นักรบพันธุ์โหด ตอน หวงจือชิน Secson 1

8.0

เขียนโดย กนกพัชร

วันที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 เวลา 09.12 น.

  53 ตอน
  0 วิจารณ์
  43.26K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2562 00.28 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

29) ตอนที่ 29 วันร่วมเชื้อสายตระกูล

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
คฤหาสน์ตระกูลหวงใหญ่ เวลา 21.06 น.
วันที่ 1 มกราคม ปี 23 ที่ 65 เป็นวันขึ้นปีใหม่ของประเทศฟรอนร์เทียร์ และเป็นวันหยุดราชการด้วยดังนั้นทั้งเหล่าพลเรือน และชาวฟรอนร์เทียร์ต่างก็ร่วมเฉลิมฉลองวันปีใหม่กันอย่างเต็มที่ ส่วนสำหรับตระกูลใหญ่ๆก็จัดนัดร่วมพบกันเช่นเดียวกับตระกูลหวง ซึ่งที่ตระกูลหลักได้จัดงานเลี้ยงสังสรรค์เพื่อต้อนรับ เหล่าตระกูลหวงลำดับอื่นๆมาร่วมงานโดยเจตนาคือ ความสามัคคีที่จะทำให้ตระกูลหวงยังคงอยู่ถึงทุกวันนี้
    หวงฉี่ชุ่น หม่าญวน อาชิน และอาถิงมาในชุดสูทราตรีมาร่วมงานเหมือนทุกครั้ง คฤหาสน์ของตระกูลหลักนั้นมีเนื้อที่ค่อนข้างกว้าง เหมือนกับมันถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้งานแบบนี้โดยเฉพาะ อาชินเห็นเด็กเล็ก รุ่นเดียวกับเขา หรือโตกว่ามากมาย แทบแยกไม่ออกว่าเป็นญาติกับเขาเลย ส่วนอาถิงแทบมีสีหน้าที่ไม่มีความสุขตั้งแต่รู้ว่าต้องมาแล้ว หวงฉี่ชุ่นปู่ของเขาก็กำลังคุยกับคนวัยเดียวกัน แต่กับหม่าญวนเธอแทบไม่พูดคุยกับใครเลย แต่โชคดีที่ไม่มีใครสนใจเท่าไหร่
    สำหรับตระกูลหวงแล้วมีเครือทั้งหมด 40 ลำดับ ผู้นำตระกูลหลักคนปัจจุบันคือ หวงจวงจูน สมาชิกในตระกูลก็ปาเข้าไปเกือบๆ 20 คนแล้ว ส่วนอาชินกับอาถิงนั้นเป็นทายาทของตระกูลลำดับที่ 25 ขึ้นชื่อว่าสมาชิกน้อยที่สุดแล้ว ไม่นานนักก็มีหญิงสาวคนหนึ่งเดินมาในชุดราตรีสีแดงฉานราวกับไฟ เธอผิวขาวผมยาวสีดำดวงตาสีน้ำตาลเข้ม เธอทาลิปสติกสีแดงเข้มมากแน่นอนว่าการมาของเธอนั้นทำให้หลายคนจับจ้องเธอไม่ใช่น้อย นั้นร่วมไปถึงอาถิงด้วย
    "แม่...." อาถิงเอ๋ยเบาๆ ทำเอาอาชินแทบไม่อยากเชื่อในสายตาตัวเอง แต่ก็ต้องเชื่อว่านี้คือ ไป๋อวี๋หลิง ผู้เป็นป้าของเขาและยังเป็นแม่แท้ๆของอาถิงด้วย ข้างหลังของเธอคือลูกชายทั้ง 6 คนของเธอเอง หวงฉี่ชุ่นมีสีหน้าไม่พอใจเล็กน้อยที่ลูกสะใภ้มีพฤติกรรมแบบนี้
    "สวัสดีค่ะ คุณพ่อ คุณแม่ ไม่ได้พบกันนานเลย หวังว่าคงสบายดีนะค่ะ" ไป๋อวี๋หลิงพูดด้วยสีหน้าตายเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
    "เธอแต่งอะไรของเธอมา ทำอะไรให้เกียรติตระกูลของสามีเธอหน่อยนะ" หม่าญวนกล่าวตำหนิ แต่อีกฝ่ายไม่ได้สนใจมากเท่าไหร่
    "แค่การมาเหยียบที่นี้ก็ให้เกียรติ ให้กับคนที่ทิ้งภาระทุกอย่างให้กับหนูหมดแล้วค่ะคุณแม่ ขอโทษนะค่ะที่ไม่ได้เรียบร้อยเหมือนที่คุณแม่หวังไว้" หวงฉี่ชุ่นเดินมาเผชิญหน้ากับไป๋อวี๋หลิงอย่างเดือดดาล ทำให้อีกฝ่ายหน้าถอดสีพอสมควร
    "ถ้ายังพูดข้ามหัวเมียฉันแบบเมื่อกี้นี้อีก เธอก็รู้ว่าฉันไม่ไว้หน้าไหนทั้งนั้นต่อให้คนนั้นจะเป็นแม่ของหลานฉันก็ตาม" จังหวะนั้นที่ดวงตาของหวงฉี่ชุ่นเป็นสีแดงก่อนจะกลับมาดำ อาชินที่บังเอิญเห็นนั้นถึงกับต้องขยี้ตาเพราะไม่แน่ใจว่าตัวเองตาฝาดไปรึเปล่า
    ก่อนที่สถานการณ์จะแย่ไปมากกว่านี้ หม่าญวนตัดสินใจดึงแขนสามีให้ออกห่างจากไป๋อวี๋หลิง ราวกับว่าเธอลืมเรื่องที่ตัวเองยังโกรธสามีอยู่ ใจจริงเธอก็ปลาบปลื้มนิดๆที่หวงฉี่ชุ่นโกธรเป็นหน้าเป็นหลัง ที่มีคนมาพูดจาไม่ดีใส่เธอที่เป็นภรรยาของเขาแต่มันอาจส่งผลไม่ดีเท่าไหร่ ยิ่งมาทำแบบนี้ในที่ของตระกูลหลักด้วย แต่ก็ยังโชคดีที่ยังมีคนมาช่วยไว้พอดี
    "น้าฉี่ชุ่น น้าญวน อยู่ตรงนี้เอง ผมหาตั้งนาน" หวงเซียนผางตะโกนมาจากที่ไกลๆ ซึ่งอาชินจำได้ว่าเขาคือคนที่ดูแลแผนกวิชาต่อสู้วูซูไม่คาดคิดว่าจะเป็นคนในเครือตระกูลเดียวกันเสียด้วยซ้ำ
    ข้างๆของหวงเซียนผางเป็นหญิงสาวที่หน้าตาสละสลวย เธอมาในชุดราตรีสีชมพูดกระโปรงกุมหัวเข่าประดับด้วยไข่มุกเล็กๆ สำหรับอาชินแล้วเธอก็สามารถดูดีได้แม้ว่าหญิงสาวจะไม่ได้แต่งหน้า แต่ก็ดูมีออร่ามากกว่าไป๋อวี๋หลิงเสียด้วยซ้ำแน่นอนว่า ไป๋อวี๋หลิงส่งสายตาไม่ค่อยเป็นมิตรมาทางหญิงสาวที่อยู่ข้างๆหวงเซียนผาง แต่ที่ชัดที่สุดคือมองหวงเซียนผางเหมือนว่าถ้าฆ่าชายหนุ่มได้คงทำไปแล้ว
    "เด็กที่อยู่ตรงนั้นนะลูกชายแกรึ" หวงฉี่ชุ่นถามขึ้น
    "ใช่ครับ คุณไปตามลูกมาหน่อยสิ" หวงเซียนผางกล่าวกับภรรยาของตน ซึ่งทั้งคู่ส่งยิ้มให้กันจนไป๋อวี๋หลิงเบ้ปากด้วยความหมั่นไส้ เล็กน้อยทำเอาอาถิงหน้าเสียแทนผู้เป็นแม่ไม่ใช่น้อย
    ภรรยาของหวงเซียนผางพาเด็กโตสองคนซึ่งอายุน่าจะประมาณ 9-10 ปี ได้รูปร่างสูงจนเหมือนอายุ 11-12 มากกว่า ผิวขาวมีผมสีดำสนิทและดวงตาสีน้ำตาลเข้ม ท่าทางสง่างามมากผิดกับพวกพี่ๆของหวงฉางเฉิน ที่ต่อให้แต่งตัวดีแค่ไหนมันก็ไม่ต่างอะไรกับจิ๊กโก๋ใส่สูทเท่าไหร่ อาชินแทบไม่อยากคิดเลยว่านี้คือญาติในตระกูลลำดับเดียวกับเขา อาชินพึ่งเห็นว่า หวงเฉาไห่ พี่ชายคนที่สี่ของอาถิงจ้องมองหนึ่งในเด็กสองคนนั้นอย่างเป็นมิตร
    "นี้คือ หวงเจียเหว่ย ลูกคนโตกับ หวงจุ้นเฉียง ลูกคนที่สองครับ" หวงเซียนผางกล่าวแนะนำลูกชายทั้งสองของเขา ซึ่งเด็กทั้งสองต่างทำความเคารพหวงฉี่ชุ่นที่เป็นผู้อาวุุโสกว่า
    "ฉันจำได้ว่าแกมีลูกสี่คนไม่ใช่เหรอ อีกสองคนไปไหน" หวงฉี่ชุ่นถาม
    "มาไม่ได้ครับอยู่กับแม่อากิครับ" หวงเซียนผางตอบ หวงฉี่ชุ่นก็พยักหน้าเข้าใจ
    ระหว่างที่พวกผู้ใหญ่เขาคุยกันอยู่นั้นอาชินพึ่งสังเกตว่าอาถิงไม่อยู่ตรงนี้ ด้วยความเป็นห่วงญาติคนนี้มากๆเขาจึงตัดสินใจแยกตัวจากปู่กับย่า ออกตามหาซึ่งแน่นอนว่าจะหาให้เจอก็ยาก เพราะทุกคนที่มาร่วมงานก็มากมายไม่นับร่วมเด็กรุ่นเดียวกับเขา อาชินเริ่มมีเหงื่อซึมเล็กน้อยเพราะเขาไม่อยากให้อาถิงอยู่ลำพังเท่าไหร่ ยิ่งพวกหวงฉางเฉินอยู่ในงานด้วยมันไม่ค่อยปลอยภัยเท่าไหร่ อยู่ดีๆอาชินก็นึกขึ้นมาได้ว่าอาถิงเวลาน้อยใจแม่ มักชอบหนีออกจากงานไปนั่งร้องไห้เงียบๆคนเดียวเสมอ
    อาชินไม่รอช้าเขารีบวิ่งออกจากทางห้องโถมใหญ่ที่จัดงาน และตรงมาที่ทางเดินเรื่อยๆอาชินต้องยอมรับว่า คฤหาสน์ของตระกูลหลักค่อนข้างกว้างเพราะลูกหลานเยอะ เด็กชายเดินมาทางเดินบันไดซึ่งมันขึ้นไปถึงชั้นสอง เขาเห็นอาถิงนั่งกุมหัวเข่าเอาหน้าซบเอาไว้อยู่อาชินเดินเข้ามาใกล้ๆถึงได้ยินเสียงสะอื้นร้องไห้ของอีกฝ่าย อาชินถอนหายใจเบาๆคงทำอะไรไม่ได้นอกจากปลอบใจเท่านั้นแหละ เขาเดินมานั่งข้างๆอาถิงอย่างเงียบๆแต่ก็ยังทำให้ อีกฝ่ายสะดุดตกใจเล็กน้อย
    "ฉันจะไม่พูดอะไรทั้งนั้น นายร้องไห้พอใจเมื่อไหร่บอกด้วยละกัน" อาชินพูด
    "ขอโทษ..." อาถิงพูดเสียงสะอื้น แต่อาชินกลับขมวดคิ้ว
    "นายขอโทษฉันเรื่องอะไร นายไม่ได้ทำอะไรผิด"
    "ทำให้นายผิดหวัง ฉันคิดมาตลอดว่าตัวเองเปลี่ยนไปแล้ว ไม่ใช่เด็กขี้แยเรียกหาย่าไม่ต้องลำบากให้นายช่วย... แต่ที่ไหนได้พอเจอแม่ที่ไรฉันเป็นอย่างนี้ทุกทีเลย" อาถิงตอบ
    อาชินที่ได้ยินก็ตบไหล่อาถิงเบาๆเพื่อปลอบใจเท่านั้น ในใจของอาถิงนั้นเขาไม่เข้าใจเลยว่าทำไมแม่ถึงไม่สนใจเขา เขาทำผิดเรื่องอะไรเหรอต้องทำยังไงแม่ถึงจะรัก และหันมาสนใจลูกชายคนนี้อย่างเขาบ้าง แม่จะรู้ไหมว่าเวลาที่แม่ทำตัวเย็นชาใส่เขานั้น อาถิงต้องแอบร้องไห้คนเดียวบ่อยแค่ไหน  แม่จะรู้ไหมว่าอาถิงคิดถึงแม่มากแค่ไหนอยากให้แม่มาหาบ้าง ก็ไม่เคยมาไม่แม้แต่จะโทรศัพท์มาหาหรือจะถามไถ่อะไรเลย
    "อาชิน.... ถ้าฉันถูกเลือกเป็นนักรบฟินิกซ์ แม่จะรักฉันไหม" อาถิงถามขึ้น
    "เฮ้ย ! จะบ้าเรอะ ไปเอาความคิดแบบนั้นมาจากไหน มันไม่เกี่ยวว่านายจะเป็นอะไรนะอาถิงต่อให้นายเป็นหรือไม่ได้เป็น นายก็เป็นอย่างที่เป็นอย่างนี้นะดีที่สุดแล้วนะ นายไม่ได้โดดเดี่ยวนะนายยังมีฉัน ปู่และย่านะ" อาชินพูดขึ้น
    "น้ำหน้าอย่างแกเนี่ยนะจะได้เป็นนักรบฟินิกซ์ เพ้อฝันไปนะ"
    อาชินกับอาถิงพากันลุกขึ้นยืนทันทีซึ่งปรากฎเด็กโต 6 คน อาถิงเอาแขนเสื้อเช็ดน้ำตาตัวเองทันทีเพราะนั้นคือพวกพี่ชายของเขาเอง ส่วนของอาชินเขาก็เบื่อไม่ใช่น้อย นอกจากต้องมางานแบบนี้แล้วยังต้องมารับมือกับคนพวกนี้อีก แกนนำก็ไม่ใช่ใครอื่น หวงอี้ชวิ่น พี่คนที่สามของอาถิง ปัจจุบันอายุ 16 ปี ผิวขาวรูปร่างสูงผมสีดำ ดวงตาสีดำเข้ม ที่ติดตามมาก็คือ หวงเฉาไห่ อายุห่างกับหวงอี้ชวิ่น 2 ปี ที่ตามมาติดๆอีกสองคนคือ หวงเจียจิ้ง กับหวงฉางเฉิน ในใจของอาชินคิดได้อย่างเดียวว่าสมแล้วที่ เป็นวันร่วมญาติ
    "วันนี้เป็นวันร่วมญาติยังจะมาหาเรื่องกันอีกเนี่ย นับถือสันดานนักเลงพวกนายจริงๆว่ะ" อาชินพูด
    "หุบปากของแกไปเลยอาชิน เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับแก มันเป็นเรื่องที่พวกฉันจะสะสางกับอาถิง" หวงอี้ชวิ่นกล่าว
    "คงไม่ได้อ่ะ...บังเอิญว่าฉันเป็นพวกชอบ "เผือก" นะ" อาชินพูดจากวนประสาทอีกฝ่าย ซึ่งมันได้ผลดีกว่าที่คิด
    "ถ้าอยากมีเรื่องมากนักละก็...เดียวจัดให้"
    พวกหวงอี้ชวิ่นพากันล้อมอาชินกับอาถิงเอาไว้ทุกด้าน ซึ่งทั้งสองมองหน้ากันราวกับจะบอกกันและกันว่า คงจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ต้องสู้อย่างเดียว เท่านั้น
    "พร้อมไหม" อาชินถาม 
    "พร้อมเสมอ"
                                    
                                               
                                                          ++++++++++++++++++++++++++++

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา