จอมใจคาสโนว่า
-
เขียนโดย GUEST1563906409
วันที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 เวลา 01.31 น.
6 ตอน
1 วิจารณ์
6,196 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 01.36 น. โดย เจ้าของนิยาย
2) เพื่อนสนิท
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความทินกรตื่นมาชงกาแฟแต่เช้า กินข้าวต้มที่แม่บ้านยกมาเสิร์ฟให้ที่เรือนพักส่วนตัวที่สร้างจากไม้สักทองทั้งหลัง เสร็จแล้วจึงหยิบกางเกงว่ายน้ำ ชุดคลุมขนหนูและขวดน้ำดื่มเดินตรงไปที่สระว่ายน้ำประจำของรีสอร์ต
ปกติเขาจะออกกำลังกายยามเช้าด้วยการวิ่งครั้งละสิบกิโลเมตร และว่ายน้ำในตอนค่ำที่ไร้แดด แต่วันนี้นึกครึ้มใจอยากว่ายน้ำตั้งแต่เช้า เปลี่ยนกางเกงและล้างเนื้อล้างตัวใต้ฝักบัวที่ตั้งอยู่ริมสระ วอร์มอัพร่างกายก่อนจะกระโดดลงว่ายฟรีสไตล์แบบนับรอบ
45 นาทีต่อมาก็ว่ายกลับขึ้นฝั่ง
ชายหนุ่มเป็นคนดูแลสุขภาพร่างกายของตัวเองเป็นอย่างมาก ไม่เพียงโชคดีที่เกิดมาหน้าตาหล่อเหลา แต่รูปกายที่สูงสง่าของเขายังประกอบไปด้วยมัดกล้ามแข็งแรงอย่างที่ผู้ชายหลายคนอิจฉา และผู้หญิงก็ต้องหลงใหล
“นางเงือกที่ไหนวะ ท่าสวยเป็นบ้า สงสัยเป็นนักกีฬาเสียล่ะมั้ง”
เขาเพิ่งสังเกตว่ามีเพื่อนร่วมสระเพิ่มมาอีกหนึ่งคน
รวิศาเองก็ไม่ทันสังเกตหรอกว่าคนที่ว่ายน้ำอยู่ก่อนแล้วในเวลาค่อนข้างเช้านี้เป็นใคร เธอคิดว่าเป็นแขกคนหนึ่งของโรงแรม...
จนเมื่อหญิงสาวชะลอจังหวะของตัวเองลงและค่อย ๆ พยุงตัวตีน้ำแบบผ่อนคลายมาที่ขอบสระ ถอดแว่นตาว่ายน้ำออกและลูบหน้าลูบตาตัวเอง
ทินกรจึงเห็นเต็มตาว่าคนที่เขานึกชมว่าท่าว่ายสวย แท้จริงแล้วคือใคร
“ยัยศา...”
ทินกรทักร่าเริง แต่รวิศาสะดุ้ง เงยหน้ามองผู้ชายตัวสูงที่ยืนอยู่ตรงขอบสระให้ชัด
เนื้อตัวเขายังหมาด น้ำหยดจากเรือนผมสีดำสนิทที่ค่อนข้างยุ่ง ดูเซ็กซี่...
แต่ที่ร้ายกว่านั้นคือหยดน้ำที่ไล่ลู่ลงมาตั้งแต่หน้าอก...ตามแนวไรขน...ลงสู่ท้องน้อยที่เป็นลอนมัดกล้าม สายตาเธอเผลอมองตามจนมันลับหายเข้าไปในกางเกงว่ายน้ำ...
รวิศาสะดุ้งและรีบดึงสายตาไปทางอื่นก่อนที่ตัวเองจะมองต่ำลงไปกว่านี้
ทินกรหัวเราะเบา ๆ ผู้ชายอย่างเขาอ่านสายตาผู้หญิงไม่ผิด โดยเฉพาะผู้หญิงที่ไร้เดียงสาแบบนี้
หรือต่อให้ไม่ใช่เขา มาเห็นดวงตากลมที่เบิกกว้าง ปากอ้าค้างและหน้าแดงก่ำ...
มันก็ต้องรู้ล่ะน่าว่าเธอกำลังคิดหรือกำลังรู้สึกอะไร
ทินกรนึกอยากแกล้งขึ้นมาทันที
“พี่นึกว่านางเงือกที่ไหนเสียอีก”
ทินกรย่อกายลงก้มคุยกับเธอที่เกาะขอบสระอยู่
หญิงสาวผงะถอยปล่อยมือฉับพลัน ทินกรไวกว่ารีบคว้าแขนเธอไว้ แต่รวิศาตกใจที่ถูกจับแขนก็ตีมือตีไม้ออกไปทำให้ทินกรเสียหลัก...ที่จริงเขาจะตั้งหลัก ปล่อยแขนเธอก็ยังทัน
แต่ทินกรเจ้าเล่ห์กว่านั้น เขาทำทีเป็นประคองตัวเองไม่อยู่ คะมำหน้าลงสระไป
“ว้าย!!!”
“ตูม!!”
รวิศาตกใจที่จู่ๆ ทินกรก็หล่นตูมลงมา และตกใจยิ่งกว่าเมื่อเขาทะลึ่งพรวดขึ้นจากน้ำประชิดตัวจนศีรษะเกือบจะโขกกัน
“พี่ทิน เป็นอะไรไปหรือเปล่า”
รวิศารีบถามอย่างห่วงใย ทินกรลูบหน้าเสยผม ตีหน้าซื่อ
“ก็เรานั่นแหละ ร้องเสียงดังซะพี่เสียหลักหมด”
ทินกรแกล้งว่า ก่อนจะลอยตัวเข้าไปใกล้รวิศา ใกล้...จน...เอ่อ...
ชายหนุ่มนึกไม่ถึงเลยว่า แม่สาวนักกีฬา...รวิศา...ยัยอ้วนดำที่เขาเคยเรียกเธอในยามเด็ก เมื่อมาเห็นใกล้ๆ จะรูปร่างกินขาดทุกคนที่เขาเคยเจอมา
รวิศารู้สึกหนาวๆ ร้อนๆ กับแววตาคู่นั้น ถ้าเป็นผู้ชายคนอื่นเธอคงชกหน้าไปแล้วโทษฐานที่มองเธอด้วยแววตาวาววับ แต่ด้วยสายตาชนิดเดียวกัน ไม่เคยมีใครทำให้รู้สึกแปลกๆ อย่างที่ทินกรกำลังทำให้รู้สึก รวิศารีบพุ้ยน้ำออกไปห่างจากชายหนุ่มทันที
“อ้าว! จะรีบไปไหนล่ะ ไม่ว่ายน้ำเล่นต่อเหรอ เดี๋ยวพี่ว่ายเป็นเพื่อน”
ทินกรหยอกก่อนจะหัวเราะร่าเริง รวิศาหันมาค้อนขวับ อยากขึ้นจากสระทันทีในตอนนี้ แต่รู้สึกอายสายตาคมเข้มของชายหนุ่มจนต้องย่อตัวให้พ้นน้ำมาแค่คอ
หญิงสาวไม่ได้อายสายตาของผู้ชาย...แต่เจาะจงว่าอายสายตาของทินกร หรือพี่ทิน...แค่คนเดียว
“งั้นพี่ทินขึ้นก่อนล่ะนะ มีนัดต่อ ต้องรีบไปอาบน้ำแต่งตัวแล้ว”
ทินกรเป็นฝ่ายสรุปก่อนจะดันตัวขึ้นจากขอบสระ รวิศารีบหันหลังให้ทำเป็นไม่สนใจ ทั้งที่อยากหันไปพินิจเรือนร่างที่เธอประจักษ์แก่สายตาเมื่อครู่ว่ามันแข็งแกร่ง กำยำ และน่ามองมากแค่ไหน
หญิงสาวรอจนแน่ใจว่าชายหนุ่มพ้นไปจากบริเวณนั้นแล้วจึงได้รีบขึ้นจากสระ คว้าผ้าขนหนูพันกายหลวม ๆ วิ่งเข้าห้องแต่งตัวสำหรับผู้หญิง
โดยไม่รู้เลยว่ามีสายตาคู่เดิมลอบมองมาจากมุมลับพร้อมด้วยรอยยิ้มพรายอย่างพึงพอใจ...
“วันนี้ตอนบ่ายคุณทินมีนัดกับคุณพลอยณิชชานะครับ ที่...”
ยุทธพิชัยรายงานตารางนัดหมายให้เจ้านายหนุ่มรับทราบ
“จริงด้วยว่ะ ลืมสนิทเลย”
“เป็นไปได้ยังไงครับ ที่ผู้ชายแสนดีอย่างคุณทินจะลืมนัดกับสาวสวยอย่างคุณพลอย”
ยุทธพิชัยแกล้งถามหน้าทะเล้น
“ไอ้เบื๊อกยุทธ แกนี่ชักกำเริบใหญ่แล้วนะ ฉันยังไม่ได้ชำระความกับแกเลยเรื่องที่รู้ว่ารวิศาจะมาทำงานที่นี่แต่ดันไม่รายงานให้ฉันรู้ก่อน”
“ก็คุณนายสั่งห้ามไว้ กระผมรับเงินเดือนจากคุณนาย ก็ต้องทำตามที่ท่านสั่งครับ”
เลขาฯ หนุ่มพูด ยิ้มแฉ่ง ทินกรหมั่นไส้จนต้องยกขาขึ้นตั้งท่าจะถีบ
“แต่ยัยศาก็เป็นสาวขึ้นจนฉันจำแทบไม่ได้จริงๆ ไม่น่าเชื่อว่าไม่เจอกันแค่ไม่กี่ปีจะเปลี่ยนไปขนาดนี้ แถมยังเรียนจบกีฬามาซะด้วย...”
“เท่ดีนะครับ”
ยุทธพิชัยออกความเห็น
“ฮื่อ...แปลกดี”
ทินกรตอบก่อนยกกาแฟขึ้นจิบ
คลับคล้ายคลับคลาว่าเจอรวิศาครั้งล่าสุดน่าจะเป็นตอนที่เธอเรียน ม.ปลาย หรือไม่ก็ตอนเข้ามหาวิทยาลัย...แต่ที่จำได้แจ่มชัดมากกว่ากลับเป็นตอนเด็ก ตอนที่รวิศายังเพิ่งจะ 7-8 ขวบ ตอนนั้นเธอผิวคล้ำเพราะเรียนว่ายน้ำ แต่แทนที่จะผอมเพรียวกลับตัวกลมเป็นปล้อง ทินกรกำลังเป็นวัยรุ่น เสียงเริ่มแตกหนุ่ม แข้งขายืดเก้งก้าง แต่อุปนิสัยยังคึกคะนองเหมือนเด็กๆ เขาเป็นคนแรกที่เรียก (ล้อเลียน) รวิศาว่าเป็ดดำ...
เขาโดนแม่ตีด้วยถ้าจำไม่ผิด ส่วนรวิศาตอนนั้นก็จ้องมองเขาเหมือนว่าถ้ากระโดดทับให้แบนได้ก็คงทำไปแล้ว
ชายหนุ่มนึกถึงวัยเด็กแล้วก็หัวเราะเบาๆ
“หัวเราะอะไรหรือครับคุณทิน”
ยุทธพิชัยยื่นหน้าถาม
“ไม่รู้สักเรื่องนี่จะตายมั้ยไอ้ยุทธ”
เลขาฯ หนุ่มหัวเราะแห้งๆ
“แกไม่จำเป็นต้องสอดรู้สอดเห็นฉันทุกเรื่องหรอกนะเพราะถึงยังไงแม่ฉันก็จ่ายเงินเดือนแกเต็มๆ อยู่แล้ว แต่ถ้าแกทำหน้าที่ดีเกินไปน่ะสิ...ไม่แน่ว่าฉันจะนึกรำคาญจนอยากเปลี่ยนเลขาฯ ส่วนตัวใหม่ มีสาวๆ มากมายอยากทำงานนี้นะ...”
ทินกรขู่ ยุทธพิชัยทำคอย่น
“โถ่...อย่าถือสาไอ้ยุทธเลยครับคุณทิน ผมไม่เสือ...เอ๊ย ไม่สอดรู้แล้วก็ได้ครับ”
“เออ ดี”
“งั้นให้ผมคอนเฟิร์มนัดกับเลขาฯ คุณพลอยเลยนะครับ”
“ก็เออสิ”
ยุทธพิชัยรีบจัดการหน้าที่ตัวเองอย่างเสร็จสรรพ
การงานของทินกรไม่ได้มากมายก่ายกองอะไรนัก เพราะทายาทคนเดียวของธีระธารรีสอร์ตยังใช้ชีวิตแบบหนุ่มเจ้าสำราญมากกว่าทุ่มเททำงาน
แต่นราวดีจงใจแต่งตั้งให้ยุทธพิชัยมาเป็นเลขาส่วนตัวให้บุตรชายคนเดียว เพราะอย่างน้อยก็จะมีคนเตือนความจำทินกรได้บ้างว่าเขาควรทำอะไร และต้องทำอะไร
ทินกรก็ไม่ได้ดื้อมากนักหรอก เขาออกเป็นคนสบายๆ ใครอยู่ด้วยก็มีความสุขเพราะชายหนุ่มใจกว้างและขึ้นชื่อเรื่องความใจดี
ยุทธพิชัยเป็นบุตรคนเดียวของคนขับรถประจำตัวของพ่อและแม่ของทินกร วิ่งเล่นมาด้วยกันกับลูกเจ้านายตั้งแต่จำความได้ จนเมื่อพ่อของเขาจากไปด้วยโรคมะเร็ง ยุทธพิชัยก็เรียกได้ว่าไร้ญาติขาดมิตร คุณนราวดีเมตตาให้ที่อยู่ที่กิน ให้ทำงานในรีสอร์ต และยังส่งเสียจนยุทธพิชัยเรียนจบปริญญาตรี
ตลอดเวลาที่เรียน ยุทธพิชัยตั้งใจทั้งเรียนและทำงานเพราะต้องการตอบแทนบุญคุณของคุณนราวดีหรือที่ใครต่อใครเรียกชื่อเล่นของหล่อนว่าคุณนาย...
เขาคิดว่าเมื่อจบปริญญาตรีอาจได้ตำแหน่งที่สูงขึ้น เงินเดือนมากขึ้นอีกนิดหน่อยซึ่งนั่นก็พอใจมากแล้ว แต่ยุทธพิชัยกลับได้เป็นผู้ช่วยส่วนตัวของทายาทคนเดียวของธีระธาร...
ชายหนุ่มตื้นตันไม่เพียงเพราะได้รับความไว้วางใจ แต่ความที่คุณทินกรเป็นคนง่าย ๆ สนุกสนานและติดดิน การได้ทำงานกับทินกรจึงถือว่าเป็นความโชคดีที่หาได้ยากยิ่ง
สวนอาหารชื่อดังกลางเมืองปราจีนบุรี...
“ขอโทษที่มาช้านะทิน กว่าจะปลีกตัวออกจากห้องประชุมมาได้...ยุ่งจริง ๆ”
พลอยณิชชาเอ่ยเป็นประโยคแรกหลังจากหย่อนตัวนั่งบนเก้าอี้ที่พนักงานเลื่อนให้
“งานหนักหรือพลอยช่วงนี้” ทินกรถามอย่างสนิทสนม
“ใช่ พลอยกำลังจะขยายสาขาใหม่”
เธอหมายถึงสถานเสริมความงามที่มีเธอเองเป็นพรีเซ็นเตอร์ “พลอยณิชชาบิวตี้” ได้รับความนิยมจากสาวน้อยสาวใหญ่ทั่วเมืองปราจีนฯ และใกล้เคียง
บริการดี ราคาไม่สูง อีกทั้งคุณภาพก็ไม่ต่างจากคลินิกชื่อดังในกรุงเทพฯ
หญิงสาวเป็นคนรักสวยรักงามมาตั้งแต่เริ่มแตกเนื้อสาว และก็นำความชอบของตัวเองมาทำให้เป็นธุรกิจ
บวกกับความสวย ขาว และอึ๋มที่ได้มาแต่ท้องพ่อท้องแม่ทำให้ธุรกิจของเธอเป็นที่น่าเชื่อถือและกิจการรุ่งเรืองภายในเวลาไม่กี่ปี
นอกจากสวย และเจ้าเสน่ห์ เธอยังเพียบพร้อมไปด้วยทรัพย์สมบัติ
ที่น่าภูมิใจคือเธอหาได้เองโดยไม่จำเป็นต้องใช้ผู้ชายเป็นสะพานเหมือนที่คนทั่วไปชอบซุบซิบนินทา
“ขยันจังนะพลอย มีเวลาพักผ่อนหรืออย่างนี้”
“แหม...ก็พลอยไม่ได้รวยเหมือนทิน ก็ต้องงกกันหน่อย"
พลอยณิชชากับทินกรรู้จักกันมาตั้งแตสมัยเรียนเพราะต่างเป็นคนท้องถิ่นทั้งคู่ ทั้งคู่จีบกันไปเกี้ยวกันมาแต่ไม่เคยคบหากันจริงจัง
จนกระทั่งเมื่อสามปีก่อนที่พลอยณิชชาแต่งงานกับเพื่อนร่วมรุ่นอีกคนที่ทินกรก็รู้จักดี... ร.ต.อ.ชเยนทร์ คฑาพิสุทธิ์ นายตำรวจหนุ่มหล่อหน้าเข้มอนาคตไกล
และเมื่อไม่กี่เดือนก่อน ก็เป็นข่าวใหญ่ในวงสังคมเล็ก ๆ ของจังหวัดเมื่อทั้งคู่หย่าขาดจากกัน โดยไม่มีใครรู้สาเหตุ
ได้แต่ใส่สีตีไข่กันไปสารพัดตามแต่ความคะนองของปาก
ทินกรก็ไม่เคยเอ่ยถึงเรื่องนี้ เพราะถือเป็นเรื่องส่วนตัว แม้ทั้งคู่จะถือได้ว่าเป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนกันมา...
“ที่อยากคุยกับทินวันนี้ก็เรื่องธุรกิจนี่ล่ะค่ะ พลอยอยากขอเช่าพื้นที่โรงแรมของทิน แล้วก็อยากจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย เช่น พักที่ธีรธารารีสอร์ต ได้บัตรส่วนลดคอร์สความงามของพลอยณิชชาบิวตี้...ดีไหมคะ”
“ก็น่าสนใจนะฮะ ไว้ผมจะนัดฝ่ายการตลาดให้มาคุยรายละเอียดอีกที”
“ง่าย ๆ อย่างนี้เลยหรือคะ”
พลอยณิชชาเลิกคิ้ว
“ก็ไม่มีอะไรยากนี่ฮะพลอย...ผมเบื่อจะคุยเรื่องงานจะตาย เจอคุณทั้งที่อยากคุยเรื่องอื่นมากกว่า”
ม่ายสาวอมยิ้ม ส่ายหน้า
“ทำไมชอบทำตัวเหลวไหลนักคะ คุณทินกร”
“เฉพาะเวลาอยู่กับพลอยเท่านั้นแหละ”
ทินกรหยอดอีก...
แต่ใครจะเชื่อว่าเธอกับคาสโนว่าอย่างทินกร จะยังไม่เคยมีสัมพันธ์ลึกซึ้งต่อกัน
ได้เพียงจีบกันไป หยอดกันมา ตั้งแต่สมัยเรียนแล้ว
“ทินรู้จักคลับพาลาสโซ่มั้ยคะ ที่เพิ่งเปิดใหม่ ที่นั่นบรรยากาศดีมาก อาหารก็อร่อย ดนตรีก็ไพเราะใช้ได้ทีเดียว”
“เคยได้ยินเหมือนกัน คงต้องให้พลอยพาไป วันนี้เลยเป็นไง”
โทรศัพท์มือถือดังขึ้นขัดจังหวะ ชายหนุ่มเอ่ยขอโทษพลอยณิชชาตามประสาคนมีมารยาทก่อนจะรับสาย
“คุณทินครับ ผมยุทธเองครับ”
เสียงทะเล้นดังมาตามสาย
“เออรู้แล้ว มีอะไรว่ามา”
“ขอโทษนะครับที่ต้องขัดความสุขของคุณทินกะทันหัน”
“ไอ้นี่...มีอะไรก็รีบๆ ว่ามาสิวะ พูดมากอยู่ได้”
“คุณนายให้ผมบอกคุณทินว่า เย็นนี้อย่าลืมกลับไปกินข้าวเย็นที่บ้าน...ผมหมายถึงที่โรงแรมของเรานะฮะ”
“ทำไม? แม่มีธุระอะไรกับฉัน”
ทินกรแปลกใจ เพราะร้อยวันพันปีแม่ไม่เคยมีคำสั่งอะไรแบบนี้กับเขา เขาจะกินข้าวที่ไหน ค้างคืนที่ไหน ยังไง กับใคร...ไม่เห็นแม่เคยก้าวก่ายสักที
“ก็วันนี้คุณนายไม่อยู่นี่ฮะ เข้ากรุงเทพฯ”
“แล้วยังไง?”
“คุณนายไม่อยากให้คุณศากินข้าวคนเดียวฮะ กลัวเธอเหงา”
ทินกรอึ้งไป...
เขาลืมไปเลยว่าตอนนี้ที่รีสอร์ตของเขามีสาวน้อยมาเป็นสมาชิกใหม่...
เขานี่เป็นผู้ชายที่ไม่ได้เรื่องจริงๆ อยู่กับผู้หญิงอีกคน ก็ลืมอีกคนเสียสนิท
กระนั้นก็ยังตอบกลับไปว่า
“แล้วยังไงล่ะ ยัยศาโตแล้วนะไม่ใช่เด็กแปดขวบเหมือนเมื่อก่อน แกก็เฝ้ารีสอร์ตอยู่นี่หว่า ก็ไปกินข้าวเป็นเพื่อนน้องสาวฉันหน่อยละกัน เท่านี้นะ กำลังยุ่ง”
ว่าแล้วก็ตัดสายอย่างไม่มีเยื่อใย
“ถ้าวันนี้ทินไม่สะดวก เป็นคราวหน้าก็ได้นะคะ”
พลอยณิชชาเอ่ยเรียบ ๆ ใบหน้าสวยงามด้วยเครื่องสำอางชั้นเลิศยังคงระบายยิ้มอ่อน ๆ
“คงต้องเป็นอย่างนั้นแล้วล่ะครับ ไอ้ยุทธนี่ยุ่งจริงๆ” ทินกรแกล้งบ่น ทั้งคู่รับประทานอาหารกลางวันเสร็จเรียบร้อยก็พากันกลับ
เมื่อกำลังจะเดินพ้นประตูร้าน ลูกค้าคู่ใหม่ก็เดินสวนเข้ามาพอดี
ไม่แปลกหากเมืองเล็ก ๆ แห่งนี้ ลูกค้าที่มาใหม่จะเป็นคนรู้จักกับทั้งพลอยณิชชาและทินกร
เพียงแต่บังเอิญไปสักนิด ที่แขกคู่ใหม่ที่เดินสวนเข้ามานั้น คนหนึ่งเป็นหญิงสาวท่าทางน่ารักที่ไม่คุ้นหน้า แต่อีกคนคือ ร.ต.อ.ชเยนทร์ อดีตสามีของพลอยณิชชา
ม่ายสาวรีบสอดแขนควงทินกร เมินหน้าไม่ทักทายอดีตสามี ขณะที่ทินกรทักทายพอเป็นพิธี...ชายหนุ่มสังเกตว่านายตำรวจหนุ่มหน้าเข้มก็ไม่ปรายตาไปทางอดีตภรรยาเช่นกัน
เพิ่งรู้ว่าทั้งคู่เลิกรากันแบบไม่ค่อยดีนัก ไม่อย่างนั้นคงไม่หมางเมินกันถึงเพียงนี้...
แต่สิ่งหนึ่งที่ทินกรพอจะเดาได้จากอากัปกิริยาของพลอยณิชชา ถ้าเขาเดาไม่ผิด ก็คือเธอน่าจะยังมีเยื่อใยให้ชเยนทร์อยู่เหมือนกัน...
#########
มีจำหน่ายในรูปแบบอีบุ๊คส์แล้วค่าาโหลดได้แล้ววันนี้ Link: http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiNjczODExIjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NToiOTk3ODUiO30
ปกติเขาจะออกกำลังกายยามเช้าด้วยการวิ่งครั้งละสิบกิโลเมตร และว่ายน้ำในตอนค่ำที่ไร้แดด แต่วันนี้นึกครึ้มใจอยากว่ายน้ำตั้งแต่เช้า เปลี่ยนกางเกงและล้างเนื้อล้างตัวใต้ฝักบัวที่ตั้งอยู่ริมสระ วอร์มอัพร่างกายก่อนจะกระโดดลงว่ายฟรีสไตล์แบบนับรอบ
45 นาทีต่อมาก็ว่ายกลับขึ้นฝั่ง
ชายหนุ่มเป็นคนดูแลสุขภาพร่างกายของตัวเองเป็นอย่างมาก ไม่เพียงโชคดีที่เกิดมาหน้าตาหล่อเหลา แต่รูปกายที่สูงสง่าของเขายังประกอบไปด้วยมัดกล้ามแข็งแรงอย่างที่ผู้ชายหลายคนอิจฉา และผู้หญิงก็ต้องหลงใหล
“นางเงือกที่ไหนวะ ท่าสวยเป็นบ้า สงสัยเป็นนักกีฬาเสียล่ะมั้ง”
เขาเพิ่งสังเกตว่ามีเพื่อนร่วมสระเพิ่มมาอีกหนึ่งคน
รวิศาเองก็ไม่ทันสังเกตหรอกว่าคนที่ว่ายน้ำอยู่ก่อนแล้วในเวลาค่อนข้างเช้านี้เป็นใคร เธอคิดว่าเป็นแขกคนหนึ่งของโรงแรม...
จนเมื่อหญิงสาวชะลอจังหวะของตัวเองลงและค่อย ๆ พยุงตัวตีน้ำแบบผ่อนคลายมาที่ขอบสระ ถอดแว่นตาว่ายน้ำออกและลูบหน้าลูบตาตัวเอง
ทินกรจึงเห็นเต็มตาว่าคนที่เขานึกชมว่าท่าว่ายสวย แท้จริงแล้วคือใคร
“ยัยศา...”
ทินกรทักร่าเริง แต่รวิศาสะดุ้ง เงยหน้ามองผู้ชายตัวสูงที่ยืนอยู่ตรงขอบสระให้ชัด
เนื้อตัวเขายังหมาด น้ำหยดจากเรือนผมสีดำสนิทที่ค่อนข้างยุ่ง ดูเซ็กซี่...
แต่ที่ร้ายกว่านั้นคือหยดน้ำที่ไล่ลู่ลงมาตั้งแต่หน้าอก...ตามแนวไรขน...ลงสู่ท้องน้อยที่เป็นลอนมัดกล้าม สายตาเธอเผลอมองตามจนมันลับหายเข้าไปในกางเกงว่ายน้ำ...
รวิศาสะดุ้งและรีบดึงสายตาไปทางอื่นก่อนที่ตัวเองจะมองต่ำลงไปกว่านี้
ทินกรหัวเราะเบา ๆ ผู้ชายอย่างเขาอ่านสายตาผู้หญิงไม่ผิด โดยเฉพาะผู้หญิงที่ไร้เดียงสาแบบนี้
หรือต่อให้ไม่ใช่เขา มาเห็นดวงตากลมที่เบิกกว้าง ปากอ้าค้างและหน้าแดงก่ำ...
มันก็ต้องรู้ล่ะน่าว่าเธอกำลังคิดหรือกำลังรู้สึกอะไร
ทินกรนึกอยากแกล้งขึ้นมาทันที
“พี่นึกว่านางเงือกที่ไหนเสียอีก”
ทินกรย่อกายลงก้มคุยกับเธอที่เกาะขอบสระอยู่
หญิงสาวผงะถอยปล่อยมือฉับพลัน ทินกรไวกว่ารีบคว้าแขนเธอไว้ แต่รวิศาตกใจที่ถูกจับแขนก็ตีมือตีไม้ออกไปทำให้ทินกรเสียหลัก...ที่จริงเขาจะตั้งหลัก ปล่อยแขนเธอก็ยังทัน
แต่ทินกรเจ้าเล่ห์กว่านั้น เขาทำทีเป็นประคองตัวเองไม่อยู่ คะมำหน้าลงสระไป
“ว้าย!!!”
“ตูม!!”
รวิศาตกใจที่จู่ๆ ทินกรก็หล่นตูมลงมา และตกใจยิ่งกว่าเมื่อเขาทะลึ่งพรวดขึ้นจากน้ำประชิดตัวจนศีรษะเกือบจะโขกกัน
“พี่ทิน เป็นอะไรไปหรือเปล่า”
รวิศารีบถามอย่างห่วงใย ทินกรลูบหน้าเสยผม ตีหน้าซื่อ
“ก็เรานั่นแหละ ร้องเสียงดังซะพี่เสียหลักหมด”
ทินกรแกล้งว่า ก่อนจะลอยตัวเข้าไปใกล้รวิศา ใกล้...จน...เอ่อ...
ชายหนุ่มนึกไม่ถึงเลยว่า แม่สาวนักกีฬา...รวิศา...ยัยอ้วนดำที่เขาเคยเรียกเธอในยามเด็ก เมื่อมาเห็นใกล้ๆ จะรูปร่างกินขาดทุกคนที่เขาเคยเจอมา
รวิศารู้สึกหนาวๆ ร้อนๆ กับแววตาคู่นั้น ถ้าเป็นผู้ชายคนอื่นเธอคงชกหน้าไปแล้วโทษฐานที่มองเธอด้วยแววตาวาววับ แต่ด้วยสายตาชนิดเดียวกัน ไม่เคยมีใครทำให้รู้สึกแปลกๆ อย่างที่ทินกรกำลังทำให้รู้สึก รวิศารีบพุ้ยน้ำออกไปห่างจากชายหนุ่มทันที
“อ้าว! จะรีบไปไหนล่ะ ไม่ว่ายน้ำเล่นต่อเหรอ เดี๋ยวพี่ว่ายเป็นเพื่อน”
ทินกรหยอกก่อนจะหัวเราะร่าเริง รวิศาหันมาค้อนขวับ อยากขึ้นจากสระทันทีในตอนนี้ แต่รู้สึกอายสายตาคมเข้มของชายหนุ่มจนต้องย่อตัวให้พ้นน้ำมาแค่คอ
หญิงสาวไม่ได้อายสายตาของผู้ชาย...แต่เจาะจงว่าอายสายตาของทินกร หรือพี่ทิน...แค่คนเดียว
“งั้นพี่ทินขึ้นก่อนล่ะนะ มีนัดต่อ ต้องรีบไปอาบน้ำแต่งตัวแล้ว”
ทินกรเป็นฝ่ายสรุปก่อนจะดันตัวขึ้นจากขอบสระ รวิศารีบหันหลังให้ทำเป็นไม่สนใจ ทั้งที่อยากหันไปพินิจเรือนร่างที่เธอประจักษ์แก่สายตาเมื่อครู่ว่ามันแข็งแกร่ง กำยำ และน่ามองมากแค่ไหน
หญิงสาวรอจนแน่ใจว่าชายหนุ่มพ้นไปจากบริเวณนั้นแล้วจึงได้รีบขึ้นจากสระ คว้าผ้าขนหนูพันกายหลวม ๆ วิ่งเข้าห้องแต่งตัวสำหรับผู้หญิง
โดยไม่รู้เลยว่ามีสายตาคู่เดิมลอบมองมาจากมุมลับพร้อมด้วยรอยยิ้มพรายอย่างพึงพอใจ...
“วันนี้ตอนบ่ายคุณทินมีนัดกับคุณพลอยณิชชานะครับ ที่...”
ยุทธพิชัยรายงานตารางนัดหมายให้เจ้านายหนุ่มรับทราบ
“จริงด้วยว่ะ ลืมสนิทเลย”
“เป็นไปได้ยังไงครับ ที่ผู้ชายแสนดีอย่างคุณทินจะลืมนัดกับสาวสวยอย่างคุณพลอย”
ยุทธพิชัยแกล้งถามหน้าทะเล้น
“ไอ้เบื๊อกยุทธ แกนี่ชักกำเริบใหญ่แล้วนะ ฉันยังไม่ได้ชำระความกับแกเลยเรื่องที่รู้ว่ารวิศาจะมาทำงานที่นี่แต่ดันไม่รายงานให้ฉันรู้ก่อน”
“ก็คุณนายสั่งห้ามไว้ กระผมรับเงินเดือนจากคุณนาย ก็ต้องทำตามที่ท่านสั่งครับ”
เลขาฯ หนุ่มพูด ยิ้มแฉ่ง ทินกรหมั่นไส้จนต้องยกขาขึ้นตั้งท่าจะถีบ
“แต่ยัยศาก็เป็นสาวขึ้นจนฉันจำแทบไม่ได้จริงๆ ไม่น่าเชื่อว่าไม่เจอกันแค่ไม่กี่ปีจะเปลี่ยนไปขนาดนี้ แถมยังเรียนจบกีฬามาซะด้วย...”
“เท่ดีนะครับ”
ยุทธพิชัยออกความเห็น
“ฮื่อ...แปลกดี”
ทินกรตอบก่อนยกกาแฟขึ้นจิบ
คลับคล้ายคลับคลาว่าเจอรวิศาครั้งล่าสุดน่าจะเป็นตอนที่เธอเรียน ม.ปลาย หรือไม่ก็ตอนเข้ามหาวิทยาลัย...แต่ที่จำได้แจ่มชัดมากกว่ากลับเป็นตอนเด็ก ตอนที่รวิศายังเพิ่งจะ 7-8 ขวบ ตอนนั้นเธอผิวคล้ำเพราะเรียนว่ายน้ำ แต่แทนที่จะผอมเพรียวกลับตัวกลมเป็นปล้อง ทินกรกำลังเป็นวัยรุ่น เสียงเริ่มแตกหนุ่ม แข้งขายืดเก้งก้าง แต่อุปนิสัยยังคึกคะนองเหมือนเด็กๆ เขาเป็นคนแรกที่เรียก (ล้อเลียน) รวิศาว่าเป็ดดำ...
เขาโดนแม่ตีด้วยถ้าจำไม่ผิด ส่วนรวิศาตอนนั้นก็จ้องมองเขาเหมือนว่าถ้ากระโดดทับให้แบนได้ก็คงทำไปแล้ว
ชายหนุ่มนึกถึงวัยเด็กแล้วก็หัวเราะเบาๆ
“หัวเราะอะไรหรือครับคุณทิน”
ยุทธพิชัยยื่นหน้าถาม
“ไม่รู้สักเรื่องนี่จะตายมั้ยไอ้ยุทธ”
เลขาฯ หนุ่มหัวเราะแห้งๆ
“แกไม่จำเป็นต้องสอดรู้สอดเห็นฉันทุกเรื่องหรอกนะเพราะถึงยังไงแม่ฉันก็จ่ายเงินเดือนแกเต็มๆ อยู่แล้ว แต่ถ้าแกทำหน้าที่ดีเกินไปน่ะสิ...ไม่แน่ว่าฉันจะนึกรำคาญจนอยากเปลี่ยนเลขาฯ ส่วนตัวใหม่ มีสาวๆ มากมายอยากทำงานนี้นะ...”
ทินกรขู่ ยุทธพิชัยทำคอย่น
“โถ่...อย่าถือสาไอ้ยุทธเลยครับคุณทิน ผมไม่เสือ...เอ๊ย ไม่สอดรู้แล้วก็ได้ครับ”
“เออ ดี”
“งั้นให้ผมคอนเฟิร์มนัดกับเลขาฯ คุณพลอยเลยนะครับ”
“ก็เออสิ”
ยุทธพิชัยรีบจัดการหน้าที่ตัวเองอย่างเสร็จสรรพ
การงานของทินกรไม่ได้มากมายก่ายกองอะไรนัก เพราะทายาทคนเดียวของธีระธารรีสอร์ตยังใช้ชีวิตแบบหนุ่มเจ้าสำราญมากกว่าทุ่มเททำงาน
แต่นราวดีจงใจแต่งตั้งให้ยุทธพิชัยมาเป็นเลขาส่วนตัวให้บุตรชายคนเดียว เพราะอย่างน้อยก็จะมีคนเตือนความจำทินกรได้บ้างว่าเขาควรทำอะไร และต้องทำอะไร
ทินกรก็ไม่ได้ดื้อมากนักหรอก เขาออกเป็นคนสบายๆ ใครอยู่ด้วยก็มีความสุขเพราะชายหนุ่มใจกว้างและขึ้นชื่อเรื่องความใจดี
ยุทธพิชัยเป็นบุตรคนเดียวของคนขับรถประจำตัวของพ่อและแม่ของทินกร วิ่งเล่นมาด้วยกันกับลูกเจ้านายตั้งแต่จำความได้ จนเมื่อพ่อของเขาจากไปด้วยโรคมะเร็ง ยุทธพิชัยก็เรียกได้ว่าไร้ญาติขาดมิตร คุณนราวดีเมตตาให้ที่อยู่ที่กิน ให้ทำงานในรีสอร์ต และยังส่งเสียจนยุทธพิชัยเรียนจบปริญญาตรี
ตลอดเวลาที่เรียน ยุทธพิชัยตั้งใจทั้งเรียนและทำงานเพราะต้องการตอบแทนบุญคุณของคุณนราวดีหรือที่ใครต่อใครเรียกชื่อเล่นของหล่อนว่าคุณนาย...
เขาคิดว่าเมื่อจบปริญญาตรีอาจได้ตำแหน่งที่สูงขึ้น เงินเดือนมากขึ้นอีกนิดหน่อยซึ่งนั่นก็พอใจมากแล้ว แต่ยุทธพิชัยกลับได้เป็นผู้ช่วยส่วนตัวของทายาทคนเดียวของธีระธาร...
ชายหนุ่มตื้นตันไม่เพียงเพราะได้รับความไว้วางใจ แต่ความที่คุณทินกรเป็นคนง่าย ๆ สนุกสนานและติดดิน การได้ทำงานกับทินกรจึงถือว่าเป็นความโชคดีที่หาได้ยากยิ่ง
สวนอาหารชื่อดังกลางเมืองปราจีนบุรี...
“ขอโทษที่มาช้านะทิน กว่าจะปลีกตัวออกจากห้องประชุมมาได้...ยุ่งจริง ๆ”
พลอยณิชชาเอ่ยเป็นประโยคแรกหลังจากหย่อนตัวนั่งบนเก้าอี้ที่พนักงานเลื่อนให้
“งานหนักหรือพลอยช่วงนี้” ทินกรถามอย่างสนิทสนม
“ใช่ พลอยกำลังจะขยายสาขาใหม่”
เธอหมายถึงสถานเสริมความงามที่มีเธอเองเป็นพรีเซ็นเตอร์ “พลอยณิชชาบิวตี้” ได้รับความนิยมจากสาวน้อยสาวใหญ่ทั่วเมืองปราจีนฯ และใกล้เคียง
บริการดี ราคาไม่สูง อีกทั้งคุณภาพก็ไม่ต่างจากคลินิกชื่อดังในกรุงเทพฯ
หญิงสาวเป็นคนรักสวยรักงามมาตั้งแต่เริ่มแตกเนื้อสาว และก็นำความชอบของตัวเองมาทำให้เป็นธุรกิจ
บวกกับความสวย ขาว และอึ๋มที่ได้มาแต่ท้องพ่อท้องแม่ทำให้ธุรกิจของเธอเป็นที่น่าเชื่อถือและกิจการรุ่งเรืองภายในเวลาไม่กี่ปี
นอกจากสวย และเจ้าเสน่ห์ เธอยังเพียบพร้อมไปด้วยทรัพย์สมบัติ
ที่น่าภูมิใจคือเธอหาได้เองโดยไม่จำเป็นต้องใช้ผู้ชายเป็นสะพานเหมือนที่คนทั่วไปชอบซุบซิบนินทา
“ขยันจังนะพลอย มีเวลาพักผ่อนหรืออย่างนี้”
“แหม...ก็พลอยไม่ได้รวยเหมือนทิน ก็ต้องงกกันหน่อย"
พลอยณิชชากับทินกรรู้จักกันมาตั้งแตสมัยเรียนเพราะต่างเป็นคนท้องถิ่นทั้งคู่ ทั้งคู่จีบกันไปเกี้ยวกันมาแต่ไม่เคยคบหากันจริงจัง
จนกระทั่งเมื่อสามปีก่อนที่พลอยณิชชาแต่งงานกับเพื่อนร่วมรุ่นอีกคนที่ทินกรก็รู้จักดี... ร.ต.อ.ชเยนทร์ คฑาพิสุทธิ์ นายตำรวจหนุ่มหล่อหน้าเข้มอนาคตไกล
และเมื่อไม่กี่เดือนก่อน ก็เป็นข่าวใหญ่ในวงสังคมเล็ก ๆ ของจังหวัดเมื่อทั้งคู่หย่าขาดจากกัน โดยไม่มีใครรู้สาเหตุ
ได้แต่ใส่สีตีไข่กันไปสารพัดตามแต่ความคะนองของปาก
ทินกรก็ไม่เคยเอ่ยถึงเรื่องนี้ เพราะถือเป็นเรื่องส่วนตัว แม้ทั้งคู่จะถือได้ว่าเป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนกันมา...
“ที่อยากคุยกับทินวันนี้ก็เรื่องธุรกิจนี่ล่ะค่ะ พลอยอยากขอเช่าพื้นที่โรงแรมของทิน แล้วก็อยากจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย เช่น พักที่ธีรธารารีสอร์ต ได้บัตรส่วนลดคอร์สความงามของพลอยณิชชาบิวตี้...ดีไหมคะ”
“ก็น่าสนใจนะฮะ ไว้ผมจะนัดฝ่ายการตลาดให้มาคุยรายละเอียดอีกที”
“ง่าย ๆ อย่างนี้เลยหรือคะ”
พลอยณิชชาเลิกคิ้ว
“ก็ไม่มีอะไรยากนี่ฮะพลอย...ผมเบื่อจะคุยเรื่องงานจะตาย เจอคุณทั้งที่อยากคุยเรื่องอื่นมากกว่า”
ม่ายสาวอมยิ้ม ส่ายหน้า
“ทำไมชอบทำตัวเหลวไหลนักคะ คุณทินกร”
“เฉพาะเวลาอยู่กับพลอยเท่านั้นแหละ”
ทินกรหยอดอีก...
แต่ใครจะเชื่อว่าเธอกับคาสโนว่าอย่างทินกร จะยังไม่เคยมีสัมพันธ์ลึกซึ้งต่อกัน
ได้เพียงจีบกันไป หยอดกันมา ตั้งแต่สมัยเรียนแล้ว
“ทินรู้จักคลับพาลาสโซ่มั้ยคะ ที่เพิ่งเปิดใหม่ ที่นั่นบรรยากาศดีมาก อาหารก็อร่อย ดนตรีก็ไพเราะใช้ได้ทีเดียว”
“เคยได้ยินเหมือนกัน คงต้องให้พลอยพาไป วันนี้เลยเป็นไง”
โทรศัพท์มือถือดังขึ้นขัดจังหวะ ชายหนุ่มเอ่ยขอโทษพลอยณิชชาตามประสาคนมีมารยาทก่อนจะรับสาย
“คุณทินครับ ผมยุทธเองครับ”
เสียงทะเล้นดังมาตามสาย
“เออรู้แล้ว มีอะไรว่ามา”
“ขอโทษนะครับที่ต้องขัดความสุขของคุณทินกะทันหัน”
“ไอ้นี่...มีอะไรก็รีบๆ ว่ามาสิวะ พูดมากอยู่ได้”
“คุณนายให้ผมบอกคุณทินว่า เย็นนี้อย่าลืมกลับไปกินข้าวเย็นที่บ้าน...ผมหมายถึงที่โรงแรมของเรานะฮะ”
“ทำไม? แม่มีธุระอะไรกับฉัน”
ทินกรแปลกใจ เพราะร้อยวันพันปีแม่ไม่เคยมีคำสั่งอะไรแบบนี้กับเขา เขาจะกินข้าวที่ไหน ค้างคืนที่ไหน ยังไง กับใคร...ไม่เห็นแม่เคยก้าวก่ายสักที
“ก็วันนี้คุณนายไม่อยู่นี่ฮะ เข้ากรุงเทพฯ”
“แล้วยังไง?”
“คุณนายไม่อยากให้คุณศากินข้าวคนเดียวฮะ กลัวเธอเหงา”
ทินกรอึ้งไป...
เขาลืมไปเลยว่าตอนนี้ที่รีสอร์ตของเขามีสาวน้อยมาเป็นสมาชิกใหม่...
เขานี่เป็นผู้ชายที่ไม่ได้เรื่องจริงๆ อยู่กับผู้หญิงอีกคน ก็ลืมอีกคนเสียสนิท
กระนั้นก็ยังตอบกลับไปว่า
“แล้วยังไงล่ะ ยัยศาโตแล้วนะไม่ใช่เด็กแปดขวบเหมือนเมื่อก่อน แกก็เฝ้ารีสอร์ตอยู่นี่หว่า ก็ไปกินข้าวเป็นเพื่อนน้องสาวฉันหน่อยละกัน เท่านี้นะ กำลังยุ่ง”
ว่าแล้วก็ตัดสายอย่างไม่มีเยื่อใย
“ถ้าวันนี้ทินไม่สะดวก เป็นคราวหน้าก็ได้นะคะ”
พลอยณิชชาเอ่ยเรียบ ๆ ใบหน้าสวยงามด้วยเครื่องสำอางชั้นเลิศยังคงระบายยิ้มอ่อน ๆ
“คงต้องเป็นอย่างนั้นแล้วล่ะครับ ไอ้ยุทธนี่ยุ่งจริงๆ” ทินกรแกล้งบ่น ทั้งคู่รับประทานอาหารกลางวันเสร็จเรียบร้อยก็พากันกลับ
เมื่อกำลังจะเดินพ้นประตูร้าน ลูกค้าคู่ใหม่ก็เดินสวนเข้ามาพอดี
ไม่แปลกหากเมืองเล็ก ๆ แห่งนี้ ลูกค้าที่มาใหม่จะเป็นคนรู้จักกับทั้งพลอยณิชชาและทินกร
เพียงแต่บังเอิญไปสักนิด ที่แขกคู่ใหม่ที่เดินสวนเข้ามานั้น คนหนึ่งเป็นหญิงสาวท่าทางน่ารักที่ไม่คุ้นหน้า แต่อีกคนคือ ร.ต.อ.ชเยนทร์ อดีตสามีของพลอยณิชชา
ม่ายสาวรีบสอดแขนควงทินกร เมินหน้าไม่ทักทายอดีตสามี ขณะที่ทินกรทักทายพอเป็นพิธี...ชายหนุ่มสังเกตว่านายตำรวจหนุ่มหน้าเข้มก็ไม่ปรายตาไปทางอดีตภรรยาเช่นกัน
เพิ่งรู้ว่าทั้งคู่เลิกรากันแบบไม่ค่อยดีนัก ไม่อย่างนั้นคงไม่หมางเมินกันถึงเพียงนี้...
แต่สิ่งหนึ่งที่ทินกรพอจะเดาได้จากอากัปกิริยาของพลอยณิชชา ถ้าเขาเดาไม่ผิด ก็คือเธอน่าจะยังมีเยื่อใยให้ชเยนทร์อยู่เหมือนกัน...
#########
มีจำหน่ายในรูปแบบอีบุ๊คส์แล้วค่าาโหลดได้แล้ววันนี้ Link: http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiNjczODExIjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NToiOTk3ODUiO30
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ