ก๊วนเทพวัยใสป่วนหัวใจให้ตกหลุมรัก

-

เขียนโดย เจ้าหนอน

วันที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 เวลา 01.37 น.

  19 ตอน
  1 วิจารณ์
  17.83K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 17.24 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

10) ตอนที่ 9

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

                หลังจากที่ฉันเจอรูปเธอคนนั้นก็ผ่านมาเกือบเดือน ฉันเองก็เปลี่ยนไปนิดหน่อย แต่ก็พยายามเป็นตัวของตัวเองและไม่ให้ใครจับได้ว่าฉันเปลี่ยนไปแล้วก็ไม่ให้ใครรู้ด้วยว่าฉันเปลี่ยนไปเพราะอะไร ส่วนด้านเทสึไม่ต้องเป็นห่วง แค่ฉันคิดให้บิดเบือนความเป็นจริงแค่นี้หมอนั่นก็ไม่รู้แล้วว่าฉันคิดอะไรอยู่โดนเฉพาะเรื่องที่เจอมา
                ฉันนั่งวางแผนอยู่ในห้องทำงานส่วนตัวที่หอสภาฯ ล็อคห้องขังตัวเองเอาไว้คนเดียว ความจริงฉันแค่ไม่อยากให้ใครเปิดประตูพรวดพราดเข้ามาแค่นั้นแหละ อ้าว? ฉันเองก็ตกใจเป็นนะที่มีคนเปิดประตูพรวดพราดเข้ามาในขณะที่ฉันกำลังทำงานน่ะ
                ฉันกวาดสายตาดูแผนที่ของนรกที่อยู่ทางฝ่ายมืดโดยได้มาจากเบิร์น ฟินิกส์ ยัยนั่นบอกว่าถ้ามีอะไรขาดเหลือให้บอก ความจริงฉันอยากให้เธอไปชิงวิญญาณมาด้วยซ้ำ แต่การจัดการเรื่องวิญญาณมันเป็นหน้าที่ของเทพสวรรค์ เบิร์น ฟินิกส์เลยยื่นมือเข้ามาช่วยได้ไม่มาก แต่แค่นี้มันก็เพียงพอแล้วล่ะ
                จากที่อ่านแผนที่จนจำได้หมดแล้ว ใจกลางของเขตแดนของนรกฝ่ายมืดคือปราสาทไวซ์ดาร์คที่มีปีศาจคอยเฝ้าทางเข้าอยู่นับร้อย ถัดออกมาทางทิศเหนือคือคลังอาวุธ ทางทิศใต้คือแม่น้ำแห่งลูซ ออลโฮพที่พวกวิญญาณที่สิ้นหวังจะมากินน้ำที่นี้ ทางทิศตะวันออกคือบ่อน้ำแห่งความตาย วิญญาณที่กินน้ำในบ่อนี้จะแตกดับและหายไป แต่ที่ฉันสนใจคือทางทิศตะวันตกต่างหาก เพราะที่นั่นคือหอคอยแห่งไวซ์  เด็ธ ซัฟเฟอริง หอคอยที่กักขังวิญญาณไม่ให้ออกมาเห็นเดือนเห็นตะวันและไม่ได้ไปผุดไปเกิดและวิญญาณที่ถูกชิงไปทั้งหมดต้องอยู่ที่นั่น!!
                การที่จะเข้าไปที่หอคอยนั่นมันไม่ใช่เรื่องง่าย ทางเข้านรกปกติก็โอเคอยู่หรอกแต่ว่าการที่จะเข้าไปให้ถึงจุดที่มืดมนที่สุดของนรกน่ะสิ ใช่ว่าจะเดินเข้าไปง่ายๆเหมือนทางเข้าสวรรค์ซะหน่อย
                ก็อกๆ!
                และแล้วก็มีมารมาขัดจังหวะจนได้ ใครว่ะ!!??
                ฉันใช้สายตามองทะลุออกไปข้างนอกก่อนจะเจอสมาชิกสภาฯคนหนึ่งที่มาพร้อมถาดข้าวต้มในมือ แถมยังเป็นหนุ่มหน้าหวานซะด้วย ชื่อฮันนี่หรือเปล่านะ?
                “เข้ามาจ้ะ ฉันสะบัดมือปลดล็อคประตูก่อนที่หนุ่มหน้าหวานจะเดินเข้ามา ฉันส่งยิ้มไปให้ก่อนจะถาม
                 “มีอะไรหรือเปล่า?” ฉันมองถาดข้าวต้มในมือหนุ่มหน้าหวานที่ตอนนี้ใบหน้าหวานนั้นเริ่มขึ้นสีแดงระเรื่อ
                “คือว่า…เอ่อ…ผมเห็นควีนอยู่ในห้องตั้งนานแล้วยังไม่เห็นออกไปสักที แถมตอนนี้ก็เที่ยงแล้วด้วย ผมกลัวว่าควีนจะหิว ผมเลยทำข้าวต้มมาให้” ทานข้าวต้มตอนเที่ยงยังไงๆอยู่นะ
                หนุ่มหน้าหวานวางข้าวต้มไว้บนโต๊ะรับแขกที่ตกแต่งด้วยแจกันดอกไม้ดูสบายตา ฉันเลยลุกจากเก้าอี้ทำงาน แต่ว่านะ…
                “โอ๊ยย!!” ฉันทำทีแกล้งเป็นปวดหัวเดินไม่ไหวก่อนจะทำท่าล้มลงกับพื้น แต่ด้วยความไวของหนุ่มหน้าหวานเขาเลยสามารถมารับฉันเอาไว้ได้แบบฉิวเฉียด
                “ขอโทษนะครับ” หนุ่มหน้าหวานเอ่ยขึ้นก่อนจะช้อนร่างของฉันขึ้นอย่างเบามือแล้วพาไปพักที่โซฟา
                “ขอบใจนะ” ฉันเอ่ยขึ้นก่อนจะหลับตาลง ฉันเหนื่อยจริงๆนั่นแหละแถมยังไม่ได้พักเลยตั้งแต่มีงานโรงเรียน จบงานหนึ่งอีกงานก็มาใหม่ทันที มีอะไรแย่กว่านี้อีกมั้ย
                “ควีนครับ ผมว่าควีนทานอะไรสักหน่อยจะได้ดีขึ้นนะครับ” เสียงของหนุ่มหน้าหวานทำให้ฉันต้องลืมตาขึ้นมอง หาเรื่องให้หมอนี่เขินเล่นดีกว่า
                “ถ้านายไม่ว่าอะไร ฉันวานนายช่วยป้อนฉันหน่อยได้มั้ย ตอนนี้ฉันไม่มีแรงเลยอ่ะ” ฉันส่งสายตาเหมือนลูกแมวไปให้หนุ่มหน้าหวานที่ตอนนี้หน้าแดงถึงใบหู น่ารักจัง
                “ไม่เป็นไรครับ ผมเต็มใจทำ” หนุ่มหน้าหวานยกชามข้าวต้มมาไวบนตัก ก่อนจะตักข้าวต้มมาเป่าสองสามทีแล้วเอามาจ่อที่ปากฉันซึ่งฉันไม่ศรัทธาอ้าปากทานข้าวต้มฝีมือหนุ่มหน้าหวาน แต่ไม่วายส่งสายตายั่วยวนไปให้ นายโชคดีเหมือนกันนะเนี่ยที่ได้มีโอกาสมานั่งป้อนข้าวต้มฉันแบบนี้เพราะถ้าจะมีคนป้อนฉันจริงๆถ้าต้องเป็นเทสึคนเดียวแหละ
                “แค็กๆ” ฉันสำลักข้าวต้มอย่างแรงเพราะคิดถึงเทสึเข้าจนหนุ่มหน้าหวานต้องรีบประคองแก้วน้ำเพื่อให้ฉันดื่มน้ำ
                “อย่ารีบสิครับ”  หนุ่มหน้าหวานดุ ฉันไม่ได้รีบย่ะ!!
                “ทำไงได้ ก็ข้าวต้มฝีมือนายมันอร่อยนี่นา” ฉันแก้ตัว แต่ว่าฝีมือการทำอาหารของเขาก็ใช้ได้เลยแฮะ
                “ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ”  หนุ่มหน้าหวานยิ้มเขินก่อนจะเก็บชามเพราะฉันอิ่มแล้ว ก่อนที่เขาจะยื่นยาแก้ปวดหัวแล้วก็น้ำมาให้
                ฉันรับยามาทานก่อนจะดื่มน้ำแล้วส่งแก้วคืนให้หนุ่มหน้าหวาน ก่อนจะเอนตัวนอนลงบนโซฟา
                “ขอบคุณนะที่ดูแล” ฉันเอ่ยก่อนจะส่งยิ้มไปให้ หนุ่มหน้าหวานถอดเสื้อสูทตัวนอกมาห่มให้ฉันก่อนจะส่งยิ้มมาให้แล้วเดินออกไป
                ฉันหาวออกมาสองสามที เพราะยาที่กินเข้าไปเริ่มออกฤทธิ์ ก่อนจะหลับตาลง หวังว่าตื่นขึ้นมาฉันคงคิดหาวิธีที่จะชิงวิญญาณกลับมาได้นะ…..

                 ฉันลืมตาขึ้นมาเพราะสัมผัสได้ถึงความเย็นแถวใบหน้า ก่อนจะเจอหนุ่มหน้าหวานกำลังใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำเช็ดตัวให้
                “ขอโทษครับที่ทำให้ตื่น” หนุ่มหน้าหวานก้มหน้าอย่างรู้สึกผิด ฉันอดเอ็นดูกับท่าทางของเขาไม่ได้
                “ไม่เป็นไร” ฉันส่งยิ้มไปให้เขาก่อนจะกุมศีรษะทันทีเพราะรู้สึกปวดตุ้บๆขึ้นมา ใบหน้าสวยบิดเบี้ยวเพราะความเจ็บปวด
                “ผมว่าไปหาหมอดีกว่านะครับ” หนุ่มหน้าหวานบอก ไม่จำเป็นหรอกน่า
                 “ไม่เป็นไรหรอก พักสักหน่อยก็ดีขึ้นแล้วล่ะ” ฉันบอกเป็นจังหวะเดียวกับที่ใครบางคนเปิดประตูเข้ามา ไม่มีมารยาท!
                “โนริ!” เทสึวิ่งมาดูอาการฉันทันที ฉันว่าเขาแปลกไปนะเพราะหนึ่งเดือนที่ผ่านมาเราสองคนค่อนข้างที่จะห่างเหินกันมาก จากที่เขาเคยเรียกฉันว่ายัยสาหร่าย เขาก็เปลี่ยนมาเรียกโนริแทน ซึ่งฉันก็ไม่รู้ว่าทำไม
                เทสึประคองฉันเอาไว้ในอ้อมกอด ก่อนจะอังมือไว้ที่หน้าผากเพื่อวัดไข้ ยุ่งจริง!
                “ไม่ต้องมายุ่งกับฉันหรอกน่า” ฉันลุกจากโซฟาซึ่งมันทำให้ฉันเซไปเล็กน้อย สองหนุ่มทำท่าจะมาประคองแต่ฉันถอยออกจากพวกเขา พวกเขาเลยหยุดชะงัก
                “ขอบคุณนะฮันนี่ที่มาดูแล แต่ว่าฝากงานที่เหลือด้วยนะเพราะวันนี้ฉันคงทำไม่ไหวแล้วล่ะ” ฉันหันไปบอกหนุ่มหน้าหวานที่ส่งยิ้มมาให้เหมือนกับบอกว่าไม่ต้องห่วง ฉันเลยเดินไปหยิบกระเป๋ากับแผนที่ซึ่งฉันร่ายเวทย์พลางตาให้ดูเหมือนแค่ภาพวาดธรรมดา
                “จะไปไหน?” เทสึถามขึ้น ฉันหันไปมองเขานิดหน่อยก่อนจะตอบ
                “กลับบ้าน” ฉันเดินออกมาทันทีที่ตอบเสร็จ ก่อนจะเดินไปที่ลานจอดรถของโรงเรียน ฉันจะขับกลับได้มั้ยเนี่ย!!
                เมื่อเดินมาถึงรถ BMW สีบอร์นเงินของตัวเอง เท้าฉันก็หยุดชะงักเมื่อมีร่างสูงของใครบางคนยืนพิงรถฉันอยู่ มาตั้งแต่ตอนไหนเนี่ย!!
                ฉันเตรียมหันหลังกลับ แต่โดนมือหนาของร่างสูงคว้าข้อมือเอาไว้ก่อนพลางออกแรงดึงฉันจนเสียการทรงตัวเซไปปะทะแผงอกกว้างของร่างสูง
                “ปล่อยนะ!!” ฉันบิดข้อมือของตัวเองที่โดนมือหนาจับเอาไว้แน่น แต่ยิ่งบิดเขาก็ยิ่งบีบแน่นกว่าดิมจนข้อมือฉันเป็นรอยแดง นายนี่ชอบใช้กำลังมากกว่าสมองจริงๆ
                “เลิกด่าฉันได้แล้ว มานี่” เทสึลากฉันให้เดินตามเขาจนไปหยุดที่ BMW สีดำของเขา ก่อนที่เขาจะเหวี่ยงฉันเข้าไปในรถ
                “นี่!! ฉันขับรถมาเองนะ แล้วนายจะพาฉันไปไหน!!??” ฉันถามเทสึที่ยังคงเงียบตั้งแต่ออกรถมา แถมเขาจะพาฉันไปที่ไหนก็ไม่รู้ ไม่คุ้นตาเอาซะเลย
                เทสึยังคงเงียบจนฉันที่เอาแต่ถามเขาหมดแรงก่อนจะเผลอหลับไป มารู้สึกตัวอีกทีหมอนี่ก็นั่งจ้องฉันอยู่ข้างเตียง
                เมื่อเขาจ้องมาฉันก็จ้องกลับ แต่จนแล้วจนรอดฉันก็ต้องยอมแพ้ก่อนจะพยุงตัวเองลุกขึ้น แต่ก็ต้องฟุ่บตัวลงนอนเหมือนเดิมเพราะอาการปวดหัว ปวดหัวววว!!!!!! T^T
                ฉันเลิกนวดขมับตัวเองทันที เมื่อเทสึยื่นมือมานวดแทน ฉันสะบัดหน้าหนีแต่หมอนี่ก็ยังจับหน้าฉันหันไปหาเขาอีก ราวีไม่เลิกจริงๆ
                สุดท้ายฉันก็ปล่อยให้เขารังแกฉันตามสบาย ส่วนตัวเองก็กลอกตาไปมา มันคือที่ไหนอ่ะ ตอบฉันมาเทสึ!!
                “คอนโดฯฉันเอง อยู่นิ่งๆ!” เทสึดุฉันที่เอาแต่ดิ้นไปมาจนเขาต้องขึ้นคร่อมฉันให้มันรู้แล้วรู้รอด ส่วนมือก็ยังคงนวดขมับให้ฉันต่อไปจนอาการฉันดีขึ้น
                จะว่าไปถ้าฉันป่วยหมอนี่ก็ต้องป่วยเหมือนกันนี่นา ไม่แปลกหรอกที่หมอนี่จะมาดูแลฉัน คนสวยเซ็ง!!
                ว่าแต่ว่า วันนี้ฉันมีนัดเที่ยวกับพวกยัยคาเอเดะตอนสามทุ่มนี่นาส่วนตอนนี้ก็ห้าโมงเย็นเข้าไปแล้ว ไม่เป็นไรหรอกยังมีเวลาแต่งตัวถมเถไป
                “อย่าคิดที่จะไปเที่ยวซะให้ยาก ฉันไม่ให้เธอไปแน่” เทสึที่อ่านใจฉันได้พูดดักคอ ถ้าฉันจะไปนายก็ห้ามฉันไม่ได้อยู่ดี แบร่ๆ :P
                เทสึมองหน้าฉันอย่างกับว่าถ้าขัดคำสั่งเขาต้องตาย! มันไม่น่ากลัวอย่างที่คิดหรอกน่า เพียงแต่รังสีอำมหิตดูท่าจะเยอะไปหน่อยทำเอาแจกันในห้องแตกออกเป็นเสี่ยงๆหัดควบคุมอารมณ์ซะบ้างเซ่!!
                เทสึถอนหายใจออกมาอย่างหนักหน่วง ลมหายใจอุ่นๆของเขาเป่ารดใบหน้าฉันครั้งแล้วครั้งเล่า ถ้าเป็นไปได้นายก็ลุกออกไปซะ ทำแบบนี้มันรั้งแต่จะทำให้ฉันป่วยเพราะอุณหภูมิของร่างกายที่สูงขึ้น
                ฉันผลักเทสึออกก่อนจะหายตัวมาโผล่ที่บ้านทันที ก่อนจะร่ายเวทย์ข้ามมิติซ้อนทับอีกชั้น ถ้ามีเทพตนอื่นนอกเหนือครอบครัวฉันแล้วหายตัวมาที่บ้านฉันพวกเขาก็จะโผล่อีกที่ นอกจากว่าจะเดินมาที่บ้านฉันเอง
                ฉันนอนแช่น้ำนมอยู่ในอ่างพลางฮัมเพลงเบาๆอย่างเป็นสุข ก่อนจะล้างตัวแล้วใส่ชุดคลุมออกมาข้างนอก ก่อนจะเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าเพื่อเลือกชุดสำหรับการท่องราตรีในค่ำคืนนี้ ส่วนชุดที่ฉันเลือกคือ…..
                ชุดเดรสคล้องคอสีแดงเพลิงที่สั้นเหนือเข่าเกือบสองคืบ โชว์แผ่นหลังขาวเนียนยั่วผู้ชายเล่น อ๊ะๆ!ฉันไม่ได้เป็นผู้หญิงที่ชอบยั่วผู้ชายไปทั่วหรอกนะ แต่นานๆทีฉันถึงจะทำ ฉันเป็นคนที่นึกอยากจะทำอะไรก็ทำน่ะ คนอื่นๆเลยตามฉันไม่ทันเท่าไหร่ ส่วนวันนี้สิ่งที่ฉันนึกอยากจะทำคือท่องราตรี แล้วทำให้พวกผู้ชายคลั่งตายน่ะ น่าสนุกใช่มั้ยล่า~
                เมื่อเลือกชุดได้แล้วฉันก็จัดการแต่งตัว ก่อนจะมานั่งอยู่หน้ากระจกความจริงฉันก็ไม่ต้องแต่งอะไรมากหรอก เพราะปกติฉันก็สวยอยู่แล้ว (หลงตัวเอง) แค่แต่งหน้าให้ดูเปรี้ยวขึ้นนิดหน่อยส่วนผม จะปล่อยสบายๆมันก็ดูเรียบร้อยไป ฉันเลยจัดการรวบผมขึ้นสูงเผยให้เห็นต้นคอขาวน่ามาสร้างรอยรักเอาไว้  ก่อนจะคว้าเสื้อโค้ทเอาไว้ในมือ พร้อมแล้วล่ะสำหรับการเตรียมตัวท่องราตรี ^^
                ฉันเดินลงมาชั้นล่างก่อนจะเจอแม่บ้านกำลังทำความสะอาดอยู่ ฉันเลยเดินไปหาแม่บ้านคนนั้นก่อนจะบอกว่าจะไปเที่ยวข้างนอกฝากบอกท่านแม่ด้วย แม่บ้านคนนั้นรับคำฉันเลยเดินมาที่รถสปอร์ตเปิดประทุนสีขาวของตัวเอง ก่อนจะขับออกไปเพื่อมุ่งหน้าสู่ JH PUB
                 เมื่อมาถึงที่หมายฉันก็เจอเหล่าเพื่อนๆของฉันที่มากันแบบเต็มสเต็ป กะจะเอาพวกผู้ชายลงไปนอนชักแด่วๆที่พื้นกันเลยหรอย่ะ!!
                “แกมาเที่ยวในสภาพนี้เนี่ยนะ!” ยัยคาเอเดะร้องเสียงหลงเมื่อเจอฉันที่ยังไม่ถอดเสื้อโค้ทออก แกจะแหกปากทำป้าอะไรห๊ะ!! ขืนฉันถอดฉันก็เด่นกว่าพวกแกสิ
                “งั้นพวกแกเข้าไปก่อน เดี๋ยวฉันตามไป” ฉันหันไปบอกยัยคาเอเดะ ยัยนั่นรับคำก่อนจะเดินเข้าไปก่อนฉันเลยเดินมาที่รถ ก่อนจะโยนเสื้อโค้ทเข้าไปในรถก่อนที่ตัวเองจะเข้าไปในรถเหมือนกัน
                ฉันร่ายเวทย์เปลี่ยนชุดจากชุดเดรสคล้องคอเป็นชุดเดรสเกาะอกสีน้ำเงิน เผยให้เห็นเนินอกน่าสัมผัส ส่วนความสั้นก็ไม่แพ้ชุดเดิม แถมสั้นกว่าเดิมอีก ทรงผมก็ไม่ต่างเดิมเท่าไหร่แค่เปลี่ยนเป็นม้วนผมเฉย ๆส่วนรองเท้าก็เป็นรองเท้าส้นสูงที่สูงปรี๊ดดดด สีน้ำเงิน(ชุดนี้หนักกว่าชุดเมื่อกี้อีก) ถ้าไม่สวยก็กรุณาอย่าแต่งเหมือนฉันเด็ดขาด ไม่งั้นพวกผู้ชายวิ่งหนีกันกระเจิงแน่(คนสวยเตือนด้วยความหวังดีนะคะ ^^)
                ชายชุดดำผายมือเชิญให้ฉันเข้าไปข้างใน ฉันส่งยิ้มให้พอเป็นพิธีก่อนจะเดินเข้าไปข้างใน ผู้คนต่างโยกย้ายส่ายสะโพกกันไปมาท่ามกลางเสียงเพลงที่ดังกระหึ่ม ปลุกผีเสื้อราตรีให้ออกมาวาดลีลาประชันกัน แต่เมื่อพวกเขาเห็นฉันก็ต่างหลีกทางให้ฉันกันถ้วนหน้า
                ฉันเดินมาที่โต๊ะที่อยู่โซนVIP แต่ไม่ยักเห็นใครเลย พวกนั้นไปไหนกันนะ??
                 แต่แล้วสายตาของฉันก็สะดุดกับร่างบางของเพื่อนตัวเองที่กำลังนัวเนียกับหนุ่มที่ไหนไม่รู้ อ้าว? ชวนฉันมาแต่ตัวเองกลับไปสนุกกับผู้ชายเฉยเลย ไอ้เพื่อนบ้า!!
                ฟุ่บ!!
                ฉันทิ้งตังลงบนโซฟาหนังอย่างเซ็งๆหมดอารมณ์เลยแฮะ กะว่าจะมายั่วผู้ชายเล่นสักหน่อย แต่ตอนนี้ฉันชักเบื่อแล้วสิ หาอะไรทำแก้เบื่อดีกว่า ^^
                และแล้วสายตาของฉันก็มองไปเห็นเหยื่อที่กำลังนั่งดื่มเหล้าอยู่กับเพื่อนที่โซน VIP เหมือนกันแต่ข้างกายเขาไม่หญิงคนไหนเลย งั้นเริ่มจากหมอนี่ก็แล้วกันนะ ^^
                ฉันเดินไปที่ฟลอร์ก่อนจะเริ่มวาดลีลาแดนซ์สุดเซ็กซี่ไปตามจังหวะเสียงเพลงอย่างเมามัน ในมือถือแก้วใสที่บรรจุน้ำสีอำพันเอาไว้ แม้แต่ท่าดื่มฉันก็ยังเซ็กซี่เล้ย! เหนื่อยใจกับตัวเหมือนกันนะที่เกิดมาสวยกว่าชาวบ้านชาวเมืองเขาน่ะ (ซะงั้น)
                ตุ้บ!!
                ด้วยความที่ไม่ทันระวังทำให้ฉันไปชนกับร่างสูงของใครบางคนเข้า จนเกือบล้มหน้าคะมำ แต่โชคยังดีที่ร่างสูงของใครบางคนคว้าเอวเล็กๆฉันเอาไว้ ฉันเลยตกอยู่ในอ้อมกอดของเขาไปโดยปริยาย
                เมื่อมองขึ้นไปเห็นใบหน้าของร่างสูงฉันก็อดยิ้มไม่ได้ เขาไม่ใช่ที่ไหน เหยื่อที่ฉันหมายตาเอาไว้นั่นเอง
                ด้วยเพราะว่าเขากอดฉันเอาไว้เลยทำให้เราสบตากันโดยบังเอิญ มือเล็กของฉันวางอยู่ที่แผงอกกำยำของเขา ส่วนมือของเขาก็กอดเอวฉันเอาไว้ไม่ให้ล้ม ฉันควรดีใจหรือเสียใจดีนะที่เขาช่วยฉันแล้วมาจบในท่านี้น่ะ
                 มือแกร่งของเขาเชิดหน้าฉันขึ้นเหมือนอยากจะเห็นชัดๆว่าฉันหน้าตาเป็นยังไง อีกมือของเขาก็ลูบไล้ไปตามเรือนร่างที่ได้สัดส่วนของฉัน หมอนี่ก็ร้อนแรงใช้ได้อยู่เหมือนกันนะเนี่ย!!
                เขาปล่อยมือออกจากฉันก่อนจะจูงมือฉันมาที่โต๊ะของเขาที่ตอนนี้ไม่มีใครอยู่ เพื่อนหมอนี่ไปไหนอ่ะ??
                “มาคนเดียวหรอครับ?” เขาถามขึ้นก่อนเชิดหน้าฉันขึ้นเพื่อให้สบตากับเขา ฉันต้องยั่วนายต่างหากย่ะถึงจะถูก
                “ค่ะ แล้วคุณล่ะ?” ฉันถามกลับก่อนจะเอื้อมมือไปคล้องคอเขาไว้แล้วมองเขาด้วยสายตายั่วยวนหมอนี่ยิ้มมุมปากก่อนจะเอื้อมมือมากอดเอวฉันเอาไว้ หมอนี่เองก็กำลังยั่วฉันเหมือนกันสินะ มาดวลกันว่าใครจะชนะ!!
                “มากับเพื่อนน่ะครับ แต่ตอนนี้พวกมันไม่อยู่” เขาพูดพลางโน้มหน้าลงมาคลอเคลียกับแก้มของฉัน ก่อนจะลากลิ้นไปมาบนริมฝีปากอวบอิ่มของฉัน ริมฝีปากอวบอิ่มเปิดขึ้นเล็กน้อยเป็นการเชิญชวน ซึ่งเขาไม่รอช้าส่งลิ้นเข้ามาสำรวจภายในปากหวานทันที
                ฉันครางออกมาเบาๆเมื่อเขาเริ่มรุกหนักขึ้น เดี๋ยวนายจะได้รู้ว่าผู้หญิงอย่างฉันไม่ได้เป็นแค่ฝ่ายรับอย่างเดียว!!
                ฉันผลักเขาให้นอนราบลงกับโซฟาก่อนจะเป็นฝ่ายรุกแทน ฉันแลกลิ้นอย่างเขาอย่างเมามันส์ก่อนที่ฉันจะเป็นฝ่ายผละออกแต่ยังคงนอนทับอยู่บนตัวร่างสูง
                “มีเรื่องไม่สบายใจงั้นหรอ?” ฉันถาม นิ้วเรียวสวยลูบไล้ไปมาบนริมฝีปากที่ฉันเพิ่งครอบครองไปเมื่อกี้ เขามีท่าทีตกใจนิดหน่อย แต่ก็ยังเอื้อมมือมากอดฉันเอาไว้จากด้านหลัง
                “อะไรทำให้คุณคิดแบบนั้น” เขาถามกลับ มือหนายังคงลูบไล้ขาอ่อนฉันอย่างเมามันส์
                “ก็เพราะจูบของคุณมันไม่ได้เร่าร้อนอย่างที่ฉันคิด” ฉันจ้องเข้าไปในดวงตาสีฟ้าของเขาที่ฉายแววประหลาดใจ หมอนี่เป็นอย่างที่ฉันคิดไว้จริงๆด้วย
                “….???”
                “จูบของคุณมีแต่ความอ่อนโยนแต่แฝงมาด้วยความเศร้าและความเจ็บปวด” ฉันอธิบาย ก่อนที่มือหนาที่กำลังลูบไล้ขาอ่อนฉันอยู่ถึงกับหยุกชะงักพลางมองฉันด้วยสายตาที่สงสัยปนประหลาดใจ
                 “คุณทะเลาะกับคนรักมาใช่มั้ยคะ?” ร่างสูงถึงกับเบิกกว้างอย่างไม่เชื่อสายตา ปกติเขาคงไม่เคยเจอผู้หญิงที่มาเที่ยวหาความสนุกแล้วถามแบบนี้แน่ๆ
                 “คุณแตกต่างจากผู้หญิงที่ผมเคยเจอมาจริงๆ” เขาเอ่ยก่อนจะลุกขึ้น ฉันที่นอนทับเขาอยู่เลยต้องลุกขึ้นอย่างช่วยไม่ได้
                “มันก็ต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้วล่ะค่ะ เพราะฉันไม่ใช่ผู้หญิงเหมือนที่คุณเจอมา” ฉันยกวิสกี้ขึ้นจิบ ร่างสูงยังคงก้มหน้านิ่งเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่ เสียดายที่ฉันอ่านใจคนเหมือนเทสึไม่ได้ แล้วจะคิดถึงอีตานั่นทำไมเนี่ย!!
                “คุณพูดถูก ผมทะเลาะกับแฟนเพราะเรื่องที่เธอแอบคบคนอื่นในระหว่างที่คบกับผม” เขาเล่าให้ฟัง ที่แท้ก็เป็นอย่างนี้นี่เอง เพราะมีแฟนแล้วเขาถึงไม่มีผู้หญิงมานั่งเอาใจเขาเลย
                “ผู้หญิงอย่างนั้นจะไปใส่ใจทำไมคะ อีกอย่างผู้หญิงคนนั้นคงไม่คู่ควรกับคุณหรอก”น ฉันพูดขึ้น ร่างสูงยังคงไม่ยอมสบตาฉัน เอาแต่หลุบสายตามองพื้น
                “แต่ผมรักเขานี่ครับ แล้วผมก็ทำใจไม่ได้ด้วยที่ต้องบอกเลิกเธอ”
                “แต่คุณก็จะยอมเธอไปตลอดชีวิต แล้วก็จะไม่กล้าตัดสินใจทำอะไรเลยถ้าไม่มีผู้หญิงคนนั้น ฉันจะบอกอะไรให้นะคะ ถ้าคุณไม่อยากเป็นของเล่นให้คนอื่นดูถูกล่ะก็ คุณตัดสินใจทิ้งเธอดีกว่าค่ะ เพราะเพื่อตัวคุณเองและคนอื่นที่เป็นห่วงคุณ” ฉันแตะบ่าให้กำลังใจเขาก่อนจะเดินจากมา ปล่อยให้ร่างสูงตัดสินใจเอาเองว่าควรทำยังไงต่อไป
                “แกปายหนายมาอ่ะ ยัยโนริ” ยัยคาเอเดะที่คอพับคอเอียงถามขึ้น คออ่อนแล้วยังทำเป็นเก่งอีกนะ
                “ไปหาเพื่อนคุย” ฉันบอกก่อนจะทิ้งตัวลงข้างๆยัยคาเอเดะที่กำลังเมาได้ที่บอกไว้ก่อนนะว่าฉันจะไม่ไปส่งยัยนี่แน่ๆ
                ฉันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทร.บอกพี่คาโอยะพี่ชายฝาแฝดของยัยคาเอเดะให้มารับตัวยัยนี่กลับ พี่เขาโมโหมากที่ยัยนี่กินเหล้าจนเมาขนาดนี้ แถมบ่นจนหูชาก่อนวางอีกต่างหาก ผู้ชายอะไรขี้บ่นชะมัด
                ฉันมองยัยคาเอเดะที่น็อคไปแล้วเรียบร้อยก่อนจะยกวิสกี้มาดื่มรวดเดียวจนหมด ก่อนที่มันจะเพิ่มจากหนึ่งเป็นสอง จากสองเป็นสาม จากสามเป็นสี่จนตอนนี้ฉันเริ่มคุมสติไม่อยู่แล้ว เตโชที่มาเป็นหน่วยพิทักษ์สาวสวยเห็นฉันเริ่มอาการไม่มีเลยถามขึ้น
                “ไหวมั้ยโนริ??”
                “ไหว ไม่ต้องห่วง ฉันฝากยัยพวกนี้ด้วยนะ” ฉันบอก ก่อนจะประคองตัวเองให้ยืนขึ้น แล้วพยายามทรงตัวให้มั่นคง ก่อนจะเดินออกมานอกผับแล้วไปที่ลานจอดรถ
                ฉันเดินโซเซกลับมาที่รถ จะใช้เวทย์หายตัวก็ไม่ได้ เพราะฉันคุมสติตัวเองไม่ไหว ถ้าใช้อาจเกิดการผิดพลาดได้ซึ่งมันไม่น่าพิศมัยเท่าไหร่ เกิดไปโผล่ที่ทะเลทรายซาฮาร่าฉันไม่แย่เอาหรอ
                ฉันยืนพิงรถตัวเองพลางสะบัดหัวไปมาเพื่อเรียกสติ แล้วอย่างนี้ฉันจะขับรถกลับได้มั้ยเนี่ย!! ถ้าขับกลับได้ฉันหวังว่าพรุ่งนี้คงไม่มีข่าวคนตายกลางถนนเพราะโดนรถชนหรอกนะ ไม่เอาดีกว่า โทร.บอกวาโตรุมารับดีกว่าเพื่อเป็นการลดจำนวนคนตายของประชากรญี่ปุ่น -_-^^
                หมับ!!
                ฉันสะดุ้งเมื่อมีมือของใครบางคนโอบเอวฉันเอาไว้จากด้านหลัง ฉันกะจะอัดเจ้าคนฉวยโอกาสสักป้าบ แต่ต้องหยุดชะงักเมื่อสายตาสบเข้ากับดวงตาสีมรกตที่ตอนนี้ฉายแววไม่พอใจอย่างมาก
                “ว้ายยย!! จะทำอะไรน่ะเทสึ!!” ฉันร้องเสียงหลงเมื่อเทสึอุ้มฉันขึ้นแบบไม่ทันตั้งตัว ก่อนที่เขาจะวางฉันลงในรถของตัวเอง ส่วนตัวเขาเองก็อ้อมมาอีกฝั่งเพื่อขับรถ
                “นี่!! ฉันกลับเองได้นะ!!” ฉันโวยวายแต่เทสึก็ไม่ได้ใส่ใจฉันสักนิด จนฉันชักจะปรี๊ดแต่ทำอะไรไม่ได้เพราะเวียนหัวเกินไป
                ฉันเบิกตากว้างเมื่อที่ที่เขาพามาไม่ใช่บ้านฉันแต่เป็นคอนโดฯของเขาเอง ฉันหันควับไปทางเขาแต่พบว่าเขาโน้มหน้ามาหาฉันพอดี ริมฝีปากเราเลยชนกันโดยบังเอิญ
                ฉันผลักเขาออกแต่เขากลับรวบมือฉันไว้ด้วยมือเดียวส่วนอีกมือก็จับหน้าฉันให้เชิดขึ้น
                “ไม่น่าเชื่อว่าเธอจะกล้าดื่มหนักจนคุมสติตัวเองไม่ได้ขนาดนี้” เทสึจ้องเข้ามาในดวงตาสีน้ำทะเลของฉันด้วยสายตาที่ไม่สบอารมณ์ ฉันคุมสติตัวเองอยู่ย่ะ!!
                “ปากเก่ง” เทสึยิ้มมุมปากก่อนจะลงจากรถ แล้วอ้อมมาอีกฝั่งก่อนจะอุ้มฉันลงจากรถ
                ฉันดิ้นพล่านทันทีจนเทสึเริ่มไม่สบอารมณ์ เขาเลยเร่งฝีเท้าขึ้นจนเรามาหยุดอยู่ที่หน้าห้องของเขา
                “ปล่อยฉ้านนนนน!!!” ฉันโวยวายก่อนที่เทสึจะรีบปิดประตูเพราะกลัวคนอื่นจะได้ยินปล่อยยยยย!!!
                ฟุ่บ!!
                เทสึโยนฉันลงบนเตียงคิงไซต์ก่อนที่ตัวเขาเองจะคร่อมฉันเอาไว้ มือเล็กๆของฉันถูกเขารวบเอาไว้เหนือหัว ส่วนอีกมือก็ปิดปากฉันเอาไว้ไม่ให้ร้อง
                “โอ๊ยย!!” เทสึรีบปล่อยฉันออกทันทีก่อนจะไปยืนกุมมืออยู่ข้างเตียงเพราะฉันกัดมือเขา ฉันเลยอาศัยจังหวะนั้นลุกจากเตียงก่อนจะวิ่งไปที่ประตู
                พลั่ก!!
                “อย่าคิดว่าจะหนีไปได้นะ ตราบใดที่เรายังไม่ได้คุยกัน เธอก็ไม่ไหนไม่ได้ทั้งนั้น!” เทสึกดมือทั้งสองข้างของฉันไว้ที่ผนังห้อง หมอนี่มันผลักฉันจนติดผนังเลยอ่ะ เจ็บนะ!!!
                 “เรามีเรื่องอะไรต้องคุยกันหรือไง!!” ฉันเริ่มขึ้นเสียง เราสองคนมีเรื่องต้องคุยกันซะที่ไหนล่ะ
                “มีสิ เยอะด้วย” จบคำเขาก็เหวี่ยงร่างบางของฉันไปที่เตียงก่อนที่เขาจะตามมาคร่อมฉันเอาไว้ สองมือของฉันถูกรวบเอาไว้ด้านข้างด้วยมือหนา ฉันดิ้นพล่านไปมาทันที ในหัวก็คิดวิธีที่จะหนีจากเทสึ แต่มันเป็นไปไม่ได้เลยน่ะสิ!!
                “ปล่อยฉันนะเทสึ!! นายจะทำบ้าอะไรน่ะ!!!” ฉันดีดดิ้นไปมา แต่ระหว่างผู้หญิงที่เมาแทบคุมสติตัวเองไม่ได้กับผู้ชายที่ปกติทุกอย่างก็เห็นกันอยู่ว่าใครจะชนะ!
                ฉันเริ่มหมดแรงแต่อย่างว่าเมาซะขนาดนี้แรงฉันก็ไม่มีอยู่แล้ว ฉันเลยหยุดนิ่งเพราะเหนื่อย บวกกับเมาเกินไป มันเลยทำให้ฉันง่วง ฉันบิดตัวไปมาเบาๆง่วงๆๆ –O-
                เทสึเริ่มผ่อนแรงที่จับข้อมือฉันไว้ ก่อนจะโน้มหน้าลงมาซุกไซ้ไปตามซอกคอ และใบหน้าก่อนที่ใบหน้าหล่อเหลาจะขมวดคิ้วมองฉันเขม็ง ฉันทำอะไรผิด?
                “โนริ เธอไปจูบกับคนอื่นมาใช่มั้ย?” ฉันหันไปมองเขาอย่างสงสัย แต่ก็ยังคงปิดปากเงียบ
                “ตอบฉันมาโนริ เธอไปจูบกับคนอื่นมาใช่มั้ย?” เทสึถามย้ำ ฉันเริ่มรู้สึกกลัวเขาขึ้นมาตงิดๆทำไมเทสึในตอนนี้ถึงได้ดูน่ากลัวกว่าที่ผ่านมาอย่างนี้
                “โนริ!”
                 “ใช่!”  เพราะความตกใจฉันเลยพลั้งปากตอบความจริงออกไป เทสึบีบข้อมือฉันแน่นจนฉันร้องออกมา เป็นจังหวะเดียวกับที่เทสึประกบปากลงมาพอดี
                ฉันร้องประท้วงในลำคออึกอัก แต่ร่างกายมันขยับไม่ได้ดั่งใจ จึงทำให้แต่สะบัดหน้าหนีการจู่โจมของเขา
                “หยุดนะ อุ้บ~” เทสึไม่ปล่อยให้ฉันได้หายใจเขาประกบริมฝีปากลงมาอีกครั้ง มันเป็นจูบที่เต็มไปด้วยความรุนแรงแต่เร่าร้อน แต่ก่อนที่ฉันจะขาดใจตายเขาก็ถอนปากออก
                ฉันเบือนหน้าหนีไปอีกทางพลางหอบหายใจอย่างหนักหน่วง สัมผัสเมื่อกี้ทำให้หัวใจเต้นรัวอย่างห้ามไม่อยู่ เหมือนจะชอบก็ไม่ใช่แต่จะบอกว่ารังเกียจมันก็ไม่ใช่อีก
                 เทสึจับหน้าฉันให้หันไปหาเขาก่อนจะเชิดหน้าฉันขึ้น เผยให้เห็นต้นคอขาวใบหน้าคมคายซุกไซ้ไปตามซอกคอก่อนจะขบเม้มเบาๆเหมือนเป็นการหยอกล้อ ฉันบิดตัวไปมาเพื่อหนีจากริมฝีปากที่ซุกซนนั่นก่อนที่เขาจะจูบไปทั่วต้นคอ เนินอกก่อนจะลากขึ้นมาประกบปากกับฉันอีกครั้ง
                ฉันครางในลำคออึกอักเมื่อการจูบเริ่มหนักหน่วงขึ้น จนร่างกายฉันตอบสนองเขาไปเกินครึ่ง มือเรียวสวยของฉันเอื้อมไปปลดกระดุมเสื้อเขาออกจนเผยให้เห็นซิคแพค
                เทสึถอนปากออกก่อนเปลี่ยนเป็นซอกคอ เนินอก และต่ำลงไปเรื่อยๆจนถึงขาอ่อน เขาชันขาฉันขึ้นก่อนจะลากลิ้นไปมาแล้วลากขึ้นมาเรื่อยๆจนมาหยุดที่ซอกคอ เขาจูบหหนักๆลงไปสองสามที ก่อนจะเลือนมาเป็นริมฝีปากฉันอีกครั้ง แผ่นลิ้นร้อนชื้นของเขาง้างปากฉันเปิดออกก่อนที่เขาจะรุกหนักกว่าเดิมเป็นเท่าตัว  แต่ตอนนี้ฉันไม่ไหวแล้วจริงๆ…..

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา