นักรบพันธุ์โหด ตอน ณัชฐานันท์
-
34) ตอนที่ 34 รู้ซึ้ง
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความณ ห้องป่วยเดี่ยว โรงพยาบาลจิตเวช เวลา 10.00 น.
ชลณนาถ หรือ สา ที่ตอนนี้นอนหลับบนเตียงราวกับเจ้าหญิงนินทรา ในเทพนิยายที่หลุดออกมาแต่สำหรับอัยการอัศนัย ผู้เป็นพี่ชายนั้นมันช่างทิ่มแทงหัวใจเหลือเกิน หลังจากที่อันเดธสองตนนั้นบุกบ้านน้องสาวที่เขารัก ผู้เคยมีรอยยิ้มสดใสและร่าเริงเป็นที่รักของคนในครอบครัว กลับกลายเป็นคนหวาดกลัวเสียสติไป เห็นคนรอบข้างไม่เว้นแม้แต่เขาหรือพ่อกับแม่ เป็นอันเดธคิดมาทำร้ายเธอซึ่งหมอได้ตัดสินใจให้ยานอนหลับเธอ พร้อมกับสายน้ำเกลือทดแทนอาหาร เพราะตั้งแต่นำตัวมารักษาชลณนาถก็ไม่ยอมทานอาหารเลย
แต่สิ่งที่ทำให้เกิดรอยร้าวในครอบครัวของอัยการหนุ่มมากที่สุด คือหมอได้นำข่าวร้ายมาบอกกับเขาว่าน้องสาวได้ตั้งท้อง 14 วัน แน่นอนว่าไม่ใช่หมอเขาก็รู้ว่า สิ่งที่อยู่ในท้องนั้นคือสิ่งที่อันเดธทิ้งเอาไว้ เป็นเหตุให้ พิมพ์เดือน แม่ของอัยการอัศนัยถึงขั้นทรุด ต้องเข้าโรงพยาบาลด้วยอีกคน ที่ร้ายกว่านั้นคือเรื่องราวที่เกิดขึ้นในครอบครัวเขานั้น กลายเป็นเรื่องขี้ปากชาวบ้านพูดสนุกปากกัน นั้นยังร่วมไปถึงที่สำนักงานเขตที่ พัดยศ พ่อของเขาทำงานอยู่ ผลที่ตามมาคือพัดยศลาพักร้อนอย่างไม่มีกำหนด ด้วยเหตุผลคือมาดูแลลูกสาวและภรรยาที่มานอนห้องเดียวกัน
"พ่อครับพักผ่อนเถอะครับ ให้ผมดูแลแม่กับน้องต่อเถอะ" อัยการอัศนัยพยายามเกลี้ยมกล่อมพัดยศ ที่มีท่าทางอ่อนเพลียอย่างมากเพราะคอยดูแลสองคนสำหรับในครอบครัว ระหว่างที่อัยการหนุ่มไม่อยู่
"ก็ได้ลูก ฝากด้วยนะ"
อัยการอัศนัยพยุงร่างอันอ่อนแรงของพัดยศ ไปนอนที่โซฟาอันอ่อนนุ่มที่อยู่ไม่ไกลจากเตียงของพิมม์เดือนมากนัก เมื่อหัวถึงหมอนพ่อของเขาก็หลับสนิททันที มันเป็นการบ่งบอกถึงความอ่อนล้าของคนไม่ได้นอน ส่วนทางอัยการอัศนัยนั้นเขานั่งที่เก้าอี้ที่เคยเป็นที่ พ่อใช้นั่งแต่ตอนนี้เขานั่งแทนแล้ว สำหรับเขาตอนนี้มันมืดบอดไปหมดนับแต่การล่า อันเดธกับพวกแท็กไปทั้งสามคนนั้นก็ไม่ติดต่อหาเขาเลย อาจเป็นเพราะตัวของอัยการอัศนัยเป็นตัวถ่วงละมั่ง
ประเด็นไม่ใช่ตรงนั้นอีกต่อไปเพราะอัยการหนุ่ม ก็ไม่แน่ใจเช่นกันว่าหากเขาตามฆ่าพวกมันครบ น้องสาวของเขาจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมไหม ไอ้บ้าเอ๋ยเจ้าอัศนัยคิดอะไรอยู่จะนั่งหาคำตอบทำไม เพราะคำตอบมันก็รู้กันอยู่แล้ว ระหว่างที่อัยการอัศนัยกำลังนั่งจมกับความคิดของตนนั้น ก็มีขวดเบียร์โผล่มาจ่อหน้าเขาและเมื่อหันไปมอง หยางเสี่ยวฟงคือคนที่ยื่นขวดเบียร์ให้แน่นอนว่า การมาของชายหนุ่มคนนี้ทำให้อัยการอัศนัยประหลาดใจอย่างมาก
"ในนี้มันกินไม่ได้ถ้าคุณอัยการไม่รังเกียจ ไปดื่มที่ด่านฟ้าได้ไหมแล้วก็ไม่ต้องห่วงมีคนเฝ้าพวกเขาให้"
สิ้นคำพูดของหยางเสี่ยวฟงประตูห้องก็เปิดออก แล้วกิติพงศ์ก็เดินเข้ามาและทักทายอย่างเป็นมิตร อัยการอัศนัยแปลกใจตัวเองอยู่ที่ยอมให้คนแปลกหน้าเฝ้าพ่อแม่และน้องสาวของตน แต่เขาไว้ใจหยางเสี่ยวฟงถึงได้ยอมตามไปแต่โดยดี ระหว่างที่เดินนั้นอัยการอัศนัยสังเกตว่า นางพยาบาลเดินผ่านหยางเสี่ยวฟงไปเฉยๆทั้งที่ อีกฝ่ายถือของมึนเมาเข้ามาและอัยการหนุ่มจำได้ว่า ที่นี้เคร่งในเรื่องนี้อย่างมากแต่ทำไมกลับเดินไปเฉยๆได้ละ
เมื่อทั้งสองมาถึงด่านฟ้าแล้วหยางเสี่ยวฟงก็ทำการ เปิดขวดเบียร์สองขวดแล้วยื่นให้กับอัยการอัศนัย ซึ่งเมื่อเขาดูยี่ห้อของมันก็พบว่ามันเป็นของนำเข้าจากฟรอนร์เทียร์ แถมยังมีราคาแพงมากจนแม้แต่เขาก็ไม่กล้าที่จะซื้อด้วยซ้ำ ใจจริงเขาก็ไม่ใช่นักดื่มแต่จากเรื่องที่เกิดขึ้น การดื่มย้อมใจก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะปลดปล่อยความเครียดได้
"ผมได้ยินมาว่าเบียร์ขวดนี้แพงมากสำหรับที่นี้ แต่คุณเชื่อไหมกับที่บ้านเกิดผมโคตรถูกเลย" หยางเสี่ยวฟงพูดพร้อมกับยกขึ้นมาดื่มกิน
"นายต้องการอะไร อย่าหาว่าอย่างนั้นอย่างนี้เลยนะนายกับเพื่อนนายสองคน หายไปจนแบบแม้แต่ตำรวจยังหากันไม่เจอ แต่มาอยู่ดีๆโผล่มาเลี้ยงเบียร์เนี่ยนะ" อัยการหนุ่มยิงคำถามทันที
"ใจเย็นคุณอัยการผมเข้าใจว่าตอนนี้คุณคิดยังไงอยู่ และที่ผมมาก็ไม่ได้แค่จะมาเลี้ยงเบียร์ด้วย" หยางเสี่ยวฟงพูด
เจตนาการมาของหยางเสี่ยวฟงคืออะไรนั้น ใจจริงอัยการอัศนัยก็ไม่ได้อยากรู้ขนาดนั้น เพียงแค่ไม่อยากโดนเป็นตัวตลกของคนอื่นเท่านั้น ภาพที่เขาว่าความเรียกร้องความยุติธรรมให้กับ 7 คนที่ถูกฆ่าตาย เมื่อราวๆ 6 เดือนก่อนผุดขึ้นมาในหัวของเขา และต่อมาหนึ่งในพวกมันที่กลายเป็นอันเดธ ก็บุกมาที่บ้านของเขาซึ่งน้องสาวอยู่บ้านคนเดียว ข้อความบนกำแพงนั้นยังคงตามหลอกหลอนเขาไม่หาย เขาไม่แน่ใจว่าสิ่งที่ทำไปมันถูกต้องแล้วหรือ จนบางครั้งคำพูดของแท็กมันก็ทำให้เขาต้องนึกทบทวนใหม่เสียด้วยช้ำ
"ไม่ต้องใส่ใจคำพูดของน้องผมให้มากหรอก มันยังเด็กยังต้องเรียนรู้โลกอีกมากโดยเฉพาะปีหน้า มันเจอหนักแน่"
"หมายความว่าไง" อัยการอัศนัยถามพร้อมกับขมวดคิ้ว
"ไม่ต้องสนใจหรอกมาคุยเรื่องของน้องสาวคุณดีกว่า คุณจะทำยังไงกับเด็กที่อยู่ในท้อง" คำพูดของหยางเสี่ยวฟงทำเอาอัยการหนุ่มไปไม่เป็นทันที แต่เขาเลือกเก็บอาการด้วยการดื่มเบียร์อึดใหญ่แทน
"ฮ่าๆ ไม่มีใครบอกผมหรอก แต่ผมรับรู้ตอนเข้าไปในห้องเมื่อกี้นี้เอง"
"ฉันตัดสินใจว่าจะการุณยฆาตสิ่งที่อยู่ในท้องนั้นชะ"
คำพูดของอัยการอัศนัยนั้นไม่ได้ทำให้หยางเสี่ยวฟงแปลกใจเท่าไหร่ ที่เรียกว่า "สิ่ง" แทนคำว่า "เด็ก" ซึ่งก็อาจไม่ใช่เรื่องแปลกเพราะความเชื่อของคนทั่วไป เชื่อว่าคนที่ถูกข่มขืนโดยอันเดธแล้วเกิดตั้งครรภ์ขึ้นมา มักจะชอบเชื่อหรือคิดกันไปเองว่าเด็กในท้องจะต้อง เป็นตัวประหลาดน่าเกลียดสยดสยองซึ่งเป็นความคิด ที่ไร้สาระมากๆสำหรับหยางเสี่ยวฟง
"ไม่ต้องขนาดนั้นคุณทนาย ผมมีข้อเสนอมากกว่านั้นนะแต่...ผมจะรอให้คุณระบายไปกับการดื่มชะก่อนละกัน"
คำพูดของหยางเสี่ยวฟงค่อนข้างจะจี้ปมของอัยการอัศนัย ไม่ใช่น้อยซึ่งมันก็ถูกของอีกฝ่ายเขายังไม่พร้อมจะรับฟัง อะไรมากนอกจากต้องการระบายสิ่งที่ มันอับอัดตันใจเขานับแต่น้องสาวกับแม่ต้องนอน ในโรงพยาบาลและทุกอย่างรอบข้างมันเปลี่ยนไป จนอัยการหนุ่มรับไม่ทันจริงๆ มาวันนี้เขาเข้าใจความรู้สึกของมธุสรแล้วว่ามันรู้สึกยังไง ที่ต้องทนเห็นคนในครอบครัวอยู่ในสภาพตกนรกทั้งเป็นแบบนั้น
"ฉันเข้าใจแล้วว่าคุณมธุสรรู้สึกยังไง ในตอนนั้นฉันเข้าใจหมดแล้ว.... ตลกดีนะคำพูดฉันในตอนนั้น มันย้อนกลับมาเล่นงานน้องสาวฉันในตอนนี้" หยางเสี่ยวฟงหันมามองอัยการหนุ่ม ที่ตอนนี้คงจะเริ่มเมาแล้วเพ้อเรียบร้อยแล้ว เขารู้แค่อย่างเดียวคือรับฟังเพื่อให้อัยการอัศนัยระบายออกมา
"คุณพูดอะไรในศาลตอนนั้น" หยางเสี่ยวฟงถามขึ้นก่อนสดขวดเบียร์ขึ้นมาดื่ม
"ไม่ใช่ที่ศาล...ฉันพูดใส่ทนายที่ว่าความให้กับมธุสรต่างหาก ฉันบอกกับเธอคนนั้นว่าฉันต่อสู้เพื่อคนที่ตายแล้ว ไม่มีโอกาสได้เรียกร้องความยุติธรรมกับตัวเอง...." อัยการหนุ่มพูดไปดื่มเบียร์ไปซึ่งมันกำลังจะหมดขวดแล้ว
"น่านับถือนะอัยการแต่...คงจะช่วยผิดคนแค่นั้นเอง" หยางเสี่ยวฟงยื่นขวดใหม่ให้อัยการหนุ่ม ซึ่งไม่เฉลียวใจเลยว่าอีกฝ่ายเอาขวดเบียร์มาจากไหน ซึ่งแน่นอนว่าเขาก็รับมาดื่มต่อพล่างคิดตามชายหนุ่ม
เขายอมรับว่าอาชีพอัยการนั้นคือความฝันสุงสุดของเขา ในวัยเด็กที่ต้องการต่อสู้เรียกร้องความยุติธรรมมากมาย ให้กับผู้คนมากมายเฉกเช่นเดียวกับ พัดยศผู้เป็นพ่อของเขาที่เป็นอัยการที่มีอุดมการณ์แรงกล้ามาก เมื่อเขาได้กลายเป็นอัยการตามฝันเขายังจำได้ดีว่าสำหรับสาน้องสาวแล้ว เขากับพัดยศเสมือนเป็นฮีโร่ผู้ผดุงคุณธรรมไม่ยอมศิโรราบ ให้กับความอยุติธรรมเด็ดขาดแต่แล้วมันย้อนกลับมาเล่นงานคนสำคัญในครอบครัวของเขา ยิ่งคิดก็ยิ่งทำให้อัยการอัศนัยดื่มหนักขึ้น
"อ่า เข้าใจนะว่ากำลังอยากระบายแต่เพลาๆหน่อยนะ ไม่งั้นจะคุยไม่รู้เรื่องพอดี" หยางเสี่ยวฟงกล่าว
"นายต้องการอะไร" ถึงแม้เขาจะเริ่มเมาแต่ยังมีสติอยู่
"เด็กที่อยู่ในท้องของน้องสาวอัยการนะ พวกเราขอได้ไหมไหนๆคุณก็ไม่นับว่าเป็นหลานอยู่แล้วนี่" คำพูดตรงๆของหยางเสี่ยวฟงนั้นทำเอาอัยการอัศนัยนั้น สางเมาในทันทีเพราะไม่คาดคิดว่าอีกฝ่ายต้องการ "สิ่ง" ที่อยู่ในท้องน้องสาวเขา แถมยังเรียกว่าเด็กอีกต่างหากซึ่งความคิดของอีกฝ่ายนั้น หยางเสี่ยวฟงพอจะเดาออก
"ผมรู้นะว่าคิดอะไรอยู่และขอบอกว่ามันเป็นความเชื่อที่ผิดเพี้ยนต่อๆกันมา อันเดธระดับต่ำอย่างที่คุณอัยการเคยเห็นในโรงงานนะ พวกนั้นไม่มีอารมณ์ผสมพันธุ์หรอก เพราะมันเกิดจากจิตอาฆาตของสัตว์ที่ถูกมนุษย์อย่างพวกเราฆ่า ดังนั้นพวกมันจะมีความต้องการในการกิน กิน กิน และกินเพื่อการวิวัฒนาการ เป็นอันเดธที่สูงขึ้นแต่ก็ยังมีสัญชาตญาณของสัตว์อยู่ดี"
"แล้วในกรณีของนายแป๋วละ" อัยการอัศนัยหันมาถาม
"มันไม่เหมือนกันอยู่แล้วนะระหว่างคนกับสัตว์นะ ไม่ว่าจะผม คุณ หรือใครก็ต่างก็มีความโลภ โกรธ หลง นั้นแหละแม้ว่าจะกลายเป็นอันเดธแล้วแต่สันดานตอนเป็นมนุษย์ มันก็เหลือเพียงแต่จะเพิ่มความโหดเหี้ยมกระหายมากขึ้นเท่านั้น และหากเทียบพวกอันเดธที่ผมพูดไปเมื่อกี้ก็คนละเรื่องเลย ดังนั้นอย่างกรณีในพวกนายแป๋วพวกนั้นจะเกรงกลัวเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว" หยางเสี่ยวฟงตอบและก็ดื่มเบียร์ต่อทีละอึดแต่ไม่มาก
"แล้วมันเกี่ยวอะไรกับไอ้ที่นายเรียกว่า "เด็ก" ละ" อัยการอัศนัยยังคงไม่เข้าใจในสิ่งที่อีกฝ่ายกำลังจะสื่อ
"ให้ตายเถอะมาเป็นอัยการได้ไงเนี่ย เห้อ เด็กที่อยู่ในท้องน้องสาวคุณนะไม่ใช่สัตว์ประหลาดอย่างที่คุณเข้าใจหรอก แต่เขาจะเป็นลูกผสมระหว่างมนุษย์กับอันเดธต่างหาก"
+++++++++++++++++++++++
ชลณนาถ หรือ สา ที่ตอนนี้นอนหลับบนเตียงราวกับเจ้าหญิงนินทรา ในเทพนิยายที่หลุดออกมาแต่สำหรับอัยการอัศนัย ผู้เป็นพี่ชายนั้นมันช่างทิ่มแทงหัวใจเหลือเกิน หลังจากที่อันเดธสองตนนั้นบุกบ้านน้องสาวที่เขารัก ผู้เคยมีรอยยิ้มสดใสและร่าเริงเป็นที่รักของคนในครอบครัว กลับกลายเป็นคนหวาดกลัวเสียสติไป เห็นคนรอบข้างไม่เว้นแม้แต่เขาหรือพ่อกับแม่ เป็นอันเดธคิดมาทำร้ายเธอซึ่งหมอได้ตัดสินใจให้ยานอนหลับเธอ พร้อมกับสายน้ำเกลือทดแทนอาหาร เพราะตั้งแต่นำตัวมารักษาชลณนาถก็ไม่ยอมทานอาหารเลย
แต่สิ่งที่ทำให้เกิดรอยร้าวในครอบครัวของอัยการหนุ่มมากที่สุด คือหมอได้นำข่าวร้ายมาบอกกับเขาว่าน้องสาวได้ตั้งท้อง 14 วัน แน่นอนว่าไม่ใช่หมอเขาก็รู้ว่า สิ่งที่อยู่ในท้องนั้นคือสิ่งที่อันเดธทิ้งเอาไว้ เป็นเหตุให้ พิมพ์เดือน แม่ของอัยการอัศนัยถึงขั้นทรุด ต้องเข้าโรงพยาบาลด้วยอีกคน ที่ร้ายกว่านั้นคือเรื่องราวที่เกิดขึ้นในครอบครัวเขานั้น กลายเป็นเรื่องขี้ปากชาวบ้านพูดสนุกปากกัน นั้นยังร่วมไปถึงที่สำนักงานเขตที่ พัดยศ พ่อของเขาทำงานอยู่ ผลที่ตามมาคือพัดยศลาพักร้อนอย่างไม่มีกำหนด ด้วยเหตุผลคือมาดูแลลูกสาวและภรรยาที่มานอนห้องเดียวกัน
"พ่อครับพักผ่อนเถอะครับ ให้ผมดูแลแม่กับน้องต่อเถอะ" อัยการอัศนัยพยายามเกลี้ยมกล่อมพัดยศ ที่มีท่าทางอ่อนเพลียอย่างมากเพราะคอยดูแลสองคนสำหรับในครอบครัว ระหว่างที่อัยการหนุ่มไม่อยู่
"ก็ได้ลูก ฝากด้วยนะ"
อัยการอัศนัยพยุงร่างอันอ่อนแรงของพัดยศ ไปนอนที่โซฟาอันอ่อนนุ่มที่อยู่ไม่ไกลจากเตียงของพิมม์เดือนมากนัก เมื่อหัวถึงหมอนพ่อของเขาก็หลับสนิททันที มันเป็นการบ่งบอกถึงความอ่อนล้าของคนไม่ได้นอน ส่วนทางอัยการอัศนัยนั้นเขานั่งที่เก้าอี้ที่เคยเป็นที่ พ่อใช้นั่งแต่ตอนนี้เขานั่งแทนแล้ว สำหรับเขาตอนนี้มันมืดบอดไปหมดนับแต่การล่า อันเดธกับพวกแท็กไปทั้งสามคนนั้นก็ไม่ติดต่อหาเขาเลย อาจเป็นเพราะตัวของอัยการอัศนัยเป็นตัวถ่วงละมั่ง
ประเด็นไม่ใช่ตรงนั้นอีกต่อไปเพราะอัยการหนุ่ม ก็ไม่แน่ใจเช่นกันว่าหากเขาตามฆ่าพวกมันครบ น้องสาวของเขาจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมไหม ไอ้บ้าเอ๋ยเจ้าอัศนัยคิดอะไรอยู่จะนั่งหาคำตอบทำไม เพราะคำตอบมันก็รู้กันอยู่แล้ว ระหว่างที่อัยการอัศนัยกำลังนั่งจมกับความคิดของตนนั้น ก็มีขวดเบียร์โผล่มาจ่อหน้าเขาและเมื่อหันไปมอง หยางเสี่ยวฟงคือคนที่ยื่นขวดเบียร์ให้แน่นอนว่า การมาของชายหนุ่มคนนี้ทำให้อัยการอัศนัยประหลาดใจอย่างมาก
"ในนี้มันกินไม่ได้ถ้าคุณอัยการไม่รังเกียจ ไปดื่มที่ด่านฟ้าได้ไหมแล้วก็ไม่ต้องห่วงมีคนเฝ้าพวกเขาให้"
สิ้นคำพูดของหยางเสี่ยวฟงประตูห้องก็เปิดออก แล้วกิติพงศ์ก็เดินเข้ามาและทักทายอย่างเป็นมิตร อัยการอัศนัยแปลกใจตัวเองอยู่ที่ยอมให้คนแปลกหน้าเฝ้าพ่อแม่และน้องสาวของตน แต่เขาไว้ใจหยางเสี่ยวฟงถึงได้ยอมตามไปแต่โดยดี ระหว่างที่เดินนั้นอัยการอัศนัยสังเกตว่า นางพยาบาลเดินผ่านหยางเสี่ยวฟงไปเฉยๆทั้งที่ อีกฝ่ายถือของมึนเมาเข้ามาและอัยการหนุ่มจำได้ว่า ที่นี้เคร่งในเรื่องนี้อย่างมากแต่ทำไมกลับเดินไปเฉยๆได้ละ
เมื่อทั้งสองมาถึงด่านฟ้าแล้วหยางเสี่ยวฟงก็ทำการ เปิดขวดเบียร์สองขวดแล้วยื่นให้กับอัยการอัศนัย ซึ่งเมื่อเขาดูยี่ห้อของมันก็พบว่ามันเป็นของนำเข้าจากฟรอนร์เทียร์ แถมยังมีราคาแพงมากจนแม้แต่เขาก็ไม่กล้าที่จะซื้อด้วยซ้ำ ใจจริงเขาก็ไม่ใช่นักดื่มแต่จากเรื่องที่เกิดขึ้น การดื่มย้อมใจก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะปลดปล่อยความเครียดได้
"ผมได้ยินมาว่าเบียร์ขวดนี้แพงมากสำหรับที่นี้ แต่คุณเชื่อไหมกับที่บ้านเกิดผมโคตรถูกเลย" หยางเสี่ยวฟงพูดพร้อมกับยกขึ้นมาดื่มกิน
"นายต้องการอะไร อย่าหาว่าอย่างนั้นอย่างนี้เลยนะนายกับเพื่อนนายสองคน หายไปจนแบบแม้แต่ตำรวจยังหากันไม่เจอ แต่มาอยู่ดีๆโผล่มาเลี้ยงเบียร์เนี่ยนะ" อัยการหนุ่มยิงคำถามทันที
"ใจเย็นคุณอัยการผมเข้าใจว่าตอนนี้คุณคิดยังไงอยู่ และที่ผมมาก็ไม่ได้แค่จะมาเลี้ยงเบียร์ด้วย" หยางเสี่ยวฟงพูด
เจตนาการมาของหยางเสี่ยวฟงคืออะไรนั้น ใจจริงอัยการอัศนัยก็ไม่ได้อยากรู้ขนาดนั้น เพียงแค่ไม่อยากโดนเป็นตัวตลกของคนอื่นเท่านั้น ภาพที่เขาว่าความเรียกร้องความยุติธรรมให้กับ 7 คนที่ถูกฆ่าตาย เมื่อราวๆ 6 เดือนก่อนผุดขึ้นมาในหัวของเขา และต่อมาหนึ่งในพวกมันที่กลายเป็นอันเดธ ก็บุกมาที่บ้านของเขาซึ่งน้องสาวอยู่บ้านคนเดียว ข้อความบนกำแพงนั้นยังคงตามหลอกหลอนเขาไม่หาย เขาไม่แน่ใจว่าสิ่งที่ทำไปมันถูกต้องแล้วหรือ จนบางครั้งคำพูดของแท็กมันก็ทำให้เขาต้องนึกทบทวนใหม่เสียด้วยช้ำ
"ไม่ต้องใส่ใจคำพูดของน้องผมให้มากหรอก มันยังเด็กยังต้องเรียนรู้โลกอีกมากโดยเฉพาะปีหน้า มันเจอหนักแน่"
"หมายความว่าไง" อัยการอัศนัยถามพร้อมกับขมวดคิ้ว
"ไม่ต้องสนใจหรอกมาคุยเรื่องของน้องสาวคุณดีกว่า คุณจะทำยังไงกับเด็กที่อยู่ในท้อง" คำพูดของหยางเสี่ยวฟงทำเอาอัยการหนุ่มไปไม่เป็นทันที แต่เขาเลือกเก็บอาการด้วยการดื่มเบียร์อึดใหญ่แทน
"ฮ่าๆ ไม่มีใครบอกผมหรอก แต่ผมรับรู้ตอนเข้าไปในห้องเมื่อกี้นี้เอง"
"ฉันตัดสินใจว่าจะการุณยฆาตสิ่งที่อยู่ในท้องนั้นชะ"
คำพูดของอัยการอัศนัยนั้นไม่ได้ทำให้หยางเสี่ยวฟงแปลกใจเท่าไหร่ ที่เรียกว่า "สิ่ง" แทนคำว่า "เด็ก" ซึ่งก็อาจไม่ใช่เรื่องแปลกเพราะความเชื่อของคนทั่วไป เชื่อว่าคนที่ถูกข่มขืนโดยอันเดธแล้วเกิดตั้งครรภ์ขึ้นมา มักจะชอบเชื่อหรือคิดกันไปเองว่าเด็กในท้องจะต้อง เป็นตัวประหลาดน่าเกลียดสยดสยองซึ่งเป็นความคิด ที่ไร้สาระมากๆสำหรับหยางเสี่ยวฟง
"ไม่ต้องขนาดนั้นคุณทนาย ผมมีข้อเสนอมากกว่านั้นนะแต่...ผมจะรอให้คุณระบายไปกับการดื่มชะก่อนละกัน"
คำพูดของหยางเสี่ยวฟงค่อนข้างจะจี้ปมของอัยการอัศนัย ไม่ใช่น้อยซึ่งมันก็ถูกของอีกฝ่ายเขายังไม่พร้อมจะรับฟัง อะไรมากนอกจากต้องการระบายสิ่งที่ มันอับอัดตันใจเขานับแต่น้องสาวกับแม่ต้องนอน ในโรงพยาบาลและทุกอย่างรอบข้างมันเปลี่ยนไป จนอัยการหนุ่มรับไม่ทันจริงๆ มาวันนี้เขาเข้าใจความรู้สึกของมธุสรแล้วว่ามันรู้สึกยังไง ที่ต้องทนเห็นคนในครอบครัวอยู่ในสภาพตกนรกทั้งเป็นแบบนั้น
"ฉันเข้าใจแล้วว่าคุณมธุสรรู้สึกยังไง ในตอนนั้นฉันเข้าใจหมดแล้ว.... ตลกดีนะคำพูดฉันในตอนนั้น มันย้อนกลับมาเล่นงานน้องสาวฉันในตอนนี้" หยางเสี่ยวฟงหันมามองอัยการหนุ่ม ที่ตอนนี้คงจะเริ่มเมาแล้วเพ้อเรียบร้อยแล้ว เขารู้แค่อย่างเดียวคือรับฟังเพื่อให้อัยการอัศนัยระบายออกมา
"คุณพูดอะไรในศาลตอนนั้น" หยางเสี่ยวฟงถามขึ้นก่อนสดขวดเบียร์ขึ้นมาดื่ม
"ไม่ใช่ที่ศาล...ฉันพูดใส่ทนายที่ว่าความให้กับมธุสรต่างหาก ฉันบอกกับเธอคนนั้นว่าฉันต่อสู้เพื่อคนที่ตายแล้ว ไม่มีโอกาสได้เรียกร้องความยุติธรรมกับตัวเอง...." อัยการหนุ่มพูดไปดื่มเบียร์ไปซึ่งมันกำลังจะหมดขวดแล้ว
"น่านับถือนะอัยการแต่...คงจะช่วยผิดคนแค่นั้นเอง" หยางเสี่ยวฟงยื่นขวดใหม่ให้อัยการหนุ่ม ซึ่งไม่เฉลียวใจเลยว่าอีกฝ่ายเอาขวดเบียร์มาจากไหน ซึ่งแน่นอนว่าเขาก็รับมาดื่มต่อพล่างคิดตามชายหนุ่ม
เขายอมรับว่าอาชีพอัยการนั้นคือความฝันสุงสุดของเขา ในวัยเด็กที่ต้องการต่อสู้เรียกร้องความยุติธรรมมากมาย ให้กับผู้คนมากมายเฉกเช่นเดียวกับ พัดยศผู้เป็นพ่อของเขาที่เป็นอัยการที่มีอุดมการณ์แรงกล้ามาก เมื่อเขาได้กลายเป็นอัยการตามฝันเขายังจำได้ดีว่าสำหรับสาน้องสาวแล้ว เขากับพัดยศเสมือนเป็นฮีโร่ผู้ผดุงคุณธรรมไม่ยอมศิโรราบ ให้กับความอยุติธรรมเด็ดขาดแต่แล้วมันย้อนกลับมาเล่นงานคนสำคัญในครอบครัวของเขา ยิ่งคิดก็ยิ่งทำให้อัยการอัศนัยดื่มหนักขึ้น
"อ่า เข้าใจนะว่ากำลังอยากระบายแต่เพลาๆหน่อยนะ ไม่งั้นจะคุยไม่รู้เรื่องพอดี" หยางเสี่ยวฟงกล่าว
"นายต้องการอะไร" ถึงแม้เขาจะเริ่มเมาแต่ยังมีสติอยู่
"เด็กที่อยู่ในท้องของน้องสาวอัยการนะ พวกเราขอได้ไหมไหนๆคุณก็ไม่นับว่าเป็นหลานอยู่แล้วนี่" คำพูดตรงๆของหยางเสี่ยวฟงนั้นทำเอาอัยการอัศนัยนั้น สางเมาในทันทีเพราะไม่คาดคิดว่าอีกฝ่ายต้องการ "สิ่ง" ที่อยู่ในท้องน้องสาวเขา แถมยังเรียกว่าเด็กอีกต่างหากซึ่งความคิดของอีกฝ่ายนั้น หยางเสี่ยวฟงพอจะเดาออก
"ผมรู้นะว่าคิดอะไรอยู่และขอบอกว่ามันเป็นความเชื่อที่ผิดเพี้ยนต่อๆกันมา อันเดธระดับต่ำอย่างที่คุณอัยการเคยเห็นในโรงงานนะ พวกนั้นไม่มีอารมณ์ผสมพันธุ์หรอก เพราะมันเกิดจากจิตอาฆาตของสัตว์ที่ถูกมนุษย์อย่างพวกเราฆ่า ดังนั้นพวกมันจะมีความต้องการในการกิน กิน กิน และกินเพื่อการวิวัฒนาการ เป็นอันเดธที่สูงขึ้นแต่ก็ยังมีสัญชาตญาณของสัตว์อยู่ดี"
"แล้วในกรณีของนายแป๋วละ" อัยการอัศนัยหันมาถาม
"มันไม่เหมือนกันอยู่แล้วนะระหว่างคนกับสัตว์นะ ไม่ว่าจะผม คุณ หรือใครก็ต่างก็มีความโลภ โกรธ หลง นั้นแหละแม้ว่าจะกลายเป็นอันเดธแล้วแต่สันดานตอนเป็นมนุษย์ มันก็เหลือเพียงแต่จะเพิ่มความโหดเหี้ยมกระหายมากขึ้นเท่านั้น และหากเทียบพวกอันเดธที่ผมพูดไปเมื่อกี้ก็คนละเรื่องเลย ดังนั้นอย่างกรณีในพวกนายแป๋วพวกนั้นจะเกรงกลัวเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว" หยางเสี่ยวฟงตอบและก็ดื่มเบียร์ต่อทีละอึดแต่ไม่มาก
"แล้วมันเกี่ยวอะไรกับไอ้ที่นายเรียกว่า "เด็ก" ละ" อัยการอัศนัยยังคงไม่เข้าใจในสิ่งที่อีกฝ่ายกำลังจะสื่อ
"ให้ตายเถอะมาเป็นอัยการได้ไงเนี่ย เห้อ เด็กที่อยู่ในท้องน้องสาวคุณนะไม่ใช่สัตว์ประหลาดอย่างที่คุณเข้าใจหรอก แต่เขาจะเป็นลูกผสมระหว่างมนุษย์กับอันเดธต่างหาก"
+++++++++++++++++++++++
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ