นักรบพันธุ์โหด ตอน ณัชฐานันท์

-

เขียนโดย กนกพัชร

วันที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 เวลา 12.18 น.

  88 ตอน
  54 วิจารณ์
  74.93K อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

69) ตอนที่ 69 ข้อแลกเปลี่ยน

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ห้องทำคลอดในโรงพยาบาลเอกชนใหญ่

ท่านทูตอากิระกำลังนั่งรออยู่หน้าห้องคลอดอย่างสงบนิ่ง จนแทบไม่เหลือเคราของคนขี้เล่นแต่อย่างใดบ่งบอกว่า เวลาจริงจังเขาก็น่ากลัวไม่ใช่น้อย ถัดจากท่านทูตอากิระก็คือ นาวาตรีนิโคลาส เกรเวอร์ ผู้ดำรงตำแหน่งเลขานุการตรีซึ่งพึ่งจะได้มาประจำการที่นี้ได้ 3 ปี กว่าแล้วสำหรับทหารเรือหนุ่มเขาแปลกใจพอสมควรว่า ทำไมเจ้านายของเขาถึงสนใจเรื่องของนายสหัสชัยอดีตนักการเมืองผู้ฉ้อฉลคนนี้ เพราะเรื่องดุจดาวอย่างนั้นรึไม่น่าจะใช่

   สักพักประตูห้องก็เปิดออกพร้อมกับคุณหมอที่มีเหงื่อชุบไปหมด เมื่อเจอกับท่านทูตอากิระหมอท่านนั้นทำความเคารพอีกฝ่าย ก่อนจะผายมือเชื้อเชิญให้สามารถเข้าไปในห้องได้ ซึ่งท่านทูตไม่รอช้าจึงก้าวเท้าเดินเข้าไปโดยมีนาวาตรีนิโคลาสเดินตามหลังมาติดๆ เมื่อเข้ามาในห้องแล้วพบดุจดาวนอนหมดสติอยู่ คง จะหมดเรียวแรงในการเบ่งทารกน้อยออกมา ตอนนี้ทารกน้อยนอนอยู่ข้างๆแม่ผู้ให้กำเนิด ท่านทูตอากิระ อุ้มเด็กน้อยขึ้นมาพินิจพิจารณาลักษณะของเด็ก

   ดุจดาวให้กำเนิดลูกชายซึ่งลักษณะทางกายภาพนั้นเหมือนมนุษย์ทุกประการ แต่แน่นอนว่าท่านทูตอาริระสัมผัสถึงพลังอันเดธในตัวเด็กนั้นไม่ธรรมดาบ่งบอกว่าพลังของพ่อก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน ดังนั้นการตัดสินใจจึงง่ายขึ้นว่าเด็กไม่ควรอยู่ที่นี้และต้องออกจากที่นี้ทัันที นาวาตรีนิโคลาสเดินมาอุ้มเด็กไปใส่ในตู้อบแบบพกพา ก่อนจะนำมันออกไปข้างนอกปล่อยให้ท่านทูตอากิระอยู่ตามลำพังกับดุจดาว ท่านทูตอากิระหงายมือที่มีแสงสีขาวออกมา แล้วจับไปแตะที่หน้าผากของดุจดาวบังเกิดเป็นแสงขาวปกคลุมทั่วร่างกายของเด็กสาว แล้วก็หายวับไปในที่สุด

   "ลบความทรงจำของเธอ คือข้อต่อรองของนายสหัสชัยอย่างนั้นเหรอแม่ มันของ่ายจัง" เสียงทักดังขึ้นจากข้างหลังของท่านทูตอากิระ เมื่อหันไปมองต้นเสียงก็ไม่ใช่ใครที่ไหน พันตำรวจโทดาสลัสนั้นเอง

   "ถึงมันจะเลวแค่ไหนฉันก็ต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่า เจ้าสหัสชัยรักลูกยิ่งกว่าชีวิตและคงไม่อยากเห็นลูกทรมานนะ.... เรื่องที่ฉันให้นายจัดการนะทำหรือยัง" ท่านทูตอากิระถามขึ้น

   "เรื่องพรประภา ผมได้จัดการหาครอบครัวอุปการะเรียบร้อยแล้ว จะไม่มีใครรู้ว่าเธออยู่ที่ไหนแม้แต่กับครอบครัวที่แท้จริงก็ตาม... เพียงแต่..."

   "มีปัญหาเหรอ"                      

   พันตำรวจโทดาสลัสเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในเรือนจำกลางที่ตนเองดูแลอยู่ ซึ่งก่อนหน้านั้นหยางเสี่ยวฟงได้ส่งข้อความเตือนภัยมาแล้วว่า นายจั๋วจะบุกมาเพื่อมาพาครอบครัวหลบหนี แต่ทว่าล้มเหลวเพราะขาดสมาชิกในครอบครัวไปหนึ่งคน ก็คือบุตรสาวนั้นเองนั้นย่อมแปลว่านายจั๋วต้องวกกลับมาแน่นอน และเพ่งเล็งมาที่เขาเป็นพิเศษแต่ก็มีอย่างหนึ่งที่นายจั๋วไม่รู้คือ ชายหนุ่มยศตำรวจนายนี้แท้จริงแล้ว เขาเป็นชาวฟรอนร์เทียร์และเป็นนักรบฟินิกซ์บุตรบุญธรรมอีกคนของท่านทูตอากิระ

   สาเหตุที่เขาได้มาทำงานในฐานะผู้ดูแลเรือนจำกลางนั้น เป็นข้อตกลงระหว่างท่านทูตอากิระกับ จิแฮอิน ประธานาธิบดีของไวด์โร๊ด ที่ได้แอบว่าจ้างลูกชายบุญธรรมให้มาทำหน้าที่ดูแลเรือนจำ โดยจุดประสงค์หลักก็คือกวาดล้างการทุจริตภายในเรือนจำแห่งนี้ แม้ว่าพันตำรวจโทดาสลัสจะจัดการพวกนั้นได้ไปหลายราย แต่เขาพบข้อมูลที่น่าสนใจมากกว่านั้นว่าเครือใหญ่เป็นพวกผู้มีอิทธิพลใหญ่ นั้นยังร่วมของนายสหัสชัยด้วย แต่เพราะนายสหัสชัยเล่นไม่ซื่อสั่งเก็บคู่แข่งหลายคน ทำให้โดนลอบยิงในระหว่างที่พาตัวดุจดาวกลับบ้าน

   หลังจากที่เกิดเรื่องร้ายๆกับดุจดาวนั้นทำให้พันตำรวจโทดาสลัสนั้น ไปเจรจาต่อรองกับนายสหัสชัยให้บอกข้อมูลทั้งหมด ซึ่งนายสหัสชัยยอมตกลงแต่มีเงื่อนไขว่า ทำยังไงก็ได้ที่ทำให้ดุจดาวลืมเรื่องร้ายในโรงพยายาลนั้นให้หมด นั้นทำให้เขาต้องไปปรึกษากับแม่บุญธรรมเพราะเขาไม่ได้มีความสามารถในการลบความทรงจำ ซึ่งแน่นอนว่าหลังจากที่ทำการลบความทรงจำแล้ว บุรุษพยาบาลก็มาเข็นเตียงของดุจดาวออกจากห้องไป

    "ตอนนี้นายสหัสชัยอะไรนั้นของนาย อยู่ไหน" ท่านทูตอากิระถาม

    "ตามผมมาเลยแม่" พันตำรวจโทดาสลัสเอ๋ยขึ้น

                 

                                      +++++++++++++++++++++++++                 

         

ห้องผู้ป่วยของนายสหัสชัย

นายสหัสชัยนั้นนอนนิ่งอยู่บนเตียงในสภาพที่เรียกว่าหมดอาลัยตายอยาก ภาพในอดีตที่ตนเคยมีบารมีอำนาจบาตรใหญ่ใครเห็นต่างก็ต้องเคารพยำเกรง แต่ตอนนี้นอกจากต้องสูญเสียทุกอย่างแล้ว ตนเองก็ยังต้องกลายเป็นอัมพาตและต้องเห็นลูกสาวทุกระทมกับสิ่งที่ตนก่อเอาไว้ ภาพที่ลูกสาวหวาดกลัวและอาละวาดคลุ่มคลั่งหลังจากที่รู้ว่าตั้งท้อง ใจของพ่อก็แหลกสลายซ้ำไปซ้ำมาพร่ำกล่าวโทษตนเองที่ไม่มีปัญญาช่วยดุจดาวได้

    เสียงประตูเปิดดังขึ้นซึ่งนายสหัสชัยนั้นไม่อยากสนใจแล้วว่าใครจะเข้ามา แต่เมื่อเขานั้นหันมามองอีกทีก็ต้องเปลี่ยนความคิด เพราะคนที่เข้ามาก็คือพันตำรวจโทดาสลัสและท่านทูตอากิระ ซึ่งตัดสินใจเดินไปคว้าเก้าอี้มานั่งประจันหน้ากับนายสหัสชัยในท่านั่งไขว่ห้าง ส่วนชายหนุ่มนั้นเลือกที่จะยืนมากกว่า

    "เรื่องลูกสาวของคุณ แม่ผมทำการลบความทรงจำแล้ว เธอจะจำเรื่องราวเหล่านั้นไม่ได้อีก" คำตอบนี้ทำให้นายสหัสชัยนั้นเบาใจลงอย่างมาก

    "แล้วเด็ก...."

    "ฉันทำเรื่องไว้แล้วเด็กจะถูกส่งไปที่ฟรอนร์เทียร์ภายในวันนี้ ทั้งคุณและดุจดาวจะไม่ได้เห็นเขาแน่นอน" ท่านทูตอากิระพูดแทรกขึ้น

    "ทีนี้มาคุยเรื่องของเราดีกว่านะคุณสหัสชัย เครือข่ายการค้ายาเสพติดที่อยู่ในเรือนจำของผม นอกจากกธุรกิจของคุณแล้วยังมีเครือข่ายของใครอีก... ทางผมทำตามที่รับปากแล้ว ตาคุณบ้าง"

    นายสหัสชัยหันไปมองทางลิ้นชักโต๊ะข้างๆเตียง พันตำรวจโทดาสลัสเดินไปเปิดลิ้นชักออกพบสมุดบันทึกเล่มหนาปกสีน้ำตาลเข้ม เขาโชว์ให้ท่่านทูตอากิระดูก่อนจะทำการเปิดดู เขาพบว่าในสมุดเล่มนี้มีข้อมูลของนักการเมืองชั้นใหญ่ ชั้นกลาง และชั้นน้อย จนถึงระดับเศรษฐีที่ใช้ธุรกิจสีขาวบังหน้าแต่รายได้หลักอยู่ที่ธุรกิจมืดทั้งสิ้น ตรงกับหลักฐานที่เขาได้มาจากทั้งจากนักโทษกับผู้คุมแล้ว ที่เขาจับพวกนั้นไม่ได้สักทีนั้นเพราะว่าทันทีที่เรื่องแดง เจ้าพวกนั้นก็ทำลายหลักฐานทั้งหมดและตัดหางไว้วัดธุรกิจนี้

    "โอเคคุณสหัสชัย ขอบคุณที่อย่างน้อยๆในชีวิตบัดซบของคุณก็ยังทำเรื่องดีๆกับเขาบ้างสักที"

    "ส่งมาให้ฉันสิ" พันตำรวจโทดาสลัสยื่นสมุดบันทึกให้กับท่านทูตอากิระ ซึ่งก็ตรวจเช็ดเนื้อหาในนี้ซึ่งมันเยอะมาก เขาเชื่อว่าลูกชายบุญธรรมคงเก็บกวาดไม่ไหว ต้องหาคนที่เหมาะสมกับงานแบบนี้โดยเฉพาะ

    นาวาตรีนิโคลาสเข้ามาในห้องพร้อมกับมากระซิบข้างหูท่านทูตอากิระ ตอนนี้เด็กได้ถูกมอบให้กับคนของสถานทูตฟรอนร์เทียร์ประจำประเทศไวด์โร๊ดแล้ว ทีเหลือคือรอคิวขึ้นเครื่องบินตรงไปฟรอนร์เทียร์เลย เพราะยังไงชะท่านทูตอากิระก็หมดหน้าที่ตรงนี้แล้วและตนเชื่อว่าลูกบุญธรรมที่ยังต้องอยู่ที่นี้สามารถแก้ปัญหาได้ ท่านทูตอากิระส่งสัญญาณให้พากันออกจากห้องเพื่อปล่อยให้นายสหัสชัยอยู่ตามลำพัง

    "เดียว ! แล้วกูจะได้เจอดาวไหม" นายสหัสชัยถามขึ้น

    "ห่วงตัวเองก่อนไหมคุณสหัสชัย ว่าจากนี้ไปคุณจะไม่มีวันได้เห็นหน้าลูกคุณอีก"

    "หมายความว่าไง มึงทำอะไรลูกกู ! ..... มึงหลอกกูงั้นเหรอ"

    "โอ๊ย ! จะโวยวายอะไรหนักหนาเหรอพ่อคุณ ฉันจะบอกอะไรให้เอาบุญนะฉันอบรมลูกฉันมาดีย่ะ เขารับปากแล้วว่าจะช่วยลูกของคุณเขาก็ทำได้ แต่ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ฉันหรือลูกชายฉัน แต่เป็นที่ดุจดาวของคุณต่างหาก" ท่านทูตอากิระแต๋วหลุดออกมาทันทีหลังจากที่วางฟอร์มอยู่นาน แต่.... จะวางฟอร์มไปเพื่อ

    "มึงพูดเรื่องอะไร" พันตำรวจโทดาสลัสเองก็รอคำตอบจากท่านทูตอากิระเช่นกัน

    "ไหนๆก็ไหนๆแหละฉันก็ไม่อยากโกหกหรอกนะเพราะฉันสอนลูกทุกคนไม่ให้พูดโกหก แต่คุณจะเชื่อหรือเปล่าไม่ใช่หน้าที่ของฉันแล้วดุจดาวลูกสาวของคุณนะ เขาบอบซ้ำทางจิตใจค่อนข้างสาหัสมากกว่าที่โดนข่มขืนเสียด้วยซ้ำ ลูกสาวคุณเสียใจและผิดหวังมากกว่ากับภาพลักษณ์พ่อแสนดีจอมปลอมที่สร้างขึ้นเพื่อหลอกเขา และอันนี้พีทสุดๆเลยคือดุจดาวไม่ต้องการมีพ่อแบบคุณแล้ว เธอต้องการที่จะลืมคุณเพราะอะไรนะเหรอ เธอเชื่อว่าถ้าไม่มีความทรงจำเรื่องคุณเธอจะเป็นอิสระ ฉันเลยทำให้แค่นั้น"

    นายสหัสชัยอึ้งกับคำตอบของท่านทูตอากิระ แม้ว่าจะไม่อยากเชื่อแต่แน่นอนว่าท่านทูตอากิระเป็นคนที่พูดตรง ไม่เคยพูดโกหกประกอบกับภาพก่อนที่ดุจดาวจะมีสภาพแบบนี้ เธอก็เหมือนดั่งตกนรกทั้งเป็นเพราะจากที่เธอมีเพื่อนมากมาย มาตอนนี้พากันเริ่มคบทอดทิ้งดุจดาวไว้ข้างหลัง ถูกสังคมตีตราในสิ่งที่เธอไม่ได้แต่ต้องมารับผลจากสิ่งที่ตนเองกระทำ และหากนั้นเป็นความต้องการของตัวดุจดาวจริง คนป่วยอัมพาตอย่างเขาจะทำอะไรได้

    ท่านทูตอากิระและพันตำรวจโทดาสลัสพากันเดินออกมาจากห้อง เพื่อปล่อยให้นายสหัสชัยนั้นสำนึกผิดในวาระสุดท้ายของเขา ส่วนในระหว่างที่เดินจะออกจากโรงพยาบาลนั้น ทั้งสองคนเลือกที่จะแวะมาหาดุจดาวก่อนไปซึ่งเธอได้สติแล้ว แต่....ดุจดาวตอนนี้ไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว สำหรับตำรวจหนุ่มที่มองมาที่หญิงสาวนั้น มันเหมือนคนที่ได้รับอิสระใหม่ไม่ต้องมารับรู้เรื่องราวอะไรอีก อย่างไรก็ตามเขาคิดว่าดุจดาวไม่ควรอยู่ที่นี้                  

    "ฉันตั้งใจจะพาเธอคนนี้ไปอยู่ที่ประเทศรายา ที่นั้นจะมีคนดูแลเธอเองโดยเพื่อนเก่าฉัน" ท่านทูตอากิระเกริ่นขึ้นเหมือนอ่านใจลูกชายออก

    "ถ้างั้นแม่ก็ไปได้โดยไม่ต้องห่วงทางนี้นะครับ พวกผมดูแลกันเองได้" พันตำรวจโทดาสลัสกล่าวขึ้น

    "หน้าที่ของนายหมดแล้วดาสลัส..."

    "ยังครับ ! ยังไม่หมดตราบใดที่นายจั๋วยังมีชีวิตอยู่ เขาต้องพลิกแผ่นดินหาพรประภาแน่นอน อนาคตเธอจะเปลี่ยนผมเสี่ยงไม่ได้เด็ดขาด"

    "ถ้างั้นจงไปทำหน้าที่นั้นให้เสร็จสิ้นชะแล้วติดต่อกลับมา ฉันจะทำเรื่องส่งนายกลับตามนี้นะ"

    ท่านทูตอากิระเลือกที่จะปล่อยให้ลูกชายทำหน้าที่สุดท้ายต่อ ก่อนจะเดินจากไปพร้อมกับเลขานุการตรี โดยที่พันตำรวจโทลาสลัสนั้นยืนทำความเคารพตามหลัง ใช่แล้ว ! หน้าที่ของเขายังไม่จบเขาต้องทำให้มันสำเร็จ เพื่อให้แน่ใจว่าความลับของพรประภาจะมีแค่เพียงเขาเท่านั้นที่รู้

                                  

                                       

 

 

                                                                  ++++++++++++++++++++++++                                         

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา