยากให้นุดาพูดจาอะไรมาก
เหตุการณ์ก่อนหน้านั้นที่เธอ นุดา และมธุกรยังอยู่ข้างในเต็นท์นั้นได้ยินการต่อสู้จากข้างนอก ก่อนที่หมวดวิทาลิสจะเดินเข้ามาในเต็นท์พร้อมกับชายร่างใหญ่ 3 คน ซึ่งสายป่านกับมธุกรเพื่อนรักของเธอต่างรู้ดีว่า ไม่มีประโยชน์หากจะขัดขืนจึงยอมไปแต่โดยดีและตอนนี้ทั้งสามอยู่บนรถหุ้มเกราะที่กองทัพไวด์โร๊ดไม่มีใช้ สายป่านเดาว่าคนที่มากับหมวดวิทาลิสนั้นเป็นบุคคลภายนอก ฝั่งตรงข้ามของพวกเธอ คือชายร่างใหญ่มีม้วนกล้ามแน่นหนาและใหญ่ผิดปกติ ตอนแรกสายป่านนึกคิดว่าน่าจะเป็นพวกเพาะกาย จนเมื่อมาเห็นน้ำขาวไหลซึมบนผิวหนังของหนึ่งในสาม
จากที่สายป่านจำได้ว่าเคยได้ยินจ่าสิบเอกสายลมผู้เป็นปู่ เล่าถึงมนุษย์สังเคราะห์ที่เอามาใช้ในยามศึกสงคราม ซึ่งส่วนมากจะเอามนุษย์เป็นๆมาดัดแปลง เลือดที่หล่อเลี้ยงพวกเขานั้นจะเป็นน้ำสีขาวขนเหมือนกาว ซึ่งนั้นคือเรื่องคราวๆของมนุษย์สังเคราะห์ที่ได้ยินมา คำถามที่ตามมาคือทำไมหมวดวิทาลิสถึงควบคุมบุคคลเหล่านี้ได้อย่างไร ยังไม่ทันที่จะหาคำตอบจู่ๆรถก็ชะงักเอาดื้อๆ ทำเอาพวกเธอเกือบตกลงจากที่นั่งตามๆกัน หลังจากที่รถจอดสนิทแล้วก็ได้ยินเสียงเปิด-ปิดประตูรถ พร้อมเสียงฝีเท้าคนเดินมาเปิดประตูหลังรถออกมา ซึ่งคนนั้นคือ หมวดวิทาลิส นั้นเอง
"เอ้า ! อย่าชักช้าลงมาเลย เร็วเข้า !" หมวดวิทาลิสพูด ซึ่งชายร่างใหญ่ที่นั่งริมประตูเป็นคนดันให้สายป่านกับนุดาเดินลงจากรถ ตามมาด้วยมธุกรที่มองหน้าหมวดวิทาลิสอย่างไม่เข้าใจ
"ทำไมคุณทำแบบนี้.... คุณเป็นตำรวจไม่ใช่เหรอ" คำถามที่มธุกรยิงใส่นั้นทำให้หมวดวิทาลิสระเบิดเสียงหัวเราะอย่างน่ากลัว จนนุดาแทบไม่ออกห่างจากสายป่านผู้เป็นพี่สาว ในขณะที่หมวดวิทาลิสจ้องมองหน้าเด็กสาวอย่างไม่หลบสายตา
"ตำรวจ !.... อย่าพูดให้ขำหน่อยเลยนะเธอคิดว่าฉันจำอาชีพไร้เกียรติยศไปตลอดเหรอ หึ ! ไม่เอาแล้วพอกันทีกับบทบาทตำรวจแสนดีที่ทำหน้าที่ดีเท่าไหร่ ประชาชนแบบพวกแกก็ไม่เคยเห็นหัวกันเลยด้วยซ้ำ พอพวกแกปลอดภัยนะแทบไม่เห็นหัวด้วยซ้ำ แต่พอพวกเราพลาดด่ายันพ่อยันรากเหง้า ฉันทน ทน ทน ทน ทน และทนจนตอนนี้ฉันไม่อยากรับบทคนดีอีกแล้ว" หมวดวิทาลิสพูด
"หมายความว่ายังไง" สายป่านพูดขึ้น
หมวดวิทาลิสเลือกที่จะไม่ตอบคำถามเพราะคิดว่า กำลังเสียเวลาจึงปล่อยชายร่างใหญ่สามคนพาเด็กทั้งสาม เดินตามหลังตนอย่างเดียวซึ่งตรงหน้าพวกเขานั้น มีชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังยืนรอพอดีและเบื้องหลังเขาคือ ไซบอร์ก 2 คน ชายหนุ่มคนนั้นไม่ใช่ใครที่ไหน เจมสัน ซอร์ดนั้นเอง ในมือของเขานั้นถือซองสีน้ำตาลเอาไว้ ทันทีที่เจมสันเห็นว่าหมวดวิทาลิสนำเป้าหมายมาส่ง ก็ทำการยื่นซองสีน้ำตาลนั้นซึ่งตำรวจหนุ่มกงฉินเปิดซองพบแบงค์เงินหลายกอง อัดอยู่ในซองซึ่งหากเทียบกันแล้วเงินเดือนของเขายังเทียบกันไม่ได้เลยด้วยซ้ำ ดังนั้นเขาจึงยิ้มอย่างพอใจมาก
"คุณต้องการอะไรจากพวกเรากัน" สายป่านถาม
"ก็แค่อยากให้ความร่วมมืออะไรนิดๆหน่อยๆนะ.... เดียวก่อน ! แล้วผู้หญิงที่ชื่อ "มธุสร" อยู่ไหน" เจมสันหันมาถามหมวดวิทาลิส เมื่อเห็นว่ายังขาดอีกคนไป นั้นทำให้หมวดวิทาลิสไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไหร่นัก
"แกบอกว่าอยากได้แค่ตัวเด็กไม่ใช่เหรอฉันก็พามาแล้วนี่ไง !" หมวดวิทาลิสพูดอย่างไม่พอใจ
"งั้นแสดงว่าไม่ได้ฟังรายละเอียดของงานเลยสินะ" เจมสันพูดด้วยน้ำเสียงที่คล้ายกับกำลังเยาะเย้ยอยู่
"พูดงี้หมายความว่ายังไงว่ะ !... กูพาเด็กมาได้ก็บุญแค่ไหนแล้ว แม่ของนางเด็กนี่เขาพาไปหลบที่ไหนกูก็ไม่รู้หรอก"
"งั้นแกก็ไร้ประสิทธิภาพในการทำงาน"
หมวดวิทาลิสทำท่าจะหันมาเหวี่ยวหมัดใส่แต่ก็โดนนักรบไซบอร์กด้านซ้าย ชักดาบเล่มใหญ่จ่อคอของชายหนุ่มเอาไว้แม้จะไม่ลงดาบ แต่ก็สัมผัสถึงคมดาบที่บาดผิวเนื้อจนเลือดซิบ จังหวะนั้นเจมสันฉกซองน้ำตาลออกมาจากมือของหมวดวิทาลิส ก่อนจะเอากองเงิน 4 กองออกจากซอง ทำให้หมวดวิทาลิสอยากกระทืบเจมสันให้จมเท้า แต่ก็ทำไม่ได้เพราะติดที่มีดาบจ่อคอของเขาอยู่ เจมสันสั่งให้นักรบไซบอร์กถอยดาบออกมา ก่อนจะโยนซองน้ำตาลคืน
"ในฐานะที่แกทำงานพลาด... ฉันขอเงินครึ่งหนึ่งคืนนะ และตอนนี้เราหมดธุระกันแล้วแกควรรีบออกจากประเทศนี้ดีกว่านะ เพราะฝั่งหัวหน้าแกคงรู้แล้วว่าแกเป็นหนอนบ่อนไส้ ขอให้เจอดี" สิ้นคำของเจมสันแล้วก็เดินหันหลังกลับ โดยหวังจะปล่อยให้หมวดวิทาลิสยืนเจ็บใจอยู่ข้างนั้นแต่ทว่า.....
"จะไม่มีใครได้ไปไหนทั้งนั้น !"
ทั้งหมดหันไปทางต้นเสียงก็เจอกับสองบุรุษที่ยืนบนสายไฟ เหนือหัวพวกเขาโดยคนซ้ายมือใส่ชุดเกราะคล้ายๆไซบอร์ก และคนข้างขวาดูอายุน่าจะวัยรุ่นอายุ 17-18 ปี โตกว่าสายป่านกับมธุกรหน่อยหนึ่งและสวมเสื้อทหารสีดำทั้งตัว ไว้ผมเกรียณผิวขาวเหลืองและดวงตาเป็นสีแดงปนดำ เจมสันแสดงสีหน้าตกใจพอสมควรที่เจอฝ่ายตรงข้ามซึ่งการแสดงท่าทางแบบนี้ ทำให้ทั้งหมวดวิทาลิสกับพวกมธุกรประหลาดใจมาก ไม่นานนักทั้งสองก็โดดลงมาจากสายไฟสู่พื้นจากนั้น นักรบไซบอร์กก็ชักดาบออกมาพร้อมกับกระแสไฟฟ้าที่ไหลเวียนใบดาบ
"มึง !" เจมสันร้องอย่างตกใจมากผิดกับเมื่อครู่ที่วางอำนาจใส่หมวดวิทาลิสโดยสิ้นเชิง ทำให้ตำรวจหนุ่มสงสัยว่าอีกฝ่ายเป็นใครกันแน่ทำไมเจมสันถึงได้กลัวขนาดนั้น
"มัวรอห่าอะไรอยู่เล่า ! ฆ่ามันสิ ! ฆ่ามัน !"
มนุษย์สังเคราะห์ร่างใหญ่ทั้งสามเลิกสนใจกลุ่มมธุกร ต่างหันไปเล่นงานสองบุคคลปริศนาไร้ที่มา และมนุษย์ก็เปล่งพลังออกมาเต็มที่จนมีร่างกายขนาดใหญ่และมีพละกำลังมากขึ้น โดยคนแรกนั้นเรียกอาวุธขวานใหญ่ออกมา พร้อมฟาดฟันใส่นักรบไซบอร์กที่อยู่ใกล้ที่สุด แต่นักรบไซบอร์กคนนั้นเบี่ยงหลบซ้ายเช่นเดียวกับเด็กหนุ่มอีกคน ซึ่งทำให้คมขวานฟันลงตรงกลางระหว่างทั้งสองเท่านั้น เด็กหนุ่มผมเกรียณวิ่งเข้าชาร์ตที่บริเวณขาขวาของมนุษย์สังเคราะห์อย่างรวดเร็ว และเมื่อเด็กหนุ่มคนนั้นวิ่งผ่านขาขวานั้นไปปรากฎว่า ขาข้างนั้นขาดหลุดออกจากร่างของมนุษย์สังเคราะห์
ร่างใหญ่ยักษ์ล้มทั้งยืนและร้องอย่างเจ็บปวดทรมาน น้ำสีขาวขนไหลนองพื้นปูนผสมกับเศษฝุ่นขี้ดินและพวกมธุกรก็ได้เห็น เคียวที่งอกออกมาจากท่อนแขนของเด็กหนุ่ม ซึ่งเขาใช้มันตัดหัวของมนุษย์สังเคราะห์ขาดภายในฉับเดียว สายป่านปิดตานุดาไม่ให้เห็นภาพรุนแรงตรงหน้า ส่วนนักรบไซบอร์กนั้นวิ่งผ่านมนุษย์สังเคราะห์อีกสองคน เพื่อมาเล่นงานเจมสันแค่คนเดียวเท่านั้น แต่ก็ถูกนักรบไซบอร์กอีกคนใช้ดาบทวนกันดาบเพื่อปกป้องนายของมัน เจมสันรีบวิ่งหนีหัวซุกหัวซุนทันทีอย่างกลัวตาย มธุกรกับสายป่านพานุดามาหลบในรถหุ้มเกราะแทน
ทางฝ่ายของเจมสันที่วิ่งหนีพ้นจากเขตปะทะเพื่อตรงไปยังรถ ที่จอดรอเขาอยู่ไม่ไกลมากแต่ก็ยังไม่ทันรถก็ถูกใครบางคน ชกหน้าเขาเต็มแรงจนหน้าหันเมื่อหันกลับไปมอง คนที่ชกเขาก็ไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็นหมวดวิทาลิสที่อาศัยจังหวะวุ่นวายนั้น สะกดรอยตามเจมสันมาซึ่งคราวนี้เป็นทีเขาเอาคืนบ้าง หมวดวิทาลิสใช้ขาเตะเข้าที่ท้องของเจมสันจนจุกตัวง้อ แถมด้วยหมัดทุบตัวอีก 2-3 หมัดก่อนจะทำการค้นตัวเจมสัน เพื่อหาก้อนเงินที่โดนยึดไปซึ่งเจมสันอาศัยจังหวะนั้น ใช้สายรัดข้อมือที่ตนสร้างขึ้นแล้วช็อคไฟฟ้าใส่ตัวของหมวดวิทาลิส ที่เมื่อโดนกระแสไฟฟ้าเข้าไปก็ทรุดลงกับพื้นทันที และเจมสันก็พยุงร่างที่สะบักสะบอมนั้นวิ่งไปที่รถพร้อมกับขับหลบหนีออกไป
ชายหนุ่มที่พึ่งโดนกระแสไฟฟ้ามาเมื่อครู่ฝืนร่างกายตนเอง ในการที่จะยืนขึ้นและเห็นว่าระหว่างที่เจมสันวิ่งหนีไปนั้น ได้ทำก้อนเงิน 3 ก้อนหล่นลงพื้นแน่นอนว่าเขาไม่รอช้า รีบคว้ามาใส่ซองน้ำตาลตามเดิมก่อนที่จะเดินหลบหนีไปอีกทาง ส่วนทางฝั่งนักรบไซบอร์กสองคนที่กำลังฟาดฟันนั้นเห็นว่าเจมสันหลบหนีได้แล้ว ต่างพากันพยักหน้าก่อนจะโยนระเบิดควันใส่อีกฝ่าย ควันจำนวนมากฟุ้งกระจายทั่วอากาศ ทั้งสายป่าน มธุกร และนุดาต่างพากันสำลักฝุ่นเล็กน้อย ก่อนที่นักรบไซบอร์กคนนั้นจะใช้ปราณดาบพัดควันออกไป
ทางฝั่งเด็กหนุ่มที่พึ่งจัดการกับมนุษย์สังเคราะห์ได้นั้น ก็เดินมาสมทบกับนักรบไซบอร์กก่อนจะเดินมาทางเด็กทั้งสาม เคียวที่งอกออกมาตอนแรกนั้นหดหายกลับเข้าไปในแขนอีกครั้ง และตาที่เป็นสีแดงปนดำก็กลายเป็นตาคนปกติอีกครั้ง ทำให้มธุกรสังหรณ์ใจว่าน่าจะเป็นพวกเดียวกับแท็ก นักรบไซบอร์กถอดหน้ากากออกเผยให้เห็นใบหน้าชัดเจน ซึ่งดูแล้วน่าจะอายุราวๆ 27-28 ปี
"ไม่ต้องห่วงพวกเธอปลอดภัยแล้ว" ชายหนุ่มพูดก่อนจะเก็บดาบทีเดิม
"พวกพี่เป็นใครค่ะ" นุดาถามด้วยความสงสัย
"เป็นคนที่มาช่วยไว้ไง" เด็กหนุ่มพูดกวนๆจึงโดนชายหนุ่มเคาะหัวเบาๆใส่ ก่อนจะมองหน้าเด็กหญิงและยิ้มให้อย่างอ่อนโยน
"พี่สองคนเป็นลูกศิษย์ของปู่สายลม เขาให้มารับตัวพวกหนูกลับบ้านนะครับ"
"เราจะรู้ได้ไงว่าพวกคุณคือคนที่ปู่สายลมส่งมา" สายป่านพูดตัดบทขึ้น ซึ่งสำหรับฝ่ายชายหนุ่มไม่แปลกใจหากจะไม่กล้าเชื่อใจใครโดยเฉพาะเหตุการณ์นี้ แต่สำหรับมธุกรเธอกลับคิดต่างออกไป
"แท็กอยู่ไหน เขามากับพวกพี่ใช่ไหม" มธุกรถามขึ้นทำเอาเพื่อนรักอย่างสายป่านงงเป็นไก่ตาแตก
"แหมๆ มาถึงก็ถามหาเจ้าแท็กเลยเว้ย.... แทนที่จะห่วงมันห่วงตัวเองดีกว่าไหม ยังไงก็เอาตัวรอดดีกว่าน้องตอนนี้ละกัน" เด็กผมเกรียณพูดจากวนๆอีกครั้ง แต่ต้องสงบเมื่อเจอสีหน้าดุจากชายหนุ่ม
"แล้วเขาอยู่ไหนละ" มธุกรถามอีกครั้ง แต่รอบนี้ไม่มีใครให้คำตอบกับเธอเลย
++++++++++++++++++++++++++
เหตุการณ์ก่อนหน้านั้นที่เธอ นุดา และมธุกรยังอยู่ข้างในเต็นท์นั้นได้ยินการต่อสู้จากข้างนอก ก่อนที่หมวดวิทาลิสจะเดินเข้ามาในเต็นท์พร้อมกับชายร่างใหญ่ 3 คน ซึ่งสายป่านกับมธุกรเพื่อนรักของเธอต่างรู้ดีว่า ไม่มีประโยชน์หากจะขัดขืนจึงยอมไปแต่โดยดีและตอนนี้ทั้งสามอยู่บนรถหุ้มเกราะที่กองทัพไวด์โร๊ดไม่มีใช้ สายป่านเดาว่าคนที่มากับหมวดวิทาลิสนั้นเป็นบุคคลภายนอก ฝั่งตรงข้ามของพวกเธอ คือชายร่างใหญ่มีม้วนกล้ามแน่นหนาและใหญ่ผิดปกติ ตอนแรกสายป่านนึกคิดว่าน่าจะเป็นพวกเพาะกาย จนเมื่อมาเห็นน้ำขาวไหลซึมบนผิวหนังของหนึ่งในสาม
จากที่สายป่านจำได้ว่าเคยได้ยินจ่าสิบเอกสายลมผู้เป็นปู่ เล่าถึงมนุษย์สังเคราะห์ที่เอามาใช้ในยามศึกสงคราม ซึ่งส่วนมากจะเอามนุษย์เป็นๆมาดัดแปลง เลือดที่หล่อเลี้ยงพวกเขานั้นจะเป็นน้ำสีขาวขนเหมือนกาว ซึ่งนั้นคือเรื่องคราวๆของมนุษย์สังเคราะห์ที่ได้ยินมา คำถามที่ตามมาคือทำไมหมวดวิทาลิสถึงควบคุมบุคคลเหล่านี้ได้อย่างไร ยังไม่ทันที่จะหาคำตอบจู่ๆรถก็ชะงักเอาดื้อๆ ทำเอาพวกเธอเกือบตกลงจากที่นั่งตามๆกัน หลังจากที่รถจอดสนิทแล้วก็ได้ยินเสียงเปิด-ปิดประตูรถ พร้อมเสียงฝีเท้าคนเดินมาเปิดประตูหลังรถออกมา ซึ่งคนนั้นคือ หมวดวิทาลิส นั้นเอง
"เอ้า ! อย่าชักช้าลงมาเลย เร็วเข้า !" หมวดวิทาลิสพูด ซึ่งชายร่างใหญ่ที่นั่งริมประตูเป็นคนดันให้สายป่านกับนุดาเดินลงจากรถ ตามมาด้วยมธุกรที่มองหน้าหมวดวิทาลิสอย่างไม่เข้าใจ
"ทำไมคุณทำแบบนี้.... คุณเป็นตำรวจไม่ใช่เหรอ" คำถามที่มธุกรยิงใส่นั้นทำให้หมวดวิทาลิสระเบิดเสียงหัวเราะอย่างน่ากลัว จนนุดาแทบไม่ออกห่างจากสายป่านผู้เป็นพี่สาว ในขณะที่หมวดวิทาลิสจ้องมองหน้าเด็กสาวอย่างไม่หลบสายตา
"ตำรวจ !.... อย่าพูดให้ขำหน่อยเลยนะเธอคิดว่าฉันจำอาชีพไร้เกียรติยศไปตลอดเหรอ หึ ! ไม่เอาแล้วพอกันทีกับบทบาทตำรวจแสนดีที่ทำหน้าที่ดีเท่าไหร่ ประชาชนแบบพวกแกก็ไม่เคยเห็นหัวกันเลยด้วยซ้ำ พอพวกแกปลอดภัยนะแทบไม่เห็นหัวด้วยซ้ำ แต่พอพวกเราพลาดด่ายันพ่อยันรากเหง้า ฉันทน ทน ทน ทน ทน และทนจนตอนนี้ฉันไม่อยากรับบทคนดีอีกแล้ว" หมวดวิทาลิสพูด
"หมายความว่ายังไง" สายป่านพูดขึ้น
หมวดวิทาลิสเลือกที่จะไม่ตอบคำถามเพราะคิดว่า กำลังเสียเวลาจึงปล่อยชายร่างใหญ่สามคนพาเด็กทั้งสาม เดินตามหลังตนอย่างเดียวซึ่งตรงหน้าพวกเขานั้น มีชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังยืนรอพอดีและเบื้องหลังเขาคือ ไซบอร์ก 2 คน ชายหนุ่มคนนั้นไม่ใช่ใครที่ไหน เจมสัน ซอร์ดนั้นเอง ในมือของเขานั้นถือซองสีน้ำตาลเอาไว้ ทันทีที่เจมสันเห็นว่าหมวดวิทาลิสนำเป้าหมายมาส่ง ก็ทำการยื่นซองสีน้ำตาลนั้นซึ่งตำรวจหนุ่มกงฉินเปิดซองพบแบงค์เงินหลายกอง อัดอยู่ในซองซึ่งหากเทียบกันแล้วเงินเดือนของเขายังเทียบกันไม่ได้เลยด้วยซ้ำ ดังนั้นเขาจึงยิ้มอย่างพอใจมาก
"คุณต้องการอะไรจากพวกเรากัน" สายป่านถาม
"ก็แค่อยากให้ความร่วมมืออะไรนิดๆหน่อยๆนะ.... เดียวก่อน ! แล้วผู้หญิงที่ชื่อ "มธุสร" อยู่ไหน" เจมสันหันมาถามหมวดวิทาลิส เมื่อเห็นว่ายังขาดอีกคนไป นั้นทำให้หมวดวิทาลิสไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไหร่นัก
"แกบอกว่าอยากได้แค่ตัวเด็กไม่ใช่เหรอฉันก็พามาแล้วนี่ไง !" หมวดวิทาลิสพูดอย่างไม่พอใจ
"งั้นแสดงว่าไม่ได้ฟังรายละเอียดของงานเลยสินะ" เจมสันพูดด้วยน้ำเสียงที่คล้ายกับกำลังเยาะเย้ยอยู่
"พูดงี้หมายความว่ายังไงว่ะ !... กูพาเด็กมาได้ก็บุญแค่ไหนแล้ว แม่ของนางเด็กนี่เขาพาไปหลบที่ไหนกูก็ไม่รู้หรอก"
"งั้นแกก็ไร้ประสิทธิภาพในการทำงาน"
หมวดวิทาลิสทำท่าจะหันมาเหวี่ยวหมัดใส่แต่ก็โดนนักรบไซบอร์กด้านซ้าย ชักดาบเล่มใหญ่จ่อคอของชายหนุ่มเอาไว้แม้จะไม่ลงดาบ แต่ก็สัมผัสถึงคมดาบที่บาดผิวเนื้อจนเลือดซิบ จังหวะนั้นเจมสันฉกซองน้ำตาลออกมาจากมือของหมวดวิทาลิส ก่อนจะเอากองเงิน 4 กองออกจากซอง ทำให้หมวดวิทาลิสอยากกระทืบเจมสันให้จมเท้า แต่ก็ทำไม่ได้เพราะติดที่มีดาบจ่อคอของเขาอยู่ เจมสันสั่งให้นักรบไซบอร์กถอยดาบออกมา ก่อนจะโยนซองน้ำตาลคืน
"ในฐานะที่แกทำงานพลาด... ฉันขอเงินครึ่งหนึ่งคืนนะ และตอนนี้เราหมดธุระกันแล้วแกควรรีบออกจากประเทศนี้ดีกว่านะ เพราะฝั่งหัวหน้าแกคงรู้แล้วว่าแกเป็นหนอนบ่อนไส้ ขอให้เจอดี" สิ้นคำของเจมสันแล้วก็เดินหันหลังกลับ โดยหวังจะปล่อยให้หมวดวิทาลิสยืนเจ็บใจอยู่ข้างนั้นแต่ทว่า.....
"จะไม่มีใครได้ไปไหนทั้งนั้น !"
ทั้งหมดหันไปทางต้นเสียงก็เจอกับสองบุรุษที่ยืนบนสายไฟ เหนือหัวพวกเขาโดยคนซ้ายมือใส่ชุดเกราะคล้ายๆไซบอร์ก และคนข้างขวาดูอายุน่าจะวัยรุ่นอายุ 17-18 ปี โตกว่าสายป่านกับมธุกรหน่อยหนึ่งและสวมเสื้อทหารสีดำทั้งตัว ไว้ผมเกรียณผิวขาวเหลืองและดวงตาเป็นสีแดงปนดำ เจมสันแสดงสีหน้าตกใจพอสมควรที่เจอฝ่ายตรงข้ามซึ่งการแสดงท่าทางแบบนี้ ทำให้ทั้งหมวดวิทาลิสกับพวกมธุกรประหลาดใจมาก ไม่นานนักทั้งสองก็โดดลงมาจากสายไฟสู่พื้นจากนั้น นักรบไซบอร์กก็ชักดาบออกมาพร้อมกับกระแสไฟฟ้าที่ไหลเวียนใบดาบ
"มึง !" เจมสันร้องอย่างตกใจมากผิดกับเมื่อครู่ที่วางอำนาจใส่หมวดวิทาลิสโดยสิ้นเชิง ทำให้ตำรวจหนุ่มสงสัยว่าอีกฝ่ายเป็นใครกันแน่ทำไมเจมสันถึงได้กลัวขนาดนั้น
"มัวรอห่าอะไรอยู่เล่า ! ฆ่ามันสิ ! ฆ่ามัน !"
มนุษย์สังเคราะห์ร่างใหญ่ทั้งสามเลิกสนใจกลุ่มมธุกร ต่างหันไปเล่นงานสองบุคคลปริศนาไร้ที่มา และมนุษย์ก็เปล่งพลังออกมาเต็มที่จนมีร่างกายขนาดใหญ่และมีพละกำลังมากขึ้น โดยคนแรกนั้นเรียกอาวุธขวานใหญ่ออกมา พร้อมฟาดฟันใส่นักรบไซบอร์กที่อยู่ใกล้ที่สุด แต่นักรบไซบอร์กคนนั้นเบี่ยงหลบซ้ายเช่นเดียวกับเด็กหนุ่มอีกคน ซึ่งทำให้คมขวานฟันลงตรงกลางระหว่างทั้งสองเท่านั้น เด็กหนุ่มผมเกรียณวิ่งเข้าชาร์ตที่บริเวณขาขวาของมนุษย์สังเคราะห์อย่างรวดเร็ว และเมื่อเด็กหนุ่มคนนั้นวิ่งผ่านขาขวานั้นไปปรากฎว่า ขาข้างนั้นขาดหลุดออกจากร่างของมนุษย์สังเคราะห์
ร่างใหญ่ยักษ์ล้มทั้งยืนและร้องอย่างเจ็บปวดทรมาน น้ำสีขาวขนไหลนองพื้นปูนผสมกับเศษฝุ่นขี้ดินและพวกมธุกรก็ได้เห็น เคียวที่งอกออกมาจากท่อนแขนของเด็กหนุ่ม ซึ่งเขาใช้มันตัดหัวของมนุษย์สังเคราะห์ขาดภายในฉับเดียว สายป่านปิดตานุดาไม่ให้เห็นภาพรุนแรงตรงหน้า ส่วนนักรบไซบอร์กนั้นวิ่งผ่านมนุษย์สังเคราะห์อีกสองคน เพื่อมาเล่นงานเจมสันแค่คนเดียวเท่านั้น แต่ก็ถูกนักรบไซบอร์กอีกคนใช้ดาบทวนกันดาบเพื่อปกป้องนายของมัน เจมสันรีบวิ่งหนีหัวซุกหัวซุนทันทีอย่างกลัวตาย มธุกรกับสายป่านพานุดามาหลบในรถหุ้มเกราะแทน
ทางฝ่ายของเจมสันที่วิ่งหนีพ้นจากเขตปะทะเพื่อตรงไปยังรถ ที่จอดรอเขาอยู่ไม่ไกลมากแต่ก็ยังไม่ทันรถก็ถูกใครบางคน ชกหน้าเขาเต็มแรงจนหน้าหันเมื่อหันกลับไปมอง คนที่ชกเขาก็ไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็นหมวดวิทาลิสที่อาศัยจังหวะวุ่นวายนั้น สะกดรอยตามเจมสันมาซึ่งคราวนี้เป็นทีเขาเอาคืนบ้าง หมวดวิทาลิสใช้ขาเตะเข้าที่ท้องของเจมสันจนจุกตัวง้อ แถมด้วยหมัดทุบตัวอีก 2-3 หมัดก่อนจะทำการค้นตัวเจมสัน เพื่อหาก้อนเงินที่โดนยึดไปซึ่งเจมสันอาศัยจังหวะนั้น ใช้สายรัดข้อมือที่ตนสร้างขึ้นแล้วช็อคไฟฟ้าใส่ตัวของหมวดวิทาลิส ที่เมื่อโดนกระแสไฟฟ้าเข้าไปก็ทรุดลงกับพื้นทันที และเจมสันก็พยุงร่างที่สะบักสะบอมนั้นวิ่งไปที่รถพร้อมกับขับหลบหนีออกไป
ชายหนุ่มที่พึ่งโดนกระแสไฟฟ้ามาเมื่อครู่ฝืนร่างกายตนเอง ในการที่จะยืนขึ้นและเห็นว่าระหว่างที่เจมสันวิ่งหนีไปนั้น ได้ทำก้อนเงิน 3 ก้อนหล่นลงพื้นแน่นอนว่าเขาไม่รอช้า รีบคว้ามาใส่ซองน้ำตาลตามเดิมก่อนที่จะเดินหลบหนีไปอีกทาง ส่วนทางฝั่งนักรบไซบอร์กสองคนที่กำลังฟาดฟันนั้นเห็นว่าเจมสันหลบหนีได้แล้ว ต่างพากันพยักหน้าก่อนจะโยนระเบิดควันใส่อีกฝ่าย ควันจำนวนมากฟุ้งกระจายทั่วอากาศ ทั้งสายป่าน มธุกร และนุดาต่างพากันสำลักฝุ่นเล็กน้อย ก่อนที่นักรบไซบอร์กคนนั้นจะใช้ปราณดาบพัดควันออกไป
ทางฝั่งเด็กหนุ่มที่พึ่งจัดการกับมนุษย์สังเคราะห์ได้นั้น ก็เดินมาสมทบกับนักรบไซบอร์กก่อนจะเดินมาทางเด็กทั้งสาม เคียวที่งอกออกมาตอนแรกนั้นหดหายกลับเข้าไปในแขนอีกครั้ง และตาที่เป็นสีแดงปนดำก็กลายเป็นตาคนปกติอีกครั้ง ทำให้มธุกรสังหรณ์ใจว่าน่าจะเป็นพวกเดียวกับแท็ก นักรบไซบอร์กถอดหน้ากากออกเผยให้เห็นใบหน้าชัดเจน ซึ่งดูแล้วน่าจะอายุราวๆ 27-28 ปี
"ไม่ต้องห่วงพวกเธอปลอดภัยแล้ว" ชายหนุ่มพูดก่อนจะเก็บดาบทีเดิม
"พวกพี่เป็นใครค่ะ" นุดาถามด้วยความสงสัย
"เป็นคนที่มาช่วยไว้ไง" เด็กหนุ่มพูดกวนๆจึงโดนชายหนุ่มเคาะหัวเบาๆใส่ ก่อนจะมองหน้าเด็กหญิงและยิ้มให้อย่างอ่อนโยน
"พี่สองคนเป็นลูกศิษย์ของปู่สายลม เขาให้มารับตัวพวกหนูกลับบ้านนะครับ"
"เราจะรู้ได้ไงว่าพวกคุณคือคนที่ปู่สายลมส่งมา" สายป่านพูดตัดบทขึ้น ซึ่งสำหรับฝ่ายชายหนุ่มไม่แปลกใจหากจะไม่กล้าเชื่อใจใครโดยเฉพาะเหตุการณ์นี้ แต่สำหรับมธุกรเธอกลับคิดต่างออกไป
"แท็กอยู่ไหน เขามากับพวกพี่ใช่ไหม" มธุกรถามขึ้นทำเอาเพื่อนรักอย่างสายป่านงงเป็นไก่ตาแตก
"แหมๆ มาถึงก็ถามหาเจ้าแท็กเลยเว้ย.... แทนที่จะห่วงมันห่วงตัวเองดีกว่าไหม ยังไงก็เอาตัวรอดดีกว่าน้องตอนนี้ละกัน" เด็กผมเกรียณพูดจากวนๆอีกครั้ง แต่ต้องสงบเมื่อเจอสีหน้าดุจากชายหนุ่ม
"แล้วเขาอยู่ไหนละ" มธุกรถามอีกครั้ง แต่รอบนี้ไม่มีใครให้คำตอบกับเธอเลย
++++++++++++++++++++++++++
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ