นักรบพันธุ์โหด ตอน ณัชฐานันท์
-
51) ตอนที่ 51 เจรจา
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความห้องสอบสวน สถานีตำรวจใหญ่ เวลา 23.11 น.
"ตลกมากนะพวกคุณสามคนทำลายงานของพวกผมย่อยยับ ยังมีหน้ามาบอกว่าจะมาให้ร่วมมือกันงั้นเหรอ" สารวัตรภาธรพูดยังเดือดดาลอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
ย้อนกลับไปเหตุการณ์ก่อนหน้านี้สารวัตรภาธรได้รับแจ้งจากพลเมือง ว่าเกิดคดีฆาตกรรมที่เกิดจากอันเดธซึ่งเมื่อรุกมายังที่เกิดเหตุ เขาพบโจทย์ใหญ่สามคนที่อยู่พร้อมกับศพสามคน ที่ไม่ใช่ใครที่ไหนคือครอบครัวที่ยังเหลืออยู่ของนายบึ๊ก แต่ที่เขาโมโหมากที่สุดคือการที่ฝ่ายโจทย์ที่ทำให้ภาพลักษณ์ของตำรวจแย่นั้น อยู่ดีๆมาขอร่วมงานในการล่าอันเดธครั้งนี้ถึงแม้ว่าอีกฝ่ายจะกุมเบาะแสบางอย่างไว้ก็ตาม
"พูดแบบนี้แปลว่าปฎิเสธใช่ไหม" หยางเสี่ยวฟงถามตรงๆขึ้นมา ทำเอาสารวัตรหนุ่มนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง
"คุณมีเป้าหมายอะไรกันแน่" สารวัตรภาธรเริ่มสงบอารมณ์แล้วยิงคำถามใส่
สารวัตรภาธรรู้จักชื่อเสียงของหยางเสี่ยวฟงดีผู้มีฉายาว่า "ยมทูตเนตรน้ำเงินทมิฬ" ซึ่งชายหนุ่มตรงหน้าสารวัตรนั้นเป็นลูกนอกสมรสของตระกูลหยางใหญ่ แต่ประเด็นคือในประวัติที่เขาให้จ่าผลสืบมา หยางเสี่ยวฟงเป็น "ลูกสาว" ของ "หยางจื่อโฮ" ซึ่งมันสวนทางกับภาพลักษณ์ของชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าเขามาก ข้อมูลก็ไม่ได้บอกอะไรมากนอกจากประสบการณ์ด้านรับราชการทหารเท่านั้น สารวัตรภาธรสันนิฐานว่าคงเพราะหยางเสี่ยวฟง เป็นบุตรบุญธรรมของเอกอัครราชทูตอากิระทำให้บางข้อมูลเป็นความลับ
"ผมว่าคุณอาจมีคำถามมากกว่านั้นแต่ไม่กล้าจะถาม... ยกตัวอย่างเช่น ในประวัติที่คุณเจอผู้ชายที่ชื่อ หยางจื่อโฮ มีลูกสาวนอกสมรสชื่อ หยางเสี่ยวฟง แต่ที่คุณเจอกลับเป็นผู้ชายซึ่งรูปประพันธ์ไม่ตรงกันเลย นี้ใช่ไหมที่คุณสงสัยจริงๆ" หยางเสี่ยวฟงเปรยออกมาด้วยเสียงเรียบๆ แต่สารวัตรภาธรสะดุ้งทันที
"แล้วถ้าผมถาม คุณจะตอบว่ายังไง" สารวัตรภาธรถามแบบใจดีสู้เสือ
หยางเสี่ยวฟงพลิกดูรูปภาพของเด็กผู้หญิงใส่กระโปรงสีกลมท่า ไว้ผมสั้นประบ่ากำลังขี่จักรยานสามล้ออยู่ใครเห็นรูปนี้ ต่างก็จะชื่นชมว่าเป็นเด็กผู้หญิงน่ารักน่าเอ็นดู แต่ไม่มีใครล่วงรู้เลยว่าภายใต้ใบหน้าซื่อๆนั้นซ่อนความเจ็บปวดบางอย่างไว้ ความเจ็บปวดของเด็กอายุ 2 ขวบที่ไม่มีใครสนใจหรือเหลียวแล ชายหนุ่มตัดสินใจคว่ำรูปนั้นกับโต๊ะแล้วยื่นคืนสารวัตรภาธร
"เด็กหญิงในรูปคืออดีต... ผมคือปัจจุบันของเธอ คำตอบนี้ใช้ได้ไหมสารวัตร" คำตอบเรียบๆของหยางเสี่ยวฟง แต่ไม่รู้ทำไมสารวัตรภาธรอึ้งจนเขาลืมคำถามไปหมดสิ้น แต่ยังไงเขาต้องตั้งสติเอาไว้เพื่อทำงานต่อ
"คำถามอีกข้อคุณยังไม่ได้ตอบเลย"
"ผมขอเปลี่ยนคำตอบเป็นแบ่งข้อมูลละกันนะ การกำจัดอันเดธคือเป้าหมายรองแต่ที่ผมกับรุ่นน้องอีกคนตามล่าจริงๆ คือคนที่ไปเปลี่ยนวิญญาณให้กลายเป็นอันเดธต่างหาก"
"เดียวนะคุณกำลังจะบอกว่ามีคนที่สามารถสร้างอันเดธได้งั้นเหรอ" สารวัตรภาธรถามด้วยความสงสัย ถือว่าเป็นเรื่องที่แปลกใหม่สำหรับตำรวจหนุ่มอย่างมาก เขาไม่แน่ใจว่าหมวดฮันโดมีความรู้เรื่องนี้ไหม
"ใช่ ผมสองคนแกะรอยมาถึงที่นี้แต่เบาะแสที่ได้มามันไม่พอ นอกจากเรารู้แค่ว่ามันไปเอาคนที่เพิ่งตายไม่นานมาก แต่แรงแค้นจัดเต็มมาเปลี่ยนเป็นอันเดธ และถ้าคุณถามว่าทำแบบนั้นทำไม...ผมตอบได้แค่ว่าอยากสร้างความวุ่นวายเท่านั้น"
"เมื่อกี้คุณบอกว่าสองคนแล้วเด็กอีกคนละ"
"เจ้าแท็กนะเป้าหมายจริงๆคือมันแค่มาเป็นตัวแทนของปู่ มาเยี่ยมครอบครัวญาติที่อยู่ที่นี้เท่านั้นผมก็ไม่คาดคิดว่ามันจะโดนลากแห่เข้าไปเพราะอันเดธที่เป้าหมายของผมสร้าง ดันเล็งคนใกล้ตัวของญาติมันเอาไว้เรื่องเลยเป็นแบบนี้"
ถึงแม้ว่าจะได้รู้เหตุผลของอีกฝ่ายแต่สารวัตรภาธรกลับรู้สึกได้ว่า ฝ่ายหยางเสี่ยวฟงนั้นอมข้อมูลบางอย่างเอาไว้ นั้นหมายความเอาเข้าจริงๆก็ไม่ได้ให้ความร่วมมือจริงๆ แต่หากเขาคิดพิจารณาแล้วให้อยู่ในสายตาย่อมดีกว่า และอาจจะควบคุมตัวได้ง่ายกว่าเพราะอย่างน้อยๆทางนั้นน่าจะไว้หน้ากันบ้าง ระหว่างที่คิดนั้นสารวัตรภาธรไม่รู้ว่ากำลังโดนหยางเสี่ยวฟงอ่านความคิดอยู่ ชายหนุ่มพบว่าทางฝั่งตำรวจเองก็มีหน่วยต่อต้านอันเดธ ซึ่งถูกฝึกโดยหมวดฮันโดนั้นน่าจะเป็นกำลังหลักในการต่อกรฝูงอันเดธได้
"คนใกล้ตัวเหรอเท่าที่ผมรู้มาอันเดธไม่ได้เล็งสายป่านลูกสาวของคุณกุลชาตินี่" สารวัตรภาธรพูดพร้อมขมวดคิ้ว
"ผมไม่ได้หมายถึงสายป่านแต่หมายถึงเด็กที่ชื่อ มธุกร"
"เรื่องนั้นผมรู้แต่แท็กรุ่นน้องของคุณเกี่ยวอะไรกับลูกสาวของคุณมธุสร"
"มันมีเหตุผลของมันแต่คุณสารวัตรน่าจะขอบคุณมันนะ เพราะถึงมันจะป่วนงานของคุณแต่ก็จัดการอันเดธให้ตั้ง 2 ตัว เชียวนะ" คำพูดมาดกวนๆของหยางเสี่ยวฟงนั้น มันอดที่จะไม่ให้สารวัตรภาธรอยากถีบหน้าจริงๆ
สักพักจ่าผลก็เดินเข้ามาในห้องพร้อมกับกระซิบข้างหูสารวัตรภาธร ซึ่งเพราะพลังฟินิกซ์ทำให้หยางเสี่ยวฟงมีประสาทหูที่ดีเยี่ยม ทำให้ชายหนุ่มรู้ว่ามีแขกที่คาดไม่ถึงได้เดินทางมาที่นี้ แสดงว่าเรื่องนี้คงจะรุนแรงเกินไปจนทำให้ต้องถ่อสังขารมาที่นี้ สารวัตรภาธรที่ไม่รู้ว่าหยางเสี่ยวฟงรู้แล้วนั้นหันมาให้ความสนใจต่อ
"มีคนอยากมาพบคุณ และเหตุการณ์ต่อจากนี้ผมค่อยตัดสินใจว่าจะให้คุณมาเป็นส่วนหนึ่งของทีมผมไหม"
"ใครอยากมาพบผม" หยางเสี่ยวฟงแกล้งทำเป็นไม่รู้ถามขึ้น
"คุณจะได้รู้ถ้าตามผมมา" สารวัตรภาธรพูดจบก็ลุกขึ้นไปเปิดประตูให้ หยางเสี่ยวฟงบิดขี้เกียจก่อนจะลุกจากเก้าอี้ และเมื่อเดินเลยผ่านประตูและตัวของสารวัตรภาธรก็ยังไม่วาย ทิ้งวาจากวนๆใส่อีกฝ่าย
"สารวัตรตอนนี้ผมเป็นผู้ชายแล้วนะ ไม่ต้องสุภาพบุรุษเปิดประตูให้ก็ได้...ผมไม่ค่อยพิศวาสเท่าไหร่"
++++++++++++++++++++++++
"ตลกมากนะพวกคุณสามคนทำลายงานของพวกผมย่อยยับ ยังมีหน้ามาบอกว่าจะมาให้ร่วมมือกันงั้นเหรอ" สารวัตรภาธรพูดยังเดือดดาลอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
ย้อนกลับไปเหตุการณ์ก่อนหน้านี้สารวัตรภาธรได้รับแจ้งจากพลเมือง ว่าเกิดคดีฆาตกรรมที่เกิดจากอันเดธซึ่งเมื่อรุกมายังที่เกิดเหตุ เขาพบโจทย์ใหญ่สามคนที่อยู่พร้อมกับศพสามคน ที่ไม่ใช่ใครที่ไหนคือครอบครัวที่ยังเหลืออยู่ของนายบึ๊ก แต่ที่เขาโมโหมากที่สุดคือการที่ฝ่ายโจทย์ที่ทำให้ภาพลักษณ์ของตำรวจแย่นั้น อยู่ดีๆมาขอร่วมงานในการล่าอันเดธครั้งนี้ถึงแม้ว่าอีกฝ่ายจะกุมเบาะแสบางอย่างไว้ก็ตาม
"พูดแบบนี้แปลว่าปฎิเสธใช่ไหม" หยางเสี่ยวฟงถามตรงๆขึ้นมา ทำเอาสารวัตรหนุ่มนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง
"คุณมีเป้าหมายอะไรกันแน่" สารวัตรภาธรเริ่มสงบอารมณ์แล้วยิงคำถามใส่
สารวัตรภาธรรู้จักชื่อเสียงของหยางเสี่ยวฟงดีผู้มีฉายาว่า "ยมทูตเนตรน้ำเงินทมิฬ" ซึ่งชายหนุ่มตรงหน้าสารวัตรนั้นเป็นลูกนอกสมรสของตระกูลหยางใหญ่ แต่ประเด็นคือในประวัติที่เขาให้จ่าผลสืบมา หยางเสี่ยวฟงเป็น "ลูกสาว" ของ "หยางจื่อโฮ" ซึ่งมันสวนทางกับภาพลักษณ์ของชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าเขามาก ข้อมูลก็ไม่ได้บอกอะไรมากนอกจากประสบการณ์ด้านรับราชการทหารเท่านั้น สารวัตรภาธรสันนิฐานว่าคงเพราะหยางเสี่ยวฟง เป็นบุตรบุญธรรมของเอกอัครราชทูตอากิระทำให้บางข้อมูลเป็นความลับ
"ผมว่าคุณอาจมีคำถามมากกว่านั้นแต่ไม่กล้าจะถาม... ยกตัวอย่างเช่น ในประวัติที่คุณเจอผู้ชายที่ชื่อ หยางจื่อโฮ มีลูกสาวนอกสมรสชื่อ หยางเสี่ยวฟง แต่ที่คุณเจอกลับเป็นผู้ชายซึ่งรูปประพันธ์ไม่ตรงกันเลย นี้ใช่ไหมที่คุณสงสัยจริงๆ" หยางเสี่ยวฟงเปรยออกมาด้วยเสียงเรียบๆ แต่สารวัตรภาธรสะดุ้งทันที
"แล้วถ้าผมถาม คุณจะตอบว่ายังไง" สารวัตรภาธรถามแบบใจดีสู้เสือ
หยางเสี่ยวฟงพลิกดูรูปภาพของเด็กผู้หญิงใส่กระโปรงสีกลมท่า ไว้ผมสั้นประบ่ากำลังขี่จักรยานสามล้ออยู่ใครเห็นรูปนี้ ต่างก็จะชื่นชมว่าเป็นเด็กผู้หญิงน่ารักน่าเอ็นดู แต่ไม่มีใครล่วงรู้เลยว่าภายใต้ใบหน้าซื่อๆนั้นซ่อนความเจ็บปวดบางอย่างไว้ ความเจ็บปวดของเด็กอายุ 2 ขวบที่ไม่มีใครสนใจหรือเหลียวแล ชายหนุ่มตัดสินใจคว่ำรูปนั้นกับโต๊ะแล้วยื่นคืนสารวัตรภาธร
"เด็กหญิงในรูปคืออดีต... ผมคือปัจจุบันของเธอ คำตอบนี้ใช้ได้ไหมสารวัตร" คำตอบเรียบๆของหยางเสี่ยวฟง แต่ไม่รู้ทำไมสารวัตรภาธรอึ้งจนเขาลืมคำถามไปหมดสิ้น แต่ยังไงเขาต้องตั้งสติเอาไว้เพื่อทำงานต่อ
"คำถามอีกข้อคุณยังไม่ได้ตอบเลย"
"ผมขอเปลี่ยนคำตอบเป็นแบ่งข้อมูลละกันนะ การกำจัดอันเดธคือเป้าหมายรองแต่ที่ผมกับรุ่นน้องอีกคนตามล่าจริงๆ คือคนที่ไปเปลี่ยนวิญญาณให้กลายเป็นอันเดธต่างหาก"
"เดียวนะคุณกำลังจะบอกว่ามีคนที่สามารถสร้างอันเดธได้งั้นเหรอ" สารวัตรภาธรถามด้วยความสงสัย ถือว่าเป็นเรื่องที่แปลกใหม่สำหรับตำรวจหนุ่มอย่างมาก เขาไม่แน่ใจว่าหมวดฮันโดมีความรู้เรื่องนี้ไหม
"ใช่ ผมสองคนแกะรอยมาถึงที่นี้แต่เบาะแสที่ได้มามันไม่พอ นอกจากเรารู้แค่ว่ามันไปเอาคนที่เพิ่งตายไม่นานมาก แต่แรงแค้นจัดเต็มมาเปลี่ยนเป็นอันเดธ และถ้าคุณถามว่าทำแบบนั้นทำไม...ผมตอบได้แค่ว่าอยากสร้างความวุ่นวายเท่านั้น"
"เมื่อกี้คุณบอกว่าสองคนแล้วเด็กอีกคนละ"
"เจ้าแท็กนะเป้าหมายจริงๆคือมันแค่มาเป็นตัวแทนของปู่ มาเยี่ยมครอบครัวญาติที่อยู่ที่นี้เท่านั้นผมก็ไม่คาดคิดว่ามันจะโดนลากแห่เข้าไปเพราะอันเดธที่เป้าหมายของผมสร้าง ดันเล็งคนใกล้ตัวของญาติมันเอาไว้เรื่องเลยเป็นแบบนี้"
ถึงแม้ว่าจะได้รู้เหตุผลของอีกฝ่ายแต่สารวัตรภาธรกลับรู้สึกได้ว่า ฝ่ายหยางเสี่ยวฟงนั้นอมข้อมูลบางอย่างเอาไว้ นั้นหมายความเอาเข้าจริงๆก็ไม่ได้ให้ความร่วมมือจริงๆ แต่หากเขาคิดพิจารณาแล้วให้อยู่ในสายตาย่อมดีกว่า และอาจจะควบคุมตัวได้ง่ายกว่าเพราะอย่างน้อยๆทางนั้นน่าจะไว้หน้ากันบ้าง ระหว่างที่คิดนั้นสารวัตรภาธรไม่รู้ว่ากำลังโดนหยางเสี่ยวฟงอ่านความคิดอยู่ ชายหนุ่มพบว่าทางฝั่งตำรวจเองก็มีหน่วยต่อต้านอันเดธ ซึ่งถูกฝึกโดยหมวดฮันโดนั้นน่าจะเป็นกำลังหลักในการต่อกรฝูงอันเดธได้
"คนใกล้ตัวเหรอเท่าที่ผมรู้มาอันเดธไม่ได้เล็งสายป่านลูกสาวของคุณกุลชาตินี่" สารวัตรภาธรพูดพร้อมขมวดคิ้ว
"ผมไม่ได้หมายถึงสายป่านแต่หมายถึงเด็กที่ชื่อ มธุกร"
"เรื่องนั้นผมรู้แต่แท็กรุ่นน้องของคุณเกี่ยวอะไรกับลูกสาวของคุณมธุสร"
"มันมีเหตุผลของมันแต่คุณสารวัตรน่าจะขอบคุณมันนะ เพราะถึงมันจะป่วนงานของคุณแต่ก็จัดการอันเดธให้ตั้ง 2 ตัว เชียวนะ" คำพูดมาดกวนๆของหยางเสี่ยวฟงนั้น มันอดที่จะไม่ให้สารวัตรภาธรอยากถีบหน้าจริงๆ
สักพักจ่าผลก็เดินเข้ามาในห้องพร้อมกับกระซิบข้างหูสารวัตรภาธร ซึ่งเพราะพลังฟินิกซ์ทำให้หยางเสี่ยวฟงมีประสาทหูที่ดีเยี่ยม ทำให้ชายหนุ่มรู้ว่ามีแขกที่คาดไม่ถึงได้เดินทางมาที่นี้ แสดงว่าเรื่องนี้คงจะรุนแรงเกินไปจนทำให้ต้องถ่อสังขารมาที่นี้ สารวัตรภาธรที่ไม่รู้ว่าหยางเสี่ยวฟงรู้แล้วนั้นหันมาให้ความสนใจต่อ
"มีคนอยากมาพบคุณ และเหตุการณ์ต่อจากนี้ผมค่อยตัดสินใจว่าจะให้คุณมาเป็นส่วนหนึ่งของทีมผมไหม"
"ใครอยากมาพบผม" หยางเสี่ยวฟงแกล้งทำเป็นไม่รู้ถามขึ้น
"คุณจะได้รู้ถ้าตามผมมา" สารวัตรภาธรพูดจบก็ลุกขึ้นไปเปิดประตูให้ หยางเสี่ยวฟงบิดขี้เกียจก่อนจะลุกจากเก้าอี้ และเมื่อเดินเลยผ่านประตูและตัวของสารวัตรภาธรก็ยังไม่วาย ทิ้งวาจากวนๆใส่อีกฝ่าย
"สารวัตรตอนนี้ผมเป็นผู้ชายแล้วนะ ไม่ต้องสุภาพบุรุษเปิดประตูให้ก็ได้...ผมไม่ค่อยพิศวาสเท่าไหร่"
++++++++++++++++++++++++
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ