นักรบพันธุ์โหด ตอน ณัชฐานันท์

-

เขียนโดย กนกพัชร

วันที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 เวลา 12.18 น.

  88 ตอน
  62 วิจารณ์
  77.04K อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

63) ตอนที่ 63 ล่อเหยื่อ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ไม่ระบุสถานที่ ไม่ระบุเวลา

    "อันเดธไม่ทราบจำนวนบุกถล่มแถวตลาดของสด ขอกำลังเสริมด่วน" เสียงวิทยุดังไม่ขาดสายตลอดที่สารวัตรภาธรนั้นขับรถ เพื่อจะพากองกำลังตำรวจไปช่วย

    เมื่อประมาณ 6 ชั่วโมงที่แล้วนี่สารวัตรภาธรนั้นได้แอบ เคลื่อนย้ายมธุสรออกจากโรงพยาบาลเดิมไปรักษาตัวที่อื่นเพื่อความปลอดภัยตามคำแนะนำของอภิชัย ส่วนมธุกรนั้นสารวัตรภาธรตัดสินใจให้หมอณัฐฐาเป็นคนพาเธอไปอยู่ที่บ้านกุลชาติแทน ซึ่งเขาไม่เข้าใจว่าทำไมถึงส่งเด็กสาวไปอยู่ที่นั้น และคำตอบที่เขาได้กลับมาคือมธุกรจะปลอดภัยหากอยู่ที่นั้น ตอนนี้เขาหมดห่วงเรื่องสองแม่ลูกตระกูลอัศวบุุญที่ยังเหลืออยู่ ข้อมูลถูกต้องตามที่กล่าวอ้างไว้้ไม่มีผิดว่าจะมีอันเดธบุกที่ตลาดจริง แถมยังเคยเป็นที่ที่ครอบครัวนายสินเคยเปิดร้านขายหมูสดที่นี้มาก่อน

    ด้านหลังฝั่งคนขับนั้นอภิชัยนั่งสูบบุหรี่ไฟฟ้าและบ่นควันออกนอกหน้าต่างรถ ชายหนุ่มได้รับมอบหมายให้มาช่วยสารวัตรภาธรในการสู้กับอันเดธ ซึ่งเขาเดาได้ไม่ยากว่าตัวแกนนำคงไม่พ้นนายบึ๊กแน่นอน จากข้อมูลที่แท็กส่งมาก่อนหน้านี้นายบึ๊กแค้นแม่ติ่มมากที่สุดรองจากมธุสร แน่นอนว่าเมื่อมีโอกาสอาละวาดก็ต้องพุ่งเป้ามาที่เหยื่อที่ไม่มีใครสนใจ หากเทียบกับเหยื่อหมายเลขหนึ่งของมันที่มีตำรวจคอยคุุ้มกันตลอด 24 ชั่วโมง

    "คุณรู้ได้ไงว่าเป็นที่นี้" สารวัตรภาธรถามด้วยความสงสัย

    "อันเดธที่อดีตเคยเป็นมนุษย์มาก่อนและยังเหลือความทรงจำตอนเป็นมนุษย์ละก็ มักจะไปสถานที่ที่ตนเคยผูกพันมาก่อนไม่ว่าจะดี ร้าย หรือแค้น พยาบาทแค่ไหนก็ตาม" คำตอบสั้นๆของอภิชัย ทำให้สารวัตรหนุ่มเชื่อคำพูดของหมวดฮันโดแล้วว่าชายหนุ่มที่นั่งข้างหลังนั้นมีประสบการณ์ในการล่าอันเดธมากแค่ไหน

    หลังจากที่ใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมงครึ่งนั้นในที่สุดสารวัตรภาธรพร้อมด้วย กองกำลังตำรวจคอมมานโดที่ได้รับการฝึกในการสู้กับอันเดธแล้วตามมาสมทบกับจ่านนท์กับจ่าเข้ม ที่กำลังให้ตำรวจหลายสิบนายล้อมเหล่าอันเดธไม่ให้หลุดหนีออกไปได้ และพยายามต้อนพลเรือนที่เป็นทั้งพ่อค้าแม่ค้าและชาวบ้านออกมาให้ได้มากที่สุด เมื่อมีกำลังเสริมแล้วทำให้การช่วยเหลือพลเรือนง่ายขึ้นไปอีก จ่านนท์วิ่งมาหาสารวัตรภาธรเพื่อรายงานสถานการณ์

    "ตอนนี้เป็นยังไงบ้างจ่า" สารวัตรภาธรถามขึ้นพร้อมจะคว้าอาวุธประจำกายออกมา ซึ่งเป็นครั้งแรกที่อภิชัยได้เห็นอาวุธประจำกายของอีกฝ่าย มันเป็นดาบโค้งปลายและคมด้านเดียวมีลายอักขระโบราณสลักที่ใบดาบ ส่วนด้ามดาบนั้นเหมือนจะทำจากกระดูกสัตว์ใหญ่

    "พวกผมพยายามต้านพวกอันเดธไม่ให้บุกเข้ามามากกว่านี้ แต่ยังมีบางส่วนหลุดเข้าไปและตอนนี้ยังมีพลเรือนติดอยู่ข้างในครับ" จ่านนท์กล่าวรายงาน ในขณะที่ทั้งเสียงปืน เสียงยิงเวทย์และเสียงของมีคมเฉือนเนื้ออันเดธดังไปหมด

    แม้สถานการณ์ดูจะแย่แต่หมวดอารักษ์สังเกตว่าอภิชัยนั้น ยังนั่งสูบบุหรี่ไฟฟ้าอยู่ที่รถสบายใจแบบไม่ทุกข์ร้อนอะไร จนบางทีเขาก็อดสงสัยไม่ได้เหมือนกันว่าผู้กำกับทอมคิดอะไรอยู่ แต่ประมาณ 12 นาที ต่อมาพวกตำรวจก็พบคำตอบเมื่อได้ยินเสียงรถแล่นมาจอดข้างๆ ทั้งหมดก็เจอกับแท็กที่ไม่ได้มาคนเดียวเขาพ่วงเพื่อนมาด้วยอีกสองคน นั้นคือ ปวเรศกับศุภรัศมิ์ ทำให้หมวดอารักษ์คิดว่าชายหนุ่มในรถอาจจะรอกองหนุนของตนเหมือนกัน

    "มาช้าจังนะ" อภิชัยพูดพร้อมกับเดินลงมาจากรถและเก็บบุหรี่ไฟฟ้าเข้าที่เดิม

    "โทษทีพี่บังเอิญไปทำธุระอะไรมานิดหน่อย" แท็กตอบ และสำรวจพื้นที่ไปรอบๆซึ่งเขาพบว่า ตำรวจเริ่มมีกึ่งพอที่จะปราบอันเดธแล้ว

    "เอาล่ะ ตอนนี้มีพลเรือนติดอยู่ในตลาดไม่ทราบจำนวน หน้าที่ของพวกเราคือช่วยตำรวจพาพลเรือนออกมา.... แต่ยกเว้นแกแท็กหน้าที่ของแกคือหาตัวการที่นำทัพบุกมานี่เป็นคำสั่งโดยตรงจากพี่เสี่ยวฟง" อภิชัยอธิบายถึงหน้าที่ของแต่ละคนให้ชัดเจน แต่สำหรับตัวของแท็กแล้วเขาไม่เข้าใจเลยว่า ทำไมต้องโยนงานช้างมาให้เขาด้วยแถมยังให้ลงมือคนเดียวอีก

    "ผมกับซีต้องทำยังไงครับเนี่ย" ปวเรศถามด้วยความสงสัย

    "มากับพี่ช่วยตำรวจจัดการกับอันเดธช่วยพลเรือน และเปิดทางให้แท็กเข้าถึงตัวการอย่างนายบึ๊ก"

    ทางฝั่งสารวัตรภาธรเมื่อได้ฟังแผนการของอภิชัยแล้ว ทางเขาเองก็เรียกหมวดอารักษ์ จ่าผล จ่านนท์ และหมวดฮันโดที่พึ่งจะตามมาสมทบพร้อมด้วย สารวัตรมารวย และ รองสารวัตรสงคราม ซึ่งเป็นผู้ดูแลพื้นที่นี้ก็มาร่วมตัวกันด้วย โดยสารวัตรภาธรกับจ่าผลจะนำตำรวจคอมมานโดไปพร้อมกับอภิชัย ซึ่งชายหนุ่มจะใช้เวทย์จัดการคุ้มกันเพื่อให้พวกเขานำตัวพลเรือนออกมาให้ได้มากที่สุด ส่วนหมวดฮันโด จ่านนท์ และจ่าเข้มนำตำรวจคอมมานโดกับตำรวจที่ยังสู้ไหว จัดการกับอันเดธที่อยู่ข้างในเสริมกำลังให้กับปวเรศและศุภรัศมิ์เปิดทางให้แท็กเข้าถึงแกนนำให้ได้ และหมวดอารักษ์กับตำรวจทีเหลือจัดการไม่ให้อันเดธเข้าไปในตัวตลาดได้อีก

    "รู้หน้าที่ของตัวเอง ลงมือได้" เมื่อสิ้นคำสั่งของสารวัตรภาธร ปวเรศที่รู้หน้าที่อัตโนมัติก็พุ่งทะยานออกไปก่อนคนแรก ซึ่งจ่าผลกำลังจะร้องห้ามแต่อภิชัยขวางไว้เสียก่อน

    ปวเรศวิ่งผ่านกลุ่มตำรวจที่กำลังติดพันกับอันเดธอยู่นั้น เขาวิ่งมาเผชิญหน้ากับฝูงอันเดธที่มีลักษณะคล้ายค้างคาว แววตาของพวกมันกระหายเลือดและต่างวิ่งมาทางเด็กหนุ่มคนเดียว และตาของปวเรศเปลี่ยนเป็นสีแดงราวกับเปลวเพลิง ก่อนที่จะเปล่งพลังจิตของเขาออกมาเป็นวงกว้างเป็นวงแหวนแนวนอน คลื่นพลังจิตพุ่งกระแทกเข้ากับฝูงอันเดธร่างค้างคาว และผลที่เกิดขึ้นนั้นทำเอาพวกสารวัตรภาธรนั้นถึงกับตาค้างเลยทีเดียว

    ฝูงอันเดธที่โดนพลังจิตของปวเรศเข้าไปกลายเป็นเศษผงธุุลีสีดำภายในพริบตา อันเดธร่างยักษ์ที่อยู่ใกล้ๆยังแสดงท่าทีหวาดหวั่นแต่มันก็ยังใจดีสู้เสือด้วยการพยายามจะคว้าตัวปวเรศ ทว่าเด็กหนุ่มหยิบกระดาษแข็งใบหนึ่งออกมา พร้อมทำการฟาดลงที่ท่อนแขนของมันเสมือนเขาใช้ดาบฟัน แขนของอันเดธร่างยักษ์ขาดสะบั้นทันทีเลือดสีดำน้ำขยะ กระจายไปทั่วบริเวณนั้นและมันร้องโหยหวนก่อนจะถูกปวเรศใช้กระดาษใบเดิมเฉือนคอมัน และมันก็ล้มนอนหน้าคว้ำแน่นิ่งไปในที่สุด

    "สายพลังจิตงั้นเหรอ" สารวัตรภาธรพึ่งพำออกมา ในกรมของเขานั้นก็มีตำรวจที่เป็นสายพลังจิตอยู่ แต่ในวัยแบบปวเรศนั้นเขาต้องยอมรับพลังของอีกฝ่ายแกร่งจริงๆ

    "ผมเคยได้ยินมาว่าที่ฟรอนร์เทียร์ พวกสายพลังจิตแข็งแกร่งมาก.... ไม่คิดว่าจะได้เห็นกับตา" สารวัตรมารวยเกริ่นเบาๆ

    หลังจากที่ปวเรศเปิดเส้นทางแล้วอภิชัย ศุภรัศมิ์ และแท็กต่างก็พากันวิ่งตามหลังปวเรศไป ซึ่งสารวัตรภาธรพึ่งตั้งสติได้ก็สั่งการให้เหล่าตำรวจทุกนายวิ่งตามไปเสริม ส่วนหมวดอารักษ์นั้นทำหน้าที่ต้านไม่ให้อันเดธข้างนอกเข้าไปในตลาดมากไปกว่านี้ ทางฝั่งของทางพวกแท็กที่บุกเข้ามาได้นั้น จ่าเข้มและจ่านนท์พร้อมตำรวจอีก 4-5 นายตามไปสมทบกับกลุ่มตำรวจท้องถิ่น ที่พยายามพาพลเรือนหลบออกมาให้ได้มากที่สุด

    แท็กไม่สนอะไรทั้งนั้นนอกจากต้องวิ่งเข้าไปให้ถึงโซนหมายเลข 19 เขาเชื่อว่านายบึ๊กต้องอยู่ที่นั้นแน่นอนดังนั้นแท็กจึงตัดสินใจวิ่งฝ่าเหล่าอันเดธที่พยายามจะขวางทางเขา ก็จะมีพวกสารวัตรภาธรมาคุ้มกันอีกทีและมีการแยกกระจายกลุ่ม เพราะแม้ว่าจะไม่มีอันเดธบุกเข้ามาจากข้างนอกก็จริง แต่อันเดธที่อยู่ในตลาดก็มีจำนวนไม่ใช่น้อยๆเช่นกัน และการที่ฝูงพวกมันเยอะขนาดนี้ก็ทำให้แท็กยังติดอยู่ในโซนหมายเลข 17

    "แปง ใช้พลังของแกเปิดทางให้แท็กเดียวนี้ !" ปวเรศชาร์ดพลังของเขาก่อนจะวิ่งมาอยู่นำหน้าแท็ก แล้วปล่อยกระแสพลังจิตออกเป็นวงกว้าง และอันเดธทั้งฝูงต่างก็กลายเป็นผงธุลีภายในพริบตา

    "กระทืบมันให้ได้นะ" ปวเรศตะโกนตามหลังแท็ก ที่วิ่งไปไกลพอสมควรก่อนที่เขาจะนั่งทรุดลงกับพื้น แต่ยังไม่ได้จะได้นั่งพักเลยดูเหมือนจะมีงานเข้า เมื่อจ่านนท์วิ่งหน้าตาตื่นมาแต่ไกลใจคอของปวเรศไม่ค่อยดีเท่าไหร่

    "สารวัตรครับเกิดเรื่องแล้วครับ" จ่านนท์พูดไปหอบไป

    "ใจเย็นๆจ่า ค่อยๆพูดเกิดอะไรขึ้น" สารวัตรภาธรถามขึ้น

    "เมื่อกี้มีพลเรือนคนหนึ่งบอกว่า ลูกสาววัย 4 ขวบ ยังติดอยู่ในนี้ครับ" คำพูดของจ่านนท์ทำเอาทุกคนใจคอไม่ดีเลย

    "ติดอยู่ที่ไหน"

    "เห็นบอกว่าก่อนเกิดเรื่อง เด็กไปเล่นอยู่ที่... โซนนั้น" ทุกคนเงียบกริบทันที

                                                  

                                   ++++++++++++++++++++++++++                        

 

เขตโซนหมายเลข 19

แท็กวิ่งเข้ามาถึงหมายเลข 19 ได้แล้วภาพที่เขาเห็นคือ ศพของคนในตลาดที่หนีไปทันนอนเกลื้อนล้นเต็มไปหมด เลือดของพวกเขาเหล่านั้นไหลปะปนกับเลือดจากเนื้อหมูสด แยกไม่ออกว่าอันไหนเลือดคนกับสัตว์์แต่ที่เหมือนกันแน่นอนคือ กลิ่นคาวเลือดที่คละฟุ้งเต็มจมูกของแท็กเต็มไปหมด เขาเริ่มเตรียมพร้อมในการรับมือเพราะจ่าสิบเอกสายลมสอนเขาเสมอว่า สถานการณ์ที่เงียบงันมักอันตรายเสมอดังนั้นแท็กก็ไม่ควรประมาท

    เขาเดินเลาะผ่านกองศพที่น่าจะถูกอันเดธกินแถะกันทิ้งไว้ เสียงการประทะจากฝั่งโน่นยังดังเป็นระยะๆแต่เสียงเริ่มค่อยลง เมื่อยิ่งเดินมาไกลมากขึ้นแท็กแปลกใจมากที่ไม่มีวี่แวของอันเดธสักตัว ราวกับ..... นายบึ๊กกำลังรอให้เขามาที่นี้คนเดียว เพื่อจะล้างบัญชีแค้นที่เขาฆ่าครอบครัวอีกฝ่ายตามที่อีกฝ่ายเข้าใจ คงจะแค้นเขามากจนถึงขั้นกล้าขัดคำสั่งนายแป๋วได้ แต่ไม่ว่าจะเหตุผลอะไรหน้าที่ของแท็กก็คือจำกัดนายบึ๊กอยู่แล้ว ไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องไว้ชีวิต

   

    โครม !

          

    แท็กหันไปมองที่ต้นเสียงพร้อมกับคว้ามีดอีโต้สำหรับสับเนื้อมาไว้ในมือ พร้อมจ้องมองไปที่ท้ายรถแช่แข็งสำหรับส่งเนื้อสดโดยเฉพาะ เขามั่นใจว่าได้ยินเสียงของตกจากข้างในรถคันนั้น ที่สำคัญยังสัมผัสได้ถึงความหวาดกลัวจากสิ่งที่อยู่ในรถด้วย แท็กตัดสินใจเดินมาสำรวจตรงนี้ดูตรงประตูหลังรถที่ทาด้วยสีขาว แต่ตอนนี้มันถูกทับด้วยสีเลือดแดงสดซึ่งไม่ต้องเดาอะไรมาก เขาสังเหตเห็นว่าประตูมันปิดไม่ค่อยสนิทมากนัก หากตาไม่ดีจริงๆจะไม่ค่อยมองเห็นกันเท่าไหร่ แต่เมื่อแท็กเปิดประตูรถออกมาก็ต้องตกใจกับภาพที่เห็น

    เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆผิวแทนเข้มผมสั้นเนื้อตัวสกปรกซึ่งแท็กไม่แน่ใจว่า มันเกิดจากการที่เด็กเล่นซนหรือวิ่งหนีหัวซุกหัวซุนจากฝูงอันเดธกันแน่ แต่ไม่ว่าจะอย่างไหนก็ตามดูเหมือนว่าเด็กน้อยตรงหน้าคงผลัดหลงกับพ่อแม่ แล้วไม่มีทางเลือกจึงแอบหนีมาอยู่ในรถแบบนี้แทนโชคดีที่มันปิดไม่สนิทมาก ไม่งั้นเธอคงหนาวตายในนี้แน่นอนเพราะระบบทำความเย็นยังทำงานอยู่ แต่ทำไงได้ถ้าเป็นเขาหากหนีไม่พ้นจริงๆซ่อนตรงไหนก็ซ่อนตรงนี้เหมือนกัน และการที่อีกฝ่ายเห็นเขาที่ไม่ใช่อันเดธก็ยิ้มดีใจแล้วเดินมากอดเขาด้วยท่าท่างที่หนาวสั่นคงจะอยู่ในนี้นานพอสมควร

    "หนูพ่อแม่อยู่ไหน ทำไมมาหลบในนี้" แท็กถามขึ้น

    "ไม่รู้เขาให้หนูอยู่ในนี้" เด็กหญิงตอบตามประสาเด็ก ให้ตายสิถ้าจะให้วกกลับไปหาพวกสารวัตรก็ไกลไป แถมไม่รู้เลยว่าจะโดนดักเล่นงานตอนไหน

    ยังไม่ทันที่แท็กจะลงมือทำอะไรมีอะไรบางอย่างมาจู่โจมเขาจากข้างหลัง แต่ประสาทสัมผัสรับรู้ตอบโตของแท็กไวกว่าเขาจึงเบี่ยงตัวหลบก่อนที่จะหมุนตัวเหวี่ยงกำปั้นขวาอัดใส่สิ่งนั้น จนกระเด็นเข้าไปในตัวตลาดซึ่งแน่นอนว่ามันคืออันเดธ ลักษณะของมันคือยืนสองข้างรูปร่างผอมเพียวผิวสีดำเหมือนน้ำมันเสีย หัวของมันนั้นแท็กแทบดูไม่ออกว่ามันหัวคนหรือหัวอะไร แต่ที่แน่ๆคือมันไม่มีดวงตา จมูกหรือปาก แขนของมันคล้ายกับคมดาบที่ลับคมมาอย่างดี และดูท่าหมัดของเขาจะเบาไปนิดเพราะมันยังลุกขึ้นมาได้

          

    แปะ แปะ แปะ แปะ

     

    เสียงปรบมือดังขึ้นไม่ไกลมากนักและแท็กหันไปทางขวามือ นายบึ๊กยืนตบมือในท่าทางมาดกวนพอสมควร แต่แววตาแผ่แรงอาฆาตออกมาซึ่งสวนทางกับท่าทางอย่างมาก แท็กให้เด็กหญิงหลบอยู่ข้างหลังเขาโดยอัตโนมัติเพราะต้องการให้อีกฝ่ายจ้องมาที่เขาคนเดียวซึ่งมันได้ผล นายบึ๊กแทบไม่สนใจเด็กน้อยเลยนอกจากเขาคนเดียว จากนั้นก็มีอันเดธตนหนึ่งเดินออกมาจากซอกตลาดซึ่งไม่ใช่ใครที่ไหน อันเดธของเดรโกที่เคยอัดเขาชะหมอบนั้นเอง โอ้ ดูเหมือนจะเป็นศึกล้างมือไปด้วย

    "กูกะไว้อยู่แล้วว่ามึงต้องมา" นายบึ๊กพูดด้วยน้ำเสียงที่เคียดแค้นอย่างมาก

    "คงแค้นกูมากเลยสินะ... มึงถึงกล้าขัดคำสั่งลูกพี่ของมึง" สีหน้าของนายบึ๊กเปลี่ยนไปเล็กน้อยก่อนจะกลับมาเหมือนเดิม

    "เงียบปากของมึงไปเลย ! ยังไงกูก็จะชำระแค้นให้ได้"

    "เพราะงั้นเลยลงทุนยกทัพโขยงมาที่นี้เพื่อล่อให้กูมาที่นี้สินะ..... ใช่ กูรู้ว่ามึงต้องการล่อกูมาที่นี้ เพราะคนที่มึงแค้นที่สุดมีแค่สองคนคือกูกับป้ามธุสร ส่วนแม่ติ่มมึงอาจจะแค้นแต่ไม่เท่ากับที่แค้นกูเท่านั้นเอง"

    นายบึ๊กอึ้งพูดไม่ออกเมื่อได้ยินแท็กพูดจี้ใจดำ ใช่ ! แท็กอ่านเกมออกตั้งแต่วันนั้นแล้วว่ายังไงนายบึ๊กต้องวางแผนที่จะกลับมาล้างแค้นเขาแน่นอน แต่แค่ไม่คิดว่าจะยกโขยงทัพอันเดธมาขนาดนี้เพื่อเป้าหมายแค่นี้ เขาไม่แปลกใจว่าทำไมถึงถูกฆ่าตายง่ายขนาดนั้น กระจอกจริงๆ แท็กคิดอยู่ในใจก่อนจะให้เด็กหญิงนั้นไปหลบอยู่ใต้รถเพื่อความปลอดภัย เพราะเขาเชื่อว่าตอนนี้ไม่ว่าจะนายบึ๊กหรืออันเดธที่อยู่ข้างหลังนั้น ล้วนจับจ้องมาที่เขาคนเดียวเท่านั้น

    "มาจบเรื่องกันเลยดีกว่า"

                                                              

                                        

 

 

                                                    +++++++++++++++++++++++++++++++++++                           

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา