นักรบพันธุ์โหด ตอน ณัชฐานันท์
47) ตอนที่ 47 เตือนสติ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความโรงยิมมวย เวลา 15.08 น.
"ระหว่างที่ผมไม่อยู่เนี่ย มีเรื่องอะไรรึเปล่าครับทำไมเจ้านั้น ถึงมีท่าทางเหมือนรักคุดนะ" อภิชัยถามด้วยความสงสัย ซึ่งกิติพงศ์กับหยางเสี่ยวฟงก็ไม่รู้จะอธิบายยังไงดีกับคำถามนี้
หลังจากที่ได้เจรจากับสองพี่น้องนักล่าอันเดธแล้ว แท็กก็ไม่ยอมที่จะหยิบจับนวมขึ้นมาส่วมใส่ ได้แต่นั่งกอดเข่าตัวเองซึ่งกิติพงศ์นั้นเดาได้ไม่ยากว่าต้องเกี่ยวข้องกับมธุกรแน่นอน แต่ประเด็นคือเธอพูดอะไรใส่อีกฝ่ายถึงได้ซึมขนาดนี้ ส่วนแท็กที่นั่งซึมอยู่นั้นได้แต่คิดเพียงแค่ว่า สิ่งที่เขาพยายามมาตลอดนั้นไม่ได้มีความหมาย สำหรับมธุกรเลยเหรอถึงได้ไม่ไว้ใจกันขนาดนั้น หากเป็นแบบนั้นเขาก็ไม่ควรอยู่ที่นี้อีกแล้ว เพราะที่เขามาที่นี้ด้วยเหตุผลของจ่าสิบเอกสายลมส่งมา ระหว่างที่แท็กกำลังจมกับความคิดของตนเองนั้น ก็โดนนวมมวยฟาดที่หัวไม่แรงมาก
"เฮ้ย เมื่อไหร่จะเลิกซึมเป็นพระเอก MV เพลงรักคุดน้ำเน่าว่ะ" หยางเสี่ยวฟงพูด ตอนนี้คงหมดความอดทนแล้ว
"ผมไม่ได้ซึมสักหน่อยแค่เบื่ออยากกลับแล้ว" แท็กตอบ
"สงสัยต้องทบทวนอะไรให้แกหน่อย กฎของกลุ่มพวกเราคืออะไรแท็ก....หา ! ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นจะไม่ละทิ้งหน้าที่หรือภารกิจ ที่ได้รับเด็ดขาดและจะทำจนกว่ามันจะบรรลุ หรือตายไปกับมัน" หยางเสี่ยวฟงพูดกระแทกหูใส่แท็ก
แท็กนิ่งเงียบไปครู่หนึ่งจนเขานึกถึงวันแรกที่ได้ เป็นสมาชิกทีมเดวิลแบ๊ทส์นั้นเขายังจำได้ถึงกฎเหล็กข้อนี้ได้ และเขาดันรับภารกิจจากหยางเสี่ยวฟงซึ่งมีตำแหน่งเป็นตุลาการ เท่ากับเขาไม่ควรละทิ้งภารกิจอย่างยิ่งแม้ว่าจะอยู่คนละทีมก็ตาม แต่ทีมที่หยางเสี่ยวฟงนั้นกำเนิดมาก่อนย่อมมีสิทธิ์เด็ดขาดในการสั่งเขาได้ แต่ถึงกระนั้นเขาก็ไม่มีสมาธิที่จะโฟกัสตรงนั้นหรอก
"พี่ไม่รู้หรอกและไม่อยากรู้ด้วยว่า หวานใจแกพูดอะไรแต่แกจะละทิ้งเธอทั้งที่ยังมีอันตรายรออยู่ข้างนอก จะไม่ใจดำไปหน่อยเหรอ"
"ไม่มีผมก็มีคนคุ้มครองเธอได้นี่ ยังไงผึ้งก็ยังมีพวกตำรวจแล้วก็นักล่าอันเดธสองคนนั้นอยู่แล้ว" แท็กพูดตอบโต้
"ในฐานะที่พี่อาบน้ำร้อนมาก่อนจะบอกอะไรให้เอาบุญนะ ใช่ นักล่าอันเดธสองคนนั้นจะล่า 7 ทรชนก็จริงแต่มันไม่ได้ทำเพื่อปกป้องเธอนะ มันทำเพราะเงินต่างหากโว้ยไม่ต่างอะไรกับทหารรับจ้างหรอก ส่วนพวกตำรวจนะไม่ใช่ว่าพี่อยากดูถูกพวกเขานะ แต่ความรู้ในการรับมือกับอันเดธมันน้อย ซึ่งแกก็เห็นในตอนที่ไอ้แมนมันบุกโรงพยาบาลแล้วนี่ ไม่มีใครจะคุ้มครองเธอได้ดีเท่าแกอีกแล้ว"
"แต่เธอไม่ได้.....เชื่อใจผมเลยนี่" แท็กพึ่มพำแต่หยางเสี่ยวฟงได้ยิน
"แท็ก....ของแกนะแค่เขาไม่เชื่อใจนะเพราะเขาต้องโดนอะไรมาบ้างแกรู้ดี แต่แกรู้ไหมว่าในสามทีมของพวกเรานะมีคนทุกข์ระทมเพราะคู่ผูกอีกเยอะเลย แต่ถ้าจะให้ยกตัวอย่างพี่ว่า พี่น้ำเหมาะสุด" กิติพงศ์พูดเสริม
บุคคลที่กิติพงศ์พูดถึงนี้เป็นสมาชิกทีมอีวิลลอร์ดแฟนธ่อม ที่ดันไปผูกจิตกับเจ้าหญิงแห่งดวงจันทราเรื่องนี้พวกกิติพงศ์จำได้ว่า ท่านทูตอากิระปวดกบากมากแค่ไหนกับเรื่องนี้ ไม่ใช่แค่นั้นนอกจากฐานะที่แตกต่างกันแล้ว เจ้าหญิงแห่งดวงจันทรานั้นมีคู่หมั่นหมายแล้ว มีฐานะเทียบเท่ากับเจ้าหญิงด้วย แต่ในเมื่อผูกจิตไปแล้วมันแก้ไขไม่ได้ นอกจากต้องแบกรับความเจ็บปวดอย่างเดียว จนบางแท็กอดสงสัยไม่ได้เหมือนกันว่า รุ่นพี่คนนี้ทนมันไปได้ยังไง
"แล้วพี่เขาทำยังไงต่อละ" แท็กถามด้วยความสงสัย
"ก็ถึงพี่เขาจะเจ็บนะแต่ เท่าที่พี่เห็นเขาก็ยังทำหน้าที่ปกป้องคู่ผูกเช่นเดิม แค่นั้นเอง" กิติพงศ์ตอบสั้นๆ
"เหตุผลแค่ข้อเดียวเองแท็ก ข้อเดียวของพี่น้ำก็แค่ว่า พี่เขารักผู้หญิงคนนั้นถึงได้ปกป้องต่อไปทั้งที่ ข้างในนะพังแทบไม่เหลือแล้ว.....แกละแท็ก มธุกรแค่ไม่เชื่อใจแกเท่านั้น แกถึงกับละทิ้งคนที่แกรักไม่ปกป้องเธอต่อเลยเหรอ"
เมื่อได้ฟังคำพูดเตือนสติของรุ่นพี่ทั้งสองแล้ว เขาหวนนึกถึงภาพตอนที่มธุกรถูกกระทำโดยพวกนายแป๋ว ภาพที่เธอต้องทุกข์ทรมาณจากการที่เธอไม่มีอนาคตสดใส ชีวิตบริสุทธิ์ของเธอต้องแปดเปื้อนเพราะ 7 คนใจหมา แล้วตอนนี้พวกมันได้หวนกลับมาทวงแค้นอีกครั้ง เขาจะปล่อยให้เธอเจอเหตุการณ์แบบนั้นซ้ำสองจริงๆเหรอ.... ไม่ ! ไม่มีทางเขาได้สัญญากับเธอไว้แล้ว ว่าจะไม่ยอมให้พวกมันแตะต้องมธุกรเด็ดขาด แม้แต่เส้นผมเส้นเดียวพวกมันก็ไม่มีสิทธิ์ได้สัมผัส
แท็กไปคว้าผ้ามวยมาพันมือทันทีและเมื่อพันเสร็จแล้ว เขาก็สวมใส่นวมมวยก่อนจะเดินไปชกกระสอบทราย แรงของแต่ละหมัดล้วนรุนแรงซึ่งสัมผัสได้ถึงความมุ่งมั่น และความตั้งใจของแท็กได้เป็นอย่างดี ซึ่งกิติพงศ์กับหยางเสี่ยวฟงพึ่งพอใจกับสิ่งที่เห็น และกิติพงศ์ก็รู้หน้าที่ของตน จึงเดินไปทำหน้าที่เป็นเทรนเนอร์ให้กับแท็กต่อ ส่วนหยางเสี่ยวฟงนั้นมาคุยเรื่องส่วนตัวกับอภิชัยต่อ
"ได้เรื่องมาเป็นไงบ้าง" หยางเสี่ยวฟงถามขึ้น
"ตอนนี้ทางตำรวจได้ตรึงกำลังเพื่อที่จะคุ้มครองครอบครัวของพวกนายแป๋ว" อภิชัยตอบ
"คุ้มครองทำไม" หยางเสี่ยวฟงถามพร้อมขมวดคิ้ว
"เท่าที่ผมทราบมาคือครอบครัวของนายบึ๊ก ซึ่งเป็นเหยื่อรายแรกของมธุสรและยังเป็นสมาชิกรุ่นเด็ก ของนายแป๋วนั้นมีครอบครัวประกอบอาชีพเป็นพ่อค้าปลากับเนื้อนะพี่ หลังจากที่นายบึ๊กซึ่งเป็นลูกชายตายแล้วคดีของมธุสร ถูกเปิดเผยกลางสื่อนะครอบครัวที่เหลือแค่ 3 คนก็โดนสังคมแบน" อภิชัยอธิบายเหตุการณ์คราวๆ
"แล้วที่ครอบครัวของนายบึ๊กที่ยังเหลืออยู่นะ ทำไมต้องคุ้มครองละ"
"สาเหตุเพราะนายบึ๊กอาละวาดจะทำร้ายพ่อของตัวเองนะครับ ผมคิดว่ามันน่าจะมาจากที่นายบึ๊กกับพ่อมีความสัมพันธ์ไม่ดีมาอยู่แล้วรึเปล่าถึงได้กระทำแบบนั้น" อภิชัยลองวิเคราะห์ดู ซึ่งหยางเสี่ยวฟงก็คิดตาม
"แล้วครอบครัวของนายแมนละ รายนั้นมีไหม" หยางเสี่ยวฟงถาม
"มีแค่พี่ชายคนเดียวครับพี่ ตอนนี้อยู่ในสถานบำบัดเพราะรายนั้นมีปัญหาเรื่องสติปัญญา ตำรวจเลยตั้งข้อหาในเรื่องลักพาตัวกับกักขังหน่วงเหนี่ยวไม่ได้ ผมคาดว่านายแมนน่าจะชักใยพี่ชายเขาอีกที"
หยางเสี่ยวฟงยืนครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง ไม่รู้ทำไมหลังจากที่ได้ฟังเรื่องที่อภิชัยสืบมา ชายหนุ่มกลับรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ค่อยดีนัก ไม่ว่านายบึ๊กจะก่อเรื่องอะไรไว้ สามคนนี้ก็ไม่ควรที่จะเป็นแพะรับบาปในเรื่องนี้เลย เห็นทีต้องเข้าไปคุยด้วยเสียแล้วและที่สำคัญ ตำรวจต้องไม่มาวุ่นวายด้วย เพราะยังไงคงไม่เป็นการดีหากมีคนนอกเข้ามาจุ้น
"อภิชัย แกมากับพี่หน่อยได้ไหม" หยางเสี่ยวฟงเอ๋ยขึ้น
"ไปไหนเหรอพี่" อภิชัยถามด้วยความสงสัย
"ไปหาครอบครัวของนายบึ๊ก พี่สังหรณ์ใจไม่ค่อยดีว่ะ" หยางเสี่ยวฟงกล่าว
เมื่อได้ยินดังนั้นทำให้อภิชัยที่อยากนั่งพัก ต้องลุกขึ้นและเดินตามหยางเสี่ยวฟงไป โดยปล่อยให้กิติพงศ์ที่กำลังฝึกแท็กกันตามลำพัง สำหรับชายหนุ่มแล้ว ลางสังหรณ์ของหยางเสี่ยวฟงนั้นค่อนข้างจะแม่นยำชะด้วย แต่อภิชัยไม่อาจบอกได้ว่ามันเป็นในทางลบหรือทางบวก นอกจากได้แต่ภาวนาเพียงว่าอย่าให้เกิดเรื่องเลย
+++++++++++++++++++++++++++++
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ