จอมใจคาสโนว่า

-

เขียนโดย GUEST1563906409

วันที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 เวลา 01.31 น.

  6 ตอน
  1 วิจารณ์
  6,371 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 01.36 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

3) เด็กในปกครอง

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

าไปไหน ใครเห็นบ้าง”

ทินกรเดินดุ่มเข้าไปถามถึงในครัวของรีสอร์ตเพราะเลยเวลาอาหารเย็นมาเกือบสิบนาทีแล้วแต่เขาก็ยังไม่เห็นเงาของยัยเด็กคนนั้น

เขาอุตส่าห์กลับมากินข้าวเป็นเพื่อนรวิศาตามคำสั่งประกาศิตของคุณนายแม่ แต่ดูเถอะ...เขาบึ่งรถกลับมาและนั่งรอในห้องอาหารของรีสอร์ตอยู่เป็นนาน กลับไม่เห็นวี่แววของใครสักคน ทั้งรวิศาและยุทธพิชัย ซึ่งคนหลังนั่นโทรไปเท่าไรก็ไม่ติด

"อ้าว! คุณธิน วันนี้มาถึงในครัวเลยหรือคะ"

ป้านวลหัวหน้าแม่ครัวหันมาเห็น ร้องทัก

"ผมมาหาศาครับป้า... ไหนไอ้ยุทธบอกว่ามากินข้าวที่นี่"

“อ๋อ...วันนี้คุณศาเธอขอให้ยกไปให้ที่บ้านค่ะ”

ป้านวลหมายถึงเรือนพักส่วนตัวของรวิศา

“อ้าวเหรอ เห็นปกติชอบมานั่งกินในห้องอาหาร”

"วันนี้คงอยากเปลี่ยนบรรยากาศมังคะ นี่ป้าก็เพิ่งทำแกงเผ็ดเสร็จว่าจะให้เด็กยกไปให้เพิ่ม คุณศาแกชอบกินอะไรเผ็ดๆ "

"งั้นผมยกไปเองก็ได้ป้า"

"อุ๊ย... จะดีหรือคะ"

"ไม่เป็นไรหรอก เอามาเถอะ ผมมีธุระจะเข้าไปคุยกับยัยนั่นพอดี"

ทินกรทำสุ้มเสียงเหมือนรำคาญเต็มแก่ที่ต้องไปหาเธอถึงที่พัก...ป้านวลลังเลไม่กล้าใช้งานเจ้านายแต่เมื่อชายหนุ่มยืนยัน ใครจะห้ามได้

สุดท้าย สำรับอาหารเย็นถาดโตก็ถูกยกไปส่งให้รวิศาถึงที่พัก โดยคนครัวกิตติมศักดิ์ชื่อทินกร...

 

 

 

สียงหัวเราะค่อนข้างดังลอยมาก่อนที่ทินกรจะเดินไปถึงเรือนพักของรวิศา...และเมื่อมาถึงก็เห็นว่าเป็นยุทธพิชัยนั่นเองที่กำลังนั่งคุยกับหญิงสาวอย่างออกรสชาติตรงโต๊ะอาหารนอกชาน

“อ้าว คุณทิน”

ยุทธพิชัยที่นั่งหันหน้าออกเห็นเขาก่อนและร้องทักด้วยความดีใจ...

เขากำลังคิดว่าเจ้านายจะมาตามคำสั่งของคุณนายแม่หรือเปล่าหนอ พอเห็นหน้าเจ้านายหนุ่มก็เลยออกอาการโล่งใจโดยไม่ทันได้สังเกตสีหน้าบึ้งตึงกับแววตาวาวโรจน์จ้องจับผิดคู่นั้นเลยสักนิด

รวิศาหันขวับ และก็เห็นแต่สีหน้าถมึงทึงของคนที่อุ้มสำรับข้าวมาราวกับว่ามันหนักเหลือแสน

“แม่ครัวกำลังยกมาให้ ฉันจะผ่านมาพอดี เขาเลยฝากมา”

ทินกรบอกห้วน ๆ เลขาฯ หนุ่มรีบเข้ามารับถาดอาหาร

“คุณทินมาพอดีเล้ย ผมกำลังคิดอยู่เลยว่าจะมาหรือไม่มา”

"แล้วโทรศัพท์แกเป็นอะไร โทรมาเท่าไหร่ก็ไม่รับ"

"อ้าวหรือครับ"

ทินกรปรายตามองหญิงสาวหนึ่งเดียวในที่นั้น

“ไหนแกบอกว่ายัยศาไม่มีเพื่อนกินข้าวถึงได้ให้ฉันรีบถ่อมาถึงนี่...แต่เห็นทีไม่ต้องก็ได้มั้ง ดูแกกับยัยศากำลังสนุกสนานกันอยู่เลยนี่ มีฉันด้วยจะเป็นก้างขวางคอเปล่า ๆ”

รวิศายังตามไม่ทันกับประโยคนั้น ส่วนยุทธพิชัยก็หัวเราะ

“ก้างขวางคอมันไว้ใช้กับคนที่เขาเป็นแฟนกันครับคุณทิน อย่างผมกับคุณศามันใช้ไม่ได้ มากินข้าวกันดีกว่าครับ แกงกำลังร้อนๆ เลย"

“เฮ้ย! กับข้าวแค่นี้จะพออะไร”

ทินกรกวาดตามองสำรับ ทำท่าโวยวาย

“ไอ้ยุทธ กลับไปที่ครัว ให้เขาทำอะไรมาก็ได้อีกสองสามอย่าง เช่น...ไข่เจียว ไม่ใช่ไข่เจียวธรรมดา แต่ฉันขอเป็นไข่เจียวที่ใส่ดอกอัญชัน แล้วต้องเป็นอัญชันที่ขึ้นหน้าเรือนป้านวลด้วยนะเพราะตรงนั้นการันตีว่าสะอาด ปลอดสารพิษ หมาแมวก็ไม่เคยไปขี้..."

"ไข่เจียวอัญชัน..."

ยุทธพิชัยทวนคำสั่งขมุบขมิบ

"ใช่ แล้วมีไข่เจียวก็ต้องมีน้ำพริก แกงนี่ยังเผ็ดไม่พอ ขอเป็นน้ำพริกกะปิธรรมดาๆ แต่ว่าพริกขี้หนูไม่เอาที่ใช้ในครัวนะ ฉันขอพริกขี้หนูสวนที่...ที่...ที่หน้าบ้านคนงานสักคนนี่แหละ จำไม่ได้ แต่เม็ดเล็กโคตรเผ็ด สด อร่อย แกไปสั่งให้เขาหามาให้ได้ พริกอื่นฉันไม่เอา"

"ต้องขนาดนั้นเลยหรือครับ"

"เออ...อย่าชุ่ยล่ะ อย่าแอบลักไก่ด้วย ส่วนอีกอย่างก็..." เอาอะไรก็ได้ที่ฉันยังไม่ได้กินในเดือนนี้ เอาให้มันแปลกๆ ถ้าแปลกไม่พอไม่ต้องสะเออะมา"

"วุ้ย...ทำไมวันนี้คุณทินอยากกินอะไรพิสดารจังครับ"

ยุทธพิชัยเกาหัวงงๆ

"พิสดารตรงไหน กะอีแค่ไข่เจียวกับน้ำพริกกะปิ แกไปสั่งในครัวได้แล้ว แล้วก็รอยกมาเสิร์ฟทีเดียว ถ้ายังทำไม่เสร็จแกก็ไม่ต้องรีบมา...แล้วก็ไปหยิบขนมในรถฉันด้วย ฉันซื้อมาฝากเด็กแถวนี้แต่ดันลืมหยิบลงมา”

“เด็กแถวนี้ แถวนี้มีเด็กด้วยหรือครับ”

“มีสิ ก็ยัยศานี่ไง ฉันซื้อขนมมาฝากน้องนุ่งมัน แกอย่าถามมาก รีบไปเดี๋ยวนี้”

“ได้ครับ ได้”

ยุทธพิชัยตั้งท่าจะวิ่งตื๋อลงเรือนไป แต่ทินกรคว้าคอมากระซิบขู่เสียก่อน

“รีบไป แต่ไม่ต้องรีบมานะ ไม่ต้องกลับมาเลยก็ได้ ฉันไม่ว่า”

เลขาฯ หนุ่มกระพริบตาปริบกับคำสั่ง เงยหน้ามองเจ้านายแล้วก็ร้องอ๋อในใจ...

แม้จะเป็นหนุ่มซื่อ (เป็นบางครั้ง) แต่ยุทธพิชัยก็อยู่ใกล้ชิดกับทินกรมานานแสนนานจนอ่านใจเจ้านายหนุ่มออกแม้แค่ได้สบสายตา...

เลขาฯ หนุ่มจึงได้แต่ซ่อนยิ้มและกระโดดผลุงลงเรือนไปอย่างรวดเร็ว

“ขอโทษนะที่มาขัดจังหวะ แต่ฉันก็ชักหิวแล้ว ไม่เกรงใจละกันนะ”

ทินกรนั่งลงโดยไม่ต้องรอให้เจ้าของเรือนพักออกปากเชิญและตักข้าวใส่จานสองใบทันที รวิศายืนงงอยู่ครู่ก่อนหย่อนตัวลงนั่งตรงข้าม รับจานข้าวที่เขาตักให้มาวางตรงหน้า

“ไหนว่ากับข้าวไม่พอไงคะ ไม่รอก่อนหรือ”

“ไม่ล่ะ หิวแล้ว ขี้เกียจรอ”

“อ้าว...”

แต่ทินกรไม่สนใจ ทำทีเป็นตักนั่นตักนี่ใส่จาน

“เป็นไงบ้าง ไปไหนมาบ้างวันนี้”

ทินกรพยายามเปิดฉากคุยเพราะกลัวหญิงสาวอึดอัดที่จู่ ๆ เขาก็บุกมาถึงที่

“ไม่ได้ไปไหนเลยค่ะ ได้แต่นั่งเขียนแผนงานแล้วก็ติดต่อร้านขายอุปกรณ์ฟิตเนสที่พอรู้จักกันอยู่”

“จะซื้อใหม่หมดหรือ”

“ไม่ทั้งหมดค่ะ แต่ซื้อเพิ่มเติม”

“น่าตื่นเต้นจัง ดีแล้วพี่จะได้ไม่ต้องถ่อสังขารไปถึงฟิตเนสในเมือง”

ทินกรทำเป็นบ่น ทั้งที่การเป็นสมาชิกสปอร์ตคลับที่อื่นก็นำความรื่นรมย์มาให้ออกจะตายไป...สาว ๆ เพียบ

“พี่ทินเข้าฟิตเนสเป็นประจำหรือคะ”

“ใช่...ดูไม่ออกหรือ”

ทินกรเงยหน้าถาม แววตาพราวระยับ

“พี่นึกว่าตอนเจอกันที่สระว่ายน้ำ ศาเก็บรายละเอียดของพี่ครบซะแล้วเสียอีก”

รวิศาตาค้างที่จู่ ๆ เขาก็พูดอย่างนั้นขึ้นมา ภาพเรือนกายสูงใหญ่กำยำล่ำสัน แผงอกหนาที่ดูก็รู้ว่ากล้ามเนื้อแกร่งตึงแน่น ช่วงเอวเพรียวไร้ไขมันส่วนเกินและ...เอ่อ...

รวิศาถึงกับหน้าร้อนฉ่าเมื่อดันนึกถึงภาพเมื่อเช้านั่น

ทินกรยิ้มกว้างท่าทางภูมิอกภูมิใจ...

แปลกแฮะ สายตาเย้ายวนของสาวๆ ทั้งหลายที่ผ่านมากลับไม่ทำให้เขารู้สึกคึกคักได้เท่าสายตาตื่นตระหนกนิดๆ และสองแก้มที่แดงซ่านของรวิศาในตอนนี้

เขาเพิ่งสังเกตเห็นใกล้ๆ ว่ารวิศาผิวขาวขึ้น อย่างน้อยก็ขาวมากพอจะให้เขาจับได้ว่าเธอกำลังหน้าแดง...ทินกรเผลอไล่สายตาสำรวจผิวกายส่วนอื่นของเธอ หญิงสาวสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวพอดีตัว ด้านในเป็นเสื้อกล้ามสีขาวซ้อนไว้อีกชั้น ดูมิดชิดไปหมด ทินกรเผลอให้คะแนนเบื้องต้นว่า...ดี ปลอดภัย ผ่าน

แต่เมื่อไล่สายตาลงมาอีก ก็จุดอารมณ์หงุดหงิดของทินกรโดยไม่ได้ตั้งใจ

รวิศาใส่กางเกงผ้าฝ้ายเนื้อหนาสั้นคลุมเข่า แม้ในสายตาชายหนุ่มจะเคยมองว่าสาวคนไหนที่ใส่กางเกงแบบนี้เป็นสาวทึนทึกเพราะมันยาวเกินไปจนแทบจะรุ่มร่าม แต่เมื่อหญิงสาวอยู่ในท่านั่ง มันก็ร่นขึ้นมาเล็กน้อยพอจะทำให้เห็นต้นขาเหนือหัวเข่าอ่อนเนียนนวลสีน้ำผึ้ง

พอคิดได้ว่าคนที่ต้องนั่งกินข้าวกับหล่อนเมื่อครู่ถ้าไม่ใช่เขาก็ต้องเป็นยุทธพิชัย ทินกรก็ยืดตัวขึ้นทันที

“ห้ามแต่งตัวแบบนี้อีกนะ”

“หา...อะไรนะคะ”

รวิศาตกใจที่จู่ๆ เขาก็โพล่งขึ้นมา มือถือช้อนตักข้าวชะงัก

“อยู่ที่นี่ห้ามแต่งตัวโป๊”

“โป๊!”

“ถ้าพี่หรือแม่ไม่ได้อยู่ด้วย ต้องใส่แต่กางเกงขายาวเท่านั้น เข้าใจมั้ย”

ทินกรพูดจริงจัง

แค่นึกว่าจะมีใครอื่นมานั่งมองผิวเนียนของเจ้าหล่อนอย่างที่เขาเผลอทำไปเมื่อครู่ ก็รู้สึกเคืองขุ่นเสียแล้ว

รวิศาที่ไม่รู้เหนือรู้ใต้อะไร รู้สึกกระดากอายขึ้นมาทันทีทันใด...นี่เราแต่งตัวโป๊เกินไปหรือเนี่ย !!!

“วันนี้อยู่กับพี่ ไม่เป็นไร พี่อนุโลม แต่วันหน้า...เชื่อพี่ ใส่กางเกงขายาวดีกว่า”

“เอ่อ...ค่ะ ค่ะ”

รวิศารับคำอย่างว่าง่ายเพราะไม่อยากทำตัวมีปัญหา เห็นหญิงสาวรับปากง่าย ๆ แบบนี้ ทินกรก็ค่อยโล่งใจ...

นี่ก็แปลกอีกเหมือนกัน ผู้ชายอย่างเขาชอบออกจะตายที่ได้เห็นผู้หญิงโชว์เนื้อหนังมังสา ถือว่าเป็นความงามของโลก พวกเธอไม่ควรจะเก็บเอาไว้กับตัวเพียงคนเดียว

แต่ถ้าเป็นยัยเป็ดดำ...ที่ไม่ค่อยดำแล้วตอนนี้...เขากลับรู้สึกหวง...เอ๊ย! ห่วงจนตัวเองก็ยังแปลกใจ
###########

มีจำหน่ายในรูปแบบอีบุ๊คส์แล้วค่าา
โหลดได้แล้ววันนี้ Link: http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiNjczODExIjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NToiOTk3ODUiO30

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา