นักรบพันธุ์โหด ตอน หวงจือชิน Secson 1
เขียนโดย กนกพัชร
วันที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 เวลา 09.12 น.
แก้ไขเมื่อ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2562 00.28 น. โดย เจ้าของนิยาย
32) ตอนที่ 32 ลูกแก้วทั้ง 13
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความวิหารนกฟินิกซ์ เวลา 08.19 น.
อาชินถูกปลดผ้าออกจากตาซึ่งเขาพบว่าตัวเองน่าจะอยู่ ส่วนในของวิหารแล้วโดยตรงหน้าเป็นประตูสองบาน มีลวดลายเป็นภาพเขียนลายเส้นสีทองรูปนกฟินิกซ์กางปีกขึ้นในบานซ้าย และอีกตัวกางปีกลงในบานขวาไม่นานนักประตูก็เปิดออก ปรากฎเป็นร่างนักบวชในผ้าคลุมสีน้ำเงินเข้มถือไม้เท้า สูงกว่าตัวเองอยู่หน่อยหนึ่งเป็นคนรูปร่างสูงผอมไม่มาก ผิวขาวเหลืองไม่มีผมดวงตาสีน้ำตาลทับทิม นักบวชคนดั่งกล่าวมองมาที่พวกอาชินเหมือนพินิจพิจารณาอยู่
"ขอต้อนรัับสู่วิหารนกฟินิกซ์เหล่าอนาคตของประเทศนี้ พวกเจ้าคงรู้ดีว่ามาที่นี้ทำไม" นักบวชคนนั้นเอ๋ยขึ้น
อาชินแอบมองเพื่อนของตนดูเหมือนพวกแคลวินจะตื่นเต้นไม่ใช่น้อย คงมีแต่อาถิงคนเดียวที่แสดงท่าทีของความวิตกกังวล เด็กชายนึกเล่นๆนะว่าถ้าเกิดอาถิงถูกเลือกเนี่ย มันจะเป็นยังไงแต่เขาก็อยากให้ญาติลูกพี่ลูกน้องคนนี้ ได้เป็นนักรบฟินิกซ์ไว้ตอกหน้าพวกนั้นสักครั้งเหมือนกัน ส่วนตัวเขานะไม่คิดว่าตัวเองจะถูกเลือกอยู่แล้ว เพราะยังไงก็ได้เขาไม่เคยมีปัญหา
"เอาละเพื่อไม่ให้ต้องเสียเวลา ข้าขอ 10 คนแรกที่จะเข้าไปพบกับลูกแก้วฟินิกซ์ ใครที่ต้องเดินออกมาทางประตูบานนี้นั้นคือไม่ได้ถูกเลือก" นักบวชท่านนั้นกล่าวเสริม
สิ้นคำแล้วอาชินก็โดนผู้พิทักษ์จับพาเดินเข้าไปเพราะเขากับพวกอาถิงดันอยู่ 10 คนแรกพอดี ซึ่งมีเขา อาถิง เฟรม แคลวิน ไมค์ เฟร็ด เกรแฮม และอีกสามคนโดยสองคนเป็นฝาแฝดกัน ส่วนคนที่สิบเป็นผู้หญิงที่ลักษณะออกทอมบอยหน่อยๆ ข้างในห้องนั้นนั้นมีรูปปั้นของนกฟินิกซ์สีทองเปลวเพลิงอยู่ ตรงใจกลางนั้นมีลูกแก้ว 13 ลููกวางเรียงเป็นวงกลมอยู่ อาชินจำได้ว่าหนึ่งในลูกแก้วที่ทรงอนุภาพมากที่สุดคือ ลูกแก้วสีน้ำเงิน ที่สำคัญน้อยคนที่จะถูกลูกแก้วสีนี้เลือก
"ลูกแก้วดวงใดส่องแสงแล้วส่งแสงนั้นไปที่ตัวพวกเจ้า นั้นเท่ากับว่าพวกเจ้าถูกเลือกแล้ว...จงไปยืนอยู่ตรงกลางของลูกแก้ว"
ไม่รู้เพราะอะไรอาชินกับพวกอาถิงจับมือกันเดินเข้าไป อยู่ใจกลางลูกแก้วทั้ง 13 ลูกเด็กชายไม่เข้าใจตัวเอง เหมือนกันนะว่าแค่นี้ทำไมตัวเขาต้องตื่นเต้นอะไรขนาดนี้ นักบวชผ้าคลุมสีน้ำเงินเห็นว่าเด็กๆอยู่ในวงแล้ว จึงใช้ไม้เท้าแล้วเริ่มท่องมนคาถาอะไรสักอย่าง ที่อาชินไม่เข้าใจเท่าไหร่นัก และลูกแก้วทั้งหมดที่รายล้อมพวกเขาก็สั่นสะเทือนขึ้นเอง พร้อมกับเรือนแสงสว่างขึ้นอาชินรับรู้ได้ว่าอาถิงจับมือเขาแน่นกว่าเมื่อกี้นี้มาก
"พวกนาย...ขอให้โชคดีนะเพื่อน" เฟรมพูดอย่างตื่นเต้น
เมื่อนักบวชร่ายคาถาจบแล้วก็ชูไม้เท้าเหนือหัวขึ้นไป แสงของลูกแก้วก็พุ่งทะยานขึ้นบนเพดาน ในตอนแรกเกิดเป็นแสง 13 สี เมื่อมันค่อยๆลอยลงมาทางพวกเขา มันเหลือแค่สีเดียวคือ สีแดงเพลิงในรูปของนกฟินิกซ์จากนั้นไม่นาน มันก็แตกออกเป็น 4 ตนบินลงมาอย่างสง่างาม มันบินวนรอบพวกเขาอยู่สักพักแล้วจากนั้น มันก็บินตรงมาทะลุเข้าร่างของอาชินและหายไป เหลือแต่ควันสีเพลิงเท่านั้น นกฟินิกซ์อีกสามตัวก็บินทะลุเข้าร่างของเด็กแฝดชายกับทอมบอยเช่นกัน อาชินงุนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้นมาก
สักพักประตูบานสีทองซึ่งไม่ใช่ประตูที่พวกเขาเดินเข้ามา มันก็เปิดออกแล้วนักบวชก็เดินตรงมาหาพวกเขา อาชินหันไปมองที่ประตูบานนั้นเขาเห็นเด็กหลายคนทั้งชายและหญิงอยู่ในนั้น จากนั้นอาชินก็ถูกจับแยกมาอยู่กับอีกสามคน และอาถิงอยู่กับพวกแคลวินนั้นช่างเป็นสัญญาณที่ไม่ดีเอาเสียเลย ผู้พิทักษ์อีกคนเดินออกมาจากประตูที่เปิดออก เหมือนเตรียมรับคำสั่งใหม่จากนักบวช
"พาเด็กทั้งสี่คนนี้ไปร่วมกลุ่มกับเด็กที่ถูกเลือกเลย" นักบวชกล่าว อาชินแทบไม่อยากเชื่อที่ได้ยิน เขามองหน้าพวกอาถิงที่ตอนนี้พวกเขาต่างก็ยอมรับผลของมันได้อาถิงก็เช่นกัน แต่มันไม่ใช่สำหรับอาชิน
"เดียวนะครับ หมายความว่าไงที่ว่าถูกเลือก ผมถูกเลือกงั้นเหรอ" อาชินถามพร้อมชี้หน้าตัวเอง
"ใช่แล้วเด็กน้อยเจ้าถูกเลือก และจะต้องย้ายไปอยู่กับท่านทูตอากิระเพื่อจะเรียนรู้ และฝึกฝนพลังของมันในอนาคตหน้า" นักบวชตอบ
"แล้วพี่น้องผมละ เพื่อนผมด้วย" อาชินถามขึ้น นักบวชสำรวจมองแววตาของอีกฝ่าย คงเดาได้ไม่ยากว่าคงจะผูกพันกันอย่างมากร่วมทั้งเพื่อนกลุ่มนี้ด้วย การที่อยู่ดีๆไม่ได้อยู่ด้วยกันแล้วนั้นมันทำใจลำบาก
"ข้าเสียใจ พวกเขาไม่ได้ถูกเลือก เจ้าพาพวกเขาไปไม่ได้" นักบวชตอบ
"ผมไม่ไป ! ถ้าอาถิงไม่ได้ไปกับผม ผมก็ไม่ไปไหนทั้งนั้น" อาชินประกาศเสียงกร้าวมาก ทำเอาผู้พิทักษ์จะรุมเข้ามาทำอะไรเขาสักอย่างซึ่งนักบวชก็ห้ามไว้
"ไม่เป็นไรอาชิน ฉันอยู่ได้ นายไปเถอะไม่ต้องห่วงฉัน" อาถิงพูดอย่างหนักแน่น
"นายไม่ต้องกังวล อี้ถิงไม่ได้อยู่ลำพังยังมีพวกเราอยู่ทั้งคน" แคลวินพูดเสริม พวกเขามองอาชินด้วยสายตาที่อยากให้เด็กชายเชื่อมั่นว่ายังไงก็ไม่มีวันทอดทิ้งกันและกันอยู่แล้ว
อาชินเห็นสายตาที่่มุ่งมั่นมากๆของอาถิงและของเพื่อนๆแล้ว เขาก็อยากลองเชื่อมั่นดูสักครั้งเมื่อนักบวชเห็นว่า ทุกอย่างเคลียร์แล้วก็พยักหน้าเชิงออกคำสั่งให้ผู้พิทักษ์พาอาชินกับเด็กอีกสามคน เดินเข้าไปร่วมกับคนอื่นๆที่ถูกเลือกซึ่งอาชินยังเหลียวหลังมา มองเพื่อนๆของเขาซึ่งก่อนที่ประตูจะปิดนั้น อาถิงและพวกแคลวินชูนิ้วโป้งให้เห็นเป็นครั้งสุดท้าย เมื่อประตูปิดตัวลงแล้วอาชินพบว่ามันเหมือนเป็นห้องรับรองขนาดใหญ่พอสมควร
"นั้นอาชินจริงๆด้วย" เสียงหนึ่งที่คุ้นมากๆร้องทักมาแต่ไกล อาชินหันไปมองข้างหลังก็แทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง เขาเห็นอาเจี๋ย อาหมิง อาหลง เสี่ยวหู่ และเฮยหลงมาพร้อมกันเลย
"พวกนายถูกเลือกกันหมดเลยเหรอ" อาชินถาม
"ใช่แล้วยังไม่เชื่ออยู่เลยเนี่ย ว่าฉันจะถูกเลือกได้.... แล้วเฟรมกับอาถิงละ" อาชินเงียบเลือกที่จะไม่ตอบ ทำให้พวกเสี่ยวหู่พอจะรู้คำตอบแล้ว
"เสียใจด้วยนะ" เฮยหลงพูดและตบไหล่อาชินเบาๆ ซึ่งเขาก็ยิ้มแห้งๆตอบ
ระหว่างที่พวกเขากำลังสนทนาอยู่นั้นก็ได้ปรากฎชายหนุ่ม ในชุดสูทสีเทาสลับดำผูกเนคไทสีน้ำเงินเดินเข้ามา โดยมีบอร์ดี้การ์ดประกบติดข้างๆสองคนร่างใหญ่พอสมควร ทุกคนหันไปทางชายหนุ่มคนนั้นกันหมดแต่จะเรียกชายหนุ่มมันก็แปลกๆ เพราะท่าทางบุคคลิกภาพของคนนี้ออกไปทางสาวชะมากกว่า บุคคลท่านนี้อาชินรู้จักดีเพราะคนนี้คือ เอกอัครราชทูตอากิระ เป็นราชทูตที่อาวุโสมากๆในประเทศนี้และทรงอำนาจมาก เรียกได้ว่ามีอำนาจมากกว่าจอมทัพที่เป็นผู้นำประเทศเสียด้วยช้ำ
"สวัสดีทุกคนฉัันมีชื่อว่า อากิระ รีเฟนสตาห์ล จากนี้เป็นต้นไปฉันจะเป็นคนคอยดูแลพวกนายเอง... ออ ถ้าจะให้ดีจริงๆเรียกฉันสั้นๆว่า "แม่อากิ" ก็ได้นะ" ท่านทูตอากิระพูดด้วยเสียงร่าเริงแจ่มใส
+++++++++++++++++++++++
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ