นักรบพันธุ์โหด ตอน หวงจือชิน Secson 1
8.0
เขียนโดย กนกพัชร
วันที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 เวลา 09.12 น.
53 ตอน
0 วิจารณ์
43.30K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2562 00.28 น. โดย เจ้าของนิยาย
37) ตอนที่ 37 หลี่ชิงโป
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความห้องใต้ดิน เวลา 08.00 น.
วันนี้โชคดีหน่อยสำหรับอาชินที่เขามาถึงห้องฝึกใต้ดิน ทันเวลาหลังจากที่รอบที่แล้วมาสายเพราะตื่นสาย และดูเหมือนว่าอาชินจะได้จับกลุ่มใหม่เพราะเขาไม่เห็นอาเจี๋ยกับอาหมิงเลย นอกจากอาหลงที่ยืนข้างๆกำลังวอร์มร่างกายอยู่ กลุ่มของอาชินนั้นมีทั้งหมด 26 คนล้วนหน้าไม่คุ้นกันเสียเลยสำหรับเด็กชาย ถึงแม้ว่าโทรจิตของเขาจะทำให้เขานั้นรู้ชื่อของแต่ละคนได้ แต่ใช่ว่าจะไปตีสนิทด้วยได้มันจึงทำให้อาชินนั้นออกจะเกร็งตัวเล็กน้อย และไม่มีความมั่นใจสักเท่าไหร่นัก
สักพักครูฝึกคนหนึ่งเดินเข้ามาทางเข้าแต่อาชินกลับไม่คุ้นหน้า และพลังฟินิกซ์ในตัวของอาชินก็บอกเขาว่า ชายหนุ่มวัยฉกรรจ์คนนี้ไม่ใช่นักรบฟินิกซ์แน่นอน แต่ที่แขนเสื้อของชายคนนี้มีสัญลักษณ์รูปเสือดำ มันคือตราประจำหน่วยรบพิเศษแบล็กแพนเธอร์ ซึ่งขีดความสามารถของทหารหน่วยรบนี้ ก็สูสีกับหน่วยรบหมาป่าเช่นกันอาหลงทำหน้าตื่นเต้นพอตัว ชายคนนี้รูปร่างสูงกำยำพอประมาณ ผิวขาวเหลือง ผมสีดำดวงตาสีดำ ท่าทางไม่เหมือนทหารหรือนักสู้เหมือนคนหยิ่งผยองชะมากกว่า
"สวัสดีเหล่านักรบฟินิกซ์รุ่นเยาว์ทุกคน ฉันชื่อ ร้อยเอกหลี่ชิงโป วันนี้ฉันมาแทน ร้อยตรีโชคชัย ที่ไม่สามารถมาสอนแทนได้" ร้อยเอกหลี่ชิงโปกล่าวแนะนำตนเอง
อาชินรู้สึกได้ว่าร้อยตรีหลี่ชิงโปนั้นมองมาที่เขาอย่างสนใจ ทุกคนต่างพากันตื่นเต้นเพราะได้มีโอกาสฝึกกับทหารหน่วยรบพิเศษ อีกครั้งแถมเป็นหน่วยรบแบล็คแพนเธอร์ เพราะส่วนใหญ่แล้วหน่วยรบหมาป่ากับหน่วยรบอินทรีเวหาจะมาติว มากกว่าอย่างไรก็ตามร้อยตรีหลี่ชิงโปได้ให้พวกเขาไปที่สนามประลอง ที่อาชินคิดว่าเขาน่าจะเตรียมไว้ให้ซึ่งครูฝึกให้พวกเขานั่งลงกับพื้น วงล้อมขอบสนามประลองเอาไว้ ส่วนตัวร้อยเอกหลี่ชิงโปนั้นเอาเก้าอี้มานั่ง
"ถ้าเอ๋ยชื่อใครขอให้มาประลองตรงสนามนี้นะ ทุกคนทราบ !" ร้อยเอกหลี่ชิงโปพูดเสียงดัง
"ทราบ !" ทุกคนขานรับพร้อมกัน
ร้อยเอกหลี่ชิงโปนั้นหยิบสมุดขึ้นมาคงจะมีรายชื่ออยู่ในนั้น ทุกคนนั่งลุ้นตัวเกร็งว่าใครจะเป็นคู่แรกกัน แต่อาชินรู้สึกเฉยๆเพราะมันก็ไม่ต่างจากสมัยที่ยังอยู่ค่าย วันที่เขาได้สู้กับแดเนียล ฟอร์ดเมื่อหลายปีก่อน จะว่าไปก็อยากสู้กับอีกฝ่ายอีกครั้งเหมือนกัน อยากรู้ว่าฝีมือพัฒนาไปมากน้อยแค่ไหน แต่เพราะเสียงของร้อยเอกหลี่ชิงโปทำให้เขานั้นหลุดจาก ความคิดของตนเองชั่วคราวไปก่อน
"โจวเหวินหลงกับ จัสติน การ์เนอร์ มาที่เวทีประลองเดียวนี้ !" ร้อยเอกหลี่ชิงโปพูดเชิงออกคำสั่ง
อาหลงสะดุ้งเล็กน้อยพร้อมกับหันมามองอาชิน ซึ่งเด็กชายทำสัญญาณมือว่าให้สู้เต็มที่เลย อาชินหันไปมองทางเด็กชายที่ชื่อว่าจัสตินซึ่งสูงกว่าอาชินกับอาหลงมาก มากชะจนทั้งสองนึกว่าอีกฝ่ายอายุ 12 ปี เขามีผิวขาวอ่อนและผมสีโค้กน้ำตาล ดวงตาสีน้ำตาลทับทิม จัสตินเดินมารออาหลงที่เวทีเลยซึ่งอาหลงก็ออกอาการกลัวนิดๆ เพราะจัสตินนั้นเป็นนักสู้คาราเต้สายเดียวกับอาหลง และดูท่าว่าจะโหดไม่ใช่น้อยๆ
"โจวเหวินหลงอยู่ไหนทำไมฉันเรียกชื่อแล้ว ทำไมไม่ไสหัวออกมา !" ร้อยเอกหลี่ชิงโปตวาดลั่นทันที
"ไม่ต้องกลัวอาหลงสู้ให้เต็มที่เลย" อาชินพูดให้กำลังใจ
อาหลงทำใจดีสู้เสือเดินขึ้นบนเวทีเพื่อเผชิญหน้ากับจัสติน ไปๆมาๆแล้วอาชินก็หวนคิดถึงอาถิงญาติของเขาไม่ได้เหมือน ในครั้งที่ตอนอาถิงต้องขึ้นสู้กับแคลวิน ก็กล้าๆกลัวๆแบบนี้เหมือนกัน อาหลงหายใจแรงนิดๆส่วนจัสตินนั้นอยู่ในท่าที่สงบ ก่อนที่ทั้งสองก็ตั้งท่าเตรียมต่อสู้ในทันที
จัสตินลงมือจู่โจมใส่อาหลงก่อนแต่อาหลงปัดป้องเองได้ ก่อนจะตอบโต้กลับด้วยการซัดกำปั้นขวาเข้าที่ หน้าอกของจัสตินเต็มๆแต่ดูเหมือนว่าอีกฝ่าย จะแค่จุกเฉยๆจึงจับตัวของอาหลงเหวี่ยงไปทางอื่น แต่อาหลงก็พลิกม้วนตัวตามแรงของอีกฝ่าย พร้อมกลับมายืนทรงตัวในท่าต่อสู้ตามเดิม จัสตินวิ่งตามมาจะโจมตีใส่อาหลงทันที เพื่อไม่ใช่อีกฝ่ายตั้งตัวได้แต่อาหลงกันท่าเตะสูง ของจัสตินด้วยท่อนแขนซ้าย เนื่องจากจัสตินสูงกว่าอาหลงดังนั้นลูกเตะที่ส่งมา จึงแรงมากทำเอาอาหลงแทบล้ม
แต่อาหลงไม่ยอมแพ้ง่ายๆเขาตอบโต้กลับ ด้วยลูกถีบเข้าที่ลำตัวของจัสตินจนอีกฝ่ายเซไปข้างหลัง และอาหลงก็วิ่งเข้ามาใช้ลูกเตะ 3 จังหวะคือ เตะขา ลำตัว และหัวอย่างละ 3 จังหวะก่อนจะตบท้ายด้วยลูกถีบกลางลำตัว ทุกคนที่ดูอยู่ลุ้นและอึ้งไปตามๆกันในขณะที่ร้อยเอกหลี่ชิงโปยังเฉยๆอยู่
แต่อาหลงไม่ยอมแพ้ง่ายๆเขาตอบโต้กลับ ด้วยลูกถีบเข้าที่ลำตัวของจัสตินจนอีกฝ่ายเซไปข้างหลัง และอาหลงก็วิ่งเข้ามาใช้ลูกเตะ 3 จังหวะคือ เตะขา ลำตัว และหัวอย่างละ 3 จังหวะก่อนจะตบท้ายด้วยลูกถีบกลางลำตัว ทุกคนที่ดูอยู่ลุ้นและอึ้งไปตามๆกันในขณะที่ร้อยเอกหลี่ชิงโปยังเฉยๆอยู่ จัสตินที่เสียท่าจากอาหลงมาเมื่อกี้เขาหลบท่าโจมตี ฟาดข้อเท้าของอาหลงที่ตั้งใจจะเล็งหัวเขา แต่จัสตินเหวี่ยงแข้งซ้ายเข้าที่ขาขวาของอาหลงจนอีกฝ่ายล้ม แล้วจัสตินก็พุุ่งเข้าไปจับคร่อมอีกฝ่ายเพื่อทำสัญญาณว่าเขาชนะ
"แค่นี้เองเหรอ" ร้อยตรีหลี่ชิงโปถามอย่างไม่พอใจ จัสตินทำหน้าไม่เข้าใจร่วมไปถึงคนอื่นๆด้วย
"ผมชนะแล้วนี่" จัสตินตอบ
"เผด็จศึกชะ นี้คือคำสั่ง" ร้อยเอกหลี่ชิงโปออกคำสั่งเสียงดุดัน จัสตินอึ้งที่มีคำสั่งแบบนี้โดยตามปกติแล้ว เวลาประลองกันจะพอแค่นี้แล้ว ดังนั้นเขาจึงลังเลพอสมควรที่จะลงมือกับอาหลง และอาชินก็หันไปมองร้อยเอกหลี่ชิงโป
"คำสั่งฉันยังไม่ชัดเจนอีกรึไง ฉันบอกให้เผด็จศึกเดียวนี้ไง !"
จัสตินไม่มีทางเลือกเขาฟาดหลังอาหลงด้วยสันมือ อาหลงรู้สึกเจ็บกลางหลังแถมยังรับแรงของอีกฝ่าย เอาชะเขาจูบกับพื้นเลยทีเดียวอาชินมองหน้าครูฝึกอย่างไม่พอใจอย่างมาก ร้อยเอกหลี่ชิงโปลุกจากเก้าอี้เดินมาทางที่จัสตินยืนอยู่ ครูฝึกมองหน้าจัสตินก่อนที่จะลงมือตบหน้าของเด็กชายเต็มแรง สร้างความตกใจให้กับทุกคนอย่างมาก แม้ร้อยเอกหลี่ชิงโปจะตบหน้าแรงแต่ก็ไม่ได้ทำให้ จัสตินบาดเจ็บอะไรมากนอกจากแก้มขาวๆ มีรอยแดงเข้มๆเท่านั้นจากนั้นร้อยเอกหลี่ชิงโปก็ให้จัสตินกลับกลุ่ม แต่อาหลงยังไม่สามารถลุกขึ้นได้เพรายังเจ็บหลังอยู่
"เจ็บใช่ไหม" ร้อยเอกหลี่ชิงโปไม่พูดเปล่าคว้าตัวของอาหลงให้ลุกขึ้นยืน พร้อมกับชกเข้าที่ท้องของอาหลงจนอีกฝ่ายตัวง้อ ทุกคนตกใจกับภาพที่เกิดขึ้นโดยเฉพาะกับอาชิน ไฟแห่งความโกรธกำลังประทุขึ้นเด็กชายกำหมัดแน่น ในใจคิดถ้ายังไม่หยุดทำร้ายเพื่อนเขาละก็มีเรื่องแน่
"นี้ต่างหากที่เรียกว่าเจ็บ... จำไว้ว่าแม้ข้าศึกจะล้มลงไปก็อย่าได้เมตตาปราณี พวกมันต้องเจ็บปวดทรมาณที่สุด คติของฉันคือ ไม่ใจอ่อนปราณีเด็ดขาด เข้าใจที่พูดใช่ไหม"
อาหลงพยายามที่จะหลุดจากพันธนาการของร้อยเอกหลี่ชิงโป แต่ยังทำไม่ได้เพราะจุกสองชั้นโดนทั้งหลังและท้อง ร้อยเอกหลี่ชิงโปเห็นอาหลงกำลังดิ้นจึงคิดจะซัดอีกกำปั้น แต่ยังไม่ทันจะออกหมัดกลับมีคนจับข้อมือของเขาไว้ ซึ่งไม่ใช่ใครที่ไหน....อาชินนั้นเองที่ตอนนี้เขาใช้พลังเนตรแดงเต็มที่ และแววตาบ่งบอกถึงความโกรธสุดขีดเขาไม่จบแค่จับข้อมือ เด็กชายซัดกำปั้นเข้าที่กลางลำตัวของร้อยเอกหลี่ชิงโปจนเซเล็กน้อย แต่เขาไม่หยุดยังตามไปซ้ำด้วยกระหน่ำซัดกำปั้นซ้าย-ขวา ก่อนจะจบด้วยการซัดหมัดเข้าที่หน้ากรามของอีกฝ่ายจนล้มลงไปเลย
"อาชินพอได้แล้วนายจะฆ่าครูเขาเหรอ พอได้แล้ว" อาหลงที่พื้นตัวได้รวดเร็วรีบพุ่งตัวมาล็อคตัวเพื่อนไว้ โดยมีอีก 2-3 คนมาช่วย
ร้อยเอกหลี่ชิงโปพยุงตัวอย่างยากลำบากเขารู้สึกว่า ซี่โครงจะสาหัสพอสมควรร่วมไปถึงหน้ากรามของเขาด้วย ทหารหนุ่มฉกรรจ์มองหน้าอาชินอย่างพินิจพิจารณา เขาเช็ดเลือดที่ปากของตนเองก่อนจะยิ้มที่มุมปากเล็กๆ ซึ่งไม่ค่อยมีใครเห็นถ้าไม่สังเกตดีๆแต่กลับมีคนหนึ่งที่มองเห็นรอยยิ้มพอดี ร้อยเอกหลี่ชิงโปคว้าโทรศัพท์มือถือขึ้นมา เพื่อกดเบอร์โทรเหมือนกำลังจะติดต่อใครสักคนยังไงยังนั้น
"วันนี้คลีนิคเปิดไหม....เออ เดียวฉันแวะเข้าไป" พูดจบก็วางสายไปทันที
"พอแค่นี้ก่อนละกัน พวกนายทำฉันประทับใจมาก" ร้อยเอกหลี่ชิงโปกล่าว ก่อนที่จะเดินฝ่าวงล้อมพวกอาชินเดินตรงไปยังห้องทางเข้า-ออกของห้องใต้ดิน เมื่อร้อยเอกหลี่ชิงโปจากไปแล้วดวงตาสีแดงของอาชินกลับมา เป็นปกติอีกครั้งหนึ่ง
"นายสองคนไม่เป็นไรนะ" อาชินถามอาหลงกับจัสติน ซึ่งทั้งสองส่ายหน้า
"ฉันสองคนสบายมากแต่นายนะสิ ไปทำร้ายเขาแบบนั้นจะโดนอะไรบ้างรึเปล่าเนี่ย นายกล้ามากนะที่ทำแบบนั้นนะจือชิน" จัสตินนับถือจากใจจริงๆ
"ฉันขอเตือนนายนะจือชิน นายระวังหลี่ชิงโปให้ดีนะรู้สึกเหมือนเขาเล็งนายไว้ตั้งแต่แรกเห็นแล้ว" เสียงของเด็กหญิงที่มีลักษณะออกทอมบอยพูดขึ้น เขาไว้ผมเกรียนเหมือนกับอาชินผิวสีขาวเหลือง ดวงตาสีดำรูปร่างเล็กกว่ามาก แน่นอนว่าคำเตือนของเพื่อนตัวเล็กคนนี้ก็ทำให้อาชินก็เริ่มใจคอไม่ดีเหมือนกัน เพราะเขารับรู้ถึงเจตนาไม่ดีของอีกฝ่ายชัดเจนมาก
"ยังไงฉันว่าพาจัสตินกับอาหลงไปข้างบนดีกว่านะ" เพื่อนคนหนึ่งเสริมขึ้น อาชินและเพื่อนๆจึงต่างพาอาหลงกับจัสตินออกจากห้องใต้ดินนั้นกันหมด
++++++++++++++++
วันนี้โชคดีหน่อยสำหรับอาชินที่เขามาถึงห้องฝึกใต้ดิน ทันเวลาหลังจากที่รอบที่แล้วมาสายเพราะตื่นสาย และดูเหมือนว่าอาชินจะได้จับกลุ่มใหม่เพราะเขาไม่เห็นอาเจี๋ยกับอาหมิงเลย นอกจากอาหลงที่ยืนข้างๆกำลังวอร์มร่างกายอยู่ กลุ่มของอาชินนั้นมีทั้งหมด 26 คนล้วนหน้าไม่คุ้นกันเสียเลยสำหรับเด็กชาย ถึงแม้ว่าโทรจิตของเขาจะทำให้เขานั้นรู้ชื่อของแต่ละคนได้ แต่ใช่ว่าจะไปตีสนิทด้วยได้มันจึงทำให้อาชินนั้นออกจะเกร็งตัวเล็กน้อย และไม่มีความมั่นใจสักเท่าไหร่นัก
สักพักครูฝึกคนหนึ่งเดินเข้ามาทางเข้าแต่อาชินกลับไม่คุ้นหน้า และพลังฟินิกซ์ในตัวของอาชินก็บอกเขาว่า ชายหนุ่มวัยฉกรรจ์คนนี้ไม่ใช่นักรบฟินิกซ์แน่นอน แต่ที่แขนเสื้อของชายคนนี้มีสัญลักษณ์รูปเสือดำ มันคือตราประจำหน่วยรบพิเศษแบล็กแพนเธอร์ ซึ่งขีดความสามารถของทหารหน่วยรบนี้ ก็สูสีกับหน่วยรบหมาป่าเช่นกันอาหลงทำหน้าตื่นเต้นพอตัว ชายคนนี้รูปร่างสูงกำยำพอประมาณ ผิวขาวเหลือง ผมสีดำดวงตาสีดำ ท่าทางไม่เหมือนทหารหรือนักสู้เหมือนคนหยิ่งผยองชะมากกว่า
"สวัสดีเหล่านักรบฟินิกซ์รุ่นเยาว์ทุกคน ฉันชื่อ ร้อยเอกหลี่ชิงโป วันนี้ฉันมาแทน ร้อยตรีโชคชัย ที่ไม่สามารถมาสอนแทนได้" ร้อยเอกหลี่ชิงโปกล่าวแนะนำตนเอง
อาชินรู้สึกได้ว่าร้อยตรีหลี่ชิงโปนั้นมองมาที่เขาอย่างสนใจ ทุกคนต่างพากันตื่นเต้นเพราะได้มีโอกาสฝึกกับทหารหน่วยรบพิเศษ อีกครั้งแถมเป็นหน่วยรบแบล็คแพนเธอร์ เพราะส่วนใหญ่แล้วหน่วยรบหมาป่ากับหน่วยรบอินทรีเวหาจะมาติว มากกว่าอย่างไรก็ตามร้อยตรีหลี่ชิงโปได้ให้พวกเขาไปที่สนามประลอง ที่อาชินคิดว่าเขาน่าจะเตรียมไว้ให้ซึ่งครูฝึกให้พวกเขานั่งลงกับพื้น วงล้อมขอบสนามประลองเอาไว้ ส่วนตัวร้อยเอกหลี่ชิงโปนั้นเอาเก้าอี้มานั่ง
"ถ้าเอ๋ยชื่อใครขอให้มาประลองตรงสนามนี้นะ ทุกคนทราบ !" ร้อยเอกหลี่ชิงโปพูดเสียงดัง
"ทราบ !" ทุกคนขานรับพร้อมกัน
ร้อยเอกหลี่ชิงโปนั้นหยิบสมุดขึ้นมาคงจะมีรายชื่ออยู่ในนั้น ทุกคนนั่งลุ้นตัวเกร็งว่าใครจะเป็นคู่แรกกัน แต่อาชินรู้สึกเฉยๆเพราะมันก็ไม่ต่างจากสมัยที่ยังอยู่ค่าย วันที่เขาได้สู้กับแดเนียล ฟอร์ดเมื่อหลายปีก่อน จะว่าไปก็อยากสู้กับอีกฝ่ายอีกครั้งเหมือนกัน อยากรู้ว่าฝีมือพัฒนาไปมากน้อยแค่ไหน แต่เพราะเสียงของร้อยเอกหลี่ชิงโปทำให้เขานั้นหลุดจาก ความคิดของตนเองชั่วคราวไปก่อน
"โจวเหวินหลงกับ จัสติน การ์เนอร์ มาที่เวทีประลองเดียวนี้ !" ร้อยเอกหลี่ชิงโปพูดเชิงออกคำสั่ง
อาหลงสะดุ้งเล็กน้อยพร้อมกับหันมามองอาชิน ซึ่งเด็กชายทำสัญญาณมือว่าให้สู้เต็มที่เลย อาชินหันไปมองทางเด็กชายที่ชื่อว่าจัสตินซึ่งสูงกว่าอาชินกับอาหลงมาก มากชะจนทั้งสองนึกว่าอีกฝ่ายอายุ 12 ปี เขามีผิวขาวอ่อนและผมสีโค้กน้ำตาล ดวงตาสีน้ำตาลทับทิม จัสตินเดินมารออาหลงที่เวทีเลยซึ่งอาหลงก็ออกอาการกลัวนิดๆ เพราะจัสตินนั้นเป็นนักสู้คาราเต้สายเดียวกับอาหลง และดูท่าว่าจะโหดไม่ใช่น้อยๆ
"โจวเหวินหลงอยู่ไหนทำไมฉันเรียกชื่อแล้ว ทำไมไม่ไสหัวออกมา !" ร้อยเอกหลี่ชิงโปตวาดลั่นทันที
"ไม่ต้องกลัวอาหลงสู้ให้เต็มที่เลย" อาชินพูดให้กำลังใจ
อาหลงทำใจดีสู้เสือเดินขึ้นบนเวทีเพื่อเผชิญหน้ากับจัสติน ไปๆมาๆแล้วอาชินก็หวนคิดถึงอาถิงญาติของเขาไม่ได้เหมือน ในครั้งที่ตอนอาถิงต้องขึ้นสู้กับแคลวิน ก็กล้าๆกลัวๆแบบนี้เหมือนกัน อาหลงหายใจแรงนิดๆส่วนจัสตินนั้นอยู่ในท่าที่สงบ ก่อนที่ทั้งสองก็ตั้งท่าเตรียมต่อสู้ในทันที
จัสตินลงมือจู่โจมใส่อาหลงก่อนแต่อาหลงปัดป้องเองได้ ก่อนจะตอบโต้กลับด้วยการซัดกำปั้นขวาเข้าที่ หน้าอกของจัสตินเต็มๆแต่ดูเหมือนว่าอีกฝ่าย จะแค่จุกเฉยๆจึงจับตัวของอาหลงเหวี่ยงไปทางอื่น แต่อาหลงก็พลิกม้วนตัวตามแรงของอีกฝ่าย พร้อมกลับมายืนทรงตัวในท่าต่อสู้ตามเดิม จัสตินวิ่งตามมาจะโจมตีใส่อาหลงทันที เพื่อไม่ใช่อีกฝ่ายตั้งตัวได้แต่อาหลงกันท่าเตะสูง ของจัสตินด้วยท่อนแขนซ้าย เนื่องจากจัสตินสูงกว่าอาหลงดังนั้นลูกเตะที่ส่งมา จึงแรงมากทำเอาอาหลงแทบล้ม
แต่อาหลงไม่ยอมแพ้ง่ายๆเขาตอบโต้กลับ ด้วยลูกถีบเข้าที่ลำตัวของจัสตินจนอีกฝ่ายเซไปข้างหลัง และอาหลงก็วิ่งเข้ามาใช้ลูกเตะ 3 จังหวะคือ เตะขา ลำตัว และหัวอย่างละ 3 จังหวะก่อนจะตบท้ายด้วยลูกถีบกลางลำตัว ทุกคนที่ดูอยู่ลุ้นและอึ้งไปตามๆกันในขณะที่ร้อยเอกหลี่ชิงโปยังเฉยๆอยู่
แต่อาหลงไม่ยอมแพ้ง่ายๆเขาตอบโต้กลับ ด้วยลูกถีบเข้าที่ลำตัวของจัสตินจนอีกฝ่ายเซไปข้างหลัง และอาหลงก็วิ่งเข้ามาใช้ลูกเตะ 3 จังหวะคือ เตะขา ลำตัว และหัวอย่างละ 3 จังหวะก่อนจะตบท้ายด้วยลูกถีบกลางลำตัว ทุกคนที่ดูอยู่ลุ้นและอึ้งไปตามๆกันในขณะที่ร้อยเอกหลี่ชิงโปยังเฉยๆอยู่ จัสตินที่เสียท่าจากอาหลงมาเมื่อกี้เขาหลบท่าโจมตี ฟาดข้อเท้าของอาหลงที่ตั้งใจจะเล็งหัวเขา แต่จัสตินเหวี่ยงแข้งซ้ายเข้าที่ขาขวาของอาหลงจนอีกฝ่ายล้ม แล้วจัสตินก็พุุ่งเข้าไปจับคร่อมอีกฝ่ายเพื่อทำสัญญาณว่าเขาชนะ
"แค่นี้เองเหรอ" ร้อยตรีหลี่ชิงโปถามอย่างไม่พอใจ จัสตินทำหน้าไม่เข้าใจร่วมไปถึงคนอื่นๆด้วย
"ผมชนะแล้วนี่" จัสตินตอบ
"เผด็จศึกชะ นี้คือคำสั่ง" ร้อยเอกหลี่ชิงโปออกคำสั่งเสียงดุดัน จัสตินอึ้งที่มีคำสั่งแบบนี้โดยตามปกติแล้ว เวลาประลองกันจะพอแค่นี้แล้ว ดังนั้นเขาจึงลังเลพอสมควรที่จะลงมือกับอาหลง และอาชินก็หันไปมองร้อยเอกหลี่ชิงโป
"คำสั่งฉันยังไม่ชัดเจนอีกรึไง ฉันบอกให้เผด็จศึกเดียวนี้ไง !"
จัสตินไม่มีทางเลือกเขาฟาดหลังอาหลงด้วยสันมือ อาหลงรู้สึกเจ็บกลางหลังแถมยังรับแรงของอีกฝ่าย เอาชะเขาจูบกับพื้นเลยทีเดียวอาชินมองหน้าครูฝึกอย่างไม่พอใจอย่างมาก ร้อยเอกหลี่ชิงโปลุกจากเก้าอี้เดินมาทางที่จัสตินยืนอยู่ ครูฝึกมองหน้าจัสตินก่อนที่จะลงมือตบหน้าของเด็กชายเต็มแรง สร้างความตกใจให้กับทุกคนอย่างมาก แม้ร้อยเอกหลี่ชิงโปจะตบหน้าแรงแต่ก็ไม่ได้ทำให้ จัสตินบาดเจ็บอะไรมากนอกจากแก้มขาวๆ มีรอยแดงเข้มๆเท่านั้นจากนั้นร้อยเอกหลี่ชิงโปก็ให้จัสตินกลับกลุ่ม แต่อาหลงยังไม่สามารถลุกขึ้นได้เพรายังเจ็บหลังอยู่
"เจ็บใช่ไหม" ร้อยเอกหลี่ชิงโปไม่พูดเปล่าคว้าตัวของอาหลงให้ลุกขึ้นยืน พร้อมกับชกเข้าที่ท้องของอาหลงจนอีกฝ่ายตัวง้อ ทุกคนตกใจกับภาพที่เกิดขึ้นโดยเฉพาะกับอาชิน ไฟแห่งความโกรธกำลังประทุขึ้นเด็กชายกำหมัดแน่น ในใจคิดถ้ายังไม่หยุดทำร้ายเพื่อนเขาละก็มีเรื่องแน่
"นี้ต่างหากที่เรียกว่าเจ็บ... จำไว้ว่าแม้ข้าศึกจะล้มลงไปก็อย่าได้เมตตาปราณี พวกมันต้องเจ็บปวดทรมาณที่สุด คติของฉันคือ ไม่ใจอ่อนปราณีเด็ดขาด เข้าใจที่พูดใช่ไหม"
อาหลงพยายามที่จะหลุดจากพันธนาการของร้อยเอกหลี่ชิงโป แต่ยังทำไม่ได้เพราะจุกสองชั้นโดนทั้งหลังและท้อง ร้อยเอกหลี่ชิงโปเห็นอาหลงกำลังดิ้นจึงคิดจะซัดอีกกำปั้น แต่ยังไม่ทันจะออกหมัดกลับมีคนจับข้อมือของเขาไว้ ซึ่งไม่ใช่ใครที่ไหน....อาชินนั้นเองที่ตอนนี้เขาใช้พลังเนตรแดงเต็มที่ และแววตาบ่งบอกถึงความโกรธสุดขีดเขาไม่จบแค่จับข้อมือ เด็กชายซัดกำปั้นเข้าที่กลางลำตัวของร้อยเอกหลี่ชิงโปจนเซเล็กน้อย แต่เขาไม่หยุดยังตามไปซ้ำด้วยกระหน่ำซัดกำปั้นซ้าย-ขวา ก่อนจะจบด้วยการซัดหมัดเข้าที่หน้ากรามของอีกฝ่ายจนล้มลงไปเลย
"อาชินพอได้แล้วนายจะฆ่าครูเขาเหรอ พอได้แล้ว" อาหลงที่พื้นตัวได้รวดเร็วรีบพุ่งตัวมาล็อคตัวเพื่อนไว้ โดยมีอีก 2-3 คนมาช่วย
ร้อยเอกหลี่ชิงโปพยุงตัวอย่างยากลำบากเขารู้สึกว่า ซี่โครงจะสาหัสพอสมควรร่วมไปถึงหน้ากรามของเขาด้วย ทหารหนุ่มฉกรรจ์มองหน้าอาชินอย่างพินิจพิจารณา เขาเช็ดเลือดที่ปากของตนเองก่อนจะยิ้มที่มุมปากเล็กๆ ซึ่งไม่ค่อยมีใครเห็นถ้าไม่สังเกตดีๆแต่กลับมีคนหนึ่งที่มองเห็นรอยยิ้มพอดี ร้อยเอกหลี่ชิงโปคว้าโทรศัพท์มือถือขึ้นมา เพื่อกดเบอร์โทรเหมือนกำลังจะติดต่อใครสักคนยังไงยังนั้น
"วันนี้คลีนิคเปิดไหม....เออ เดียวฉันแวะเข้าไป" พูดจบก็วางสายไปทันที
"พอแค่นี้ก่อนละกัน พวกนายทำฉันประทับใจมาก" ร้อยเอกหลี่ชิงโปกล่าว ก่อนที่จะเดินฝ่าวงล้อมพวกอาชินเดินตรงไปยังห้องทางเข้า-ออกของห้องใต้ดิน เมื่อร้อยเอกหลี่ชิงโปจากไปแล้วดวงตาสีแดงของอาชินกลับมา เป็นปกติอีกครั้งหนึ่ง
"นายสองคนไม่เป็นไรนะ" อาชินถามอาหลงกับจัสติน ซึ่งทั้งสองส่ายหน้า
"ฉันสองคนสบายมากแต่นายนะสิ ไปทำร้ายเขาแบบนั้นจะโดนอะไรบ้างรึเปล่าเนี่ย นายกล้ามากนะที่ทำแบบนั้นนะจือชิน" จัสตินนับถือจากใจจริงๆ
"ฉันขอเตือนนายนะจือชิน นายระวังหลี่ชิงโปให้ดีนะรู้สึกเหมือนเขาเล็งนายไว้ตั้งแต่แรกเห็นแล้ว" เสียงของเด็กหญิงที่มีลักษณะออกทอมบอยพูดขึ้น เขาไว้ผมเกรียนเหมือนกับอาชินผิวสีขาวเหลือง ดวงตาสีดำรูปร่างเล็กกว่ามาก แน่นอนว่าคำเตือนของเพื่อนตัวเล็กคนนี้ก็ทำให้อาชินก็เริ่มใจคอไม่ดีเหมือนกัน เพราะเขารับรู้ถึงเจตนาไม่ดีของอีกฝ่ายชัดเจนมาก
"ยังไงฉันว่าพาจัสตินกับอาหลงไปข้างบนดีกว่านะ" เพื่อนคนหนึ่งเสริมขึ้น อาชินและเพื่อนๆจึงต่างพาอาหลงกับจัสตินออกจากห้องใต้ดินนั้นกันหมด
++++++++++++++++
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ