ก๊วนเทพวัยใสป่วนหัวใจให้ตกหลุมรัก
เขียนโดย เจ้าหนอน
วันที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 เวลา 01.37 น.
แก้ไขเมื่อ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 17.24 น. โดย เจ้าของนิยาย
11) ตอนที่ 10
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ Tetsu’s talk
ผมผละออกจากร่างบางที่ตอนนี้เงียบไปแล้ว ก่อนจะก้มลงจูบที่ริมฝีปากของเธอเบาๆเป็นการบอกราตรีสวัสดิ์ เธอคนนั้นไม่ใครที่ไหน โนริ เพื่อนที่ผมคิดว่าเธอควรจะเปลี่ยนสถานะมาเป็นอะไรที่มากกว่านั้นได้แล้ว
เหตุการณ์เมื่อกี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้นมากมายหรอกนอกจากผมที่จูบเธอจนหมดสติไปแค่นั้นเอง แต่แค่นี้ก็ทำให้คนร่างบางเข็ดไปจนตายเลยล่ะ ผมนี่ไม่อ่อนโยนเอาซะเลยแทนที่จะนุ่มนวลกับเธอกลับกลายเป็นว่าผมรุนแรงกับเธอแทน มีหวังเธอเกลียดผมไปจนวันตายแน่ ซึ่งผมไม่ยอมให้มันเป็นแบบนั้นหรอก
ผมมองร่างบางด้วยสายตาที่อ่อนโยนแต่ก็ต้องทำหน้าบึ้งอย่างช่วยไม่ได้เพราะชุดที่เธอใส่มันยั่วอารมณ์ผมเหลือเกิน ไหนจะเรือนร่างที่เซ็กซี่ได้สัดส่วนนั่นอีก ริมฝีปากอวบอิ่มที่ไม่ว่าจะลิ้มลองกี่ทีมันก็ยังคงหวานหอมเช่นเดิม อ้ากกกก!!! พูดแล้วของขึ้นโว้ยยย!!!
ผมรีบร่ายเวทย์เปลี่ยนชุดให้เธอเป็นสไตร์หวาน น่ารักแทน อย่างนี้จะได้ไม่ยั่วอารมณ์ผมอีก รอดไปได้หนึ่งคืนนะนางฟ้าของผม
ผมล่ะสงสัยอยู่เรื่องหนึ่งว่าเธอรอดจากเงื้อมือของพวกผู้ชายที่อยู่ในผับมาได้ยังไงโดยไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วน แต่ถึงอย่างนั้นก็มีไอ้บ้าที่ไหนมารู้มาจูบนางฟ้าของผม ซึ่งนั่นคือสาเหตุที่ทำให้เธอต้องมาอยู่กับผมในคืนนี้
ผมก้มมลงมองตัวเองที่อยู่ในสภาพเสื้อผ้าหลุดลุ่ย เฮ้ๆ!อย่าคิดว่าผมเป็นคนถอดนะ นางฟ้าของผมต่างหากล่ะที่เป็นคนทำ โชคดีหรือโชคร้ายกันนะที่เธอมายั่วอารมณ์ผมจนผมต้องตอบสนองอารมณ์ตัวเองโดยการรุกอีกฝ่ายจนหมดสติไปทั้งอย่างนั้น แน่นอนสำหรับนางฟ้าของผมมันคือโชคดี แต่สำหรับผมมันคือสุดยอดของความโชคร้ายน่ะสิ!!
ออ!เรื่องที่ผมบอกว่าไม่รู้เรื่องการทำพันธะน่ะ ผมโกหก ความจริงผมรู้ดีเลยล่ะว่าวิธีการคืออะไร แล้วจะเกิดอะไรขึ้นถ้าทำสำเร็จ ซึ่งเหตุผลที่ทำผมเองก็ยังไม่แน่ใจว่าทำไมถึงเลือกเธอแทนที่จะเป็นคนอื่น แต่ไม่ว่าจะหาเหตุผลยังไงผมก็หาไม่ได้สักที
ผมล้มตัวนอนข้างร่างบางที่หลับไม่รู้เรื่องรู้ราวก่อนจะสวมกอดเธอเอาไว้จากด้านหลัง นี่คงเป็นคืนแรกที่ผมมีความสุขมากที่สุดเท่าที่เคยมีมาเลย
ผมกระพริบตาปริบๆเมื่อแสงแดดส่องเข้ามาในห้อง ผมลืมปิดผ้าม่านนี่นาเมื่อวานมัวแต่วุ่นวายอยู่กับนางฟ้าคนสวย
ร่างบางในอ้อมกอดที่ยังคงหลับเป็นตาย เกิดโดนผมปล้ำขึ้นมาทำไง ล้อเล่นน่าผมไม่ใช่พวกลักหลับสักหน่อย ผมออกจะเป็นคนดี(แต่เมื่อคืนไม่ใช่) อย่ามองผมในแง่ลบสิ
ผมลุกไปอาบน้ำก่อนจะออกมาพร้อมกะละมังใบเล็ก ผ้าขนหนู เพื่อเอามาเช็ดตัวให้ร่างบางที่สงสัยว่าจะแฮงค์อยู่ ถึงได้ไม่ตื่นสักที
“อื้ม….” เธอครางออกมาเบาๆเมื่อผมไปรบกวนการพักผ่อนของเธอ ก่อนจะเริ่มเช็ดตัวให้อย่างเบามือ ตามตัวของเธอยังมีรอยจูบของผมเต็มไปหมด ขืนเธอตื่นขึ้นมาเจอตัวเองในสภาพนี้ คงอาละวาดเหมือนคราวก่อนแน่ๆและผมไม่อยากให้เป็นแบบนั้นซะด้วยจึงร่ายเวทย์ลบเลือนรอยพวกนั้น ถึงจะเสียดายอยู่ก็เถอะที่มันไม่ได้อยู่บนตัวเธอ แต่มันน่าจะดีกว่าที่ผมต้องมาหลบหลีกเคียวเล่มยักษ์ของเธอล่ะนะ -_-^^
เมื่อเช็ดตัวเสร็จผมก็มาเตรียมอาหารเพื่อให้นางฟ้าของผมทาน(ซึ่งไม่รู้ว่าจะตื่นเมื่อไหร่) เป็นอาหารง่ายๆแต่ฝีมือผมมันก็ไม่ธรรมดาหรอกนะจะบอกให้
เมื่อตั้งโต๊ะทานอาหารเรียบร้อยผมก็เข้ามาในห้องนอนที่นางฟ้าของผมนั่งทำตาแป๋วอยู่บนเตียง น่ารักชะมัดเลย ^^
“ตื่นแล้วหรอ?” ผมถามแต่เธอส่ายหน้าก่อนจะล้มตึงลงกับเตียง แล้วหลับต่อ อ้าวเฮ้ย?ลุกขึ้นมาแค่เนี่ย!!
“นี่..” จู่ๆนางฟ้าของผมก็กวักมือเรียกทั้งๆที่หลับตาอยู่ ในมือกอดตุ๊กตาที่ผมคาดว่าเธอคงเรียกมันมาแน่ๆโตแล้วยังนอนกอดตุ๊กตาอยู่ได้
“อะไร?” ผมถามก่อนจะนั่งลงบนเตียง มองร่างบางที่ค่อยๆลืมตาขึ้นมาก่อนจะหาวออกมาอย่างไม่อายผม มันเป็นแบบนี้มาตั้งนานแล้ว เธอไม่เคยอายใครหรอก
“อยากไปเที่ยวทะเล” เธอบอกก่อนจะกระโดดกอดคอผมพลางเอาคางมาเกยไหล่ผม ผมหน้าขึ้นสีทันที เธอลืมไปแล้วหรอว่าเมื่อคืนผมเกือบจะ……กับเธอน่ะ
“อย่าคิดว่าฉันจะลืมนะว่าเมื่อคืนนายทำอะไรเอาไว้ แต่เบิร์น ฟินิกส์ บอกว่าให้ใจเย็นๆฉันถึงไม่โมโหเรื่องเมื่อคืน ไม่อย่างนั้นนายไม่มานั่งอยู่ตรงนี้หรอก” เธอพูดเสียงเย็นๆทำเอาผมขนลุกซู่ ผมรู้ชะตากรรมตัวเองว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้านางฟ้าของผมโกรธ
“รู้แล้วน่า แล้วจะไปมั้ยทะเลน่ะ” ผมเปลี่ยนเรื่อง เธอเลยผละออกจากผมแล้วจ้องผมตาแป๋ว เหมือนเด็กเล็กๆที่ผมว่ามันไม่เหมาะกับเธอเท่าไหร่ เธอเหมาะกับบุคลิคสาวสวยมากกว่า
“ไปสิ ว่าแต่ว่าฉันเพิ่งรู้นะเนี่ยว่านายก็หล่อเหมือนกัน” เธอยิ้มแล้วเดินเข้าห้องน้ำไปเฉย เธอจะรู้หรือเปล่านะว่าเธอทำผมเขินน่ะ
หลังจากที่เธออาบน้ำเสร็จเรียบร้อยเธอก็มาในชุดเที่ยวทะเลแบบจัดเต็ม จะรีบไปไหนแม่คู๊ณ!!!
ผมพานางฟ้าของผมมาทานข้าวเช้าให้เรียบร้อยก่อนจะมุ่งหน้าสู่ทะเล แต่คนอยากมากลับหลับไม่รู้เรื่องตั้งแต่ออกรถ สงสัยคงแฮงค์อยู่มั้ง ก็เมื่อวานเอาซะกลับเองไม่ได้เลยนี่นา
เมื่อมาถึงทะเลผมก็ปลุกคนข้างตัวให้ตื่นจากนิทรา ก่อนที่เธอจะวิ่งลงทะเลไปเฉย สนใจคนพามาหน่อยเซ่!!!
ผมมองภาพตรงหน้าก่อนจะยิ้ม หาดทราย สายลม ผู้หญิง ช่างเป็นส่วนผสมที่เข้ากันจริงๆ ผมคิดไม่ผิดสินะที่พาเธอมา
หืม?? ทำไมผมรู้สึกว่าที่นี่มันแปลกๆกันนะ
ผมรีบไปตามนางฟ้าของผมขึ้นฝั่ง แต่พบว่าเธอไปลอยคออยู่ในทะเลเป็นที่เรียบร้อย แถมลงไปลึกด้วย ไม่แค่นั้นยังไม่สนใจสิ่งรอบตัวอีก หัดดูสถานการณ์ซะบ้างสิ!!
“โนริ!! ขึ้นมาก่อน!!!” ผมตะโกนบอกร่างบางที่ยังคงไม่ได้ยินเสียงผมแถมยังมีหน้ากวักมือเรียกผมลงไปเล่นด้วยอีก รีบขึ้นมาได้แล้วเฟ้ยยย!!
ผมร่ายเวทย์พลางตาก่อนจะสยายปีกแล้วบินลงไปคว้าร่างบางที่ยังคงงงกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น พลางมองผมสลับกับน้ำทะเลสีครามไปมา
“เกิดอะไรขึ้นหรอ?” นางฟ้าของผมถามเมื่อผมพาเธอบินขึ้นเหนือน้ำทะเลเกือบหนึ่งกิโลเมตรผมมุ่ยปากให้มองลงไปข้างล่างว่าตอนนี้มันกำลังจะเกิดอะไรขึ้น
“ทำไมน้ำทะเลถึงได้กลายเป็นน้ำวนแบบนั้นล่ะ!!” ร่างบางที่อยู่ในอ้อมกอดของผมเบิกตากว้าง ผมขมวดคิ้วจนแทบจะผูกติดเป็นโบว์ น้ำวนนี่ไม่ใช่เรื่องธรรมชาติแน่นอน ผมว่ามันเป็นฝีมือของใครบางคน ซึ่งผมคิดว่าไม่ใช่พวกเดียวกับเราสองคนแน่ๆ
“เทสึ!! เรือของชาวบ้านถูกดูดเข้าไปในน้ำวนแล้ว!!” โนริร้องเสียงหลงเมื่อมีเรือประมงของชาวบ้านถูกดูดเข้าในน้ำวนเกือบสิบลำเธอร่ายเวทย์หยุดกระแสน้ำซึ่งได้ผลดีเกินคาด น้ำวนกลับไปเป็นปกติแต่มีคนจมน้ำ!!
พรึบ!!
ร่างบางที่เคยอยู่ในอ้อมกอดของผมกระโดดลงไปในทะเลก่อนที่จะสยายปีกออก เธอร่ายเวทย์อะไรบางอย่างที่ผมไม่รู้จักก่อนที่ร่างของคนที่เคยอยู่ใต้น้ำจะค่อยๆลอยขึ้นมา ร่างไม่ได้สติเหล่านั้นถูกวางไว้ที่ชายหาดก่อนที่เธอจะบินมาอยู่ข้างผม
“เทสึ ช่วยคุ้มกันชาวบ้านให้ด้วยฉันมีเรื่องต้องไปสะสางกับใครบางคน” จบคำเธอก็พุ่งลงน้ำทันที กลับร่างเทพตอนนี้มันก็ยังทันอยู่นะ โนริ-_-^^
ผมทำตามที่นางฟ้าคนสวยสั่งโดยการร่ายเวทย์ป้องกันระหว่างฝั่งกับทะเลในขณะเดียวกันผมก็ร่ายเวทย์พลางตาเอาไว้ด้วย เผื่อเกิดเหตุฉุกเฉินน่ะ
ตู้มมม!!!!
น้ำทะเลกระจายตัวออกเป็นวงกว้าง ก่อนที่ร่างสองร่างจะโผล่ขึ้นเหนือน้ำ โนริยังคงอยู่ในร่างมนุษย์ซึ่งอีกฝ่ายเขาอยู่ในร่างเทพ แถมยังเป็นเทพนรกซะด้วย สวยด้วยนะ ^^
โนริจ้องคนตรงหน้าเขม็งเหมือนเขาไปทำอะไรให้เธอโกรธ ก็ทำจริงๆนั่นแหละ มีอย่างที่ไหนใช้น้ำเพื่อฆ่าคน โนริเขาเป็นเทพแห่งน้ำนะครับ เขาก็ต้องโกรธสิที่ริอาจไปใช้ของรักของหวงเขาในการฆ่าคน แถมน้ำทุกที่เป็นสิ่งที่ตระกูลของโนริเขาต้องดูแลและปกป้อง ไม่อย่างนั้นบนโลกคงไม่มีน้ำถ้าไม่มีตระกูลของโนริ เหมือนกับผมนั่นแหละ ถ้าไม่มีตระกูลของผมโลกก็ไม่มีแสง ถ้าขาดเทพองค์สำคัญองค์ใดองค์หนึ่งไปโลกถึงกาลอวสานแน่ ส่วนมีใครบ้าง เดี๋ยวผมเล่าให้ฟังทีหลัง
“หยุดทำร้ายมนุษย์สักทีเทนเนสซี ฉันชักจะทนไม่ไหวแล้วนะ” โนริพูดเสียงต่ำ บรรยากาศค่อนข้างมาคุอยู่พอควร ในมือเล็กๆมีเคียวเล่มยักษ์สีเงินที่พร้อมจะตวัดออกไปทุกเมื่อ มันไม่ใช่อันเดียวกับคราวที่แล้วนี่หว่า แถมยังไม่ได้กลับร่างเทพด้วย ยัยนี่ไปเอาอาวุธมาจากไหน?
“ต้องขอโทษด้วยที่ต้องบอกว่า ไม่!” จบคำเทพนรกที่ชื่อเทนเนสซีก็กระชับดาบในมือแน่นก่อนจะกรูเข้าใส่โนริที่ยังคงตีหน้านิ่ง ไว้อาลัยให้เทนเนสซีสองนาที
โนริยกเคียวขึ้นมากันก่อนจะตวัดขาใส่เทนเนสซีจนเธอต้องถอยออกมาตั้งหลัก ผมอยากไปช่วยโนรินะ แต่ถ้าผมวางมือจากการป้องกัน หายนะจะบังเกิดทันที ผมจึงได้แต่มองเธอแล้วส่งกำลังใจไปช่วยเท่านั้น
เคร้ง!! ฉับ!! พรึบ!
การต่อสู้ระหว่างสองสาวเป็นไปอย่างดุเดือด โนริกับเทนเนสซีผลัดกันรุกผลัดกันรับ จนผมชักไม่แน่ใจว่าควรไว้อาลัยให้ใครดี -_-^^
“เอาล่ะ ฉันชักจะเบื่อแล้วเล่นกันแค่นี้แหละนะ” จบคำโนริก็ตวัดเคียวผ่านร่างของเทนเนสซีทันที ก่อนที่ร่างของเธอจะกลายเป็นหินแล้วสลายไปในที่สุด สุดท้ายโนริก็เป็นคนชนะจนได้
โนริหันมามองผมเป็นเชิงว่าหยุดได้แล้ว ผมเลยวางมือจากการป้องกัน ก่อนจะบินมาหาร่างบางที่ทำหน้าไม่สบอารมณ์
“ดูท่าว่าการเที่ยววันนี้คงไม่สนุกแล้วล่ะ กลับกันเถอะ” โนริชวนก่อนจะหายตัวกลับไปเลย ผมถอนหายใจนิดหน่อยก่อนจะหายตัวกลับบ้านตัวเองเหมือนกัน
ฉันนั่งหน้านิ่งอยู่บนโต๊ะอาหารก่อนจะทานอาหารเงียบๆ ทุกคนไม่มีใครกล้าถามอะไรเลยว่าฉันเป็นอะไรไปแม้แต่ท่านพ่อกับท่านแม่ยังไม่กล้าถาม ฉันเองก็ไม่อยากตอบเหมือนกันแหละ
เมื่อทานอิ่มแล้วฉันก็เดินกลับห้องทันทีโดยไม่บอกราตรีสวัสดิ์เหมือนเคย ดูท่าฉันจะเหนื่อยเกินไปจนไม่อยากขยับปากซะแล้ว เฮ้อ~ไปวางแผนเรื่องชิงวิญญาณกลับมาดีกว่า
ฉันกางแผนที่ลงบนเตียงก่อนจะมองหาช่องทางที่จะเข้าไปในเขตของนรกฝ่ายมืด มันไม่ง่ายเลยนะสำหรับการที่จะเข้าไปในจุดที่มืดมนที่สุดของนรก ถ้าจะเข้าไปก็ต้องผ่านประตูหน้าที่เต็มไปอสูรมากมายหน้าตาน่าเกลียด แต่ถ้าผ่านมาได้ก็ต้องเจอกับป่ามรณะ ที่เต็มไปด้วยต้นไม้กินคนนานาชนิด และถ้ารอดออกมาได้ก็ต้องเจอกับภูตแห่งริสธาเนีย ภูตที่เกลียดการคงอยู่ของสวรรค์ ถ้าเจอเทพสวรรค์พวกมันจะจัดการฉีกเป็นชิ้นๆทันที แน่นอนว่าไม่มีทางรอด แต่ถ้ารอดก็ต้องเจอกับพวกปีศาจที่เฝ้าหน้าปราสาทไวซ์ ดาร์ค แต่ถ้าเลี่ยงได้เราก็เลี่ยงไปซะ จากนั้นก็ค่อยเข้าไปที่หอคอยแห่งไวซ์ เด็ธ ซัฟเฟอริงแล้วทำการชิงวิญญาณกลับมา แต่มันไม่ง่ายอย่างที่พูดน่ะสิ!!
เดี๋ยวก่อนนะ ถ้าสมมุติฉันปลอมตัวเป็นพวกมันล่ะ แต่ถึงจะว่าอย่างนั้นกลิ่นไอของความเป็นสวรรค์มันก็ไม่จางหายไปหรอก ทำไงดีนะ???
ฉันจ้องแผนที่ในมือก่อนสายตาจะเหลือบไปเห็นทางเข้าอีกทาง แม่น้ำแห่งลูซ ออลโฮพไงล่ะ!!
ถึงแม้แม่น้ำนั่นจะอยู่ในนรกแต่ฉันที่เป็นถึงเทพแห่งน้ำ ผู้ที่คุ้มครองดูแลแม่น้ำ มหาสมุทรทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นในสวรรค์หรือนรก ขึ้นชื่อว่าเป็นน้ำพวกเขาก็ต้องฟังคำสั่งฉัน ต่อให้เป็นเจ้านรกออกคำสั่งกับพวกเขา แต่ถ้าฉันสั่งไม่ให้ทำพวกเขาก็จะเชื่อฟังฉันโดยไม่มีข้อโต้แย้งเลยล่ะ และถ้าฉันจะไปเยี่ยมพวกเขาบ้างคงไม่เป็นไรใช่มั้ย?
เมื่อได้เส้นทางสำหรับการบุก ฉันก็ต้องทบทวนเส้นทางอีกทีพร้อมกับเช็คอาวุธให้พร้อม ถ้าต้องประมือกับเทพนรกจริงๆฉันคงต้องใช้อาวุธที่รุนแรงและพละกำลังมาก ดังนั้นอาวุธที่ใช้ต้องเป็นพวกที่ฟื้นพลังได้เอง ซึ่งฉันเลือกคฑา เคียวและธนู
ฉันเก็บแผนที่ก่อนจะล้มตัวนอน อีกสามวันจะเป็นวันฮาโลวีนซึ่งเป็นวันที่ประตูมิติจะถูกเปิดออก เหล่าเทพนรก สวรรค์ ภูต ปีศาจ สามารถออกมาเพ่นพ่านบนโลกมนุษย์ได้และที่สำคัญ นรกจะไม่มีคนคุมเพราะเป็นวันที่เหล่าปีศาจขึ้นมาบนโลกมนุษย์ เหล่าเทพนรกฝ่ายขาวซึ่งก็คือฝ่ายของเบิร์น ฟินิกส์ ก็จะขึ้นมาคุมพวกปีศาจบนโลกมนุษย์ ส่วนพวกฝ่ายมืดฉันคิดว่าพวกมันจะอาศัยช่วงเวลานั้นขึ้นมาโลกมนุษย์ และจะมามากกว่าสามด้วย ต้องหาคนคอยคุ้มกันแล้วล่ะ แต่เบิร์น ฟินิกส์เอาอยู่อยู่แล้วล่ะเรื่องนี้จึงไม่น่าเป็นห่วง
ส่วนเรื่องการช่วยวิญญาณ ฉันจะใช้พลังเวทย์ส่งพวกเขาไปที่สวรรค์เพื่อทำการพิพากษา หลังจากนั้นก็กลับออกมาทางเดิม หวังว่าแผนที่ฉันเล่าให้ฟังจะประสบผลสำเร็จนะ
ฉันมาโรงเรียนแต่เช้าเพื่อมาเตรียมงานช่วยพวกสภาฯเพราะใกล้ถึงวันฮาโลวีนแล้ว เป็นงานที่ฉันจะไม่ได้มาร่วม แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็อาจจะส่งตัวแทนมาก็ได้ แต่จะว่ามาเที่ยวก่อนบุกนรกก็เวิร์คดีนะ ^^
พื้นที่ในโรงเรียนตกแต่งด้วยฟักทองที่ถูกเฉาะทำเป็นใบหน้า ห้องเรียนต่างๆก็จัดเป็นกิจกรรมเพื่อให้คนอื่นไปเล่น บ้างก็บ้านผีสิง บ้างก็จิบน้ำชา ส่วนห้องฉันคือเกมทดสอบความกล้านัดพิเศษวันฮาโลวีน โดยเราจะตกแต่งตึกอำนวยการซึ่งเป็นตึกที่ห้องเราใช้จัดกิจกรรมให้เป็นสถานที่สยองขวัญ แล้วให้คนที่เข้าร่วมเล่นเกมจับกลุ่มกันสี่คนจะหญิงล้วนก็ได้ชายล้วนก็ได้ หลังจากนั้นเราก็จะให้จับฉลากว่าทีมไหนให้ไปตามหาของอะไร โดยที่พวกเราจะมีคำใบ้ว่าควรไปที่ไหนก่อนแล้วให้พวกเขาไปที่นั่นซึ่งก็จะมีคำใบ้ให้เรื่อยๆจนกว่าพวกเขาจะเจอของที่ให้หา ซึ่งระหว่างนั้นพวกเราก็จะแต่งตัวเป็นผีออกมาหลอกคนอื่นเป็นระยะ แต่น่าเสียดายที่ฉันไม่ได้อยู่ร่วม เอาเถอะๆอย่าเสียใจไปเลย
ฉันมองดูตึกอำนวยการที่ถูกเนรมิตเป็นสถานที่สำหรับเล่นเกม โดยคนนอกไม่สามารถเข้าไปได้นอกจากห้องฉัน ก่อนที่ฉันจะเดินเข้าไปข้างใน
บรรยากาศภายในตึกอำนวยการดูวังเวงชวนขนลุก บนผนังมีเครือไม้ประหลาดๆประดับอยู่ ฝีมือเทสึชัวร์!ส่วนประตูห้องก็มีอวัยวะปลอมประดับอยู่ เห็นแล้วสยองชะมัด ตามพื้นก็มีกลีบกุหลาบ หัวคน มือคน เลือด ไอ้พวกนี้มันเล่นอะไรกันว่ะ??
ฉันเดินมาที่ห้องๆหนึ่งที่กำลังทำการตกแต่ง ดูเหมือนจะทำเป็นห้องดับจิตล่ะมั้ง ก็เพราะมันมีเตียงผู้ป่วยอยู่ในห้องนี่น่า ว่าแต่คนทำหายไปไหน?
ฉันเดินออกมานอกตึกก่อนจะเดินไปที่หอสภาฯแล้วเดินไปที่ห้องทำงานของตัวเองที่ตอนนี้มีแขกนั่งรออยู่ ใครนะ?
เมื่อเห็นหน้าแขกฉันก็ถึงกับงง ผมสีแดงสดที่รวบขึ้นสูงปล่อยปอยผมเล็กน้อย ผิวขาวอมชมพู ดวงตาสีกรมหันมามองฉันที่เพิ่งเดินเข้ามาก่อนที่เธอจะโค้งทักทายฉัน
“คุณคือนักเรียนจากโรงเรียนเซนต์โลเบล์เรียใช่มั้ยคะ?” ฉันถามก่อนจะเชิญเธอให้นั่งลง ส่วนตัวเองก็นั่งฝั่งตรงข้าม
“ค่ะ ฉันโซโซ เมโลดี้ค่ะ เป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนจากเซนต์โลเบล์เรีย วันนี้มารายงานตัวค่ะ” เธอแนะนำตัว อ๋อ!เธอเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนจากเยอรมันจริงๆด้วย ฉันก็ว่าอยู่ว่าทำไมยูนิฟอร์มมันถึงคุ้นตาจัง
“ฉันเอนาริ เลมอนค่ะ เรียกโนริก็ได้ค่ะ” ฉันแนะนำตัวก่อนจะรับแฟ้มประวัติของเธอมาอ่าน เธอเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่จะมาเรียนในชั้นมัธยมปลายปีสองห้องเอ โดยจะมาเรียนพรุ่งนี้เป็นวันแรก
“ค่ะ แล้วฉันต้องทำอะไรบ้างคะ?” เธอถาม
“ไม่มีอะไรมากหรอกค่ะ อาจารย์ที่ปรึกษาจะแนะนำคุณกับเพื่อนๆเอง ไม่ต้องเกรงนะค่ะ คนที่นี่เขาเป็นมิตรทุกคนแหละค่ะ ส่วนเรื่องชมโรงเรียน ฉันจะให้คนพาไปนะคะ” ฉันบอกก่อนจะกวักมือเรียกนักเรียนชายคนนึงที่เดินผ่านมาพอดี
“มาสึโตะ พาคุณโซไปชมโรงเรียนหน่อยนะ” ฉันบอกมาสึโตะ เขารับคำก่อนที่จะพาโซไปเที่ยวชมโรงเรียน ส่วนฉันก็เอนหลังกับพนักพิง เหนื่อยจังเลย…..
เมื่อนอนพักจนอาการเหนื่อยดีขึ้นฉันก็เดินไปเปิดเอกสารที่พวกสภาฯเอามาวางไว้ วันนี้ไม่มีคนขาดเรียนเลย เป็นไปได้หรอ? ปกติจะมีนักเรียนขาดเรียนอย่างน้อยวันละสองคน สงสัยมาช่วยเพื่อนจัดกิจกรรมมั้ง ก็อีกไม่กี่วันก็จะเป็นวันฮาโลวีนแล้วหนิ
ปิ๊ง!!
ฉันแทบหงายหลังตกเก้าอี้เมื่อเทสึปรากฎตัวขึ้น นายจะมาแบบปกติได้มั้ยย่ะ!!
“มาแบบปกติมันก็ไม่สมกับเป็นฉันสิ ว่าแต่วันนี้ว่างใช่มั้ย?” เทสึถาม เห็นมั้ยล่ะว่าว่างหรือเปล่า?
“เอาเป็นว่าว่างละกัน ถ้างั้นมาช่วยฉันหน่อย” เทสึทึกทักเอาเองว่าฉันว่าง ก่อนเขาจะจับมือฉันแล้วพาหายตัวไปที่ไหนสักแห่งที่ฉันไม่คุ้นตาเอาซะเลย หมอนี่พาฉันมาที่แปลกๆอีกแล้ว
ตรงหน้าคือร้านอะไรสักอย่างที่ฉันคิดว่าน่าจะเป็นพวกร้านเสื้อผ้า หมอนี่พาฉันมาทำอะไรที่นี่??
“ต๊าย!! น้องไอระจ๊ะ มาทำอะไรที่นี่เอ่ย? อุ๊ยต๊าย~พาคู่ควงคนใหม่มาด้วยหรอเนี่ย” เมื่อเดินเข้ามาในร้านก็มียัยกระเทยควายส่งเสียงทักทายเทสึอย่างเป็นกันเอง คู่ควงหรอ? ใครเขาอยากจะคบกับหมอนี่กัน โลกพินาถแน่ถ้าฉันคบกับหมอนี่
เทสึหันควับมาทางฉันทันทีเมื่อฉันคิดดังเกินไป จะทำไม???
“เทสึพาคนอื่นมาที่นี่บ่อยมากเลยหรอคะ?” ฉันถามพลางมองหน้าเทสึ ลืมไปว่าหมอนี่มันเป็นคาสโนว่า รักใครไม่เป็นนอกจากตัวเอง
“แหม~ก็ไม่บ่อยหรอกจ้ะ แต่เวลาที่น้องเขามาที่นี่เขาไม่เคยพาผู้หญิงคนเดียวกันมาสักที” ยัยกระเทยร่างควายตอบ อ๋อ~กะจะรวมฉันเข้าไปด้วยว่างั้น?
เทสึหันมาส่ายหน้ารัวเป็นการปฏิเสธ ไม่รู้ว่าปฏิเสธเรื่องที่ยัยกระเทยควายพูดหรือว่าเรื่องที่ฉันคิดกันแน่ เอาเถอะเรื่องไหนมันก็ไม่ต่างกันหรอก เพราะคนอย่างเทสึมันก็เป็นแบบที่ยัยกระเทยควายพูดนั่นแหละ
เทสึทำหน้าเหนื่อยใจเมื่อฉันไม่ยอมเชื่อเขา ก่อนที่เขาจะจูงมือฉันให้เข้าไปในร้านที่เต็มไปด้วยชุดหรูหรา ไม่ว่าจะเป็นชุดเจ้าสาว ชุดออกงาน ชุดราตรีหลากหลายชุด สวยจัง ^^
เทสึพาฉันมาที่โซนของชุดแต่งงาน ก่อนที่เขาจะคุยอะไรบางอย่างกับยัยกระเทยควายก่อนที่จะหันมามองฉันขึ้นลง
“เอาแบบหวานๆละกันครับ ไม่ดูโป๊เกินไป ไม่เอาแนวยั่ว เซ็กซี่ก็ไม่เอา ขอเป็นแนวหวานๆนั่นแหละ” เทสึหันไปบอกยัยกระเทยควายก่อนที่หล่อนจะยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ฉันกำลังจะอ้าปากถามแต่โดนยัยกระเทยควายลากไปที่ห้องแต่งตัว ฉันที่ไม่ทันรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เลยได้แต่กระพริบตาปริบๆ พอมารู้ตัวอีกทีฉันก็ยืนมองตัวเองในกระจกแล้ว
ฉันที่อยู่ในชุดเจ้าสาวบริสุทธิ์ ฟูฟ่อง ที่ยาวถึงข้อเท้า ผมถูกรวบขึ้นก่อนจะถูกดัดเป็นลอนประดับด้วยดอกกุหลาบ ใบหน้าเนียนสวยแต่งหน้าอ่อนๆให้ดูเป็นสาวหวาน ฉันไม่เข้าใจเลยว่าทำไมต้องเป็นแนวหวานๆที่จะเป็นสาวสวย หมอนั่นคิดอะไรอยู่นะ?
“น้องโนริจ๊ะ ออกมาได้แล้ว เจ้าบ่าวของน้องเขารออยู่นะ~” เสียงแปดหลอดของยัยกระเทยควายดังขึ้น ฉันถอนหายใจก่อนจะเปิดผ้าม่านออก เผยให้เห็นชายหนุ่มรูปงามที่อยู่ในชุดเจ้าบ่าวสีขาวแบบจัดเต็ม
เทสึอ้าปากค้าง จ้องฉันตาไม่กระพริบ ฉันมองเขาตาค้างเหมือนกัน หมอนี่ทำไมหล่อลากขนาดนี้~
“เป็นไงจ๊ะ สวยล่ะซี~” ยัยกระเทยควายเดินไปกระทุ้งศอกใส่เทสึ หมอนั่นกระพริบตาปริบๆก่อนจะพยักหน้าขึ้นลงจะจ้องอีกนานมั้ยย่ะ!!!
เมื่อเจอฉันตะคอกในใจเทสึก็หันหน้าหนีไปอีกทาง หมอนั่นหน้าแดงมากๆเลยอ่ะ อากาศมันร้อนขนาดนั้นเลยหรือไง?
เทสึหันหน้ากลับมาก่อนจะเดินมาหาฉันช้าๆ แล้วมาหยุดตรงหน้าฉันที่มองเขาอย่างงงๆก่อนที่เขาจะยื่นมือมาตรงหน้าเหมือนจะบอกให้ฉันวางมือลงบนมือเขา คิดจะทำอะไรเนี่ย!!
สุดท้ายฉันก็วางมือลงบนมือเขาจนได้ เทสึยิ้มมุมปากก่อนจะพาฉันมาที่ห้องสำหรับการถ่ายรูป
สรุป!!! หมอนี่พาฉันมาถ่ายรูปแต่งงาน ฉันไม่อยากแต่งงานกับคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นคาสโนว่า แล้วเคยมีแฟนมาแล้วอย่างนายหรอก!!!
เทสึหยุดชะงักก่อนจะหันมามองฉันพลางเบิกตากว้าง ตกใจหรือไงที่ฉันไปรู้ความลับว่านายเคยมีแฟนเป็นเทพสวรรค์ชื่อพีโอน่าน่ะ ยัยนั่นก็สวยใช่ย่อยนะ แต่น่าเสียดายที่ถูกประหารโทษฐานที่ร่วมมือกับเทพนรกเพื่อโค่นล้มสวรรค์ เรื่องเป็นมายังไงฉันไม่รู้หรอกนะ แต่ฉันรู้สึกเกลียดแฟนนายเข้าไส้เลยล่ะ มีอย่างที่ไหนเป็นเทพสวรรค์ดีๆไม่ชอบ ดันไปยุ่งกับเทพนรก มันก็สมควรแล้วล่ะที่โดนประหาร
เทสึลากฉันกลับมาที่ห้องแต่งตัวท่ามกลางความงุนงงของช่างภาพ ก่อนที่เขาจะเหวี่ยงฉันลงบนโซฟาแล้วขึ้นคร่อมฉันเอาไว้ มือเล็กๆของฉันถูกรวบเอาไว้ด้านข้าง เทสึมองฉันเหมือนอย่างจะกินเลือดกินเนื้อ
“บอกฉันมาโนริ ว่าเธอรู้เรื่องนั้นได้ยังไง!!” เทสึถามเสียงดัง มือหนาบีบข้อมือฉันแน่นจนมันแดงเป็นรอยมือเขา
“ฉันรู้ได้ไงมันไม่สำคัญหรอก มันอยู่ที่ว่านายไปคบเธอได้ยังไงต่างหาก” ฉันถามกลับ ก่อนจะจ้องเทสึเป็นการขอคำตอบแต่หมอนั่นกลับพูดออกมาว่า
“เธอไม่สิทธิ์รู้เรื่องนี้!” ไม่มีสิทธิ์งั้นหรอ? หวงขนาดนั้นเชียว
“ถ้าฉันอยากรู้จะทำไม แต่ว่านะ เรื่องของคนทรยศมันก็ไม่มีอะไรให้น่าสนใจนักหรอก มีอย่างที่ไหนเป็นเทพสวรรค์ดีๆไม่ชอบ ดันไปยุ่งกับเทพนรก โอ๊ยยยย!!!” ฉันร้องเสียงหลงเมื่อเทสึบีบข้อมือฉันแน่น ดวงตาของเขาแฝงไปด้วยความโกรธจนปิดไม่อยู่
“เธอไม่มีสิทธิ่ต่อว่าพีโอน่าแบบนั้น!! อีกอย่างพีโอน่าไม่ใช่คนแบบนั้นด้วย!!” เทสึตอบกลับอย่างเหลืออด หรอ?
“มีคนเชื่อที่นายพูดด้วยหรอ? แต่อย่างว่า หลักฐานคาตาขนาดนั้น ต่อให้นายคุกเข่าอ้อนวอนก็ไม่มีใครเชื่อหรอก จะว่าไปผู้หญิงคนนี้ก็เลวใช้ได้เลยนะ คิดได้แม้กระทั่งวิธีทำลายสถานที่เกิดของตัวเอง เอ๊~จะว่าไปพวกนายสองคนก็เหมาะกันดีนะ หญิงก็ร้าย ชายก็เลว อุ้บ~” เทสึประกบริมฝีปากลงมาอย่างเดือดจัด จูบของเขาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น จนปากฉันแตกเพราะจูบของเขา
“ฉันบอกแล้วใช่มั้ยว่าเธอไม่มีสิทธิ์พูดแบบนั้นกับพีโอน่า!!” เทสึตะโกนใส่หน้าฉันเหมือนจะเป็นการบอกว่าเขาเตือนฉันไปแล้ว แล้วไง?
“ทำไมจะพูดไม่ได้ แค่ผู้หญิงเลวๆคนนึง ไม่ได้มีค่าอะไรเลยสักนิด นายจะหวงอะไรนักหนา อีกอย่างยัยนั่นก็ตายไปแล้วด้วย แต่ก็สมควรแล้วล่ะอยู่ดีไม่ว่าดีรนหาที่ตาย” ฉันตอกกลับอย่างเจ็บแสบ นายจะรักผู้หญิงคนนั้นอยู่หรือไม่ฉันไม่สน ฉันสนแค่ว่าตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นนายหรือผู้หญิงเลวๆคนนั้น ฉันก็เกลียดเข้าไส้ทั้งหมด!!
เทสึตีหน้านิ่ง เขาแสะยิ้มที่มุมปากเหมือนสมเพชฉันก่อนจะเอ่ยคำบางคำออกมาที่ทำให้น้ำตาของฉันไหลออกมาเพราะความเจ็บปวด
“ดีแต่ว่าให้คนอื่น เธอเองก็ไม่ได้มีค่าอะไรมากมายนักหรอก อีกอย่าง…คนอย่างเธอเทียบพีโอน่าไม่ได้ด้วยซ้ำ” จบคำเขาก็ปล่อยฉันเป็นอิสระก่อนจะเดินออกไปโดยไม่สนใจฉันที่ร้องไห้อย่างเจ็บปวด ฉันเจ็บปวดเพราะคำพูดของเขา เขาไม่เคยเห็นฉันอยู่ในสายตาเลยอย่างนั้นสินะ แต่ทำไมฉันถึงรักเขามากขนาดนี้นะ
วันต่อมา ฉันไม่ได้ไปโรงเรียน ไม่คุยกับใครเลย พวกสภาฯต่างโทร.เข้ามือถือจนนับสายไม่ถ้วนแต่ฉันไม่รับสายใครเลย ฉันเหนื่อยแล้วก็เสียใจมากเกินกว่าจะทำอะไรทั้งนั้น
สุดท้ายฉันก็ตัดสินใจปิดมือถือ ขังตัวเองไว้ในห้องตลอดช่วงเช้า แผนเรื่องชิงวิญญาณก็ไม่มีในหัวเลยตอนนี้ แต่ฉันก็ยังไม่ล้มเลิกนะ เพียงแต่ตอนนี้ฉันอยากพักผ่อน แล้วลืมเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานแค่นั้นเอง
เมื่อวานเทสึปล่อยฉันเอาไว้คนเดียวที่ร้าน ส่วนเขาก็หายไปเลยไม่สนใจฉันสักนิด จนกระทั่งฉันต้องโทร.เรียกให้คนไปรับ ทุกคนในร้านต่างไม่มีใครกล้ายุ่งกับฉันสักคน ดีแล้วล่ะฉันเองก็ไม่อยากระเบิดใส่ใครสักเท่าไหร่
ฉันนวดขมับตัวเองเบาๆก่อนจะลุกขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัว วันนี้ฉันกะจะไปโรงเรียนช่วงบ่ายเพราะมีประชุมเรื่องการจัดงานวันฮาโลวีน จะไม่ไปก็ไม่ได้เพราะมันเป็นงานใหญ่ เดี๋ยวจะโดนผอ.เฉาะหัวเอา T^T
ฉันเดินลงมาชั้นล่างก่อนจะเจอพี่เซนฯที่วันนี้ไม่ได้ไปมหา’ลัย พี่เขาไม่สนใจฉันอีกตามเคย ส่วนฉันเองก็ไม่ได้ไปทักทายเหมือนทุกวัน
“ฝากบอกคุณพ่อด้วยนะว่าวันนี้ฉันมีประชุมอาจจะกลับค่ำหน่อย” ฉันบอกแม่บ้านก่อนจะเดินออกมาที่โรงจอดรถโดยวันนี้ฉันจะขับBMW เปิดประทุนไป เพราะวันนี้อากาศเย็นดี บางทีการขับรถตากลมเย็นๆมันอาจทำให้อาการฉันดีขึ้นก็ได้
เมื่อมาถึงโรงเรียนพวกเพื่อนๆก็กรูเข้ามาถามทันทีว่าวันนี้เป็นอะไร โทร.ไปก็ไม่รับแต่ฉันก็เลี่ยงที่จะตอบว่าไปทำธุระก่อนจะเดินไปที่หอสภาฯแล้วทรุดตัวลงบนโซฟาก่อนจะหลับตาลง
พรุ่งนี้สินะที่ฉันต้องบุกนรกเพียงลำพัง…..
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ