นักรบพันธุ์โหด ตอน ณัชฐานันท์
84) ตอนที่ 84 นอกสายตา
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความซากปรักหักพังในตัวเมือง
"ให้ตายเถอะแทบไม่เจอทหารหรืออันเดธเลย" เอลตันพูดพร้อมกับเดินสำรวจไปรอบๆ ในมือยังคงถือดาบเรเปียร์เอาไว้อยู่ ข้างหน้าเขาคือเบอร์นี่พี่ชายของเขาเอง
"จะเจอได้ยังไงฉันกับนาย อยู่นอกเขตสงครามนะ" เบอร์นี่พูดกับน้องชายโดยไม่หันมามอง
หลังจากที่นายแป๋วนำกองทัพอันเดธบุกเมืองมา เบอร์นี่และเอลตันต่างอาศัยจังหวะนั้นหลบเลี่ยงที่จะโดนกวาดต้อนออกมา และทั้งคู่ต่างไล่เก็บอันเดธไปเรื่อยๆ รู้ตัวอีกทีทั้งคู่ก็หลุดจากเขตประทะของทหารกับอันเดธแล้ว และพื้นที่ที่ทั้งสองอยู่นั้นก็ค่อนข้างเปล่าเปลี่ยวเลยทีเดียว ดีหน่อยตรงที่ไม่พบศพผู้เคราะห์ร้ายเมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้ สิ่งที่เบอร์นี่กับเอลตันเจอนั้นมีเพียงซากปรักหักพังที่น่าจะเกิดจากการถูกโจมตี
"เบอร์นี่ ถามจริงนายคิดว่าเราจะเจอตัวการเหรอ" เอลตันถามด้วยความสงสัย
"นายไม่เชื่อฝีมือการแกะรอยของฉันใช่ไหม" เบอร์นี่พูดพร้อมบ่นลมหายใจออกมา เอลตันเริ่มรู้ตัวแล้วว่าพูดไม่เข้าหูพี่ชายเข้าเสียแล้ว
"ฉันไม่ได้หมายความอย่างนั้นนะแต่หมายถึงว่า มันจะไม่หนีไปเหรอถ้าพวกเราแกะรอยมาถึงที่นี่"
เอลตันรู้ดีว่าเบอร์นี่นั้นมีความสามารถแกะรอยอันเดธที่เก่งที่สุด ในครอบครัวจะเป็นรองก็แค่ไวแอตต์เท่านั้นซึ่งเอลตันยอมรับว่า ตั้งแต่จำความได้เบอร์นี่ฝันอยากเป็นนักล่าอันเดธที่เก่งเหมือนพ่อ จึงพยายามทุ่มเทฝึกฝนทุกอย่างเพื่อให้สตีเฟ่นนั้นภาคภูมิใจ แต่ทว่าผลลัพท์ที่ได้มาคือนอกจากสตีเฟ่นจะไม่สนใจหรือแม้คำชมก็ไม่เคยเอ๋ยออกมา กลับไปสนใจแค่เพียงลูกชายสองคนนั้นคือ ไวแอตต์กับทอมสันซึ่งเป็นลูกของเมียที่ตายไป ในขณะที่เขากับเบอร์นี่พี่ชายที่เป็นลูกเมียรองก็อยู่นอกสายตามาตลอด
จุดชนวนที่ทำให้เบอร์นี่นั้นผูกใจเจ็บมาจนถึงตอนนี้คือ เมื่อครั้งตอนเบอร์นี่อายุได้ 13 ปี ส่วนเอลตันอายุ 10 ปี สตีเฟ่นได้เตรียมสนามทดสอบความสามารถของลูกหลาน เพื่อจะขัดเกลาให้เป็นนักล่าอันเดธในอนาคต ผลออกมาคือฝีมือของเบอร์นี่แทบจะสูสีกับไวแอตต์ที่ตอนนั้นอายุ 25 ปี รางวัลที่สตีเฟ่นตั้งไว้คือดาบที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นของแกเบรียล แมกซ์เวลล์ พี่ชายของเอลตันมั่นใจในฝีมือของตนว่าจะสามารถทำให้พ่อยอมรับเขา แต่ทว่า......
สตีเฟ่นกลับมอบดาบเล่มนั้นให้กับไวแอตต์อยู่ดีทั้งที่อีกฝ่าย ทำได้ไม่ดีเท่าที่เบอร์นี่หรือ ไฮแรม ทำเสียด้วยซ้ำและที่สำคัญพี่ชายคนนี้ปักใจเชื่อว่าสตีเฟ่นหักหน้าตนทั้งที่สายตาของอา ลุง ป้า ทั้งหลายเห็นผองกันว่าเบอร์นี่นั้นมีฝีมือมากกว่าไวแอตต์ แต่ก็ไม่มีใครค้านเพราะสตีเฟ่นนั้นเป็นผู้นำตระกูล ทำให้เบอร์นี่ในตอนนั้นไม่พอใจอย่างมากและภาพที่เอลตันไม่เคยลืมเลยคือ เบอร์นี่กล้าโวยวายใส่พ่อที่ลำเอียงที่จริงมีพูดแรงกว่านั้นแต่ผลที่ได้คือ สตีเฟ่นตบหลังแหวนใส่หน้าเบอร์นี่จนเลือดกลบปาก และยังพูดด้วยว่าน้ำหน้าอย่างเบอร์นี่ไม่มีวันเทียบเคียงกับไวแอตต์ได้ นั้นถือว่าเป็นคำพูดที่รุนแรงมากสำหรับลูกชายคนหนึ่ง
นับแต่นั้นมาเบอร์นี่ก็ผูกใจเจ็บกับไวแอตต์และสาบานว่า จะต้องเหนือว่าลูกคนโปรดของพ่อคนนี้ให้ได้และนั้นคือสิ่งที่เอลตันเห็นมาตลอด และเบอร์นี่ก็ยอมแลกทุกอย่างในช่วงเวลาที่ผ่านมา เพื่อวันนี้เท่านั้นแต่เอลตันก็ยังมีคำถามผุดขึ้นมาเสมอว่า มันคุ้มแล้วจริงๆรึที่ต้องทำขนาดนี้เพื่อแค่ให้ตาแก่คนหนึ่งยอมรับเท่านั้น บางทีเอลตันยังไม่แน่ใจเลยว่าที่สตีเฟ่นมาแต่งงานกับแม่ของพวกเขานั้น มันเพราะรัก..... หรือแค่สนองตัณหาของตนเองกันแน่
"เบอร์นี่... ถามอะไรนายได้ไหม" เอลตันถามเพื่อทำลายความเงียบ
"มาถามอะไรในเวลานี้เนี่ยเอลตัน" เป็นครั้งแรกที่เบอร์นี่หันหน้ามาคุยกับน้องชายของตน
"ฉันจะไม่อ้อมค้อมนะเบอร์นี่ ที่นายทำทั้งหมดเพื่อให้พ่อยอมรับนายใช่ไหม" เมื่อเอลตันยิงคำถามดังกล่าวซึ่งชายหนุ่มคิดว่าพี่ชายจะโกรธแต่ตรงกันข้าม เบอร์นี่กลับหัวเราะเสียงดังแบบไม่อายใครจนเอลตันทำสัญญาณให้อีกฝ่ายเบาเสียงหน่อย
"โทษทีลืมตัวไปหน่อย.... เอลตันนี่นายอย่าบอกนะว่าตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันมา คิดว่าที่ฉันทุ่มเททุกอย่างเพื่อให้คนแบบพ่อยอมรับงั้นเหรอ"
"ก็นั้นเป็นเป้าหมายของนายมาตลอดนี่" เอลตันพูด เบอร์นี่ส่ายหน้า
"ไม่อีกต่อไปแล้วเอลตันหลังจากที่ฉันได้ผ่านอะไรหลายๆอย่างมา มันทำให้ฉันเรียนรู้แล้วว่าไม่ว่าจะทำยังไงหรือล่าอันเดธกี่ร้อยตน พ่อก็ไม่มีทางยอมรับฉันหรอก แม้ว่าไวแอตต์จะอยู่ในคุกก็ตามดีไม่ดีก็คงโดนปล่อยตัวออกมาแล้ว"
"ถ้างั้น...."
"เป้าหมายของฉันยังเหมือนเดิมน้องชาย ต้องเหนือกว่าไวแอตต์ให้ได้และถ้าฉันบรรลุเป้าหมายนั้น... ฉันจะเป็นอิสระ" เบอร์นี่พูดแต่เอลตันขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ
"หมายความว่าไงเบอร์นี่" เอลตันถาม
"เมื่อไหร่ที่ฉันสามารถเอาชนะเขาได้... ฉันจะออกจากตระกูลแมกซ์เวลล์"
ทันทีที่เบอร์นี่พูดจบเอลตันเกือบหลุดขำออกมาแต่เมื่อสบตากับพี่ชายเข้า ทำให้เอลตันรู้ในทันทีว่าเบอร์นี่ไม่ได้พูดเล่นแต่เอาจริง ซึ่งแน่นอนว่าการกระทำแบบนั้นมันร้ายแรงมาก และหากเบอร์นี่นั้นก้าวเท้าออกจากบ้านเมื่อไหร่นั้นแปลว่า เบอร์นี่จะไม่มีสิทธิ์ใช้นามสกุลแมกซ์เวลล์อีกต่อไป เบอร์นี่รู้ถึงข้อนี้ดีอยู่แล้วว่าผลของมันจะเป็นยังไง แต่เขาทบทวนมาตลอดนับแต่เหตุการณ์นั้น และก็ได้คำตอบมาแล้วว่า เขาต้องการเป็นอิสระจากแมกซ์เวลล์และคำตราหน้าของคำว่า "ลูกเมียรอง 3"
"ฟังนะเอลตัน....นายเป็นน้องชายเพียงของฉันแต่ฉันไม่ต้องการให้นายตามฉันออกมา" เบอร์นี่เกริ่นขึ้น
"หมายความว่าไงไม่ต้องการให้ฉันตาม.... นายเป็นพี่ชายฉันนะจะปล่อยให้นายไปคนเดียวฉันทำไม่ได้หรอกนะ" เอลตันพูดขึ้น เบอร์นี่เดินมาล็อคตัวน้องชายด้วยการใช้ท่อนแทนขวา ดันคอเอลตันชิดกับเสาไฟฟ้า
"ฉันไม่ได้ขอความเห็นนายเอลตัน.... ที่ผ่านมานายเอาแต่เดินตามหลังฉันมาตลอด เหมือนที่ฉันเอาแต่ตามหลังพ่อที่ไม่เคยเหลียวหลังมามองฉันด้วยซ้ำ แต่ฉันจะไม่ทำแบบเขาเด็ดขาด.... และถ้านายเคารพฉันอยู่ ขอให้นายลิขิตชีวิตตัวเองชะ เพราะฉันก็จะลิขิตชีวิตตัวเองเหมือนกัน"
"แม้นายจะไม่ได้ออกจากบ้านแต่นายก็ลิขิตชีวิตตัวเองได้นะเบอร์นี่" เอลตันและเบอร์นี่หันไปทางต้นเสียงก็ต้องอึ้งไม่ใช่เล่น
ไวแอตต์เดินออกมาจากซอกตึกที่ไม่ไกลมาก ด้านหลังของชายวัยฉกรรจ์คือ ทอมสัน โรฮาน ไฮแรม และไซม่อน เบอร์นี่สังเกตเห็นว่าจุดที่พี่ต่างแม่อยู่นั้นแม้ไม่ใกล้มาก แต่คงจะได้ยินสิ่งที่เขาพูดกับเอลตันแล้ว หึ ! นี่วันร่วมญาติกันรึไงแต่ยังไงก็ตามชายหนุ่มรู้ดีอยู่แล้วว่ายังไงพวกไวแอตต์ก็ตามมาถึงนี่ได้อยู่แล้ว แต่สิ่งที่พวกเขาคุยกันคงไม่ใช่เรื่องล่าอันเดธแน่นอน
"นี่เป็นลิขิตของฉัน... นายไม่ต้องมายุ่ง" เบอร์นี่พูด
"นายเกลียดฉันขนาดนั้นเลยเหรอเบอร์นี่" เบอร์นี่ยิ้มที่มุมปากของตนเอง นี่ดูไม่ออกจริงๆเหรอ
"เอาจริงๆนะไวแอตต์ฉันจะไม่เกลียดนายเลย ถ้าพ่อไม่ทำแบบนั้น"
"หมายความว่ายังไง" ไวแอตต์ถามด้วยความสงสัย ซึ่งนั้นถึงกับทำให้เบอร์นี่นั้นระเบิดเสียงหัวเราะอย่างหักห้ามไม่ได้ ทอมสันเห็นแบบนั้นก็ทำท่าจะเข้าไปสั่งสอน แต่ไวแอตต์นั้นยกมือห้ามไว้เสียก่อน เขารู้ดีว่าน้องชายคนนี้เก็บกดมานานแต่ไม่คิดว่าจะเกลียดชังเขากับพ่อได้ขนาดที่ออกจากตระกูลแมกซ์เวลล์
"จำวันที่พ่อเรียกพวกเรามาทดสอบกันได้ไหม โดยมีดาบของปู่เป็นรางวัล....."
"เพราะเรื่องนั้นนายเลยเกลียดพี่ใหญ่งั้นเหรอ มีเหตุผลหน่อยสิเบอร์นี่" ทอมสันพูดตัดบทขึ้น นั้นทำให้เบอร์นี่นั้นเดือดดาลมาก
"ก็เออสิวะ ! แทนที่จะมาบอกว่าฉันไร้เหตุผล ไปพูดกับพ่อดีกว่าไหม.... ตอนแรกฉันก็ไม่ตะหงิดใจหรอกจนได้ยินกับหูนี่แหละ ว่าเหตุผลจริงๆแล้วที่พ่อทำแบบนั้น ไม่ได้จะทดสอบฉันหรือพวกทอมสัน แต่ต้องการทดสอบแค่นายคนเดียวว่าจะมีคุณสมบัติ ที่จะเป็นผู้สืบทอดตระกูลรึเปล่า..... นั้นย่อมแปลว่าดาบเล่มนั้นไม่มีทางที่พ่อจะยกให้คนอื่นแต่เจตนาจะยกให้นายคนเดียวตั้งแต่แรกแล้ว !"
เอลตันอึ้งตกใจกับเรื่องที่พี่ชายของตนพูดออกมา ใช่แล้ว ! เบอร์นี่ได้รู้ความจริงในสมัยที่เขาอายุได้ 14 ปี โดยตอนนั้นเขาแอบได้ยินสตีเฟ่นกำลังโต้เถียงกับ อังเดร น้องชายคนเล็กที่ไม่เห็นด้วยกับความลำเอียงที่สตีเฟ่นทำต่อลูกๆ และความจริงก็ปรากฏว่าสตีเฟ่นผู้ที่เบอร์นี่ยกย่องและเทิดทูนมาตลอดนั้น แท้จริงแล้วเหตุการณ์ในการทดสอบนั้นพ่อของเขาไม่ได้ต้องการทดสอบทอมสัน โรฮาน ไฮแรมหรือแม้แต่เขา แต่เป็นไวแอตต์คนเดียว ! นั้นแปลว่าดาบเล่มนั้นพ่อก็ไม่ได้คิดจะยกให้ใครนอกจากไวแอตต์ ส่วนที่เอาพวกเขามาก็เพื่อเป็นตัวประกอบเท่านั้น
นับแต่นั้นเบอร์นี่ก็เฝ้าหาคำตอบมาตลอดว่าต่อไป เขาจะเอายังไงกับชีวิตเมื่อเป้าหมายที่เขาต้องการก็ไม่มีวันสำเร็จ สตีเฟ่นไม่มีทางยอมรับเขาแน่นอนและเหตุการณ์ที่ผ่านมา เบอร์นี่ก็มักอยู่นอกสายตาคนเป็นพ่อเสมอมา ดังนั้นจึงเป็นที่มาของเป้าหมายใหม่ที่เบอร์นี่ต้องการเป็นอิสระจากวงศ์ตระกูล ที่ทำเหมือนเขาไร้ตัวตนตั้งแต่แรก ทางด้านของไวแอตต์เหมือนจะช็อคพอสมควร เขาไม่คิดว่านี่จะเป็นแผนการที่พ่อตั้งเอาไว้ ในตอนนั้นเขาก็สงสัยอยู่ว่าทำไมสตีเฟ่นเลือกเขา ทั้งที่ฝีมือเขาตอนนั้นอ่อนกว่าพวกเบอร์นี่ด้วยซ้ำ ที่แท้ก็มีเหตุมาจากตรงนี้เหรอ แล้วทำไมพ่อต้องลำเอียงขนาดนั้น
"นายรู้มาจากไหนกัน" ทอมสันพูดเหมือนจะไม่ค่อยเชื่อ
"ไปถามอาอังเดรได้เลยถ้านายไม่เชื่อ.... และไม่ขอให้พวกนายมาเชื่อฉันด้วย" เบอร์นี่พูด
"เฮ้ย ! จะดราม่ากันอีกนานไหมว่ะ กูสองคนรอจนเมื่อยแล้ว"
ทั้งหมดหันไปทางต้นเสียงก็พบว่าบนยอดตึกชั้นสามนั้น มีชายสองคนนั่งห้อยขาบนราวระเบียงห้องหนึ่งอยู่ ซึ่งไม่ใช่ใครที่ไหนคือนายแป๋วกับนายย้งที่มีเสื้อคลุมปกปิดเอาไว้ ไวแอตต์ไม่คาดคิดว่าเป้าหมายจะยอมโผล่มาง่ายๆแบบนี้ ทั้งหมดพร้อมใจกับเล็งอาวุธมาที่ชายทั้งสองที่ไม่มีท่าทีหวาดหวั่นแต่อย่างใด โดยเฉพาะกับนายแป๋วด้วย
"เรื่องของพวกเราไว้ทีหลัง จัดการกับสองคนนี้ก่อน" ไวแอตต์หันมาพูดกับเบอร์นี่ ซึ่งนายแป๋่วระเบิดเสียงหัวเราะออกมาอย่างคลุ่มคลั่งอย่างมาก
"จะกำจัดกูสองคนงั้นเหรอ แสดงว่าพวกมึงคงมั่นใจในฝีมือมากเลยสิ งั้นมาวัดกันหน่อยว่ากูกับไอ้ย้งและพวกมึงใครจะรอดหรือตาย ! "
+++++++++++++++++++++++++++++
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ