เจ้าสาวดาวใจพิสุทธิ์
เขียนโดย ท้องฟ้าสายลม
วันที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 เวลา 14.36 น.
แก้ไขเมื่อ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 14.53 น. โดย เจ้าของนิยาย
3) ตอนที่๓
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ“อย่าถือโทษพี่เขาเลยนะลูก ตาภาน่ะเขาเป็นคนปากร้ายแต่ใจดี ให้พี่เขาได้ปรับตัวสักนิดนะ” อนงค์ปลอบขวัญหลานนึกเอ็ดหลานชายอยู่ในใจทำไมถึงเป็นคนปากไวไม่นึกถึงจิตใจคนฟังบ้าง
“ทะเลาะกันบ่อยโบราณเขาว่ามีลูกหัวปีท้ายปีนะคะคุณท่าน” แม่บ้านสาวใหญ่สำทับ ทำเอาณิมาหน้าแดงเห่อขึ้นมาอีก
“อ้อนพี่เขาให้เยอะๆ” อนงค์ลูบศีรษะหลานสะใภ้อย่างเอ็นดู มั่นใจว่าความอ่อนหวาน บริสุทธ์ของหญิงสาวที่นางเลือกมาเป็นหลานสะใภ้จะชนะใจหลานชายได้สักวัน
“ค่ะคุณย่า”
เสียงเพลงดังกระหึ่มเหล่าผีเสื้อราตรีออกมาร่ายรำดื่มด่ำกับเสียงเพลงและบรรยากาศแสงสีในสถานบันเทิงอย่างหรรษา ที่นั่งโซนวีไอพีถูกบรรดาสาวๆจับตามองเป็นพิเศษเนื่องจากมีกลุ่มหนุ่มหล่อนั่งดื่มพร้อมพูดกันไปด้วยอย่างสนุกสนาน
“ไงเพื่อน เขาว่ากันว่าได้เมียเด็กจะกระชุ่มกระชวยนะ แต่ราชสีห์หนุ่มอย่างแกทำท่าเป็นหมาเหงาเชียว น้องนิ่มไม่ให้ทำการบ้านหรือไง” พิธาหนุ่มหล่อเจ้าเสน่ห์ตบไหล่แซวภาคิไนยเพื่อนรักที่กำลังสาดน้ำสีอำพันลงคอราวน้ำเปล่า
“ทะลึ่งแล้ว ฉันมันเผ็ด เด็กกินไม่ได้หรอก” เขาว่าพร้อมกับวางแก้วเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ลง พรางนึกไปถึงณิมา ภรรยาหมาดๆหล่อนนะเหรออย่างกับเด็กกะโปโลเพิ่งเลิกเล่นขายของได้สองวันเขาคิดเรื่องอย่างว่าด้วยไม่ลงหรอก
“นี่อย่าบอกนะว่าแกยังไม่ได้…” พิธาเว้นคำพูดสุดท้ายไว้ให้เพื่อนเติมเองอย่างไม่เชื่อหู
“เออ” เขาตอบรับด้วยท่าทางเฉยเมยไม่รู้สึกรู้สาอะไร ส่วนบรรดาเพื่อนหนุ่มของเขาที่ได้ยินคำตอบแบบนั้นก็ขำกร๊ากกันเสียงดังแข่งกับเสียงดนตรีเร้าใจ ไม่อยากจะเชื่อว่าเด็กผู้หญิงที่หน้าตาน่ารักจิ้มลิ้มอยู่ในชุดเจ้าสาวในวันก่อนจะลอดเงื้อมมือของเสือซุ่มอย่างภาคิไนย
“จะเอามาเป็นเมียหรือเอามาเป็นลูกกันแน่วะ” หนึ่งในนั้นเอ่ยแซวเพื่อนเรียกเสียงหัวเราะจากคนในกลุ่มได้อีกรอบ
“กวนตีน” เขาเอนตัวพิงโซฟาแล้วยกแขนทั้งสองข้างพาดไปตามพนักพิงอย่างสบายอารมณ์ พร้อมยกยิ้มมุมปากจางๆแล้วโคลงศีรษะให้กับคำพูดล้อเลียนของเพื่อน ฉายาว่าเสือหนุ่มใช่ว่าจะกินไม่เลือกหากเหยื่อที่ประเมินในหัวแล้วว่าได้ไม่คุ้มเสียปล่อยไปยังดีกว่า เฉกเช่นณิมาเขาไม่ได้รักเจ้าหล่อนหรือจะให้มองเป็นนางบำเรอที่เขามักซื้อหิ้วขึ้นคอนโดเพื่อบำบัดความใคร่ หล่อนก็ไม่ใช่ทั้งสองกรณี หากเป็นเช่นนี้แล้วการไม่ผูกปมปัญหาเพิ่มก็จะถือว่าเป็นการดีที่สุด วันนี้เขาทำตามใจย่าวันหน้าเขาก็มองเห็นอยู่ว่าต้องมีเรื่องหย่าเกิดขึ้นแน่นอน หากไม่แตะต้องเธอเสียตั้งแต่วันนี้ปัญหามันจะมาเกิดได้อย่างไร
“ย่ามีเรื่องจะคุยด้วย” อนงค์มาดักหลานชายในห้องรับแขกในตอนเย็นของวันหนึ่ง ดีที่ว่าวันนี้หลานชายตัวดีไม่เมาแอ๋ให้คนงานในบ้านได้แบกมาส่งเช่นวันก่อน
“ครับ” ชายหนุ่มเดินเข้ามาหาผู้เป็นย่าพรางพับแขนเสื้อเชิตขึ้นมาเกือบถึงศอกไปด้วย ในใจก็นึกออกอยู่เรื่องเดียวคือเรื่องของณิมาที่คุณย่าจะคุยแต่วันนี้จะมาในประเด็นไหนเขาไม่อาจรู้
“ภารู้ใช่ไหมว่าย่ารักภา” นางถามย้ำคำถามเดิมในขณะที่ผู้เป็นหลานหย่อนก้นนั่งลงข้างๆ ชายหนุ่มถอนหายใจเฮือกแล้วหันหน้าไปทางอื่นอย่างคร้านจะฟัง
“ครับ” เขาตอบรับไปอย่างนั้นประเมินแล้วก็พอจะรู้ได้ว่าท่านกำลังจะสื่อถึงอะไร คำพูดเดิมๆของผู้เป็นย่ามันเหมือนเป็นการฉายหนังม้วนเดิมและจุดเดิมๆจนเขาเดาออกว่าอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้าท่านจะพูดอะไรกับเขาต่อ
“ทุกอย่างที่ย่าจัดแจงให้มันคือสิ่งที่ดีที่สุด ย่าเป็นไม้ใกล้ฝั่ง อยากเห็นภาแต่งงานกับผู้หญิงดีๆอย่างหนูนิ่ม”
“คุณย่าพูดครั้งที่เท่าไหร่แล้ว”
“เราเป็นสามีเป็นคนปกป้องดูแล อย่าดุน้องให้มาก หนูนิ่มเพิ่งจะห่างอกพ่ออกแม่มาอยู่แปลกที่แปลกทาง มีอะไรก็ค่อยบอกค่อยสอนกันไป” นางไม่สนใจหรอกว่าหลานจะเบื่อกับคำพูดเดิมๆของตน สิ่งที่นางต้องการคือให้หลานระลึกไว้เสมอว่าณิมาเป็นส่วนหนึ่งในบ้านรวมไปถึงชีวิตของภาคิไนยแล้ว
“พี่ภา…” ณิมาส่งยิ้มกระส่างใสให้คนที่เพิ่งเปิดประตูเข้ามาในห้อง ส่วนคนที่ได้รับรอยยิ้มนั้นไม่ได้สนใจนักกลับกันเขานั้นรู้สึกเคืองเจ้าหล่อนอยู่ไม่น้อยที่เป็นต้นเหตุทำให้คุณย่าสวดเขาหนักเมื่อสักครู่ แต่กระนั้นก็ไม่ปริปากต่อว่าเธอ เพราะทราบดีว่าหากเขาด่าณิมาก็ไม่มีประโยชน์ นอกจากจะไม่เพิ่มความสะใจแล้วยังจะทำให้ย่าเขาไม่พอใจและบ่นหนักกว่าเดิม ณิมานั้นเห็นกะโปโลอย่างนี้หล่อนก็ใช่ย่อยที่ไหน อย่าคิดว่าเขาไม่รู้ว่ายามใดที่เขาพรั้งปากดุด่าเธอขึ้นมาเจ้าหล่อนก็เอาคำพูดเหล่านี้ไปฟ้องคุณย่านั่นแหล่ะ คนพาลเดินตาขวางกระทืบเท้าโครมๆหายเข้าไปในห้องน้ำ ใช้เวลาอาบน้ำเพียงไม่นานเขาก็จัดการอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ อีกไม่กี่อึดใจต่อมาห้องทั้งห้องก็มืดสนิทด้วยฝีมือของชายหนุ่ม เขาเดินกลับมาหยุดที่เตียงแล้วดึงผ้าห่มที่ปกคลุมร่างบางมาฝั่งของตนเล็กน้อยก่อนจะทิ้งตัวลงนอนพร้อมกับห่มผ้าไม่แยแสคนนอนนิ่งเป็นท่อนไม้อยู่ข้างๆ กลิ่นโลชั่นสำหรับผู้ชายลอยมาปะทะจมูกโด่งได้รูปสร้างความรู้สึกแปลกใหม่ให้แก่หญิงสาว ฉับพลันในหัวก็คิดไปถึงเรื่องเมื่อวันก่อนที่คุณย่าของชายหนุ่มสอนให้เธอเอาใจเขาให้มากที่สุดเผื่อว่าภาคิไนยจะหันมาเอ็นดูเธอในเร็ววัน
ภาคิไนยเบิกตาขึ้นทันทีท่ามกลางความมืดเมื่อรู้สึกว่าร่างที่นอนแข็งเป็นขอนไม้ตอนนี้เจ้าหล่อนขยับมาคลอเคลียเขาไม่ห่างราวกับไปโดนยาเสียสาวมา
“อะไรของเธอนี่ ช่วยไปนอนห่างๆฉันเถอะ ร้อนจะตายอยู่แล้ว” ชายหนุ่มปัดป่ายมือเล็กออกไปจากตัวเขา ยังรู้สึกตกตะลึงพรึงเพลิดไม่หาย
“ตะ…แต่ว่า…เราเป็นสามีภรรยากันนะคะ” เสียงใสๆพูดกับเขาติดๆขัดๆด้วยความเขินอายและสับสนปนกันไปหมด เขาเป็นสามีเขาไม่ต้องการเรื่องพวกนี้อย่างนั้นเหรอ
“แล้วยังไง”ชายหนุ่มแสร้งทำถามต่อ รู้อยู่เต็มอกว่าหล่อนจะสื่อถึงเรื่องใด เขาทำเสียงหงุดหงิดงุ่นง่านเข้าข่มแต่ข่มในที่นี้คือไม่ได้ข่มคนที่กำลังลวนลามเขาให้หล่อนกลัวเพียงเท่านั้นหากแต่กำลังข่มใจตัวเองด้วย ถึงปากพูดปาวๆว่าไม่กินเมียเด็กกะโหลกกะลาอย่างเธอ แต่เขาเป็นเสือหนุ่มหาใช่พระอิฐพระปูน ถูกเด็กลูบคลำเข้าหน่อยใจคอก็เริ่มไม่ดีเข้าแล้ว
ฝากคอมเม้นท์แนะนำติชมผลงานของเค้าด้วยนะคะ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ