นักรบพันธุ์โหด ตอน หวงจือชิน Secson 1
8.0
เขียนโดย กนกพัชร
วันที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 เวลา 09.12 น.
53 ตอน
0 วิจารณ์
43.25K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2562 00.28 น. โดย เจ้าของนิยาย
27) ตอนที่ 27 แรงบันดาลใจ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความสนามกีฬา เวลา 09.00 น.
ภายในค่ายของยุวชนทหารนั้นแม้ว่าพื้นที่ส่วนใหญ่ของค่าย จะเน้นสำหรับการฝึกทหารชะส่วนใหญ่แต่มันก็ยังมีสนามกีฬา ไว้ให้ทหารหรือยุวชนทหารได้ออกกำลังกายอีกด้วย ทุกคนสนุกกับมันอย่างเต็มที่เพราะวันนี้จะเป็นวันสุดท้ายของการพัก พรุ่งนี้ก็กลับไปฝึกกันต่ออาชินคิดว่ากลุ่มยุวชนทหารที่จะเดินทางไปวิหารฟินิกซ์นั้น คงจะเป็นกลุ่มสุดท้ายแล้วหลังจากผ่านมาได้ 2 วันเขาเห็นยุวชนทหารรุ่นพี่ กลับโรงนอนมาแต่มีบางคนที่ไม่กลับมา ซึ่งเฟรมบอกว่าคงถูกเลือกไปแล้วและคงจะถูกย้ายไปคฤหาสน์ของท่านทูตอากิระ เฟรมเล่าว่าเด็กหลายคนอยากไปอยู่ที่นั้นเพราะมันสะดวกสบาย ไม่เหมือนกับนอนที่นี้
"ฉันไม่เห็นฉางเฉิน นายเห็นบ้างไหม" อาชินหันไปถามอาถิง ที่กำลังเดาะบอลอยู่
"ไม่เลย อาจจะ...ถูกเลือกไปแล้วก็ได้" อาถิงตอบ
"คนอย่างหมอนั้นเนี่ยนะ ลูกแก้วคงมีปัญหาแล้วละ" อาชินพูดเปรยๆ
"ฉันว่านายไม่ต้องกังวลหรอก เพราะหวงฉางเฉินไม่ได้ถูกเลือก" แคลวินเดินมาหาพวกอาชิน พร้อมกับเพื่อนๆในกลุ่มอีก 6-8 คนพวกเขามาในชุดกีฬาสบายๆ และมานั่งรับลมเพื่อระบายเหงื่อจากการเล่นกีฬา
"นายรู้ได้ไงแคลวิน" เฟรมถามด้วยความสงสัย
"พี่ชายของไมค์อยู่กลุ่มเดียวกับหวงฉางเฉินนะ บอกว่าก่อนจะเข้าไปในวิหารนะทำตัวมั่นอกมั่นใจมาก แต่พอออกมาแค่นั้นแหละเดินคอตกทันทีเลย ใครเห็นก็เดาได้ไม่ยากและที่ไม่เห็นเงาหมอนี้เพราะ โม้ไปทั่วว่ายังไงเขาจะได้ถูกเลือกแน่นอน" แคลวินพูดและหันไปทางไมค์ ซึ่งก็คือยุวชนทหารตัวเล็กสุดของกลุ่มนั้นเอง ไมค์เป็นคนผิวเข้ม ผมดำหยิบเล็กน้อย และมีดวงตาสีดำ
อาถิงที่เดาะบอลอยู่ดีๆเขาก็ชะงักและวางบอลลงกับพื้นหญ้า เขานิ่งผิดปกติจนเพื่อนหลายคนสังเกตได้ นั้นทำให้อาชินไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่ เขาจึงทำสัญญาณบอกกับพวกแคลวินว่าขอจัดการเอง เด็กชายลุกเดินไปหาญาติลูกพี่ลูกน้องที่ยืนนิ่งอยู่ เขาสังเกตว่าอาถิงเหมือนกำลังครุ่นคิดบางอย่างอยู่ เมื่อมือของอาชินกระทบกับหัวไหล่ของอาถิง มันก็เหมือนกลายเป็นการดึงสติของอาถิงกลับมาอีกครั้ง
"มีอะไรเหรอ" อาถิงที่พึ่งได้สติถามขึ้น
"นายนั้นแหละเป็นอะไร เมื่อกี้ยังเดาะบอลอยู่ดีๆอยู่เลย" อาชินย้อนถาม
อาถิงไม่ยอมตอบเขาจึงตัดสินใจพามานั่งข้างๆเพื่อน เพราะทุกคนก็ไม่สบายใจกันมากที่อาถิงเป็นแบบนี้ ซึ่งเขาก็รับรู้ได้ว่าเพื่อนเป็นห่วงเขาจึงยิ้มแห้งๆให้ อาถิงเขารู้ว่าทำไมบรรดาพี่ชายทั้ง 6 คน ถึงอยากเป็นนักรบฟินิกซ์กันก็เพื่อที่จะ กอบกู้ชื่อเสียงของพ่อและวงศ์ตระกูลหวง ในเหตุการณ์โศกนาฏกรรมที่มีไม่กี่คนที่รู้เรื่องนี้ แต่มันก็กลายเป็นรอยด่างพร้อยสำหรับครอบครัวเขาไปแล้ว อาถิงไม่โกรธพวกหวงฉางเฉินเพราะเข้าใจเจตนาของพวกเขาดี
"นายบอกพวกเราได้นะเพื่อน" เฟรมพูดอย่างเป็นห่วง
"นั้นสิยังไงก็เพื่อนกัน ไม่เห็นต้องเก็บไว้คนเดียว" แคลวินพูดเสริม
"ฉันไม่เป็นไรพวก... ฉันแค่อยากนอนนะ ขอตัวก่อนนะ" อาถิงตัดบทสั้นๆแล้วลุกเดินจากไป เขาตื้นตันใจที่เพื่อนๆ ห่วงใยเขา แต่เด็กชายขอเลือกที่จะเก็บมันไว้ในใจดีกว่า
พฤติกรรมแปลกของอาถิงนั้นทำให้อาชินที่มองแผ่นหลังญาติของตนนั้น ไม่สบายใจพอสมควรตั้งแต่หวงฉางเฉินพี่ชาย ของอาถิงเดินทางไปวิหารฟินิกซ์ญาติคนนี้ของเขา ก็มีท่าทีที่กังวลมากเป็นพิเศษอาชินรู้ดีว่าแม้ว่าพี่ๆของอาถิง จะปฎิบัติไม่ดีกับอาถิงมากแค่ไหนอาถิงก็ไม่เคยโกรธพี่ชายทั้ง 6 คนนี้เลย ซึ่งอาชินก็ไม่เข้าใจว่าอาถิงคิดอะไรอยู่แต่ยังไงเขาก็เลือกที่จะ ไม่เซ้าซี้ปล่อยให้อาถิงอยู่ตามลำพังตามที่ต้องการ
"ไม่ตามไปดูหน่อยเหรอ" ไมค์ถาม
"ไม่ละ บางทีหมอนั้นคงอยากอยู่คนเดียว ปล่อยไปก่อน" อาชินตอบ
"ตามใจนายละกัน” แคลวินกล่าว
ระหว่างที่พวกเขานั่งพักอยู่นั้นอาชินหันไปสังเกตเห็น ยุวชนทหารรุ่นพี่กลุ่มหนึ่งกำลังนั่งจดจ่อที่หน้าคอมพิวเตอร์ ด้วยสีหน้าที่จริงจังอย่างมากด้วยความสงสัย อาชินหันมามองพวกแคลวินที่ตอนนี้มีบางคนในกลุ่ม เริ่มลงไปเล่นฟุตบอลกันเองแล้วอาชินจึงตัดสินเดินไปดูสักหน่อย ซึ่งเมื่อเขาเดินมาถึงบริเวณนั้นแล้วเด็กชายพบใบปลิวใบหนึ่งลอยมา กระทบใบหน้าของเขาพอดีซึ่งพออาชินเอาออกจากหน้ามาอ่านเนื้อหาของมัน เนื้อหามันเกี่ยวกับการสอบเข้าเป็นสมาชิกของหน่วยข่าวกรองลับ ของกองทัพโดยมีคุณสมบัติของการเข้าสอบคือ ต้องมีความรู้เรื่องไอทีคอมพิวเตอร์กับโปรแกรมขั้นพื้นฐาน และหากมีความรู้ในสิ่งประดิษฐ์จะรับพิจารณาเป็นพิเศษ
"สนใจเหรอไอ้น้อง" เสียงทักดังขึ้นจากข้างหลังของอาชิน
อาชินหันไปทางข้างหลังเป็นยุวชนทหารรุ่นพี่ที่อายุน่าจะ 17-18 ปี ได้ผิวน้ำผึ้ง ผมดำ ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนอีกฝ่ายใส่ชุดเสื้อยืดคอกลมสีเทากับกางเกงสีดำกุมหัวเข่า ที่มือของยุวชนทหารรุ่นพี่นายนี้ถือคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กไว้ มันคือยี่ห้อ X-700 เป็นคอมพิวเตอร์พกพาที่ราคาค่อนข้างแพง แต่สเปคคอมเยอะกว่าหน้าตาของมันเสียด้วยซ้ำ อาชินไม่แปลกใจที่ยุวชนทหารรุ่นพี่นายนี้จะสามารถซื้อได้เพราะ ยุวชนทหารจะเริ่มมีค่าจ้างหรือเงินเดือนเมื่ออายุ 13 ปี แล้วและจะอัพสูงขึ้นตามอายุและประสบการณ์การรบ
"พี่จะสอบเข้าเหรอครับ" อาชินถาม
"ออ.. พี่สอบผ่านแล้วแต่แค่มาช่วยติวคนที่จะสอบนะ" ยุวชนทหารรุ่นพี่ตอบ
"หน่วยข่าวกรองลับคืออะไรครับ”
"มันเป็นหน่วยราชการลับที่จะทำภารกิจเงาให้กับกองทัพ และทำหน้าที่รักษาหรือทำลายข้อมูลอาจทำลายความมั่นคงของชาติไงละ" ยุวชนทหารรุ่นพี่อธิบาย
"คล้ายๆพวกสายลับเหรอครับพี่" อาชินถามอีกครั้ง ซึ่งยุวชนทหารรุ่นพี่เห็นความสนใจจริงๆของรุ่นน้อง จึงยอมเสียเวลานิดหนึ่งเพื่อตอบคำตอบเหล่านี้
"ใช่ถูกต้องงานสายลับ แทรกซึมคืองานของหน่วยนี้....”
"เฮ้ย ! เทย์เลอร์มั่วทำอะไรอยู่ ไหนบอกว่าจะมาติวให้ไง" เสียงตะโกนดังมาจากที่ไกลมาก ซึ่งก็คือกลุ่มที่กำลังเคร่งเครียดกับคอมพิวเตอร์และตำราอยู่ อาชินก็รับรู้ได้ว่าเขาคงรู้ข้อมูลแค่นี้ แต่มือของยุวชนทหารรุ่นพี่ลูบหัวอาชินอย่างอ่อนโยน เหมือนพี่ชายทำกับน้องชาย
"นายยังเด็กยังมีเวลาค้นหาตัวเอง แต่ถ้าอยากเข้าหน่วยข่าวกรองจริงๆฉันจะรอนายนะ"
ยุวชนทหารรุ่นพี่นายนั้นก็เดินไปหากลุ่มเพื่อนของเขาทันที อาชินก็ได้ยืนมองอยู่ตรงนั้นแล้วเขาก็ก้มมองใบปลิว เรื่องการสอบเข้าบรรจุหน่วยข่าวกรองลับ เด็กชายรู้แล้วว่าตัวเองจะเริ่มต้นจากอะไร มันมีศูนย์ให้ความรู้ต่างๆในค่ายอยู่แต่ความจริงแล้ว ที่นั้นคนแบบพวกเขาไม่ค่อยเหมาะจะไปสิงที่นั้น แต่มันเป็นทางเดียวที่จะได้รู้ว่าทำยังไงให้เขาได้เข้าไปในหน่วยนี้ แม้ว่าเขาจะยังไม่มีคอมพิวเตอร์แต่ขอมีความรู้เพื่อเตรียมตัวก่อนละกัน
"เฮ้ ! จือชินทำอะไรตรงนั้นนะ มาเล่นบอลกันดีกว่า" เฟรมตะโกนมาจากที่ไกลๆ
"โอเคได้เลย" อาชินหันไปตอบรับ ก่อนจะพับใบปลิวเข้ากระเป๋ากางเกง
++++++++++++++++++++++++
ภายในค่ายของยุวชนทหารนั้นแม้ว่าพื้นที่ส่วนใหญ่ของค่าย จะเน้นสำหรับการฝึกทหารชะส่วนใหญ่แต่มันก็ยังมีสนามกีฬา ไว้ให้ทหารหรือยุวชนทหารได้ออกกำลังกายอีกด้วย ทุกคนสนุกกับมันอย่างเต็มที่เพราะวันนี้จะเป็นวันสุดท้ายของการพัก พรุ่งนี้ก็กลับไปฝึกกันต่ออาชินคิดว่ากลุ่มยุวชนทหารที่จะเดินทางไปวิหารฟินิกซ์นั้น คงจะเป็นกลุ่มสุดท้ายแล้วหลังจากผ่านมาได้ 2 วันเขาเห็นยุวชนทหารรุ่นพี่ กลับโรงนอนมาแต่มีบางคนที่ไม่กลับมา ซึ่งเฟรมบอกว่าคงถูกเลือกไปแล้วและคงจะถูกย้ายไปคฤหาสน์ของท่านทูตอากิระ เฟรมเล่าว่าเด็กหลายคนอยากไปอยู่ที่นั้นเพราะมันสะดวกสบาย ไม่เหมือนกับนอนที่นี้
"ฉันไม่เห็นฉางเฉิน นายเห็นบ้างไหม" อาชินหันไปถามอาถิง ที่กำลังเดาะบอลอยู่
"ไม่เลย อาจจะ...ถูกเลือกไปแล้วก็ได้" อาถิงตอบ
"คนอย่างหมอนั้นเนี่ยนะ ลูกแก้วคงมีปัญหาแล้วละ" อาชินพูดเปรยๆ
"ฉันว่านายไม่ต้องกังวลหรอก เพราะหวงฉางเฉินไม่ได้ถูกเลือก" แคลวินเดินมาหาพวกอาชิน พร้อมกับเพื่อนๆในกลุ่มอีก 6-8 คนพวกเขามาในชุดกีฬาสบายๆ และมานั่งรับลมเพื่อระบายเหงื่อจากการเล่นกีฬา
"นายรู้ได้ไงแคลวิน" เฟรมถามด้วยความสงสัย
"พี่ชายของไมค์อยู่กลุ่มเดียวกับหวงฉางเฉินนะ บอกว่าก่อนจะเข้าไปในวิหารนะทำตัวมั่นอกมั่นใจมาก แต่พอออกมาแค่นั้นแหละเดินคอตกทันทีเลย ใครเห็นก็เดาได้ไม่ยากและที่ไม่เห็นเงาหมอนี้เพราะ โม้ไปทั่วว่ายังไงเขาจะได้ถูกเลือกแน่นอน" แคลวินพูดและหันไปทางไมค์ ซึ่งก็คือยุวชนทหารตัวเล็กสุดของกลุ่มนั้นเอง ไมค์เป็นคนผิวเข้ม ผมดำหยิบเล็กน้อย และมีดวงตาสีดำ
อาถิงที่เดาะบอลอยู่ดีๆเขาก็ชะงักและวางบอลลงกับพื้นหญ้า เขานิ่งผิดปกติจนเพื่อนหลายคนสังเกตได้ นั้นทำให้อาชินไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่ เขาจึงทำสัญญาณบอกกับพวกแคลวินว่าขอจัดการเอง เด็กชายลุกเดินไปหาญาติลูกพี่ลูกน้องที่ยืนนิ่งอยู่ เขาสังเกตว่าอาถิงเหมือนกำลังครุ่นคิดบางอย่างอยู่ เมื่อมือของอาชินกระทบกับหัวไหล่ของอาถิง มันก็เหมือนกลายเป็นการดึงสติของอาถิงกลับมาอีกครั้ง
"มีอะไรเหรอ" อาถิงที่พึ่งได้สติถามขึ้น
"นายนั้นแหละเป็นอะไร เมื่อกี้ยังเดาะบอลอยู่ดีๆอยู่เลย" อาชินย้อนถาม
อาถิงไม่ยอมตอบเขาจึงตัดสินใจพามานั่งข้างๆเพื่อน เพราะทุกคนก็ไม่สบายใจกันมากที่อาถิงเป็นแบบนี้ ซึ่งเขาก็รับรู้ได้ว่าเพื่อนเป็นห่วงเขาจึงยิ้มแห้งๆให้ อาถิงเขารู้ว่าทำไมบรรดาพี่ชายทั้ง 6 คน ถึงอยากเป็นนักรบฟินิกซ์กันก็เพื่อที่จะ กอบกู้ชื่อเสียงของพ่อและวงศ์ตระกูลหวง ในเหตุการณ์โศกนาฏกรรมที่มีไม่กี่คนที่รู้เรื่องนี้ แต่มันก็กลายเป็นรอยด่างพร้อยสำหรับครอบครัวเขาไปแล้ว อาถิงไม่โกรธพวกหวงฉางเฉินเพราะเข้าใจเจตนาของพวกเขาดี
"นายบอกพวกเราได้นะเพื่อน" เฟรมพูดอย่างเป็นห่วง
"นั้นสิยังไงก็เพื่อนกัน ไม่เห็นต้องเก็บไว้คนเดียว" แคลวินพูดเสริม
"ฉันไม่เป็นไรพวก... ฉันแค่อยากนอนนะ ขอตัวก่อนนะ" อาถิงตัดบทสั้นๆแล้วลุกเดินจากไป เขาตื้นตันใจที่เพื่อนๆ ห่วงใยเขา แต่เด็กชายขอเลือกที่จะเก็บมันไว้ในใจดีกว่า
พฤติกรรมแปลกของอาถิงนั้นทำให้อาชินที่มองแผ่นหลังญาติของตนนั้น ไม่สบายใจพอสมควรตั้งแต่หวงฉางเฉินพี่ชาย ของอาถิงเดินทางไปวิหารฟินิกซ์ญาติคนนี้ของเขา ก็มีท่าทีที่กังวลมากเป็นพิเศษอาชินรู้ดีว่าแม้ว่าพี่ๆของอาถิง จะปฎิบัติไม่ดีกับอาถิงมากแค่ไหนอาถิงก็ไม่เคยโกรธพี่ชายทั้ง 6 คนนี้เลย ซึ่งอาชินก็ไม่เข้าใจว่าอาถิงคิดอะไรอยู่แต่ยังไงเขาก็เลือกที่จะ ไม่เซ้าซี้ปล่อยให้อาถิงอยู่ตามลำพังตามที่ต้องการ
"ไม่ตามไปดูหน่อยเหรอ" ไมค์ถาม
"ไม่ละ บางทีหมอนั้นคงอยากอยู่คนเดียว ปล่อยไปก่อน" อาชินตอบ
"ตามใจนายละกัน” แคลวินกล่าว
ระหว่างที่พวกเขานั่งพักอยู่นั้นอาชินหันไปสังเกตเห็น ยุวชนทหารรุ่นพี่กลุ่มหนึ่งกำลังนั่งจดจ่อที่หน้าคอมพิวเตอร์ ด้วยสีหน้าที่จริงจังอย่างมากด้วยความสงสัย อาชินหันมามองพวกแคลวินที่ตอนนี้มีบางคนในกลุ่ม เริ่มลงไปเล่นฟุตบอลกันเองแล้วอาชินจึงตัดสินเดินไปดูสักหน่อย ซึ่งเมื่อเขาเดินมาถึงบริเวณนั้นแล้วเด็กชายพบใบปลิวใบหนึ่งลอยมา กระทบใบหน้าของเขาพอดีซึ่งพออาชินเอาออกจากหน้ามาอ่านเนื้อหาของมัน เนื้อหามันเกี่ยวกับการสอบเข้าเป็นสมาชิกของหน่วยข่าวกรองลับ ของกองทัพโดยมีคุณสมบัติของการเข้าสอบคือ ต้องมีความรู้เรื่องไอทีคอมพิวเตอร์กับโปรแกรมขั้นพื้นฐาน และหากมีความรู้ในสิ่งประดิษฐ์จะรับพิจารณาเป็นพิเศษ
"สนใจเหรอไอ้น้อง" เสียงทักดังขึ้นจากข้างหลังของอาชิน
อาชินหันไปทางข้างหลังเป็นยุวชนทหารรุ่นพี่ที่อายุน่าจะ 17-18 ปี ได้ผิวน้ำผึ้ง ผมดำ ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนอีกฝ่ายใส่ชุดเสื้อยืดคอกลมสีเทากับกางเกงสีดำกุมหัวเข่า ที่มือของยุวชนทหารรุ่นพี่นายนี้ถือคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กไว้ มันคือยี่ห้อ X-700 เป็นคอมพิวเตอร์พกพาที่ราคาค่อนข้างแพง แต่สเปคคอมเยอะกว่าหน้าตาของมันเสียด้วยซ้ำ อาชินไม่แปลกใจที่ยุวชนทหารรุ่นพี่นายนี้จะสามารถซื้อได้เพราะ ยุวชนทหารจะเริ่มมีค่าจ้างหรือเงินเดือนเมื่ออายุ 13 ปี แล้วและจะอัพสูงขึ้นตามอายุและประสบการณ์การรบ
"พี่จะสอบเข้าเหรอครับ" อาชินถาม
"ออ.. พี่สอบผ่านแล้วแต่แค่มาช่วยติวคนที่จะสอบนะ" ยุวชนทหารรุ่นพี่ตอบ
"หน่วยข่าวกรองลับคืออะไรครับ”
"มันเป็นหน่วยราชการลับที่จะทำภารกิจเงาให้กับกองทัพ และทำหน้าที่รักษาหรือทำลายข้อมูลอาจทำลายความมั่นคงของชาติไงละ" ยุวชนทหารรุ่นพี่อธิบาย
"คล้ายๆพวกสายลับเหรอครับพี่" อาชินถามอีกครั้ง ซึ่งยุวชนทหารรุ่นพี่เห็นความสนใจจริงๆของรุ่นน้อง จึงยอมเสียเวลานิดหนึ่งเพื่อตอบคำตอบเหล่านี้
"ใช่ถูกต้องงานสายลับ แทรกซึมคืองานของหน่วยนี้....”
"เฮ้ย ! เทย์เลอร์มั่วทำอะไรอยู่ ไหนบอกว่าจะมาติวให้ไง" เสียงตะโกนดังมาจากที่ไกลมาก ซึ่งก็คือกลุ่มที่กำลังเคร่งเครียดกับคอมพิวเตอร์และตำราอยู่ อาชินก็รับรู้ได้ว่าเขาคงรู้ข้อมูลแค่นี้ แต่มือของยุวชนทหารรุ่นพี่ลูบหัวอาชินอย่างอ่อนโยน เหมือนพี่ชายทำกับน้องชาย
"นายยังเด็กยังมีเวลาค้นหาตัวเอง แต่ถ้าอยากเข้าหน่วยข่าวกรองจริงๆฉันจะรอนายนะ"
ยุวชนทหารรุ่นพี่นายนั้นก็เดินไปหากลุ่มเพื่อนของเขาทันที อาชินก็ได้ยืนมองอยู่ตรงนั้นแล้วเขาก็ก้มมองใบปลิว เรื่องการสอบเข้าบรรจุหน่วยข่าวกรองลับ เด็กชายรู้แล้วว่าตัวเองจะเริ่มต้นจากอะไร มันมีศูนย์ให้ความรู้ต่างๆในค่ายอยู่แต่ความจริงแล้ว ที่นั้นคนแบบพวกเขาไม่ค่อยเหมาะจะไปสิงที่นั้น แต่มันเป็นทางเดียวที่จะได้รู้ว่าทำยังไงให้เขาได้เข้าไปในหน่วยนี้ แม้ว่าเขาจะยังไม่มีคอมพิวเตอร์แต่ขอมีความรู้เพื่อเตรียมตัวก่อนละกัน
"เฮ้ ! จือชินทำอะไรตรงนั้นนะ มาเล่นบอลกันดีกว่า" เฟรมตะโกนมาจากที่ไกลๆ
"โอเคได้เลย" อาชินหันไปตอบรับ ก่อนจะพับใบปลิวเข้ากระเป๋ากางเกง
++++++++++++++++++++++++
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ