นักรบพันธุ์โหด ตอน หวงจือชิน Secson 1
8.0
เขียนโดย กนกพัชร
วันที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 เวลา 09.12 น.
53 ตอน
0 วิจารณ์
43.31K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2562 00.28 น. โดย เจ้าของนิยาย
33) ตอนที่ 33 ไมคอน
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความบ้านเอกอัครราชทูตอากิระ เวลา 07.50 น.
อาชินนั่งอยู่บนโต๊ะในห้องนอนส่วนตัวของเขาเอง บนโต๊ะนั้นประกอบไปด้วยแว่นขยายและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เหมือนเขาพยายามจะสร้างอะไรบางอย่างขึ้น บนผนังหน้าเขามีใบกระดาษที่ติดด้วยสก็อตเทปใส มันคือใบประกาศสอบเข้าบรรจุเข้าหน่วยข่าวกรองลับของกองทัพ ที่เขาเคยบังเอิญเจอในอดีตแน่นอนว่าแม้ว่ามันจะผ่านมา 3 ปี แล้วอาชินก็ไม่เคยลืมเป้าหมายตนเองนับตั้งแต่ได้ย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านท่านทูตอากิระนั้น มันทำให้เขามีอิสระหลายอย่างที่ไม่เหมือนกับในค่าย เช่นการหาความรู้ที่จะเอามาใส่หัวหรือการค้นคว้าสร้างโปรแกรมแบบง่ายๆขึ้นมาเอง
ที่สำคัญท่านทูตอากิระจะจัดสิ่งอำนวยความสะดวก ให้กับเด็กๆในอุปถัมภ์ตามความเหมาะสมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ของเด็กเหล่านั้นแต่ทีเหลือพวกเขาก็ต้องต่อยอดเอาเอง อาชินไม่แปลกใจที่หลายคนอยากเป็นนักรบฟินิกซ์ เพื่อเป้าหมายแบบนี้แต่ความจริงแล้วมันก็ไม่สบายไปชะทีเดียว เพราะท่านทูตอากิระจะทำตารางวันจันทร์-วันศุกร์เป็นการฝึกภาคสนาม แบบทหารโดยการเชิญทหารจากหน่วยรบพิเศษมาติว และทบทวนวิชาต่อสู้ที่พวกเขาเลือกฝึกมาตั้งแต่ยังอยู่ค่าย ส่วนเช้าวันเสาร์นั้นจะเป็นการฝึกใช้พลังฟินิกซ์ นอกนั้นก็ตามอัธยาศัย นั้นคือสิ่งที่หลายคนไม่รู้ว่าพวกเขาโดนฝึกหนักแค่ไหน
สักพักมีเสียงเคาะประตูดังขึ้นก่อนจะเปิดประตูเข้ามา ซึ่งนั้นคือ อาหมิง นั้นเองเขาอยากรู้ว่าเพื่อนทำอะไรอยู่ ตั้งแต่อาชินย้ายมาอยู่ที่นี้อาหมิง อาหลง และอาเจี๋ยก็กลายเป็นเพื่อนที่อาชินสนิทที่สุด แต่เขาก็ยังคิดถึงพวกอาถิงที่ค่ายไม่เปลี่ยนแปลง อาชินแทบไม่ได้ข่าวของอาถิงญาติลูกพี่ลูกน้องเลย ยิ่งข่าวจากทางบ้านก็เงียบเป็นป่าช้าไม่ต่างกัน เด็กชายได้แต่หวังว่าอาถิงจะไม่เป็นไรเพราะอย่างน้อยๆ ก็ยังมีพวกแคลวินอยู่
"นายทำอะไรอยู่" อาหมิงถามด้วยความสงสัย
"ฉันกำลังประกอบเครื่องมือด้านไอทีของฉันนะ จะให้มันเข้ากับโปรแกรมที่ฉันคิดขึ้นได้เมื่อ 3 วันก่อน" อาชินตอบ
อาหมิงได้มีโอกาสสำรวจภายในห้องของเพื่อนตนเอง ในห้องก็ดูเรียบร้อยพอสมควรจะยกเว้นก็ที่โต๊ะของอาชินเท่านั้น โต๊ะของอาชินนั้นจะกว้างกว่าของห้องอาหมิงนิดหน่อย ที่โต๊ะนอกจากอุปกรณ์ที่ไม่รู้อะไรเป็นอะไรบ้างก็จะมี พวกตำราหนังสือเกี่ยวกับสิ่งประดิษฐ์ 3-4 เล่ม และมีหนังสือเกี่ยวกับโปรแกรมคอมพิวเตอร์อีก 2-3 เล่ม มันวางทับซ้อนกันอยู่ แต่ที่อาหมิงสนใจตอนนี้คือสิ่งที่เพื่อนเขากำลังสร้างอยู่ มันมีลักษณะคล้ายแท็ปเล็ต
"นายสร้างแท็ปเล็ตเองได้แล้วเหรอ" อาหมิงถามอย่างแปลกใจ
"ก็ได้สักพักแล้วละ" อาชินตอบ
"เห็นบอกว่าจะเอาไปใช้กับโปรแกรมที่นายพึ่งทำ โปรแกรมเกี่ยวกับอะไรเหรอ" อาหมิงถาม
อาชินเอาแว่นขยายออกไปไว้ที่อื่นแล้วถอดแว่นกรองแสงออก แล้วหยิบเอาไมโครซิมขนาดปานกลางออกมา แล้วก็ทำการเสียบเข้าไปในตัวเครื่องแท็ปเล็ต จากนั้นก็ทำการเปิดเครื่องซึ่งหน้าจอก็ไม่ต่างอะไรกับแท็ปเล็ตทั่วไป แล้วอาชินก็เอานิ้วกดที่ตัวโปรแกรมที่มีชื่อว่า "ไมคอน" อาหมิงเดาว่านี้คงเป็นโปรแกรมที่อาชินคิดขึ้น เมื่อกดเข้าไปแล้วปรากฏเป็นหน้าจอว่างเปล่าไม่มีอะไร ต่อมามันก็มีบางสิ่งโผล่ขึ้นมากลางจอ มันมีรูปลักษณ์คล้ายกับ ประแจขันน็อตล้อยังไงยังงั้น อาหมิงขมวดคิ้วทำหน้าแปลกใจที่เห็นภาพดังกล่าว
"โห่ เพื่อนชื่อโปรแกรมมันโอเคอยู่นะ แต่...นี้มันประแจขันน็อตล้อไม่ใช่เหรอ" อาหมิงพูดขึ้น
อาชินเลือกที่จะยังไม่ตอบเพื่อนแต่เขาเอานิ้วชี้จิ่มบนตัว ประแจขันน็อตล้อที่ว่าแล้วมันก็หมุนตัวอย่างรวดเร็ว แล้วสีฟ้ามากมายขึ้นมาทันที อาหมิงอึ้งๆเล็กน้อยแต่ยังไม่มากเท่าไหร่นัก แต่ดูจากเส้นบางๆนั้นมันเหมือนกับเป็นสัญญาณ ของเครือข่ายต่างๆมากกว่า แล้วเหมือนไอ้ประแจขันน็อตล้อรถมันเป็นตัวกลาง อาชินเอามือเตะริมฝีปากตัวเองกำลังครุ่นคิดบางอย่าง ก่อนจะบังคับให้เจ้าประแจขันน็อตล้อรถเพื่อทำการจะจูนสัญญาณของการเชื่อม เครือข่ายที่เป็นรูปสี่เหลี่ยมรูปว่าว
"นายจะทำอะไรนะ" อาหมิงถาม
"ดูไปละกัน" อาชินพูด
พูดจบเขาก็พยายามที่จะใช้ตัวกลางนั้นเชื่อมสัญญาณ เมื่อเชื่อมต่อไปยังตัวเชื่อมอีกตัวซึ่งลักษณะก็เหมือน ประแจล้อรถแต่มันมีแค่สองด้านเมื่อเชื่อมได้มันก็ตรงเข้ามาเชื่อมต่อกับตัวเครือข่าย ที่เป็นสี่เหลี่ยมรูปว่าวก่อนจะเปลี่ยนรูปมาเป็นประแจล้อรถสองด้าน อีกอันอาชินบังคับให้มันหมุนสายเชื่อมไปทางซ้ายมือ เพื่อต่อไปยังเครือข่ายที่มีรูปกุญแจ แล้วเขาก็กดให้ประแจนั้นปล่อยสัญญาณบางอย่างจนมันปลดล็อค แล้วกลายเป็นเสมือนว่าเป็นภาพจากกล้องวงจรปิด ทีี่ติดทั่วบ้านของท่านทูตอากิระ
"เป็นไงเจ๋งป้าว" อาชินหันมาถาม อาหมิงตาค้างทันที
"เฮ้ย สุดยอดว่ะ...แต่แม่เขาจะไม่ว่านายเหรอ ที่เที่ยวไปแฮกไปทั่วบ้านนะ" อาหมิงพูดอย่างกังวล
"ไม่หรอกถ้านายกับฉันไม่พูด แม่จะรู้ได้ไงถูกไหมแล้วฉันอยากรู้มากกว่านี้" อาชินพูด
"นายจะทำอะไร" อาหมิงถาม
อาชินที่สามารถส่องภาพจากกล้องวงจรปิดแล้ว เขายังสามารถบังคับกล้องได้อีกด้วยซึ่งสำหรับอาหมิงแล้ว มันเป็นความสามารถและความชอบผสมกัน แต่อาหมิงก็ไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่ที่อาชินกำลังจะทำต่อจากนี้ เนื่องจากระบบรักษาความปลอดภัยในบ้านนี้ก็แน่นหนาพอสมควร แล้วถ้าท่านทูตอากิระมารู้เข้าละก็มีหวังโดนลงโทษให้นั่งคุกเข่าแน่ๆ ส่วนอาชินนั้นไม่สนใจอาหมิงนอกจากเขาพยายามควบคุมกล้องแล้วเชื่อมต่อกล้องตัวต่อไป
จนมาถึงกล้องตัวที่อยู่หน้าห้องทำงานของท่านทูตอากิระ ซึ่งอาหมิงชักเริ่มใจคอไม่ดีแล้วว่าเพื่อนของเขาจะทำอะไรต่อ แล้วก็เป็นอย่างที่คิดเพราะอาชินย้ายมาอยู่ที่กล้องที่ติดในห้องทำงาน ซึ่งมันตั้งอยู่มุมหลังห้องซึ่งจะเห็นโต๊ะทำงานพอดี อาชินเห็นสัญลักษณ์เล็กๆที่โต๊ะทำงาน โดยมันก็เหมือนโต๊ะทำงานทั่วไปแต่ที่น่าสนใจคือ มันเหมือนพื้นโต๊ะเป็นสีดำสนิทชะจนเหมือนจอคอม
"อย่าทำเชียวนะเพื่อน" อาหมิงร้องห้าม
แต่ไม่ทันเสียแล้วเพราะอาชินได้กดปุ่มนั้นเข้าไปเรียบร้อย เขาพบว่าการจะเจาะสัญญาณเพื่อเชื่อมต่อนั้น ยากลำบากพอสำควรเพราะมันมีมากกว่า 4 ชั้น ที่สำคัญตรงตัวเจาะสัญญาณนั้นอยู่ในกรอบสีแดง ตั้งสองอันแถมยังอยู่อันตรงๆเสียด้วยซ้ำอาชินรู้ดีว่านั้นกรอบสีแดงนั้น คือระบบรักษาความปลอดภัยในข้อมูลซึ่งหากเขาเจาะสัญญาณไม่ทัน เจ้าตัวแอนตี้นั้นจะทำการตอบโต้งการเจาะของเขาและอาจเปิดสัญญาณให้รับรู้ว่าโดนคุกคาม
"นายเป็นอะไรนะ" อาหมิงถาม
"ดูเหมือนว่าระบบรักษาข้อมูลของแม่จะหนาอยู่ เพราะงั้นต้องใช้ตัวช่วยแล้ว" อาชินพูด และลุกจากโต๊ะไปหยิบตัวคล้ายๆกล่องที่สามารถหมุนได้ออกมา พร้อมกับเอาสายมาเชื่อมต่อกับแท็บเล็ต
จากอาชินทำการหมุนกล่องตัวนั้นตัวเจาะสัญญาณ ก็ขยับเพื่อเชื่อมสัญญาณเข้าไปที่กรอบสีแดงเมื่อเจาะเข้าไปแล้ว ปรากฎตัวเลขคล้ายจับเวลาออกมาซึ่งอาชินไม่สนใจมัน ทำการควบคุมให้มันเจาะสัญญาณไปให้ได้ เขาเจาะมาได้ 4 ชั้นแล้วแต่ยังจับเวลาอยู่ซึ่งมันเหลืออีก 6 ชั้น เด็กชายก็รีบควบคุมมันเพื่อเจาะสัญญาณดั่งกล่าว เขาพบว่ายิ่งเขาเจาะผ่านกรอบสีแดงมากเท่าไหร่ เวลาจะลดลงอย่างรวดเร็ว
อาชินควบคุมตัวเจาะสัญญาณได้อย่างคล่องแคล่ว เขารีบเจาะสัญญาณทุกชั้นจนมาถึงอันสุดท้ายได้สำเร็จ อาหมิงยืนลุ้นตั้งนานก็พึ่งรู้ตัวว่าเหงื่อซึมที่ต้นคอเยอะพอสมควร ไฟล์ข้อมูลต่างๆปรากฎขึ้นมากมายจนแทบจะล้นจอแท็ปเล็ต อาชินดึงสายที่ต่อกับกล่องนั้นแล้วเอาแท็ปเล็ตไปต่อกับคอมพิวเตอร์ ที่อยู่หน้าโต๊ะแทนปรากฎไฟล์มากมายจนเลือกไม่ถูก อาชินใช้มือในการเลื่อนไฟล์ข้อมูลซึ่งอาหมิงในใจคิดว่ามันจะล้ำไปไหน
"นั้นอะไรนะ" อาหมิงถามขึ้น
"น่าจะเป็นไฟล์ข้อมูลทั้งหมดที่แม่เขาเชฟเก็บไว้นะสิ" อาชินตอบ
เขาก็เลื่อนดูไฟล์ต่างๆเหมือนกับกำลังชมผลงานของตัวเอง แต่เขาก็มาสะดุดไฟล์อันหนึ่งที่เป็นรูปอาวุธต่างๆแน่นอนว่าอาหมิงก็เริ่มสนใจเช่นกัน เขาเริ่มกดเข้าไปดูในไฟล์นั้นก็ยังมีไฟล์ขนาดย่อยอยู่ ซึ่งมันก็มีไฟล์ย่อยเยอะจนแทบลายตาพอสมควร แต่สุดท้ายทั้งคู่ก็มาเจอกับไฟล์ที่เขียนว่า "อาวุธรหัส 61" อาชินกับอาหมิงจึงหันมามองหน้ากัน
"นายคิดเหมือนฉันไหม" อาชินถาม
"มันปีเกิดพวกเราป้าวว่ะ ลองคลิกเข้าไปดูเถอะ"
ยังไม่ทันที่จะคลิกเข้าไปในไฟล์นั้นอยู่ดีๆหน้าจอคอมพิวเตอร์ของเขาดันช็อค แล้วหน้าจอก็ดับลงทันทีสร้างความตกใจให้แก่อาชินอย่างมาก เขาพยายามทุบคอมพิวเตอร์แล้วก็เปิดตัวเครื่องแกน ปรากฎว่ามันรัดวงจรไหม้ไปหมดทำให้อาชินสงสัยมากเพราะมัน พึ่งซื้อมาได้ 2 วันเองระหว่างที่ทั้งสองยืนงงกันอยู่นั้น เสียงประตูดังขึ้นทำเอาทั้งคู่ตกใจหนักกว่าเดิม แต่คนที่เปิดออกมาคือ อาหลง นั้นเอง
"เฮ้ ! มากินข้าวได้แล้ว" อาหลงพูดจบก็ปิดประตูทันที
อาชินกับอาหมิงตัดสินใจออกมาจากห้องเพื่อเดินไปยังห้องกินข้าว โดยห้องนอนของอาชินจะอยู่ชั้นสามบนสุดของบ้าน ในใจได้แต่นึกสงสัยว่าทำไมอยู่ดีๆทำไมคอมพิวเตอร์ถึงได้หน้าจอดับ แล้วอาวุธรหัส 61 มันจะเป็นอาวุธที่ท่านทูตอากิระ จะมอบให้พวกเขารึเปล่าเพราะเคยได้ยินว่ามา อาวุธของนักรบฟินิกซ์จะเป็นอาวุธที่ท่านทูตมอบให้ และมีคุณสมบัติไม่เหมือนใครด้วยแค่คิดก็ทำให้ทั้งสองตื่นเต้นไม่หยุด
"อะไรกันเนี่ยถึงเวลากินข้าวแล้ว ทำไมยังไม่รีบไปกินอีกชักช้าจัง" เสียงทักดังขึ้นจากด้านข้างหลัง ทั้งสองหันไปมองก็คือท่านทูตอากิระนั้นเอง วันนี้ท่านทูตอยู่ในชุดธรรมดาใส่เสื้อยืดสวมกางเกงกุมหัวเข่า
"กำลังไปครับแม่" อาหมิงตอบ
"เร็วๆละ วันนี้บิชอปทำอาหารหลายอย่างด้วย.... ออ อีกเรื่องนะอาชินฉันขอชมนะเรื่องที่นายสามารถสร้างโปรแกรมที่ชื่อ ไมคอน ขึ้นมาได้การทำงานของมันฉันประทับใจมากนะ พัฒนามันต่อไปละ" แม่อากิระพูดอย่างร่าเริงก่อนจะเดินจากไป ทิ้งให้เด็กชายสองคนหน้าหว๋อกันว่าทำไมท่านทูตอากิระถึงได้รู้
+++++++++++++++++++++++
อาชินนั่งอยู่บนโต๊ะในห้องนอนส่วนตัวของเขาเอง บนโต๊ะนั้นประกอบไปด้วยแว่นขยายและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เหมือนเขาพยายามจะสร้างอะไรบางอย่างขึ้น บนผนังหน้าเขามีใบกระดาษที่ติดด้วยสก็อตเทปใส มันคือใบประกาศสอบเข้าบรรจุเข้าหน่วยข่าวกรองลับของกองทัพ ที่เขาเคยบังเอิญเจอในอดีตแน่นอนว่าแม้ว่ามันจะผ่านมา 3 ปี แล้วอาชินก็ไม่เคยลืมเป้าหมายตนเองนับตั้งแต่ได้ย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านท่านทูตอากิระนั้น มันทำให้เขามีอิสระหลายอย่างที่ไม่เหมือนกับในค่าย เช่นการหาความรู้ที่จะเอามาใส่หัวหรือการค้นคว้าสร้างโปรแกรมแบบง่ายๆขึ้นมาเอง
ที่สำคัญท่านทูตอากิระจะจัดสิ่งอำนวยความสะดวก ให้กับเด็กๆในอุปถัมภ์ตามความเหมาะสมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ของเด็กเหล่านั้นแต่ทีเหลือพวกเขาก็ต้องต่อยอดเอาเอง อาชินไม่แปลกใจที่หลายคนอยากเป็นนักรบฟินิกซ์ เพื่อเป้าหมายแบบนี้แต่ความจริงแล้วมันก็ไม่สบายไปชะทีเดียว เพราะท่านทูตอากิระจะทำตารางวันจันทร์-วันศุกร์เป็นการฝึกภาคสนาม แบบทหารโดยการเชิญทหารจากหน่วยรบพิเศษมาติว และทบทวนวิชาต่อสู้ที่พวกเขาเลือกฝึกมาตั้งแต่ยังอยู่ค่าย ส่วนเช้าวันเสาร์นั้นจะเป็นการฝึกใช้พลังฟินิกซ์ นอกนั้นก็ตามอัธยาศัย นั้นคือสิ่งที่หลายคนไม่รู้ว่าพวกเขาโดนฝึกหนักแค่ไหน
สักพักมีเสียงเคาะประตูดังขึ้นก่อนจะเปิดประตูเข้ามา ซึ่งนั้นคือ อาหมิง นั้นเองเขาอยากรู้ว่าเพื่อนทำอะไรอยู่ ตั้งแต่อาชินย้ายมาอยู่ที่นี้อาหมิง อาหลง และอาเจี๋ยก็กลายเป็นเพื่อนที่อาชินสนิทที่สุด แต่เขาก็ยังคิดถึงพวกอาถิงที่ค่ายไม่เปลี่ยนแปลง อาชินแทบไม่ได้ข่าวของอาถิงญาติลูกพี่ลูกน้องเลย ยิ่งข่าวจากทางบ้านก็เงียบเป็นป่าช้าไม่ต่างกัน เด็กชายได้แต่หวังว่าอาถิงจะไม่เป็นไรเพราะอย่างน้อยๆ ก็ยังมีพวกแคลวินอยู่
"นายทำอะไรอยู่" อาหมิงถามด้วยความสงสัย
"ฉันกำลังประกอบเครื่องมือด้านไอทีของฉันนะ จะให้มันเข้ากับโปรแกรมที่ฉันคิดขึ้นได้เมื่อ 3 วันก่อน" อาชินตอบ
อาหมิงได้มีโอกาสสำรวจภายในห้องของเพื่อนตนเอง ในห้องก็ดูเรียบร้อยพอสมควรจะยกเว้นก็ที่โต๊ะของอาชินเท่านั้น โต๊ะของอาชินนั้นจะกว้างกว่าของห้องอาหมิงนิดหน่อย ที่โต๊ะนอกจากอุปกรณ์ที่ไม่รู้อะไรเป็นอะไรบ้างก็จะมี พวกตำราหนังสือเกี่ยวกับสิ่งประดิษฐ์ 3-4 เล่ม และมีหนังสือเกี่ยวกับโปรแกรมคอมพิวเตอร์อีก 2-3 เล่ม มันวางทับซ้อนกันอยู่ แต่ที่อาหมิงสนใจตอนนี้คือสิ่งที่เพื่อนเขากำลังสร้างอยู่ มันมีลักษณะคล้ายแท็ปเล็ต
"นายสร้างแท็ปเล็ตเองได้แล้วเหรอ" อาหมิงถามอย่างแปลกใจ
"ก็ได้สักพักแล้วละ" อาชินตอบ
"เห็นบอกว่าจะเอาไปใช้กับโปรแกรมที่นายพึ่งทำ โปรแกรมเกี่ยวกับอะไรเหรอ" อาหมิงถาม
อาชินเอาแว่นขยายออกไปไว้ที่อื่นแล้วถอดแว่นกรองแสงออก แล้วหยิบเอาไมโครซิมขนาดปานกลางออกมา แล้วก็ทำการเสียบเข้าไปในตัวเครื่องแท็ปเล็ต จากนั้นก็ทำการเปิดเครื่องซึ่งหน้าจอก็ไม่ต่างอะไรกับแท็ปเล็ตทั่วไป แล้วอาชินก็เอานิ้วกดที่ตัวโปรแกรมที่มีชื่อว่า "ไมคอน" อาหมิงเดาว่านี้คงเป็นโปรแกรมที่อาชินคิดขึ้น เมื่อกดเข้าไปแล้วปรากฏเป็นหน้าจอว่างเปล่าไม่มีอะไร ต่อมามันก็มีบางสิ่งโผล่ขึ้นมากลางจอ มันมีรูปลักษณ์คล้ายกับ ประแจขันน็อตล้อยังไงยังงั้น อาหมิงขมวดคิ้วทำหน้าแปลกใจที่เห็นภาพดังกล่าว
"โห่ เพื่อนชื่อโปรแกรมมันโอเคอยู่นะ แต่...นี้มันประแจขันน็อตล้อไม่ใช่เหรอ" อาหมิงพูดขึ้น
อาชินเลือกที่จะยังไม่ตอบเพื่อนแต่เขาเอานิ้วชี้จิ่มบนตัว ประแจขันน็อตล้อที่ว่าแล้วมันก็หมุนตัวอย่างรวดเร็ว แล้วสีฟ้ามากมายขึ้นมาทันที อาหมิงอึ้งๆเล็กน้อยแต่ยังไม่มากเท่าไหร่นัก แต่ดูจากเส้นบางๆนั้นมันเหมือนกับเป็นสัญญาณ ของเครือข่ายต่างๆมากกว่า แล้วเหมือนไอ้ประแจขันน็อตล้อรถมันเป็นตัวกลาง อาชินเอามือเตะริมฝีปากตัวเองกำลังครุ่นคิดบางอย่าง ก่อนจะบังคับให้เจ้าประแจขันน็อตล้อรถเพื่อทำการจะจูนสัญญาณของการเชื่อม เครือข่ายที่เป็นรูปสี่เหลี่ยมรูปว่าว
"นายจะทำอะไรนะ" อาหมิงถาม
"ดูไปละกัน" อาชินพูด
พูดจบเขาก็พยายามที่จะใช้ตัวกลางนั้นเชื่อมสัญญาณ เมื่อเชื่อมต่อไปยังตัวเชื่อมอีกตัวซึ่งลักษณะก็เหมือน ประแจล้อรถแต่มันมีแค่สองด้านเมื่อเชื่อมได้มันก็ตรงเข้ามาเชื่อมต่อกับตัวเครือข่าย ที่เป็นสี่เหลี่ยมรูปว่าวก่อนจะเปลี่ยนรูปมาเป็นประแจล้อรถสองด้าน อีกอันอาชินบังคับให้มันหมุนสายเชื่อมไปทางซ้ายมือ เพื่อต่อไปยังเครือข่ายที่มีรูปกุญแจ แล้วเขาก็กดให้ประแจนั้นปล่อยสัญญาณบางอย่างจนมันปลดล็อค แล้วกลายเป็นเสมือนว่าเป็นภาพจากกล้องวงจรปิด ทีี่ติดทั่วบ้านของท่านทูตอากิระ
"เป็นไงเจ๋งป้าว" อาชินหันมาถาม อาหมิงตาค้างทันที
"เฮ้ย สุดยอดว่ะ...แต่แม่เขาจะไม่ว่านายเหรอ ที่เที่ยวไปแฮกไปทั่วบ้านนะ" อาหมิงพูดอย่างกังวล
"ไม่หรอกถ้านายกับฉันไม่พูด แม่จะรู้ได้ไงถูกไหมแล้วฉันอยากรู้มากกว่านี้" อาชินพูด
"นายจะทำอะไร" อาหมิงถาม
อาชินที่สามารถส่องภาพจากกล้องวงจรปิดแล้ว เขายังสามารถบังคับกล้องได้อีกด้วยซึ่งสำหรับอาหมิงแล้ว มันเป็นความสามารถและความชอบผสมกัน แต่อาหมิงก็ไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่ที่อาชินกำลังจะทำต่อจากนี้ เนื่องจากระบบรักษาความปลอดภัยในบ้านนี้ก็แน่นหนาพอสมควร แล้วถ้าท่านทูตอากิระมารู้เข้าละก็มีหวังโดนลงโทษให้นั่งคุกเข่าแน่ๆ ส่วนอาชินนั้นไม่สนใจอาหมิงนอกจากเขาพยายามควบคุมกล้องแล้วเชื่อมต่อกล้องตัวต่อไป
จนมาถึงกล้องตัวที่อยู่หน้าห้องทำงานของท่านทูตอากิระ ซึ่งอาหมิงชักเริ่มใจคอไม่ดีแล้วว่าเพื่อนของเขาจะทำอะไรต่อ แล้วก็เป็นอย่างที่คิดเพราะอาชินย้ายมาอยู่ที่กล้องที่ติดในห้องทำงาน ซึ่งมันตั้งอยู่มุมหลังห้องซึ่งจะเห็นโต๊ะทำงานพอดี อาชินเห็นสัญลักษณ์เล็กๆที่โต๊ะทำงาน โดยมันก็เหมือนโต๊ะทำงานทั่วไปแต่ที่น่าสนใจคือ มันเหมือนพื้นโต๊ะเป็นสีดำสนิทชะจนเหมือนจอคอม
"อย่าทำเชียวนะเพื่อน" อาหมิงร้องห้าม
แต่ไม่ทันเสียแล้วเพราะอาชินได้กดปุ่มนั้นเข้าไปเรียบร้อย เขาพบว่าการจะเจาะสัญญาณเพื่อเชื่อมต่อนั้น ยากลำบากพอสำควรเพราะมันมีมากกว่า 4 ชั้น ที่สำคัญตรงตัวเจาะสัญญาณนั้นอยู่ในกรอบสีแดง ตั้งสองอันแถมยังอยู่อันตรงๆเสียด้วยซ้ำอาชินรู้ดีว่านั้นกรอบสีแดงนั้น คือระบบรักษาความปลอดภัยในข้อมูลซึ่งหากเขาเจาะสัญญาณไม่ทัน เจ้าตัวแอนตี้นั้นจะทำการตอบโต้งการเจาะของเขาและอาจเปิดสัญญาณให้รับรู้ว่าโดนคุกคาม
"นายเป็นอะไรนะ" อาหมิงถาม
"ดูเหมือนว่าระบบรักษาข้อมูลของแม่จะหนาอยู่ เพราะงั้นต้องใช้ตัวช่วยแล้ว" อาชินพูด และลุกจากโต๊ะไปหยิบตัวคล้ายๆกล่องที่สามารถหมุนได้ออกมา พร้อมกับเอาสายมาเชื่อมต่อกับแท็บเล็ต
จากอาชินทำการหมุนกล่องตัวนั้นตัวเจาะสัญญาณ ก็ขยับเพื่อเชื่อมสัญญาณเข้าไปที่กรอบสีแดงเมื่อเจาะเข้าไปแล้ว ปรากฎตัวเลขคล้ายจับเวลาออกมาซึ่งอาชินไม่สนใจมัน ทำการควบคุมให้มันเจาะสัญญาณไปให้ได้ เขาเจาะมาได้ 4 ชั้นแล้วแต่ยังจับเวลาอยู่ซึ่งมันเหลืออีก 6 ชั้น เด็กชายก็รีบควบคุมมันเพื่อเจาะสัญญาณดั่งกล่าว เขาพบว่ายิ่งเขาเจาะผ่านกรอบสีแดงมากเท่าไหร่ เวลาจะลดลงอย่างรวดเร็ว
อาชินควบคุมตัวเจาะสัญญาณได้อย่างคล่องแคล่ว เขารีบเจาะสัญญาณทุกชั้นจนมาถึงอันสุดท้ายได้สำเร็จ อาหมิงยืนลุ้นตั้งนานก็พึ่งรู้ตัวว่าเหงื่อซึมที่ต้นคอเยอะพอสมควร ไฟล์ข้อมูลต่างๆปรากฎขึ้นมากมายจนแทบจะล้นจอแท็ปเล็ต อาชินดึงสายที่ต่อกับกล่องนั้นแล้วเอาแท็ปเล็ตไปต่อกับคอมพิวเตอร์ ที่อยู่หน้าโต๊ะแทนปรากฎไฟล์มากมายจนเลือกไม่ถูก อาชินใช้มือในการเลื่อนไฟล์ข้อมูลซึ่งอาหมิงในใจคิดว่ามันจะล้ำไปไหน
"นั้นอะไรนะ" อาหมิงถามขึ้น
"น่าจะเป็นไฟล์ข้อมูลทั้งหมดที่แม่เขาเชฟเก็บไว้นะสิ" อาชินตอบ
เขาก็เลื่อนดูไฟล์ต่างๆเหมือนกับกำลังชมผลงานของตัวเอง แต่เขาก็มาสะดุดไฟล์อันหนึ่งที่เป็นรูปอาวุธต่างๆแน่นอนว่าอาหมิงก็เริ่มสนใจเช่นกัน เขาเริ่มกดเข้าไปดูในไฟล์นั้นก็ยังมีไฟล์ขนาดย่อยอยู่ ซึ่งมันก็มีไฟล์ย่อยเยอะจนแทบลายตาพอสมควร แต่สุดท้ายทั้งคู่ก็มาเจอกับไฟล์ที่เขียนว่า "อาวุธรหัส 61" อาชินกับอาหมิงจึงหันมามองหน้ากัน
"นายคิดเหมือนฉันไหม" อาชินถาม
"มันปีเกิดพวกเราป้าวว่ะ ลองคลิกเข้าไปดูเถอะ"
ยังไม่ทันที่จะคลิกเข้าไปในไฟล์นั้นอยู่ดีๆหน้าจอคอมพิวเตอร์ของเขาดันช็อค แล้วหน้าจอก็ดับลงทันทีสร้างความตกใจให้แก่อาชินอย่างมาก เขาพยายามทุบคอมพิวเตอร์แล้วก็เปิดตัวเครื่องแกน ปรากฎว่ามันรัดวงจรไหม้ไปหมดทำให้อาชินสงสัยมากเพราะมัน พึ่งซื้อมาได้ 2 วันเองระหว่างที่ทั้งสองยืนงงกันอยู่นั้น เสียงประตูดังขึ้นทำเอาทั้งคู่ตกใจหนักกว่าเดิม แต่คนที่เปิดออกมาคือ อาหลง นั้นเอง
"เฮ้ ! มากินข้าวได้แล้ว" อาหลงพูดจบก็ปิดประตูทันที
อาชินกับอาหมิงตัดสินใจออกมาจากห้องเพื่อเดินไปยังห้องกินข้าว โดยห้องนอนของอาชินจะอยู่ชั้นสามบนสุดของบ้าน ในใจได้แต่นึกสงสัยว่าทำไมอยู่ดีๆทำไมคอมพิวเตอร์ถึงได้หน้าจอดับ แล้วอาวุธรหัส 61 มันจะเป็นอาวุธที่ท่านทูตอากิระ จะมอบให้พวกเขารึเปล่าเพราะเคยได้ยินว่ามา อาวุธของนักรบฟินิกซ์จะเป็นอาวุธที่ท่านทูตมอบให้ และมีคุณสมบัติไม่เหมือนใครด้วยแค่คิดก็ทำให้ทั้งสองตื่นเต้นไม่หยุด
"อะไรกันเนี่ยถึงเวลากินข้าวแล้ว ทำไมยังไม่รีบไปกินอีกชักช้าจัง" เสียงทักดังขึ้นจากด้านข้างหลัง ทั้งสองหันไปมองก็คือท่านทูตอากิระนั้นเอง วันนี้ท่านทูตอยู่ในชุดธรรมดาใส่เสื้อยืดสวมกางเกงกุมหัวเข่า
"กำลังไปครับแม่" อาหมิงตอบ
"เร็วๆละ วันนี้บิชอปทำอาหารหลายอย่างด้วย.... ออ อีกเรื่องนะอาชินฉันขอชมนะเรื่องที่นายสามารถสร้างโปรแกรมที่ชื่อ ไมคอน ขึ้นมาได้การทำงานของมันฉันประทับใจมากนะ พัฒนามันต่อไปละ" แม่อากิระพูดอย่างร่าเริงก่อนจะเดินจากไป ทิ้งให้เด็กชายสองคนหน้าหว๋อกันว่าทำไมท่านทูตอากิระถึงได้รู้
+++++++++++++++++++++++
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ