นักรบพันธุ์โหด ตอน หวงจือชิน Secson 1
8.0
เขียนโดย กนกพัชร
วันที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 เวลา 09.12 น.
53 ตอน
0 วิจารณ์
43.24K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2562 00.28 น. โดย เจ้าของนิยาย
50) ตอนที่ 50 การก่อประท้วงและการนองเลือด
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความศูนย์กลางเมืองหลวง เวลา 09.33 น.
วันนี้เป็นวันที่ท่านทูตอากิระอนุญาตให้เฉพาะคนอายุครบ 12 ปี ออกนอกบ้านได้แต่ต้องไม่เกิน 6 โมงเย็น ซึ่งพอดีเลยที่อาชินนั้นอายุย่าง 12 แล้วจึงตัดสินใจที่จะขับจักรยานรอบเมืองสักครั้ง รอบนี้เสี่ยวหู่กับเฮยหลงก็ขับมาเที่ยวกับเขาด้วยเนื่อง จากพวกอาเจี๋ยตัดสินใจที่จะกลับไปเยี่ยมพ่อแม่ที่บ้านแทน กลายเป็นว่าอาชินมีเพื่อนไปเที่ยวสองคนเท่านั้น อาชินตัดสินลองขับจักรยานเข้าไปในตัวเมืองดูสักครั้ง
"นายอยากไปตัวเมืองทำไมอ่ะ" เสี่ยวหู่ถามขึ้น
"อยากเห็นว่าในเมืองหลวงมีอะไรไง อีกอย่างมีเวลาให้เที่ยวเยอะ" อาชินพูดขึ้น
"ยังไงก็อย่าไปที่เสาหลักเมืองละ เห็นว่ามีการประท้วงกันด้วย" เฮยหลงกล่าวเตือน
ระหว่างที่ทั้งสามขับจักรยานมาที่สี่แยกไฟแดงได้ พวกเขาก็เจอเข้ากับขบวนรถแห่ประท้วงมากมาย ผู้ชุมนุมส่วนมากจะเป็นพลเรือนโดยพวกเขาจะสวมเสื้อสีขาว พร้อมกับชูป้ายที่เขียนด้วยอักษรสีแดงว่า "เราไม่ต้องการผู้นำที่ละทิ้งหน้าที่" กับป้ายเขียนว่า "เลือดผู้บริสุทธิ์หลั่งพอหรือยัง" รถหลายขบวนถือป้ายรูปจอมทัพวลาดีมีร์และมีกากบาทสีดำทับไว้ จากนั้นก็มีคนพูดผ่านโทรโข่งเพื่อปลุกระดมผู้คนให้ลุกฮือขึ้นมา ก่อนจะขับผ่านหน้าพวกเขาไป
"นี่ผู้นำพวกเราแย่ขนาดนี้เลยเหรอ" อาชินหันมาถาม เสี่ยวหู่ทำได้แค่ยักไหล่เท่านั้น
"พวกประท้วงเล่นไปทางนั้นคงต้องเปลี่ยนเส้นทางแล้วละ"
ทั้งสามจึงหันหัวจักรยานไปทางลัดที่อยู่เส้นทางขนานกับห้างใหญ่แทน แต่ระหว่างที่ขับนั้นอาชินก็ยังเห็นคนชูป้ายด่าจอมทัพวลาดีมีร์เกือบจะทั้งหมด ที่สำคัญมีการร่วมกลุ่มหนาแน่นกันมากขึ้น จนกำลังจะกลายเป็นกลุ่มใหญ่มันกำลังเป็นการ บอกว่าทั่วเมืองหลวงกำลังจะมีการประท้วงใหญ่ อาชินคิดว่าน่าจะควรกลับบ้านดีไหมเพราะรู้สึกใจคอไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก
ยังไม่ทันที่จะพูดจบก็มีคนกระแทกตัวของเสี่ยวหู่ จนเขาล้มลงกับพื้นพร้อมกับจักรยานเขาเงยหน้ามองคนชน ซึ่งก็คือคนในกลุ่มประท้วงโดยร่างกายของชายคนนั้น ซุ้มไปด้วยเลือดเต็มร่างกายเสี่ยวหู่รับรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังหนีใคร สักพักคำตอบก็ได้ปรากฏออกมาชายร่างใหญ่ไม่มีผม ผิวขาวเหลืองเดินออกมาพร้อมลูกน้องมากมาย อาชินกับเฮยหลงลากเสี่ยวหู่และจักรยานออกมา โชคยังดีที่ชายร่างยักษ์นั้นไม่สนใจพวกเขา ส่วนผู้ประท้วงร่วมแรงร่วมใจกันควงแขนเป็นกำแพง
"หึ หึ พวกมึงทำแบบนี้แสดงว่าพร้อมใจกัน รับความตายกันใช่ไหม"
ไม่พูดเปล่าชายร่างยักษ์ก็ใช้ไม้กระบองอันใหญ่ฟาดลงมา เหล่าผู้ประท้วงนอนจมกองเลือดไปหลายคน เป็นภาพที่ทำเอาทั้งสามคนแทบไม่กล้าขยับร่างกายเลย เพราะไม่เคยเห็นการนองเลือดที่ชัดขนาดนี้มาก่อน อาชินตัดสินใจขับจักรยานไปจากตรงนั้น โดยที่เสี่ยวหู่กับเฮยหลงขับตามหลังมา แม้ว่าจะขับมาได้ไกลแล้วแต่เสียงคนพูดผ่านไมค์ยังดังก้องกังวาน ก่อนจะดับหายไปกลายเป็นเสียงของชายร่างใหญ่ที่พูดจาถากถางเหล่าผู้ประท้วงมากมาย ซึ่งตลอดเส้นทางนั้นเหล่าผู้ประท้วงหยิบจับอาวุธที่มี เข้าไปเพื่อสู้กับใครไม่รู้แต่ที่เห็นชัดเจนคือ เด็กชายทั้งสามคนไม่เห็นพวกเจ้าหน้าที่มาระงับเหตุเลย
"พวกเจ้าหน้าที่หายไปไหนกันหมด" อาชินหันมาตะโกนแข่งกับเสียงผู้คน
"ไม่รู้เหมือนกัน ตามมาทางนี้"
เสี่ยวหู่ตัดสินใจเลี้ยวเข้าไปอีกเส้นทางซึ่งอาชินตัดสินใจรีเทิร์น ตามมาอีกทีซึ่งคราวนี้พ้นระยะความวุ่นวายแล้ว แต่พวกเขาพึ่งจะได้เห็นขบวนรถเจ้าหน้าที่ขับผ่านไปหลายคน อาชิน เสี่ยวหู่ และเฮยหลงยังใจเสียอยู่กับภาพที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ สักพักกายจิตของหวังเสี่ยวหลงพี่ชายของเสี่ยวหู่ก็ปรากฏตัวขึ้น หวังเสี่ยวหลงมองสภาพน้องชายแล้วเด็กหนุ่มเข้าใจ ว่าไปเห็นอะไรมา
"พี่อยากให้พวกนายกลับบ้านเดียวนี้ ข้างนอกวุ่นวายมาก" หวังเสี่ยวหลงพูดกับน้องชาย
"รับทราบ" ทั้งสามรับคำ ก่อนที่กายจิตของหวังเสี่ยวหลงจะหายไป
++++++++++++++++++++++++++++++
วันนี้เป็นวันที่ท่านทูตอากิระอนุญาตให้เฉพาะคนอายุครบ 12 ปี ออกนอกบ้านได้แต่ต้องไม่เกิน 6 โมงเย็น ซึ่งพอดีเลยที่อาชินนั้นอายุย่าง 12 แล้วจึงตัดสินใจที่จะขับจักรยานรอบเมืองสักครั้ง รอบนี้เสี่ยวหู่กับเฮยหลงก็ขับมาเที่ยวกับเขาด้วยเนื่อง จากพวกอาเจี๋ยตัดสินใจที่จะกลับไปเยี่ยมพ่อแม่ที่บ้านแทน กลายเป็นว่าอาชินมีเพื่อนไปเที่ยวสองคนเท่านั้น อาชินตัดสินลองขับจักรยานเข้าไปในตัวเมืองดูสักครั้ง
"นายอยากไปตัวเมืองทำไมอ่ะ" เสี่ยวหู่ถามขึ้น
"อยากเห็นว่าในเมืองหลวงมีอะไรไง อีกอย่างมีเวลาให้เที่ยวเยอะ" อาชินพูดขึ้น
"ยังไงก็อย่าไปที่เสาหลักเมืองละ เห็นว่ามีการประท้วงกันด้วย" เฮยหลงกล่าวเตือน
ระหว่างที่ทั้งสามขับจักรยานมาที่สี่แยกไฟแดงได้ พวกเขาก็เจอเข้ากับขบวนรถแห่ประท้วงมากมาย ผู้ชุมนุมส่วนมากจะเป็นพลเรือนโดยพวกเขาจะสวมเสื้อสีขาว พร้อมกับชูป้ายที่เขียนด้วยอักษรสีแดงว่า "เราไม่ต้องการผู้นำที่ละทิ้งหน้าที่" กับป้ายเขียนว่า "เลือดผู้บริสุทธิ์หลั่งพอหรือยัง" รถหลายขบวนถือป้ายรูปจอมทัพวลาดีมีร์และมีกากบาทสีดำทับไว้ จากนั้นก็มีคนพูดผ่านโทรโข่งเพื่อปลุกระดมผู้คนให้ลุกฮือขึ้นมา ก่อนจะขับผ่านหน้าพวกเขาไป
"นี่ผู้นำพวกเราแย่ขนาดนี้เลยเหรอ" อาชินหันมาถาม เสี่ยวหู่ทำได้แค่ยักไหล่เท่านั้น
"พวกประท้วงเล่นไปทางนั้นคงต้องเปลี่ยนเส้นทางแล้วละ"
ทั้งสามจึงหันหัวจักรยานไปทางลัดที่อยู่เส้นทางขนานกับห้างใหญ่แทน แต่ระหว่างที่ขับนั้นอาชินก็ยังเห็นคนชูป้ายด่าจอมทัพวลาดีมีร์เกือบจะทั้งหมด ที่สำคัญมีการร่วมกลุ่มหนาแน่นกันมากขึ้น จนกำลังจะกลายเป็นกลุ่มใหญ่มันกำลังเป็นการ บอกว่าทั่วเมืองหลวงกำลังจะมีการประท้วงใหญ่ อาชินคิดว่าน่าจะควรกลับบ้านดีไหมเพราะรู้สึกใจคอไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก
ยังไม่ทันที่จะพูดจบก็มีคนกระแทกตัวของเสี่ยวหู่ จนเขาล้มลงกับพื้นพร้อมกับจักรยานเขาเงยหน้ามองคนชน ซึ่งก็คือคนในกลุ่มประท้วงโดยร่างกายของชายคนนั้น ซุ้มไปด้วยเลือดเต็มร่างกายเสี่ยวหู่รับรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังหนีใคร สักพักคำตอบก็ได้ปรากฏออกมาชายร่างใหญ่ไม่มีผม ผิวขาวเหลืองเดินออกมาพร้อมลูกน้องมากมาย อาชินกับเฮยหลงลากเสี่ยวหู่และจักรยานออกมา โชคยังดีที่ชายร่างยักษ์นั้นไม่สนใจพวกเขา ส่วนผู้ประท้วงร่วมแรงร่วมใจกันควงแขนเป็นกำแพง
"หึ หึ พวกมึงทำแบบนี้แสดงว่าพร้อมใจกัน รับความตายกันใช่ไหม"
ไม่พูดเปล่าชายร่างยักษ์ก็ใช้ไม้กระบองอันใหญ่ฟาดลงมา เหล่าผู้ประท้วงนอนจมกองเลือดไปหลายคน เป็นภาพที่ทำเอาทั้งสามคนแทบไม่กล้าขยับร่างกายเลย เพราะไม่เคยเห็นการนองเลือดที่ชัดขนาดนี้มาก่อน อาชินตัดสินใจขับจักรยานไปจากตรงนั้น โดยที่เสี่ยวหู่กับเฮยหลงขับตามหลังมา แม้ว่าจะขับมาได้ไกลแล้วแต่เสียงคนพูดผ่านไมค์ยังดังก้องกังวาน ก่อนจะดับหายไปกลายเป็นเสียงของชายร่างใหญ่ที่พูดจาถากถางเหล่าผู้ประท้วงมากมาย ซึ่งตลอดเส้นทางนั้นเหล่าผู้ประท้วงหยิบจับอาวุธที่มี เข้าไปเพื่อสู้กับใครไม่รู้แต่ที่เห็นชัดเจนคือ เด็กชายทั้งสามคนไม่เห็นพวกเจ้าหน้าที่มาระงับเหตุเลย
"พวกเจ้าหน้าที่หายไปไหนกันหมด" อาชินหันมาตะโกนแข่งกับเสียงผู้คน
"ไม่รู้เหมือนกัน ตามมาทางนี้"
เสี่ยวหู่ตัดสินใจเลี้ยวเข้าไปอีกเส้นทางซึ่งอาชินตัดสินใจรีเทิร์น ตามมาอีกทีซึ่งคราวนี้พ้นระยะความวุ่นวายแล้ว แต่พวกเขาพึ่งจะได้เห็นขบวนรถเจ้าหน้าที่ขับผ่านไปหลายคน อาชิน เสี่ยวหู่ และเฮยหลงยังใจเสียอยู่กับภาพที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ สักพักกายจิตของหวังเสี่ยวหลงพี่ชายของเสี่ยวหู่ก็ปรากฏตัวขึ้น หวังเสี่ยวหลงมองสภาพน้องชายแล้วเด็กหนุ่มเข้าใจ ว่าไปเห็นอะไรมา
"พี่อยากให้พวกนายกลับบ้านเดียวนี้ ข้างนอกวุ่นวายมาก" หวังเสี่ยวหลงพูดกับน้องชาย
"รับทราบ" ทั้งสามรับคำ ก่อนที่กายจิตของหวังเสี่ยวหลงจะหายไป
++++++++++++++++++++++++++++++
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ