นักรบพันธุ์โหด ตอน หวงจือชิน Secson 1

8.0

เขียนโดย กนกพัชร

วันที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 เวลา 09.12 น.

  53 ตอน
  0 วิจารณ์
  43.22K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2562 00.28 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

41) ตอนที่ 41 ความกังวล

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
บ้านท่านทูตอากิระ เวลา 08.30 น.
นับแต่หลังจากเหตุการณ์ที่บ้านซึ่งผ่านมาได้ 5 อาทิตย์กว่าๆ อาชินก็ฝังตัวเองอยู่ในห้องไม่ยอมออกมา นอกจากเวลาอาบน้ำกับกินข้าวเท่านั้น เด็กชายแทบไม่สุงสิงกับใครเลยแม้แต่กับกลุ่มเพื่อนสนิทอย่างกลุ่มอาเจี๋ย ในส่วนของทางด้านอาเจี๋ยนั้นเขาที่อยู่ในเหตุการณ์ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจาก ยอมปล่อยให้กาลเวลาเยียวยาจิตใจของเพื่อนก่อน อาเจี๋ยตัดสินใจเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้กับคนอื่นที่ไม่ได้ไปด้วยในวันที่เขากับอาชิน แอบออกจากบ้านซึ่งทุกคนเองก็พอเข้าใจเรื่องราวทั้งหมด เนื่องจากว่าพวกอาหมิงรับรู้เพียงแค่อารมณ์เสียใจผสมกับโกรธของอีกฝ่ายเท่านั้น แต่พวกเขาก็ไม่กล้าที่จะเข้าไปอ่านความคิดลึกขนาดนั้น
      "แล้วพวกเราต้องปล่อยให้อาชินขังตัวเองแบบนั้นเหรอ" อาหลงถามอย่างเป็นห่วง
      "ไม่รู้เหมือนกัน ตั้งแต่กลับมาจากบ้านหมอนี้ก็เริ่มขังตัวเองไว้ในห้องแล้ว... ตอนที่ฉันสองคนไม่อยู่กันนะ มันเกิดอะไรขึ้นบ้าง"
      เจอคำถามนี้เข้าไปอาหมิงกับอาหลงยิ้มเจื่อนๆใส่อาเจี๋ยทันที ในขณะที่เสี่ยวหู่กับเฮยหลงนั้นก็ไม่กล้าสบตากับเขา ทำให้เด็กชายผิวเข้มชักเริ่มแปลกใจจึงเค้นให้เพื่อนๆพูด ทางสายตาแทนซึ่งอาหลงก็ใช้ศอกสะกิดให้อาหมิงเป็นคนพูด และเมื่ออาหมิงหันไปมองคนอื่นซึ่งทุกคนก็เลือกให้อาหมิงเป็นคนบอกกับอาเจี๋ย แต่ไม่คิดถามเขาสักคำว่าเขาพร้อมบอกรึเปล่า
      "ตอนที่นายกับอาชินไม่อยู่นะ อยากจะบอกว่าทุกคนในบ้านเขารู้กันหมดเลย" อาหมิงพูดเบาๆ
      "ทุกคนเลยเหรอ....ได้ไง" อาเจี๋ยถามพร้อมกับขมวดคิ้ว
      "ก็พวกพี่กำแพงอะดิ..สงสัยว่าพวกเราวางแผนอะไรกันไว้ เลยใช้โทรจิตเชื่อมทางความคิดมาที่พวกเรา นั้นร่วมนายกับอาชินด้วยแน่นอนว่าเมื่อพวกนายออกไปแล้ว พวกฉันตั้งใจจะทำตามแผนที่เตรียมกันแต่พี่กำแพงดักรอพอดี" อาหมิงตอบ
      "แล้วตอนที่นายสองคนกลับชะแบบว่าเช้าเลย จนแบบว่าเลยกินมื้อเช้าก็ได้พวกพี่เขานี่แหละแก้ต่างให้ว่านายสองคน ยังไม่ตื่น" อาหลงเสริมอีกแรง
      อาเจี๋ยพอนึกออกในวันที่อาชินกับเขากว่าจะถึงบ้านนั้น มันเลยมื้อเช้าไปแล้วแต่เมื่อกลับมาถึงบ้านกลับพบจานข้าววางไว้ ที่โต๊ะราวกับว่ามีคนมาวางไว้ รอให้กลับมากินซึ่งอาเจี๋ยแน่ใจว่าที่ห้องของอาชินก็คงมี แต่ไม่มั่นใจเท่าไหร่นักว่าอาชินจะมีอารมณ์กินข้าวไหมในตอนนั้น สักพักก็มีเสียงหนึ่งทักขึ้นจากข้างหลังของพวกอาเจี๋ย ทำเอาพวกเขาตกใจไปตามๆกัน
      "สรุปจือชินยังเลือกขังตัวเองแบบนั้นใช่ไหม"
      อาเจี๋ยหันกลับไปมองเป็นเด็กหนุ่มที่อายุน่าจะประมาณ 13-14 ปี รูปร่างสูงและกำยำพอสมควร ผิวสีเข้มเหมือนอาเจี๋ยและมีผมกับดวงสีดำสนิทเหมือนกัน เขาสวมเสื้อยืดสีขาวกับกางเกงสีขาวกุมหัวเข่า จากโทรจิตที่เชื่อมหากันทำให้อาเจี๋ยรู้ว่าเด็กหนุ่มคนนี้ก็คือ สันติสุข บุญญาวนิชหรืออีกชื่อคือ บุ๊ค อาเจี๋ยรู้ดีว่าสันติสุขไม่ได้มาตัวเป็นๆแต่มาในร่างกายละเอียดหรือ ที่เรียกง่ายๆว่ากายจิตซึ่งจะมีแค่เพียงพวกนักรบฟินิกซ์หรือผู้มีพลังจิตเท่านั้นที่จะมองเห็นได้
      "ผมก็ไม่ทราบเหมือนกันครับ ทันทีที่หมอนั้นเข้าห้องไปก็ปิดล็อคไม่ให้เข้าไปเลย พวกผมก็ไม่กล้าใช้กายจิตเข้าไปโดยพลการด้วยนะครับ" เฮยหลงตอบ สันติสุขก็เอาท่าครุ่นคิดอยู่สักหนึ่ง ก่อนที่จะมีเสียงเคาะประตูหนึ่งครั้งและคนที่เปิดเข้ามาคือ หวังเสี่ยวหลง นั้นเอง                    
      "ทุกคนฉันเห็นอาชินจะไปดูหน่อยไหม" เสี่ยวหลงถามขึ้น พวกอาเจี๋ยหันมาสบตากันอย่างไม่ได้นัดหมายอีกครั้ง
                        
       
                                              ++++++++++++++++++++     
 
อาชินกระหน่ำซัดกำปั้นซ้าย-ขวาใส่หุ่นซ้อมอย่างบ้าคลั่ง ตลอดเวลาที่เขาขังอยู่ในห้องนั้นเด็กชายมีความตั้งใจจะ พัฒนาโปรแกรมไมคอนแต่กลับไม่มีสมาธิจะทำเลยแม้แต่น้อย มันมีแต่ความโกรธเท่านั้นอาชินไม่รู้จะทำอะไรกับมันนอกจากว่า ต้องหาที่ระบายเท่านั้นดังนั้นเด็กชายจึงตัดสินใจ มาที่ห้องใต้ดินนี้โดยเฉพาะซึ่งเขาพังหุ่นยนตร์ไปแล้วหลายตัว แต่ไฟโทสะมันก็ไม่ได้ลดลงเลยแม้แต่น้อย อาชินไม่รู้จะทำยังไงกับสิ่งกำลังทรมานตัวเขาดี ระหว่างที่เขากำลังสิ้นหวังอยู่นั้นได้มีชายหนุ่มคนหนึ่ง ปรากฎตัวขึ้นเมื่ออาชินเงยหน้าขึ้นก็คงไม่ใช่ใครที่ไหน ร้อยเอกหลี่ชิงโปนั้นเอง
      "ฝีมือไม่เลวเลยนี่ ฉันตอนอายุเท่านายยังไม่ได้ขนาดนี้เลย" ร้อยเอกหลี่ชิงโปกล่าวชื่นชม
      "ครูต้องการอะไร" อาชินถามตรงๆ ซึ่งอีกฝ่ายรู้ถึงชอบใจที่ถูกถามตรงๆ
      "ก็ไม่มีอะไรมาก ฉันแค่จะบอกว่าคราวนี้ประจับใจมากกับฝีมือนาย..เลยจะมาชวนไปฝึกที่หน่วยกับฉันไหม นายจะได้ฝึกกับเด็กที่โตกว่าแน่นอน มันมีโอกาสที่นายจะพัฒนาก้าวกระโดดกว่าที่นี้อยู่แล้ว ที่สำคัญฉันรู้วิธีที่จะชำระสิ่งที่ทรมานนายอยู่" 
      "ผมต้องทำยังไง" อาชินถาม ร้อยเอกหลี่ชิงโปลงมากระซิบข้างหูของเด็กชาย
      "ปลดปล่อยมันออกมายังไงละ ฉันจะสอนให้ถ้านายตกลง" ร้อยเอกหลี่ชิงโปพูดเบาๆ
      สักพักเสียงเท้าเดินหลายคนก็กรูเข้ามาทางที่อาชินกับร้อยเอกหลี่ชิงโปอยู่ คนที่นำก็ไม่ใช่ใครที่ไหน หวงเซียงผาง นั้นเอง ดูจากสีหน้าน่าจะทั้งตกใจผสมกับความกังวลที่เห็นร้อยเอกหลี่ชิงโปอยู่นี้ เบื้องหลังของหวงเซียงผางคือพวกอาหมิงนั้นเอง ร้อยเอกหลี่ชิงโปเดินมาเผชิญหน้ากับหวงเซียงผางอย่างท้าทาย อาเจี๋ยพึ่งสังเกตเห็นสีหน้าของอาหมิงเมื่อเห็นร้อยเอกหลี่ชิงโป จนพึ่งคิดได้ว่าอาหมิงเป็นคนตระกูลหลี่แสดงว่าอาจรู้จักกัน
      "นายมาทำอะไรที่นี้" หวงเซียงผางถาม
      "ฉันแค่มาเยี่ยม "ลูกศิษย์" เท่านั้น" ร้อยเอกหลี่ชิงโปตอบ
      "ไม่ใช่แค่นั้นหรอกมั่งฉันว่า" หวงเซียงผางพูด
      "ฉันไม่อยากมีเรื่องกับนายเอาเป็นว่า ฉันหมดธุระกับที่นี้แล้ว.... ขอเสนอของฉันนายลองคิดดูดีๆนะ" ร้อยเอกหลี่ชิงโปหันมาพูดกับอาชินก่อนจะเดินเลยหวงเซียงผางและ หายตัวไปพริบตาจากตรงนั้นทันที หวงเซียงผางหันกลับมามองหน้าอาชินซึ่งตอนนี้ เด็กชายไม่มองหน้าใครทั้งนั้น นอกจากเดินจากไปแบบไม่สบตากับใครเลย หวงเซียงผางรู้เรื่องราวทั้งหมดจากหวงฉี่ชุ่นแล้ว ซึ่งได้ฝากให้ชายหนุ่มดูแลเพราะตอนนี้เด็กชายคงไม่อยากเจอหน้าปู่ แต่เมื่อเขาหันไปมองซากหุ่นต์ที่นอนกับพื้นทำให้เขากังวลมาก
      อาเจี๋ยลากตัวอาหมิงออกมาทันทีทำให้พวกทีเหลือตกใจอย่างมาก อาเจี๋ยพาพวกอาหมิงมาที่สวนนั่งเล่นกลางบ้านซึ่งท่านทูตอากิระ จะใช้เป็นที่ดื่มน้ำชาแต่หากท่านไม่อยู่ก็ไม่ค่อยมีคน มาอยู่ตรงนี้ดังนั้นจึงเหมาะที่จะพูดคุยกันโดยเฉพาะกลุ่มของพวกเขา อาหมิงมีท่าทีงุนงงว่าอาเจี๋ยพามาที่นี้ทำไม
      "อาหมิง นายรู้จักทหารคนเมื่อกี้ใช่ไหม" อาเจี๋ยถาม
      "ใช่ แต่เขาอยู่ลำดับ 2" อาหมิงตอบ อาหลงก็เหมือนทำหน้าร้องออขึ้นมา และลูบบริเวณที่เคยโดนร้อยเอกหลี่ชิงโปเตะมา
      "หมอนี้โรคจิต... คราวก่อนที่ฝึกกับมันนะ มันตบหน้าจัสติน การ์เนอร์แล้วยังมาเตะกับชกท้องฉันด้วย" อาหลงพูดอย่างเจ็บใจ
      "ขนาดนั้นเลยเหรอ" เสี่ยวหู่ถาม อาหลงพยักหน้ายืนยันความจริง อาหมิงหน้าเสียเล็กน้อย
      "ที่นายโดนนะยังน้อยไปที่ตระกูลหลี่ลำดับ 2 นะหลี่ชิงโปมีประวัติทำร่างกายภรรยาเขา จนมีการฟ้องหย่ากันเพื่อแย่งลูกจนสุดท้ายแล้วผู้นำตระกูลหลี่ลำดับ 2 ตัดสินใจจะดูแลลูกของทั้งสองไว้ พร้อมกับสั่งไม่ให้หลี่ชิงโปยุ่งกับเด็กอีกหลังจากที่...." อาหมิงเงียบลงไม่พูดต่อทำให้พวกอาเจี๋ยสงสัย
      "หลักจากอะไรอาหมิง" เฮยหลงถาม
      "พวกเขาพบรอยช้ำทั่วร่างกายของลูกชายสองคนของหลี่ชิงโป ที่เกิดจากการฝึกและการที่เขาไม่พอใจที่ลูกๆไม่ได้รับการถูกเลือก"
      "ใครได้หมอนี้เป็นครู ซวยแน่ๆเพราะต้องยัดเยียดเรื่องไม่ดีใส่หัวแน่นอน" อาหลงพูดลอยๆขึ้นมา
      คำพูดของอาหลงทำเอาอาเจี๋ยใจคอไม่ดีเลยเพราะร้อยเอกหลี่ชิงโปนั้น อยู่กับอาชินเพื่อนของเขาที่สำคัญเขาได้ยินคำว่า "ข้อเสนอ" มันเป็นการบ่งบอกว่าทหารยศนายร้อยคนนี้กำลังเล็งอาชิน ไม่รู้เพื่อเอาไปเป็นศิษย์หรือมีจุดประสงค์อะไรรึเปล่า แต่มันไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ อาเจี๋ยได้แต่หวังว่าอาชินจะไม่คล้อยตามข้อเสนอนั้น
      
                                  
                                                               +++++++++++++++++++++++++++               

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา