นักรบพันธุ์โหด ตอน ณัชฐานันท์
-
35) ตอนที่ 35 ลูกครึ่งมนุษย์-อันเดธ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความด่านฟ้าโรงพยาบาล เวลา 10.37 น.
"เดียวก่อนนะนายกำลังจะบอกว่าน้องสาวฉัน ให้กำเนิดสายเลือดผสมงั้นเหรอ" อัยการอัศนัยถามอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง
"ได้ยินไม่ผิดหรอก" หยางเสี่ยวฟงสดเบียร์อีกรอบ แต่ก็ยังสังเกตพฤติกรรมของฝ่ายอัยการหนุ่มอยู่ซึ่งเขาก็พอ คาดเดาความคิดออกว่ากำลังคิดอะไรอยู่
"เข้าเรื่องเลยละกันนะรุ่นน้องผมจะกระทืบไอ้สารเลว ล้างแค้นให้กับน้องสาวของคุณแลกกับเด็กเลือดผสมคนนั้น เว้นแต่คุณเริ่มคิดจะทำอะไรกับเด็กคนนั้น"
คำพูดของนั้นทำให้อัยการอัศนัยชะงักอัตโนมัติทันที หยางเสี่ยวฟงอ่านใจอีกฝ่ายออกตั้งแต่แรกแล้ว ในสมัยที่ประเทศนี้ยังไม่ได้รับเอกราชนั้น ความรู้เรื่องเกี่ยวกับอันเดธยังเป็นเรื่องใหม่ที่ผู้คนที่นี้ต้องศึกษาอีกมาก เพื่อใช้ปกป้องประเทศของตนเองได้ดังนั้นจะมีการศึกษารายละเอียดของอันเดธ ร่วมทั้งการทดลองอาวุธต่างๆกับอันเดธด้วย และเด็กสายเลือดผสมคนนี้ก็อาจไม่รอดซึ่งหยางเสี่ยวฟงไม่อาจนิ่งเฉยกับเรื่องนี้ได้
"ฉันไม่ได้...."
"ฟังนะถ้าคุณคิดจะเก็บเด็กไว้ที่นี้มันจะไม่ปลอดภัย เพราะสายเลือดผสมของเขาจะดึงดูดอันเดธมาหา ไม่ใช่ 3-4 นะแต่อาจมาเป็นร้อยตนเลยทีเดียว พวกมันไม่ยอมรับเลือดผสมเด็กอาจถูกฆ่า หรืออาจโดนหน่วยอะไรสักอย่างในประเทศคุณทำอะไรเขาแน่ๆ ซึ่งผมไม่อาจปล่อยไปได้"
"นายจะทำอะไรกับเขาละ" อัยการหนุ่มถามด้วยความสงสัย ตอนนี้เขาไม่อยากจะกินเบียร์อีกแล้ว
"แม่บุญธรรมของผมท่านได้ลงนามสนธิสัญญากับกลุ่มสายเลือดผสม ให้มีดินแดนเป็นของตัวเองซึ่งผู้นำของผมยก ดินแดนหนึ่งให้แล้วออกกฎว่าเป็นดินแดนสงวน ห้ามใครลุกล้ำโดยเด็ดขาดซึ่งถ้าน้องสาวของคุณคลอดที่ประเทศผม เด็กจะถูกส่งไปที่นั้นเขาจะปลอดภัยผมรับรอง"
อัยการอัศนัยได้ยินแล้วก็อดคิดไม่ได้ว่าบางที อาจจะมีอะไรมากมายในโลกนี้ที่เขาต้องเรียนรู้จริงๆ และหากดินแดนนั้นมันปลอดภัยจริงเขาก็ยินดีที่จะพาน้องสาวไปคลอดที่นั้น แต่อัยการหนุ่มไม่แน่ใจว่าจะสามารถเกลี้ยงกล่อมพิมพ์เดือน ว่าจะยอมปล่อยให้สาไปคลอดที่ไกลๆได้ไหม ที่สำคัญพิมพ์เดือนมีอคติที่ไม่ดีเกี่ยวกับประเทศฟรอนร์เทียร์ ค่อนข้างมากหรือแทบจะเรียกว่าต่อต้านเลยทีเดียวซึ่งแม่ของอัยการหนุ่มตราหน้าประเทศนี้ว่า "ฆาตกรแห่งสงคราม"
"เหมือนคุณอยากจะบอกอะไรผมนะ" หยางเสี่ยวฟงถามขึ้น
"แม่ฉันคงไม่ชอบใจพวกนายเท่าไหร่นะ แบบว่า..."
"เรื่องนั้นผมรู้เพื่อนผมเคยบอกว่า แม่คุณนะเขียนบทความวิจารณ์ประเทศผมไว้เยอะ ชินชาแล้วละ"
หยางเสี่ยวฟงกระดกเบียร์เข้าปากสองอึด พล่างนึกในใจว่าชินชาอย่างนั้นหรือ หึ น่าขันยิ่งนักอยากรู้ว่าถ้าครอบครัวตัวเอง มาติดหนี้บุญคุณกับประเทศที่วิจารณ์มาตลอด 10-11 ปี จะอกแตกตายไหมหยางเสี่ยวฟงยอมรับว่า เขาอยากสมหน้าหน้าพิมพ์เดือนแต่พอมาเห็นสภาพของสาแล้ว เขาหมดอารมณ์ที่จะกระทำหยาบช้าแบบนั้น มันใจร้ายเกินไป
"เอาเป็นว่าฉันจะลอง..."
"ไม่จำเป็น ! ผมเป็นคนยื่นข้อเสนอนี้ดังนั้นผมต่างหากที่ต้องคุยกับแม่คุณ ไม่ใช่คุณ" หยางเสี่ยวฟงตัดบทพร้อมกับกระดกเบียร์ขึ้นอึดใหญ่กว่าเดิม คราวนี้หมดขวดในรวดเดียว แต่ชายหนุ่มกลับไม่เมาเลยอัยการอัศนัยถึงกับอึ้งไม่ใช่น้อย เพราะเขาเองแม้จะมีสติแต่ก็แทบจะยืนทรงตัวไม่ได้เลยด้วยซ้ำ
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นจากกระเป๋ากางเกงเขาจึงคว้าออกมารับสาย อัยการอัศนัยรู้ดีว่าการแอบฟังนั้นมันไม่ใช่มารยาทที่ดีนัก แต่เขาก็ได้ยินปลายสายเป็นเสียงผู้ชายซึ่งเขาได้ยินไม่ชัด แต่เนื้อหาคงสำคัญมากเพราะหยางเสี่ยวฟงจากที่แสดงท่าทาง ผ่อนคลายกลายเป็นเครียดขรึมทันที แล้วตัดสินใจวางสายทันที
"นายจะไปไหน" อัยการอัศนัยถามขึ้น
"ผมมีธุระที่ต้องไปทำ ไว้จะมาใหม่"
หยางเสี่ยวฟงเดินผ่านหลังอัยการหนุ่มไป 6 ก้าว ซึ่งแน่นอนว่าอัยการอัศนัยยังไม่ทันจะหันมาถามว่า จะมาพบเมื่อไหร่ก็ต้องตกใจเมื่อเขาเห็นแต่ความว่างเปล่าเหมือนกับ หยางเสี่ยวฟงนั้นหายตัวไปเฉยๆแต่เขาไม่ใส่ใจอะไรแล้ว ตอนนี้ขอเพียงได้สดเบียร์และทีเหลืออีก 2 ขวดเท่านั้นก็พอแล้ว
++++++++++++++++++++++++++++
"เดียวก่อนนะนายกำลังจะบอกว่าน้องสาวฉัน ให้กำเนิดสายเลือดผสมงั้นเหรอ" อัยการอัศนัยถามอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง
"ได้ยินไม่ผิดหรอก" หยางเสี่ยวฟงสดเบียร์อีกรอบ แต่ก็ยังสังเกตพฤติกรรมของฝ่ายอัยการหนุ่มอยู่ซึ่งเขาก็พอ คาดเดาความคิดออกว่ากำลังคิดอะไรอยู่
"เข้าเรื่องเลยละกันนะรุ่นน้องผมจะกระทืบไอ้สารเลว ล้างแค้นให้กับน้องสาวของคุณแลกกับเด็กเลือดผสมคนนั้น เว้นแต่คุณเริ่มคิดจะทำอะไรกับเด็กคนนั้น"
คำพูดของนั้นทำให้อัยการอัศนัยชะงักอัตโนมัติทันที หยางเสี่ยวฟงอ่านใจอีกฝ่ายออกตั้งแต่แรกแล้ว ในสมัยที่ประเทศนี้ยังไม่ได้รับเอกราชนั้น ความรู้เรื่องเกี่ยวกับอันเดธยังเป็นเรื่องใหม่ที่ผู้คนที่นี้ต้องศึกษาอีกมาก เพื่อใช้ปกป้องประเทศของตนเองได้ดังนั้นจะมีการศึกษารายละเอียดของอันเดธ ร่วมทั้งการทดลองอาวุธต่างๆกับอันเดธด้วย และเด็กสายเลือดผสมคนนี้ก็อาจไม่รอดซึ่งหยางเสี่ยวฟงไม่อาจนิ่งเฉยกับเรื่องนี้ได้
"ฉันไม่ได้...."
"ฟังนะถ้าคุณคิดจะเก็บเด็กไว้ที่นี้มันจะไม่ปลอดภัย เพราะสายเลือดผสมของเขาจะดึงดูดอันเดธมาหา ไม่ใช่ 3-4 นะแต่อาจมาเป็นร้อยตนเลยทีเดียว พวกมันไม่ยอมรับเลือดผสมเด็กอาจถูกฆ่า หรืออาจโดนหน่วยอะไรสักอย่างในประเทศคุณทำอะไรเขาแน่ๆ ซึ่งผมไม่อาจปล่อยไปได้"
"นายจะทำอะไรกับเขาละ" อัยการหนุ่มถามด้วยความสงสัย ตอนนี้เขาไม่อยากจะกินเบียร์อีกแล้ว
"แม่บุญธรรมของผมท่านได้ลงนามสนธิสัญญากับกลุ่มสายเลือดผสม ให้มีดินแดนเป็นของตัวเองซึ่งผู้นำของผมยก ดินแดนหนึ่งให้แล้วออกกฎว่าเป็นดินแดนสงวน ห้ามใครลุกล้ำโดยเด็ดขาดซึ่งถ้าน้องสาวของคุณคลอดที่ประเทศผม เด็กจะถูกส่งไปที่นั้นเขาจะปลอดภัยผมรับรอง"
อัยการอัศนัยได้ยินแล้วก็อดคิดไม่ได้ว่าบางที อาจจะมีอะไรมากมายในโลกนี้ที่เขาต้องเรียนรู้จริงๆ และหากดินแดนนั้นมันปลอดภัยจริงเขาก็ยินดีที่จะพาน้องสาวไปคลอดที่นั้น แต่อัยการหนุ่มไม่แน่ใจว่าจะสามารถเกลี้ยงกล่อมพิมพ์เดือน ว่าจะยอมปล่อยให้สาไปคลอดที่ไกลๆได้ไหม ที่สำคัญพิมพ์เดือนมีอคติที่ไม่ดีเกี่ยวกับประเทศฟรอนร์เทียร์ ค่อนข้างมากหรือแทบจะเรียกว่าต่อต้านเลยทีเดียวซึ่งแม่ของอัยการหนุ่มตราหน้าประเทศนี้ว่า "ฆาตกรแห่งสงคราม"
"เหมือนคุณอยากจะบอกอะไรผมนะ" หยางเสี่ยวฟงถามขึ้น
"แม่ฉันคงไม่ชอบใจพวกนายเท่าไหร่นะ แบบว่า..."
"เรื่องนั้นผมรู้เพื่อนผมเคยบอกว่า แม่คุณนะเขียนบทความวิจารณ์ประเทศผมไว้เยอะ ชินชาแล้วละ"
หยางเสี่ยวฟงกระดกเบียร์เข้าปากสองอึด พล่างนึกในใจว่าชินชาอย่างนั้นหรือ หึ น่าขันยิ่งนักอยากรู้ว่าถ้าครอบครัวตัวเอง มาติดหนี้บุญคุณกับประเทศที่วิจารณ์มาตลอด 10-11 ปี จะอกแตกตายไหมหยางเสี่ยวฟงยอมรับว่า เขาอยากสมหน้าหน้าพิมพ์เดือนแต่พอมาเห็นสภาพของสาแล้ว เขาหมดอารมณ์ที่จะกระทำหยาบช้าแบบนั้น มันใจร้ายเกินไป
"เอาเป็นว่าฉันจะลอง..."
"ไม่จำเป็น ! ผมเป็นคนยื่นข้อเสนอนี้ดังนั้นผมต่างหากที่ต้องคุยกับแม่คุณ ไม่ใช่คุณ" หยางเสี่ยวฟงตัดบทพร้อมกับกระดกเบียร์ขึ้นอึดใหญ่กว่าเดิม คราวนี้หมดขวดในรวดเดียว แต่ชายหนุ่มกลับไม่เมาเลยอัยการอัศนัยถึงกับอึ้งไม่ใช่น้อย เพราะเขาเองแม้จะมีสติแต่ก็แทบจะยืนทรงตัวไม่ได้เลยด้วยซ้ำ
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นจากกระเป๋ากางเกงเขาจึงคว้าออกมารับสาย อัยการอัศนัยรู้ดีว่าการแอบฟังนั้นมันไม่ใช่มารยาทที่ดีนัก แต่เขาก็ได้ยินปลายสายเป็นเสียงผู้ชายซึ่งเขาได้ยินไม่ชัด แต่เนื้อหาคงสำคัญมากเพราะหยางเสี่ยวฟงจากที่แสดงท่าทาง ผ่อนคลายกลายเป็นเครียดขรึมทันที แล้วตัดสินใจวางสายทันที
"นายจะไปไหน" อัยการอัศนัยถามขึ้น
"ผมมีธุระที่ต้องไปทำ ไว้จะมาใหม่"
หยางเสี่ยวฟงเดินผ่านหลังอัยการหนุ่มไป 6 ก้าว ซึ่งแน่นอนว่าอัยการอัศนัยยังไม่ทันจะหันมาถามว่า จะมาพบเมื่อไหร่ก็ต้องตกใจเมื่อเขาเห็นแต่ความว่างเปล่าเหมือนกับ หยางเสี่ยวฟงนั้นหายตัวไปเฉยๆแต่เขาไม่ใส่ใจอะไรแล้ว ตอนนี้ขอเพียงได้สดเบียร์และทีเหลืออีก 2 ขวดเท่านั้นก็พอแล้ว
++++++++++++++++++++++++++++
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ